วันเวลาปัจจุบัน 21 ก.ค. 2025, 05:00  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 17 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 พ.ค. 2011, 15:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมคนหนึ่งที่ไม่เชื่อว่าคนสามารถจะแก้กรรมหรือทำให้กรรมเบาบางลงไปได้ แม้แต่พระอรหันต์ยังไม่สามารถหยุดกรรมเก่าได้ แล้วคนเราผู้ที่ยังกิเลสเป็นม่านบังตา มีตัญหาเป็นเครื่องเคลือบเอาไว้ จะสามารถแก้กรรมทีก่อไว้ได้ หรือสิ่งที่พยายามทำนั่นแหละคือกระแสแห่งกรรมที่กำลังดำเนินอยู่ อันเป็นตัวพอกพูนกรรมใหม่ให้เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม
ความเสมอกันของสรรพสิ่งทั้งหลายทั้งปวงคือความไม่เที่ยง แม้แต่เหล็กยังเกิดสนิม สังขารที่มีใจครองอันบอบบางมีหรือจะทนความไม่เที่ยงนี้ได้ หรือว่ามีมิจฉาทิฏฐิ มีสัญญาวิปลาส เลยจะฝืนกฏของพระไตรลักษณ์ทำให้สังขารเที่ยงให้ได้ หรืออย่างไร
เราควรจะมองความเห็นการเกิดของเพื่อนมนุษย์ที่ต้องเผชิญกับโรคภัยอาจจะตั้งแต่เด็กว่า เป็นทุกข์ ทุกข์ที่เป็นของจริงที่สักวันหนึ่งเราต้องเผชิญ มากกว่าจะมองหากรรมเก่าที่เขาเหล่านั้นสร้างมา ไม่มีใครสักคนในโลกนี้ที่มีชีวิตอยู่แล้วแก่ตายโดยสักครั้งหนึ่งไม่เคยล้มป่วยลง ไม่มี แล้วจะแสวงหากรรมเก่าของเขาเหล่านั้นเพื่ออะไร
อุปมาเหมือนเหล็กท่อนหนึ่งตกลงไปในน้ำ กรรมที่เคยทำมาก็เหมือนตัวน้ำที่เร่งสนิมให้กัดกินเหล็ก คนที่บอกจะหาวิธีแก้กรรมหนักจะได้เป็นเบา ก็เหมือนพยายามผืนเอาผ้าเช็ดสนิมออกในน้ำนั้น ผ้าก็พลอยเปลื้อนสนิมไปด้วย

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 พ.ค. 2011, 09:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


หนัาที่ของการบำเพ็ญธรรมเป็นภาระกิจของชาวพุทธทุกคน

แต่

ในขณะเดียวกันเราควรตัดช่องน้อยแต่พอตัวเอาตัวรอดเพียงคนเดียวเห็นภัยศาสนาก็ไม่ช่วยขจัดจะเป็นการเห็นแก่ตัวไม่เสียสละหรือไม่

อันนี้ไม่ได้ตำหนิท่านตะเกียงแก้วเพราะทราบเจตนาดีของท่านว่า ให้พยายามเอาตัวเองให้รอดก่อน ลัทธินอกศาสนามันมีทุกยุคทุกสมัยและไปไม่รอดหรอกเพราะไม่ใช่ทางรอด

ผมขอเรียนท่านตะเกียงแก้วตรงๆอย่างนี้ว่า

ในส่วนตัวผมปล่อยวางครับ

แต่บนเวทีแสดงความคิดเห็นเพื่อคุณธรรมผมต้องแสดงบทบาทแนวทางอย่างนี้ในสังคม อย่างน้อยๆก็เป็นประชามติว่า

"ใครก็อย่าทำนอกลู่นอกทางพระพุทธเจ้า ประชามติชาวพุทธเขาไม่ยอม"


อีกบทบาทของการพิทักษ์พระที่เป็นพระสัมมาปฏิปทา ผมยังยอมแสดงบทบาทของผู้ร้าย

เพราะว่าการด่าว่าใส่ร้ายพระบาปหนักหนารุนแรงกว่าคำด่าว่าใดๆในโลก ประการหนึ่ง

อีกประการหนึ่งเพื่อกระตุ้นชี้ให้เห็นว่า

ที่ว่าปฏิบัติธรรม รู้สัจจธรรม ความจริง ธรรมชาติ รู้จริงไหม

สัจจธรรมมิใช่การแสดง มิใช่การแสดงความอ่อนน้อมอ่อนหวาน

ความอ่อนน้อมเมตตาต้องอยู่ในใจ

ชาวพุทธมองอะำรอย่ามองที่กระพี้ ให้มองลึกเข้าไปให้ถึงจิตใจ

วิธีที่จะมองให้ลึกถึงจิตใจคือดูที่เจตนา

เราจึงจะไม่ถูกพระมิจฉปฏิปทาพูดจาหวานๆหลอกเอา

ขอเชิญท่านตะเกียงแก้วมาร่วมกันทำนุบำรุงพระศาสนาด้วยกันด้วยการขจัดภัยของศาสนาพุทธกันเถิด

ใหนๆก็เกิดมาชาติหนึ่งแล้วมาฝากวีรประวัติทำดีให้กับพระศาสนากันบ้าง

อย่างน้อยช่องทางหากินของแม่ชีทศกลหลอกลวง ธัมมะทำบุญ ทำมา กลาย จะได้แคบลง

ท่านพุทธทาสสอนผมว่า

อย่าเห็นแก่ตัว ส่วนรวมต้องมาก่อนส่วนตัว

คือสังคมนิยม

เมื่อเราเห็นแก่ส่วนรวมอัตตา(มานะ)เราก็น้อยๆลงไป

ในที่สุดกิเลสก็หมดสิ้นลง

ขอบคุณท่านตะเกียงแก้ว

ของท่านจงเป็นตะเกียงแก้วส่องทางให้ปวงชนชาวพุทธ

จงอย่าเป็นตะเกียงในโคมหนังทึบเพราะจะมองเห็นส่องทางแค่ตนเอง


เมตตาเป็นธรรมค้ำจุนโลก

เจริญทำ

.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 17 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร