วันเวลาปัจจุบัน 21 ก.ค. 2025, 05:19  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 26 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.พ. 2012, 17:31 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นอย่างนั้นได้ไง
ในเมื่อคุณเอาความจริงเป็นที่ดั้งไม่ใช่เหร๋อ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.พ. 2012, 17:35 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


ทั้ง ๆ ที่มีความจริงเป็นที่ตั้ง แต่กลับไม่ใช่สิ่งที่ทรงอิทธิพล
ที่จะทำให้ตั้งอยู่ในความจริงที่ยึดเป็นที่ตั้งนั้น ๆ ได้

ความคิด vs จิตใจ

:b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.พ. 2012, 17:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
ทั้ง ๆ ที่มีความจริงเป็นที่ตั้ง แต่กลับไม่ใช่สิ่งที่ทรงอิทธิพล
ที่จะทำให้ตั้งอยู่ในความจริงที่ยึดเป็นที่ตั้งนั้น ๆ ได้

ความคิด vs จิตใจ

:b1:


ก็เพราะความจริงไม่สามารถอุดช่องว่างได้ตลอดเวลา หรือทุกขณะ อุดได้บ้าง รั่วบ้าง หากอุดได้หมดก็คือ ละสังโยชน์ 10 ประการได้ทั้งหมด นั้นก็คือ นิพพาน ต้องรู้ความไม่เที่้ยงทุกข์ทุกลมหายใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.พ. 2012, 17:44 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:

ก็เพราะความจริงไม่สามารถอุดช่องว่างได้ตลอดเวลา หรือทุกขณะ อุดได้บ้าง รั่วบ้าง หากอุดได้หมดก็คือ ละสังโยชน์ 10 ประการได้ทั้งหมด นั้นก็คือ นิพพาน ต้องรู้ความไม่เที่้ยงทุกข์ทุกลมหายใจ


มันเป็นลักษณะอาการของการยึดติดความคิดกับการเข้าไปรู้บางสิ่งไว้ทุกลมหายใจ
และมันก็แสดงความไม่เที่ยง ต่อคุณอย่างตำหู ตำตา อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
คุณเฝ้าคำนึงถึงความ ไม่เที่ยงในสรรพสิ่งต่าง ๆ
แต่ ความไม่เที่ยงที่แสดงอยู่ตรงหน้า คุณกลับมองข้ามไป

เลิกมองดูรถ แล้วพยายามเห็นไม่เที่ยงในสิ่งเหล่านั้นได้แล้ว
แต่หันมามองดู สิ่งที่แปรเปลี่ยนไปภายในตน
ผัสสะ เวทนา อารมณ์ แล้วเห็นความไม่เที่ยงในองค์ธรรมเหล่านั้นเถอะ

ไม่ได้ยาก ซับซ้อนกว่าสิ่งที่คุณทำมาหรอก

ก็แค่เปลี่ยนทิศทางในการพิจารณาลงไป

:b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.พ. 2012, 23:40 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:

ก็เพราะความจริงไม่สามารถอุดช่องว่างได้ตลอดเวลา หรือทุกขณะ อุดได้บ้าง รั่วบ้าง หากอุดได้หมดก็คือ ละสังโยชน์ 10 ประการได้ทั้งหมด นั้นก็คือ นิพพาน ต้องรู้ความไม่เที่้ยงทุกข์ทุกลมหายใจ


มันเป็นลักษณะอาการของการยึดติดความคิดกับการเข้าไปรู้บางสิ่งไว้ทุกลมหายใจ
และมันก็แสดงความไม่เที่ยง ต่อคุณอย่างตำหู ตำตา อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
คุณเฝ้าคำนึงถึงความ ไม่เที่ยงในสรรพสิ่งต่าง ๆ
แต่ ความไม่เที่ยงที่แสดงอยู่ตรงหน้า คุณกลับมองข้ามไป

เลิกมองดูรถ แล้วพยายามเห็นไม่เที่ยงในสิ่งเหล่านั้นได้แล้ว
แต่หันมามองดู สิ่งที่แปรเปลี่ยนไปภายในตน
ผัสสะ เวทนา อารมณ์ แล้วเห็นความไม่เที่ยงในองค์ธรรมเหล่านั้นเถอะ

ไม่ได้ยาก ซับซ้อนกว่าสิ่งที่คุณทำมาหรอก

ก็แค่เปลี่ยนทิศทางในการพิจารณาลงไป

:b1:


ผมไม่ได้มองแค่สิ่ิงรอบตัว ผมมองความไม่เที่ยงในตนด้วย คือ ขันธ์ 5 (รูปกายไม่เที่ยง เวทนาไม่เที่ยง สัญญาไม่เที่ยง สังขารไม่เที่ยง วิญญาณไม่เที่ยง) เพราะสิ่งกระทบทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
ส่งผลกับการเกิดดับของจิต หรือความไม่เที่ยงของจิตด้วย ไม่มีสิ่งกระทบ จิตก็ไม่แปรเปลี่ยน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.พ. 2012, 11:48 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
ผมไม่ได้มองแค่สิ่ิงรอบตัว ผมมองความไม่เที่ยงในตนด้วย คือ ขันธ์ 5 (รูปกายไม่เที่ยง เวทนาไม่เที่ยง สัญญาไม่เที่ยง สังขารไม่เที่ยง วิญญาณไม่เที่ยง) เพราะสิ่งกระทบทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
ส่งผลกับการเกิดดับของจิต หรือความไม่เที่ยงของจิตด้วย ไม่มีสิ่งกระทบ จิตก็ไม่แปรเปลี่ยน


เราว่า เลิกทำเถอะ
เกิดมาโง่ ก็สู้อุตสาห์ศึกษาจะทำให้หายโง่ แต่สุดท้ายก็กลับไปโง่
เดี๋ยวก็กลับไปสู่ความความชรา
กลับไปสู่การช่วยเหลือตัวเองไม่ได้อีกครั้ง
ไม่ต่างจากเด็กทารกที่ช่วยตัวเองไม่ได้ โง่อีกตามเคย
ถ้าเป็นอย่างนั้นอย่าทำอะไรอีกเลย
ยอมรับความโง่ที่มันเป็นอย่างนั้นซะเถอะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.พ. 2012, 19:35 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
ผมไม่ได้มองแค่สิ่ิงรอบตัว ผมมองความไม่เที่ยงในตนด้วย คือ ขันธ์ 5 (รูปกายไม่เที่ยง เวทนาไม่เที่ยง สัญญาไม่เที่ยง สังขารไม่เที่ยง วิญญาณไม่เที่ยง) เพราะสิ่งกระทบทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
ส่งผลกับการเกิดดับของจิต หรือความไม่เที่ยงของจิตด้วย ไม่มีสิ่งกระทบ จิตก็ไม่แปรเปลี่ยน


เราว่า เลิกทำเถอะ
เกิดมาโง่ ก็สู้อุตสาห์ศึกษาจะทำให้หายโง่ แต่สุดท้ายก็กลับไปโง่
เดี๋ยวก็กลับไปสู่ความความชรา
กลับไปสู่การช่วยเหลือตัวเองไม่ได้อีกครั้ง
ไม่ต่างจากเด็กทารกที่ช่วยตัวเองไม่ได้ โง่อีกตามเคย
ถ้าเป็นอย่างนั้นอย่าทำอะไรอีกเลย
ยอมรับความโง่ที่มันเป็นอย่างนั้นซะเถอะ


คุณก็เห็นความไม่เที่ยงแล้วนี้ ตอนเด็กโง่ โตขึ้นมาฉลาด แก่ชราจำอะไรไม่ได้ (โง่)
คุณก็โง่ ผมก็โง่ คุณตาย ผมก็ต้องตาย เถึยงกันไปจะได้ประโยชน์อะไรขึ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.พ. 2012, 21:29 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณไม่เที่ยง..น้อมรับอะไร ๆ ไม่เป็นเลย..นะ..รู้ตัวรึเปล่า

อย่างนี้....ของใหม่ ๆ...ก็เข้าไม่ได้...นะซี

พิจารณา...อะไรเราไม่รู้..ก็พิจารณา

พิจารณาจนเห็นเนื้อแท้ของคำ ๆ นั้นดู...

ผมว่า..มีหลายท่าน...ที่เห็นหมดว่าคุณไม่เที่ยง....ยังมองไม่เห็นความไม่เที่ยง..จริง

แต่ก็มีหนึ่งเดียว...ที่อุตส่ากระทุ้งคุณไม่เที่ยง...ตลอด....กัลยาณมิตร..นะ..นั้นนะ

กระผมว่า..กระผมก็ปรารถณาดีกับคุณนะ...แต่ขี้เกียจ...

เห็นมั้ย...ใครเป็นกัลยาณมิตร...ดังนั้น

ไม่ต้องรีบตอบโต้...ไม่ต้องรีบส่วนกลับ...ไม่ต้องรีบรักษาหน้าตา

ปล่อยวาง....

แล้วพิจารณา..ไอ้คำที่เราไม่ชอบนี้แหละ....

หาประโยชน์จากมัน....ให้ได้

แม้ไม่ได้จากคำ ๆ นั้น...

แต่ก็ได้ธรรมจากที่เราปล่อยวาง..เป็น...วางแล้วมันจะเห็นใจตน

เห็นสมาชิกหลาย ๆ ท่าน.....น้อบน้อมซะจนเตี้ยติดดิน..แต่ใจเขาสูงเทียมฟ้า..เลยนะนั้นนะ

อะไร ๆ ก็...ขอบคุณคะ...ขอบคุณขา...ขอบคุณที่ให้ความรู้ใหม่...

นี้ต้องยอมรับจริง ๆ :b8:

แต่ไอ้คนชูคอ..อย่างผม...อย่างคุณ...หรือ...อย่างใครหลายๆคน ....ไม่รู้ใจอยู่ตรงไหน :b9:

น้ำไหลลงสู่ที่ต่ำ....ธรรมก็ไหลลงผู้ที่อ่อนน้อมถ่อมตน

:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.พ. 2012, 13:45 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
คุณไม่เที่ยง..น้อมรับอะไร ๆ ไม่เป็นเลย..นะ..รู้ตัวรึเปล่า

อย่างนี้....ของใหม่ ๆ...ก็เข้าไม่ได้...นะซี

พิจารณา...อะไรเราไม่รู้..ก็พิจารณา

พิจารณาจนเห็นเนื้อแท้ของคำ ๆ นั้นดู...

ผมว่า..มีหลายท่าน...ที่เห็นหมดว่าคุณไม่เที่ยง....ยังมองไม่เห็นความไม่เที่ยง..จริง

แต่ก็มีหนึ่งเดียว...ที่อุตส่ากระทุ้งคุณไม่เที่ยง...ตลอด....กัลยาณมิตร..นะ..นั้นนะ

กระผมว่า..กระผมก็ปรารถณาดีกับคุณนะ...แต่ขี้เกียจ...

เห็นมั้ย...ใครเป็นกัลยาณมิตร...ดังนั้น

ไม่ต้องรีบตอบโต้...ไม่ต้องรีบส่วนกลับ...ไม่ต้องรีบรักษาหน้าตา

ปล่อยวาง....

แล้วพิจารณา..ไอ้คำที่เราไม่ชอบนี้แหละ....

หาประโยชน์จากมัน....ให้ได้

แม้ไม่ได้จากคำ ๆ นั้น...

แต่ก็ได้ธรรมจากที่เราปล่อยวาง..เป็น...วางแล้วมันจะเห็นใจตน

เห็นสมาชิกหลาย ๆ ท่าน.....น้อบน้อมซะจนเตี้ยติดดิน..แต่ใจเขาสูงเทียมฟ้า..เลยนะนั้นนะ

อะไร ๆ ก็...ขอบคุณคะ...ขอบคุณขา...ขอบคุณที่ให้ความรู้ใหม่...

นี้ต้องยอมรับจริง ๆ :b8:

แต่ไอ้คนชูคอ..อย่างผม...อย่างคุณ...หรือ...อย่างใครหลายๆคน ....ไม่รู้ใจอยู่ตรงไหน :b9:

น้ำไหลลงสู่ที่ต่ำ....ธรรมก็ไหลลงผู้ที่อ่อนน้อมถ่อมตน

:b8: :b8: :b8:


ขอบพระคุณที่ให้การชี้แนะ
ผมก็เริ่มจะเห็นแล้วครับ ที่ไม่เห็นก็เพราะความลังเลสงสัยมากเกินไป


แก้ไขล่าสุดโดย ไม่เที่ยง เกิดดับ เมื่อ 16 ก.พ. 2012, 15:35, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.พ. 2012, 14:38 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


สาธุ...... :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.พ. 2012, 17:49 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
คุณก็เห็นความไม่เที่ยงแล้วนี้ ตอนเด็กโง่ โตขึ้นมาฉลาด แก่ชราจำอะไรไม่ได้ (โง่)
คุณก็โง่ ผมก็โง่ คุณตาย ผมก็ต้องตาย เถึยงกันไปจะได้ประโยชน์อะไรขึ้น


คือ พอดีเราเคยเห็น คนบางกลุ่ม
ที่มีลักษณะการสนทนาธรรมแบบยึดมั่นในความเชื่อตามแนวทางตน
และเอาสิ่งที่ตนเชื่อคอยไปรุกไล่คนอื่น หมายมั่นแสดงตนว่ารู้เหนือกว่า
เมื่อคู่สนทนาเดินจากไป ก็ชี้นิ้วไล่หลัง คุยลับหลังถึงคนที่เดินหันหลังจากไป
ราวกับเขาเป็นไอ้ขี้แพ้ เสียท่า หมดท่า หมดทางสู้ เป็นผู้มีปํญญาด้อยกว่าตน
เป็นผู้ไม่มีปัญญาเท่าทันในธรรมอย่างตน
ตีคลุมไปถึงแนวทางปฏิบัติ ว่าเป็นการปฏิบัติแบบโง่ ไม่มีปัญญาไปด้วยน่ะ
และก็เก็บเอามาเป็นเรื่องให้ได้คุยฟุ้ง คะนองใจ ฮึกเหิมใจ
และคึกคักว่าตนแน่หมายจะรุกไปเหยียบย้ำ แนวทางปฏิบัติต่าง ๆ
หมายมั่นว่าตนนั้นแน่ ยกตนข่มท่าน
ยกแนวทางตนข่มแนวทางอื่นตลอด
เอาความที่คนอื่นขี้เกียจตอแย มาหลงอุปโลกตน/แนวทางความเชื่อตนขึ้นมา

ซึ่งมีคนส่วนหนึ่ง ที่มีอุปนิสัยเหมือนพวกคนเชียร์มวย
และก็เลือกเฟ้นธรรมด้วย ลักษณะการนำเสนอภาพเช่นนั้นอยู่น่ะ
เลือกเฟ้นธรรม อย่างคนเลือกซื้อยากำจัดแมลงแบบตายยกรัง

:b6: :b6: :b6:

เถียงเพื่อประโยชน์อะไร
ถ้าเพื่อประโยชน์ส่วนตัว เราไม่สนทนากับคุณน่ะ เราสงบสบายดี
อย่างที่ท่านอ๊บซ์กล่าว หลายคนเขาขี้เกียจ...ไปแล้ว
หลายคนที่เขาแม่นในธรรม เขาขี้เกียจ...ไปแล้ว
เพราะเขาเห็นว่าการสนทนาที่เป็นไป มันไร้สาระ
และการเดินจากไป ก็ไม่ใช่การแสดงว่า จะมีใครชนะ

มีแต่ความถือตัว ที่ชนะ
กับความขี้เกียจ ที่ชนะ
และผู้ที่แพ้ ก็คือผู้ที่ถูกสิ่งเหล่านี้ชักจูง ครอบงำ
เราก็แค่ไม่ปล่อยให้ใจตกไปอยู่ในฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เท่านั้น

และที่สำคัญถ้าผู้ที่ศึกษา/ปฏิบัติธรรมพระพุทธองค์
เป็นผู้ที่ ขี้เกียจ ที่จะเผยแพร่ธรรมของพระพุทธองค์เมื่อไร
คิดว่า จะมีใครได้ประโยชน์ อีกล่ะ

:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 26 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร