วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 04:23  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 153 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8 ... 11  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 28 ก.ค. 2012, 11:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
พี่โฮ คลองเขามีไว้สำหรับให้เรือวิ่งนะ ทำไมพี่ชอบถอยหลังเข้าคลองล่ะ เลิกไม่ได้ก็ยอมรับเถอะ อย่ารั้นเลย หัดตื่นมาใส่บาตรพระบ้างเถอะจะได้รู้ความดีมันเป็นอย่างไร พินาจแล้วศาสนาเรา มีคนอย่างท่านหมดกัน ไม่ทำก็ไม่มีใครว่าหรอกนะ :b34: :b34: :b34:

เริ่มพาลแล้วมั้ยล่ะ คุยกันเรื่องไม่ยุ่งกับเมีย กินข้าวมื้อเดียว
ไงไปเรื่องทำบุญใส่บาตร โมโหจนลืมตัว ใส่ร้ายป้ายสี แบบนี้
เขาเรียกมือถือสาก ปากถือศีลครับ ผมว่าเอาศีลห้าให้มันดีก่อนไม่ดีกว่าหรือ
ศีลห้ายังกะพร่องกะแพ่ง ดันมาโม้เรื่องศีลเนกขัมมะ :b32:


โพสต์ เมื่อ: 28 ก.ค. 2012, 11:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
[ศาสนาของพระพุทธองค์เป็นศาสนาแห่งปัญญาทนต่อการพิสูจน์ มิได้กล่าวไว้เพื่อให้เชื่อ พระองค์เองก็ทรงกล่าวว่า อย่าพึ่งเชื่อในสิ่งที่ได้ตนได้ฟังมา จงนำไปปฎิบัติเมื่อสิ่งนั้นมันเกิดประโยชน์กับตนเองยังไม่พอนะครับ ต้องเกิดประโยชน์กับผู้อื่ด้วย เรื่องราวในคำภีร์มีมากมายล้วนกลับไปพิสูจน์ไม่ได้เกี่ยวกับบุคคลในพุทธกาล การที่หยิบยกบางสิ่งมานั้นไม่ผิดแต่ไม่ใช่สิ่งนั้นจะเป็นที่สุดแห่งความเห็น อาจถูกอาจผิด ส่วนที่พระองค์แสดงเรื่องข้อประพฤติปฎิบัตินี้น่าจะยอมรับกันได้ เรื่องการละเว้นอะไรต่างๆตามเหตุที่สมควรตามสถานะ
ผมมิได้ตำหินเลยแต่ละท่านก็มีชีวตที่แตกต่าง ใครจะทำอะไรก็เป็นสิทธิแต่ละคน แต่ถ้ามาสนทนาเรื่องธรรมมะกันแล้วก็ต้องยอมรับว่า กามสุขนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรเข้าไปคล่องเกี่ยว คล่องเกี่ยวนี้ไม่ใช่การเสพแบบไม่ยึด แต่ถ้ายังเสพอยู่ผิดมั้ยมันไม่ผิดหรอกครับ แต่จะบรรลุธรรมขั้นสูงนะคงเป็นไปไม่ได้ และท่านจะเสพหรือไม่เสพก็ทำไปเถอะไม่มีใครว่า แต่ที่ผมติติงก็เพราะท่านไม่มีใจโน้มเอียงเพื่อจะลดล่ะ นี่ต่างหากที่โต้เถียงท่านอยู่ขอท่านเข้าใจไว้ด้วย
ที่นางวิสาขาท่านจะบรรลุธรรมกี่ขวบนั้น จะจริงหรือไม่จริง ไม่ต้องคิดมากหรอกครับ ท่านกำลังยกตัวอย่างในสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้มา มันจะบ่งบอกของสติปัญญาท่านนะครับเพราะเรากำลังโต้แย้งกันอยู่นะครับ แต่ถ้าท่านยกมาเป็นตัวอย่างกับคนที่กำลังศึกษาธรรมมะนั้นเป็นส่งที่ดีเพราะเขาก็จะได้ฟังเพื่อเรื่องราวเพื่อเอาไปพิสูจน์แต่ถ้าโต้แย้งนั้นมันไม่จบเพราะหาที่สุดมิได้
เหมือกับที่พระพุทธองค์ทรงยกเรื่องราวมาสอนสาวกนะครับก็มีชาดกมากมายท่านเอาไว้สอนถึงการเพิ่มพูลความดีเป็นตัวอย่างแห่งความดี มิได้ยกตัวอย่างมาแสดงในการโต้แย้ง ส่วนการโต้แย้ง กับเจ้าลัทธิอืนๆ พระองค์ทรงแสดงความสามารถให้เห็นในสิ่งที่พระองค์ทำได้ ก็เหมือนในสิ่งที่ผมทำได้อยู่นี่ไงที่แสดงให้ท่านดู พอเข้าใจบ้างหรือยัง ทำบุญให้ทานเยอะๆนะครับจะได้สนันสนุนปัญญาให้สว่างขึ้นบ้างอย่าห่วงแต่ตัวเองนักเลย ปากท้องก็เหมือนกันอย่าห่วงนักเลย นะขอรับพี่โฮ :b4: :b4: :b4:นางวิสาขาทำบุญทุกวันนะครับพี่โฮ รู้อย่างไร งง

เห็นตัวเม้นใหญ่มั้ยครับ ถามครับใครกันแน่ที่จะทำให้ศาสนาพินาจ :b6:


โพสต์ เมื่อ: 28 ก.ค. 2012, 12:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
ถามจริงๆ พี่โฮ การไม่ยึดของคุณนี่หมายความว่า กินแบบไม่ยึด
เสพเมถุนแบบไม่ยึด คุณลองนึกถึงสภาพที่กิจที่คุณทำสิ มันน่าเกลียดมั้ย

คุณนี่มันเหลือเชื่อเลย ทู่จนทื่อ คุณมาชี้หน้าประนามผม เรื่องกิน เรื่องเสพเมถุน
ที่ผมเงียบๆปล่อยให้คุณพูดอวดตัว คุณรู้มั้ยเหมือนผมกำลังนั่งดูจำอวด

กรุณารู้ไว้ด้วยเรื่องเสพเมถุนกับเมียน่ะ ผมไม่มีครับ ผมกับเมียต่างคนต่างอยู่มาหลายปีแล้ว
เมียผมเขาก็มีครอบครัวใหม่ ผมกับแกก็ยังคบกันเป็นเพื่อน
สรุปก็คือผมเป็นโสดเมียหย่า อยู่ตัวคนเดียว ไม่เคยเที่ยวผู้หญิง
และมีเพื่อนสาวเยอะแต่ไม่เคยคิดทางชู้สาว
ผิดกับคุณครับที่บอกว่าไม่ยุ่งกับเมีย แต่อยู่บ้านเดียวกับเมีย
แล้วเที่ยวบอกชาวบ้านว่าเมียตัวเองสาวและสวย

เรื่องกินผมกินสองมื้อบ้าง สามมื้อบ้างแล้วแต่ว่าวันไหนใช้
พลังงานไปเท่าใด
ผิดกับคุณครับที่บอกกินมื้อเดียว แต่เวลาทำกับข้าวให้เมีย จะได้กลิ่น
หอมหวลของกับข้าวที่กำลังทำ :b32:
bigtoo เขียน:
พระอริยะชั้นต้นนะเขารู้สิ่งเหล่านี้ดีแต่กำลังปัญญาเขายังห้ามกิเลสไม่ได้ที่เขาทำนะ แต่คุณมันมองไม่ออกเลย ก็เลยหมกมุ่นอยู่กับสิ่งสกปรก ก็เลยบอกว่าเสพแบบไม่ยึด

มันเป็นคุณทั้งนั้น คุณสร้างภาพว่าตัวเองดี ถือศีลเนกขัมมะ
มันก็แค่หน้าฉากเท่านั้น หลังฉากมันเน่าครับ
ไม่ยุ่งกับเมียแต่อยู่บ้านเดียวกับเมีย(สงสัยห้องเดียวกันด้วย)
กินข้าวมื้อเดียว แต่ต้องมาทำกับข้าวให้เมียกิน แถมแค่กลิ่นกับข้าวยังหลงเลย

ที่ว่าเสพแบบไม่ยึดน่ะ พูดไปเดียวก็สามวาสองศอก
ไปปฏิบัติให้ละสักกายทิฐิก่อนเถอะ แล้วจะเข้าใจ
พุทโธ่! ยึดกายมาเป็นตัวตนซะเต็มเปายังทำมาอวดดีอีก
bigtoo เขียน:
มันคนละอย่างกันกับพระอริยครับเข้าใจหรือยัง และอาชีพที่เป็นสัมมาอาชีพที่ดีที่สุดท่านรู้มั้ย ก็คืออาชีพนักบวช เพราะอาชีพนักบวชนั้นเป็นอาชีพเหมาะสมแก่การปฎบัติธรรมที่สุด ทำไมต้องขออารหารเขาทาน ทำไมต้องงดเสพเมถุน และระเบียบอื่นๆอีกมากมาย

ตลกจัง นักบวชเป็นอาชีพ ประเด็นเก่ายังหลง นี่ยังสักแต่ว่าพูดอีก
พูดเหมือนคนเมา
กำลังพูดถึงฆราวาส นี่มาพระอย่างโน้นอย่างนี้
ที่เขาขำคุณตลกคุณไม่ใช่ว่าคุณไปทำตามอย่างพระน่ะหรือ
ยังมาย้ำหัวปูตัวเองอีก :b9:

bigtoo เขียน:
ถ้าสิ่งเหล่านั้นมันไม่เป็นอุปสรรคแก่การบรรลุธรรมชั้นสูง ไม่เห็นจะต้องมาบวชเลย ก็น่าจะสอนเฉยๆซิครับ หรือเพียงโกนหัวเฉยๆแล้วก็ทำกับข้ากินเองก็ได้ไม่เห็นจะต้องไปขอเขากินมีมือมีเท้าเหมือนกัน แล้วก็มีเมียมีลูกต่อไป มันน่าจะง่ายกว่า ต้องมาขอเขากินนะ ถ้าคุณไม่บวชก็ไม่เป็นไร ก็ทรงอนุเคราะห์อีกก็ทรงแสดงว่า ฆารวาสนั้นเหมือนเดินอยู่ปากเหว ปาเหวอย่างไร เพราะยังชุ่มด้วยน้ำกามอยู่ และอื่นๆอีกมากมาย ลองโยนิโสดูนะพี่โฮ :b19: :b19: :b19:

ผมว่าคุณเมากลิ่นกับข้าวที่ทำให้เมียอยู่นะครับ
เมาแล้วก็เพ้อเจ้อ ฟังไม่รู้เรื่อง
คุณเที่ยวปะชดปะชันคนอื่น
มันต้องเป็นคุณครับที่ต้องไปบวช คุณเที่ยวอวดอ้างตนว่ากระทำอย่างที่พระทำ
แล้วทำไมไม่ไปบวช มานั่งเคลิ้มกลิ่นกับข้าว กับหน้าตาเมียตัวเองอยู่ได้ :b13:


โพสต์ เมื่อ: 28 ก.ค. 2012, 15:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมชาติของมนุษย์ คือเราต้องกิน เราต้องขับถ่าย เราต้องพักผ่อน เราต้องเสพ นี่เป็นธรรมชาติของมนุษย์ อย่างเรื่องเสพเมถุนถ้าเขาอยู่ในศีลไม่ประพฤติผิดในกาม (ผิดศีลข้อ3) ก็ยังถือว่าเค้ามีศีลบริสุทธิ์ไม่ได้ทำตัวน่าเกลียดแต่อย่างไร ถ้าไม่มีการเสพก็ไม่มีการแพร่พันธ์ อย่าลืมพวกเราๆท่านๆก็มีชีวิตมีตัวตนขึ้นมาเพราะบิดามารดาของเรา แล้วเราก็มีลูกสืบทอดเชื้อสายตามมาอีก แล้วเหตุใดพวกท่านถึงกล่าวร้ายว่าการเสพเมถุนมันเป็นเรื่องน่ารังเกียจ ในเมื่อ อริยะบุคคลขั้นต้น โสดาบัน และสกิทาคามี ก็ยังครองเรือนและมีลูกได้ อย่างเช่นนางวิสาขาก็มีลุกมีหลานแต่จิตใจนางเปี่ยมไปด้วยความเมตตา ระดับอนาคามีและอรหันต์ท่านหมดตัณหาในเรื่องพวกนั้นแล้ว เพราะท่านคำนึงเห็นโทษ และไม่เห็นประโยชน์ในสิ่งนั้น ไม่อย่างงั้นท่านจะออกบวชทำไม แต่ท่านก็ไม่ได้กล่าวร้ายถึงบุคคลที่ครองเรือนอยู่ว่าไม่มีศีล หรือปฏิบัติธรรมไม่ก้าวหน้า เพราะคนที่มีครอบครัวไม่ใช่จะไม่สามารถบรรลุธรรมได้ อริยะบุคคลตั้งแต่โสดาบัน ท่านปิดอบายภูมิแล้วแต่ก็ยังมีกิจที่ต้องทำ แต่ถ้าท่านบิ๊กทู่บอกว่ามันเป็นเรื่องน่าเกลียดสำหรับนักปฏิบัติธรรม แล้วมีท่านใดบ้างที่ปฏิบัติธรรมครองเรือนแล้วไม่ยุงกับคู่ครองของตน คุนน้องก็อยากเห็นรายชื่อเหมือนกัน เรียงหน้ากันเข้ามาหน่อยสิ ถ้าใครเสพเมถุนท่านบิกทู่บอกว่าปฏิบัติธรรมไม่ก้าวหน้า ใครใจกล้าพอที่จะยอมรับเรื่องนี้ไหม เรียงตัวเข้ามาหน่อยสิผู้ทรงศีลทรงธรรมทั้งหลาย
ปล.คุนน้องก็ไม่ได้เสพเมถุนเพราะเป็นหม้ายเจ้าค่ะ แล้วท่านใดมีครอบครัวแล้วไม่ได้เสพเมถุนบ้างเจ้าค่ะ อยากเจอนักปฏิบัติธรรมแบบว่า ทำก็บอกว่าทำ ไม่ทำก็บอกไม่ทำ จะได้วัดผลกันไปเลยใครก้าวหน้าใครย่ำอยู่กับที่ :b13:


โพสต์ เมื่อ: 28 ก.ค. 2012, 17:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
ธรรมชาติของมนุษย์ คือเราต้องกิน เราต้องขับถ่าย เราต้องพักผ่อน เราต้องเสพ นี่เป็นธรรมชาติของมนุษย์ อย่างเรื่องเสพเมถุนถ้าเขาอยู่ในศีลไม่ประพฤติผิดในกาม (ผิดศีลข้อ3) ก็ยังถือว่าเค้ามีศีลบริสุทธิ์ไม่ได้ทำตัวน่าเกลียดแต่อย่างไร

แล้วท่านใดมีครอบครัวแล้วไม่ได้เสพเมถุนบ้างเจ้าค่ะ :b13:




ถือว่า แบ่งปันกันนะคะ

เมื่อปฏิบัติต่อเนื่อง สภาวะหรือธรรมะจะจัดสรรทุกอย่างให้เอง

ชีวตครอบครัวของวลัยพร เราสองคน มีนิสัยพฤติกรรมคล้ายคลึงกันหลายๆอย่าง เราสองคนเจอกันเพราะมีเหตุ

ในห้อง ไม่มีเตียงนอน ที่นอนของเราสองคน คือ โซฟาแบบนั่ง ปรับเอนนอนได้ มีคนละตัว

โซฟาที่ใช้อยู่ เป็นทั้งที่นอน และสำหรับทำสมาธิ

สามี ทำตามเหตุปัจจัยของตัวเขาเอง เนื่องจาก กลับดึก ไม่มีเวลามาทำเต็มรูปแบบ อาศัยเดินเข้าที่พัก เป็นการเดินจงกรม อาศัยเวลานอน ทำสมาธิก่อนนอน จนกระทั่งหลับไป


กามราคะ วลัยพร ยังมีอยู่ แค่รู้ไปว่ามันมี สักแต่ว่ามี คือ แค่รู้ว่ามีอยู่

ไม่ต้องไปกดข่มใดๆหรือไปกำหนดให้หายไป หรือต้องไปพยายามทำเพื่อให้หายไป

เพราะ ความมี เกิดขึ้นไม่นาน ก็ดับหายไปเอง



สามีอายุ ๓๒ ปี ทำงานเกี่ยวกับคอมฯ ก่อนที่จะมาอยู่กินด้วยกัน เขาเคยช่วยตัวเองมาก่อน เหตุที่มาอยู่ด้วยกัน เขาต้องการอยากรู้ว่า ช่วยตัวเองกับมีผู้หญิง มันแตกต่างกันยังไง

พอเขารู้แล้วว่าเป็นยังไง เขาบอกว่า มันไม่แตกต่างกันเลย เมื่อถึงแล้ว แล้วกัน เท่านั้นเอง แถมเหนื่อยอีกต่างหาก

ก็อธิบายให้เขาฟัง ทุกอย่าง ล้วนเกิดจากการปรุงแต่ง ถ้ากินของเดิมๆซ้ำๆมันก็เบื่อ ชีวิตคู่ จึงต้องมีการปรุงแต่งตลอดเวลา เหตุของ สามี มีเมียน้อย หรือ ภรรยามีชู้ มีเท่าไหร่ก็ไม่พอ เกิดจากการปรุงแต่งตรงนี้แหละ

เราไม่เคยยุ่งกันมานานแล้ว ชีวิตคู่ ไม่มีปัญหาอะไร เป็นปกติดี สามีเป็นคนไม่เที่ยว ไม่ดื่ม ชอบอยู่แต่ที่ห้อง

วันหยุด เขาชอบทำสมาธิ เข้าสมาธิทีหลายชม. ไม่เคยออกไปไหน


เหตุของแต่ละคน สร้างมาแตกต่างกันไป เส้นทางของแต่ละคน จึงแตกต่างไปตามเหตุปัจจัยที่มีอยู่ และที่กำลังสร้างขึ้นมาใหม่

เพียงพยายาม อย่าสร้างเหตุนอกตัว ปฏิบัติต่อเนื่อง ธรรมจะจัดสรรทุกอย่างให้เอง ไม่ต้องไปพยายามทำอะไร เพื่อที่จะเป็นอะไรๆในสมมุติ เพราะมันแค่เปลือก ไม่ใช่ตามความเป็นจริง

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสต์ เมื่อ: 28 ก.ค. 2012, 17:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
bigtoo เขียน:
ถามจริงๆ พี่โฮ การไม่ยึดของคุณนี่หมายความว่า กินแบบไม่ยึด
เสพเมถุนแบบไม่ยึด คุณลองนึกถึงสภาพที่กิจที่คุณทำสิ มันน่าเกลียดมั้ย

คุณนี่มันเหลือเชื่อเลย ทู่จนทื่อ คุณมาชี้หน้าประนามผม เรื่องกิน เรื่องเสพเมถุน
ที่ผมเงียบๆปล่อยให้คุณพูดอวดตัว คุณรู้มั้ยเหมือนผมกำลังนั่งดูจำอวด

กรุณารู้ไว้ด้วยเรื่องเสพเมถุนกับเมียน่ะ ผมไม่มีครับ ผมกับเมียต่างคนต่างอยู่มาหลายปีแล้ว
เมียผมเขาก็มีครอบครัวใหม่ ผมกับแกก็ยังคบกันเป็นเพื่อน
สรุปก็คือผมเป็นโสดเมียหย่า อยู่ตัวคนเดียว ไม่เคยเที่ยวผู้หญิง
และมีเพื่อนสาวเยอะแต่ไม่เคยคิดทางชู้สาว
ผิดกับคุณครับที่บอกว่าไม่ยุ่งกับเมีย แต่อยู่บ้านเดียวกับเมีย
แล้วเที่ยวบอกชาวบ้านว่าเมียตัวเองสาวและสวย

เรื่องกินผมกินสองมื้อบ้าง สามมื้อบ้างแล้วแต่ว่าวันไหนใช้
พลังงานไปเท่าใด
ผิดกับคุณครับที่บอกกินมื้อเดียว แต่เวลาทำกับข้าวให้เมีย จะได้กลิ่น
หอมหวลของกับข้าวที่กำลังทำ :b32:
bigtoo เขียน:
พระอริยะชั้นต้นนะเขารู้สิ่งเหล่านี้ดีแต่กำลังปัญญาเขายังห้ามกิเลสไม่ได้ที่เขาทำนะ แต่คุณมันมองไม่ออกเลย ก็เลยหมกมุ่นอยู่กับสิ่งสกปรก ก็เลยบอกว่าเสพแบบไม่ยึด

มันเป็นคุณทั้งนั้น คุณสร้างภาพว่าตัวเองดี ถือศีลเนกขัมมะ
มันก็แค่หน้าฉากเท่านั้น หลังฉากมันเน่าครับ
ไม่ยุ่งกับเมียแต่อยู่บ้านเดียวกับเมีย(สงสัยห้องเดียวกันด้วย)
กินข้าวมื้อเดียว แต่ต้องมาทำกับข้าวให้เมียกิน แถมแค่กลิ่นกับข้าวยังหลงเลย

ที่ว่าเสพแบบไม่ยึดน่ะ พูดไปเดียวก็สามวาสองศอก
ไปปฏิบัติให้ละสักกายทิฐิก่อนเถอะ แล้วจะเข้าใจ
พุทโธ่! ยึดกายมาเป็นตัวตนซะเต็มเปายังทำมาอวดดีอีก
bigtoo เขียน:
มันคนละอย่างกันกับพระอริยครับเข้าใจหรือยัง และอาชีพที่เป็นสัมมาอาชีพที่ดีที่สุดท่านรู้มั้ย ก็คืออาชีพนักบวช เพราะอาชีพนักบวชนั้นเป็นอาชีพเหมาะสมแก่การปฎบัติธรรมที่สุด ทำไมต้องขออารหารเขาทาน ทำไมต้องงดเสพเมถุน และระเบียบอื่นๆอีกมากมาย

ตลกจัง นักบวชเป็นอาชีพ ประเด็นเก่ายังหลง นี่ยังสักแต่ว่าพูดอีก
พูดเหมือนคนเมา
กำลังพูดถึงฆราวาส นี่มาพระอย่างโน้นอย่างนี้
ที่เขาขำคุณตลกคุณไม่ใช่ว่าคุณไปทำตามอย่างพระน่ะหรือ
ยังมาย้ำหัวปูตัวเองอีก :b9:

bigtoo เขียน:
ถ้าสิ่งเหล่านั้นมันไม่เป็นอุปสรรคแก่การบรรลุธรรมชั้นสูง ไม่เห็นจะต้องมาบวชเลย ก็น่าจะสอนเฉยๆซิครับ หรือเพียงโกนหัวเฉยๆแล้วก็ทำกับข้ากินเองก็ได้ไม่เห็นจะต้องไปขอเขากินมีมือมีเท้าเหมือนกัน แล้วก็มีเมียมีลูกต่อไป มันน่าจะง่ายกว่า ต้องมาขอเขากินนะ ถ้าคุณไม่บวชก็ไม่เป็นไร ก็ทรงอนุเคราะห์อีกก็ทรงแสดงว่า ฆารวาสนั้นเหมือนเดินอยู่ปากเหว ปาเหวอย่างไร เพราะยังชุ่มด้วยน้ำกามอยู่ และอื่นๆอีกมากมาย ลองโยนิโสดูนะพี่โฮ :b19: :b19: :b19:

ผมว่าคุณเมากลิ่นกับข้าวที่ทำให้เมียอยู่นะครับ
เมาแล้วก็เพ้อเจ้อ ฟังไม่รู้เรื่อง
คุณเที่ยวปะชดปะชันคนอื่น
มันต้องเป็นคุณครับที่ต้องไปบวช คุณเที่ยวอวดอ้างตนว่ากระทำอย่างที่พระทำ
แล้วทำไมไม่ไปบวช มานั่งเคลิ้มกลิ่นกับข้าว กับหน้าตาเมียตัวเองอยู่ได้ :b13:
พี่โฮ โชคดีจังนะที่เป็นโสด ไม่มีใครสนใจเหรอครับ (พูดเล่นนะครับ) คุณนะโขคดีแล้วครับที่เป็นโสดได้ ขออนุโมทนาแบบจริงใจนะครับถ้าไม่มี คนเราถ้าสนทนาธรรมกันแล้วมันต้องจริงใจต่อกันไม่ใช่ว่าจะแสร้ง แล้วแกล้งขำ อวดตนตอนหลัง (ว่าข้านี่แหละโสด คุณมันโง่ )มันไม่ใช่ลูกผู้ชายครับ ถ้าไม่มีก็บอกกันได้ไม่เป็นไร จะได้หาประเด็นใหม่คุยกัน แต่ผมไม่รู้สึกเสียหน้าเลยสักนิดเพราะคำที่ผมพูดไปหั้งหมดผมรู้ว่าอย่างไรคุณก็ไม่มีทางเชื่อใครได้หรอก เพราะคุณมันแก่เกินแกงมันเหมาะเอาไปทำอย่างอื่น เพราะผมอธิบายและสนทนากับคุณนี่เพื่อประโยชน์ของท่านอื่นมากกว่า นะพี่โฮ ถ้าคุณอ่านข้อความของผมดูดีๆๆแล้วคุณจะรู้ว่าผมไม่ตำหนิใครเลยใครจะทำอะไร ก็เป็นสิทธิจะเสพหรือไม่เสพ เพราะผมก็มีปัญญารู้เหมือนกันครับว่าอริยชนเขาก็เสพกามกันอยู่ทั้งนั้น คุณนึกว่าผมเนี่ยไม่รู้มึนขนาดนั้นเหรอครับ แต่ผมกำลังพูดถึงให้ทุกท่านรู้ว่าต้องมีใจโน้มเอียงที่จะออกจากกาม ส่วนจะทำได้แค่ไหนก็แล้วแต่กำลังแต่คุณมาแกล้งทำเป็นให้ผมกล่าวอยู่คนเดียว แล้วเข้าใจผิด แต่ก็ช่างเถอะ มันไม่สำคัญหรอกเพราะทัศนคติที่คุณแสดงออกมันก็บ่งบอกตัวตนท่านเองได้อยู่แล้ว ว่าแค่นี้ยังไม่จริงใจเลย พี่โฮฮับ :b4: :b4: :b4: ส่วนเรื่องทำกับข้าวนั้นผมจะบอกให้นะครับ มันคืออะไรที่ผมนำเสนอ คือว่าคนทุกคนต้องทำหน้าที่ของตนเองให้สมบูรณ์ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรดูความพร้อมเป็นหลัก ผมนะเบื่อจะตายเรื่องแบบนี้ ผมกำลังบอกว่ากำลังของการที่เราปฎบัติธรรมถูกต้องนะมันสามารถวางอุเบกขาได้มากถึงขนาดนี้ กลิ่นของอาหารมันชวนใจขนาดไหนทำไมเราถึงวางใจได้ไม่เข้าไปกิน ทำไมไม่มองประเด็นนี้คุณดันไปคิดลบทันทีว่าอวดตน บ้างท่านเขาคิดดีเขาก็บอกว่าทำใจได้ดี ผมไม่ต้องการคำชมหรอกนะครับมันไม่มีสาระ แม้แต่คำติมันก็ไม่มีสาระ แต่ที่ผมสนทนานั้น อยากให้ทุกท่านได้อ่านแล้วถามตัวเองว่ามีคำชมให้ หรือคำติให้ ถ้าคนนั้นเขามีคำชมคือเขาได้บรรลุธรรมแล้ว แตถ้าใตรเขาติแสดงว่าเขายังไปไม่ถึงไหนเลย นี่คือประด็นทั้งหมดครับ ส่วนเรืองเสพเมถุนนั้นก็เหมือนกัน พี่โฮ

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสต์ เมื่อ: 28 ก.ค. 2012, 17:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:
nongkong เขียน:
ธรรมชาติของมนุษย์ คือเราต้องกิน เราต้องขับถ่าย เราต้องพักผ่อน เราต้องเสพ นี่เป็นธรรมชาติของมนุษย์ อย่างเรื่องเสพเมถุนถ้าเขาอยู่ในศีลไม่ประพฤติผิดในกาม (ผิดศีลข้อ3) ก็ยังถือว่าเค้ามีศีลบริสุทธิ์ไม่ได้ทำตัวน่าเกลียดแต่อย่างไร

แล้วท่านใดมีครอบครัวแล้วไม่ได้เสพเมถุนบ้างเจ้าค่ะ :b13:




ถือว่า แบ่งปันกันนะคะ

เมื่อปฏิบัติต่อเนื่อง สภาวะหรือธรรมะจะจัดสรรทุกอย่างให้เอง

ชีวตครอบครัวของวลัยพร เราสองคน มีนิสัยพฤติกรรมคล้ายคลึงกันหลายๆอย่าง เราสองคนเจอกันเพราะมีเหตุ

ในห้อง ไม่มีเตียงนอน ที่นอนของเราสองคน คือ โซฟาแบบนั่ง ปรับเอนนอนได้ มีคนละตัว

โซฟาที่ใช้อยู่ เป็นทั้งที่นอน และสำหรับทำสมาธิ

สามี ทำตามเหตุปัจจัยของตัวเขาเอง เนื่องจาก กลับดึก ไม่มีเวลามาทำเต็มรูปแบบ อาศัยเดินเข้าที่พัก เป็นการเดินจงกรม อาศัยเวลานอน ทำสมาธิก่อนนอน จนกระทั่งหลับไป


กามราคะ วลัยพร ยังมีอยู่ แค่รู้ไปว่ามันมี สักแต่ว่ามี คือ แค่รู้ว่ามีอยู่

ไม่ต้องไปกดข่มใดๆหรือไปกำหนดให้หายไป หรือต้องไปพยายามทำเพื่อให้หายไป

เพราะ ความมี เกิดขึ้นไม่นาน ก็ดับหายไปเอง



สามีอายุ ๓๒ ปี ทำงานเกี่ยวกับคอมฯ ก่อนที่จะมาอยู่กินด้วยกัน เขาเคยช่วยตัวเองมาก่อน เหตุที่มาอยู่ด้วยกัน เขาต้องการอยากรู้ว่า ช่วยตัวเองกับมีผู้หญิง มันแตกต่างกันยังไง

พอเขารู้แล้วว่าเป็นยังไง เขาบอกว่า มันไม่แตกต่างกันเลย เมื่อถึงแล้ว แล้วกัน เท่านั้นเอง แถมเหนื่อยอีกต่างหาก

ก็อธิบายให้เขาฟัง ทุกอย่าง ล้วนเกิดจากการปรุงแต่ง ถ้ากินของเดิมๆซ้ำๆมันก็เบื่อ ชีวิตคู่ จึงต้องมีการปรุงแต่งตลอดเวลา เหตุของ สามี มีเมียน้อย หรือ ภรรยามีชู้ มีเท่าไหร่ก็ไม่พอ เกิดจากการปรุงแต่งตรงนี้แหละ

เราไม่เคยยุ่งกันมานานแล้ว ชีวิตคู่ ไม่มีปัญหาอะไร เป็นปกติดี สามีเป็นคนไม่เที่ยว ไม่ดื่ม ชอบอยู่แต่ที่ห้อง

วันหยุด เขาชอบทำสมาธิ เข้าสมาธิทีหลายชม. ไม่เคยออกไปไหน


เหตุของแต่ละคน สร้างมาแตกต่างกันไป เส้นทางของแต่ละคน จึงแตกต่างไปตามเหตุปัจจัยที่มีอยู่ และที่กำลังสร้างขึ้นมาใหม่

เพียงพยายาม อย่าสร้างเหตุนอกตัว ปฏิบัติต่อเนื่อง ธรรมจะจัดสรรทุกอย่างให้เอง ไม่ต้องไปพยายามทำอะไร เพื่อที่จะเป็นอะไรๆในสมมุติ เพราะมันแค่เปลือก ไม่ใช่ตามความเป็นจริง
สิ่งที่ท่านกล่าวมานั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องต้องอธิบายให้กันทราบ แลขออนุโมทนาด้วยความจริงใจในเรืองนี้

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสต์ เมื่อ: 28 ก.ค. 2012, 17:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
bigtoo เขียน:
พี่โฮ คลองเขามีไว้สำหรับให้เรือวิ่งนะ ทำไมพี่ชอบถอยหลังเข้าคลองล่ะ เลิกไม่ได้ก็ยอมรับเถอะ อย่ารั้นเลย หัดตื่นมาใส่บาตรพระบ้างเถอะจะได้รู้ความดีมันเป็นอย่างไร พินาจแล้วศาสนาเรา มีคนอย่างท่านหมดกัน ไม่ทำก็ไม่มีใครว่าหรอกนะ :b34: :b34: :b34:

เริ่มพาลแล้วมั้ยล่ะ คุยกันเรื่องไม่ยุ่งกับเมีย กินข้าวมื้อเดียว
ไงไปเรื่องทำบุญใส่บาตร โมโหจนลืมตัว ใส่ร้ายป้ายสี แบบนี้
เขาเรียกมือถือสาก ปากถือศีลครับ ผมว่าเอาศีลห้าให้มันดีก่อนไม่ดีกว่าหรือ
ศีลห้ายังกะพร่องกะแพ่ง ดันมาโม้เรื่องศีลเนกขัมมะ :b32:
ก็เห็นบอกว่ารู้เรื่องนางวิสาขาดีไง เพราะนางวิสาขาเขาทำบุญทุกวันนะครับ ก็เลยปลุกให้ลุกมาตักบาตรบ้างก็เท่านั้นเองอิๆๆ :b12: :b12: แล้วยังช่วยตัวเองอยู่หรือเปล่าช่วยตอบด้วยครับ :b12: :b12:

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสต์ เมื่อ: 28 ก.ค. 2012, 18:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


คุนน้องอยากรู้สภาวะของนักปฏิบัติธรรมที่บอกไม่ยุ่งเรื่อง กามราคะ โดยเฉพาะผู้ชาย ท่านบิ๊กทู่น่าจะให้คำตอบคุนน้องได้นะเจ้าค่ะ คือคุนน้องไม่รู้สึกอยากในเรื่องกามราคะ..แล้วก็ไม่ได้ช่วยตัวเอง..แต่วันดีคืนดีคุนน้องก็ฝันเรื่องอย่างนั้นขึ้นมาเฉยๆ..แล้วนึกว่าเป็นเรื่องจริง..แล้วคุนน้องตื่นขึ้นมารู้สึกตกใจเหมือนกันคิดว่าเป็นเรื่องจริง..ตั้งแต่สามีเสียคุนน้องก็ฝันเรื่องแบบนั้นหลายครั้งแล้ว แต่ตามความเป็นจริงคุนน้องไม่เคยทำเลย.
หลังจากนั้นคุนน้องก็รู้สึกโฮโมนตัวเองเปลี่ยน..คือรอบเดือนไม่มาไม่รู้เพราะเหตุใด..แล้วผุ้ชายที่ไม่เสพเมถุนจะฝันไหมเจ้าค่ะ..
s006


โพสต์ เมื่อ: 28 ก.ค. 2012, 18:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ศีล ๕ ข้อ ๓ ได้แก่ กาเมสุ มิจฉาจารา เวรมณี - ใครมีสามีภรรยาของตนเองก็ว่ากันไป เพราะไม่ทำให้สังคมหรือใครเดือดร้อน

ส่วนศีล ๘ ข้อ ๓ ได้แก่ อะพรัหมะจะริยา เวรมณี- เมื่อสมาทานอุโบสถศีลชั่ววันหนึ่งคืนหนึ่งแล้วก็งดเว้นจากเมถุนธรรมชั่ววันและคืนนั้น เป็นการฝึกฝนตนเอง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 28 ก.ค. 2012, 18:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
คุนน้องอยากรู้สภาวะของนักปฏิบัติธรรมที่บอกไม่ยุ่งเรื่อง กามราคะ โดยเฉพาะผู้ชาย ท่านบิ๊กทู่น่าจะให้คำตอบคุนน้องได้นะเจ้าค่ะ คือคุนน้องไม่รู้สึกอยากในเรื่องกามราคะ..แล้วก็ไม่ได้ช่วยตัวเอง..แต่วันดีคืนดีคุนน้องก็ฝันเรื่องอย่างนั้นขึ้นมาเฉยๆ..แล้วนึกว่าเป็นเรื่องจริง..แล้วคุนน้องตื่นขึ้นมารู้สึกตกใจเหมือนกันคิดว่าเป็นเรื่องจริง..ตั้งแต่สามีเสียคุนน้องก็ฝันเรื่องแบบนั้นหลายครั้งแล้ว แต่ตามความเป็นจริงคุนน้องไม่เคยทำเลย.
หลังจากนั้นคุนน้องก็รู้สึกโฮโมนตัวเองเปลี่ยน..คือรอบเดือนไม่มาไม่รู้เพราะเหตุใด..แล้วผุ้ชายที่ไม่เสพเมถุนจะฝันไหมเจ้าค่ะ..
s006
ที่จริงแล้วผมจะอธิบายนะครับการที่เราปรารถนาพระนิพพานนั้นเราต้องรู้ว่าอะไรเป็นกิเลสและอะไรเป็นสิ่งที่เอื้อให้กิเลสเกิดได้ อย่างเช่นการเสพเมถุนนี้เป็นกิเลสเป็นสังโยชน์คือเครื่องร้อยรัดไม่ให้เราหลุดพ้นได้ อย่างไรก็ต้องละ ถ้าละตัวนี้ไม่ได้ บรรลุอนาคามีไม่ได้ นักปฎิบัตธรรมจะรู้กันทุกคนและเขาก็น้อมใจปฎิบัติเพื่อการละสิ่งนี้ แต่การฝันนั้นเป็นธรรมดาครับ ใครๆก็ฝันไม่ผิด หรือจะมีเพศสัมพันธ์ก็ไม่ผิดอะไร เพียงอย่าผิดศิล ผู้ชายส่วนใหญ่เขาก็ทำกันทั้งนั้น แต่ได้ชื่อว่าปรารถนาพระนิพพานแล้วเขามักจะยับยั้งใจกันได้มากทีเดียว ไม่ใช่นึกอยากขึ้นมาก็จัดการอย่างนั้นมันยังใช่ไม่ได้ แต่ถ้ามันสุดที่จะทนก็ไม่เป็นอะไรเลยครบ ตัวผมเองปรารถนาพระนิพพานเป็นที่สุดผมไม่ปรารถนาสิ่งใดในชีวิตผมมีมาหมดทุกอย่างทั้งชื่อเสียง เงินทองมันก็แค่นั้น ต่ำ จนสูง สูงจนต่ำผมผ่านมาหมดแล้ว ผมอธิฐานไม่เสพตลอดชีวตแม้แต่ช่วยตัวเอง มนุษย์ผู้มีปัญญาเขาสามารถขีดเส้นให้ชีวิตเดินได้ครับ ไม่ใช่เป็นการยึดติดครับ เวลามันเกิดเราก็พิจารณาสิ่งใดเกิดย่อมมีการดับเป็นธรรมดา มันก็ดับจริงๆนั้นแหละครับ 6เดือนแล้วครับไม่ฝันเลยไม่ช่วยตัวเองด้วย (แขกมาเยี่ยมบ้านเราไม่ต้อนรับเดียวมันก็กลับครับเชื่อผมเถอะ ทำบ่อยๆๆกิเลสมันก็หมดแรง) มันจะชนะเราได้อย่างไร เราเป็นคนนะครับเรามีสมองเรามีปัญญาสู้ๆๆครับ :b4: :b4:

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสต์ เมื่อ: 28 ก.ค. 2012, 18:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จะสุขง่าย ทุกข์ได้ยาก หากฝึกไว้

ความสุขประเภทแรก คือ ความสุขจากการเสพ ความสุขอิงอามิส หรือ กามสุข นั้น เป็นเรื่องใหญ่ที่สุดของโลกมนุษย์ ต้องระวังที่จะจัดการให้ดี เพราะเป็นความสุขแบบแย่งกัน จึงต้องรู้จักควบคุม

ดังที่ตรัสศีล ๕ ไว้ ก็เพื่อมาคุมเรื่องการหา และการเสพวัตถุ ให้อยู่ในขอบเขต จะหาจะเสพกันแค่ไหน จะแข่งจะแย่งชิงกันไป ก็อย่าให้ถึงกับเดือดร้อนนักหนา เบียดเบียนกันจนเป็นยุคมิคสัญญี


เมื่อมนุษย์อยู่ในศีล ๕ ก็พออยู่กันไปได้ แต่ไม่เป็นหลักประกันว่าจะมีความสุขอะไรได้มาก

ถ้าจะให้ชีวิต และสังคมดีขึ้น ก็ต้องพัฒนากันต่อไป ท่านจึงบอกศีล ๘ ให้เอามาฝึกตนเพิ่มขึ้น

หลักการของศีล ๘ นั้น ก็คือ ว่าหลังจากเราปล่อยตัว หาความสุขจากการพึ่งพาวัตถุเสพมา ๗ หรือ ๘ วันแล้ว ก็ขอพักเสียวันหนึ่ง มาอยู่ง่ายๆอาศัยวัตถุ หรือของเสพน้อยๆ และเอาเวลาที่จะบำรุงบำเรอตัวเองนั้นไปทำประโยชน์อย่างอื่น โดยให้เป็นวันรักษาศีล ๘ วันหนึ่ง ตามหลักที่เรียกว่าถืออุโบสถ ในวันขึ้น ๘ และ ๑๕ ค่ำ แรม ๘ และ ๑๔ หรือ ๑๕ ค่ำ รวมเป็นเดือนละแค่ ๔ วัน


ดูต่อที่

http://fws.cc/whatisnippana/index.php?t ... 3#msg15113

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 29 ก.ค. 2012, 10:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
พี่โฮ โชคดีจังนะที่เป็นโสด ไม่มีใครสนใจเหรอครับ (พูดเล่นนะครับ) คุณนะโขคดีแล้วครับที่เป็นโสดได้ ขออนุโมทนาแบบจริงใจนะครับถ้าไม่มี คนเราถ้าสนทนาธรรมกันแล้วมันต้องจริงใจต่อกันไม่ใช่ว่าจะแสร้ง แล้วแกล้งขำ อวดตนตอนหลัง (ว่าข้านี่แหละโสด คุณมันโง่ )มันไม่ใช่ลูกผู้ชายครับ ถ้าไม่มีก็บอกกันได้ไม่เป็นไร จะได้หาประเด็นใหม่คุยกัน

กรุณามีสติก่อนที่จะโวยวาย มันเป็นคุณที่เป็นต้นเรื่อง มาอวดว่า การกระทำของตัวเอง
เป็นการปฏิบัติของผู้ที่บรรลุธรรม ผมเห็นว่ามันไม่ใช่สิ่งที่คุณกำลังปฏิบัติมันเป็นการหลงในกิเลส
หลงเรื่องของศีลพรตปรามาส

ผมเข้ามาชี้แนะ ให้รู้ว่าในสิ่งที่คุณทำมันผิดหลักคำสอนของพุทธองค์
เท่ากับว่าผมกำลังสอนคุณ และความหมายของการสอน
นั้นก็คือต้องชี้ให้เห็นว่า อีกฝ่ายกำลังหลงปฏิบัติผิด แล้วจะทำอย่างไรถ้าไม่ชี้ให้เห็นในสิ่งที่ผิด
ครูผู้สอนจะสอนได้ต้องมีประสบการณ์ในสิ่งที่ตัวสอน ความหมายก็คือเคยผิดมาก่อน

คุณบิกทู่ครับผมกำลังจะชี้ให้คุณรู้ว่า คุณผิดตรงไหน
แล้วทำไมผมต้องเอาสิ่งที่ถูกมาอวดคุณก่อนครับ มันต้องเอาสิ่งผมเคยผิด
และมันเป็นประสบการณ์มาสอนไม่ใช่หรือครับ


ถ้าผมเอาสิ่งที่คุณยังไม่เคยเห็นมาบอกคุณก่อน
คุณจะเชื่อหรือครับ

สมมุติมีคนสองคนมาพูดเรื่องโทษของการสูบบุหรี่
คนหนึ่งเป็นโรคถุงลมโป่งพองเพราะสูบบุหรี่ กับอีกคนที่ไม่เคยสูบบุหรี่
ถามหน่อยคุณจะเชื่อใครครับ


คุณบิกทู่ครับ คิดก่อนแล้วค่อยพูดก็ได้ แล้ววิธีการคิดก็อย่าใส่กิเลสตัวเองลงไป
มันเป็นอกุศล ถึงคุณจะเสแสร้งดัดแปลงคำพูดอย่างไรก็ตาม

ตั้งสติใหม่ให้ดีนะครับว่า ผมกำลังสอนธรรมคุณ
ผมไม่ได้มาเถียงธรรมว่าของคุณผิดของผมถูก

bigtoo เขียน:
ถ้าไม่มีก็บอกกันได้ไม่เป็นไร จะได้หาประเด็นใหม่คุยกัน

คุณนี่แค่สมาธิง่ายๆ คุณยังไม่มีเลยยังมีหน้ามาโม้ว่าบรรลุธรรม
ผมบอกคุณหรือว่าผมไม่มีเมีย คุณฟังภาษาธรรมดาๆมันเป็นใช่มั้ย
ผมบอกว่าผมเคยมีเมีย แต่ได้อย่ากันแล้ว คุณมาว่าประเด็นใหม่ได้ไง
มันเป็นเพราะคุณไม่มีปัญญาในการพิจารณาธรรม มันมีเหตุปัจจัยของมัน
ดันมาบอกให้ตั้งประเด็นใหม่

มันเป็นเพราะคุณกำลังหลงเพลินกับกิเลส คิดว่าสิ่งที่ตัวทำเป็นสิ่งที่ถูก
คุณทำได้คนอื่นทำไม่ได้ ทำไมผมพูดแบบนี้ ก็เพราะคุณคิดว่าผมปฏิบัติแบบคุณ
แล้วผมทำไม่ได้ไง เลยคิดว่าผมมีเมียและผมกินอาหารวันละหลายๆมื้อ

วิธีการคิดของคุณคุณยึดเอาตัวเองเป็นใหญ่ ผมถึงบอกว่า
คุณชอบเอากิเลสตัวเองไปให้คนอื่น
ส่วนผมคิดโดยเอาคุณเป็นใหญ่ครับ ถึงได้พูดแต่เรื่องปฏิบัติของคุณ
ที่ผมพูดได้เพราะมันเป็นประสบการณ์ของผม เข้าใจมั้ย

bigtoo เขียน:
แต่ผมไม่รู้สึกเสียหน้าเลยสักนิดเพราะคำที่ผมพูดไปหั้งหมดผมรู้ว่าอย่างไรคุณก็ไม่มีทางเชื่อใครได้หรอก เพราะคุณมันแก่เกินแกงมันเหมาะเอาไปทำอย่างอื่น

คุณยังไม่รู้ถึงสถานะอีกนะครับ ผมจะไปเชื่อคุณทำไม ผมกำลังมาบอกคุณว่า
สิ่งที่คุณกำลังทำมันไม่ใช่การบรรลุมันเป็นกิเลส แล้วที่ผมสามารถบอกคุณได้ก็เพราะ
ผมเคยทำมาแล้ว ว่าผมแก่เกินแกงไม่เป็นไรครับ เพราะผมเป็นไงผมรู้ตัวดี
แต่คุณนะซิครับ .....
ไก่อ่อนพึ่งสอนขัน ผมเข้ามาสอนให้ขันก็ไม่เอา ร้องก้าบๆๆเป็นเป็ดอยู่นั้นแหล่ะ :b32:


โพสต์ เมื่อ: 29 ก.ค. 2012, 10:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
bigtoo เขียน:
พี่โฮ โชคดีจังนะที่เป็นโสด ไม่มีใครสนใจเหรอครับ (พูดเล่นนะครับ) คุณนะโขคดีแล้วครับที่เป็นโสดได้ ขออนุโมทนาแบบจริงใจนะครับถ้าไม่มี คนเราถ้าสนทนาธรรมกันแล้วมันต้องจริงใจต่อกันไม่ใช่ว่าจะแสร้ง แล้วแกล้งขำ อวดตนตอนหลัง (ว่าข้านี่แหละโสด คุณมันโง่ )มันไม่ใช่ลูกผู้ชายครับ ถ้าไม่มีก็บอกกันได้ไม่เป็นไร จะได้หาประเด็นใหม่คุยกัน
กรุณามีสติก่อนที่จะโวยวาย มันเป็นคุณที่เป็นต้นเรื่อง มาอวดว่า การกระทำของตัวเอง เป็นการปฏิบัติของผู้ที่บรรลุธรรม ผมเห็นว่ามันไม่ใช่สิ่งที่คุณกำลังปฏิบัติมันเป็นการหลงในกิเลส หลงเรื่องของศีลพรตปรามาส ผมเข้ามาชี้แนะ ให้รู้ว่าในสิ่งที่คุณทำมันผิดหลักคำสอนของพุทธองค์ เท่ากับว่าผมกำลังสอนคุณ และความหมายของการสอน นั้นก็คือต้องชี้ให้เห็นว่า อีกฝ่ายกำลังหลงปฏิบัติผิด แล้วจะทำอย่างไรถ้าไม่ชี้ให้เห็นในสิ่งที่ผิด ครูผู้สอนจะสอนได้ต้องมีประสบการณ์ในสิ่งที่ตัวสอน ความหมายก็คือเคยผิดมาก่อน คุณบิกทู่ครับผมกำลังจะชี้ให้คุณรู้ว่า คุณผิดตรงไหน แล้วทำไมผมต้องเอาสิ่งที่ถูกมาอวดคุณก่อนครับ มันต้องเอาสิ่งผมเคยผิด และมันเป็นประสบการณ์มาสอนไม่ใช่หรือครับ ถ้าผมเอาสิ่งที่คุณยังไม่เคยเห็นมาบอกคุณก่อน คุณจะเชื่อหรือครับ สมมุติมีคนสองคนมาพูดเรื่องโทษของการสูบบุหรี่ คนหนึ่งเป็นโรคถุงลมโป่งพองเพราะสูบบุหรี่ กับอีกคนที่ไม่เคยสูบบุหรี่ ถามหน่อยคุณจะเชื่อใครครับ คุณบิกทู่ครับ คิดก่อนแล้วค่อยพูดก็ได้ แล้ววิธีการคิดก็อย่าใส่กิเลสตัวเองลงไป มันเป็นอกุศล ถึงคุณจะเสแสร้งดัดแปลงคำพูดอย่างไรก็ตาม ตั้งสติใหม่ให้ดีนะครับว่า ผมกำลังสอนธรรมคุณ ผมไม่ได้มาเถียงธรรมว่าของคุณผิดของผมถูก
bigtoo เขียน:
ถ้าไม่มีก็บอกกันได้ไม่เป็นไร จะได้หาประเด็นใหม่คุยกัน
คุณนี่แค่สมาธิง่ายๆ คุณยังไม่มีเลยยังมีหน้ามาโม้ว่าบรรลุธรรม ผมบอกคุณหรือว่าผมไม่มีเมีย คุณฟังภาษาธรรมดาๆมันเป็นใช่มั้ย ผมบอกว่าผมเคยมีเมีย แต่ได้อย่ากันแล้ว คุณมาว่าประเด็นใหม่ได้ไง มันเป็นเพราะคุณไม่มีปัญญาในการพิจารณาธรรม มันมีเหตุปัจจัยของมัน ดันมาบอกให้ตั้งประเด็นใหม่ มันเป็นเพราะคุณกำลังหลงเพลินกับกิเลส คิดว่าสิ่งที่ตัวทำเป็นสิ่งที่ถูก คุณทำได้คนอื่นทำไม่ได้ ทำไมผมพูดแบบนี้ ก็เพราะคุณคิดว่าผมปฏิบัติแบบคุณ แล้วผมทำไม่ได้ไง เลยคิดว่าผมมีเมียและผมกินอาหารวันละหลายๆมื้อ วิธีการคิดของคุณคุณยึดเอาตัวเองเป็นใหญ่ ผมถึงบอกว่า คุณชอบเอากิเลสตัวเองไปให้คนอื่น ส่วนผมคิดโดยเอาคุณเป็นใหญ่ครับ ถึงได้พูดแต่เรื่องปฏิบัติของคุณ ที่ผมพูดได้เพราะมันเป็นประสบการณ์ของผม เข้าใจมั้ย
bigtoo เขียน:
แต่ผมไม่รู้สึกเสียหน้าเลยสักนิดเพราะคำที่ผมพูดไปหั้งหมดผมรู้ว่าอย่างไรคุณก็ไม่มีทางเชื่อใครได้หรอก เพราะคุณมันแก่เกินแกงมันเหมาะเอาไปทำอย่างอื่น
คุณยังไม่รู้ถึงสถานะอีกนะครับ ผมจะไปเชื่อคุณทำไม ผมกำลังมาบอกคุณว่า สิ่งที่คุณกำลังทำมันไม่ใช่การบรรลุมันเป็นกิเลส แล้วที่ผมสามารถบอกคุณได้ก็เพราะ ผมเคยทำมาแล้ว ว่าผมแก่เกินแกงไม่เป็นไรครับ เพราะผมเป็นไงผมรู้ตัวดี แต่คุณนะซิครับ ..... ไก่อ่อนพึ่งสอนขัน ผมเข้ามาสอนให้ขันก็ไม่เอา ร้องก้าบๆๆเป็นเป็ดอยู่นั้นแหล่ะ :b32:
ผมบอกว่าผมไม่ยุ่งกับเมีย ผมกินอาหารมื้อเดียวมันผิดตรงไหรเหรอครับ :b19: ผมไม่ได้บอกว่าใครไม่ทำอย่างผมมันผิดผมก็ได้เขียนไว้หมดแล้ว :b13: ทำไม่ได้มาสอนคนทำได้ ว่าผิดว่าหลง ความเห็นผมมันไปโดยส่วนไหนของคุณ คุณถึงปี๊ดขึ้นมาสอนผม ผมบอกแล้วไงว่าถ้าใครได้เห็นคำที่ผมกล่าว ผู้ที่บรรลุธรรมเขาจะอะนุโมทนา แม้ผมที่กล่าวนั้นอาจจะยังไม่สำเร็จ แต่คุณดันมาบอกว่าเขาผิด ต้องความคิดอย่างคุณถึงถูก แล้วคุณก็อธิบายมันเป็นอย่างนั้นว่าเสพได้อย่างไม่ต้องสนใจเพียงไม่ยึดติดตรงนี้ต่างหากที่มันเป็นประเด็น คุณไม่รู้ก็บอกมาเถอะ คุณรู้มั้ยครับสิ่งไหนที่พระองค์ทรงบัญญ้ตินั้นคือสิ่งที่ดีที่สุด และผมก็ทำตามได้ในสิ่งที่พระองค์ทรงแสดง ผมมันหลงตรงไหน ส่วนคุณทำได้น้อยกว่าผมยังมาสอนผมมันถูกทางมั้ย คิดว่าผมอวด คนที่คิดว่าคนอื่นอวดตน นะมันเป็นความคิดอย่างไรครับ ตอบตัวเองก็แล้วกัน :b34: ไม่ใช่ว่าผมจะไม่รับฟังความเห็นผู้อื่หรอกครับ ท่านอื่นเขาก็ตอบโต้เหมือนกันทำไมผมถึงไม่ได้แย้งกับท่านอื่นละครับเพราะท่านอื่นเขาอาจจะทำได้หรือยังทำไม่ได้เขาก็โน้นเอียงเพื่อจะพัฒนาให้ถึงตรงนั้น บ้าไปแล้วแน่ไลยพี่โฮ ผมจะบอกอะไรให้ถ้าสมองน้อยจะได้ไม่ต้องคิดมาก ทำตามศิลในปราติโมกข์นั้นแหละทางที่ดีที่สุด แปลเองเดี๋ยวก็มั่วอีก :b34: :b34: :b34:

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสต์ เมื่อ: 29 ก.ค. 2012, 11:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
bigtoo เขียน:
พี่โฮ โชคดีจังนะที่เป็นโสด ไม่มีใครสนใจเหรอครับ (พูดเล่นนะครับ) คุณนะโขคดีแล้วครับที่เป็นโสดได้ ขออนุโมทนาแบบจริงใจนะครับถ้าไม่มี คนเราถ้าสนทนาธรรมกันแล้วมันต้องจริงใจต่อกันไม่ใช่ว่าจะแสร้ง แล้วแกล้งขำ อวดตนตอนหลัง (ว่าข้านี่แหละโสด คุณมันโง่ )มันไม่ใช่ลูกผู้ชายครับ ถ้าไม่มีก็บอกกันได้ไม่เป็นไร จะได้หาประเด็นใหม่คุยกัน

กรุณามีสติก่อนที่จะโวยวาย มันเป็นคุณที่เป็นต้นเรื่อง มาอวดว่า การกระทำของตัวเอง
เป็นการปฏิบัติของผู้ที่บรรลุธรรม ผมเห็นว่ามันไม่ใช่สิ่งที่คุณกำลังปฏิบัติมันเป็นการหลงในกิเลส
หลงเรื่องของศีลพรตปรามาส

ผมเข้ามาชี้แนะ ให้รู้ว่าในสิ่งที่คุณทำมันผิดหลักคำสอนของพุทธองค์
เท่ากับว่าผมกำลังสอนคุณ และความหมายของการสอน
นั้นก็คือต้องชี้ให้เห็นว่า อีกฝ่ายกำลังหลงปฏิบัติผิด แล้วจะทำอย่างไรถ้าไม่ชี้ให้เห็นในสิ่งที่ผิด
ครูผู้สอนจะสอนได้ต้องมีประสบการณ์ในสิ่งที่ตัวสอน ความหมายก็คือเคยผิดมาก่อน

คุณบิกทู่ครับผมกำลังจะชี้ให้คุณรู้ว่า คุณผิดตรงไหน
แล้วทำไมผมต้องเอาสิ่งที่ถูกมาอวดคุณก่อนครับ มันต้องเอาสิ่งผมเคยผิด
และมันเป็นประสบการณ์มาสอนไม่ใช่หรือครับ


ถ้าผมเอาสิ่งที่คุณยังไม่เคยเห็นมาบอกคุณก่อน
คุณจะเชื่อหรือครับ

สมมุติมีคนสองคนมาพูดเรื่องโทษของการสูบบุหรี่
คนหนึ่งเป็นโรคถุงลมโป่งพองเพราะสูบบุหรี่ กับอีกคนที่ไม่เคยสูบบุหรี่
ถามหน่อยคุณจะเชื่อใครครับ


คุณบิกทู่ครับ คิดก่อนแล้วค่อยพูดก็ได้ แล้ววิธีการคิดก็อย่าใส่กิเลสตัวเองลงไป
มันเป็นอกุศล ถึงคุณจะเสแสร้งดัดแปลงคำพูดอย่างไรก็ตาม

ตั้งสติใหม่ให้ดีนะครับว่า ผมกำลังสอนธรรมคุณ
ผมไม่ได้มาเถียงธรรมว่าของคุณผิดของผมถูก

bigtoo เขียน:
ถ้าไม่มีก็บอกกันได้ไม่เป็นไร จะได้หาประเด็นใหม่คุยกัน

คุณนี่แค่สมาธิง่ายๆ คุณยังไม่มีเลยยังมีหน้ามาโม้ว่าบรรลุธรรม
ผมบอกคุณหรือว่าผมไม่มีเมีย คุณฟังภาษาธรรมดาๆมันเป็นใช่มั้ย
ผมบอกว่าผมเคยมีเมีย แต่ได้อย่ากันแล้ว คุณมาว่าประเด็นใหม่ได้ไง
มันเป็นเพราะคุณไม่มีปัญญาในการพิจารณาธรรม มันมีเหตุปัจจัยของมัน
ดันมาบอกให้ตั้งประเด็นใหม่

มันเป็นเพราะคุณกำลังหลงเพลินกับกิเลส คิดว่าสิ่งที่ตัวทำเป็นสิ่งที่ถูก
คุณทำได้คนอื่นทำไม่ได้ ทำไมผมพูดแบบนี้ ก็เพราะคุณคิดว่าผมปฏิบัติแบบคุณ
แล้วผมทำไม่ได้ไง เลยคิดว่าผมมีเมียและผมกินอาหารวันละหลายๆมื้อ

วิธีการคิดของคุณคุณยึดเอาตัวเองเป็นใหญ่ ผมถึงบอกว่า
คุณชอบเอากิเลสตัวเองไปให้คนอื่น
ส่วนผมคิดโดยเอาคุณเป็นใหญ่ครับ ถึงได้พูดแต่เรื่องปฏิบัติของคุณ
ที่ผมพูดได้เพราะมันเป็นประสบการณ์ของผม เข้าใจมั้ย

bigtoo เขียน:
แต่ผมไม่รู้สึกเสียหน้าเลยสักนิดเพราะคำที่ผมพูดไปหั้งหมดผมรู้ว่าอย่างไรคุณก็ไม่มีทางเชื่อใครได้หรอก เพราะคุณมันแก่เกินแกงมันเหมาะเอาไปทำอย่างอื่น

คุณยังไม่รู้ถึงสถานะอีกนะครับ ผมจะไปเชื่อคุณทำไม ผมกำลังมาบอกคุณว่า
สิ่งที่คุณกำลังทำมันไม่ใช่การบรรลุมันเป็นกิเลส แล้วที่ผมสามารถบอกคุณได้ก็เพราะ
ผมเคยทำมาแล้ว ว่าผมแก่เกินแกงไม่เป็นไรครับ เพราะผมเป็นไงผมรู้ตัวดี
แต่คุณนะซิครับ .....
ไก่อ่อนพึ่งสอนขัน ผมเข้ามาสอนให้ขันก็ไม่เอา ร้องก้าบๆๆเป็นเป็ดอยู่นั้นแหล่ะ :b32:
และส่วนที่คุณบอกว่าคุณมีประสบการณ์มาแล้วคุณคิดได้อย่างไรว่าประสบการณ์นั้นของคุณถูก ผมถามหน่อย ทำไม่ได้แล้วยังมาว่ามีประสบการณ์ว่ามันถูก แล้วคิดอย่างไรว่าผมไม่มีประสบการณ์ จะให้ต้องบอกมั้ยว่าผมเคยเป็นใคร ประสบการณ์แค่ไหน คงไม่ต้องมั้งครับเพราะมันไม่มีประโยชน์ คุณดูอย่างคุณวิไลพรซิครับ ผมยังอนุโมทนาเลย เพราะสิ่งที่ท่านทำมันเป็นส่งที่ดี ถึงแม้ท่านจะสำเร็จะธรรมหรือไม่สำเร็จ ส่งไหนดีก็ว่าดีน่าอนุโมทนา ประเด็นที่ว่าผมคิดว่าคุณมีเมียหรือกินข้าวหลายมื้อนั้น นั้นไม่สำคัญหรอกประเด็นมันอยู่ตรงคุณโต้แย้งเรื่องการกิน การเสพต่างหากครับ พี่โฮอับ :b4: :b4: :b4:และถ้าใคร มาบอกว่าเสพแบบไม่ยึด ก็ต้องสนทนากันหน่อย ปฎบัตธรรมนะ กินได้ เสพได้ไม่ผิดแต่ต้องมีใจโน้มเอียงที่จะออกครับ มันถึงถูกทางถูกความคิด :b34: :b34: :b34: (ไม่ใช่ว่าข้านี่หลุดพ้นแล้ว อะไรก็ได้อิๆๆๆๆ ถ้าไม่ใช่ความคิดท่านก็ไม่ต้องไปสนใจมันหรอกครับ)

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 153 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8 ... 11  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร