วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 00:59  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 131 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 5, 6, 7, 8, 9  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มี.ค. 2012, 21:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาในความตั้งใจดี ของคุณชาวโลกด้วยครับ ขอให้มีความเพียรตลอดสายการปฏิบัติ

อยากฝากความคิดส่วนตัวว่า

"อย่าจมในความคิด อย่าติดตัวหนังสือ อย่ายึดถือกาลใดๆ" สุขในธรรมครับ :b8:

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มี.ค. 2012, 21:28 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ม.ค. 2012, 16:35
โพสต์: 110


 ข้อมูลส่วนตัว


ขณะจิต เขียน:
อนุโมทนาในความตั้งใจดี ของคุณชาวโลกด้วยครับ ขอให้มีความเพียรตลอดสายการปฏิบัติ

อยากฝากความคิดส่วนตัวว่า

"อย่าจมในความคิด อย่าติดตัวหนังสือ อย่ายึดถือกาลใดๆ" สุขในธรรมครับ :b8:


:b8: :b8: สาธุ น้อมรับด้วยใจค่ะ :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มี.ค. 2012, 22:02 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
พระพรหมคุณาภรณ์: ธรรมะในชุดนี้ เรียกรวมๆได้ว่าอยู่ในชุดโพธิปักขิยธรรม แปลว่า ธรรมะที่เป็นฝักฝ่ายของการตรัสรู้ คือ อยู่ในชุดของการตรัสรู้ ช่วยประกอบกัน หนุนกันให้ถึงปัญญาตรัสรู้ มีอยู่ 37 ประการ ใน 37 ประการนี้ ก็มีทั้งมรรค ทั้งโพชฌงค์ มีทั้งสติปัฏฐาน 4 อยู่ในนี้หมด ซึ่งทั้งหมดเป็นปัจจัยเกื้อหนุนกัน แล้วก็มาแยกตามการใช้งาน เอาเข้าจริงมันก็อยู่ในส่วนนั้นส่วนนี้ที่ถึงกันหมด
http://fws.cc/whatisnippana/index.php?t ... n#msg12839

:b8: :b8: :b8:

เอ๋ะ...อะ..เอ๋ะ..อะ...ไม่ฟังพระฟังเจ้ากันเลยรึ :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มี.ค. 2012, 23:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2011, 01:57
โพสต์: 324

แนวปฏิบัติ: อริยสัจ4
อายุ: 27
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณชาวโลกตั้งใจไว้ดีแล้วครับ

เหตุเป็นอย่างไร ผลก็เป็นอย่างนั้นละครับ

ผมขออนุโมทนาด้วยครับ :b8:

.....................................................
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นคือความจริง การฝืนความจริงทำให้เกิดทุกข์ การเห็นและยอมตามความจริงทำให้หายทุกข์

คนที่รู้ธรรมะ มักจะชอบเอาชนะผู้อื่น แต่คนเข้าใจธรรมะ มักจะเอาชนะใจตนเอง

สัพเพ ธัมมา อะนัตตาติ ยะทา ปัญญายะ ปัสสะติ
เมื่อใดบุคคลเห็นด้วยปัญญาว่า, ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา

อะถะ นิพพินทะติ ทุกเข เอสะ มัคโค วิสุทธิยา
เมื่อนั้น ย่อมเหนื่อยหน่ายในสิ่งที่เป็นทุกข์ ที่ตนหลง,
นั่นแหละเป็นทางแห่งพระนิพพานอันเป็นธรรมหมดจด

.....ติลักขณาทิคาถา.....


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มี.ค. 2012, 02:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ชาวโลก เขียน:
:b8: :b8: ดิฉันขออนุญาติแทรกแซงนิดนึงน่ะค่ะ

ดีครับที่คุณบอกกล่าวด้วยประโยคนี้ ดังนั้นผมขอให้คุณกับคุณคิงคอง ทำความเข้าใจ
กับสิ่งที่ผมจะบอกเสียหน่อย

คุณกับคุณคิงคองกำลังแสดงกิริยาอาการ เหมือนกับว่าผมเป็นอันธพาลชอบ
ที่จะระรานชาวบ้าน ถ้าเราลองพินิจพิจารณาให้ดีแล้ว เป็นคุณที่เข้ามาแทรก
ระหว่างผมกับคุณโสกะ และคุณคิงคองก็เข้ามาสอดผมขณะที่ผมกำลังอธิบายความ
ให้คุณชาวโลกฟัง ฉะนั้นกรุณาอย่ามาเข้าใจว่าผมเป็นอันธพาลหาเรื่องใครก่อน

จะบอกให้นะครับ กิเลสถ้าเราไม่ไปยุ่งกับมัน มันก็ยังไม่เรียกกิเลส
แต่ต่อเมื่อเราลงไปยุ่ง เมื่อนั้นแหล่ะครับ เรียกกิเลสแถมเป็นกิเลส
ในใจตัวเองเสียด้วย


ชาวโลก เขียน:
:ดิฉันอยากให้ท่านทั้งสองถอยไปคนละก้าวค่ะ กราบขอบพระคุณคุณ nongkong ที่เข้ามาแก้คำต่างให้แทนดิฉัน ดิฉันซึ้งในน้ำใจมากค่ะ แต่ดิฉันขอได้ไหมค่ะ ขอให้ถอยไปก้าวหนึ่งและยืนนิ่งๆ นิ่งๆแบบใช้ขันติน่ะค่ะ ดิฉันว่าคุณ nonkong กำลังโดนหลอกล่อให้เล่นเกมอยู่ โดยที่คุณจริงจังมากแต่อีกฝ่ายสนุกมากในการหยอกเย้าคุณ..เชื่อดิฉันสักครั้งได้ไหมค่ะ เพราะดิฉันมองจากคนนอกดิฉันมองว่าคุณ nongkong กำลังดิ้นไปตามเกมค่ะ

ท่อนนี้ต้องเขียนตัวหนาๆจะได้จำ ฟังนะครับคุณชาวโลก ที่ว่าผมกำลังเล่นเกม
เปล่าเลยครับ แล้วที่มาบอกให้ถอยคนละก้าว ไม่ต้องบอกผมก็ถอยตั้งแต่เริ่ม

คุณชาวโลก ถ้าคุณไม่เป็นคนที่เลือกในสิ่งที่ตัวเองชอบ แล้วบอกว่าเป็นกุศล
ไปตัดสินสิ่งที่ไม่ขอบเป็นอกุศลแล้วเบือนหน้าหนี
คุณลองกลับไปดูให้ดีซิครับ คุณคิงคองแกเข้ามาว่ากล่าวผม ผมก็พยายามชี้แจง
ให้แกฟัง บอกความในใจให้แกรู้ แต่แกฟังผมที่ไหนกันล่ะครับ
สรุปทั้งคุณและคุณคิงคองชอบที่จะเอาแต่สิ่งที่ตัวเองชอบ
นั้นก็คือความคิดของตัวเอง ตรงข้ามพยายามปัดคำอธิบายความของผม
ให้ห่างเพราะไปเหมาเอาว่า สิ่งที่ฉันไม่ชอบมันเป็นกิเลส


ชาวโลก เขียน:
:ส่วนคุณโฮฮับค่ะ ดิฉันรู้ว่าดิฉันไม่อาจเอื้อมจะไปขอร้องคุณได้ว่า ขอให้ถอยไปคนละก้าว..คุณโฮฮับสนุกที่ได้หลอกล่อคุณ nongkong แต่คุณ nongkong ไม่ได้สนุกด้วยเลย ทำไมคุณโฮฮับที่จิตใสขนานนี้ยังมาแกล้งคนอื่นเล่นเพื่อความสนุกอีก..ท่านอย่าเอาความเจ็บปวดของคนอื่นมาเป็นความสนุกของท่านเลยค่ะ ถึงแม้ท่านจะว่านี่ไง ท่านกำลังชี้ให้เขาเห็นกิเลสของตัวเค้าเอง..บางครั้งการที่คุณnongkong เจอด้วยตัวของเขาเองน่าจะดีกว่านะคะ่ ดิฉันเคยเจอสภาพแบบนี้เหมือนกัน ดิฉันเข้าใจความรุ้สึกดีค่ะ:

สนุกที่ไหนกันครับ ถ้าสนุกผมคงไม่บอกให้คุณคิงคองแกรู้ตัวหรอกครับ
ผมจำได้ว่าบอกแกไปว่า เข้ามาศึกษาธรรมในลานธรรมจักร ต้องปฏิบัติตาม
ไปด้วย ต้องมีสติควบคุมตัวเอง แล้วแกฟังที่ไหน ก็เหมือนกับที่ผมบอกไว้ความเห็น
ด้านบน สำหรับคุณอยากบอกให้ว่า อย่าไปเข้าใจความรู้สึกซิครับ มันเป็นโมหะ
มันต้องรู้ว่าเป็นทุกข์แล้วจะเข้าใจ

ชาวโลก เขียน:
ดิฉันเข้าใจความรุ้สึกของทั้งสองฝ่ายน่ะค่ะ แต่ดิฉันอยากให้ถอยกันคนละก้าว เพื่อประคองใจกันและกัน ท่านโฮฮับอาจจะสนุกน้อยหน่อย แต่อีกฝ่ายเค้าจะไม่เจ็บช้ำนะค่ะ...

คุณนี้พูดได้แค่นี้หรือครับ ให้ถอยๆ จะถอยมันต้องดูเหนือดูใต้ ตาม้าตาเรือด้วย
ถ้าคุณคิงคอง แกถือหอกถือสามง่ามไว้ในมือ ถ้าผมถ่อยได้ระยะเมื่อไร
แกเอาสามง่ามแทงผม ใครจะรับผิดชอบครับ :b13:
ชาวโลก เขียน:
เดี๋ยวดิฉันจะไปลองตอบสิ่งที่คุณโฮฮับถามดิฉันมา ดิฉันจะลองตอบดูค่ะ แต่บอกไว้ก่อน จะตอบแบบตั้งใจที่สุด ด้วยสมองที่เบลอๆน่ะค่ะ ดิฉันมึนหัวมาได้ 4-5 วันแล้วตรงจุดกลางกระหม่อมค่ะ..เลยเบลอไปตลอดเลขคิดอะีไรก็มึนๆ มาเล่นกับดิฉันแทนดีกว่าค่ะ...ดิฉันพร้อมแล้วค่ะ :b12: :b12:

โอโห้!พูดจาน่าสงสารนะครับ สรุปว่าผมกำลังหาเรื่องคุณอยู่นะซิ
แบบนี้ต้องท้าฟ้าท้าดินมาเป็นพยานแล้วล่ะครับ ลองไปดูซิว่า ใครมายุ่งกับใครก่อน
อย่าอ้างว่าเป็นเจ้าของกระทู้นะครับ อ้างเป็นเจ้าของเว็บยังอ้างไม่ได้เลยครับ :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มี.ค. 2012, 03:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ชาวโลก เขียน:
อ้างคำพูด:
ในความเป็นจริง "ความไม่ยินดี ยินร้าย" ที่ถูกธรรมจริงแล้ว มันต้องมีเหตุปัจจัยมาก่อน
ไม่ใช่อยู่ดีๆก็ไม่ยินดียินร้าย อาการไม่ยินดี ยินร้ายทุกขณะจิตโดยไม่มีเหตุปัจจัย แบบนี้
เรียกว่า อารมณ์เฉยๆหรือโมหะ
ส่วนความไม่ยินดี ยินร้ายที่ถูกมันไม่ใช่เกิดทุกขณะจิต มันต้องมีเหตุปัจจัยที่เป็นกุศล
นั้นก็คือการพิจารณาธรรมหรือการทำวิปัสนากรรมฐานก่อน มันเป็นไปตามหลักรู้แล้วละ
ซึ่งรวมเรียกว่า ความเป็นกลาง

จริงๆเรื่องนี้เป็นเรื่องปัจจัตตังน่ะ เป็นสิ่งที่รู้ได้เฉพาะตน นี่ดิฉันอ้างคำครูบา
อาจารย์มาพูดน่ะค่ะ เพราะทุกสิ่งไม่มีใครรู้ได้เท่าตัวดิฉัน ท่านพูดถูกว่าทุกอย่างมาจากเหตุปัจจัย แต่
เนื่องจากว่าท่านเป็นคนอื่น ทำไมดิฉันต้องแจ้งทุกอย่างให้ท่านทราบ แค่เล่าคร่าวๆก็เพียงพอ


กรุณาเข้าใจเสียใหม่นะครับ คำว่า ปัจจัตตังที่คุณบอกรู้ได้เฉพาะตนนั้นน่ะ
มันตีความหมายอย่างนี้ครับ สิ่งที่ว่า มันหมายถึงเราต้องเข้าไปรู้ด้วยตัวเอง
ไม่สามารถฟังจากคนอื่นได้ครับ
มันไม่ได้ตีความหมายแบบคุณ คุณเข้าใจผิดที่ว่าความรู้ของใครของมัน
หรือไม่เหมือนกัน ความรู้ที่ว่าถ้าใครได้เข้าไปเห็นด้วยตัวเองจริง มันเหมือนกันครับ
สามารถอธิบายให้คนที่เคยเห็นเข้าใจได้ครับ ที่สำคัญคนที่เห็นจริงสามารถรู้ได้เลยครับ
สิ่งที่คนอื่นบอกเป็นของจริงหรือไม่
ชาวโลก เขียน:
ท่านพูดถูกว่าทุกอย่างมาจากเหตุปัจจัย แต่
เนื่องจากว่าท่านเป็นคนอื่น ทำไมดิฉันต้องแจ้งทุกอย่างให้ท่านทราบ แค่เล่าคร่าวๆก็เพียงพอ

ผมไม่ได้ต้องการให้คุณแจงอะไรให้ผมทราบ สิ่งที่ผมถามคุณไป ก็เพราะจะวินิจฉัย
ในสิ่งที่คุณคิดให้ฟัง จะได้เดินให้มันถูกทางธรรม
จะเน้นให้รู้ว่า "ความไม่ยินดี ไม่ยินร้าย" มันเป็นบัญญัติถ้าเอามาใช้โดดจะทำให้เข้าใจผิด
ในสภาวะ ผมเลยยกเรื่องเหตุปัจจัยมาให้ฟัง

สรุปก็คือคุณชาวโลกกับคุณโสกะ กำลังเข้าใจผิดว่า ความไม่ยินดี ไม่ยินร้าย
เป็นผลสำเร็จในการปฏิบัติ ผมก็เข้าบอกว่า มันไม่ใช่มันเป็นแค่เวทนาตัวหนึ่ง
ที่เรียกว่าอุเบกขาเวทนา ถ้าสำเร็จในการปฏิบัติมันต้องเป็น อุเบกขาสัมโพชฌงค์

อุเบกขาสองตัวนี้มันไม่เหมือนกัน อีกตัวทำให้เกิดตัณหา แต่อีกตัวทำให้เกิด
อริยมรรค


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มี.ค. 2012, 03:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ชาวโลก เขียน:
นี่ก็ปัจจัตตังเช่นเดียวกัน เป็นสิ่งที่รู้ได้เฉพาะตน..ท่านก็รู้แต่ท่านแกล้งบี้ดิฉันไปงั้น

คุณนี่เอาคำ"ปัจจัตตัง"มาใช่ฟุ่มเฟือยนะครับ เข้าใจด้วยว่าคุณตีความหมายของคำนี้ผิด
คุณก็เลยเข้าใจว่าผมมาไล่บี้คุณ ถ้าคุณเข้าใจ"ปัจจัตตัง"ดี มันไม่มีใครมาไล่บี้คุณได้หรอกครับ

ถ้าต่างคนต่างรู้มันก็สามารถตอบโต้ไปในทางเดียวกันได้
แต่ถ้าคนหนึ่งไม่รู้แล้วมาทำอวดรู้ พอมาเจอคนที่รู้จริง
ก็เลยเข้าใจว่าเป็นการไล่บี้
ชาวโลก เขียน:
อ้างคำพูด:
จากนั้นจึงใช้สัมมาทิฐิเป็นตัวนำในการทำธรรมมานุปัสนาฯ
การทำธรรมมานุปัสนาก็คือการ ไล่พิจารณา สติปัสฐาน ในฐานกาย
ฐานเวทนาและฐานจิตและมาจบที่ฐานธรรม กระบวนการนี้แหล่ะ
ที่เรียกว่า รู้เพื่อละสู่ความเป็นกลางในแต่ละองค์มรรค

ตรงนี้ขอบอกตามตรงค่ะว่า ดิฉันเป็นนักปฎิบัติไม่ใช่นักปริยัติ ดังนั้นท่านมาคุยกับ

จะบอกให้ครับ สิ่งที่คุณพูดมันเป็นเพียงข้ออ้างของคนที่ไม่รู้จักปริยัติ และแถมปฏิบัติผิดทางครับ
คนที่ปฏิบัติถูกทางจริงแล้ว เขาสามารถอธิบายได้ครับว่า ขั้นตอนเป็นอย่างไร จิตหรือสภาวะ
ในแต่ละขั้นเป็นอย่างไร คนที่ปฏิบัติผิดเมื่อได้ฟังก็เกิดความสับสน เพราะตัวเองไม่เคยเจอ
สภาวะแบบนี้ ก็เลยโมเมกล่าวหาคนอื่นว่า เล่นเรื่องปริยัติ
ชาวโลก เขียน:
แต่ถ้าพูดว่าดิฉันดูกายอย่างไรแล้วมันเพิกกายได้ อย่างนี้ดิฉันตอบได้
ดิฉันดูอย่างไรทำให้ดิฉันเพิกจิตได้ดิฉันพูดได้

นี่เป็นตัวอย่าง ที่ผมกล่าวหาคุณไว้ในความเห็นบน
คุณบอกว่า ผมกล่าวแต่ปริยัติ คุณรู้แต่ปฏิบัติ
ถามหน่อยครับ ไอ้การปฏิบัติมันมีคำว่า"เพิก"ด้วยหรือครับ
ไอ้สภาวะ"เพิก"นี่มันเป็นอย่างไรหรือครับ


ชาวโลก เขียน:
แต่อย่างว่าดิฉันเป็นนักฝึกหัดเดินในทางธรรมดิฉันย่อมมี
จุดบอดมากมาย และดิฉันก็เชื่อว่า ไม่มีใครเก่งที่สุดในโลก และไม่มีใครที่จะรู้ทุกอย่างในโลกนี้ได้..ดังนั้น
ดิฉันจะไม่รู้อะไรในบางอย่างก็ไม่เห็นเป็นไร ขอแค่ดิแันรู้แค่ว่า ละสังโยชน์ 10 ต้องเดินแบบไหน
บารมี10 มีอะไรบ้าง ต้องทำอย่างไรเพื่อลบจุดบอดของตัวเอง เท่านั้นก็เพียงพอ[/color]
ให้คุ้มค่า เพื่อใ้ห้ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของดิฉัน :b8: :b8: [/color]

จุดบอดแรกของคุณก็คือ อย่าเลือกธรรมตามใจฉันครับ :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มี.ค. 2012, 04:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ชาวโลก เขียน:
อ้างคำพูด:
คุณชาวโลกครับ คนที่หูหนวกเขาก็ไม่ยินดี ยินร้ายต่อเสียงที่ดังหนวกหูนะครับ
คนตาบอดก็ไม่ยินดี ยินร้ายต่อรูปที่พวกเราเห็นนะครับ

: [/color]
[color=#008000]นั่นแค่คำเปรียเทียบสำหรับคนที่ไม่เข้าถึงว่า คนเข้าถึงเข้ารู้สึกอย่างไรต่างหาก
การเล่นคำเพื่อตีคน หรือเพื่อหยอกคน ดิฉันไม่อยากเล่นด้วย ดิฉันไม่สนุก เพราะดิฉัยเคยเล่นแบบท่านมา
แล้ว เพราะดิฉันมีเวลามากเหลือเกินที่จะเล่นได้ เล่นแบบนี้อีกกี่ชาติก็ได้..แต่เดี๋ยวนี้ดิฉันได้เปลี่ยนสถานะ
ภาพตัวเองแล้ว..เวลาดิฉันเหลือน้อยมาก คิดเป็นวินาทีได้เลย ดังนั้นดิฉันจะใช้ทุกวินาทีของดิฉันให้คุ้มค่า
เพื่อใ้ห้ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของดิฉัน :b8: :b8


พุดโถ่! ผิดกับที่ผมพูดมั้ยล่ะว่า คนที่ไม่รู้พอเจอคนรู้ก็หาว่าไล่บี้ ความเห็นนี้หนักข้อ
ไปอีกครับ ผมบอกธรรมตัวเองไม่เข้าใจ ก็หาว่าตีคน หยอกคน บอกให้ครับอารมณ์ผม
ไม่สุนทรีย์ขนาดนั้นหรอกครับ

ที่เอาคนตาบอดหรือคนหูหนวกมาเปรียบให้ฟัง เพื่อธิบายปรมัตถ์ให้เข้าใจ
ให้รู้เรื่องจิต เรื่องผัสสะ

การรับรู้มันมีตั้งหกทาง ทั้งหมดมันพร้อมที่จะทำงานรับรู้ มันอยู่ที่จิตเรา
จะเลือกไปรับรู้ทางไหน จะไปยึดวิญญาณตัวไหน ไอ้ตัวที่ไม่รับรู้หรือไม่ไปยึด
มันก็จะมีความรู้สึกเฉยๆ
เวทนามันมีเหตุปัจจัย ของรูปนามและผัสสะ อย่างไรแล้วมันต้องเกิด

ไอ้ตัวเวทนามันเกิดพร้อมกัน มันเกิดจากรูปตัวไหนใช้การได้มันก็เกิด
แต่ความสำคัญมันอยู่ตรงที่ จิตจะไปยึดเอาผัสสะตัวไหนเท่านั้นเอง
ตัวเวทนาตัวอื่นที่จิตไม่ไปยึดมันจึงเป็นความไม่ยินดี ไม่ยินร้าย
คนตาบอดหรือหูหนวก มันก็เหมือนคนที่เกิดเวทนาทั้งหกแต่ไม่ได้ไปยึด
ผัสสะทางหูหรือผัสสะทางตา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มี.ค. 2012, 04:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลักษณะการเล่นคำ และการเอาคำมาหยอกย้อนคนอื่น
มันเป็นแบบนี้ครับ คือ หาประเด็นในธรรมที่คุยไม่เจอ ต้องการคำตอบ
แต่ดันตอบคนละเรื่อง และเรื่องที่ว่าเป็นการโฆษณาตัวเองครับ
เชิญพิจารณาจากความเห็นที่ผมเอามาอ้างอิง :b13:


ชาวโลก เขียน:
ตรงนี้ขอบอกตามตรงค่ะว่า ดิฉันเป็นนักปฎิบัติไม่ใช่นักปริยัติ ดังนั้นท่านมาคุยกับ
ดิฉันแบบนี้ดิฉันไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ แต่ถ้าพูดว่าดิฉันดูกายอย่างไรแล้วมันเพิกกายได้ อย่างนี้ดิฉันตอบได้
ดิฉันดูอย่างไรทำให้ดิฉันเพิกจิตได้ดิฉันพูดได้ ..แต่อย่างว่าดิฉันเป็นนักฝึกหัดเดินในทางธรรมดิฉันย่อมมี
จุดบอดมากมาย และดิฉันก็เชื่อว่า ไม่มีใครเก่งที่สุดในโลก และไม่มีใครที่จะรู้ทุกอย่างในโลกนี้ได้..ดังนั้น
ดิฉันจะไม่รู้อะไรในบางอย่างก็ไม่เห็นเป็นไร ขอแค่ดิแันรู้แค่ว่า ละสังโยชน์ 10 ต้องเดินแบบไหน
บารมี10 มีอะไรบ้าง ต้องทำอย่างไรเพื่อลบจุดบอดของตัวเอง เท่านั้นก็เพียงพอ[/color]ให้คุ้มค่า
เพื่อใ้ห้ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของดิฉัน :b8: :b8: [/color]

ชาวโลก เขียน:
.. ถ้าดิฉันบอกว่า ดิัฉันเห็นไตรลักษณ์แล้วท่านเชื่อไหม บอกว่าดิฉันเป็นอริยะเจ้าแล้วท่านเชื่อใหม แต่
ถ้าดิฉันบอกว่าดิฉันโง่มาก ไม่เข้าใจเรา ท่านเชื่อใช่ไหม..หรือบอกว่าอ่านไม่รู้เรื่องทำกันยังไง ทำไมอ่าน
ยังไงถึงไม่เข้าใจ ท่านจะเชือไหม เห็นไหมมันมีแต่คำว่า เชื่อและไม่เชื่อ เหตุใดดิฉันต้องพิสูจน์อะไรให้
คนอื่นดุ เพราะดิฉันนั้นรู้ตัวเองดีว่าดิฉันเป็นอย่างไร ถึงแม้ดิฉันจะไม่ได้ดีเด่อะไร แต่ดิฉันเชื่อในความรักดี
ของตัวเองที่ทำทุกอย่างเพื่อพระนิพพาน บางทีในสถานะการมานะตัวตนโผล่ออกมาก็แก้มันไป ฟุ้งซ่าน
มา ก็แก้มันไป แค่รู้จุดอ่อนตัวเองก็แก้กันไป เพราะดิฉันไม่เคยดูคนอื่น ดิฉันดูแต่ตััวเองและแก้แต่ตัวเอง
ดิฉันจะเงยหน้ามาดูคนอื่นก็ต่อเมื่อ ดิฉันเห็นว่าคนนั้นมีข้อดีที่สามารถมาอุดจุดบอดของตัวเองได้ไหม ก็
แค่นั้นเอง[/color]




นั่นแค่คำเปรียเทียบสำหรับคนที่ไม่เข้าถึงว่า คนเข้าถึงเข้ารู้สึกอย่างไรต่างหาก

การเล่นคำเพื่อตีคน หรือเพื่อหยอกคน ดิฉันไม่อยากเล่นด้วย ดิฉันไม่สนุก เพราะดิฉัยเคยเล่นแบบท่านมา

แล้ว เพราะดิฉันมีเวลามากเหลือเกินที่จะเล่นได้ เล่นแบบนี้อีกกี่ชาติก็ได้..แต่เดี๋ยวนี้ดิฉันได้เปลี่ยนสถานะ

ภาพตัวเองแล้ว..เวลาดิฉันเหลือน้อยมาก คิดเป็นวินาทีได้เลย ดังนั้นดิฉันจะใช้ทุกวินาทีของดิฉันให้คุ้มค่า

เพื่อใ้ห้ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของดิฉัน :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มี.ค. 2012, 02:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
จบอรรถาธิบายเรื่องโพชฌงค์ 7 จากปฏิบัติการโดยพิสดารเพียงเท่านี้ก่อน ไม่ทราบว่าคุณโฮฮับจะรู้ตามทันหรือเปล่าหนอ.. :b53:

จบได้ก็ดีแล้ว ไม่งั้นจะขายขี้หน้า
อาไร! ยิ่งพูด ยิ่งเละ


เห็นจ้อแต่เรื่องอริยมรรค เราหวังดีก็เตือนให้ แทนที่จะเอะใจ
กับจ้อหนักขึ้นอีก

องค์ธรรมที่ประกอบองค์มรรค ไม่เคยเห็นพูดถึงจ้ออยู่แต่อริยมรรค
ตอนนี้เราหยิบธรรมประกอบมรรคขึ้นมา เอาอีกแล้วเริ่มจ้ออีกแล้ว
จ้อแบบชนิดเละๆเทะๆเสียด้วย

คุณโสกะครับ ผมว่าคุณเปลี่ยนเรื่องคุยเถอะครับ และพูดจาอะไร
ให้มันสั้นๆจะดีกว่าครับ



ที่ผมยกโพชฌงค์เจ็ดขึ้นมา มันมีธรรมอยู่หนึ่งที่เรียกว่า
อุเบกขาสัมโพชฌงค์ อยากให้เอาไปเปรียบเทียบกับอุเบกขาเวทนา
จะได้เข้าใจ เรื่องที่คุณกำลังจ้อให้คุณ"ชาวโลก"ฟัง เรื่องที่เกี่ยวกับ..
ความไม่ยินดี ความไม่ยินร้ายนั้นน่ะครับ

เอ้า! ลองตอบกลับมาใหม่อีกครั้งให้แก้ตัว :b13:

ลองไปหาดูที่ผมตอบคุณชาวโลก เอาเป็นแนวทางมาตอบหรือมาแย้งก็ได้
อย่าตอบมายาวๆแบบน้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งไม่มีน่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มี.ค. 2012, 05:09 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ม.ค. 2012, 16:35
โพสต์: 110


 ข้อมูลส่วนตัว


:b1: ..... :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 131 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 5, 6, 7, 8, 9

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร