วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 06:08  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 542 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 11, 12, 13, 14, 15, 16, 17 ... 37  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2011, 08:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


Supareak Mulpong เขียน:
eragon_joe เขียน:
ป็นอุบายเครื่องสลัดออก แห่งรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ... เพราะท่านได้เสพคุณแห่งสัญญาไว้มาก และแถมผนวกเอาคุณแห่งปัญญามาเป็นสัญญาอีก
บทนี้แปลง่ายๆ ว่า อุบายในการสลัดออกจากขันธ์ ๕

ผมเสพ อนิจสัญญา ทุกขสัญญา อนัตสัญญา เพราะอาศัยสิ่งที่เรียนรู้มาที่เก็บเอาไว้ในสัญญา ที่ว่าอะไรๆ ก็ไม่เที่ยงฯ

รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ หรือ ขันธ์ ๕ เป็นลำดับการเกิดปกติของกองทุกข์ คือ เมื่อเกิดตาเห็นรูป เกิดเป็นเวทนา เวทนานั้นก็จะถูกเก็บเป็นสัญญา สัญญาที่เกิดจากเวทนานั้นก็จะกลายมาเป็นสังขาร กลายเป็นความรู้ได้หมายจำ ... ท่านแสดงตามเหตุปัจจัย ไม่ได้เอามาเรียงกันโดยไม่มีที่มาที่ไป ไม่ได้ให้ไปแยกออกมาเป็นตัวๆ


ไม่มีพระสูตรแสดงการแยกพิจารณาขันธ์แต่ละขันธ์ในพระไตรปิฏกเหร๋อ
แล้วเอาความรู้เรื่องการทำงานของขันธ์แต่ละขันธ์
และการเป็นปัจจัยซึ่งกันและกันแห่งขันธ์มาจากไหนล่ะ

และขันธ์ก็ยังพิจารณาลงย่อยได้ถึง ธาตุ อีก
และยังลักษณะของ ธาตุ อีก

อนิจสัญญา ทุกขสัญญา อนัตสัญญา
เป็นการแทงเข้าไปถึงระดับลึกสุด อันทำให้ สัจจะเป็นหนึ่ง
ปรากฎต่อ สัขตธรรม อสังขตธรรม เสมอกันไม่ผิดเพี้ยน

:b1:

การพิจารณาไตรลักษณ์ในส่วนหยาบ คือการอธิบายในลักษณะแบบที่ท่าันอธิบายนั่นล่ะ
แต่พอพิจารณาลงไปถึงขนาดนั้นแล้ว มันต้องเห็นด้วย หลักปัจจัย
เมื่อเห็นไม่ครบ ต่อให้สัญญาพัฒนามาเป็นปัญญาได้ ก็เป็นได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น
เพราะ กิเลส ที่เป็น อนุสัย
ทำไมจึงมีกิเลสที่ลึกขนาดนั้นปรากฎ

ท่าน ไม่เที่ยง เกิด ดับ กะ อนุสัยไม่เท่าทันมันหรอก
เพราะอนุสัย มันไม่ได้เกาะอยู่กับ กองขันธ์ระดับหยาบ

ทำไม กิเลส จึงถูกเปลียบเหมือนไฟ
ถ้าผู้ปฏิบัติไม่เห็น ก็หาวิธิจัดการกับมันไม่ได้
เพราะการรู้โดยไม่เห็นแล้วเชื่อตามความรู้ ความรู้นั้นคือทุกข์ นั่นเป็นสิ่งที่เห็นได้ จึงหยิบมาพิจารณาได้
แต่การรู้โดยการเห็นสภาวะธรรมตรงนั้น สิ่งที่เห็นคือ ทุกข์

สิ่งที่เห็นมันจะเข้ามาสู่ครองการพิจารณา
ไม่ใช่สิ่งที่คิดเข้ามาสู่ครองการพิจารณา

ก็เหมือนกับ ท่านผ่าตัดเอาหนองในหูชั้นในออกไม่ได้
ถ้าไม่เปิดเส้นทาง และไม่มีอุปกรณ์ช่วยขยายทัศนะในการเห็น

อ้างคำพูด:
eragon_joe เขียน:
ท่านคิดว่าพระ็สูตรใดที่ควรคงไว้ พระสูตรใดที่ควรชำระ-ตีความใหม่
พระสูตรใดที่ควรตัดทิ้ง และพระสูตรใดควรเพิ่มเติมเข้ามา
แก้ไขเพิ่มธรามธรรมวินัยนี่บาปหนักนะครับ ที่จะทำกันได้ ก็คือ หาฉบับที่เก่าแก่ที่สุดมาเทียบว่า สูตรใหนถูกแก้ไข สูตรใหนหายไป สูตรใหนเพิ่มเข้ามา

ถ้ามันเป็นของที่มีเจ้าของครอบครอง ของจะตกถึงมือเจ้าของที่แท้จริง เมื่อถึงเวลา
สิ่งที่ท่านไม่รู้ คือสิ่งที่ท่านไม่รู้
สิ่งที่เอกอนรู้ คือสิ่งที่เมื่อบอกไปท่านคงไม่เชื่อแน่นอน
ถ้าอยู่ที่นั่นแล้ว ยังมีสิ่งใดแทรกเข้าไปบอกเอกอนได้ สิ่งนั้นก็คือสิ่งที่อยู่ที่นั่น
เจ้าของก็คือเจ้าของ ผู้ดูแลรักษาก็คือผู้ดูแลรักษา ทำเกินหน้าที่ไม่ได้
ทำได้ตามความรู้เดิมที่มี ทำมากกว่านั้นก็ไม่ได้ เพราะไม่ใช่ฐานะ

ปัญญาแม่ทัพ อย่างไรก็เปรียบกับ ปัญญาสมณะ ไม่ได้
แม่ทัพก็พูดได้เท่าที่แม่ทัพรู้เท่านั้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2011, 10:38 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


Supareak Mulpong เขียน:
บทนี้แปลง่ายๆ ว่า อุบายในการสลัดออกจากขันธ์ ๕

ผมเสพ อนิจสัญญา ทุกขสัญญา อนัตสัญญา เพราะอาศัยสิ่งที่เรียนรู้มาที่เก็บเอาไว้ในสัญญา ที่ว่าอะไรๆ ก็ไม่เที่ยงฯ

รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ หรือ ขันธ์ ๕ เป็นลำดับการเกิดปกติของกองทุกข์ คือ เมื่อเกิดตาเห็นรูป เกิดเป็นเวทนา เวทนานั้นก็จะถูกเก็บเป็นสัญญา สัญญาที่เกิดจากเวทนานั้นก็จะกลายมาเป็นสังขาร กลายเป็นความรู้ได้หมายจำ ... ท่านแสดงตามเหตุปัจจัย ไม่ได้เอามาเรียงกันโดยไม่มีที่มาที่ไป ไม่ได้ให้ไปแยกออกมาเป็นตัวๆ



เหตุปัจจัยตรงนี้เป็นเหตุปัจจัยเหมือนการส่งไม้ผลัด นี่ก็เป็นเรื่องพิจารณาได้ส่วนหนึ่ง
เหตุปัจจัยอีกหนึ่งคือ การปรุง คือ การที่ธาตุมาประกอบกัน
และการแปรเปลี่ยนอันเนื่องด้วย ธาตุที่มาประกอบกันนั้น

การพ้นทุกข์ ไม่ใช่การไม่ทุกข์
การไม่ทุกข์ ทุกคนที่เดินทางมาในทางปฏิับัติก็ได้ชิมกันแล้ว บ้างติด เพราะยังไม่เห็นทุกข์ที่ยิ่งกว่า
บ้างข้ามไปได้ เพราะได้เห็นทุกข์ที่ยิ่งกว่า ทุกข์อันทำให้สัตว์ยังต้องวนเวียนอยู่ในสังสาร

ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องที่จะมาวัดว่าใครรู้ดีไปกว่าใครได้เลย
แม้แต่พระพุทธองค์ เมื่อยังไม่ตรัสรู้ พบทางออกแห่งทุกข์อย่างสิ้นเชิง
ก็จะไม่ประกาศ บอก สอน

แม้แต่พระสูตรอันกล่าวถึงสัจจะ
ท่านก็แสดงปัญญาอันละเอียดลึกซึ้ง

เพราะท่านคิดว่า ปุถุชน อ่านพระไตรปิฏก ได้เท่านั้น
ก็จริง พระไตรให้อ่าน ไม่ได้ให้ตีความ
แต่การตีความ การขยายความที่ปรากฎ เพราะมันไม่รู้เรื่อง จึงต้องตีความ
แต่ผู้รู้ อ่านแล้วเขาเห็น เห็นเหมือนกับเห็นของในกล่องที่เปิดฝากล่องออกดูในที่ที่มีแสงไฟ
ส่วนผู้ที่ไม่รู้ ก็เหมือนกับนั่งคิดถึงสิ่งที่อยู่ในกล่องที่ปิด หรือมีสิ่งกำบัง
เหมือนนั่งดูสิ่งที่อยู่ในกล่องที่เปิด อยู่ไกล ๆ
เหมือนนั่งดูสิ่งที่อยู่ในกล่องที่เปิด ในตอนกลางคืน แสงไฟสลัว
ก็ย่อมชักชวนคนที่เป็นพวกเดียวกันมาช่วยกันดู
เพราะถ้าไม่ใช่ พฤติกรรมในการเห็นจะไปกันคนละทาง

คนที่ผ่านมาเห็นแล้วบอกเรา เราก็ตอบกลับไป เอ็งไม่รู้ เอ็งไม่เข้าใจ

เอ้อ มันก็พูดถูกของมัน ไอ้คนที่มาบอก มันไม่รู้จริง ๆ นั่นล่ะ
ไม่ใช่ไม่รู้ว่าในกล่องมีอะไรนะ แต่เขาไม่รู้ว่าเรากำลังเห็นอะไร
เหมือนเพื่อนทุกข์แล้วเราเข้าไปปลอบใจ และมันก็สวนกลับมา เอ็งจะไปเข้าใจอะไร

อย่างนั้นล่ะ ความทุกข์มันบังตาอยู่
การได้ข้องอยู่กับรสสุขอันใด ที่ยังมีความทุกข์บังตาอยู่ มันก็แสดงอาการเช่นเดียวกัน

แนวทางของท่าน ยังไม่แสดง การพ้นทุกข์โดยสิ้นเชิง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2011, 12:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Supareak Mulpong เขียน:
โฮฮับ เขียน:
ท่านพูดจาขัดแย้งกันเองรู้ตัวมั้ย ท่านบอกว่า"ความจริงต้องได้ฟังจากผู้รู้ความจริง"
แล้วประโยคต่อมา บอกในทำนองว่า อย่าไปเชื่อ ผมงงจริงๆครับ ไม่รู้ท่านเอาไงกันแน่

สรุปความเห็นผม ที่ท่านบอกความจริงต้องฟังจากผู้รู้ความจริง
แล้วเราจะแน่ใจได้ไงว่าเขารู้จริง แล้วเราจะเข้าใจในสิ่งที่เขาบอก
หรือเข้าใจไปแนวเดียวกับเขา

ตัวอย่างก็เห็นๆอยู่ ท่านว่าคนอื่นทำผิดธรรมวินัย แล้วถ้าคนอื่นว่าท่านทำผิด
ธรรมวินัยบ้างล่ะ ใครก็ต้องคิดว่าของตัวเองถูกต้องตามธรรมทั้งนั้น ถ้าเป็นแบบนี้
จะเอาอะไรเป็นเครื่องพิสูจน์ นอกจากปฏิบัติให้เห็นความจริงนั้นๆ
เพราะไม่มีใครหน้าในรู้ว่าสิ่งที่ได้ยินได้ฟังมาเป็นความจริงหรือเปล่า ผู้ที่จะรู้ได้ว่า อะไรถูก อะไรผิด คือ ผู้ที่มีเฉลยในมือแล้ว เพราะฉะนั้น ท่านจึงกล่าวว่า อย่าเชื่อจนกว่าจะได้ทดลองด้วยตนเองจนเห็นผล

มันอะไรของท่านครับ "บอกว่าไม่มีหน้าไหนรู้ความจริง แต่มีผู้ที่มีเฉลยอยู่ในมือ"
ผมว่าท่านตั้งสติให้ดีแล้วค่อยพูด ตกลงไอ้คนที่มีเฉลยในมือเขารู้ความจริงหรือเปล่า

แล้วไหนบอกว่าปัญญานำ ทีนี้มาบอกว่าอย่าเชื่อจนกว่าจะทดลองด้วยตัวเองจนเห็นผล
Supareak Mulpong เขียน:
ถ้าได้ฟังมาจากผู้ที่ไม่ได้รู้ความจริง ถึงจะพยายามปฏิบัติอย่างไร ก็ไม่มีทางเห็นผล เพราะเป็นวิธีที่ผิด ต่อเมื่อได้ฟังคำจากสัตตบุรุษ จึงจะสามารถปฏิบัติจนเห็นผลได้ เพราะเป็นวิธีที่ถูก

แล้วพระไตรปิฎกเป็นความจริงหรือเปล่า เมื่อกี้ท่านบอกอยู่แหม่บๆว่า ไม่มีหน้าไหนรู้จริง
แต่มาตอนนี้ให้ไปฟังจากสัตตบุรุษ
Supareak Mulpong เขียน:
แต่ในเมื่อไม่มีเครื่องมืออะไรที่จะไปวัดว่า สิ่งที่ได้ยินได้ฟังมา คือความจริงหรือเปล่า? เพราะฉะนั้น การได้พบสัตตบุรุษ การได้ฟังธรรมของสัตตบุรุษ จนประกอบด้วยธรรมของสัตตบุรุษ จึงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากมาก เป็นวิสัยของบุญและบาป ... สัตว์ที่ถึงฝั่ง มีดวงตาเห็นธรรม จึงมีอยู่น้อย

การได้พบสัตตบุรุษมันยาก ทำไมไม่อ่านพระไตรปิฎกเอาเลยล่ะครับ :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2011, 13:58 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มี.ค. 2011, 21:46
โพสต์: 373

ชื่อเล่น: ฮานะ ธรรมอาสา
อายุ: 28

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ลงนรก..เป็นสิ่งดีที่สุด...นี้ก็ฮานะ


ตอนที่พระมาลัยลงไปโปรดสัตว์นรกน่ะ มันดีที่สุดกับกบยังไงล่ะ

:b4: .......ฮานะจิ

.....................................................
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2011, 14:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


Hana เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ลงนรก..เป็นสิ่งดีที่สุด...นี้ก็ฮานะ


ตอนที่พระมาลัยลงไปโปรดสัตว์นรกน่ะ มันดีที่สุดกับกบยังไงล่ะ

:b4: .......ฮานะจิ


5555 ท่านฮานะ
แค่นั้นใครก็ตามดมกลิ่นท่านไม่ได้แล้ว
ยังจะมาพระมาลัยอีก

:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2011, 14:16 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มี.ค. 2011, 21:46
โพสต์: 373

ชื่อเล่น: ฮานะ ธรรมอาสา
อายุ: 28

 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:

ทำไม กิเลส จึงถูกเปลียบเหมือนไฟ
ถ้าผู้ปฏิบัติไม่เห็น ก็หาวิธิจัดการกับมันไม่ได้
เพราะการรู้โดยไม่เห็นแล้วเชื่อตามความรู้ ความรู้นั้นคือทุกข์ นั่นเป็นสิ่งที่เห็นได้ จึงหยิบมาพิจารณาได้
แต่การรู้โดยการเห็นสภาวะธรรมตรงนั้น สิ่งที่เห็นคือ ทุกข์

สิ่งที่เห็นมันจะเข้ามาสู่ครองการพิจารณา
ไม่ใช่สิ่งที่คิดเข้ามาสู่ครองการพิจารณา



การรู้โดยไม่เห็น นั่นไม่ใช่ รู้ ยังมีความ หลง อยู่ด้วย

การไหลตาม ความรู้นั้น เป็นการ ส่งจิตออกนอก เป็นสมุทัย
ผลจากความ สำคัญมั่นหมาย ใน ความรู้นั้น เป็นทุกข์

เห็น สิ่งที่รู้ กับ สิ่งที่ถูกรู้ เป็นมรรค
เมื่อเห็นสภาวธรรมของ สองสิ่งนั้น ตามความเป็นจริง จึงไม่เข้าไปข้อง เป็นนิโรธ


eragon_joe เขียน:

ปัญญาแม่ทัพ อย่างไรก็เปรียบกับ ปัญญาสมณะ ไม่ได้
แม่ทัพก็พูดได้เท่าที่แม่ทัพรู้เท่านั้น


สมณะ ก็พูดแบบ แม่ทัพ ไม่ได้
แต่เมื่อถึง สิ่งนั้น ทั้ง แม่ทัพ และ สมณะ ก็รู้ ใน สิ่งเดียวกัน

แม่ทัพรู้แบบแม่ทัพ สมณะก็รู้แบบสมณะ
บรรลุอรหันต์เหมือนกันแต่ด้วยคนละภาษิต

ฮานะ :b12:

.....................................................
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2011, 14:23 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


Hana เขียน:
eragon_joe เขียน:

ทำไม กิเลส จึงถูกเปลียบเหมือนไฟ
ถ้าผู้ปฏิบัติไม่เห็น ก็หาวิธิจัดการกับมันไม่ได้
เพราะการรู้โดยไม่เห็นแล้วเชื่อตามความรู้ ความรู้นั้นคือทุกข์ นั่นเป็นสิ่งที่เห็นได้ จึงหยิบมาพิจารณาได้
แต่การรู้โดยการเห็นสภาวะธรรมตรงนั้น สิ่งที่เห็นคือ ทุกข์

สิ่งที่เห็นมันจะเข้ามาสู่ครองการพิจารณา
ไม่ใช่สิ่งที่คิดเข้ามาสู่ครองการพิจารณา



การรู้โดยไม่เห็น นั่นไม่ใช่ รู้ ยังมีความ หลง อยู่ด้วย

การไหลตาม ความรู้นั้น เป็นการ ส่งจิตออกนอก เป็นสมุทัย
ผลจากความ สำคัญมั่นหมาย ใน ความรู้นั้น เป็นทุกข์

เห็น สิ่งที่รู้ กับ สิ่งที่ถูกรู้ เป็นมรรค
เมื่อเห็นสภาวธรรมของ สองสิ่งนั้น ตามความเป็นจริง จึงไม่เข้าไปข้อง เป็นนิโรธ


eragon_joe เขียน:

ปัญญาแม่ทัพ อย่างไรก็เปรียบกับ ปัญญาสมณะ ไม่ได้
แม่ทัพก็พูดได้เท่าที่แม่ทัพรู้เท่านั้น


สมณะ ก็พูดแบบ แม่ทัพ ไม่ได้
แต่เมื่อถึง สิ่งนั้น ทั้ง แม่ทัพ และ สมณะ ก็รู้ ใน สิ่งเดียวกัน

แม่ทัพรู้แบบแม่ทัพ สมณะก็รู้แบบสมณะ
บรรลุอรหันต์เหมือนกันแต่ด้วยคนละภาษิต

ฮานะ :b12:


:b1: ครับป๋ม :b8: :b8:
ขอบพระคุณที่ท่านเข้ามาชี้แนะให้ธรรม
เอกอนขอน้อมนำใส่ใจ

:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2011, 14:29 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มี.ค. 2011, 21:46
โพสต์: 373

ชื่อเล่น: ฮานะ ธรรมอาสา
อายุ: 28

 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
แต่ผู้รู้ อ่านแล้วเขาเห็น เห็นเหมือนกับเห็นของในกล่องที่เปิดฝากล่องออกดูในที่ที่มีแสงไฟ


การเห็นแบบนั้นล่ะ ผู้รู้มันบังตาอยู่

.....................................................
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2011, 14:31 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


Hana เขียน:
eragon_joe เขียน:
แต่ผู้รู้ อ่านแล้วเขาเห็น เห็นเหมือนกับเห็นของในกล่องที่เปิดฝากล่องออกดูในที่ที่มีแสงไฟ


การเห็นแบบนั้นล่ะ ผู้รู้มันบังตาอยู่


:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2011, 14:37 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มี.ค. 2011, 21:46
โพสต์: 373

ชื่อเล่น: ฮานะ ธรรมอาสา
อายุ: 28

 ข้อมูลส่วนตัว


วิปัสนาญาณ การ รู้แจ้ง เห็นแจ้ง
ไม่ต้องอาศัยแสงไฟ ไม่ต้องเปิดกล่องออกดู
เพราะ รู้ อยู่ก่อนที่จะมีกล่องมาตั้งเสียอีก

.....................................................
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2011, 14:38 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


Hana เขียน:
วิปัสนาญาณ การ รู้แจ้ง เห็นแจ้ง
ไม่ต้องอาศัยแสงไฟ ไม่ต้องเปิดกล่องออกดู
เพราะ รู้ อยู่ก่อนที่จะมีกล่องมาตั้งเสียอีก


:b8:

กราบขอบพระคุณท่านที่เมตตา

:b8: :b16: :b16: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2011, 21:35 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


Hana เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ลงนรก..เป็นสิ่งดีที่สุด...นี้ก็ฮานะ


ตอนที่พระมาลัยลงไปโปรดสัตว์นรกน่ะ มันดีที่สุดกับกบยังไงล่ะ

:b4: .......ฮานะจิ


มันเยี่ยมมาก..เลยจอร์ด...
นี้ก็ฮานะ... :b17:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2011, 22:07 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มี.ค. 2011, 21:46
โพสต์: 373

ชื่อเล่น: ฮานะ ธรรมอาสา
อายุ: 28

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:

มันเยี่ยมมาก..เลยจอร์ด...
นี้ก็ฮานะ... :b17:


:b4: ฮาได้อีก

มาปฏิบัติวิปัสสนาภาวนาในชีวิตจริงกันเถอะ

.....................................................
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ค. 2011, 01:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2011, 01:57
โพสต์: 324

แนวปฏิบัติ: อริยสัจ4
อายุ: 27
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
eragon_joe เขียน:
แต่ผู้รู้ อ่านแล้วเขาเห็น เห็นเหมือนกับเห็นของในกล่องที่เปิดฝากล่องออกดูในที่ที่มีแสงไฟ


การเห็นแบบนั้นล่ะ ผู้รู้มันบังตาอยู่


รบกวนท่านฮานะช่วยขยายความจุดนี้สักเล็กน้อย จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ

.....................................................
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นคือความจริง การฝืนความจริงทำให้เกิดทุกข์ การเห็นและยอมตามความจริงทำให้หายทุกข์

คนที่รู้ธรรมะ มักจะชอบเอาชนะผู้อื่น แต่คนเข้าใจธรรมะ มักจะเอาชนะใจตนเอง

สัพเพ ธัมมา อะนัตตาติ ยะทา ปัญญายะ ปัสสะติ
เมื่อใดบุคคลเห็นด้วยปัญญาว่า, ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา

อะถะ นิพพินทะติ ทุกเข เอสะ มัคโค วิสุทธิยา
เมื่อนั้น ย่อมเหนื่อยหน่ายในสิ่งที่เป็นทุกข์ ที่ตนหลง,
นั่นแหละเป็นทางแห่งพระนิพพานอันเป็นธรรมหมดจด

.....ติลักขณาทิคาถา.....


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ค. 2011, 08:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
"ถ้าหากว่าท่านรู้ว่าท่านต้อง มีสภาวะเช่นนี้ยาวนานออกไปอีกนับหลายกัปป์ หลายกัลป์
ท่านคิดว่า ท่านจะทรงตัวอยู่อย่างไร จึงจะไม่ทุกข์"


อ้างคำพูด:
พระอาทิตย์ตอนเช้า เงาจะทอดไปทางตะวันตก
พระอาทิตย์ตอนบ่าย เงาจะทอดไปทางตะวันออก
พระอาทิตย์ตอนเที่ยง เงาจะทอดอยู่ที่ฐานของวัตถุ


ตอนเที่ยง สะท้อนภาพประหนึ่ง ปัจจุบันขณะ
ในปัจจุบันขณะ จะเป็นจุดที่ รูปและนาม ซ้อนทับกันอยู่
แนบสนิทยิ่งกว่า กาลไหน ๆ

ถ้าไม่ละเลย ย่อมเห็น
คุณของสภาวะ
และโทษของสภาวะ

:b1: :b1: :b1:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 542 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 11, 12, 13, 14, 15, 16, 17 ... 37  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร