วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 02:56  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 40 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ส.ค. 2012, 02:29 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ค. 2012, 21:02
โพสต์: 127


 ข้อมูลส่วนตัว


ละครน้ำเน่า เขียน:
nongkong เขียน:
ละครน้ำเน่า เขียน:
nongkong เขียน:
ตลกกว่านั้นอีกเจ้าค่ะ ตลกแบบไร้คำบรรยายโดยไม่ต้องพูดให้มากความ :b32: เวปนี้นี้สำหรับคนที่ตบะแก่กล้าพอแล้ว เข้าไปอ่านเอาฮาๆเท่านั้น ตลกดีเจ้าค่ะ (สำหรับคุนน้องนะ)มันไม่เหมาะกับท่านตะวันหรอกเจ้าค่ะ แต่ไม่ใช่เว๊ปโป๊นะบอกไว้ก่อน นึกภาพออกม่ะ เราอยู่ข้างบนแล้วก้มลงมองคนอื่นเข้าทำโน่นทำนี่แล้วเราก็นั่งหัวเราะพวกเค้าอยู่ อะไรแบบนั้นแหละ :b13:


ละครน้ำเน่า เขียน:

:b17:

แล้วเห็นจิตตัวเองตอนขำมั๊ยครับ :b12:


nongkong เขียน:
ไม่รู้ค่ะ ขำอยู่ :b32: มะคืนดูคลิปผีในยูทูปจนถึงตี3 แต่ไม่ฝันเห็นผี :b13: มีใครอยากดูเป็นเพื่อนคุนน้องมั้ยค่ะ :b12:


ละครน้ำเน่า เขียน:

:b12: ไม่รู้ เพราะเราเพลินไหลไปกับอารมณ์ ลืมลมหายใจ ลืมฐานที่ตั้งของจิต
ถ้าตายตอนนั้นจิตจะเกาะอารมณ์นั้น

มาฝึกดูจิตในชีวิตประจำวันกันดีกว่า
มาแอบดูพฤติกรรมของจิต ดูอารมณ์ที่เกิดเมื่อมีสิ่งมากระทบ
ดูแบบไม่ต้องตั้งใจ เฝ้ามองอยู่ห่างๆ แต่ไม่เผลอ และไม่ลืมลมหายใจ

เหมือนเราปล่อยลูกไว้แล้วเราทำงาน แต่เราก็คอยมองคอยดูลูกอยู่ห่างๆ
ลูกทำอะไรเราก็รู้ประมาณนั้นนะครับ

ลองดูนะครับ :b38:

ละครน้ำเน่า เขียน:
ครับ
การดูจิตนี้จะช่วยให้เรามีสติรู้เท่าทันอารมณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์อะไรที่เกิดขึ้น
เราจะไม่ไหลตามอารมณ์ มีสติยับยั้ง และเห็นการเกิดดับของจิต

ฝึกไปเรื่อยๆ จนชำนาญ จนเมื่ออารมณ์เกิดขึ้นเราจะแค่รับรู้แล้ววางได้ทันที
อารมณ์ที่เกิดนั้นจะเป็นเหมือนกับVDOที่คุณน้องดูแล้วหัวเราะยังงัยยังงั้น

เป็นอีกวิธีที่ทำได้ในชีวิตประจำวัน


ตะวัน เขียน:

ถ้าไปดูอะไรแล้วถึงขั้นเพลินหรือถึงขั้นขำแล้วนั่นน่ะ
ผมว่าถึงจะดูจิตยังไงดูขนาดไหนก็เอาไม่อยู่แล้วล่ะครับ ท่านละครฯ
นอกจากผู้ที่ท่านเก่งจริงๆปฏิบัติธรรมถึงขั้นระดับสูงจริงๆ
ถึงจะใช้การ...ดูจิต...เอาอยู่ ที่ว่าเอาอยู่คือท่านจะไม่เพลิดเพลินไปตามนั่นเอง

ถ้ายังอยู่ในระดับที่รู้ว่าตัวเองยังมีกิเลสเต็มอกอยู่ในใจ
ทางที่ดีที่สุดก็คือต้องงดการดูหนังฟังเพลง
หรือไม่ไปดูสิ่งที่มอมเมาย้อมใจให้ได้เลยต่างหาก

มันจะเป็นไปได้เหรอที่บอกว่า....ให้กินเหล้าอย่างมีสติอย่าให้เมานะนั่นน่ะ....
พวก..ดูหนังดูคลิปฟังเพลงเล่นเกม...อะไรพวกนี้มันก็เปรียบได้เหมือนกันกับเหล้านั่นแหละไม่ผิดกันเลย
เป็นพวกที่ทำให้จิตใจลุ่มหลงมัวเมาได้เหมือนกันกับเหล้า ทำลายจิตใจได้เหมือนกับเหล้า
เหล้าถ้าได้กินแล้วมันก็เมาหมดนั่นแหละ
ไม่มีใครหรอกที่ถ้ายังมีกิเลสอยู่
ถ้าได้ลงอวดดีไปกินเหล้าแล้วจะไม่เมานั่นน่ะ

นอกจากพระอริยเจ้าก็ว่าไปอีกอย่าง
แล้วตัวเองเป็นพระอริยเจ้าหรือยังล่ะ???
ขนาดพระอริยเจ้าท่านก็ยังไม่แตะนะพวกเหล้าพวกมอมเมาอะไรต่างๆ

พวกดูหนังฟังเพลงเล่นเกม
มันผิดศีลข้อเจ็ดของศีลแปดนะให้รู้เอาไว้ด้วย

มันเป็นสิ่งมอมเมาจิตใจไม่ผิดกันกับเหล้าหรอก
เหล้าใครกินแล้วมันก็ต้องเมาทั้งนั้นแหละ นอกจากพระอริยเจ้าอันนั้นท่านไม่เกี่ยว

อะไรที่มันมอมเมาย้อมใจเราให้หลงเพลินขาดสติไปตาม
ก็ต้องได้งดได้ละเลิก
หรือพยายามละเว้นหลีกเลี่ยงให้ได้มากที่สุดถึงจะถูก

แล้วให้กำหนดดูใจให้รู้อยู่กับ...พุทโธๆๆๆ...จะดีที่สุด
หรือจะให้กำหนดดูใจให้อยู่กับลมหายใจแบบ...
หายใจเข้าก็ว่า...พุท...
หายใจออกก็ว่า...โธ...แทนก็ได้

ผมว่าแค่....ฝึกดูจิต...อย่างเดียวไม่พอหรอก
ต้องอาศัย....สังวรธรรม...เข้ามาช่วยด้วย
ถึงจะเอาอยู่


จะดูจิตไปด้วยดูหนังดูละครไปด้วยมันจะเอากิเลสอยู่ได้ยังงัย
เพราะแค่ห้ามอาการทางกายไม่ให้ไปจ้องมองดูก็ยังห้ามไม่ได้
แล้วยิ่งจะไปห้ามใจไม่ให้ไปหลงเพลินไปตามหนังตามสิ่งที่ไปดูก็ยิ่งยากขึ้นไปอีกเป็นทวีคูณ

อันดับแรกต้องห้ามอาการทางกายไม่ให้ไปดูไปฟังให้ได้ก่อนครับท่าน
ตาเราเองหูเราเองมือเราเอง...ห้ามไม่ให้ไปเปิดดูหนังดูสิ่งที่ทำให้หลงเพลินทำไมจะห้ามไม่ได้ล่ะ

ถ้าเราไม่เปิดดูเสียอย่าง ใครจะมาดึงมือเราไปเปิดได้
นอกจากมีแต่กิเลสเท่านั้นที่มันสามารถจะดึงมือเรา
ดึงตาดึงหูเรา ให้ไปหาเปิดดูเปิดฟังตามอำนาจแรงดึงดูดของมันได้นั่นน่ะ

ถ้าหากว่าพลังธรรมในใจของเราต่อสู้ต้านทานมันไม่ได้
ก็ต้องโดนมันดึงมือเราไปเปิดดูอย่างนั้นล่ะ

เรื่องการดูจิต จะใช้ในกรณีที่สิ่งต่างๆ
มันมากระทบกับเราโดยที่เราอยู่ดีๆแล้วมันก็มากระทบ
โดยที่เราไม่ได้ตั้งใจเจตนาจะไปดูจะไปฟังเองต่างหากนะผมว่า

อย่างเช่น อยู่ดีๆเราเดินไปซื้อของตามห้าง
แล้วไปเห็นพวกสาวมหาลัยสวยๆเดินจับกลุ่มกันมาเยอะๆ
ถ้าพวกที่ดูจิตไม่ทันก็จะจ้องดูตามแบบตาไม่กระพริบเลยล่ะ

แต่ถ้าใครเป็นนักปฏิบัติที่ดูจิตทัน
พอเขาเห็นพวกสาวสวยมหาลัยเหล่านั้นเดินมาแล้ว
เขาจะเห็นจิตของเขาเลยว่ามันเริ่มมีอะไรแปลกๆเกิดขึ้นที่จิตแล้ว
คือมันเริ่มจะเคลิ้มอยากให้มองตามผู้หญิงกลุ่มนั้นไปเรื่อยๆ

พอเขารู้ว่ากิเลสในจิตมัน จะสั่งลูกกะตาให้หันมองไปตามดูสาวๆพวกนั้น
เขาจะระงับมันได้ทัน
คือระงับแบบหยุดดูหยุดมองทันทีแล้วหันหน้าไปทางอื่น
หรือรีบละสายตาจากผู้หญิงกลุ่มนั้นทันที

เพื่อไม่ให้กิเลสในใจมันได้อาหารจานโปรดของมัน
จนทำให้ใจเกิดกำหนัดเกิดราคะเพิ่มขึ้นมา
อย่างนี้เขาถึงจะเรียกว่า...ดูจิต...ได้ทัน
ไม่ใช่ดูหนังไปด้วยดูจิตไปด้วย
หรือดูสาวสวยๆในห้างไปด้วยดูจิตไปด้วย
ดูแบบนี้ดูไปก็เปล่าประโยชน์ครับท่าน


เพราะจะดูไปทำไมในเมื่อ...ดูจิต...แบบนั้นแล้วก็ละอาการติดข้องทางกายที่เห็นอยู่อย่างทนโท่(คือจ้องมองตาม)ก็ยังไม่ได้เลย

ถ้าดูจิตทันก็คือเมื่อเห็นสาวสวยเดินมาแล้วเห็นจิตเกิดอาการแปลกๆในทางไม่ดีก็ต้องหยุดดูทันทีถึงจะถูก

หรือสมมุติว่านั่งอยู่ในบ้านดีๆแล้วพอดีมีคนในบ้านเอาแผ่นซีดีหนังเรื่องใหม่
เข้ามาเปิดดูก็อดใจอดกิเลสไม่อยู่...ดูจิต...ไม่อยู่แล้วก็นั่งดูหนังเพลินไปกับเขา
แบบนี้รู้ทั้งรู้ว่ามันเพลินมันสนุกแบบกิเลส
ก็ยังไปดูอยู่อีกจะมีประโยชน์อะไรกับการดูจิตแบบนี้


ถ้าเล่นดูหนังไปด้วยดูจิตไปด้วย
จะดูจิตยังไงมันก็ห้ามกิเลสไม่ให้เกิดขึ้นได้อยู่ดีแหละ


คนที่เขาดูจิตทันจริงๆ พอเห็นคนในบ้านเขาจะเอาแผ่นซีดีหนังเรื่องใหม่จะมาเปิด
แล้วเขาจะเห็นจิตของเขาทันทีว่ามันมีอาการอยากจะนั่งอยู่ในห้องต่อไป
เพื่ออยากจะรอให้เขาเปิดหนังให้ดู
ถ้าคนที่ดูจิตตัวเองทัน เมื่อเขาเห็นจิตเขามันแสดงอาการอยากจะดูที่เป็นกิเลสออกมาอย่างนี้แล้วเขาจะรีบลุกหนีออกจากห้องไปทันที
เพื่อ...ตัดไฟแต่ต้นลม...ระงับไม่ให้กิเลสมันทำตามใจอยากของมันได้

ต้อง...ดูจิต...อย่างนี้สิ่ครับ
คือดูแล้วต้องละได้พร้อมกันอย่างเห็นกับตาจะจะไปเลยสิ่ถึงจะถูกถึงจะเกิดประโยชน์

ขอพูดให้เห็นภาพชัดๆแล้วกันนะว่า
แค่การดูจิตอย่างเดียวโดยไม่ใช้...สังวรธรรม(สำรวมอายตนะ)...เข้ามาช่วย
มันเอากิเลสไม่อยู่ยังไง

ก็ที่ผมเขียนเอาไว้ใน...กระทู้ธรรมความจริงกับความจำ...ที่โดนล็อคไปนั่นไง คงจำได้นะ
เห็นชัดๆเลยใช่ไหม???ว่าพอไปดูไปฟังไปสัมผัสสิ่งที่เป็นอาหารโปรดของกิเลสแล้ว
กิเลสมันก็จะมีพลังเพิ่มสูงปรี๊ดดดดขึ้นมาให้เราเห็นกับตาได้อย่างจะจะขึ้นทันที
ด้วยการแสดงออกมาทางอวัยวะที่มันใช้เป็นเครื่องมือของมัน

ต่อให้คนที่ไปดูรูปสกปรกลามกนั้น
พยายาม...ดูจิต...ห้ามใจไม่ให้เคลิ้มไปตามมัน ไม่ให้เคลิ้มไปตามรูปตามคลิปที่ดู
แล้วมันห้ามอวัยวะที่เป็นเครื่องมือของมันไม่ให้แสดงความลามกขึ้นมา(กางเกงตุง)
ให้เห็นอย่างจะจะได้หรือเปล่าล่ะ?????


มันแสดงให้เราได้เห็นชัดๆจะจะตา โดยไม่ต้องไปดูจิตให้ยากเลยล่ะว่า
พอไปดูรูปสกปรกลามกแล้วกิเลสกามราคะมันจะได้กำลังพุ่งสูงปรี๊ดดดขึ้นมาทันทีเลย
แล้วทีนี้เห็นหรือยังว่าถ้า...ดูจิต...แต่เพียงอย่างเดียวนั่นน่ะ
มันเอากิเลสอยู่หรือเปล่าครับท่าน


เอาการที่...ดูจิต...แบบนั้นมาห้ามราคะไม่ให้มันได้กำลังพลังเพิ่มได้ไหม???
ถ้าห้ามได้...ทำไมไม่ห้ามไม่ให้กางเกงมันตุงล่ะ
ต่อให้...ดูจิต...ยังไงก็ห้ามมันไม่ได้หรอก
ถ้า...สติ...สมาธิ...ปัญญา....ของเรายังไม่สูงพอ
พวกนักปฏิบัติระดับที่รู้ว่าตัวเองยังมีกิเลสอยู่เต็มหัวอก
จะต้องใช้ธรรมะข้อ...สังวรธรรม...เอามารักษาตัวรักษาใจของตัวเอง
ให้พ้นจากสิ่งสกปรกทั้งหลายก่อนในตอนนี้มาช่วยด้วยครับท่าน

จะเอากิเลสให้อยู่ไม่ให้มันแสดงอาการลามกกางเกงตุงอย่างนี้ออกมาได้
จะต้องดูจิตแล้วก็เอาสังวรธรรมสำรวมอายตนะเข้ามาช่วยด้วย
ถึงจะหยุดกิเลสได้ เอากิเลสอยู่
ไม่ให้มันแสดงความลามกจนปรากฎขึ้นทางกายได้ครับ

หรือไม่ให้มันลุกลามไปจนเกิดการเพลิดเพลินยินดีจากการดูหนังดูสิ่งมอมเมาต่างๆได้
คือต้องดูจิตแล้วก็ต้อง....ตัดไฟแต่ต้นลม...ครับถึงจะถูกถึงจะเกิดประโยชน์
ดูจิตแล้ว...ละกิเลสไม่ได้จะดูไปทำไมล่ะ เห็นคนในบ้านเอาแผ่นซีดีหนังเรื่องใหม่เดินเข้ามาในห้องจะเปิดดู
เราดูจิตเห็นมันกระเพื่อมแสดงความอยากดูแว๊ปขึ้นมาให้เห็น...ก็รีบลุกหนีออกจากห้องนั้นทันที
ไม่ไปดูหนังกับเขาเลยต่างหาก
นั่นถึงจะเรียกว่าการภาวนา...ดูจิต...ที่แท้จริงและได้ผล
ไม่ใช่แบบ...ดูจิตไปด้วยดูหนังไปด้วยหัวเราะเฮฮาไปด้วย....
อย่างนั้นไม่ใช่การดูจิตแล้วล่ะครับ
แต่เป็นการดูกิเลสมันทำลายเราต่างหาก
ละครน้ำเน่า เขียน:
การดูจิตนี้จะช่วยให้เรามีสติรู้เท่าทันอารมณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์อะไรที่เกิดขึ้น
เราจะไม่ไหลตามอารมณ์ มีสติยับยั้ง และเห็นการเกิดดับของจิต
ฝึกไปเรื่อยๆ จนชำนาญ จนเมื่ออารมณ์เกิดขึ้นเราจะแค่รับรู้แล้ววางได้ทันที

ก็ขอฝากเพิ่มด้วยนะครับว่า
ถ้ามีแต่การดูจิตเฉยๆโดยไม่นำสังวรธรรมเข้ามารักษาใจช่วยด้วยก็จะเป็นแค่การ
......วางได้แต่ปาก แต่ใจมันไม่ยอมวางด้วยนะสิ่.......
กินเหล้าเข้าไปแล้วจะไม่ให้มันเมาจะเป็นไปได้ยังไง
ถ้าจะไม่ให้เมาเลยชัวร์ๆก็ไม่ต้องเอามันเข้าไปในปากเลยสิ่

(ไม่ดูหนังดูคลิปฟังเพลงเล่นเกม ไม่เอามันให้เข้าไปแตะต้องสัมผัสกับจิตใจ)
ถึงจะมั่นใจได้แน่ใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์จริงๆว่า
เราจะไม่เมา(หลงเพลินไปตามกิเลส)ได้อย่างแน่นอน


ที่ผมเขียนมาทั้งหมดนี้สำหรับเฉพาะ
นักปฏิบัติระดับที่ต้องการจะพ้นทุกข์ในชาตินี้เท่านั้นนะครับ
ส่วนระดับที่ยังจะสมัครใจเพลิดเพลินหลงอยู่ในกองหลุมถ่านเพลิงในวัฏฏะสงสารนี้
เพราะยังหลงยังติดในเหยื่อล่อจำพวกติดดูหนังดูคลิปต่างๆ
ติดฟังเพลงติดเล่นเกมอันเป็นเหยื่อล่อในหลุมถ่านเพลิงอยู่
นักปฏิบัติกลุ่มนี้ไม่เกี่ยวนะครับ
จะยังยินดีพอใจอยู่ในหลุมถ่านเพลิงอยู่อีกต่อไปก็ตามใจพวกท่านเถอะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ส.ค. 2012, 04:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ค. 2012, 21:02
โพสต์: 127


 ข้อมูลส่วนตัว


ช่วงนี้ที่ไม่ได้เข้ามาอัพเดทอะไรในกระทู้...ไว้คุยธรรมะ...นี่ซะตั้งหลายวัน
ก็เพราะไปเขียนโพสต์อะไรไว้ตามกระทู้ของท่านผู้อื่นอยู่น่ะครับ
ก็เลยจะก๊อปเอาที่ผมไปโพสต์ไว้มาให้อ่านด้วยแล้วกัน
และอีกอย่างผมก็อยากจะเอาที่ไปโพสต์ไว้ตามกระทู้ต่างๆ
มาลงไว้รวมกันในกระทู้นี้อยู่แล้ว จะได้รู้ว่าตัวเองไปเขียนอะไรไว้ไหนบ้าง

สำหรับท่านผู้ดูแลบอร์ดที่เคยมาล็อคกระทู้ผมนั้น
ก็โปรดได้ทราบเจตนารมณ์และอุดมการณ์ผมด้วยนะครับว่า....

ผู้ที่เป็น...ดิไอดอลสุดยอดขวัญใจของผม...นั้นก็คือ
ท่านพระมหากัสสปะ ท่านพระสารีบุตร และท่านพระนาคเสน


องค์แรกก็รู้อยู่แล้วนะครับว่าท่านเป็นเลิศในธุดงค์วัตร
ที่ผมได้น้อมนำมาปฏิบัติเท่าที่จะทำตามได้
ส่วนอีกสององค์นั้นก็เป็นที่ทราบกันว่า
ท่านเป็นเลิศในการปราบพวกมิจฉาทิฏฐิพวกมีความเห็นผิดๆทั้งหลาย


ดังนั้นในกระทู้ผมจึงเป็นธรรมดาอยู่ดีที่จะออกแนวบู๊อยู่บ้าง
แต่ก็เป็นการโต้กันด้วยเหตุผลอรรถธรรมนะครับท่าน
ไม่ได้เป็นการโต้ด่ากันเหมือนแม่ค้าตามตลาดปะทะคารมกัน

ที่ผมได้โต้อะไรกับใครไป...ก็โต้เพื่อให้ผู้ที่ได้มาอ่านสิ่งที่ผมเขียน
ได้เห็นคุณค่าของการรักษาศีลพรหมจรรย์ข้อสามของศีลแปด
ได้เห็นคุณค่าของธุดงค์วัตรอันเป็นข้อปฏิบัติที่เปรียบได้
เหมือนกับอาวุธหนักที่ใช้ทำลายกิเลสได้อย่างขุดรากถอนโคน

เพื่อทำให้เกิดศรัทธาที่จะน้อมนำข้อปฏิบัติอันเลิศนี้ไปปฏิบัติกัน

ดังนั้นก่อนที่ท่านจะลงไม้ลงมืออะไรลงไปกับกระทู้ผม
ก็โปรดได้พิจารณาให้ดีๆก่อนนะครับท่าน
ว่าหากท่านมาปิดกั้นกระทู้ของผมแล้ว
จะมีบาปมีกรรมอะไรจะเกิดขึ้นกับตัวท่านหรือเปล่า????


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ส.ค. 2012, 05:05 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ค. 2012, 21:02
โพสต์: 127


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอนำโพสต์ที่ผมไปเขียนโพสต์เอาไว้ในกระทู้ของท่าน bigtoo เอามาลงเป็นอันดับแรกเลยนะครับ
.....กระทู้สุดยอดเคล็ดลับความสำเร็จ.....viewtopic.php?f=1&t=43028&start=15
แต่ไม่ได้เอามาลงทุกโพสต์นะครับ
ถ้าใครอยากจะเข้าไปอ่านทุกโพสต์ที่ผมเขียนเอาไว้ก็เข้าไปตามลิ้งค์ข้างบนได้ครับ

bigtoo เขียน:
หลังจากเราได้เล่าเรียนกันมามากมายแล้วลงมือ ลงสนามจริงกันสักที เอาเฉพาะคนโสดนะครับ คนมีครอบครัวมันมีข้ออ้างเยอะน่าเบื่ออิๆๆ :b12: ผมมีเคล็ดลับในการปฎิบัติ ถ้าใครอยากบรรลุไวๆนะครับ งดเว้นกิจกรรมทางเพศ แล้วจะสำเร็จไว เรื่องกินเอาไว้ที่หลัง มันลึกซึ้งเกินไป เอาแค่เรื่องเพศก่อนจะได้ไม่มีข้อโต้แย้งเพราะไม่ทำก็ไม่ตาย และไม่ทำก็ไม่เป็นอะไรกับสุขภาพ ใจล้วนๆถ้าชนะได้ก็ไปไกลเกินครึ่งแล้วครับ ใครกล้าบ้างมาร่วมอธิฐานกัน ผมอธิฐานตลอดชีวิตเพื่อบูชาพระพุทธเจ้า



ตะวัน เขียน:

ขอเป็นกำลังใจให้ท่านBigฯทำได้สำเร็จตามที่ตั้งใจเอาไว้ให้ได้นะครับ
แต่ถ้าอธิษฐานไปอย่างนี้แล้วจะประมาทในการปฏิบัติไม่ได้เลยนะท่าน
ต้องฟิตตัวเองในการปฏิบัติอยู่ตลอดเวลา ถ้าเผลอขี้เกียจในการปฏิบัติเมื่อไร
ก็จะทำให้กิเลสมันได้โอกาสที่จะสั่งสมกำลังของมันให้มีกำลังมากขึ้น
แล้วทีนี้มันก็จะฉุดจะลากเราให้ออกจากสิ่งที่เราได้อธิษฐานเอาไว้
แบบที่ท่านอโศฯเรียกว่า...มันตีกลับ...นั่นแหละ

แต่ถ้าเราไม่ประมาท
ด้วยการใช้ข้อปฏิบัติทั้ง...สังวรธรรมสำรวมอายะตนะ...
สำรวมทั้งทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และ ใจ ไม่ให้ไปแตะต้องสิ่งที่มันจะไปเพิ่มกำลัง
โดยอัติโนมัติให้กับกิเลส
และเพียรสร้างกำลังของสติด้วยการขยันหมั่นเดินจงกรม
หรือนั่งสมาธิภาวนาให้มากๆ เพื่อเป็นการตรวจสอบจิตใจของเราดูว่าในระหว่างตลอดวัน
ทั้งวันนั้นเราตั้งสติได้ต่อเนื่องดีหรือเปล่า???

ถ้าวันไหนเราตั้งสติในช่วงตลอดทั้งวันนั้นได้ต่อเนื่อง
เมื่อเรามาตรวจสอบจิตใจของเราด้วยการนั่งสมาธิหรือเดินจงกรมในรูปแบบในวันนั้น
จะทำให้เรานั่งสมาธิ หรือ เดินจงกรมนานๆ ระดับ 2 - 3ชั่วโมงได้อย่างสบายๆ
ไม่รู้สึกเหมือนใจจะขาดจะเป็นจะตายเอาให้ได้แบบทำนองนั่งแค่ 1 ชั่วโมง
แต่ว่ารู้สึกยาวนานเหลือเกินเหมือนยังกับนั่งตั้ง 3 - 4 ชั่วโมง
ถ้าเกิดเป็นในลักษณะกรณีนี้ขึ้นมาในวันไหน
ก็แสดงว่าในวันนั้นเราตั้งสติได้ไม่ดี มีการเผลอสติบ่อยมาก
จนแสดงผลให้เราได้รู้ได้เห็น
ตอนเรานั่งสมาธิเดินจงกรมทดสอบจิตใจในแต่ละวันนั่นแหละ


คือเราต้องหมั่นทดสอบจิตใจในแต่ละวัน
ด้วยการเดินการนั่งในรูปแบบด้วยนะผมว่า
ถ้าจะมีแต่แค่การทำนอกรูปแบบอย่างเดียวจะพลาดได้ง่ายมาก
เพราะไม่มีอะไรเป็นเครื่องวัดใจ
ของเราว่าในช่วงระหว่างตลอดทั้งวันนั้นเราตั้งสติได้ดีแค่ไหน???


ส่วนเรื่องปัญญานั้น สำหรับผมก็ อ่านก็ศึกษาจากธรรมะขององค์หลวงตา
แล้วพยายามพิจารณาให้เข้าใจตามหลักความจริง ที่ท่านสอนชี้แนะเอาไว้ให้ได้
ต้องหมั่นขยันฟังเทศน์ด้วยนะครับ ปัญญาถึงจะก้าวรุดหน้าไปได้เร็ว
ถ้ามีแต่จะพิจารณาด้วยตัวเองมันช้านะ ไม่เร็วเหมือนกับได้ฟังเทศน์ท่านช่วยเราด้วย

ที่ผมว่ามาทั้งหมดนี้เป็นการปฏิบัติในแนว ศีล สมาธิ ปัญญา
อันเป็นแนวที่องค์หลวงตามหาบัว ท่านพาดำเนินมานะครับ

ศีล ก็คือ การนำข้อปฏิบัติในเรื่องสังวรธรรม และ ธุดงควัตรเข้ามาช่วย ตัดกำลังกิเลสไม่ให้
มันมีโอกาสสั่งสมกำลังขึ้นมา ทั้งทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
ส่วนสมาธิ ก็คือการทำความเพียรสร้างสติ เพื่อให้สมาธิความสงบร่มเย็นเกิดขึ้นปรากฎขึ้น
ภายในจิตใจของเราให้ได้ จนเราพึ่งความสงบเย็นภายในใจของเราเองได้โดยไม่ต้องไปหาความสุขจากสิ่งภายนอกให้เข้ามาแปดเปื้อนใจเราให้สกปรกอีก
ส่วนด้านปัญญา ก็คือ ให้หมั่นขยันฟังเทศน์ครูบาอาจารย์องค์ที่ท่านได้รู้ได้เห็นธรรมที่แท้จริงแล้ว
เช่นองค์หลวงตามหาบัว แล้วก็พยายามพิจารณาให้รู้ให้เข้าใจตามที่ท่านแนะสอนเอาไว้ให้ได้
จนสามารถปล่อยวางความยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ห้า ปล่อยวางความยึดมั่นว่าเป็นเราเป็นเขาได้
และละการติดการข้องในสิ่งใดๆในโลกนี้ให้ได้ทั้งหมด
ก็จะพ้นจากโลกอันเต็มไปด้วยความทุกข์นี้ได้เสียทีครับ

ถ้าท่าน bigtoo ทำได้ตามนี้ผมว่า
...ไม่มีทางที่จะแพ้กิเลสได้แน่นอนครับ...และไม่มีทางตีกลับด้วย
มีแต่จะก้าวรุดหน้าไปเรื่อยๆ

ขอแต่ว่า จะทำได้ตามนี้หรือเปล่า???เท่านั้นเอง

ส่วนผมก็ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง
แต่ช่วงนี้สังวรธรรมทำได้ดี กิเลสก็เลยไม่ค่อยกำเริบรบกวน

แต่ทางด้านทำความเพียรตามรูปแบบ
ยอมรับว่าช่วงนี้เหลวไหลมาก ไม่ค่อยจะได้ทำเลย
อาศัยแต่การทำความเพียรนอกรูปแบบกำหนดสร้างสติระหว่างวันเอาเท่านั้นเองในตอนนี้

แต่ได้อาศัยธรรมะข้อ...สังวรธรรม...ช่วยได้มากหน่อย
ก็เลยพอต้านยันกิเลสได้บ้าง
ทำให้สามารถที่จะพอรักษาศีลแปดได้อย่างสบายๆอยู่

แต่จะไปมั่นใจตายใจแต่แค่ระดับรักษาศีลได้เท่านั้นไม่พอหรอกครับ
ต้องเอาให้ถึงขั้นทำลายกามตัณหาราคะให้ได้โน่น
เป็นอย่างน้อยถึงจะมั่นใจได้ว่าเราจะพ้นทุกข์
พ้นจากการเกิดแก่เจ็บตายในโลกวัฏฏะทุกข์นี้ได้อย่างแท้จริง

สำหรับผมขอแค่ได้ไปสุทธาวาสได้เท่านั้นผมก็พอใจสุดๆแล้ว
แต่ถ้าสามารถเอาให้ถึงพระนิพพานได้ในชาตินี้เลยก็ยิ่งดีครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ส.ค. 2012, 05:11 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ค. 2012, 21:02
โพสต์: 127


 ข้อมูลส่วนตัว


จากกระทู้.....กระทู้สุดยอดเคล็ดลับความสำเร็จ.....viewtopic.php?f=1&t=43028&start=15


bigtoo เขียน:
หลังจากเราได้เล่าเรียนกันมามากมายแล้วลงมือ ลงสนามจริงกันสักที เอาเฉพาะคนโสดนะครับ คนมีครอบครัวมันมีข้ออ้างเยอะน่าเบื่ออิๆๆ :b12: ผมมีเคล็ดลับในการปฎิบัติ ถ้าใครอยากบรรลุไวๆนะครับ งดเว้นกิจกรรมทางเพศ แล้วจะสำเร็จไว เรื่องกินเอาไว้ที่หลัง มันลึกซึ้งเกินไป เอาแค่เรื่องเพศก่อนจะได้ไม่มีข้อโต้แย้งเพราะไม่ทำก็ไม่ตาย และไม่ทำก็ไม่เป็นอะไรกับสุขภาพ ใจล้วนๆถ้าชนะได้ก็ไปไกลเกินครึ่งแล้วครับ ใครกล้าบ้างมาร่วมอธิฐานกัน ผมอธิฐานตลอดชีวิตเพื่อบูชาพระพุทธเจ้า


กบนอกกะลา เขียน:
บิกทู...โม้มาเนี้ย....งดมากี่ปีแล้วละ?

หากเกิน..4 ปี....แล้วค่อยมากระโตกกระตาก...ดีมั้ย?

เห็นไอ้คน..ทำมา.2 เดือน...ภูมิใจมากจนอดใจเกรียนไม่ได้..ใน...ใว้คุยธรรมะ...นะ

อิอิ.....



ตะวัน เขียน:

ทุกอย่างมันต้องได้เริ่มต้นกันที่เลข 1 หมดทั้งนั้นแหละครับท่าน
ใครที่เริ่มจากหลัก 100 ไปเลยกันบ้างเล่า?????
ก็ต้องรอดูกันต่อไปนานๆแล้วกัน
หวังว่าคงไม่มีใครหนีหายหรือตายจากกันไปง่ายๆก่อนแล้วกันเน้อ

ผมว่าคนที่พยายามเริ่มนับ 1 ขึ้นมาบ้างแล้ว
เขาก็ยังดีกว่าพวกที่ไม่พยายามที่จะเริ่มต้นนับอะไรเลยนะ
ในการที่จะทำให้การปฏิบัติของตัวเองได้ก้าวหน้าสูงขึ้นไปเรื่อยๆนั่นน่ะ

ยังย่ำอยู่กับที่ยังไงก็ยังย่ำอยู่กับที่อยู่อย่างนั้นตลอดทั้งปีทั้งชาติ
ผมไม่ยอมนอนจมปลักอยู่กับที่เหมือนใครบางคนหรอกครับท่าน


กบนอกกะลา เขียน:
อิอิ....ผมชอบสบาย ๆ...ไม่ชอบผูกพันกับสัญญา....

นี้ก็สบาย ๆ มาหลายปีแล้ว...ได้ 4 แล้วมั้ง....ไม่ได้จำ

เอิ๊ก...เอิ๊ก... โม้แอบแฝง...อีกแระ.. :b32: :b32:



ตะวัน เขียน:

อย่าพูดกำกวมให้เข้าใจผิดเน้อ 4 ปีที่ว่าเนี่ย???
ผมถามจริงเถอะใช่ 4 ปี
ที่ท่านกบฯรักษาศีลพรหมจรรย์ข้อ3ของศีลแปดมาได้ตั้ง 4 ปีแล้วใช่หรือเปล่า???

หรือว่าไม่ใช่....แต่เป็นแค่เพียง 4 ปีที่ท่านกบฯเริ่มหันมา
จะสนใจ
ปฏิบัติธรรมแบบสไตล์ชอบสบายๆเฉยๆตะหาก
แต่ยังพัฒนาไม่ถึงขั้นจะรักษาศีลพรหมจรรย์ข้อสามได้เลยใช่ไหม???

พูดระบุให้ชัดเจนๆหน่อยเน้อ....อย่ากำกวมให้ผู้อ่านเข้าใจผิดนะครับท่าน
ไม่งั้นมุสาวาทาเวระมะณีนะจะบอกให้...แล้วจะอดได้บรรลุธรรมเอานะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ส.ค. 2012, 05:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ค. 2012, 21:02
โพสต์: 127


 ข้อมูลส่วนตัว


จากกระทู้.....กระทู้สุดยอดเคล็ดลับความสำเร็จ.....viewtopic.php?f=1&t=43028&start=15


กบนอกกะลา เขียน:
คุณตะวันคราบ.....คุณจะรักษาพรหมจรรย์...ก็ทำไปเถอะ...

ผมจะพรหมจรรย์หรือไม่...ผมเองยังไม่สนใจเลย...แล้วคุณมาสนใจอะไรกับผม...

แค่ตรงไหนรู้ว่าทุกข์...ก็ไม่ทำมัน..แค่นั้น...

ไม่ทำ...เพราะไม่อยากทุกข์...ไม่ทำแล้วมันสบาย...นะ...ไม่ได้อยากได้ศีลข้อไหนหรอก...มันจะศีลแปดหรือเปล่า...ผมไม่สนใจ...

รึ...คุณตะวัน..กลัวว่า...ผมจะทำได้ยิ่งกว่าคุณ...แล้วคุณจะโม้ไม่ออก...อิอิ...

หลายท่านในนี้..เขาทำได้อะไร ได้เยอะ..ได้ยิ่งกว่านี้มาก...นัก...เขาก็คุยธรรมดา ๆ

คนมีทองเยอะ...เขาไม่ใส่ออกโชว์ทั้งหมดหรอก...

เคยได้ยินนิทานเรื่องกิ่งก้าได้ทองมั้ย...มีทองอันเดียว...แต่ชูคอทั้งวัน.อิอิ..

มีทองมันก็ดีอยู่...สาธุด้วย...

แต่แบกโชว์ทั้งวัน..นี้นะ....มันตลก..งะ...

:b32: :b32:




ตะวัน เขียน:

หึหึ แหลและแถ ไปได้อีกนะท่าน
ถามสามวาตอบสองศอกเฉยเลย ก๊ากกกๆๆๆๆๆๆๆ
อ้างเอาแม่น้ำทั้งห้า
ที่ไม่เกี่ยวกับสิ่งที่ผมถามมาตอบไปข้างๆคูๆซะงั้น


แต่ไม่เป็นไรหรอกครับท่านกบฯ
ผมไม่อยากจะคาดคั้นถามแบบ...เอาจริง..กับท่าน
เพื่อคาดคั้นจะให้ท่านตอบออกมาตามความเป็นจริงให้ได้นักหรอก
ไม่งั้นเดี๋ยวท่านอดได้บรรลุธรรมกันพอดี
เพราะไปละเมิดข้อมุสาวาทาเวระมะณีเข้า


ที่ท่านแหลและแถมานี่ก็แสดงว่าท่านก็ยังมีความละอายบ้างอยู่
ไม่อยากจะผิดข้อมุสาวาทมากนัก ผมก็อนุโมทนาด้วยแล้วกัน
ที่ท่านยังพอมีความตั้งใจในการพยายามจะรักษาศีลห้าให้ได้บ้าง


แต่ท่านอย่าไปพยายามพูดกำกวมจะให้คนเข้าใจผิด
ว่าตัวเองทำได้ในสิ่งที่ตัวเองยังทำไม่ได้อย่างนั้นสิ่ครับ


ให้คนที่เริ่มนับ 1 อย่างผมชูคอเหมือนกิ้งก่าดีกว่า
ถ้าตัวเองแค่ทองเหมือนกิ้งก่าก็ยังไม่มีจะโชว์
ก็อย่าไปพูดให้คนอ่านเขาเข้าใจผิดว่าตัวเองมีสิ่


อย่าไปประมาทนะครับ...ศีลข้อพรหมจรรย์...
นี่แหละเป็นประตูทางเข้าสู่มรรคผลพระนิพพานเลยล่ะ
ถ้าใครตั้งใจจะพยายามรักษาศีลพรหมจรรย์ข้อนี้ให้ได้อย่างจริงจังแล้ว
ก็จะทำให้เขาพยายามขวนขวายที่จะไปปฏิบัติธรรมะ
ข้ออื่นๆเช่นธุดงควัตร และ สมาธิ และปัญญา
เพื่อมาช่วยให้เขารักษา...ศีลพรหมจรรย์...ข้อนี้
ให้ได้ตลอดไปอย่างไรเล่าครับ


คุณกบอย่ามาประมาทศีลข้อนี้นะว่าไม่สำคัญ
เพราะเห็นยกคุณค่าของการที่รักษาศีลข้อนี้ได้...
คุณกบฯดันยกเอาไปเทียบกับก้อนทองเท่านิ้วก้อยที่แขวนบนคอกิ้งก่าเฉยเลย


สำหรับผมไม่เห็นว่าคนที่รักษาศีลข้อนี้ได้
จะเหมือนกับมีทองเท่าแค่นิ้วก้อยที่แขวนอยู่บนคอกิ้งก่าหรอกครับ


แต่ผมเห็นว่าเขามี....โคตรเพชร....ได้โคตรเพชรก้อนโต
อันมีค่ามากมายมหาศาลจนประเมินค่าไม่ได้เลยล่ะ

ฤทธิ์อภิญญาอย่างอื่นเช่นรู้วาระจิต ถอดจิตได้
รู้เหตุการณ์ล่วงหน้า หรืออะไรต่อมิอะไร
นั่นน่ะไปจากไหนกันเล่าครับ
ก็ไปจากการรักษาศีลพรหมจรรย์ข้อนี้ให้ได้หมดนั่นแหละ
ถึงจะทำให้ฌานสมาธิสมาบัติเกิดขึ้นได้ง่าย
แต่เรื่องฤทธิ์เรื่องอภิญญาผมไม่ค่อยได้สนใจมากนักหรอก

เพราะมันไม่เกี่ยวกับการเอาไปฆ่าไปทำลายกิเลส
เพื่อให้เราพ้นทุกข์ได้อย่างถาวรตลอดอนันตกาลอะไรนี่นา
ได้ก็เอา ไม่ได้ก็แล้วไป
แต่สิ่งที่ขอให้ทำให้ได้ก็คือฝึกใจให้รักษาศีลพรหมจรรย์ข้อนี้
ให้ได้อยู่ตลอดเพื่อจะนำศีลข้อนี้ไปช่วยหนุนให้ทำสมาธิได้ง่าย
พิจารณาทางปัญญาได้รวดเร็ว


เพื่อจะกำจัดทำลายกามตัณหาราคะ
ให้หมดสิ้นไปจากจิตใจให้ได้

จะได้ทำให้ผมรักษาศีลพรหมจรรย์ข้อนี้
ได้อย่างถาวรตลอดไปตลอดอนันตกาล
ให้ได้เท่านั้นแหละครับ
เป็นสิ่งที่ผมปรารถนาสูงสุดในการปฏิบัติธรรม

ไม่ใช่ปรารถนาอยากจะได้ฤทธิ์
เหาะเหินเดินอากาศได้เหมือนอย่างเทวทัตนั่น
เพราะได้ไปแล้วก็ไม่ได้ช่วยให้ฆ่ากิเลสได้อะไร
จะอยากได้ไปทำไม

ที่ผมมาพูดเรื่อง...ศีลพรหมจรรย์...เนี่ย
ไม่ได้เจตนาที่จะโชว์เน้อให้รู้ไว้ด้วย
แต่มารณรงค์ให้พากันได้เห็นความสำคัญของศีลข้อนี้ต่างหาก
จะได้เริ่มสนใจที่จะพากันน้อมนำไปปฏิบัติ
เพื่อรักษาใจของตัวเองให้สะอาดจากกามตัณหาราคะต่างหาก
ไม่ได้คิดต่ำๆว่าจะมาโชว์เหมือนอย่างที่ท่านกบฯคิดเน้อ


ส่วนที่คุณกบฯบอกว่า
รึ...คุณตะวัน..กลัวว่า...ผมจะทำได้ยิ่งกว่าคุณ...แล้วคุณจะโม้ไม่ออก...อิอิ...
นั้นผมขอให้คุณกบฯได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ก่อนผมให้ได้เลยก็แล้วกันนะ

แต่จะสำเร็จได้ไวอย่างที่ผมอยากจะให้คุณกบฯสำเร็จได้ยังไงน๊อ???
เพราะแค่...ศีลพรหมจรรย์ข้อสามของศีลแปดแค่ข้อเดียว...
................ไม่เกี่ยวกับศีลแปดข้ออื่นๆ...................
คุณกบฯก็ยังไม่กล้าตอบฟันธงแบบจะจะเป๊ะเป๊ะไปเลย
ว่า....ผมรักษาศีลข้อนี้มาได้ตั้ง 4 ปีแล้วนะคร๊าบบบบบ......
..............ก๊ากกกกกกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ...............


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ส.ค. 2012, 05:23 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ค. 2012, 21:02
โพสต์: 127


 ข้อมูลส่วนตัว


จากกระทู้.....กระทู้สุดยอดเคล็ดลับความสำเร็จ.....viewtopic.php?f=1&t=43028&start=30


กบนอกกะลา เขียน:
<ตะวัน> เขียน:

ผมมาพูดเรื่อง...ศีลพรหมจรรย์...เนี่ย
ไม่ได้เจตนาที่จะโชว์เน้อให้รู้ไว้ด้วย
แต่มารณรงค์ให้พากันได้เห็นความสำคัญของศีลข้อนี้ต่างหาก
จะได้เริ่มสนใจที่จะพากันน้อมนำไปปฏิบัติ
เพื่อรักษาใจของตัวเองให้สะอาดจากกามตัณหาราคะต่างหาก
ไม่ได้คิดต่ำๆว่าจะมาโชว์เหมือนอย่างที่ท่านกบฯคิดเน้อ[/size]

ส่วนที่คุณกบฯบอกว่า
รึ...คุณตะวัน..กลัวว่า...ผมจะทำได้ยิ่งกว่าคุณ...แล้วคุณจะโม้ไม่ออก...อิอิ...
นั้นผมขอให้คุณกบฯได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ก่อนผมให้ได้เลยก็แล้วกันนะ

แต่จะสำเร็จได้ไวอย่างที่ผมอยากจะให้คุณกบฯสำเร็จได้ยังไงน๊อ???
เพราะแค่...ศีลพรหมจรรย์ข้อสามของศีลแปดแค่ข้อเดียว...
................ไม่เกี่ยวกับศีลแปดข้ออื่นๆ...................
คุณกบฯก็ยังไม่กล้าตอบฟันธงแบบจะจะเป๊ะเป๊ะไปเลย
ว่า....ผมรักษาศีลข้อนี้มาได้ตั้ง 4 ปีแล้วนะคร๊าบบบบบ......
..............ก๊ากกกกกกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ...............


กบนอกกะลา เขียน:

ทำได้สักปีก่อนแล้วค่อยมาพูดกับผมเรื่องนี้...นะ...อิอิ..

แค่ 2-3 เดือน ยังไม่คู่ควรจะพูดถึงหรอก....

ผมอายแทน... :b3: :b3:

ไม่ใช่อะไรหรอก....หากทำสักพัก...มันจะพบข้อปัญหา...พูดถึงตอนนั้นมันจะมีประโยนช์กว่า

ศีลแปด...ก็อย่าลืม...ข้อสุดท้ายด้วยละ....มาเผลิดเพลินในแซทในเน็ต...นี้ก็อาจเข้าข่าย...

โดยเฉพาะคุณตะวัน....กระสันจะโต้กับคนนั้นคนนี้...ซะเหลือเกิน.....ดูจิตทันอะป้าว...อิอิ

ทำดีต่อไปเถอะ..ทาเคชิ...หุหุ :b3: :b3: ..


ตะวัน เขียน:

มา Chat ในเน็ตแบบผม
จะผิดศีลแปดไปได้ยังไง...เพราะมา Chat คุยธรรมะนะครับท่าน
เพลิดเพลินในธรรมจะไปผิดอะไรหนอ???
เพราะไม่ได้ไปเพลิดเพลินในกิเลส
เหมือนอย่างดูหนังฟังเพลงเล่นเกมอะไรนี่

และไม่ได้กระสันจะไปโต้อะไรกับใครเน้อ
เหตุการณ์มันพาไปตะหาก
ถ้าไปเห็นไปอ่านเจออะไรที่ฟังแล้วขัดหูแล้ว
ก็อดที่จะเข้าไปพูดให้เขาได้เข้าใจเสียใหม่
ให้ถูกต้องไม่ค่อยจะได้น่ะ

ถ้าเห็นเขาเดินทางผิดมีความเห็นที่ผิดๆแล้วก็ต้องได้ไปช่วย
ให้เขาได้มีความเห็นใหม่ที่ถูกต้อง
ไม่ใช่ว่าอยากจะไปโต้ไปเถียงอะไรเขาหรอก
แล้วมันไม่ดีเหรอท่านที่ไปช่วยให้เขาได้มีความเห็นที่ถูกต้องนั่นน่ะ


กบนอกกะลา เขียน:
ทำได้สักปีก่อนแล้วค่อยมาพูดกับผมเรื่องนี้...นะ...อิอิ..

แค่ 2-3 เดือน ยังไม่คู่ควรจะพูดถึงหรอก....

ผมอายแทน... :b3: :b3:


ตะวัน เขียน:

แล้ว...จุดจุดจุด...4 ปี..นั่นน่ะทั้งๆที่....จุดจุดจุด....ทำไมไม่อายมั่ง
อันนี้ตอบแบบยั้งมือเน้อไม่อยากตอบแบบรุนแรงกลัวท่านจะเดี้ยง
เลยตอบแบบไม่บรรยายให้ละเอียดยิบ...ให้รู้กันเฉพาะผมกับท่านพอ
แต่ถ้าขืนยังดื้ออีกอาจจะมาขยายความให้ละเอียดแจ่มแจ้งแดงแจ๋กันไปเลย

ที่คุณกบฯบอกว่าให้ได้ถึงปีก่อนแล้วค่อยมาพูดนั่นน่ะ
ถ้าผมทำได้ถึงปีนึงแล้วถึงมาพูดให้ฟัง
แล้วคุณกบฯจะไล่ตามผมทันเหรอ???
ที่ผมรีบบอกตั้งแต่เนิ่นๆ
ก็เพราะปรารถนาดีกับหมู่พวกเพื่อนฝูงนะท่าน


เพราะถ้าใครจะรีบฟิตตัวสู้กิเลส
ไม่ยอมแพ้ให้มันบังคับเราไปเป็นทาสกามของมันอีก
ก็ให้รีบสตาร์ทในระยะพร้อมๆกันกับผมเลย
จะได้ไปถึงเส้นชัยได้พร้อมกันหรือในระยะไล่เลี่ยกันต่างหาก
ไม่ได้กะจะมาโอ้อวดอะไรใคร แต่อยากให้เริ่มต่อสู้กับมันพร้อมกันกับผม
จะได้ไปให้ถึงเส้นชัยได้พร้อมกันต่างหาก ให้เข้าใจเอาไว้ด้วย

ตอนนี้ก็รู้สึกว่าท่าน bigtoo จะแซงนำไปก่อนเพื่อนแล้ว
เพราะท่านรักษาศีลข้อพรหมจรรย์ได้นานสุดในบรรดาขาหื่นด้วยกัน
โทษทีนะท่าน bigtoo ที่ไปเหมารวมเอาท่าน
เข้าเป็น...อดีตขาหื่น...ร่วมกันกับผมนั่นน่ะ
ทั้งๆที่ท่านได้เริ่มลงมือเลิกก่อนหน้าผมนานแล้ว

ผมก็ยอมรับตัวเองนะว่าช่วงก่อนหน้านี้
ก็เป็นอดีตขาร็อคขาหื่นคนหนึ่งเลยล่ะ
ถ้าได้เข้าเว็บหื่นแล้วล่ะก็
เข้ามันได้หมดทั้งวันทั้งคืนจนไม่ได้หลับได้นอนเอาเลยล่ะ

แต่ทำไมถึงเลิกได้ตั้งเกือบ 2 เดือนแล้วล่ะ
ทั้งๆที่เข้าวงการเว็บโป๊มาตั้งหลายปีแล้ว
ตั้งแต่เข้าวงการเว็บโป๊มาหลายปีก็มีครั้งนี้แหละที่ผมเลิกได้นานสุดนะ

แต่ก่อนก็พยายามจะเลิกเข้าให้ได้อยู่หลายครั้งแล้วนะ
แต่ก็เลิกได้ไม่ถึงเดือนสักที ทนสู้อาการหื่นลงแดงไม่ไหว

ก็เลยต้องแพ้ให้กิเลสมันครั้งแล้วครั้งเล่า...
สู้มันไม่ได้ ก็ต้องโดนมันลากเข้าไปปู้ยี่ปู้ยำในเว็บโป๊อีก
ทำให้รักษาศีลพรหมจรรย์ข้อสามไม่ได้ถึงเดือนสักที

ก็มีครั้งนี้แหละที่ได้นานที่สุด และก็จะพยายามสู้ต่อไป

แต่ก่อนถึงผมไม่มีเมียแต่มันก็เหมือนมีเมียนั่นแหละ
เพราะเอาเว็บโป๊แทนเมียไงล่ะ มันไม่ต่างกันหรอก

ถ้ายังรักษาศีลพรหมจรรย์ข้อสามไม่ได้
มันก็เหมือนมีเมียเหมือนชาวบ้านชาวเมืองเขานั่นแหละ
ถ้าไปอ่านเจอเห็นใครที่ไหนพูดทำนองอวดตัวว่า
ผมไม่มีเมียนะยังโสดนะ ดิฉันยังไม่มีสามีนะยังโสดอยู่นะ
ผมก็รู้สึกขัดหูขึ้นมาเลยแหละ


จะอวดจะโชว์ว่าตัวเองไม่มีเมียไม่เอาเมียได้ยังไง
ก็รักษาศีลพรหมจรรย์ข้อสามยังไม่ได้
มันก็เหมือนมีเมียอยู่ดีนั่นแหละครับท่าน

แล้วยังมีหน้ามาประกาศปาวๆอยู่อีกว่าตัวเองไม่มีเมีย

ถ้าจะแบบไม่มีเมียแบบบริสุทธิ์ผุดผ่องจริงๆ
ต้องรักษาศีลพรหมจรรย์ข้อสามให้ได้เท่านั้นครับท่าน

ส่วนท่าน bigฯ นั่น แม้ว่าท่านจะมีเมียแต่ก็เหมือนไม่มีนั่นแหละ
เพราะท่านรักษาพรหมจรรย์ได้ น่ายกย่องจริงๆ
สงสัยว่าท่านจะเอาอย่างท่านพระมหากัสสปะ
เพราะท่านพระมหากัสสปะ
สมัยท่านยังไม่บวชท่านก็รักษาพรหมจรรย์ได้ตลอด

ถ้าผมลากเอาท่านกบฯหรือท่านโฮฮับ
ให้มาถือศีลพรหมจรรย์ข้อสามของศีลแปดไปพร้อมกันกับผมได้
ผมก็คงจะได้อานิสงค์ใหญ่เลยล่ะ
ที่พาให้พวกท่านก้าวขึ้นสู่การปฏิบัติธรรมระดับสูงได้

แล้วจะไปพร้อมกันกับผมหรือเปล่าล่ะครับ...ท่านกบฯท่านโฮฮับ...
จะให้มีแต่ผมกับท่าน bigtoo
ไปกันเพียงแค่สองคนเท่านั้นเหรอ
ผมอยากมีเพื่อนร่วมทางเยอะๆน่ะ

ไม่อยากไปให้ถึงเส้นชัยพร้อมกันหรือไง????


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ส.ค. 2012, 05:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ค. 2012, 21:02
โพสต์: 127


 ข้อมูลส่วนตัว


จากกระทู้.....กระทู้สุดยอดเคล็ดลับความสำเร็จ.....viewtopic.php?f=1&t=43028&p=305191#p305191

bigtoo เขียน:
<ตะวัน> เขียน:
bigtoo เขียน:
รูปภาพ
ทำไงได้ล่ะผมปรารถนาพระนิพพานนี่ครับ มันก็ต้องออกแรงกันหน่อย เราทำสิ่งที่ยากที่สุดได้ก็ชนะ ถ้าทำไม่ได้ก็แค่เสมอตัว ไม่มีอะไรเสีย มีตะวันเป็นเพื่อนก็โอเคแล้วอิๆๆสู้ๆๆ :b4:


ตะวัน เขียน:

คนเดียวหัวหายสองคนเพื่อนตายครับท่าน

แต่ถ้าจะให้ดีก็ต้องหาเพื่อนไปลุยกันอีกเยอะๆ

จะได้เป็นกำลังใจให้กันและกันฝ่าฟันไปให้ได้
.................ตลอดรอดฝั่ง......................


bigtoo เขียน:
กัลยาณมิตรสำคัญมากครับ ผมสู้สุดตัวครับกิเลสมันจะสู้เราได้อย่างไร เราเป็นมนุษย์ผู้ฝึกได้ครับ คุณตะวันผมจะเดินเขียงข้างคุณตลอดครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ส.ค. 2012, 05:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ค. 2012, 21:02
โพสต์: 127


 ข้อมูลส่วนตัว


จากกระทู้.....กระทู้สุดยอดเคล็ดลับความสำเร็จ.....viewtopic.php?f=1&t=43028&start=45

ขณะจิต เขียน:
สาธุครับ :b8: ตอนนี้ขอแค่ 5 ก่อนละกันครับ 8 ยังไม่ถึง :b12:

แต่ตอนไหนที่ยังไม่ยุ่งกับภรรยา ผมก็มี 8 น้า ศีลน่ะ แต่แปดชั่วคราวยังไม่ถาวร

:b10: แต่ลองนับดูทั้งวันหรือหลายๆวันผมมี 8 มากกว่า 5 แฮะ :b16:


ตะวัน เขียน:

.............ขออนุโมทนาด้วยมากๆครับ...............
ที่จะร่วมเดินทางไปให้พ้นทุกข์ในวัฏฏะสงสารด้วยกัน
โดยมีจุดหมาย...คือพระนิพพาน...อันเป็นแดนบรมสุข
..............ที่เที่ยงแท้ตลอดอนันตกาล...............


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ส.ค. 2012, 05:48 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ค. 2012, 21:02
โพสต์: 127


 ข้อมูลส่วนตัว


จากกระทู้.....กระทู้สุดยอดเคล็ดลับความสำเร็จ.....viewtopic.php?f=1&t=43028&start=15

กบนอกกะลา เขียน:
ก่อนนั่ง...ทำไมไม่ดู...ก่อน...อิอิ...
ดูแล้วอ่ะ ... ปัดกวาดเรียบร้อย ไม่เห็นมีสักตัว ไม่รู้มาจากไหน .. :b13:
กบนอกกะลา เขียน:
ปัญหา...คือ...เพิ่งเริ่มก็เลยไม่รู้ว่า...ตรงไหนคือตรงกลาง..นะ...อิอิ..
ตรงกลางเหรอ .. ก็ไม่ชิดทุกขอบ ไง อิอิ .. :b32:

+++

วิริยะ เขียน:

สำหรับธุดงค์วัตร ๑๓ ข้อนี้ สำหรับท่านที่มีความเพียรกล้า ประเภทเนยยะ ชอบสู้แบบหัวชนฝา
เป็นการปราบกิเลสแบบ เจ๊งเป็นเจ๊ง ตายเป็นตาย ประมาณนี้ ท่านชอบของท่าน แต่ไม่ใช่ทุกคน

บางท่าน ใช้ปัญญานำ (อุคฆฏิตัญญู)
บางท่าน ใช้ศรัทธานำ (วิปจิตัญญู)
บางท่าน ใช้วิริยะนำ (เนยยะ)

การปฏิบัติธรรมนี้ ท่านว่าเหมือนเด็กหัดเดิน ลุกขึ้นให้มั่นคงก่อน แล้วค่อยก้าวเดิน
จากนั้นค่อยวิ่ง เร็วขึ้น เร็วขึ้น ตามกำลังความเพียรของตน

ใครชอบแบบไหนก็เลือกเอา เพราะจริตนิสัยไม่เหมือนกัน
แต่เป้าหมายนั้นเหมือนกัน..

:b1:



ตะวัน เขียน:


..............องค์พระมหากัสสปะ...............
ท่านก็ไม่ใช่ประเภท...เนยยะ...นะคุณวิริยะ
ท่านระดับอุคฆฏิตัญญู เลยล่ะนะผมว่า
เพราะท่านรักษาพรหมจรรย์ได้ตั้งแต่เล็กจนโตเลย
มีคู่บารมีมานอนอยู่ข้างๆท่านก็แค่เอาดอกไม้มากั้น
เอาไว้เป็นพยานว่าจะไม่ไปแตะต้องอะไรกัน
แล้วอธิษฐานเอาไว้ว่าขอให้ดอกไม้ที่กั้นไว้นี้
จงเป็นพยานว่าถ้ามีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด
ที่มีจิตคิดไม่ดีเพียงแค่คิดอยากจะไป...แตะอั๋งกัน...เท่านั้นก็ตาม
ก็ขอให้ดอกไม้นั้นได้เหี่ยวแห้งไปให้เห็นทันที
แต่ดอกไม้นั้นก็ไม่เคยเหี่ยวแห้งไปเลยยังคงสดอยู่เสมอ

เพื่อเป็นประจักษ์พยานยืนยันว่าคู่บารมีทั้งสองท่านนี้
ท่านเป็นผู้มีจิตใจอันสูงส่งบริสุทธิ์เป็นประเภทอุคฆฏิตัญญูทั้งคู่

องค์พระมหากัสสปะท่านก็เป็นบุคคลประเภทกิเลสเบาบางมาก
ที่เรียกว่าประเภทอุคฆฏิตัญญู วิปจิตัญญู นั่นแหละครับ
แต่ท่านก็น้อมนำธุดงค์วัตรที่พระพุทธองค์ได้ทรงประทานไว้
ได้น้อมนำมาปฏิบัติได้มากที่สุด ในบรรดาสาวกทุกองค์
จนพระพุทธองค์ได้ทรงสรรเสริญยกย่องท่านว่า
.....ท่านเป็นเลิศในธุดงค์วัตรไม่มีสาวกองค์ใดยิ่งไปกว่าท่าน...
.........ในด้านการนำข้อปฏิบัติธุดงค์มาปฏิบัติมารักษา.........


ผมว่าธุดงค์13 นี่ทำได้ทุกจริตนิสัยนะครับท่านวิริยะ
ยิ่งคนที่เป็นประเภทอุคฆฏิตัญญู หรือ วิปจิตัญญู
พวกประเภทที่ท่านมีกิเลสเบาบางถ้าได้น้อมนำธุดงค์13ไปปฏิบัติ
ก็ยิ่งจะทำให้ท่านสำเร็จมรรคผลได้เร็วขึ้นมากนะ
เหมือนกับนั่งเครื่องบินแทนการนั่งรถยนต์รถไฟไปสู่จุดหมายเลยล่ะ

แต่ถ้าพวกเนยยะ นั้น
จำเป็นต้องอาศัยธุดงค์เข้าช่วยอย่างมากๆ
เพราะกิเลสมากต้องใช้อาวุธหนัก ถึงจะเอากิเลสได้อยู่
ถ้าไม่ใช้ธุดงค์เข้าช่วยแล้วประเภทเนยยะจะไปได้ยากอยู่นะผมว่า
ส่วนพวกกิเลสเบาบางถ้าได้นำธุดงค์วัตรเข้ามาช่วยด้วย
ก็จะยิ่งทำให้ปฏิบัติธรรมได้พ้นทุกข์เร็วขึ้นไปอีกครับท่าน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ส.ค. 2012, 05:53 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ค. 2012, 21:02
โพสต์: 127


 ข้อมูลส่วนตัว


จากกระทู้.....กระทู้สุดยอดเคล็ดลับความสำเร็จ.....viewtopic.php?f=1&t=43028&start=15


วิริยะ เขียน:
<ตะวัน> เขียน:

ตะวัน เขียน:


..............องค์พระมหากัสสปะ...............
ท่านก็ไม่ใช่ประเภท...เนยยะ...นะคุณวิริยะ
ท่านระดับอุคฆฏิตัญญู เลยล่ะนะผมว่า



วิริยะ เขียน:
ต้องดูกันที่ ชาติต้น ๆ นะ ไม่ใช่มาดูกันชาติสุดท้าย
ถ้าไม่มีความเด็ดเดี่ยว มุมานะ ชอบความเด็ดขาด

ท่านก็คงไม่หวังเป็นเอตทัคคะทางธุดงค์วัตรแน่นอน

ปัญญา ศรัทธา วิริยะ มีกันทุกคนแหละครับ
แต่ตัวไหนที่เด่นกว่าต่างหากละ ..

:b1:



ตะวัน เขียน:
เดี๋ยวค่อยจะมาคุยเพิ่มเน้อ ท่านวิริยะ
ตอนนี้ยังยุ่งๆอยู่
แล้วค่อยจะมาคุยด้วยต่อแล้วกันนะท่าน


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 40 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร