วันเวลาปัจจุบัน 22 ก.ค. 2025, 03:11  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 114 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5 ... 8  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ย. 2012, 15:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2009, 20:42
โพสต์: 699


 ข้อมูลส่วนตัว


วิริยะ เขียน:
บทว่า โส ปมาทมนุจิณฺโณ อาสชฺช นํ ตถาคตํ

... [/color]

:b1:

cool ครือว่า... คำบาลีประโยคเดียว ไหงแปลได้เป็นสายน้ำแบบนั้น
เข้าไปอ่านมาแล้วล่ะ แล้วลองคลิกไปที่ เทวทัตตสูตร ปรากฎว่า ก็ไม่ได้มีคำแปลอะไรแบบนั้นเลย

พิเคราะห์แล้ว พยานหลักฐานไม่เป็นที่น่าเชื่อถือ ยกฟ้องโดยพลัน :b34:


:b6: ส่วนเรื่อง จุตูปปาตญาณ ก็ขอต๊ะไว้ก่อน. เพราะมันดูน่าสงสัยยังไงๆ อยู่. ยิ่งค้นข้อมูลมากเข้าๆ ก็ยิ่งทำให้สงสัยยิ่งขึ้นๆ

อย่างแรก พระอรหันต์สุกขวิปัสสโก ไม่มีในพระไตรปิฏก
อย่างที่สอง ถ้าเราจะวางใจในคัมภีร์อรรถกถา ว่าพระอรหันต์มี 4 ประเภท. แล้วพระอรหันต์ที่ไม่มีวิชชา 3 แต่มีอิทธิฤทธิ์ จะเป็นพระอรหันต์ประเภทใด


ถ้ากึ่งพุทธกาล จะเป็นยุคที่พระธรรมจะเปล่งรัศมีฉายแสงส่องโลกจริง เหล่ามนุษย์ต่างดาวจะต้องหอบพระไตรปิฏกฉบับที่ 1 เขียนขึ้นโดยพระอานนท์มาให้ชาวโลกได้แปลกันอีกครั้ง :b32: :b32:
ซึ่งบางคนก็ว่า พระไตรปิฏกที่เป็นคัมภีร์เริ่มที่ฉบับที่ 5 แต่เราว่าไม่จริง. ถ้าอาศัยการจดจำ มันจะเรียกว่า ตำนาน แล้วก็ไม่มี ฉบับ ด้วย

ที่สำคัญ มีพระสูตรอยู่อันหนึ่ง ที่ว่าไว้ทำนองว่า ภิกษุต้องไม่บัญญัติ ในสิ่งที่เราไม่ได้บัญญัติ นั่นแสดงว่า ต้องมีลายลักษณ์อักษรในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง

:b6: ส่วนตัว เราคิดว่า พระไตรปิฏกในส่วนของ ชีวประวัติ น่าจะเชื่อถือไม่ได้. เนื้อความอาจจะถูกแก้ไข เพื่อสนับสนุนระบอบการปกครองของแต่ละยุคแต่ละสมัย

สรุปว่า เรื่อง จุตูปปาตญาณ ก็ขอต๊ะไว้ก่อน :b32: :b32: :b32:


เพิ่มเติม... เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้ว ก็ย่อมรู้ว่า...
ในอนาคต จะมีคัมภีร์อรรถกถาแต่งขึ้นมาเทียบเคียง. และย่อมรู้ว่า พระไตรปิฏกจะถูกสังคายนาถึง 11 ครั้ง. ดังนั้น จึงสมเหตุสมผลดี ถ้าพระพุทธเจ้าจะมอบพระไตรปิฏกฉบับ Original ให้ชาวต่างดาวรักษาไว้. เมื่อถึงรอบของเทพและพรหม จะได้เอามาตีพิมพ์เผยแพร่อีกครั้ง ฮิฮิ :b32: :b32: :b32:
พอแปลเสร็จแล้ว พระไตรปิฏกฉบับ Original ก็จะตกอยู่ในอุ้งมือมาร เพราะเขาว่า อีกพันปีจะถึงรอบของมาร ฮิฮิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ย. 2012, 17:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


murano เขียน:
สรุปว่า เรื่อง จุตูปปาตญาณ ก็ขอต๊ะไว้ก่อน :b32: :b32: :b32:
.. ยินดีครับ ยินดี .. :b32: :b32: :b32:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 พ.ย. 2012, 10:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2009, 20:42
โพสต์: 699


 ข้อมูลส่วนตัว


cool cool cool มาขยายความต่ออีกแล้ว คาดว่าจะสุดท้ายล่ะ

ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดอีกอย่างหนึ่งของ ตาที่สาม และทิพยจักษุ (จุตูปปาตญาณ) จะเขียนไปเรื่อยๆ นะ

:b6: :b6: :b6: เมื่อตาที่สามเป็นการย่นระยะทาง ดังนั้น มันจึงต้องมีการกำหนดจุดหมายปลายทางก่อน จะใช้ภาษาพระว่า หยั่ง ก็ได้
แต่ทิพยจักษุ จะไม่มีการหยั่ง การเพ่ง หรืออะไรใดๆ. มันเป็นการเห็นแบบธรรมดา เหมือนคนปกติที่มองด้วยตาปกติ ก็มองแบบธรรมดาๆ. และถ้าจะมองในสิ่งที่ต้องการ ภาษาในพระไตรปิฏกใช้ว่า โน้มจิต, ภาษาชาวบ้านก็คือ ก็อยากจะเห็นอะไร มันก็เห็น

เมื่อไม่มีการเพ่ง ไม่มีการส่งอำนาจจิต, ทิพยจักษุ จึงไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ ต่อสิ่งที่กำลังดู.
ต่างกับตาที่สาม ที่ใช้การเพ่งไปที่จุดๆ หนึ่ง (รวมจิต). มันสามารถก่อให้เกิดอันตรายอย่างรุนแรงได้ โดยเฉพาะเมื่อเพ่งไปที่ศูนย์กลางของระบบประสาท.
หรือสามารถทำให้เกิดการ รวน ของอุปกรณ์ทางไฟฟ้าต่างๆ เป็นที่ตื่นตะลึงของผู้พบเห็น, แต่โดยหลักแล้ว เป็นเรื่องธรรมดามาก เพราะสนามแม่เหล็กย่อมมีผลกระทบทางไฟฟ้าอยู่แล้ว


:b6: ในสมาธิ, สิ่งที่จะบ่งบอกได้ว่า เรากำลังเข้าถึงทิพยจักษุ คือ เราสามารถ ย้าย ตำแหน่งของการมองเห็น ไปยังจุดต่างๆ ได้.
แต่ถ้าเรายังไม่ชัดเจนว่า ตำแหน่งของการมองเห็น คืออะไร อยู่ตรงไหน, ก็แสดงว่า ยังต้องฝึกการ ละ ต่อไป

สมาธิที่ว่า คือ วิปัสสนาสมาธิ วิปัสสนาฌาณ เท่านั้น.
สมถะสมาธิ ไม่สามารถนำไปสู่การละได้ เพราะโดยพื้นฐาน มันเป็นฌาณที่ เคร่งเครียด, เป็นฌาณที่ ยึดแน่น, เป็นฌาณที่ต้องอาศัยการ ยึดติด ในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
ต่างกับวิปัสสนาฌาณ ที่จะเป็นอารมณ์ผ่อนคลาย สบายๆ และความสบายๆ นี่แหล่ะ ที่นำไปสู่ ญาณ ต่างๆ

มีข้อสังเกตว่า อภิญญา 3 อย่างสุดท้าย ล้วนเป็น ญาณ ทั้งสิ้น, จุตูปปาตญาณ เจโตปริยญาณ และบุพเพนิวาสานุสสติญาณ


:b6: แต่ก็อย่างที่ว่าไว้ หากสิ่งที่เราคาดหมายเป็นจริง, ในอนาคตอันใกล้ สมถะฌาณจะสิ้นสุดลง รวมถึงกลไกตาที่สาม ก็จะถูกยุติลงด้วย
เราเข้าใจว่า สมถะฌาณมีขึ้น เพื่อรองรับจริตที่เป็นแบบ วิริยะ ซึ่งหากจะมีวิวัฒนาการครั้งใหม่ใดๆ ที่จะทำให้คนโดยทั่วไป เข้าใกล้ความเป็น ปัญญาธิกะ มากขึ้น, สิ่งเหล่านี้ก็ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องคงอยู่อีก

จบ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 พ.ย. 2012, 10:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


:b32:

ธ่อ เอกอนยังแสดง comment ไม่หมดเรย
อ่าน ตำนานท่านมูแล้ว มีเรื่องหนุก ๆ อยู่ในคลังที่อยากจะทะลักออกมาเพียบ
(แบบ อยากนำเสนอ แต่ไม่รู้จะพิมพ์ออกมาอีท่าไหน)

จะรีบไปไหนล่ะท่าน


:b9: :b9: :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 พ.ย. 2012, 10:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2009, 20:42
โพสต์: 699


 ข้อมูลส่วนตัว


cool cool cool จะให้เล่าต่อ มันต้องมี comment อะไรๆ มาสะกิดอะ. จู่ๆ จะให้นึกขึ้นมาเอง ก็นึกไม่ค่อยออก
อย่างที่เขียนข้างบน ก็ได้แรงสะกิดจาก comment ของ กบนอกกะลา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 พ.ย. 2012, 10:51 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


murano เขียน:
:b6: ในสมาธิ, สิ่งที่จะบ่งบอกได้ว่า เรากำลังเข้าถึงทิพยจักษุ คือ เราสามารถ ย้าย ตำแหน่งของการมองเห็น ไปยังจุดต่างๆ ได้.
แต่ถ้าเรายังไม่ชัดเจนว่า ตำแหน่งของการมองเห็น คืออะไร อยู่ตรงไหน, ก็แสดงว่า ยังต้องฝึกการ ละ ต่อไป


อ้างคำพูด:
สมาธิที่ว่า คือ วิปัสสนาสมาธิ วิปัสสนาฌาณ เท่านั้น.
สมถะสมาธิ ไม่สามารถนำไปสู่การละได้ เพราะโดยพื้นฐาน มันเป็นฌาณที่ เคร่งเครียด, เป็นฌาณที่ ยึดแน่น, เป็นฌาณที่ต้องอาศัยการ ยึดติด ในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
ต่างกับวิปัสสนาฌาณ ที่จะเป็นอารมณ์ผ่อนคลาย สบายๆ และความสบายๆ นี่แหล่ะ ที่นำไปสู่ ญาณ ต่างๆ


ท่านมูเคยคิดมั๊ย คัมภีร์ ที่ว่าส่งผ่านกันอยู่ในรูปของ ธาตุ
มันเป็นเรื่องยากที่เราจะเข้าใจ
แต่ เราต้องลืมการใช้ภาษาพูด/ภาษาเขียนไป อย่าเอาความเข้าใจวัฒนธรรมการสื่อสารของคน
ไปวัดว่า ชนอีกกลุ่มเขาจะสื่อสารกันในรูปแบบเดียวกับเรา
เพราะในแง่มุมของอายตนะจิต
มันไม่ได้อ่านภาษา มันรับรู้ เข้าใจการสื่อสารด้วย รูปแบบพลังงานต่าง ๆ

การรับความรู้เข้ามา ก็สามารถทำกันได้แบบ ยิงธาตุ(ตำรา)เข้าไปในสนามพลังงานที่ต้องการ
ผู้รับ ที่ต้องการองค์ความรู้ มีหน้าที่ ปรับสนามพลังงานให้เหมาะสมที่จะรับสิ่งนั้น ๆ ได้

แต่ สภาวะธรรมทั้งสอง ต้องอยู่ในระดับเดียวกัน หรือมีจังหวะที่มีความสอดคล้องกัน
สภาวะธรรมจึงจะประสานสอดแทรกเข้ากันได้
จึงจะเกิดการถ่ายเทพลังงานไปสู่กันและกัน เกิดองค์ความรู้ในธาตุนั้น ๆ

การถือ คัมภรี์ ไปไหนมาไหน คือ การพก ธาตุ นั้น ๆ ไป
เมื่อ ธาตุ นั้น ๆ ที่แสดงคุณลักษณะนั้น ๆ
ประกอบอยู่กับ องค์ประกอบสนามพลังงานไหน
สนามพลังงานนั้น ก็จะแสดงสภาวะ ธรรม ตามกำลังธาตุนั้นออกมา

นั่นคือ เหตุผลที่ ทำไม ตำนานของท่านมู
คัมภีร์จึงตกไปอยู่ในมือมารตามกำหนดเวลา และเป็นมารตนไหน

คือ บางทีเอกอนไม่ค่อยอยากเข้าไปวุ่ยวายกับการหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้มากนัก
เพราะ สิ่งที่เห็น กับสิ่งที่เป็นอยู่ที่เข้าใจในความเป็นมนุษย์ มันคนละเรื่องกันเลย
ซึ่งมันก็ยากนะที่จะใช้ชีวิตอยู่นอก ศรีธัญญา โดยที่เราจะคงความเชื่อที่ว่า ความเป็นจริงมันเป็นเช่นนั้น

คือเอกอนยังติดความเป็นมนุษย์น่ะ
ถ้าเอกอนตั้งใจเชื่อจริง ๆ ไปเลยว่า เอกอนเป็นมนุษย์ต่างดาว
เอกอนก็อาจจะไม่ต้องแคร์สายตาใคร :b32: :b9: :b9:

55555


:b2: :b2: :b2:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 พ.ย. 2012, 11:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2009, 20:42
โพสต์: 699


 ข้อมูลส่วนตัว


เอกอนกำลังบอกว่า พระไตรปิฏกฉบับแรก ถูกสลักไว้ในเพชรก้อนหนึ่ง ผู้ใดได้ครอบครองเพชรนั้น จะได้เป็นผู้สืบทอดบัลลังก์แห่งจักรวาล
ผู้สืบทอดจะวางเพชรนี้ ลงบนคฑาแห่งสรวงสวรรค์ ลำแสงจะพุ่งผ่านออกมา องค์ความรู้จะถูกถ่ายทอด เกิดเป็นภาพโฮโลแกรมขึ้นบนอากาศ... แบบนั้นรึ :b6: :b6: :b6:

s004 s004 s004


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 พ.ย. 2012, 11:11 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


murano เขียน:
เอกอนกำลังบอกว่า พระไตรปิฏกฉบับแรก ถูกสลักไว้ในเพชรก้อนหนึ่ง ผู้ใดได้ครอบครองเพชรนั้น จะได้เป็นผู้สืบทอดบัลลังก์แห่งจักรวาล
ผู้สืบทอดจะวางเพชรนี้ ลงบนคฑาแห่งสรวงสวรรค์ ลำแสงจะพุ่งผ่านออกมา องค์ความรู้จะถูกถ่ายทอด เกิดเป็นภาพโฮโลแกรมขึ้นบนอากาศ... แบบนั้นรึ :b6: :b6: :b6:

s004 s004 s004


5555555555


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 พ.ย. 2012, 11:22 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


murano เขียน:
เอกอนกำลังบอกว่า พระไตรปิฏกฉบับแรก ถูกสลักไว้ในเพชรก้อนหนึ่ง ผู้ใดได้ครอบครองเพชรนั้น จะได้เป็นผู้สืบทอดบัลลังก์แห่งจักรวาล
ผู้สืบทอดจะวางเพชรนี้ ลงบนคฑาแห่งสรวงสวรรค์ ลำแสงจะพุ่งผ่านออกมา องค์ความรู้จะถูกถ่ายทอด เกิดเป็นภาพโฮโลแกรมขึ้นบนอากาศ... แบบนั้นรึ :b6: :b6: :b6:

s004 s004 s004


ตอนที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ เกิดลำแสงที่ทำให้จักรวาลสว่างวาบขึ้นมา
เป็นปรากฎการณ์ที่....มีการเล่าและบันทึกกันในตำราสืบมาไม่ใช่เหร๋อ
ปรากฎผู้บรรลุธรรมในทันทีที่เห็นแสงกี่คน
และยังจะวันสิ้นยุคอีก ที่มีการเล่าและบันทึกกันในตำราในเรื่องการให้จดจำพระสูตร
ที่ว่าก็จะมีเหตุให้ผู้ที่จดจำพระสูตรบรรลุธรรมกันได้ในวันนั้น

จะบอกว่าพระพุทธเจ้าโกหก...เหร๋อ...

มันเป็นการแสดงปรากฎการณ์แห่ง จิต เจตสิก รูป
พระองค์รู้ในสิ่งที่พระองค์เข้าถึง
และพระองค์ก็พยายามจะถ่ายทอดสิ่งที่พระองค์รู้ให้พวกเรารู้

:b13: :b13: :b13:

ถ้ายึดตามอักขระ เราเชื่อในสิ่งที่ได้อ่านได้ยินได้ฟังนั้นอย่างไร
เรามีเหตุผลอะไร ถึงได้เชื่อ
เราเชื่อสิ่งนั้นได้สนิทใจแค่ไหน

เราต้องวางอักขระ และเข้าไปในปรากฎการณ์

เรากำลัง ทำอะไรกันอยู่ กันแน่
มันเป็นปรากฎการณ์แห่ง จิต เจตสิก รูป
ไม่ใช่ปรากฎการณ์....ของเรา

ถ้าเราจะเชื่อในคำสอนพระพุทธองค์
เราต้องตอบตัวเองให้ได้ด้วย อย่างชัดเจน ว่าทำไมเราจึงเชื่อ

:b13: :b13: :b13:


แก้ไขล่าสุดโดย eragon_joe เมื่อ 05 พ.ย. 2012, 11:40, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 พ.ย. 2012, 11:28 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


อิอิ คุยกะท่านมู มันส์ดี

เอกอนพอจะโชว์ความเพี้ยนได้เต็มที่ ...


:b4: :b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 พ.ย. 2012, 11:45 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ก็ดีนะ.....อิอิ :b16: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 พ.ย. 2012, 11:47 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


murano เขียน:
เอกอนกำลังบอกว่า พระไตรปิฏกฉบับแรก ถูกสลักไว้ในเพชรก้อนหนึ่ง ผู้ใดได้ครอบครองเพชรนั้น จะได้เป็นผู้สืบทอดบัลลังก์แห่งจักรวาล
ผู้สืบทอดจะวางเพชรนี้ ลงบนคฑาแห่งสรวงสวรรค์ ลำแสงจะพุ่งผ่านออกมา องค์ความรู้จะถูกถ่ายทอด เกิดเป็นภาพโฮโลแกรมขึ้นบนอากาศ... แบบนั้นรึ :b6: :b6: :b6:

s004 s004 s004


นึกถึงภาพ แสงที่ตกกระทบผ่านแท่งแก้วปริซึ่ม

หรือ แท่งแก้วคริสตัลที่มีการเจียรไนลวดลาย...จิ

อย่ามองว่านั่นเป็นเพียงแค่ก้อนธาตุ ก้อนวัตถุ
และเราเป็นอีกสิ่งต่างหากจากสิ่งนั้น ....

ถ้าหากว่าใครกล้าพูดว่า รูปนามที่เราถือครองอยู่นี้
ไม่ได้เป็นสิ่งที่ประกอบของธาตุต่าง ๆ มาประชุมกัน
ดังนั้น สิ่งที่เอกอนนำมาเปรียบก็พอจะตกไป

ใครกล้ายืนยันว่า ปรากฎการณ์ในลักษณะของแสงและปริซึม ไม่ได้ปรากฎขึ้นใน area รูปนามที่เรายึดครองอยู่นี้

:b13: :b13: :b13:

อิอิ มั่วได้อย่างเต็มที่ :b4: :b4:


:b12:


แก้ไขล่าสุดโดย eragon_joe เมื่อ 05 พ.ย. 2012, 12:04, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 พ.ย. 2012, 11:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


murano เขียน:
:b6: ในสมาธิ, สิ่งที่จะบ่งบอกได้ว่า เรากำลังเข้าถึงทิพยจักษุ คือ เราสามารถ ย้าย ตำแหน่งของการมองเห็น ไปยังจุดต่างๆ ได้.
แต่ถ้าเรายังไม่ชัดเจนว่า ตำแหน่งของการมองเห็น คืออะไร อยู่ตรงไหน, ก็แสดงว่า ยังต้องฝึกการ ละ ต่อไป


ตรงนี้ ภาษาที่อาจารย์เคยเล่าให้ฟังคือ
จิต เข้าไปจับ/ตั้งอยู่ในคุณลักษณะใดเพื่อเป็นตัวกลางเป็นตัวเชื่อมในการรู้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 พ.ย. 2012, 12:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


ทิพยจักษุ ได้จากการกำหนด "เหนหนอ ๆ ๆ" คนที่อยากได้ตาทิพย์ จิตใจต้องเปนทิพย์จากข้างในก่อน
แต่ถ้าได้ในข่ายโลกียอภิญญามันมีเสื่อมได้ ต้องเริ่มกลับไปนับ1 ใหม่ เมื่อได้ขั้นตรงนี้คือมีตาทิพย์
เขาไม่ให้สนใจเรื่องนี้มาก ให้ก้าวข้ามไปยังขั้นที่ต้องการดับกิเลส ด้วยการเสริมคมของปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 พ.ย. 2012, 12:19 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


และพระพุทธองค์ก็เคยเปรย ในเรื่องของจิตว่า ประภัสสร

:b9: :b9: :b9:

หมองเมื่อกิเลสจรมา

ไฟหน้ารถธรรมดา...มันส่องไม่ทะลุหมอกนะ...ใช่มั๊ย :b32:

สนามพลังงานที่อุดมไปด้วยสิ่งที่หักเหแสง
สิ่งที่กระทบ-ก็ปรากฎบิดเบี้ยวไปตามสภาพเนื้อธาตุที่มาประชุม

:b4: :b4: :b4:

พระองค์เห็นอะไร กันแน่
เห็นสิ่งเดียวกับที่เราเห็น รึเปล่าหว๋าาาาา.... :b22: :b22: :b22:

เอกอนเชื่อ
สิ่งที่พระองค์เห็นไม่ใช่ แค่เรื่อง การสอน ศีลธรรม
แต่พระองค์เห็น ความเป็นเหตุเป็นปัจจัย ของสรรพสิ่งต่าง ๆ ที่ปรากฎ

s005 s005 s005



แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 114 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5 ... 8  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร