วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 03:03  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 117 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5 ... 8  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ค. 2012, 19:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


sriariya เขียน:
ธรรมด๊า ธรรมดา

ไอ้ประโยค ธรรมด๊า ธรรมดา ของท่านจ่า แต่คุนน้องก็อยากเข้าสภาวะนั้นให้ได้เช่นกันตอนนั่งสมาธิ มันไม่ธรรมด๊า ธรรมดา สำหรับคุนน้องเลยเจ้าค่ะ onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ค. 2012, 20:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
sriariya เขียน:
ธรรมด๊า ธรรมดา

ไอ้ประโยค ธรรมด๊า ธรรมดา ของท่านจ่า แต่คุนน้องก็อยากเข้าสภาวะนั้นให้ได้เช่นกันตอนนั่งสมาธิ มันไม่ธรรมด๊า ธรรมดา สำหรับคุนน้องเลยเจ้าค่ะ onion


อ๋อ..อ่านแล้วไม่เข้าใจละซิ เอ้าอ่านอีกครั้ง แล้วใช้สมองสติปัญญาคิดพิจารณา ในทางที่ถูกที่ควร จะได้รู้และเข้าใจว่า คำว่า ธรรมด๊า ธรรมดา ที่ข้าพเจ้าเขียนหมายถึงอะไร
"อาการที่คุณเล่ามา ถ้าจะให้กล่าวอย่างเข้าใจง่ายและสั้นๆ เรียกว่า "หลับใน"ขอรับ ถ้าจะอธิบายให้ละเอียดอีกสักหน่อย ก็เกิดจาก ตอนก่อนที่คุณจะภาวนา หรือปฏิบัติสมาธิ คุณได้ทำงานที่ใช้สมองและกำลังกายไปตามสมควรของงานที่คุณกระทำ แต่งานที่คุณได้ทำไปก่อนที่จะมานั่งภาวนาหรือนั่งสมาธินั้น ทำให้สมองของคุณทำงานหนัก หรืออาจจะเกิดจากการที่ร่างกายและสมองของคุณได้ทำงานหนักสะสมกันมาหลายวัน เมื่อคุณมานั่งภาวนา หรือปฏิบัติสมาธิ ทั้งๆที่คุณควรจะนอนหลับพักผ่อน ก็ทำให้สมองบางส่วนบริเวณสมองส่วนกลางหยุดทำงาน ไม่ส่งคลื่นต่อไปยังสมองส่วนอื่นๆฯลฯ จึงทำให้เกิดอาการอย่างนั้น
ส่วนที่คุณบอกว่า ต่อมา พอมีสติปัญญาครบถ้วน จึงได้ตรวจเช็คตัวเอง พบว่าไม่มีลมหายใจในร่างกาย ขอถาม คุณฝันไปหรือเปล่าขอรับ การตรวจลมหายใจก็ย่อมตรวจตรงจมูก แสดงว่า คุณครึ่งหลับครึ่งตื่น ระบบประสาททำงานไม่เต็มร้อย จึงทำให้ไม่รู้สึกว่ามีลมหายใจ ก็เท่านั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย พอระบบประสาททำงานเต็มร้อย คุณก็สามารถรับความรู้สึกของลมหายใจ ธรรมด๊า ธรรมดา ขอรับ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ค. 2012, 20:35 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
ฝึกจิต เขียน:
มัชฌิมา ปฏิปทา เขียน:
เมื่อหลายปีก่อน ผมภาวนาอย่างต่อเนื่องโดยกำหนดพุทโธพร้อมกับดูลมหายใจเข้าออก ระหว่าภาวนารู้สึกร่างกายเบามากแต่ก็ไม่สนใจ บริกรรมต่อไป สักพักพุทโธ(คำบริกรรม)หายคิดยังไงก็คิดไม่ออก สิ่งที่เหลือคือลมหายใจที่ละเอียดมากเบาบางนุ่มละมุลละไม แล้วผมก็ภาวนาต่อไปโดยดูลมหายใจ สิ่งที่เกิดขึ้นคือลมหายใจละเอียดเข้าไปทุกทีจนสุดท้ายลมหายใจก็หายไป ไม่มีเลย คำบริกรรม,ลมหายใจ,และร่างกาย ในตอนนั้นก็หายไป เหลือแต่สติปัญญาที่เด่นดวงมาก แต่ผมก็ยังภาวนาต่อไปในสตินั้นยังมีความรู้หรือที่เรียกกันว่าวิญญาณอยู่ด้วย ผมจึงใช้สติปัญญาจ่อเข้าไปที่ความรู้ที่เด่นตรงนั้น ไม่นานความรู้(วิญญาณ)นั้นก็กระเด็นหายไปทันทีหายไปพร้อมกับสติปัญญา หมด .....ตอนหายหายไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้นานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่สติกระเพื่อมตัวออกมาเองคือความรู้(วิญญาณ)เกิด แต่มันนิ่งๆไม่คิดอะไร สักพักความคิดก็กระเพื่อมตัวออกมาเอง จึงได้มีความคิดสติปัญญาครบถ้วน จากนั้นจึงได้ตรวจเช็คตัวเองจึงพบว่าไม่มีลมหายใจไม่มีร่างกาย มีแต่ความรู้ที่เด่นจริงๆ และต่อมาไม่นานลมหายใจก็เริ่มปรากฏจากละเอียดแล้วค่อยๆเยอะขึ้นๆหยาบขึ้นๆและร่างกายก็ค่อยๆปรากฏตามมาๆ ....เรื่องก็มีประมาณนี้ มีใครพอทราบไหมครับว่าช่วงที่ความรู้ที่เด่นนั้นดับไปสติดับไปปัญญาดับไปช่วงนั้นคือสภาวะอะไร


สุดยอดเลยครับท่าน s005 ผมไม่เคยเจอสภาวะที่ว่า
..........แต่สติปัญญาที่เด่นดวงมาก มันเป็นยังไง ผมเคยแต่ มีแต่เห็นว่างๆเท่านั้น ที่เหลือไม่มี
..........ความรู้ที่เด่นตรงนั้น :รู้อะไรครับ งง งง แล้วเอาสติปัญญา หรือ ตาในครับที่ว่าจ่อเข้าไป
..........

ไม่ได้กวนนะครับ แต่ไม่เข้าใจสภาวะแบบนี้จริงๆ เลยถามเอาไว้ เป็นเกร็ดความรู้ลงในสัญญาหน่อย :b8:

ขอบคุณนะครับที่ตอบ

คุนน้องขอสอดตอบด้วยละกัน ถึงจะมีแต่ความว่าง แต่สติปัญญาเราไม่ได้ว่างกลวงไปกับสภาวะนั้น จิตเรายังแน่วแน่ รู้อยู่ นิ่งอยู่ อธิบายแค่นี้พอจะเข้าใจป่าวนะ และเราสามารถพิจารณา ขันธ์ 5ได้ในฌาน เพราะสติปัญญาก็ยังกำหนดรู้อยู่ :b44:

อ้างคำพูด:
ความรู้(วิญญาณ) :ท่านเห็นวิญญาณ ด้วยหรือครับ มันเป็นอย่างไร

ท่าน จขกท ไม่ได้เห็นวิญญาณ วิญญาณ คือ ตัวรู้ ท่านยังไม่เข้าใจอีกหรอว่า วิญญาณทำหน้าที่รู้ เมื่อจิตแยกออกจากวิญญาณ จะเอาอะไรไปรู้ เหลือแต่ จิต จะไปกำหนดรู้ได้ไง เข้าใจ จิต เจตสิก รูป นิพพานไหม :b10:

ที่คุณน้องว่า "เราสามารถพิจารณา ขันธ์ 5ได้ในฌาน เพราะสติปัญญาก็ยังกำหนดรู้อยู่"
คนที่รู้จักฌาน กล่าว :b8:
แล้วที่ท่านเขาเขียนแบบนี้ คือ อารายกันหนอ "ผมจึงใช้สติปัญญาจ่อเข้าไปที่ความรู้ที่เด่นตรงนั้น ไม่นานความรู้(วิญญาณ)นั้นก็กระเด็นหายไปทันทีหายไปพร้อมกับสติปัญญา" :b6:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ค. 2012, 20:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ฝึกจิต เขียน:
nongkong เขียน:
ฝึกจิต เขียน:
มัชฌิมา ปฏิปทา เขียน:
เมื่อหลายปีก่อน ผมภาวนาอย่างต่อเนื่องโดยกำหนดพุทโธพร้อมกับดูลมหายใจเข้าออก ระหว่าภาวนารู้สึกร่างกายเบามากแต่ก็ไม่สนใจ บริกรรมต่อไป สักพักพุทโธ(คำบริกรรม)หายคิดยังไงก็คิดไม่ออก สิ่งที่เหลือคือลมหายใจที่ละเอียดมากเบาบางนุ่มละมุลละไม แล้วผมก็ภาวนาต่อไปโดยดูลมหายใจ สิ่งที่เกิดขึ้นคือลมหายใจละเอียดเข้าไปทุกทีจนสุดท้ายลมหายใจก็หายไป ไม่มีเลย คำบริกรรม,ลมหายใจ,และร่างกาย ในตอนนั้นก็หายไป เหลือแต่สติปัญญาที่เด่นดวงมาก แต่ผมก็ยังภาวนาต่อไปในสตินั้นยังมีความรู้หรือที่เรียกกันว่าวิญญาณอยู่ด้วย ผมจึงใช้สติปัญญาจ่อเข้าไปที่ความรู้ที่เด่นตรงนั้น ไม่นานความรู้(วิญญาณ)นั้นก็กระเด็นหายไปทันทีหายไปพร้อมกับสติปัญญา หมด .....ตอนหายหายไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้นานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่สติกระเพื่อมตัวออกมาเองคือความรู้(วิญญาณ)เกิด แต่มันนิ่งๆไม่คิดอะไร สักพักความคิดก็กระเพื่อมตัวออกมาเอง จึงได้มีความคิดสติปัญญาครบถ้วน จากนั้นจึงได้ตรวจเช็คตัวเองจึงพบว่าไม่มีลมหายใจไม่มีร่างกาย มีแต่ความรู้ที่เด่นจริงๆ และต่อมาไม่นานลมหายใจก็เริ่มปรากฏจากละเอียดแล้วค่อยๆเยอะขึ้นๆหยาบขึ้นๆและร่างกายก็ค่อยๆปรากฏตามมาๆ ....เรื่องก็มีประมาณนี้ มีใครพอทราบไหมครับว่าช่วงที่ความรู้ที่เด่นนั้นดับไปสติดับไปปัญญาดับไปช่วงนั้นคือสภาวะอะไร


สุดยอดเลยครับท่าน s005 ผมไม่เคยเจอสภาวะที่ว่า
..........แต่สติปัญญาที่เด่นดวงมาก มันเป็นยังไง ผมเคยแต่ มีแต่เห็นว่างๆเท่านั้น ที่เหลือไม่มี
..........ความรู้ที่เด่นตรงนั้น :รู้อะไรครับ งง งง แล้วเอาสติปัญญา หรือ ตาในครับที่ว่าจ่อเข้าไป
..........

ไม่ได้กวนนะครับ แต่ไม่เข้าใจสภาวะแบบนี้จริงๆ เลยถามเอาไว้ เป็นเกร็ดความรู้ลงในสัญญาหน่อย :b8:

ขอบคุณนะครับที่ตอบ

คุนน้องขอสอดตอบด้วยละกัน ถึงจะมีแต่ความว่าง แต่สติปัญญาเราไม่ได้ว่างกลวงไปกับสภาวะนั้น จิตเรายังแน่วแน่ รู้อยู่ นิ่งอยู่ อธิบายแค่นี้พอจะเข้าใจป่าวนะ และเราสามารถพิจารณา ขันธ์ 5ได้ในฌาน เพราะสติปัญญาก็ยังกำหนดรู้อยู่ :b44:

อ้างคำพูด:
ความรู้(วิญญาณ) :ท่านเห็นวิญญาณ ด้วยหรือครับ มันเป็นอย่างไร

ท่าน จขกท ไม่ได้เห็นวิญญาณ วิญญาณ คือ ตัวรู้ ท่านยังไม่เข้าใจอีกหรอว่า วิญญาณทำหน้าที่รู้ เมื่อจิตแยกออกจากวิญญาณ จะเอาอะไรไปรู้ เหลือแต่ จิต จะไปกำหนดรู้ได้ไง เข้าใจ จิต เจตสิก รูป นิพพานไหม :b10:

ที่คุณน้องว่า "เราสามารถพิจารณา ขันธ์ 5ได้ในฌาน เพราะสติปัญญาก็ยังกำหนดรู้อยู่"
คนที่รู้จักฌาน กล่าว :b8:
แล้วที่ท่านเขาเขียนแบบนี้ คือ อารายกันหนอ "ผมจึงใช้สติปัญญาจ่อเข้าไปที่ความรู้ที่เด่นตรงนั้น ไม่นานความรู้(วิญญาณ)นั้นก็กระเด็นหายไปทันทีหายไปพร้อมกับสติปัญญา" :b6:

ตอบท่านฝึกจิต มันเป็นปัญหาที่ถกเถียงกัน เหมือนพระไตรปิฏกเรื่อง คนตาบอดคลำช้าง จำไม่ได้แล้วเจ้าค่ะขอประธานอภัย มันเป็นสภาวะที่เราต้องไปรู้เอง สัมผัสเอง เข้าใจเอง เมื่อเรามาอธิบายความให้คนอื่นฟังมันเลยเตลิดเปิดเปิง เพราะภูมิปัญญาแต่ละคนไม่เท่ากัน เลยเข้าใจไม่เหมือนกัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ค. 2012, 20:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


sriariya เขียน:
อ๋อ..อ่านแล้วไม่เข้าใจละซิ เอ้าอ่านอีกครั้ง แล้วใช้สมองสติปัญญาคิดพิจารณา ในทางที่ถูกที่ควร

:b24: :b2: :b2:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ค. 2012, 20:51 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
sriariya เขียน:
อ๋อ..อ่านแล้วไม่เข้าใจละซิ เอ้าอ่านอีกครั้ง แล้วใช้สมองสติปัญญาคิดพิจารณา ในทางที่ถูกที่ควร

:b24: :b2: :b2:

:b14:

:b32: :b32: :b32:

ท่านศรีใจร้าย

:b32: :b32: :b32:

โอ้ย...อดขำความน่ารักของคุณน้องไม่ได้

:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ค. 2012, 20:55 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 พ.ค. 2012, 19:48
โพสต์: 28


 ข้อมูลส่วนตัว


@คุณ sriariya ขอบคุณครับ

@คุณ nongkong สาธุครับ ขอให้เจริญในธรรมนะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ค. 2012, 20:58 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 พ.ค. 2012, 19:48
โพสต์: 28


 ข้อมูลส่วนตัว


จขกท คืออะไรครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ค. 2012, 21:05 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


มัชฌิมา ปฏิปทา เขียน:
จขกท คืออะไรครับ


เจ้าของกระทู้

:b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ค. 2012, 21:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 พ.ค. 2012, 19:48
โพสต์: 28


 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
มัชฌิมา ปฏิปทา เขียน:
จขกท คืออะไรครับ


เจ้าของกระทู้

:b1:

ขอบคุณครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ค. 2012, 22:03 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ไหน ๆ ก็จะย่อ...ทำไมไม่เขียนอย่างนี้ละเน๊าะ... s006

จ.ข.ก.ท

หรือ...จ.ท
:b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ค. 2012, 22:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


sriariya เขียน:
อาการที่คุณเล่ามา ถ้าจะให้กล่าวอย่างเข้าใจง่ายและสั้นๆ เรียกว่า "หลับใน"ขอรับ ถ....



ที่คุณศรี..พูด...ตรงนี้ต้องคิดนะครับ...

ไม่ใช่..ไม่ชอบคุณศรีฯ..แล้ว...อะไร ๆ ก็ไม่ฟัง..ไม่ดูไม่เอามาคิด...

ไม่ถูกนะ...

มัชฌิมา ปฏิปทา เขียน:
ไม่มีเลย คำบริกรรม,ลมหายใจ,และร่างกาย ในตอนนั้นก็หายไป เหลือแต่สติปัญญาที่เด่นดวงมาก แต่ผมก็ยังภาวนาต่อไปในสตินั้นยังมีความรู้หรือที่เรียกกันว่าวิญญาณอยู่ด้วย ผมจึงใช้สติปัญญาจ่อเข้าไปที่ความรู้ที่เด่นตรงนั้น ไม่นานความรู้(วิญญาณ)นั้นก็กระเด็นหายไปทันทีหายไปพร้อมกับสติปัญญา หมด .....ตอนหายหายไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้นานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่สติกระเพื่อมตัวออกมาเองคือความรู้(วิญญาณ)เกิด แต่มันนิ่งๆไม่คิดอะไร สักพักความคิดก็กระเพื่อมตัวออกมาเอง .....



ผู้ที่อยู่ในสมาธิหรือ ฌาน 4 ....ผู้รู้...ผู้ตื่น..ผู้เบิกบาน....มันจะมีนะ...ไม่งั้นเขาไม่ติดสมาธิกันหรอก

จุดมันจึงอยู่ตรงนี้นั้นแหละ...

ไม่นานความรู้(วิญญาณ)นั้นก็กระเด็นหายไปทันทีหายไปพร้อมกับสติปัญญา หมด .....ตอนหายหายไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้นานเท่าไหร่ก็ไม่รู้

บางคนเขาใช้คำสวย ๆ ว่า...ตกภวังค์
ส่วนตัวชอบใช้คำว่า..หลับใน...มันกระแทกใจดี

คือมันยังไม่พ้นนิวรณ์...ตัวถีนมิทถะ

ส่วนที่ว่า...คำบริกรรมหายไป...ลมหายใจหายไป...ร่างกายไม่มีเลย....

ความรู้สึกนี้ก็ให้ระวัง...มันอาจจะเป็นไปเอง...หรือว่าเรารู้มาก่อนว่า..อาการเข้าสมาธิมันต้องมีอาการอย่างนี้...อย่างนี้....จิตเกาะความอยากปั๊ป...มันก็จัดอาการนั้นให้เราทันที

จิตนี้มหัศจรรย์อย่างร้ายกาจ...นัก

ทำต่อ...ทำไปเรื่อย ๆ...มีครูบาอาจารย์ที่ดีเดี่ยวก็ข้ามไปได้...

ตกหลุม...ก็ต้องขึ้นจากหลุ่ม...พวกที่ไม่ตกหลุ่มเลย..คือ..พวกที่ไม่เดิน

ขอให้เจริญในธรรม..ยิ่ง ๆ ขึ้นไป..นะครับ :b8:
.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ค. 2012, 23:03 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 พ.ค. 2012, 19:48
โพสต์: 28


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณที่commentนะครับ อาการหลับในเวลานั่งสมาธิอย่างที่คุณsriariyaบอกมาผมก็เคยเป็นตอนเริ่มฝึกใหม่ๆผมเคยเป็นผมเลยเข้าใจและทราบดี แต่มันคนละอย่างกันกับที่ผมตั้งกระทู้ไว้นะครับ....แต่ยังไงก็ยังต้องขอบคุณกับcommentครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ค. 2012, 23:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณน้องก็ไม่เคยเข้าฌาน 4ได้ก็เลยไม่รู้ว่าสภาวะเป็นเช่นไร อาการตกภวังค์หรือ หลับใน ก็ควรจะพิจารณาเจ้าค่ะ เพราะตอนคุนน้องนั่งสมาธิ เคยรู้สึกตกภวังค์แล้วดึงสมาธิกลับเข้ามาอยู่ในฌานเหมือนเดิม คือมันเป็นแบบว่า เราอยู่ใน อุปจรสมาธิ หรือฌาน1 เกิดปิติผสมกับเอกัตคา(พิมถูกป่าว) คือร่างกายโยกไปมาเบาๆ แล้วก็หยุด เกิดความรู้สึกตัวเบาเหมือนปุยนุ่น สลับกันอยู่แบบนี้ แต่อยู่ๆก็วูบสับพะหงกแต่ก็เกิดปิติผสมกับเอกัตคาอยู่ แล้วก็วูบเข้าภวังค์สับพะหงกแต่ก็ยังนิ่งรู้อยู่ เป็นแบบนี้แหละเจ้าค่ะ จขกท เคยมีอาการแบบดิฉันรึป่าวเจ้าค่ะ :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ค. 2012, 23:32 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 พ.ค. 2012, 19:48
โพสต์: 28


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
คุณน้องก็ไม่เคยเข้าฌาน 4ได้ก็เลยไม่รู้ว่าสภาวะเป็นเช่นไร อาการตกภวังค์หรือ หลับใน ก็ควรจะพิจารณาเจ้าค่ะ เพราะตอนคุนน้องนั่งสมาธิ เคยรู้สึกตกภวังค์แล้วดึงสมาธิกลับเข้ามาอยู่ในฌานเหมือนเดิม คือมันเป็นแบบว่า เราอยู่ใน อุปจรสมาธิ หรือฌาน1 เกิดปิติผสมกับเอกัตคา(พิมถูกป่าว) คือร่างกายโยกไปมาเบาๆ แล้วก็หยุด เกิดความรู้สึกตัวเบาเหมือนปุยนุ่น สลับกันอยู่แบบนี้ แต่อยู่ๆก็วูบสับพะหงกแต่ก็เกิดปิติผสมกับเอกัตคาอยู่ แล้วก็วูบเข้าภวังค์สับพะหงกแต่ก็ยังนิ่งรู้อยู่ เป็นแบบนี้แหละเจ้าค่ะ จขกท เคยมีอาการแบบดิฉันรึป่าวเจ้าค่ะ :b1:

เคยครับ อาการที่พูดมาเคยเป็นมาหมดแทบทุกอาการ สุดท้ายก็พิจารณาได้ว่า จะต้องมีสติให้มากๆใส่ใจกับงานของตนคือจดจ่อกับคำบริกรรมหรือลมหายใจไม่ให้ขาดสายไม่ให้เผลอไม่ให้หลับไม่ไปสนใจกับอาการที่เกิดขึ้น แล้วมันจึงจะก้าวต่อไปครับ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 117 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5 ... 8  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร