วันเวลาปัจจุบัน 23 ก.ค. 2025, 04:30  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 12 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ม.ค. 2012, 11:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ถาม ๔ ตามหลักพระปริยัติแล้ว เมื่อพูดถึง ศีล สมาธิ ปัญญา อยู่ข้างหลัง แต่นักปฏิบัติทั้งหลายท่านยกเอาตัวปัญญาไว้ข้างหน้า (ปัญญา ศีล สมาธิ*) อันนี้ถูกหรือไม่

คำตอบ ๔ อันนี้ก็ในทำนองอันเดียวกับ ทาน ศีล ภาวนา ท่านยกเอา ศีล สมาธิ ปัญญา มาตั้งไว้เป็นลำดับแล้วก็เอา ปัญญา ไว้สุดท้าย ยกเอาศีลไว้เบื้องตน สมาธิเป็นอันดับ ๒ ปัญญาเป็นอันดับ ๓ เพื่อว่าบัญญัติเหล่านี้เป็นของสาธารณะทั่วไป พูดแต่หยาบไปหาละเอียด คนจะได้รู้ง่ายเข้า ถ้าหากนักปฏิบัติแล้วมันตรงกันข้ามอีกเหมือนกัน

เมื่อเราปฏิบัติธรรมคืออบรมใจให้เข้าถึงความสงบแล้วนั้น จะเห็นได้ว่าผู้จะรักษาศีลให้บริสุทธิ์หมดจดเรียบร้อยหรือมั่นคงหนักแน่นนั้น เพราะปัญญาเกิดก่อน คือปัญญาเห็นว่าสิ่งนี้ดี สิ่งนี้ถูก สิ่งนี้ดีสิ่งนี้ชั่ว สิ่งนี้ควรทำสิ่งนี้ไม่ควรทำ ปัญญาเกิดขึ้นแล้ว จึงค่อยงดเว้นจากความชั่ว คือรักษาศีล นี่จึงว่าปัญญาเกิดขึ้นก่อนศีล

สมาธิก็เหมือนกัน ที่เราจะทำสมาธิให้สงบแน่วแน่เป็นเอกัคคตารมณ์ เอกัคคตาจิตได้ มันต้องมีปัญญาฉลาด มีแยบคายไหวพริบในตัว มีการชำระจิตตนอยู่รอบด้าน หรือระวังสังวรในอินทรีย์ทั้งหลายไม่ให้ฟุ้งซ่าน ส่งไปภายนอก เห็นโทษเห็นภัยในอารมณ์นั้นๆ จึงจะสละอารมณ์ทั้งหลายนั้น ๆ ทำให้เข้าถึงความสงบได้ เมื่อเราพูดถึงเรื่องปัญญาเกิดก่อนศีลก่อนสมาธิแล้ว คราวนี้ตัวปัญญาก็ไม่ต้องพูดกันละตอนนี้ เป็นอันว่าหมดไป

แต่คราวนี้ถ้าจะพูดอีกนัยหนึ่ง ปัญญาในทีนี้ท่านบัญญัติปัญญาไว้สุดท้ายนั้น (ศีล สมาธิ ปัญญา*)ท่านพูดถึงปัญญาขั้นสูง ปัญญาที่พิจารณาวิปัสสนา คือ รู้แจ้งเห็นสัจธรรมตามความเป็นจริงถ้าไม่มีศีล ไม่มีสมาธิ ปัญญาก็ไม่เกิด ปัญญาที่จะเกิดวิปัสสนาปัญญาจะต้องมีศีลสมบูรณ์ สมาธิแน่วแน่จนกระทั่งถึงอัปปนาสมาธิ เมื่อออกจากอัปปนาสมาธิแล้ว ปัญญาวิปัสสนาจึงจะเกิดขึ้น เหตุนั้นท่านจึงบัญญัติไว้ตอนท้าย

นักปฏิบัติทั้งหลายผู้ที่มองเห็นว่า ปัญญา เกิดก่อน ศีล สมาธิ (ปัญญา ศีล สมาธิ*) บางคนอาจจะลบล้างหรือลบหลู่ว่าอันนั้นผิดก็ได้(ศีล สมาธิ ปัญญา*) เมื่อผู้ที่ได้พิจารณาเห็นถึงวิปัสสนาปัญญาตรงนี้แล้ว จะเห็นภูมิฐานชั้นเชิงที่ท่านเทศนาไว้เป็นของจริงทุกสิ่งทุกประการ เพราะธรรมะมันมีหลายขั้นหลายภูมิ

เหตุนั้นปัญญาที่ท่านบัญญัติไว้ ท่านหมายเอาปัญญาขั้นสูงที่เรียกว่า ปัญญาวิปัสสนา หรือปัญญาที่รู้แจ้งสัจธรรมตามความเป็นจริงจนกระทั่งสละหรือเบื่อหน่าย ปล่อยวางอุปาทานทั้งหลายได้

http://www.thewayofdhamma.org/page4_3/bunta.html

======

... เพราะปัญญาวิปัสสนามิได้เกิดแก่สาธารณชนทั่วไป จะเกิดได้ก็แต่ชั้นพระอริยภูมิเท่านั้น เมื่อเกิดก็เกิดครั้งเดียวและขณะจิตเดียวแล้วก็มิได้เกิดอีกในภูมินั้นๆ เมื่อเกิดย่อมพิจารณาเห็นพระไตรลักษณญาณชัดแจ้งตามเป็นจริงทุกอย่าง ในที่ทุกแห่งทุกหนและทุกอาการของสิ่งสารพัดทั้งปวงหมด เมื่อจิตถอนออกจากนั้นแล้วพิจารณาตามอาการนั้นก็ชัดอย่างเดิม แต่จิตไม่ได้เป็นอย่างเดิม ...

... ส่วนวิปัสสนา แปลว่าความรู้แจ้งไปสัจธรรมของจริงตามเป็นจริงจนถอนอัตตานุทิฏฐิเสียได้ ถ้าถอนยังไม่ได้ก็ยังไม่เรียกว่า วิปัสสนา มันเป็น วิปัสสนูกิเลส ไปเสีย ...

การปฏิบัติสมถ-วิปัสสนา

ขออย่าได้หอบเอาตำรามาปฏิบัติเลย ขว้างเก็บเข้าตู้ไว้เสียก่อน จงพากันมาฝึกอบรมใจให้เข้าถึงความสงบ เอกัคคตารมณ์ จริงๆดูก่อน แล้วจึงค่อยเอาตำรามาพูดกัน ถ้าทำได้ดังนั้นแล้ว นักปฏิบัติภาวนาทั้งหลายก็จะไม่สิ้นเปลืองน้ำลายโดยใช่เหตุ


ตอบปัญหา โดยหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
http://www.thewayofdhamma.org/page4_1/pucha3.html

* ความเห็นของผู้โพส

:b12:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ม.ค. 2012, 12:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


วิริยะ เขียน:
ถาม ๔ ตามหลักพระปริยัติแล้ว เมื่อพูดถึง ศีล สมาธิ ปัญญา อยู่ข้างหลัง แต่นักปฏิบัติทั้งหลายท่านยกเอาตัวปัญญาไว้ข้างหน้า (ปัญญา ศีล สมาธิ*) อันนี้ถูกหรือไม่

คำตอบ ๔ อันนี้ก็ในทำนองอันเดียวกับ ทาน ศีล ภาวนา ท่านยกเอา ศีล สมาธิ ปัญญา มาตั้งไว้เป็นลำดับแล้วก็เอา ปัญญา ไว้สุดท้าย ยกเอาศีลไว้เบื้องตน สมาธิเป็นอันดับ ๒ ปัญญาเป็นอันดับ ๓ เพื่อว่าบัญญัติเหล่านี้เป็นของสาธารณะทั่วไป พูดแต่หยาบไปหาละเอียด คนจะได้รู้ง่ายเข้า ถ้าหากนักปฏิบัติแล้วมันตรงกันข้ามอีกเหมือนกัน



"ปัญญา ศีล สมาธิ" คือ ผลการตรัสรู้ /ผลการวิปัสสนาภาวนา หรือ มรรคมีองค์ 8
ข้อ 1-2 เป็น ปัญญา (สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ)
ข้อ 3-4-5 เป็น ศีล (สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ)
ข้อ 6-7-8 เป็น สมาธิ (สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ)


ส่วน " ศีล สมาธิ ปัญญา" ก็มาจาก อธิศีล อธิจิต อธิปัญญา หรือ ไตรสิกขา
คือข้อศึกษาหรือข้อปฏิบัติของพระสงฆ์เพื่อให้บรรลุมรรคผลนิพพานเร็วขึ้น


ส่วน "ทาน ศีล ภาวนา" หรือ "ทาน ศีล วิปัสสนาภาวนา " คือ ข้อปฏิบัติสำหรับฆราวาส
ใ้ห้ทาน เพื่อลดความเห็นแก่ตัว
รักษาศีล เพื่อไม่ให้เบียดเบียนตนเอง และผู้ือื่น
ภาวนา หรือ วิปัสสนาภาวนา คือ วิธีการปฏิบัติเพื่อให้เกิด "ปัญญา" ที่เรียกว่าการเจริญปัญญา


คุณไม่มีปัญญา คุณจะแก้ทุกข์ หรือ ปัญหาได้อย่างไร
แค่ความสงบไม่ทำให้เกิดปัญญาได้อย่างแน่นอน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ม.ค. 2012, 12:21 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ธ.ค. 2010, 18:22
โพสต์: 70


 ข้อมูลส่วนตัว


วิริยะ เขียน:
... ส่วนวิปัสสนา แปลว่าความรู้แจ้งไปสัจธรรมของจริงตามเป็นจริงจนถอนอัตตานุทิฏฐิเสียได้ ถ้าถอนยังไม่ได้ก็ยังไม่เรียกว่า วิปัสสนา มันเป็น วิปัสสนูกิเลส ไปเสีย ...

สาธุ ขอโมทนา :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ม.ค. 2012, 13:06 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:

คุณไม่มีปัญญา คุณจะแก้ทุกข์ หรือ ปัญหาได้อย่างไร
แค่ความสงบไม่ทำให้เกิดปัญญาได้อย่างแน่นอน


ไม่เที่ยง จ๊ะ
ไม่เที่ยง อย่างที่ท่อง ซิจ๊ะ
อย่าลืมสิ่จ๊ะ ทุกสิ่ง ไม่เที่ยง ไม่ใช่หรือจ๊ะ

แค่นี้ก็หลุด แร๊ววววว เห็นมั๊ย
มีพอใจ มีไม่พอใจ มีเลือกปฏิบัติ จร้าาาาาา

:b4: :b4: :b4:

:b32: :b32: :b32:

ความจริง มันเป็นอย่างนี้ล่ะจ๊ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ม.ค. 2012, 13:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ธ.ค. 2010, 11:11
โพสต์: 94


 ข้อมูลส่วนตัว


วิริยะ เขียน:

... เพราะปัญญาวิปัสสนามิได้เกิดแก่สาธารณชนทั่วไป จะเกิดได้ก็แต่ชั้นพระอริยภูมิเท่านั้น เมื่อเกิดก็เกิดครั้งเดียวและขณะจิตเดียวแล้วก็มิได้เกิดอีกในภูมินั้นๆ เมื่อเกิดย่อมพิจารณาเห็นพระไตรลักษณญาณชัดแจ้งตามเป็นจริงทุกอย่าง ในที่ทุกแห่งทุกหนและทุกอาการของสิ่งสารพัดทั้งปวงหมด เมื่อจิตถอนออกจากนั้นแล้วพิจารณาตามอาการนั้นก็ชัดอย่างเดิม แต่จิตไม่ได้เป็นอย่างเดิม ...

... ส่วนวิปัสสนา แปลว่าความรู้แจ้งไปสัจธรรมของจริงตามเป็นจริงจนถอนอัตตานุทิฏฐิเสียได้ ถ้าถอนยังไม่ได้ก็ยังไม่เรียกว่า วิปัสสนา มันเป็น วิปัสสนูกิเลส ไปเสีย ...

การปฏิบัติสมถ-วิปัสสนา

ขออย่าได้หอบเอาตำรามาปฏิบัติเลย ขว้างเก็บเข้าตู้ไว้เสียก่อน จงพากันมาฝึกอบรมใจให้เข้าถึงความสงบ เอกัคคตารมณ์ จริงๆดูก่อน แล้วจึงค่อยเอาตำรามาพูดกัน ถ้าทำได้ดังนั้นแล้ว นักปฏิบัติภาวนาทั้งหลายก็จะไม่สิ้นเปลืองน้ำลายโดยใช่เหตุ


ตอบปัญหา โดยหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
http://www.thewayofdhamma.org/page4_1/pucha3.html

* ความเห็นของผู้โพส

:b12:

สาธุ ขอโมทนาขอรับ หลวงปู่่ฯ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ม.ค. 2012, 17:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


:b1:

อืมมม จริง ๆ มีประเด็นให้ต้องมานั่งสนทนาอย่างนี้ :b23: :b23:
ทำให้ธรรมหลวงปู่ หลวงตา ได้ฟื้นคืนกลับมาส่องประกายอย่างนี้
ก็ดีเหมือนกันนะ

ธรรมอันออกมาจากใจที่บริสุทธิ์ อ่านเมื่อไรก็ชื่นใจ
ส่งให้ใจได้สัมผัสถึงความสงบเย็นขึ้นมาทันที

:b1: :b1: :b1:

บางครั้ง เราคิดว่า
พุทธศาสนาถึงกาลที่จะค่อย ๆ เสื่อมไปในวันนี้ วันพรุ่งแล้ว
เราก็รู้สึกสะท้อนใจ สะเทือนใจ น้ำตาคลอได้ทุกที

แต่พอเห็นธรรมที่เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ
ที่นำมาร่วมแจมการสนทนาธรรมแล้ว
ก็ได้รู้สึกว่า

Kiss Kiss Kiss


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ม.ค. 2012, 17:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พระพุทธเจ้าแบ่งคนออกเป็น สี่จำพวก
จำพวกสุดท้าย ท่านชักสะพานหนีเสีย

:b12:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ม.ค. 2012, 18:09 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


วิริยะ เขียน:
พระพุทธเจ้าแบ่งคนออกเป็น สี่จำพวก
จำพวกสุดท้าย ท่านชักสะพานหนีเสีย

:b12:


:b1: ท่านเห็นว่า ควรจะชักสะพานแล้วใช่ ป๊ะ

อื้อ ตามนั้น

Kiss Kiss Kiss

จริง ๆ ที่ทำไปเพราะห่วงตะเองน่ะแหละ
เค้ากลัวตะเองจะเผลอไปมีอื่น :b3: น่ะ
นี่เค้าหน้ามึนมาทั้งหมด ก็เพื่อตะเองทั้งน๊านนนนน

:b19: :b19: :b19:

แต่เมื่อเห็นตะเองหยิบยกธรรมมาแต่ละบท

:b27: :b27: :b27:

เค้าก็อุ่นใจขึ้นแล้วววววว ล๊าาาาาาาาลาาาา ลั่นล้าาาาา

ธรรมของพระพุทธองค์ และพระเกจิอาจารย์ผู้บริสุทธิ์ด้วยศีล สมาธิ ปัญญา
ยังเบ่งบานในใจคนได้ ตลอดกาลเวลา ที่ธรรมนั้นถูกนำขึ้นมาแสดง

:b8: :b8: :b8: :b8:


แก้ไขล่าสุดโดย eragon_joe เมื่อ 12 ม.ค. 2012, 18:24, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ม.ค. 2012, 18:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมะพระพุทธเจ้า ไม่ได้มีไว้เร่ขาย แลกเปลี่ยน หรือยัดเยียดให้ใคร
เหมือนพิมเสน ท่านไม่ให้เอาไปแลกกับ เกลือ

:b12:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ม.ค. 2012, 18:27 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


:b13: :b13: :b13:

:b48: :b41: :b41: :b48:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ม.ค. 2012, 19:18 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


โห้ยยย......อะไรจะด่วนเอวัง...ง่าย ๆ อย่างงั้น.

อ้างคำพูด:
แต่คราวนี้ถ้าจะพูดอีกนัยหนึ่ง ปัญญาในทีนี้ท่านบัญญัติปัญญาไว้สุดท้ายนั้น (ศีล สมาธิ ปัญญา*)ท่านพูดถึงปัญญาขั้นสูง ปัญญาที่พิจารณาวิปัสสนา คือ รู้แจ้งเห็นสัจธรรมตามความเป็นจริงถ้าไม่มีศีล ไม่มีสมาธิ ปัญญาก็ไม่เกิด ปัญญาที่จะเกิดวิปัสสนาปัญญาจะต้องมีศีลสมบูรณ์ สมาธิแน่วแน่จนกระทั่งถึงอัปปนาสมาธิ เมื่อออกจากอัปปนาสมาธิแล้ว ปัญญาวิปัสสนาจึงจะเกิดขึ้น เหตุนั้นท่านจึงบัญญัติไว้ตอนท้าย

:b8: :b8: :b8:

วิปัสสนูกิเลสคลับ...โปรดได้พิจารณา :b21:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2012, 14:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ธ.ค. 2010, 11:11
โพสต์: 94


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:

วิปัสสนูกิเลสคลับ...โปรดได้พิจารณา :b21:

:b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 12 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร