วันเวลาปัจจุบัน 26 ส.ค. 2025, 13:12  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 19 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 28 พ.ย. 2011, 16:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


ท่านจะมีวิธีการหยุดการคิดชั่ว พูดชั่ว ทำชั่วได้อย่างไร ถ้าหยุดได้ทั้ง 3 ทางนี้ให้เบาบางลงท่านคิดว่าผู้นั้นเข้าสู่กระแสธรรมหรือไม่
onion onion onion onion
Kiss Kiss Kiss


โพสต์ เมื่อ: 28 พ.ย. 2011, 19:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?t=29253

หยุดมีหลายขั้นหยุดมีตั้งแต่ตั้งแต่บัญญัติธรรมถึงปรมัตถ์ธรรม onion


หยุดไม่ส่งจิตออกนอกสถานเดียว เข้ากลางไป...ไม่เอาใจส่งไปที่อื่น อินทรีย์ต้องแก่กล้ามาก...ยากไม่งั้นป่านนี้บรรลุกันไปหมดแล้ว
onion http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?t=29260


โพสต์ เมื่อ: 29 พ.ย. 2011, 07:48 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ส.ค. 2011, 15:12
โพสต์: 190


 ข้อมูลส่วนตัว


หากจะหยุดคิดชั่ว พุดชั่ว ทำชั่ว ก็ต้องคิดดี พูดดี ทำดี ถ้าคิดดี พูดดี ทำดีได้แล้ว ก็ย่อมเป็นอุปนิสัย เป็นกำลังที่จะดำเนินไปสู่การบำเพ็ญ ทาน ศีล ภาวนา ต่อไปได้


โพสต์ เมื่อ: 29 พ.ย. 2011, 08:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สพฺพปาปสฺส อกรณํ กุสลลฺสูปสมฺปทา
สจิตฺตปริโยทปนํ เอตํ พุทฺธานสาสนํ.

การไม่ทำบาปทั้งปวง=>การยังกุศลให้ถึงพร้อม=>การชำระจิตของตนให้ผ่องแผ้ว

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 29 พ.ย. 2011, 08:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


world2/2554 เขียน:
หากจะหยุดคิดชั่ว พุดชั่ว ทำชั่ว ก็ต้องคิดดี พูดดี ทำดี ถ้าคิดดี พูดดี ทำดีได้แล้ว ก็ย่อมเป็นอุปนิสัย เป็นกำลังที่จะดำเนินไปสู่การบำเพ็ญ ทาน ศีล ภาวนา ต่อไปได้


แล้วเราจะคิดดี ทำดี พูดดี ได้อย่างไร (สมมุติว่าตอนนี้เราเป็นคนชั่ว)


โพสต์ เมื่อ: 29 พ.ย. 2011, 09:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


ออยเตียนเทอเจิดออยสะลูน เทอจิตออยสะโหลด"
หลงปู่สรวงเทวดาเล่นดิน :b39:


โพสต์ เมื่อ: 29 พ.ย. 2011, 11:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ส.ค. 2011, 15:12
โพสต์: 190


 ข้อมูลส่วนตัว


ควรเริ่มที่ การทำใจให้เป็นปกติ คำว่า ปกติ นี้ มีความเป็นปกติอยู่โดยธรรมชาติ ปกติอยู่อย่างนั้น ด้วยไม่เบียนเบียน ด้วยไม่มีเจตนาที่จะทำร้าย ความเป็นปกติจึงจะมีอยู่โดยธรรม เพราะความที่เป็นปกติทางใจดดยธรรมนั้นแหละ กาย วาจา ก้เป็นปกติตาม


โพสต์ เมื่อ: 29 พ.ย. 2011, 11:48 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ส.ค. 2011, 15:12
โพสต์: 190


 ข้อมูลส่วนตัว


เคล็ดวิธีที่จะถึงความเป็นปกติตามที่พระองค์ตรัสสอนไว้ มีทั้งศีลห้า ศีลแปด กุศลกรรมบถสิบ เป็นอาทิ


โพสต์ เมื่อ: 29 พ.ย. 2011, 14:18 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


เราจะคิดดีก็ต่อเมื่อเราเข้าใจดี ไม่โง่ ไม่หลง ไม่โกรธ ไม่โลภ รู้ผิด รู้ชั่ว (มีปัญญา)
หากคิดดีแล้ว เราก็จะพูดดี ทำดี เองครับ

มรรคมีองค์ 8
1. สัมมาทิฏฐิ คือ เห็นชอบ
2. สัมมาสังกัปปะ คือ ดำริ /คิดชอบ (คิดดี)
3. สัมมาวาจา คือการพูดจาชอบ (พูดดี)
4. สัมมากัมมันตะ คือการกระทำชอบ (ทำดี)
5. สัมมาอาชีวะ คือการดำรงชีพชอบ
6. สัมมาวายามะ คือความพากเพียรชอบ
7. สัมมาสติ คือการระลึกประจำใจชอบ
8. สัมมาสมาธิ คือการตั้งใจมั่นถูชอบ

แล้วความเราจะมีความเห็นชอบได้อย่างไรก็คือ การวิปัสสนาภาวนา
ก่อนวิปัสสนาภาวนาต้อง ให้ทาน และถือศีลก่อน


ทุกอย่างเป็นเหตุปัจจัยต่อเนื่องกันตามหลัก "อิทัปปัจจยตา ปฏิจจสมุปบาท"


โพสต์ เมื่อ: 29 พ.ย. 2011, 16:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


world2/2554 เขียน:
ควรเริ่มที่ การทำใจให้เป็นปกติ คำว่า ปกติ นี้ มีความเป็นปกติอยู่โดยธรรมชาติ ปกติอยู่อย่างนั้น ด้วยไม่เบียนเบียน ด้วยไม่มีเจตนาที่จะทำร้าย ความเป็นปกติจึงจะมีอยู่โดยธรรม เพราะความที่เป็นปกติทางใจดดยธรรมนั้นแหละ กาย วาจา ก้เป็นปกติตาม


แล้วเราจะทำให้ใจปกติได้อย่างไร สมมุติว่าตอนนี้เราใจไม่ปกติ กิเลส ตัณหา อยู่รอบตัวเรา หากมีคนมาด่าเรา มีเงินมาล่อเรา มีคนมาโกงเรา เป็นต้น


โพสต์ เมื่อ: 29 พ.ย. 2011, 17:51 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


เราจะทำรถจักรยานให้หยุดวิ่งได้กี่วิธี


โพสต์ เมื่อ: 29 พ.ย. 2011, 17:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้ารู้ว่าจะต้องหยุดมันในที่สุด
ก็อย่าหยิบมันขึ้นมาถีบ

:b55: :b55: :b55:


โพสต์ เมื่อ: 29 พ.ย. 2011, 18:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
ถ้ารู้ว่าจะต้องหยุดมันในที่สุด
ก็อย่าหยิบมันขึ้นมาถีบ

:b55: :b55: :b55:


สมมุติว่าเราหยิบขึ้นมาถีบแล้ว เพราะ "ความไม่รู้" แล้วเราจะหยุดการวิ่งของจักรยานมันอย่างไร


โพสต์ เมื่อ: 30 พ.ย. 2011, 00:31 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


ก็จะสมมติมันไปถึงไหนล่ะ


โพสต์ เมื่อ: 30 พ.ย. 2011, 00:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.ย. 2011, 17:04
โพสต์: 133


 ข้อมูลส่วนตัว


ถึงชรา มรณะ :b13:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 19 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร