ป๊าดดดดดด ...

เวลาจะถาม กรุณาช่วยเขียนให้ครบถ้อยความที่จะถาม ไม่งั้นก็จะตอบไปตามที่คาดเดาว่าถามมาแบบไหน



สมาธิน่ะ ผลของการทำสมาธิ คือ สมถะ ถ้าไม่เรียกว่า สมถะ จะเรียกว่าสมาธิก็ได้

มีทุกๆคนน่ะแหละ ที่ทำๆกันมานี่ ไม่ใช่เพิ่งมาเริ่มทำกันที่ชาตินี้กันเสียเมื่อไหร่ สะสมมาไม่รู้ตั้งกี่ชาติต่อกี่ชาติ ถ้าคุยเรื่องพวกนี้ คนไม่เข้าใจจะหาว่าบ้า จะคุยกันเฉพาะในกลุ่มเท่านั้น เขาเลือกคนที่รู้เหมือนๆกัน คนที่ไม่รู้ ไม่คุยด้วยหรอก

ไอ้เรื่องเห็นโน่นเห็นนี่ เห็นมีคนพยายามฝึกแทบตาย ยังทำไม่ได้เลย ส่วนพวกที่มีของเก่าติดตัวมาเยอะ ไม่ต้องไปพยายาทำอะไรเลย รู้ตั้งแต่จำความได้ เห็นมาตั้งแต่เด็กๆ ไม่ต้องมานั่งหลับตาภาวนาอะไรเลย


พอมาจับเรื่องสมาธิก็ทำได้ง่าย ของมันเคยทำ


แม้กระทั่งโอภาสที่นำมากล่าวๆว่าต้องพยามรักษาอะไรนั่น ล้วนเกิดจากความไม่รู้ทั้งนั้น โอภาสน่ะเกิดขึ้นตามกำลังของสมาธิ ยิ่งมีสมาธิแนบแน่นมากเท่าไหร่ โอภาสยิ่งสว่าง ไม่ต้องไปพยายามทำให้เกิดขึ้นแต่อย่างใด

สมถะอย่างเดียวไม่ทำให้เกิดปัญญาค้านพุทธพจน์สุดโต่ง

ที่ตอบมา ไม่เข้าหลักปฏิจจสมุปบาท เลย

โอภาสที่เอามากล่าวมาจากการตรัสรู้พระพุทธเจ้าครับ ไม่ได้กล่าวเอง อย่า เพี้ยนให้มันมาก กลับไปสอนสติสตังในบันทึกข้ามปีข้ามชาติอะไรนั่นของเธอเถิด

ถ้าจะให้เข้าเรื่องปฏิจจสมุปบาท คงต้องให้คุณกลับไปอ่านประวัติของพระพุทธเจ้า เหตุที่ทรงตรัสรู้ ใช่ทำแค่ชาตินั้นชาติเดียวหรือ


อ้อ .. มีตัวอย่างใกล้ตัว อ่านการบันทึกเกี่ยวกับการปฏิบัติของหลวงปู่มั่น ที่หลวงตามหาบัวท่านบันทึกไว้ก็ได้ ถ้าจำไม่ผิด หลวงปู่มั่นเกิดทันสมัยพระพุทธเจ้า


เหตุมี ผลย่อมมี ไม่มีอะไรที่เกิดขึ้นโดยไม่มีเหตุปัจจัยมาก่อนหรอก

ขอตัวไปนอนก่อนนะ พรุ่งนี้ทำงานค่ะ

นี่ คือผลของการเจริญนิวรณ์ซึ่งหมักหมม มา เป็นปีๆ คุณเช่นนั้นเตือนแล้วก้ไม่ฟัง (รู้สึกจะโดนด่ากลับมาด้วย)

แค่ ใช้ ปุพเพนิวาสานุสติญาณ
กะ จุตูปปาตญาณ

อันนี้แล้วแต่เธอจะคิดนะ

อุตส่าห์ไม่ตอบ เธอก็ช่างมีความพยามเสียเหลือเกิน

ขอพูดตรงๆ พวกหลายยูสเซอร์ที่ไม่กล้าเป็นตัวของตัวเอง ไม่คิดจะสนทนาด้วย กลัวโดนรุม เพราะตัวเองยังมีกิเลส ก็ยอมรับว่ามีกิเลส ไม่ต้องมาเสแสร้งสร้างภาพอะไร

งั้นหรือ ...

ก็เอ่ยที่มาที่ไป ของเหตุที่ทำมา ส่วนให้พูดรายละเอียด

ทำไมคุณไม่พูดมาตรงๆว่า ปฏิจจสมุปปบาทที่คุณต้องการสนทนาน่ะแบบไหน เขียนมาครั้งเดียวเลยดีกว่านะคะ จะได้ไม่ต้องมานั่งคาดเดาว่าสิ่งที่คุณต้องการถามคืออะไร

มาตาม...อ่าน..

วลัยพรเพี้ยนเอามากๆ

ก็คุณตอบมาอย่างนี้ นั่นเป็นวิธีที่คุณใช้งานอยู่ นั่นความเห็นคุณ

ส่วนเราก็แค่แสดงความเห็นในส่วนที่เราเข้าใจออกไป ก็เท่านั้น
ว่าเราไม่ได้ใช้วิธีนั้น
เราแค่เห็นแล้วเอาปฏิจจสมุปบาทเข้าจับ
เมื่อเกิดปรากฎ ก็พิจารณาขันธ์ในอดีต/
พิจารณาขันธ์ในอนาคต เหมือน ๆ กับที่พิจารณาขันธ์ในปัจจุบัน
เพื่อคลายความยึดติดในขันธ์ทั้งหลาย

"พวกที่มีด้านสมถะติดตัวมา " คำนี้เราไม่ได้เป็นผู้มักใช้นำมากล่าวนะ
และจาก
"เชื่อไหมว่า สิ่งต่างๆที่คุณพบเจอมาน่ะ ไม่แตกต่างพวกที่มีด้านสมถะติดตัวมา เป็นเหมือนกันหมด เพียงแต่เหตุสร้างมาไม่เหมือนกัน บางคนจึงค้นหา บางคนไม่ค้นหา"นั่นคือ สิ่งที่คุณเห็น
เราก็เลยถาม เพื่อดูว่า คุณเห็นอะไร ในความเห็นนั้น ๆ ของคุณ

เจ๊ เขาชอบส่งจิตออกนอกรับการกระทบทุกส่วนของร่างกายชอบเสวยเวทนาๆลๆไล่ล่าหาอดีตหน่ะ

แว่วๆ เสียง เจริญนิวรณ์ .......อ้อ เจ้าประจำ อิอิ

เช่นนั้น ....ชื่อเดียวคนเดียวมาตลอด