วันเวลาปัจจุบัน 04 ส.ค. 2025, 06:23  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 107 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 3, 4, 5, 6, 7, 8  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 20 มี.ค. 2012, 05:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
(สํ.สฬ.18/377/261)

ยกมาให้ดูไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบแล้วพร้อมที่คัมภีร์อ้างอิง แล้วจะเอาอะไรอีก :b1:[/


รู้แล้วเห็นแล้ว อยากจะดูของแท้ๆ อยากรู้ว่าที่ยกมาให้ดูน่ะมันของจริงหรือเปล่าเท่านั้น
แล้วไอ้ลายแทงในวงเล็บนั้นน่ะ ไปหามาแล้วมันหาไม่เจอ
คุณกรัชกายอย่าดิ้นเลย ยิ่งดิ้นเชือกก็ยิ่งรัดเดี๋ยวหายใจไม่ออกนะจะบอกให้



อ้างคำพูด:
สํ.สฬ.18/377/261


ตัวย่อ/ตัวเลขโฮฮับเข้าใจว่ายังไง

อ้างคำพูด:
เข้าไปเสิทหาในกูเกิล พิมพ์ว่าพระไตรปิฎกก็ไม่มี พิมพ์ว่าพุทธพจน์ก็ไม่ได้
เห็นขึ้นมาแบบนี้ครับ viewtopic.php?f=1&t=33863&start=105&view=print

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 20 มี.ค. 2012, 05:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
nongkong เขียน:
รบกวนคุนโฮช่วยชี้แนะดิฉันด้วย ว่าดิฉันเข้าใจขาดตกบกพร่องส่วนใด ก่อนที่ดิฉันจะสงสัย เพราะดิฉันไม่ใช่คนฉลาดหรือไหวพริบเป็นเลิศ ดิฉันเน้นภาคปฏิบัติทางโลกโดยการฝึกควบคุมสมาธิตัวเองในชีวิตประจำวันทำให้เกิดสติอย่างที่คุนโฮแนะนำมาข้างต้น ส่วนสมองในทางธรรมมันคืออาตนะภายในใช่หรือไม่เจ้าค่ะ ซึ่งดิฉันถามคำถามนี้ดิฉันก็ทราบแล้วนะเจ้าค่ะว่ามันคืออะไร เพราะดิฉันไปศึกษามาแล้วแต่ยังเกิดความข้องใจเพราะบางครั้งสมองดิฉันคิดเป็นตรรกะมีเหตุมีผล แต่พอดิฉันคิดลึกซึ้งเขาไปอีกโดยใช้จิตไม่ฟุ้งซ่านไม่ปรุ่งแต่ง ดิฉันก็ก็กลับคิดว่าเราควรนิ่งเฉยไม่ต้องไปคิดรึหาคำอธิบายเราควรปล่อยวาง ภาคปฏิบัติดิฉันมันออกมาเป็นแบบนี้แหละเจ้าค่ะ

คุณน้องคิงคองครับ ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า สมองหรือใจของเรามันทำหน้าที่
คิดมันก็ต้องคิด ไปห้ามมันไม่ได้ เพียงแต่เมื่อมันคิด เราต้องมีสติระลึกรู้ครับว่ากำลังคิด

เรื่องการปล่อยวาง ความหมายก็คือรู้แล้วจึงปล่อย ปุถุชนยังทำไม่ได้หรอกครับ
เห็นพูดว่าปล่อยวางๆๆแล้วแท้จริงกำลังหลงไปคิดเรื่องอื่นแทนครับ


การปล่อยวางได้นั้น บุคคลจะต้องละสักกายทิฐิให้ได้เสียก่อนครับ
นั้นก็คือต้องผ่านการเห็นไตรลักษณ์มาแล้ว

คุณคิงคองครับ ผมยินแถลงข้อข้องใจให้นะครับ แต่ทางที่ดีกรุณาถามแยกประเด็นมา
ผมจะได้ตอบได้ถูกครับ ถ้าถามรวมความมาแบบนี้อธิบายยากครับ เหตุเพราะมันมีการเอา
บัญญัติต่างๆหรือคำสอนของพระพุทธเจ้ามามาสอนผิดที่ผิดทางตั้งแต่ต้น บางครั้งพูดรวมกันไป
อาจทำให้คุณสับสนหรือเข้าใจผิดได้ครับ

ขอแนะนำสั้นๆก่อนว่า ขั้นแรกหมั่นเจริญสติด้วยการ
ตามรู้อารมณ์ที่เกิด โกรธก็รู้ว่าโกรธ หลงไปคิดเรื่องไร้สาระก็รู้ว่าคิด
โลภหรือเกิดราคะก็รู้ หมั่นตามรู้ไปเรื่อยๆ จนจำสภาวะต่างๆได้แม่นยำ
สภาวะต่างๆที่เราจำได้เขาเรียกว่า สัญญา

สภาวะที่เกิดปัจจุบันกับสภาวะสัญญานี่แหล่ะครับ เป็นเหตุปัจจัยให้เห็นไตรลักษณ์

จำไว้ครับการตามรู้อารมณ์เราจะต้อง มีศีลคอยกำกับไม่ให้เกิดกายสังขาร
หรือวจีสังขารนะครับ เดี๋ยวจะติดคุก

อย่าลืมแยกถามมาเป็นข้อๆนะครับ


ถามเกี่ยวกับคำว่า "อายตนะ" ที่คุณ nong พูดถึง แนะ ทำเป็นคุยกันเอง ไม่สนใจเราสะอีกนิ

ถ้าแบบนี้ก็ชวนกันไปตั้งกระทู้คุยกันสองคนเถอะนะขอรับนะ


"อายตนะ" ไม่ช่วยกันตอบบ้างหรอขอรับ :b12: พูดถึงกันจัง

อายตนะ แปลว่า อะไร มีกี่อย่าง อะไรบ้าง :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 20 มี.ค. 2012, 07:05 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b1: :b1: :b1:
ใครเคยรู้ประวัติอดีตชาตินางค้อมผู้เป็นเอตทัคคอุบาสิกาผู้เลิศทางพหูสูต...สาวใช้ของพระนางสามาวดี..บ้าง

เป็นสาวใช้..เพราะความไม่รู้ว่าเพื่อนพระเถรีเป็นขีณาสพแล้ว...เพลอใช้ให้หยิบตะกร้าหมาก

หลังค้อม..เพราะไปแต่งตัวล้อเลียนพระปัจเจกพุทธเจ้าที่หลังค้อมอยู่หน่อย ๆ

หุ..หุ..หุ..

ใช้ให้ไปเอาลิงค์มานี้....จะเข้าข่ายการใช้มั้ย...หึ :b13: :b13: :b13:


โพสต์ เมื่อ: 20 มี.ค. 2012, 09:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
nongkong เขียน:
คุณโฮผู้รอบรู้ในเรื่องอภิธรรมช่วยเข้ามาวิจารณ์และชี้แนะแนวทางการเจริญสติและปัญญาให้กับตัวดิฉันและคุนกรัชกายด้วยเถิดเจ้าค่ะเพราะแนวทางของคุนโฮทำให้ดิฉันเป็นผู้มีสติและปัญญามากขึ้นเจ้าค่ะ


ตามความเข้าใจของคุณ nong สติ กับ ปัญญา มีลักษณะอย่างไร


"ลงพุทธพจน์บ้าง เห็นว่าเกี่ยวกับวิธีเจริญสติและสัมปชัญญะ (หรือปัญญ)"

ในปุถุชนมีแค่สติ ส่วนปัญญาถ้าเป็นปัญญาโลกุตระ(สัมมาทิฐิ อานาสวะ)
ปุถุชนยังไม่มี

คำพูดที่ว่า การเจริญสติที่ใช้กับปุถุชนนั้น หมายถึงการหมั่นมีสติเพื่อให้เกิดปัญญา(โลกุตระ)
การมีสติที่ต่อเนื่องต่อผัสสะที่เป็นจริงไม่บังคับเขาเรียกว่า สมาธิที่ตั้งมั่น

และการมีสติและสมาธิที่ตั้งหมั่นต่อการงานที่ทำเขาเรียกว่า สัมปชัญญะ

สรุปสัมปชัญญะก็ยังไม่ใช่ปัญญา มันเป็นเพียงทางเดินไปสู่ปัญญา

ดังนั้นคำพูดที่คุณกรัขกายยกมาที่ว่า...
"ลงพุทธพจน์บ้าง เห็นว่าเกี่ยวกับวิธีเจริญสติและสัมปชัญญะ (หรือปัญญา)"


จะบอกให้ครับสิ่งที่คุณกรัชกายยกมามันไม่ใช่ปัญญาครับ มันเป็นหลักธรรมของอิทธิบาทสี่
หมายความว่า หมั่นมีสัมปชัญญะหรือมีอิทธิบาทสี่ เพื่อความสำเร็จนั้นก็คือ การได้
เห็นไตรลักษณ์และมีสัมมาทิฐิ (ปัญญาที่แท้ครับ) นี่เป็นเรื่องปุถุชน

แล้วจะอธิบายพุทธพจน์ที่ยกมาเพื่อให้คุณกรัชกายเข้าใจในทางที่ถูก

ไม่ใช่นึกจะยกอะไรมาอ้างก็ยกมาทั้งๆที่มันผิดกาลเทศะ


แล้วจะอธิบายพุทธพจน์ที่ยกมาเพื่อให้คุณกรัชกายเข้าใจในทางที่ถูก

ไม่ใช่นึกจะยกอะไรมาอ้างก็ยกมาทั้งๆที่มันผิดกาลเทศะ


รอคำอธิบายอยู่ครับเนี่ย :b1:

มีคำถามโฮฮับหน่อย เจ้าชายสิทธัตถะ อุปติสสะ โกลิตะ อานนท์ โกณฑัญญะ วัปปะ ภัททิยะ มหานามะ อัสสชิ เป็นต้น เหล่านี้เนี่ย เป็นอริยะ (อริยะ ในความหมายของพุทธะ) มาตั้งแต่เกิดถูกไหม :b10:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 20 มี.ค. 2012, 09:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
คำพูดที่ว่า การเจริญสติที่ใช้กับปุถุชนนั้น หมายถึงการหมั่นมีสติเพื่อให้เกิดปัญญา (โลกุตระ)
การมีสติที่ต่อเนื่องต่อผัสสะที่เป็นจริงไม่บังคับเขาเรียกว่า สมาธิที่ตั้งมั่น

และการมีสติและสมาธิที่ตั้งหมั่นต่อการงานที่ทำเขาเรียกว่า สัมปชัญญะ

สรุปสัมปชัญญะก็ยังไม่ใช่ปัญญา มันเป็นเพียงทางเดินไปสู่ปัญญา

ดังนั้นคำพูดที่คุณกรัขกายยกมาที่ว่า...
"ลงพุทธพจน์บ้าง เห็นว่าเกี่ยวกับวิธีเจริญสติและสัมปชัญญะ (หรือปัญญา)"


จะบอกให้ครับสิ่งที่คุณกรัชกายยกมามันไม่ใช่ปัญญาครับ มันเป็นหลักธรรมของอิทธิบาทสี่
หมายความว่า หมั่นมีสัมปชัญญะหรือมีอิทธิบาทสี่
เพื่อความสำเร็จนั้นก็คือ การได้
เห็นไตรลักษณ์และมีสัมมาทิฐิ (ปัญญาที่แท้ครับ) นี่เป็นเรื่องปุถุชน



ยิ่งดูยิ่งเลอะเทอะ มีแต่ความเห็นส่วนตัว (ทิฏฐิส่วนตัว) อ้างศัพท์ธรรมคำบาลีโยงกันมั่ว (ศัพท์ทางธรรมที่ขีดเส้นใต้มั่วทั้งนั้น) อนาถครับ บอกตรงๆ ไม่มีพื้นฐานทางการศึกษาเลยแม้แต่น้อย :b7:

โฮฮับยิ่งพูดธรรมะยิ่งดูธรรมะเป็นของไกลคนเข้าไปทุกทีๆๆ

ผัสสะ ในความเข้าใจของโฮฮับได้แก่อะไรครับน่ะ :b10:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 20 มี.ค. 2012, 12:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ถามเกี่ยวกับคำว่า "อายตนะ" ที่คุณ nong พูดถึง แนะ ทำเป็นคุยกันเอง ไม่สนใจเราสะอีกนิ

ถ้าแบบนี้ก็ชวนกันไปตั้งกระทู้คุยกันสองคนเถอะนะขอรับน

"อายตนะ" ไม่ช่วยกันตอบบ้างหรอขอรับ :b12: พูดถึงกันจัง

อายตนะ แปลว่า อะไร มีกี่อย่าง อะไรบ้าง :b1:

เอาเป็นเรื่องๆไปน่ะ แต่ที่รู้ๆไปเอาลิ้งพุทธพจน์ที่ตัวเองอ้างมาก่อนนะจ๊ะ
ว่าง่ายอย่าดื้อน่ะตัวเอง ชักหมั่นไส้แล้ว เดี๋ยวเจอะจรเข้ฟาดหางแบบ
ที่คุณคิงคองแกบอกหรอก :b13:


โพสต์ เมื่อ: 20 มี.ค. 2012, 12:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
:b1: :b1: :b1:
ใครเคยรู้ประวัติอดีตชาตินางค้อมผู้เป็นเอตทัคคอุบาสิกาผู้เลิศทางพหูสูต...สาวใช้ของพระนางสามาวดี..บ้าง

เป็นสาวใช้..เพราะความไม่รู้ว่าเพื่อนพระเถรีเป็นขีณาสพแล้ว...เพลอใช้ให้หยิบตะกร้าหมาก

หลังค้อม..เพราะไปแต่งตัวล้อเลียนพระปัจเจกพุทธเจ้าที่หลังค้อมอยู่หน่อย ๆ

หุ..หุ..หุ..

ใช้ให้ไปเอาลิงค์มานี้....จะเข้าข่ายการใช้มั้ย...หึ :b13: :b13: :b13:

โอ้บ่ะจ้าวช่วย! แล้วเราจะตกนรกมั้ยเนี่ย
ว่าแต่ว่า คุณกรัชกายหลังค่อมหรือเปล่าล่ะ :b13:


โพสต์ เมื่อ: 20 มี.ค. 2012, 15:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
(สํ.สฬ.18/377/261)

ยกมาให้ดูไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบแล้วพร้อมที่คัมภีร์อ้างอิง แล้วจะเอาอะไรอีก :b1:[/


รู้แล้วเห็นแล้ว อยากจะดูของแท้ๆ อยากรู้ว่าที่ยกมาให้ดูน่ะมันของจริงหรือเปล่าเท่านั้น
แล้วไอ้ลายแทงในวงเล็บนั้นน่ะ ไปหามาแล้วมันหาไม่เจอ
คุณกรัชกายอย่าดิ้นเลย ยิ่งดิ้นเชือกก็ยิ่งรัดเดี๋ยวหายใจไม่ออกนะจะบอกให้



อ้างคำพูด:
สํ.สฬ.18/377/261


ตัวย่อ/ตัวเลขโฮฮับเข้าใจว่ายังไง

อ้างคำพูด:
เข้าไปเสิทหาในกูเกิล พิมพ์ว่าพระไตรปิฎกก็ไม่มี พิมพ์ว่าพุทธพจน์ก็ไม่ได้
เห็นขึ้นมาแบบนี้ครับ viewtopic.php?f=1&t=33863&start=105&view=print



ที่โฮฮับ ว่าไปเสิทหาแล้วไม่มีไม่ได้น่ะ "สํ.สฬ.18/377/261" หมายถึงอะไร บอกหน่อยน่า :b1:

อย่าทำเป็นดีดดิ้น

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 21 มี.ค. 2012, 01:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
พุทธพจน์นั่น ไม่เห็นมีอะไรซุกซ่อน เปิดเผยโล่งแจ้ง

โยกโย้อยู่นั้นแหล่ะ กลับไปดูซิว่าตัวเองพูดอะไรไว้
คุณกรัชกายครับ คำพูดของคุณเก็บไว้ฟังเองเถอะครับ....


มันไร้ราคาจริงๆครับ :b13:


โพสต์ เมื่อ: 21 มี.ค. 2012, 01:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:

“ภิกษุทั้งหลาย เมื่อภิกษุมีสติ (คือ ปฏิบัติตามหลักสติปัฏฐาน 4 ) มีสัมปชัญญะ (คือสร้างสัมปชัญญะในการยืน เดิน นั่ง นอน กิน ดื่ม ทำ เป็นต้น)
ฯลฯ


สติปัฏฐานนี่แหละคือหลักฝึกอบรมคนหรือปุถุชน ไม่เห็นมีอะไรซับซ้อน เห็นจะจะ อยู่ที่ว่าคนจะเข้าใจหรือไม่เท่านั้น :b9:

ที่พูดมาแสดงว่า คุณกรัชกายเข้าใจ สติปัฏฐานคือหลักฝึกอบรมคนหรือปุถุชน
ไหนลองช่วยเทศนาให้ฟังทีสิครับว่า จะต้องทำอย่างไร

ถ้ามีนักโทษชายกำลังทุกข์เพราะต้องโทษอยู่ในคุก
นักโทษคนนั้นจะต้องใช้สติปัฏฐานมาอบรมตัวเองอย่างไรครับ
:b13:


โพสต์ เมื่อ: 21 มี.ค. 2012, 05:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




q195a5.gif
q195a5.gif [ 18.27 KiB | เปิดดู 2628 ครั้ง ]
กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
(สํ.สฬ.18/377/261)

ยกมาให้ดูไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบแล้วพร้อมที่คัมภีร์อ้างอิง แล้วจะเอาอะไรอีก :b1:[/


รู้แล้วเห็นแล้ว อยากจะดูของแท้ๆ อยากรู้ว่าที่ยกมาให้ดูน่ะมันของจริงหรือเปล่าเท่านั้น
แล้วไอ้ลายแทงในวงเล็บนั้นน่ะ ไปหามาแล้วมันหาไม่เจอ
คุณกรัชกายอย่าดิ้นเลย ยิ่งดิ้นเชือกก็ยิ่งรัดเดี๋ยวหายใจไม่ออกนะจะบอกให้



อ้างคำพูด:
สํ.สฬ.18/377/261


ตัวย่อ/ตัวเลขโฮฮับเข้าใจว่ายังไง

อ้างคำพูด:
เข้าไปเสิทหาในกูเกิล พิมพ์ว่าพระไตรปิฎกก็ไม่มี พิมพ์ว่าพุทธพจน์ก็ไม่ได้
เห็นขึ้นมาแบบนี้ครับ viewtopic.php?f=1&t=33863&start=105&view=print



ที่โฮฮับ ว่าไปเสิทหาแล้วไม่มีไม่ได้น่ะ "สํ.สฬ.18/377/261" หมายถึงอะไร บอกหน่อยน่า

อย่าทำเป็นดีดดิ้น



โฮฮับนี่นกขุนทองพันธ์ใหม่จริงๆ พูดถึงหลักการของพุทธศาสนาแล้วไม่ได้รู้อะไรสักเรื่อง เห็นแต่พร่ำพรรณนาสร้างวาทกรรมหลบหลีกไปเรื่อยๆ

ที่โฮฮับ ว่าไปเสิทหาแล้วไม่มีไม่ได้น่ะ "สํ.สฬ.18/377/261" หมายถึงอะไร

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสต์ เมื่อ: 21 มี.ค. 2012, 08:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 14:17
โพสต์: 260

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
(สํ.สฬ.18/377/261)

ยกมาให้ดูไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบแล้วพร้อมที่คัมภีร์อ้างอิง แล้วจะเอาอะไรอีก :b1:[/


รู้แล้วเห็นแล้ว อยากจะดูของแท้ๆ อยากรู้ว่าที่ยกมาให้ดูน่ะมันของจริงหรือเปล่าเท่านั้น
แล้วไอ้ลายแทงในวงเล็บนั้นน่ะ ไปหามาแล้วมันหาไม่เจอ
คุณกรัชกายอย่าดิ้นเลย ยิ่งดิ้นเชือกก็ยิ่งรัดเดี๋ยวหายใจไม่ออกนะจะบอกให้



อ้างคำพูด:
สํ.สฬ.18/377/261


ตัวย่อ/ตัวเลขโฮฮับเข้าใจว่ายังไง

อ้างคำพูด:
เข้าไปเสิทหาในกูเกิล พิมพ์ว่าพระไตรปิฎกก็ไม่มี พิมพ์ว่าพุทธพจน์ก็ไม่ได้
เห็นขึ้นมาแบบนี้ครับ viewtopic.php?f=1&t=33863&start=105&view=print



ที่โฮฮับ ว่าไปเสิทหาแล้วไม่มีไม่ได้น่ะ "สํ.สฬ.18/377/261" หมายถึงอะไร บอกหน่อยน่า

อย่าทำเป็นดีดดิ้น



โฮฮับนี่นกขุนทองพันธ์ใหม่จริงๆ พูดถึงหลักการของพุทธศาสนาแล้วไม่ได้รู้อะไรสักเรื่อง เห็นแต่พร่ำพรรณนาสร้างวาทกรรมหลบหลีกไปเรื่อยๆ

ที่โฮฮับ ว่าไปเสิทหาแล้วไม่มีไม่ได้น่ะ "สํ.สฬ.18/377/261" หมายถึงอะไร

แหมคุณ ขนาดจะลองภูมิคุณโฮฮับ คุณยังวางอักษรย่อผิดเลย ที่คุณถามคุณโฮฮับว่า สฬ.สํ.18/377/261 คืออะไร ทำไมคุณโฮฮับจะไม่รู้ เพียงแต่คุณโฮฮับ รู้ว่าคุณกำลังเซ้าซี้เลยขี้เกียจตอบน่ะ เพราะคุณโฮฮับ แกรู้ว่าคุณกัดไกลรู้อยู่แล้ว เลยไม่ตอบให้เสียเวลาไง

ที่คุณกัดไกลถามว่าอักษรย่อ สํ.สฬ.18/377/261 คืออะไรนั้น คุณกรัชกายถามผิดครับ ที่ถูกควรจะเป็น สํ.สฬ. ย่อมาจาก (สุตันตปิฎก)สํยุตตนิกาย สฬายตนวรรค เล่มที่ 18/หน้าที่ 377/ข้อที่ 261

เป็นเหมือเลขเรียกหนังสือในห้องสมุดไงครับ

หาอะไรที่มีสาระมาถามหน่อยครับ คิดจะลองภูมิคุณโฮฮับ ยังใช้คำถามผิดเลย เรียงอักษรย่อกลับไปกลับมาวุ่นวายใน ว๊าาาาาาา

ขอฮาหลายๆทีนะเจ้าฆ๋ะ :b22:

.....................................................
สิ่งใดในโลกล้วน อนิจจัง คงแต่บาปบุญยัง เที่ยงแท้
คือเงาติดตัวตรัง ตรึงแน่ อยู่นา ตามแต่บุญบาปแล้ ก่อเกื้อ รักษา

รูปภาพ


แก้ไขล่าสุดโดย ปลงซะ เมื่อ 21 มี.ค. 2012, 09:29, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสต์ เมื่อ: 21 มี.ค. 2012, 09:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 14:17
โพสต์: 260

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
“ภิกษุทั้งหลาย เมื่อภิกษุมีสติ (คือปฏิบัติตามหลักสติปัฏฐาน 4) มีสัมปชัญญะ (คือ สร้างสัมปชัญญะ

ในการยืน เดิน นั่ง นอน กิน ดื่ม เป็นต้น) ไม่ประมาท มีความเพียร มีใจเด็ดเดียวอยู่อย่างนี้ ถ้าเกิดสุข

เวทนาขึ้น เธอก็รู้ชัดอย่างนี้ว่า “เวทนาที่เป็นสุขนี้ เกิดขึ้นแล้วแก่เรา ก็แลเวทนานั้นอาศัยปัจจัยจึงเกิดขึ้น

มิใช่ไม่อาศัยอะไรเลย อาศัยอะไร ก็อาศัยกายนี้เอง ก็กายนี้เป็นของไม่เที่ยง เป็นของปรุงแต่ง อาศัยเหตุ

เกิดขึ้น แล้วสุขเวทนาซึ่งเกิดขึ้นโดยอาศัยกายที่ไม่เที่ยง เป็นของปรุงแต่ง เป็นปฏิจจสมุปบันธรรมอยู่

แล้ว จักเป็นของเที่ยงได้แต่ที่ไหน เธอมองเห็นความเป็นสิ่งไม่เที่ยง ความเสื่อมสิ้นไป ความจางหาย

ความดับ ความสลัดออกไปทั้งในกายและในสุขเวทนาอยู่ เมื่อเธอมองเห็น..อยู่อย่างนี้ ราคานุสัยที่มีใน

กายและในสุขเวทนา ก็จะถูกละเสียได้

“เมื่อภิกษุมีสติ มีสัมปชัญญะ...อยู่อย่างนี้ ถ้าเกิดทุกขเวทนาขึ้น เธอก็รู้ชัด...ปฏิฆานุสัยที่มีในกายและ

ในทุกขเวทนา ก็จะถูกละเสียได้

“เมื่อภิกษุมีสติ มีสัมปชัญญะ...อยู่อย่างนี้ ถ้าเกิดอุเบกขาเวทนาขึ้น เธอก็รู้ชัด...อวิชชานุสัยที่มีในกาย

และในอทุกขมสุขเวทนา ก็จะถูกละเสียได้”

(สํ.สฬ.18/377/261)
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=33863&start=105&view=print


อีกอย่างนะ (สํ.สฬ.18/377/261) อันนี้ไม่ถูกต้องhttp://www.84000.org/tipitaka/read/?18/261/377
ที่ถูกควรจะเป็น (สฬ.สํ.18/261/337)http://www.84000.org/tipitaka/read/?18/377/261
หมายถึง สฬ.ส. เล่่มที่ 18/หน้าที่ 261/ข้อที่ 377

ต้องเอาเล่มที่ ขึ้นก่อน/ ตามด้วยเลขหน้า / ตามด้วย ข้อที่ /วรรคที่

ตามลำดับ ส่วนที่คุณกัดไกลกำลังทำอยู่น่ะมันผิด วางสลับที่ไปมา

ฮาฮ๊าฮา

.....................................................
สิ่งใดในโลกล้วน อนิจจัง คงแต่บาปบุญยัง เที่ยงแท้
คือเงาติดตัวตรัง ตรึงแน่ อยู่นา ตามแต่บุญบาปแล้ ก่อเกื้อ รักษา

รูปภาพ


โพสต์ เมื่อ: 21 มี.ค. 2012, 12:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปลงซะ เขียน:
กรัชกาย เขียน:


อีกอย่างนะ (สํ.สฬ.18/377/261) อันนี้ไม่ถูกต้องhttp://www.84000.org/tipitaka/read/?18/261/377
ที่ถูกควรจะเป็น (สฬ.สํ.18/261/337)http://www.84000.org/tipitaka/read/?18/377/261
หมายถึง สฬ.ส. เล่่มที่ 18/หน้าที่ 261/ข้อที่ 377

ต้องเอาเล่มที่ ขึ้นก่อน/ ตามด้วยเลขหน้า / ตามด้วย ข้อที่ /วรรคที่

ตามลำดับ ส่วนที่คุณกัดไกลกำลังทำอยู่น่ะมันผิด วางสลับที่ไปมา

ฮาฮ๊าฮา

:b9: :b32: :b12: :b13:

สหายปลงซะ แบบนี้ต้องบอกว่า "ดูมันทำ"(กรัชกาย)


โพสต์ เมื่อ: 21 มี.ค. 2012, 13:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สหายทั้ง 2 (ท่านปลง...กับ ท่านโฮ...) ไปทบทวนให้แน่นะขอรับ อย่าเพิ่งตื่นธรรม (อรรถกถาเรียกว่าวิปัสสนูปกิเลส) เอาให้ชัวร์ :b9: :b32:





ดวงดาววับวาวเคยเด่นพราวยังหล่น
เมฆลอยเบื้องบนยังตกลงสู่ดิน
หมู่มวลนกกามีปีกหลีกปืนของพรานโผบิน
ไม่วายร่วงดินลงตาย

ทะเลลึกมีมวลหมู่ปลามากอยู่
ทั่วบึงหนองคูมวลหมู่ปลามากมาย
ก็ยังมิวายโดนเบ็ดเด็ดชีวิตมันถึงตาย
ละม้ายคล้ายชีวิตคน
มืดมัวเด่นดีเพียงใด ร่ำรวยหรือเข็ญใจอับจน
ไม่มีวันพ้นความตาย สุดที่หมายเคียงกัน

เป็นคนทั้งทีควรให้มีประโยชน์
ชาติไทยของเราควรรุ่งโรจน์เท่าทัน
อย่ามัวระเริงความสุข ส่วนตัวเห็นเป็นสำคัญ
ชีวิตคนสั้นนิดเดียว.

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 107 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 3, 4, 5, 6, 7, 8  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร