วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 13:28  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 38 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 17 ก.ค. 2012, 21:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอถามความคิดเห็น ในมุมมองของท่านกัลญามิตรทั้งหลายค่ะ
คุณคิดว่ากิเลสใน4ข้อ รัก-โลภ-โกรธ-หลง นี้
คุณคิดว่ากิเลสตัวไหน ที่จะทำให้คนเข้าถึงธรรมะได้ช้าค่ะ
คือเหมือนในลักษณะแบบไไม่ค่อยจะก้าวหน้าน่ะค่ะ (พูดไม่ถูกค่ะ) :b1: :b41: :b48: :b55:


โพสต์ เมื่อ: 17 ก.ค. 2012, 22:06 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ความจริง...มันเป็นตัวเดียวกัน....แต่แยกตามอาการ..ได้ 4

มันคือความไม่รู้ใน..อริยะสัจ 4 นั้นเอง...


แก้ไขล่าสุดโดย กบนอกกะลา เมื่อ 17 ก.ค. 2012, 22:10, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสต์ เมื่อ: 17 ก.ค. 2012, 22:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2011, 01:57
โพสต์: 324

แนวปฏิบัติ: อริยสัจ4
อายุ: 27
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมว่าควรมองแยกเป็นส่วนๆ

กิเลสมีตรงความคิดส่วนไหน ความคิดส่วนนั้นก็ฝืนธรรมชาติ ไม่เข้าถึงธรรมครับ

ความคิดส่วนไหนไม่มีกิเลสแล้ว เพราะเข้าใจธรรมชาติของความคิดในส่วนนั้นแล้ว ก็เป็นธรรมแล้วในตัวเอง

.....................................................
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นคือความจริง การฝืนความจริงทำให้เกิดทุกข์ การเห็นและยอมตามความจริงทำให้หายทุกข์

คนที่รู้ธรรมะ มักจะชอบเอาชนะผู้อื่น แต่คนเข้าใจธรรมะ มักจะเอาชนะใจตนเอง

สัพเพ ธัมมา อะนัตตาติ ยะทา ปัญญายะ ปัสสะติ
เมื่อใดบุคคลเห็นด้วยปัญญาว่า, ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา

อะถะ นิพพินทะติ ทุกเข เอสะ มัคโค วิสุทธิยา
เมื่อนั้น ย่อมเหนื่อยหน่ายในสิ่งที่เป็นทุกข์ ที่ตนหลง,
นั่นแหละเป็นทางแห่งพระนิพพานอันเป็นธรรมหมดจด

.....ติลักขณาทิคาถา.....


โพสต์ เมื่อ: 17 ก.ค. 2012, 22:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ความจริง...มันเป็นตัวเดียวกัน....แต่แยกตามอาการ..ได้ 4

มันคือความไม่รู้....อริยะสัจ 4 นั้นเอง....



ใช่ค่ะ :b1: แล้วตัวไหนล่ะค่ะ :b10:
ถ้าผู้นั้นมีมากเกินไป จะทำให้การปฎิบัติธรรมของผู้นั้นไม่ค่อยจะต่อเนื่องน่ะค่ะ


(ต้องขอโทษด้วยน่ะค่ะ ที่บางครั้งหลายๆท่านอาจจะต้องอ่านภาษาไทยของเรา
แล้วต้องแปลเป็นไทยอีก) ถ้าเราไม่ได้คุยเป็นภาษาไทยหลายๆวัน เวลาพูดเราก็ติดๆขัดๆอีก :b15: :b41: :b55: :b50:


แก้ไขล่าสุดโดย bbby เมื่อ 17 ก.ค. 2012, 22:28, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสต์ เมื่อ: 17 ก.ค. 2012, 22:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณคนธรรมดาเขียน

อ้างคำพูด:
ผมว่าควรมองแยกเป็นส่วนๆ

กิเลสมีตรงความคิดส่วนไหน ความคิดส่วนนั้นก็ฝืนธรรมชาติ ไม่เข้าถึงธรรมครับ


ใช่ค่ะ :b8: เป็นแบบที่คุณคนธรรมดาเขียนนี่หล่ะค่ะ
สำหรับของเราน่ะค่ะ เจ้าตัวความโกรธค่ะ :b33:
แล้วเล่าค่อยเขียนเหตุผลให้ฟังทีหลังน่ะค่ะ :b1: :b41: :b55: :b48:


โพสต์ เมื่อ: 18 ก.ค. 2012, 04:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
ขอถามความคิดเห็น ในมุมมองของท่านกัลญามิตรทั้งหลายค่ะ
คุณคิดว่ากิเลสใน4ข้อ รัก-โลภ-โกรธ-หลง นี้
คุณคิดว่ากิเลสตัวไหน ที่จะทำให้คนเข้าถึงธรรมะได้ช้าค่ะ
คือเหมือนในลักษณะแบบไไม่ค่อยจะก้าวหน้าน่ะค่ะ (พูดไม่ถูกค่ะ) :b1: :b41: :b48: :b55:

คนที่กล่าวว่า รัก-โลภ-โกรธ-หลง เป็นกิเลส นั้นแหล่ะเป็นคนที่เข้าถึงธรรมะได้ช้า
ไม่ค่อยก้าวหน้า
คนที่กล่าวคำพูดนั้น แสดงว่ายังไม่รู้ถึง สมุทัยแห่งทุกข์ที่แท้จริง


โพสต์ เมื่อ: 18 ก.ค. 2012, 09:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
ขอถามความคิดเห็น ในมุมมองของท่านกัลญามิตรทั้งหลายค่ะ
คุณคิดว่ากิเลสใน4ข้อ รัก-โลภ-โกรธ-หลง นี้
คุณคิดว่ากิเลสตัวไหน ที่จะทำให้คนเข้าถึงธรรมะได้ช้าค่ะ
คือเหมือนในลักษณะแบบไไม่ค่อยจะก้าวหน้าน่ะค่ะ (พูดไม่ถูกค่ะ) :b1: :b41: :b48: :b55:

รัก จัดอยู่ใน ความหลงครับ

โกรธ สังเกตุได้ง่าย เป็นกิเลสอย่างหยาบ
โลภ ละเอียดขึ้นมาหน่อย สังเกตุยากขึ้นแต่ก็พอจะสังเกตุได้
หลง นี่ละเอียดที่สุด สังเกตุยาก ละยากด้วย

หลงผิด คิดผิด ปฏิบัติผิด ท่านเรียก มิจฉาทิฎฐิ
ความหลง หรือ มิจฉาทิฎฐิ นี่แหละที่ทำให้การเข้าถึงธรรมเนิ้นช้า

พระพุทธเจ้าจึงวางแนวทางการเข้าถึงธรรมเพื่อพ้นทุกข์ไว้
ซึ่งเรียกว่า "มรรค" มีองค์แปด ขึ้นต้นด้วย "สัมมาทิฏฐิ"
คือ คิดถูก คิดชอบ คิดหาเหตุหาผลและปฏิบัติถูก

สัมมาทิฏฐิท่านเปรียบไว้เหมือน หัวจักรขบวนรถไฟ เมื่อสัมมาทิฏฐิขยับ
สัมมาสังกัปโป สัมมาวาจา ... สัมมาสติ ก็ขยับตามกันมา

ผู้ปฏิบัติตาม มรรคองค์แปดนี้ จะพ้นทุกข์พ้นโศกพ้นโลกสงสาร
ได้ในเวลาไม่นาน

เอ๊ะ เราก็สัมมา ทำไหมไม่ถึงไหน แสดงว่า ขี้เกียจ เลาะแหละ
ปฏิบัติไม่จริงจัง ไม่เอาไหน

อิอิ .. ข้าน้อยคงยังอีกนานไกล ประเภทไม่เอาอ่าว ไม่เอาแหลมอ่ะ

.. :b32: :b13:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสต์ เมื่อ: 18 ก.ค. 2012, 09:48 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


เคยถามตัวเองบ้างมั้ย?....ทำไมถึงมี..รัก...โลภ...โกรธ....หลง..

มีคนเขาบอกว่า....ถ้าเรารู้ว่าไอ้ที่ถืออยู่เป็นขี้..นะ...มันทิ้งไปเองไม่ต้องให้ใครมาจ้ำจี้จ้ำไซ...หรอก

ก็เลยได้คิดว่า...อ่อ....เพราะเรายังไม่เห็นว่ามันเป็นทุกข์....จริง..ๆ...ซะละมั้ง

ถ้าเราเห็นทุกข์.....เราต้องอยากรู้ว่าอะไรเป็นเหตุให้เดทุกข์นั้น

ถ้าเรารู้อะไรว่าเป็นเหตุ....ก็ย่อมจะรู้ว่าความดับทุกข์มีอยู่....ทางดับทุกข์ต้องดับที่เหตุอันนั้น

ดังนั้น้ราต้องรู้ว่า...สภาวะที่เจอขณะนั้นมันทุกข์มั้ย....ทุกข์เพราะอะไร...

ก็คิดค้นไปตามสายทางของเรา.....จะไปเอาตำราว่า...แบบนี้เรียกว่าทุกข์นะ...มันก็ทุกข์ของตำรา....ยังไม่ใช่ทุกข์จริงของเรา..

ทุกข์.....จึงต้องรู้...


โพสต์ เมื่อ: 18 ก.ค. 2012, 12:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
เคยถามตัวเองบ้างมั้ย?....ทำไมถึงมี..รัก...โลภ...โกรธ....หลง..

มีคนเขาบอกว่า....ถ้าเรารู้ว่าไอ้ที่ถืออยู่เป็นขี้..นะ...มันทิ้งไปเองไม่ต้องให้ใครมาจ้ำจี้จ้ำไซ...หรอก

คุนน้องเคยอยู่กับสามี ไม่เคยนึกว่าสามีคือขี้เลย.. เห็นแต่เป็นเทวดาบางครั้งก็เห็นเป็นผีแล้วแต่อารมณ์
บางครั้งก็เห็นเป็นสิ่งของ เพราะเวลาสามีแอบไปมีผู้หญิงคนอื่นก็โกรธแล้ว หาว่าสามีไม่รักตน ทั้งที่ความจริงแล้ว
รักไม่ใช่สิ่งที่ครอบครองเป็นเจ้าของ แต่ดันไปโกรธเขาที่เขาไปมีคนอื่น..ไม่เค๊ยไม่เคยเห็นขี้ว่าเหม็นเห็นเป็นของหอม กินอยู่กับขี้..นอนอยู่กับขี้..เกลือกกลั๊วะอยู่กับขี้ สุดท้ายขี้ก็กลายเป็นขี้เถ้า ถึงเห็นสัจธรรมความจริงว่า เออทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีอะไรแน่นอน สิ่งที่แน่นอนคือ ความไม่มีตัวตน แม้แต่ขี้ที่เคยคิดว่าหอม ตอนนี้ก็ยังไม่มี แต่ท่านกบอาจจะมีขี้ที่คิดว่าหอมอยู่ :b32: :b32:


โพสต์ เมื่อ: 18 ก.ค. 2012, 12:44 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
เคยถามตัวเองบ้างมั้ย?....ทำไมถึงมี..รัก...โลภ...โกรธ....หลง..

มีคนเขาบอกว่า....ถ้าเรารู้ว่าไอ้ที่ถืออยู่เป็นขี้..นะ...มันทิ้งไปเองไม่ต้องให้ใครมาจ้ำจี้จ้ำไซ...หรอก

ก็เลยได้คิดว่า...อ่อ....เพราะเรายังไม่เห็นว่ามันเป็นทุกข์....จริง..ๆ...ซะละมั้ง

ถ้าเราเห็นทุกข์.....เราต้องอยากรู้ว่าอะไรเป็นเหตุให้เดทุกข์นั้น

ถ้าเรารู้อะไรว่าเป็นเหตุ....ก็ย่อมจะรู้ว่าความดับทุกข์มีอยู่....ทางดับทุกข์ต้องดับที่เหตุอันนั้น

ดังนั้น้ราต้องรู้ว่า...สภาวะที่เจอขณะนั้นมันทุกข์มั้ย....ทุกข์เพราะอะไร...

ก็คิดค้นไปตามสายทางของเรา.....จะไปเอาตำราว่า...แบบนี้เรียกว่าทุกข์นะ...มันก็ทุกข์ของตำรา....ยังไม่ใช่ทุกข์จริงของเรา..

ทุกข์.....จึงต้องรู้...


กล่าวคลายกับหลวงพ่อชาเลยครับ ท่านกบ :b8: :b8: :b8:


โพสต์ เมื่อ: 18 ก.ค. 2012, 13:32 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
เคยถามตัวเองบ้างมั้ย?....ทำไมถึงมี..รัก...โลภ...โกรธ....หลง..

มีคนเขาบอกว่า....ถ้าเรารู้ว่าไอ้ที่ถืออยู่เป็นขี้..นะ...มันทิ้งไปเองไม่ต้องให้ใครมาจ้ำจี้จ้ำไซ...หรอก..



ผมก็จำไม่ได้....ว่าองค์ไหนพูด..นะ...ฟังมาหลายที่...ก็ทำนองนี้แหละ..

:b8:


โพสต์ เมื่อ: 18 ก.ค. 2012, 16:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


ที่เราบอกว่าเจ้าตัวโกรธ :b33: เพราะถ้าคนนั้นปฎิบัติธรรมหรือเริ่มศึกษาธรรม
แล้วมีโทสะเข้ามา ทีนี้จิตของผู้นั้นจะมีแต่ความร้อน จิตจะวุ่นวายอาฆาตต้องการชนะ
ก็จะทำให้การเขาถึงธรรมะนั้นช้าไปอีกใช่หรือปล่าวค่ะ :b41: :b55: :b50:


โพสต์ เมื่อ: 18 ก.ค. 2012, 16:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณโฮฮับเขียน

อ้างคำพูด:
คนที่กล่าวว่า รัก-โลภ-โกรธ-หลง เป็นกิเลส นั้นแหล่ะเป็นคนที่เข้าถึงธรรมะได้ช้า
ไม่ค่อยก้าวหน้า
คนที่กล่าวคำพูดนั้น แสดงว่ายังไม่รู้ถึง สมุทัยแห่งทุกข์ที่แท้จริง




ขอความรู้ตรงนี้หน่อยสิค่ะ :b8:


โพสต์ เมื่อ: 18 ก.ค. 2012, 17:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
ที่เราบอกว่าเจ้าตัวโกรธ :b33: เพราะถ้าคนนั้นปฎิบัติธรรมหรือเริ่มศึกษาธรรม
แล้วมีโทสะเข้ามา ทีนี้จิตของผู้นั้นจะมีแต่ความร้อน จิตจะวุ่นวายอาฆาตต้องการชนะ
ก็จะทำให้การเขาถึงธรรมะนั้นช้าไปอีกใช่หรือปล่าวค่ะ :b41: :b55: :b50:

ทุกอย่างล้วนมีเหตุปัจจัย ไม่ใช่อยู่ๆเราจะไปโกรธขึ้นมาโดยไม่มีเหตุปัจจัย พี่เต้ยังไม่รู้เกี่ยวกับกระบวนการขันธ์5หรือเจ้าค่ะ การทำงานของเจ้ากิเลศมันเริ่มจากขันธ์5 เจ้าค่ะ ถ้าเราเข้าใจเกี่ยวกับขันธ์5 และปฏิจสมุปปบาท เราจะระงับความโกรธได้ โดยไม่ประพฤติออกไปทาง กายกรรม
เหมือนกล่องข้าวน้อยฆ่าแม่ ถ้าเขาเข้าใจกระบวนการขันธ์5 เขาก็คงไม่ต้องฆ่าแม่ตนเอง onion
:b44: :b44:


แก้ไขล่าสุดโดย nongkong เมื่อ 18 ก.ค. 2012, 17:35, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสต์ เมื่อ: 18 ก.ค. 2012, 17:35 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
ที่เราบอกว่าเจ้าตัวโกรธ :b33: เพราะถ้าคนนั้นปฎิบัติธรรมหรือเริ่มศึกษาธรรม
แล้วมีโทสะเข้ามา ทีนี้จิตของผู้นั้นจะมีแต่ความร้อน จิตจะวุ่นวายอาฆาตต้องการชนะ
ก็จะทำให้การเขาถึงธรรมะนั้นช้าไปอีกใช่หรือปล่าวค่ะ :b41: :b55: :b50:


จิตที่ควรกับการทำงาน....เป็นจิตอยู่ในมรรคมีองค์แปด...

จิตที่มีกามราคะยินดีในตัณหา....ปฏิฆะขุ่นเคืองใจ...จิตใจย่อมขาดจากมรรคแม้ตัวใดตัวหนึ่ง..

ก็ย่อมขาดจากมรรคอื่นทั้งหมดด้วย....
แม้นว่า....อารมณ์นั้นจะดับไปแล้ว....สัมมาวายามะคือเพียรดับอกุศลที่กำลังเกิดและที่เกิดไปแล้ว..ไม่ทัน....มันก็ลงไปเป็นอาสวในสัญญา....เมื่อใดเกิดธรรมารมณ์ขึ้นมาอีก....จิตก็ตกอยู่ในกามราคะ...ปฏิฆะได้อีก..

ดังนั้น...จะว่าคนที่มักมีอารมณ์โกรธเป็นนิจ...จิตเขาย่อมไม่สงบ...ไม่อยู่ในฐานะที่เหมาะกับการเกิดของปัญญา

ความเนิ้นช้า...ก็เป็นธรรดาที่จะเกิดกับเขา....


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 38 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร