อนาคามี บ่มอินทรีย์ จนสำรวมแล้ว ย่อมไม่ฟุ้งซ่านไปกับธรรมมารมย์ภายนอก อนาคามีจะไม่ประพฤติปรุงแต่งออกมาทาง กายและ วาจา แต่ เวทนาอันนีก็ไม่รู้นะ เพราะคุนน้องไม่ใช่อนาคามี
ปล.อนาคาไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเพศแล้วนะ เพราะสภาวะอารมณ์จะเบื่อหน่ายเรื่องความรักๆใคร่ๆ ไม่รู้สึกอยากในเรื่องกามราคะ(เพศ)

เพื่อ จะมีอนาคามีมาตอบนะครับจะได้รู้

โสกะทะลึ่งแล้ว น้องคิงคองเขาไม่ใช่เพื่อนเล่นนะ
รู้แล้วยกมือไหว้พี่เขาเสียซิ

อนาคามีเห็นผู้หญิงมายั่วยวน ท่านก็เกิดอกุศลเหมือนกัน

เกิดโลภะ โทสะ โมหะ แต่สิ่งที่ว่ามาไม่ได้เกิดจาก กิเลสหรือสังโยชน์เบื้องต่ำห้าตัวแรก
มันเกิดจากสังโยชน์ที่เรียกว่ามานะ เป็นสังโยชน์หนึ่งในสังโยชน์เบื้องสูง

อาการที่เห็นผู้หญิงที่มายั่วยวน มันอาจเกิดความไม่พอใจ
อันเนื่องมาจากเห็นการกระทำของหญิงสาว แล้วเกิดการดูถูกว่าต่ำ
ประพฤติตัวไม่ดี อาการแบบนี้เขาเรียกว่า การปรุงแต่งอันกิดจากกิเลสที่เรียกว่า "มานะ"


กิเลสมานะนี้ มีได้ทั้งปุถุชนและอริยะ(ยกเว้นอรหันต์) ความแตกต่างของ มานะ
ที่เกิดกับปุถุชนและอริยะบุคคลก็คือ ปุถุชนมีจิตเกิดกิเลสตัวนี้ จะขาดสติในการยั่บยั้ง
วจีสังขารและกายสังขาร
อันนี้ต้องแยกให้ดีระหว่าง กามราคะกับมานะ ที่สังเกตุได้ง่ายก็ต้องเป็นผู้หญิงเห็นผู้หญิงด้วยกัน
ผู้หญิงเห็นคนเพศเดียวกันแสดงอาการยั่วยวน ย่อมต้องดูถูก อาจเอ่ยปากด่าก็ได้

ส่วนผู้ชายเห็นมันไม่มาถึงมานะหรอกครับ มันหลงตั้งแต่กิเลสเบื้องต่ำแล้ว
ไอ้กิเลสที่ว่า ก็คือกามราคะ

แต่ในอริยบุคคล เกิดกิเลสตัวนี้ขึ้นที่จิต ท่านจะมีสติมาดับจิตสังขารตัวนั้น
ไม่ให้ไปปรุงแต่งต่อไปยังวาจาและกาย

พบแล้วครับ อนาคามีของแท้ สาธุสาธุ

เข้ามาศึกษาข้อธรรมครับ