วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 20:38  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 161 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10, 11  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มิ.ย. 2012, 11:18 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
(ต่อครับ)
ตามอย่างพระโมคคัลลาและพระสารีบุตร
ท่านอุปติสสะปริพาชก ได้ฟังคำสรุปของพระอัสชิว่า
“ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ พระตถาคตทรงแสดงเหตุนั้นและวิธีดับเหตุนั้น นี่คือพระวาจาของพระมหาสมณะเจ้า”

“ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ” ได้ยินแค่สัจธรรมสั้นๆข้อนี้ หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นในใจของท่านอุปติสสะ จนทำให้ละความเห็นผิดบรรลุธรรมเป็นโสดาบัน ต่อจากนั้นทันที นี่ก็น่าวิเคราะห์วิจัยเพื่อจะได้เป็นตัวอย่างวิธีปฏิบัติธรรมโดยธรรมชาติ

:b8:

ไหน..ๆ..อโสกะก็ได้เล่าถึงตอนบรรลุถึงความเป็นโสดาบันแล้ว...ก็เล่าต่อให้ถึงตอนบรรลุอรหันตผล..ด้วยนะ..

จะได้รู้ว่า...ท่านต้องฝ่าด่านอะไรบ้าง...
:b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มิ.ย. 2012, 15:19 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
(ต่อครับ)
ตามอย่างพระโมคคัลลาและพระสารีบุตร
ท่านอุปติสสะปริพาชก ได้ฟังคำสรุปของพระอัสชิว่า
“ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ พระตถาคตทรงแสดงเหตุนั้นและวิธีดับเหตุนั้น นี่คือพระวาจาของพระมหาสมณะเจ้า”

“ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ” ได้ยินแค่สัจธรรมสั้นๆข้อนี้ หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นในใจของท่านอุปติสสะ จนทำให้ละความเห็นผิดบรรลุธรรมเป็นโสดาบัน ต่อจากนั้นทันที นี่ก็น่าวิเคราะห์วิจัยเพื่อจะได้เป็นตัวอย่างวิธีปฏิบัติธรรมโดยธรรมชาติ

:b8:

ไหน..ๆ..อโสกะก็ได้เล่าถึงตอนบรรลุถึงความเป็นโสดาบันแล้ว...ก็เล่าต่อให้ถึงตอนบรรลุอรหันตผล..ด้วยนะ..

จะได้รู้ว่า...ท่านต้องฝ่าด่านอะไรบ้าง...
:b16: :b16:

:b12: :b12: :b12:
ด่านแรก คือด่าน การใช้บัญญัติและตีความจากบัญญัติหรือปริยัติให้ถูกต้องตามอรรถะและธรรม ก่อนนะครับคุณกบ
onion
ตัวอย่างเช่นคุณกบใช้คำว่า ..."อรหันตผล" ....อยู่บ่อยๆ ผมพอทราบว่าคุณไปเอาอย่างพ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านใด เราคงไม่ควรไปวิตกวิจารณ์ท่านหรอกนะครับ....
แต่เพื่อความสบายไม่ขัดใจผู้คนทั้งหลาย น่าจะได้ใช้ให้ถูกต้องตามมบาลีว่า
..."อรหัตผล" ดังนี้เป็นต้น
วิเคราะห์การบรรลุธรรมของท่าอุปติสสะหรือพระสารีบุตรกันดูก่อนนะครับ โปรดติดตามตอนต่อไป :b16: Kiss


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มิ.ย. 2012, 19:33 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:

ด่านแรก คือด่าน การใช้บัญญัติและตีความจากบัญญัติหรือปริยัติให้ถูกต้องตามอรรถะและธรรม ก่อนนะครับคุณกบ
onion
ตัวอย่างเช่นคุณกบใช้คำว่า ..."อรหันตผล" ....อยู่บ่อยๆ ผมพอทราบว่าคุณไปเอาอย่างพ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านใด เราคงไม่ควรไปวิตกวิจารณ์ท่านหรอกนะครับ....
แต่เพื่อความสบายไม่ขัดใจผู้คนทั้งหลาย น่าจะได้ใช้ให้ถูกต้องตามมบาลีว่า
..."อรหัตผล" ดังนี้เป็นต้น

:b16: Kiss


ผมเขียนผิด...ก็บอกผมดี..ดี..ก็ได้..

ไม่เห็นความจำเป็นอะไรที่อโสกะจะไปกระทบกระเทียบถึงครูบาอาจารย์..ของผมเลยนิ... huh huh


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มิ.ย. 2012, 21:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:

ด่านแรก คือด่าน การใช้บัญญัติและตีความจากบัญญัติหรือปริยัติให้ถูกต้องตามอรรถะและธรรม ก่อนนะครับคุณกบ
onion
ตัวอย่างเช่นคุณกบใช้คำว่า ..."อรหันตผล" ....อยู่บ่อยๆ ผมพอทราบว่าคุณไปเอาอย่างพ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านใด เราคงไม่ควรไปวิตกวิจารณ์ท่านหรอกนะครับ....
แต่เพื่อความสบายไม่ขัดใจผู้คนทั้งหลาย น่าจะได้ใช้ให้ถูกต้องตามมบาลีว่า
..."อรหัตผล" ดังนี้เป็นต้น

:b16: Kiss


ผมเขียนผิด...ก็บอกผมดี..ดี..ก็ได้..

ไม่เห็นความจำเป็นอะไรที่อโสกะจะไปกระทบกระเทียบถึงครูบาอาจารย์..ของผมเลยนิ... huh huh

นี่แหละนิสัยอโสกะ ประชดประชันคนอื่นไม่เกรงใจ แต่พอเจอสวนคืนกลับหาว่าเราทำตัวไม่น่ารัก เป็นอย่างที่คุนน้องว่ามั้ยละ อโสกะงี่เง่าเต่าตุ่น :b34:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มิ.ย. 2012, 22:05 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
วิเคราะห์การบรรลุธรรมของท่าอุปติสสะหรือพระสารีบุตรกันดูก่อนนะครับ โปรดติดตามตอนต่อไป :b16: Kiss


:b1:

ท่านวิเคราะห์พระสารีบุตร กับพระอุปติสสะ

แล้ว พระสารีบุตร กับพระอุปติสสะ วิเคราะห์อะไร

:b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2012, 05:35 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


(ฟังต่อกันนะครับ)
ตามอย่างพระโมคคัลลาและพระสารีบุตร
ท่านอุปติสสะปริพาชก ได้ฟังคำสรุปของพระอัสชิว่า
“ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ พระตถาคตทรงแสดงเหตุนั้นและวิธีดับเหตุนั้น นี่คือพระวาจาของพระมหาสมณะเจ้า”
“ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ” ได้ยินแค่สัจธรรมสั้นๆข้อนี้ หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นในใจของท่านอุปติสสะ จนทำให้ละความเห็นผิดบรรลุธรรมเป็นโสดาบัน ต่อจากนั้นทันที นี่ก็น่าวิเคราะห์วิจัยเพื่อจะได้เป็นตัวอย่างวิธีปฏิบัติธรรมโดยธรรมชาติ
:b42:
การบรรลุธรรมของอัครสาวก มหาสาวก กับการบรรลุธรรมของปกติสาวกนั้นมีความแตกต่างกันในขั้นตอนของการดับสลายของสังโยชน์ หลวงปู่ครูบา เคยเล่าให้ฟังว่า อัครสาวก คือพระโมคคัลลาและพระสารีบุตรและพระมหาสาวก คือพระสาวกที่มีชื่อเสียงปรากฏอยู่ในพระสูตรในครั้งพุทธกาลอย่างเช่น พระอานนท์ พระพาหิยะ พระมหากัสสปะ พระองคุลีมาลเป็นต้น ท่านเหล่านี้ เมื่อพิจารณาธรรมจนถึงที่สุดแล้ว
“วิจิกิจฉา” ความลังเลสงสัย ในพระพุทธพระธรรม จะดับไปก่อน ด้วยศรัทธาอันแรงกล้าที่มีต่อพระพุทธเจ้า แล้ว “สักกายทิฏฐิ” จึงดับตามมา เกิดโสดาปัตติมรรค เข้าถึงโสดาปัตติผล หลังจากนั้นเมื่อทำความเพียรหรือเจริญปัญญาต่อไปอีก มรรคอีกสามมรรคคือ สกิทาคามีมรรค อนาคามีมรรค อรหัตมรรคจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นครั้ง ที่ 2 สรุปคือ พระอัครสาวกกับพระมหาสาวก อริยมรรค 4 มรรคจะเกิดขึ้นเป็น 2 ตอน คือบรรลุโสดาปัตติมรรคก่อน เป็นครั้งแรก แล้วบรรลุอีกสามมรรคพร้อมๆกันเป็นครั้งที่ 2
:b42:
ส่วนปกติสาวกได้แก่พระอรหันต์เจ้าองค์อื่นๆที่ไม่มีชื่อกล่าวไว้ รวมถึงเราท่านทั้งหลายในปัจจุบันนี้ การบรรลุธรรมจะเกิดขึ้นเป็นลำดับเป็นครั้งๆไปรวม 4 ครั้ง ช้าหรือเร็ว ห่างหรือถี่นั้นขึ้นอยู่กับ สติ ปัญญา บารมี ที่แต่ละท่านแต่ละองค์ได้กระทำมา บางองค์บางท่านบรรลุโสดาบันก่อนหลายปี แล้วจึงค่อยมาบรรลุสกิทาคา อนาคา และอรหันต์ บางองค์บางท่านก็เป็นเพียงแค่พระโสดาบันในชาตินี้แล้วรอไปบรรลุธรรมที่เหลือในชั้นสวรรค์หรือชั้นพรหม
:b42:
สำหรับท่านโมคคัลลาและสารีบุตร อัครสาวกฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวาถ้าเรามาพิจารณาตามธรรม ตามกฎของ เหตุและผล การบรรลุโสดาบันของท่านน่าจะเกิดขึ้นจากการที่หลังจากได้ฟังคำพูดของท่านอัสชิและแม้คำพูดที่ท่านอุปติสสะนำไปถ่ายทอดต่อท่านโกลิตตะ เป็นธรรมะชั้นยอดเป็นสรุปธรรมว่า “เยธัมมา เหตุปัปภวา.......... .ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ....”ดังกล่าวข้างต้นแล้ว [color=#FF0000]ท่านทั้งสองได้ใช้ปัญญาน้อมพิจารณาตามด้วยเหตุและผล ได้เห็นจริงเกิดศรัทธาอันแรงกล้าต่อพระพุทธเจ้าจนเป็นเหตุส่งให้ “วิจิกิจฉา”ดับลงทันที สักกายทิฏฐิก็ดับตามพลัน ผลที่เหลือนั้นก็เป็นไปตามลำดับแห่งธรรม[/color]
:b8: :b27:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2012, 05:45 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
asoka เขียน:
วิเคราะห์การบรรลุธรรมของท่าอุปติสสะหรือพระสารีบุตรกันดูก่อนนะครับ โปรดติดตามตอนต่อไป :b16: Kiss


:b1:

ท่านวิเคราะห์พระสารีบุตร กับพระอุปติสสะ

แล้ว พระสารีบุตร กับพระอุปติสสะ วิเคราะห์อะไร

:b16:

:b12: :b12:
ง่ายจะตายครับท่านเอก้อน
"ก็วิเคราะห์ธรรมตามหลักหรือกฎของเหตุและผล โดยใช้ ปัญญา สติ สมาธิ ช่วยกัน ไงครับ"
:b16: :b16:
ต่อมาภายหลังผลแห่งการวิเคราะห์ธรรมของท่านทั้ง 2 หรือที่สำคัญที่คือการวิเคราะห์ธรรมของพระพุทธเจ้า ก็จึงเอามาสรุปลงใน อริยสัจทั้ง 4 ประการ อันเป็นกฎของเหตุและผล เน้นปฏิบัติการลงในเรื่องของมรรคสัจจะทั้ง 8 ข้อ บันทึกไว้ในคัมภีร์พระสูตรดังที่เราท่านทั้งหลายได้ศึกษาและยึดมั่นกันถกเถียงกันไม่เว้นแต่ละวันในปริยัติ บัญญัติ จนลืมปฐมเหตุที่จะเกิดบัญญัติหรือปริยัติเหล่านี้ ว่ามีที่มาและที่เกิดอย่างไร?
onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2012, 05:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:

ด่านแรก คือด่าน การใช้บัญญัติและตีความจากบัญญัติหรือปริยัติให้ถูกต้องตามอรรถะและธรรม ก่อนนะครับคุณกบ
onion
ตัวอย่างเช่นคุณกบใช้คำว่า ..."อรหันตผล" ....อยู่บ่อยๆ ผมพอทราบว่าคุณไปเอาอย่างพ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านใด เราคงไม่ควรไปวิตกวิจารณ์ท่านหรอกนะครับ....
แต่เพื่อความสบายไม่ขัดใจผู้คนทั้งหลาย น่าจะได้ใช้ให้ถูกต้องตามมบาลีว่า
..."อรหัตผล" ดังนี้เป็นต้น

:b16: Kiss


ผมเขียนผิด...ก็บอกผมดี..ดี..ก็ได้..

ไม่เห็นความจำเป็นอะไรที่อโสกะจะไปกระทบกระเทียบถึงครูบาอาจารย์..ของผมเลยนิ... huh huh

:b12: :b12: :b12:
[color=#FF0000]"เราคงไม่ควรไปวิตกวิจารณ์ท่านหรอกนะครับ...."[/color]
:b8:
รู้แล้วว่าคุณกบจะต้องกระเทือนใจ แต่เมื่อใช้คำพูดนี้มาระงับความสะเทือนใจของคุณกบไว้ล่วงหน้ายังไม่วาย........
b5:
สำหรับคุณกบสมาชิกผู้ไร้ระดับ การบอกว่าเขียนผิด เฉยๆ คงไม่ทำให้ต้องคิดพิจารณา ผมเลยว่ามายาวไปนิดเพื่อสะกิดสะเกากันในฐานะกัลยามิตรที่ใกล้ชิดกันมานานนะครับ ขออภัยและขออโหสิกรรมด้วยนะครับ
ถ้าทำให้ขุ่นข้องหมองใจ(ปฏิฆะ)

:b8: :b8:
:b31: :b31: :b31:
:b4: :b4: :b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2012, 06:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b31:
nongkong เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:

ด่านแรก คือด่าน การใช้บัญญัติและตีความจากบัญญัติหรือปริยัติให้ถูกต้องตามอรรถะและธรรม ก่อนนะครับคุณกบ
onion
ตัวอย่างเช่นคุณกบใช้คำว่า ..."อรหันตผล" ....อยู่บ่อยๆ ผมพอทราบว่าคุณไปเอาอย่างพ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านใด เราคงไม่ควรไปวิตกวิจารณ์ท่านหรอกนะครับ....
แต่เพื่อความสบายไม่ขัดใจผู้คนทั้งหลาย น่าจะได้ใช้ให้ถูกต้องตามมบาลีว่า
..."อรหัตผล" ดังนี้เป็นต้น

:b16: Kiss


ผมเขียนผิด...ก็บอกผมดี..ดี..ก็ได้..

ไม่เห็นความจำเป็นอะไรที่อโสกะจะไปกระทบกระเทียบถึงครูบาอาจารย์..ของผมเลยนิ... huh huh

นี่แหละนิสัยอโสกะ ประชดประชันคนอื่นไม่เกรงใจ แต่พอเจอสวนคืนกลับหาว่าเราทำตัวไม่น่ารัก เป็นอย่างที่คุนน้องว่ามั้ยละ อโสกะงี่เง่าเต่าตุ่น :b34:

:b12: :b12: :b12:
"นี่แหละนิสัยอโสกะ ประชดประชันคนอื่นไม่เกรงใจ แต่พอเจอสวนคืนกลับหาว่าเราทำตัวไม่น่ารัก เป็นอย่างที่คุนน้องว่ามั้ยละ"
:b39:
ข้อความท่อนนี้พอฟังได้ แต่ก็เป็นการเพ่งโทษผู้อื่นอยู่.....มิใช่การตักเตือนโดยธรรมนะครับ
:b16: :b16:
อโสกะงี่เง่าเต่าตุ่น
Onion_L
ส่วนข้อความนี้ยังเป็นผรุสวาจา มิจฉาวาจาอยู่ไม่ควรใช้ในที่สาธารณะ จะลดค่าของตนลงไปโดยไม่รู้ตัวนะจ๊ะ
:b31: :b31:
:b4: :b4: :b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2012, 11:48 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
eragon_joe เขียน:
asoka เขียน:
วิเคราะห์การบรรลุธรรมของท่าอุปติสสะหรือพระสารีบุตรกันดูก่อนนะครับ โปรดติดตามตอนต่อไป :b16: Kiss


:b1:

ท่านวิเคราะห์พระสารีบุตร กับพระอุปติสสะ

แล้ว พระสารีบุตร กับพระอุปติสสะ วิเคราะห์อะไร

:b16:

:b12: :b12:
ง่ายจะตายครับท่านเอก้อน
"ก็วิเคราะห์ธรรมตามหลักหรือกฎของเหตุและผล โดยใช้ ปัญญา สติ สมาธิ ช่วยกัน ไงครับ"
:b16: :b16:
onion onion

อืม..ท่านอโศกะวิเคราะห์จน...ศีล...ไปซะแล้วเรย เห็นมั๊ย

:b1:

เอกอนว่าท่านทั้งสองไม่มัวมานั่งทำวิเคราะห์ให้มากหรอก

:b1:

สิ่งที่ไม่รู้ เพราะสิ่งนั้นยังไม่ปรากฎ
แต่เมื่อท่านทำจนสิ่งนั้นปรากฎ ท่านก็รู้...จบ...

:b1:

เอกอนว่าท่านรู้เพราะท่านทำจนธรรมนั้นปรากฎ
ไม่ได้รู้เพราะวิเคราะห์
ไม่ได้บรรลุเพราะมัวมานั่งวิเคราะห์

:b1:

เพราะถึงจะวิเคราะห์ไป สุดท้ายแล้วในที่สุด
สภาวะธรรมที่ปรากฎ ก็เป็นคนละสิ่งกับสิ่งที่วิเคราะห์

เพราะรู้ว่ามันเป็นเช่นนั้น จึงวางการวิเคราะห์ทุกอย่างไป
ให้เหลือแต่ รู้กับสภาวะธรรม โดดโดด

:b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2012, 22:16 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:

:b12: :b12: :b12:
[color=#FF0000]"เราคงไม่ควรไปวิตกวิจารณ์ท่านหรอกนะครับ...."[/color]
:b8:
รู้แล้วว่าคุณกบจะต้องกระเทือนใจ แต่เมื่อใช้คำพูดนี้มาระงับความสะเทือนใจของคุณกบไว้ล่วงหน้ายังไม่วาย........
b5:
สำหรับคุณกบสมาชิกผู้ไร้ระดับ การบอกว่าเขียนผิด เฉยๆ คงไม่ทำให้ต้องคิดพิจารณา ผมเลยว่ามายาวไปนิดเพื่อสะกิดสะเกากันในฐานะกัลยามิตรที่ใกล้ชิดกันมานานนะครับ ขออภัยและขออโหสิกรรมด้วยนะครับ
ถ้าทำให้ขุ่นข้องหมองใจ(ปฏิฆะ)

:b8: :b8:
:b31: :b31: :b31:
:b4: :b4: :b4: :b4:


เศร้าใจเพียงว่า..ปัญญาเขามีแค่นี้...เองเน๊าะ...น่าสงสารแท้ :b6: :b6: :b6:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2012, 06:44 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


onion onion
:b12: :b12: :b12:
eragon_joe...........

ท่านวิเคราะห์พระสารีบุตร กับพระอุปติสสะ

แล้ว พระสารีบุตร กับพระอุปติสสะ วิเคราะห์อะไร




ง่ายจะตายครับท่านเอก้อน
"ก็วิเคราะห์ธรรมตามหลักหรือกฎของเหตุและผล โดยใช้ ปัญญา สติ สมาธิ ช่วยกัน ไงครับ"


อืม..ท่านอโศกะวิเคราะห์จน...ศีล...ไปซะแล้วเรย เห็นมั๊ย
:b42:
asoka......คุณเอก้อน ท่องศีล สอบศีลเสียจนเคย จนลืมไปว่า ศีล เมื่อลงใจแล้ว ก็คือ สติ หรือสัมมาสตินั่นเองใช่หรือเปล่าครับ? แล้วตอนที่ สติปัญญาโรมรันพันตูกับปัญหา คือสังเกตพิจารณาบัญญัติธรรมและสภาวธรรมอยู่นั้น ศีลเขาเป็นบาทฐานรองรับอยู่แล้วโดยธรรม บุคคลที่จะมีโอกาสได้ฟังธรรม พิจารณาวิเคราะห์วิจัยธรรมได้นั้น ฐานแห่งศีลเขาเพียงพอแล้วจึงจะมาถึงจุดนี้ได้ จึงไม่พึงกังวลเรื่องศีลจนกลายเป็นพรต จะทำให้ข้องค้างนะครับ


เอกอนว่าท่านทั้งสองไม่มัวมานั่งทำวิเคราะห์ให้มากหรอก
:b6: :b6:
asoka....
ไม่จริงมั้งครับ เพราะมันผิดธรรมชาติของมนุษย์ผู้มีปัญญาดีนะครับที่จะไม่พิจารณา วิตกวิจารณ์ วินิจฉัย สิ่งที่เพิ่งได้ยินได้เห็น ได้รู้มาใหม่ๆ......



สิ่งที่ไม่รู้ เพราะสิ่งนั้นยังไม่ปรากฎ
แต่เมื่อท่านทำจนสิ่งนั้นปรากฎ ท่านก็รู้...จบ...
:b43:
คุณเอก้อนจินตนาการเป็นไหมครับ? ลองนึกภาพดูซิว่า เมื่อท่านอุปติสสะ ได้รับคำตอบจากท่นพระอัสชิแล้ว ตามธรรมดาของมนุษย์ ตามหลักของเหตุและผล ท่านอุปติสสะจะพึงทำอะไร อย่างไรบ้าง จนทำให้เกิดความ โพล่ง... หรือ ว้าป ...... หรือ ปิ้ง ขึ้นมาตัดทำลาย วิจิกิจฉาและสักกายทิฏฐิขาดสะบั้นไป
ท่านโมคคัลลานะก็เช่นกัน หลังจากได้รับการถ่ายทอดข้อความ จากท่านอุปติสสะ แล้วท่านจะพึงทำอะไร อย่างไรบ้าง จนทำให้เกิดความ โพล่ง... หรือ ว้าป ...... หรือ ปิ้ง ขึ้นมาตัดทำลาย วิจิกิจฉาและสักกายทิฏฐิขาดสะบั้นไป?
:b10:
แล้ว "สิ่งนั้น" กับ "ทำจนสิ่งนั้นปรากฎ" ที่คุณเอก้อนว่านั้นขยายความให้ฟังอีกสักนิดได้บ่?
:b10:

เอกอนว่าท่านรู้เพราะท่านทำจนธรรมนั้นปรากฎ
ไม่ได้รู้เพราะวิเคราะห์
ไม่ได้บรรลุเพราะมัวมานั่งวิเคราะห์
:b10:
asoka......
ท่านทำจนธรรมนั้นปรากฎ
ทำ ......อย่างไร?
ธรรมนั้น........คืออะไร?

:b16:
เพราะถึงจะวิเคราะห์ไป สุดท้ายแล้วในที่สุด
สภาวะธรรมที่ปรากฎ ก็เป็นคนละสิ่งกับสิ่งที่วิเคราะห์

เพราะรู้ว่ามันเป็นเช่นนั้น จึงวางการวิเคราะห์ทุกอย่างไป
ให้เหลือแต่ รู้กับสภาวะธรรม โดดโดด
:b27:
asoka.......
ความท่อนนี้พอฟังได้ที่......ให้เหลือแต่ รู้กับสภาวะธรรม โดดโดด..แต่ไม่มีที่มาที่ไป......
:b41:
ในความเป็นจริง เมื่อท่านอุปติสสะและท่านโกลิตตะ ได้ฟังข้อธรรมเรื่อง ...เยธัมมา......แล้ว
ตามธรมชาติและโดยธรรม ท่านนิ่งรู้อยู่กับสภาวธรรมเลยทันทีหรือครับ แล้วท่านจะนิ่งรู้อยู่กับสภาวธรรมอะไร? ถ้าเราจะคิดพิจารณาดูด้วยหลักของเหตุและผล

:b10: cool
มาวิเคราะห์และสนทนากันดูนะครับ......น่าจะมีประโยชน์.....
:b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2012, 06:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:

:b12: :b12: :b12:
[color=#FF0000]"เราคงไม่ควรไปวิตกวิจารณ์ท่านหรอกนะครับ...."[/color]
:b8:
รู้แล้วว่าคุณกบจะต้องกระเทือนใจ แต่เมื่อใช้คำพูดนี้มาระงับความสะเทือนใจของคุณกบไว้ล่วงหน้ายังไม่วาย........
b5:
สำหรับคุณกบสมาชิกผู้ไร้ระดับ การบอกว่าเขียนผิด เฉยๆ คงไม่ทำให้ต้องคิดพิจารณา ผมเลยว่ามายาวไปนิดเพื่อสะกิดสะเกากันในฐานะกัลยามิตรที่ใกล้ชิดกันมานานนะครับ ขออภัยและขออโหสิกรรมด้วยนะครับ
ถ้าทำให้ขุ่นข้องหมองใจ(ปฏิฆะ)

:b8: :b8:
:b31: :b31: :b31:
:b4: :b4: :b4: :b4:


เศร้าใจเพียงว่า..ปัญญาเขามีแค่นี้...เองเน๊าะ...น่าสงสารแท้ :b6: :b6: :b6:

:b12: rolleyes
"ถี่ลอดตาช้าง ห่างลอดตาเล็น"
:b12: :b12: :b12: :b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2012, 09:27 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b10: cool
มาวิเคราะห์และสนทนากันดูนะครับ......น่าจะมีประโยชน์.....
:b8: :b8:

eragon_joe เขียน:
เพราะถึงจะวิเคราะห์ไป สุดท้ายแล้วในที่สุด
สภาวะธรรมที่ปรากฎ ก็เป็นคนละสิ่งกับสิ่งที่วิเคราะห์

เพราะรู้ว่ามันเป็นเช่นนั้น จึงวางการวิเคราะห์ทุกอย่างไป
ให้เหลือแต่ รู้กับสภาวะธรรม โดดโดด


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2012, 09:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
onion onion

asoka.......
ความท่อนนี้พอฟังได้ที่......ให้เหลือแต่ รู้กับสภาวะธรรม โดดโดด..แต่ไม่มีที่มาที่ไป......
:b41:
ในความเป็นจริง เมื่อท่านอุปติสสะและท่านโกลิตตะ ได้ฟังข้อธรรมเรื่อง ...เยธัมมา......แล้ว
ตามธรมชาติและโดยธรรม ท่านนิ่งรู้อยู่กับสภาวธรรมเลยทันทีหรือครับ แล้วท่านจะนิ่งรู้อยู่กับสภาวธรรมอะไร? ถ้าเราจะคิดพิจารณาดูด้วยหลักของเหตุและผล

:b10: cool
มาวิเคราะห์และสนทนากันดูนะครับ......น่าจะมีประโยชน์.....
:b8: :b8:


ความเป็นจริง
ถ้ารู้จัก อนุสัย
ก็จะมองเห็น เจตสิก ที่มีโอกาสจะเป็นไป

มันไม่ใช่ด้วยหลักของเหตุและผลของใคร
สัจจะธรรม มันเป็นเช่นไร นั่นคือ เหตุ ปัจจัย และ ผล ในตัวมันเองอยู่แล้ว

:b6: มันก็ยอมรับความจริงในสัจจะธรรมที่ปรากฎอยู่ทุกขณะ
มันก็จบที่จะต้องไปคิดอะไรเกี่ยวกับมัน
เพราะมันไม่เป็นอย่างที่คิด :b6:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 161 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10, 11  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร