ปฏิเสธพระไตรปิฎกอยู่นะเธอ ยังไม่รู้ตัวอีกหรือ กิเลสมันบังตาเธออยู่
เธอกำลังจะยกตัวเหนือพระพุทธเจ้านะ สิ่งนี้ไม่ถูกต้อง


การเผื่อทางเลือกอื่นไว้ เรียกว่ามีแผน แผนของแต่ละบุคคลก็ต่างกันไป หากตั้งแผนไว้ดีแล้ว ก็สุดแล้วแต่ท่านจะเลือกเถิด


ผมโลภมาก ถ้าเป็นผม ผมจะอธิษฐานอย่างอื่น

ท่านบอกว่าไม่ต้องรอเรื่องกรรมเก่า แสดงว่าท่านไม่เชื่อว่า ท่านเกิดมาเพราะกรรมอย่างงั้นใช่ไหม ท่านตั้งใจเกิดอย่างงั้นหรือเจ้าค่ะ แล้วถ้าท่านเชื่อว่า เกิด แก่ เจ็บ ตายเป็นของแน่แท้ ท่านจะเชื่อว่า ชาติหน้าท่านจะเกิดเป็นอะไร หรือท่านคิดว่า ไม่มีชาติหน้าและอดีตชาติ แล้วท่านสามารถพิสูจน์ได้ไหม นอกจากท่านจะตายเสียก่อน อย่าทำตัวอวดเก่งเกินพระพุทธองค์เลย
ปล.ที่บอกมนุษย์อาศัยมดลูกถึงสามารถเกิดได้ แต่รู้ไหมว่า สิ่งที่มันอยู่เหนือธรรมชาติ มนุษย์สร้างให้มันเกิดขึ้นมาได้แล้วนับประสาอะไรกะอิแค่ โคลนนิ่งมนุษย์ เพียงแต่ว่ามนุษย์ไม่อยากจะทำแค่นั้น เพราะมันผิดศีลธรรมของความเป็นคน แต่อนาคตอะไรๆมันก็ไม่แน่ ว่าแต่ รู้จักเด็กหลอดแก้วไหมเจ้าค่ะ
คุนน้องก็ขอให้ท่านโชคดีมีชัย ควบคุมทิศทางการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ไปจนกว่าชีวิตจะ..หาไม่....นะเจ้าค่ะ
ทฤษฎีใหม่น่าสนใจ ควบคุมทิศทางไม่ต้องรอกรรมเก่า ก็ขอให้ควบคุมทิศทางให้มันดีๆนะเจ้าค่ะถ้าตายแล้ว นรกดันมีจริง จะหาว่าคุนน้องไม่เตือน

ผมไม่ได้คิดว่าตัวเองเหนือหรีอเก่งกว่าพระพุทธเจ้า แต่ผมทำตามที่พระพุทธองค์แนะนำ
พระองค์แนะนำไม่ให้เชื่ออะไรง่ายๆ จนกว่าจะเข้าใจและยอมรับสิ่งนั้นแล้ว
สิ่งใดถ้าไม่มีข้อพิสูจน์เป็นแต่ความเชื่อตามๆกันมาผมก็คงยอมรับไม่ได้
ถ้าได้ศึกษาประวัติศาสตร์พุทธศาสนาและศาสนาร่วมสมัยเราจะเห็นว่ามีร่องรอยการต่อสู้ระหว่างศาสนาเพื่อแย่งชิงมวลชนระหว่างกันอยู่ในพระไตรปิฎกไม่น้อย ตลอดระยะเวลา 1300กว่าปี ก่อนที่ศาสนาพุทธจะเสื่อมความนิยมในชมพูทวีป

คุณน้องครับกรุณาใจกว้างหน่อย เรื่องความเชื่อที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ ไม่มีใครถูกหรือใครผิด
ไอ้คนที่ตายแล้วมันก็ไม่กลับมาบอกอะไรเราได้
หรือคุณน้องจะบังคับทุกคนให้เชื่อเหมือนคุณน้อง


ขั้นตอนการโคลนนิ่ง


เด็กหลอดแก้ว


ทั้งสองวิธียังหนีมดลูกไม่พ้นต้องอาศัยอุ่มบุญและยังต้องอาศัยทั้งสองเพศ

คุนน้องก็แค่แสดงความคิดเห็นที่แตกต่างออกไป ลองให้ท่านพิจารณาเป็นข้อเปรียบเทียบอันไหนควรเชื่ออันไหนไม่ควรเชื่อ ดันหาว่าคุนน้องใจแคบซะงั้น

คุณแกงได...เข้าใจเรื่องการเชื่อที่พระพุทธองค์สั่งสอนมาถูกแล้วครับ...

หากได้ลองเข้าไปศึกษาว่า...พระพุทธเจ้าของเรา...กล่าวถึงเรื่องการเกิด...แม้ของมนุษย์...ได้อย่างไร...

เอาแค่....กระบวนการของชีวะเคมี...กระบวนการแบ่งตัวของเซลล์...กี่วัน..กี่วัน...เกิดอวัยวะใดบ้าง...ฯลฯ...เรียกว่า..ถี่ยิบเลยครับ...อย่าลืมว่าเมื่อ 2600 ปีมาแล้วไม่มีเครื่องเอ๊กซเรย์นะครับ...

แล้วพระพุทธเจ้าของเราเอามาอะไรมาพูด..ละครับ...ไม่เห็นแล้วจะพูดได้ละเอียดและตรงอย่างนี้หรือ?

มันน่าอัศจรรย์มั้ย?....น่านับถือมั้ย?....

แล้วก็บอก..เกินกว่ากระบวนการชีวเคมีอีกว่า...อะไรมาเกิด...เพราะอะไรถึงมาเกิด...

แล้วก็ตรัสสอนว่า...ทำอย่างไรจึงไม่เกิด...อีกด้วย

อัศจรรย์มากเลยครับ...

ที่ไอร์สไตนพูดใว้ไม่มีผิดว่า...ศาสนาที่จะเป็นศาสนาสากลได้คือพระพุทธศาสนา

ปัญหาที่ผมติดใจมาตลอด ไม่ว่าศาสนาใด การกล่าวภายหลัง องค์ศาสดาของทุกศาสนา มักไม่มีใครยอมลงชื่อไว้ว่าตนเป็นคนกล่าว ม้กจะอ้างศาสดาหรือพระเจ้าเป็นคนกล่าวไว้ ถ้าลงชื่อไว้กลัวจะไม่ได้รับการยอมรับ
ต่างจากความรู้หรือวิทยาการที่ค้นพบได้ในอดีตถ้ามีใครมาต่อยอดความรู้นั้นให้พัฒนาเพิ่มขึ้นก็มักจะลงชื่อไว้

ทางนี้....แก้ข้อติดใจของคุณแกงได..ได้ครับ

ไม่ใช่ผมนะ...แต่เป็นพ่อแม่ครูบาอาจารย์...(ของผม )

ผมก็เคยเป็นคล้าย ๆ คุณแกงได..มาก่อนครับ

พระพุทธศาสนา...ไม่มีอย่างนี้นะครับผม...แม้พระอานนท์ท่านยังกล่าวว่า...ผมฟังมาอย่างนี้....ที่เรียกพระสุตตันตะปิกฎ..นั้นแหละ..(สุตตะ แปลว่าฟัง)...แต่ที่เห็นเรามีปัญหากัน....ก็คือการแปลมาเป็นภาษาที่เราเข้าใจ....บางท่านว่าต้องแปลอย่างนี้จึงจะตรงกับหลักภาษา..บางท่านว่าต้องแปลอย่างนี้ถึงจะได้หลักใหญ่ใจความ...อันนี้ก็ว่ากันไป

แต่ของศาสนาอื่น...ขอไม่พูดถึง..นะครับ (แว่ว ๆ มาว่า..คริสต์เขาก็มีลงชื่อนักบุญที่กล่าววลีนั้น ๆ อยู่นะครับ)



แต่ผมมองกลับกันว่า...ไม่ต่าง..(ในของพุทธนะ)...เพียงแต่...พุทธมียอดเดียวคือความพ้นทุกข์...เป็นอกาลิโกคือความจริงที่ไม่เปลี่ยนแปลง...แล้วก็เอหิปัสสิโกคือมาดูได้...ด้วยโอปนยิโกต้องน้อมเข้าไปในใจ...

คนที่เข้าไปดูแล้ว..เห็นแล้ว...เขาก็จบ..หายสงสัย..ไม่เห็นทางอื่นที่ต่างออกไป..กลายเป็น..ปัจจัตตัง เวทิตัพโพวิญญูหิติ...ไป .ก็เลยไม่มีการต่อ ยอด...เพราะมียอดเดียว

จริงๆแล้ว มันมีเรื่องที่เป็นไปได้ และอาจจะเป็นไปไม่ได้(เพราะยังหาข้อพิสูจน์ไม่ได้)อย่างนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังสมัยก่อน ก็ถูกกล่าวหาว่าบ้า เพราะไอ้สูตร สมการเลขยกกำลัง ที่คนอื่นไม่สามารถอธิบายเหตุผลได้ ไม่ว่าจะเป็นการกำเนิดไฟฟ้า นิวเคลีย แล้วเรื่องโคลนนิ่งมนุษย์ ไม่ใช่ว่ามันจะเป็นไปไม่ได้..แต่ปัจจุบันนี้ไม่ต้องโคลนนิ่ง มนุษย์ก็แพร่พันธ์จนจะคับโลกแล้ว เลยยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องต่อยอด..จำเรื่องเชอร์โนบิลได้ไหม มนุษย์ที่อาศัยอยู่บริเวณแถบพื้นที่ติดเชื้อมีอายุ 20-40ปี แค่นั้นแล้วสัตว์ที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นก็กลายเป็นสัตว์รูปร่างแปลกๆสายพันธ์ใหม่เพราะdnaผิดปกติ อนาคตจะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้นะ แต่พระพุทธองค์ทำนายไว้ว่าอย่างไร ก็คงต้องเป็นไปตามนั้น และเราก็ไม่ควรประมาทในเรื่องนั้น แต่ก็มีบางเรื่องที่คุนน้องก็ยังไม่รู้และพิสูจน์ไม่ได้เช่น ผีมีจริงหรือไม่ แต่คุนน้องเชื่อเรื่อง..จิตสัมผัส..เพราะเคยสัมผัสมาก็แค่นั้น

ความเชื่อหากเป็นกุศล หมายความว่า เป็นเหตุให้เรามุ่งสู่การพัฒนาชีวิต ก็เป็นการดำเนินชีวิตในทางแห่งมรรค โดยเฉพาะเรื่องผีสาง เทวดา เป็นเรื่องนอกตัว ยากที่จะรู้ด้วยตนเอง ก็พักเรื่องนี้ไว้ก่อน ถึงพักเรื่องนี้ไว้ก็ไม่กระทบกับ วิปัสสนาภาวนา

เกิด แก่ เจ็บ ตาย เกี่ยวข้องโดยตรงกับ วิปัสสนาภาวนา เป็นธรรมที่น้อมนำไปเห็น ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา นอกจากเราต้องเชื่อแล้ว เราต้องเข้าไปกำหนดรู้นั่นคือ อริยสัจ4 ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า

ผมเห็นด้วยครับว่าเส้นทางของชีวิตควบคุมทิศทางได้ไม่ต้องรอกรรมเก่า อนุโมทนาครับ

ก็พิสูจน์สิ ศีล ปัญญา สมาธิ
เธอมัวไปพิสูจน์อะไรอยู่
พระพุทธศาสนาไม่ใช่ปรัชญานะ ที่จะกัดกินกระดาษแล้วตรึกในใจจนสามารถบรรลุธรรมได้


มิจฉาทิฏฐิ อัตตาจ๋าเลย
ไปทำความเข้าใจเรื่องกรรมกับผลอย่างละเอียดดู

รู้สึกว่า ไตรลักษณ์ มีแต่กล่าวอยู่ในพระพุทธศาสนา เท่านั้นนะ

เยี่ยมจริงๆ

แค่การเกิดดับของขันธ์5 นี่ก็เกินกว่า วิทยาศาสตร์ พิสูจน์ แล้วครับคุณแกงได

การที่หลอดไฟไส้ติดดับติดดับ(มืดสว่าง มืดสว่าง)ถี่ๆ ถึงค่าๆ หนึ่ง ตาเราก็เห็นเป็นสว่างต่อเนื่องตลอด

แต่สิ่งที่อยู่นอกเหนือการมองเห็นคือ ความมืดที่สลับกับความสว่างอย่างรวดเร็วเกินสายตามนุษย์จะแยกแยะได้

ร่างกายที่ทุกคนมี และที่ทุกคนเห็น ในทางพระพุทธศาสนา บอกว่าประกอบขึ้นมาจากสิ่งที่เกิดดับถี่ๆ เรียกว่า รูป 28 (คือรูป ยังแยกชิ้นได้อีก เป็น 28 ชิ้น และมีอากาศธาตุ คั่นกลางแต่ละรูปเอาไว้อีก)

กล่าว กันว่า รูปขันธ์

มีลักษณะ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ เสื่อม และดับไป อยู่ตลอดเวลา

การดับไปคือ การอันตรธาน ไปเลย
การเกิดขึ้นคือ จากความไม่มี สู่ความมี