วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 19:44  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 29 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ย. 2012, 16:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5361


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่มีทางใดจะหนีพ้นนรกได้เท่าทางแห่งความดี คือ บุญ

ความสามารถทำให้คุณไปถึงจุดสูงสุด แต่ความอ่อนน้อมทำให้คุณอยู่จุดนั้นได้นานสุด


คำว่า ไม่พึงประมาท ความว่า

พึงเป็นผู้ทำโดยเอื้อเฟื้อ ทำติดต่อ ทำไม่หยุด

มีความประพฤติไม่ย่อหย่อน ไม่ปลงฉันทะ ไม่ทอดธุระ

ไม่ประมาทในธรรมทั้งหลายฝ่ายกุศล ความพอใจ ความพยายาม

ความอุตสาหะ ความเป็นผู้ขยัน ความมีเรี่ยวแรง ความไม่ถอยกลับ

ความระลึกได้ ความรู้สึกตัว ความเพียรเป็นเครื่องให้กิเลสร้อนทั่ว

ความเพียรอันพึงตั้งไว้ ความตั้งใจ ความประกอบเนือง ๆ ในกุศลธรรมนั้น

ว่าเมื่อไร เราพึงยังศีลขันธ์ที่ยังไม่บริบูรณ์ให้บริบูรณ์ หรือเราพึงอนุเคราะห์

ศีลขันธ์ที่บริบูรณ์ในที่นั้นด้วยปัญญา ดังนี้ ชื่อว่า

ความไม่ประมาทในธรรมทั้งหลายฝ่ายกุศล.

ความพอใจ ความพยายาม ...ความประกอบเนือง ๆ ในกุศลธรรม

นั้นว่า เมื่อไร เราพึงยังสมาธิขันธ์ที่ยังไม่บริบูรณ์ให้บริบูรณ์ หรือเราพึง

อนุเคราะห์สมาธิขันธ์ที่บริบูรณ์ในที่นั้นด้วยปัญญา ดังนี้ ชื่อว่า

ความไม่ประมาทในธรรมทั้งหลายฝ่ายกุศล.

ความพอใจ ความพยายาม...ความประกอบเนือง ๆ ในกุศลธรรม

นั้นว่า เมื่อไร เราพึงยังปัญญาขันธ์ที่ยังไม่บริบูรณ์ให้บริบูรณ์ หรือเรา

พึงอนุเคราะห์ปัญญาขันธ์ที่บริบูรณ์ในที่นั้นด้วยปัญญา ดังนี้ ชื่อว่า

ความไม่ประมาทในธรรมทั้งหลายฝ่ายกุศล.

ความพอใจ ความพยายาม... ความประกอบเนือง ๆ ในกุศลธรรม

นั้นว่า เมื่อไรเราพึงยังวิมุตติขันธ์ที่ยังไม่บริบูรณ์ให้บริบูรณ์ หรือเราพึง

อนุเคราะห์วิมุตติขันธ์ที่บริบูรณ์ในที่นั้นด้วยปัญญา ดังนี้ ชื่อว่า

ความไม่ประมาทในธรรมทั้งหลายฝ่ายกุศล.

ความพอใจ ความพยายาม ...ความประกอบเนือง ๆ ในกุศลธรรม

นั้นว่า เมื่อไร เราพึงยังวิมุตติญาณทัสสนขันธ์ที่ยังไม่บริบูรณ์ให้บริบูรณ์

หรือเราพึงอนุเคราะห์วิมุตติญาณทัสสนขันธ์ที่บริบูรณ์ในที่นั้นด้วยปัญญาดังนี้ ชื่อว่า

ความไม่ประมาทในธรรมทั้งหลายฝ่ายกุศล.

ความพอใจ ความพยายาม ความอุตสาหะ ความเป็นผู้ขยัน

ความมีเรี่ยวแรง ความไม่ถอยกลับ ความระลึกได้ ความรู้สึกตัว ความเพียร

เป็นเครื่องให้กิเลสร้อนทั่ว ความเพียรอันพึงตั้งใจ ความตั้งใจ

ความประกอบเนือง ๆ ในกุศลนั้นว่า เมื่อไร เราพึงกำหนดรู้ทุกข์ที่ยังไม่กำหนดรู้

เราพึงละกิเลสทั้งหลายที่ยังละไม่ได้ เราพึงยังมรรคที่ยังไม่เจริญให้เจริญ

หรือว่าเราพึงทำให้แจ้งซึ่งนิโรธที่ยังไม่ทำให้แจ้ง ดังนี้ ชื่อว่า

ความไม่ประมาทในธรรมทั้งหลายฝ่ายกุศล. เพราะเหตุนั้น

จึงชื่อว่า พึงเว้นจากความคะนอง ไม่พึงประมาท


พรรณนาปัญหาว่าอะไรเอ่ยชื่อว่า ๒

พระศาสดา ผู้มีจิตอันพระเถระทำให้ทรงยินดีด้วยการพยากรณ์นี้อย่าง

นี้แล้ว จึงตรัสถาม หายิ่งในรูป เหมือนนัยแรกว่า อะไรเอ่ย ชื่อว่า ๒

พระเถระกล่าวซ้ำว่า เทฺว๒ทูลตอบด้วยเทศนาเป็นบุคลาธิษฐานว่าคือ

นาม และ รูป.

บรรดานามและรูปนั้น เรื่องที่มิใช่รูปทั้งหมด ท่านเรียกว่านาม


เพราะน้อมมุ่งหน้าสู่อารมณ์อย่างหนึ่ง เพราะเป็นเหตุน้อมจิตไปอย่างหนึ่ง.

แต่ในที่นี้ท่านประสงค์เอาธรรมที่มีอาสวะเท่านั้น

เพราะเป็นเหตุแห่งนิพพิทาความหน่าย

ส่วนมหาภูตรูป ๔ และรูปทั้งหมดที่อาศัยมหาภูตรูปนั้นเป็นไป ท่านเรียกว่า

รูป เพราะอรรถว่า

แตกสลาย.

รูปนั้นในที่นี้ ท่านประสงค์เอาทั้งหมด.

แต่พระเถระกล่าวในที่นี้ว่า ชื่อว่า ๒ คือนามและรูป ก็โดยความประสงค์นี้

แล มิใช่กล่าวเพราะไม่มีธรรม ๒ อย่างอื่น เหมือนอย่างที่ตรัสไว้ว่า

ดูก่อนภิกษุทั้งหลายในธรรม๒อย่างภิกษุ

เมื่อหน่ายโดยชอบฯลฯย่อมเป็นผู้ทำที่สุดทุกข์ได้ใน

ธรรม๒อย่างคือนานและรูปดูก่อนภิกษุทั้งหลาย

ในธรรม๒อย่างนี้แลภิกษุเมื่อหน่ายโดยชอบฯลฯ

ย่อมเป็นผู้ทำที่สุดทุกข์ได้คำนั้นใดว่าปัญหา๒

อุทเทส๒ไวยากรณ์๒ดังนี้คำนี้เราอาศัยอันนี้

กล่าวแล้ว.

ก็ในปัญหาข้อนี้ พึงทราบว่า ภิกษุละอัตตทิฏฐิความเห็นว่าเป็นตนได้

ด้วยการเห็นเพียงนามรูปแล้ว เมื่อหน่ายโดยมุขคือการพิจารณาเห็นอนัตตา

ย่อมจะเป็นผู้ทำที่สุดทุกข์ได้ ย่อมบรรลุปรมัตถวิสุทธิได้ เหมือนอย่างที่ตรัส

ไว้ว่า

สพฺเพธมฺมาอนตฺตาติยทาปญฺญายปสฺสติ

อถนิพฺพินฺทติทุกฺเขเอสมคฺโควิสุทฺธิยา.

เมื่อใดเห็นด้วยปัญญาว่าธรรมทั้งปวงเป็น

อนัตตาเมื่อนั้นย่อมหน่ายในทุกข์นี้เป็นทางแห่ง

วิสุทธิดังนี้.



เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ย. 2012, 22:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 พ.ค. 2012, 02:09
โพสต์: 456


 ข้อมูลส่วนตัว




B J phodi.bmp
B J phodi.bmp [ 195.49 KiB | เปิดดู 7674 ครั้ง ]
.. :b8:

อนุโมทนาแล้วๆๆ ..
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ย. 2012, 11:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5361


 ข้อมูลส่วนตัว


ดูก่อนอานนท์ ก็ทักษิณาที่ถึงแล้วในสงฆ์มี ๗ อย่าง คือ ให้

ทานในสงฆ์ ๒ ฝ่าย มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข นี้เป็นทักษิณาที่ถึงแล้วในสงฆ์

ประการที่ ๑. ให้ทานในสงฆ์ ๒ ฝ่าย ในเมื่อตถาคตปรินิพพานแล้ว เป็น

ทักษิณาที่ถึงแล้วในสงฆ์ทั้ง ๒ ฝ่าย ในเมื่อตถาคตปรินิพพานแล้ว นี้เป็น

ทักษิณาที่ถึงแล้วในสงฆ์ประการที่ ๒.

บทว่า พุทฺธปฺปมุเข อุภโตสงฺเฆ ความว่า สงฆ์นี้คือ ภิกษุสงฆ์

ฝ่ายหนึ่ง ภิกษุณีสงฆ์ฝ่ายหนึ่ง พระศาสดาประทับนั่ง ณ ท่ามกลาง ชื่อว่า

สงฆ์ ๒ ฝ่าย มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข. บทว่า อย ปมา ความว่า ชื่อว่า

ทักขิณา มีประมาณเสมอด้วยทักขิณานี้ไม่มี. ก็ทักขิณาทั้งหลายมีทักขิณาที่สอง

เป็นต้น ย่อมไม่ถึงทักขิณาแม้นั้น. ถามว่า ก็เมือพระตถาคตปรินิพพานแล้ว

อาจเพื่อถวายทานแด่พระสงฆ์ ๒ ฝ่ายมีพระพุทธเจ้าเป็นประมุขหรือ. ตอบว่า

อาจ. อย่างไร. ก็พึงตั้งพระพุทธรูปที่มีพระธาตุในฐานะประมุขของสงฆ์ ๒ ฝ่าย

ในอาสนะ วางตั้ง ถวายวัตถุทั้งหมดมีทักขิโณทกเป็นต้นแด่พระศาสดาก่อนแล้ว

ถวายแด่พระสงฆ์ ๒ ฝ่าย. ทานเป็นอันชื่อว่าถวายสงฆ์ ๒ ฝ่าย มีพระพุทธเจ้า

เป็นประมุข ด้วยประการฉะนี้.


การที่เราไปทำบุญทำทานนั้น เพื่อชำระจิตใจให้ใสสะอาด บริสุทธิ์ มิใช่กระทำบุญนี้ ความดีนี้ เพื่อหวังในผลใดๆ ตอบกลับ


ผู้ที่ตกเป็นทาสของกิเลส จะมีจิตที่วุ่นวาย หลงอยู่แต่ในอารมณ์ ความอยากใดๆ จะทำให้จิตนี้ใจนี้เศร้า เป็นทุกข์ ทั้งๆ ที่รู้ตนและไม่รู้ตน

จะดับอยาก ต้องละเหตุ แห่งความอยาก
ที่ลำบาก เพราะมัวเพลิน เวทนาสาม
สุกข์ ทุกข์ อุเบกขา จิตเพลินตาม
...จึงรุ่มร่าม จิตเกิดทุกข์ ลุกเป็นไฟ

ผัสสะรู้ ดูเห็นคิด จิตกระทบ
ขาดสติ จึงบรรจบ ช่างเฉไฉ
เมื่อเกิดสุข ก็อยากก่อ อยู่ต่อไป
เมื่อเกิดทุกข์ ก็อยากให้ สิ้นสุดลง

เมื่อเกิดเป็น เวทนา อุเบกขา
ก็ไม่มี ปัญญา จึงมัวหลง
จมปลักแห่ง สมุทัย ให้มั่นคง
มิเห็นทาง อันเที่ยงตรง แห่งธรรมวินัย

จะดับอยาก ต้อง...."เหนือเวทนา"
มีปัญญา มีสติ ที่ผ่องใส
จิตเหนือสุข จิตเหนือทุกข์ เหนือปัจจัย
จิตยิ่งใหญ่ เหนือรูปนาม รู้ตามจริง

ไม่ผลักทุกข์ ไม่เอาสุข ไม่มัวหลง
จิตมั่นคง มหาสติ ธรรมอันยิ่ง
"เวทนาปริคหสูตร".... อย่าประวิง
ชวนชายหญิง เร่งศึกษา หาเล่าเรียน

พระศาสดา แสดงไว้ ในคราวนั้น
ขอบูชา ธรรมเฉิดฉัน ด้วยเกล้าเศียร
ในโอกาส อาสาฬหๆ บรรจบเวียน
เชิญเพื่อนพ้อง ทำความเพียร บูชาธรรม


ความทุกข์ที่เกิดขึ้นทางกาย เพราะร่างกายมันผิดปกติ ไ่ม่อยู่ในสภาพที่ปกติ เราก็มีความทุกข์ทางกาย ความจริงมันทุกข์อย่างเดียว มันทุกข์อยู่ที่ใจ เพราะว่าใจเข้าไปยึดถือกับกาย เมื่อใจเข้าไปยึดถือกาย ก็เลยเป็นทุกข์ อันเนื่องมาจากกาย เขาเรียกว่า กายิกทุกข์ แปลว่า ทุกข์เนื่องจากกาย.....พระพรหมมังคลาจารย์(ปัญญานันทภิกขุ)


เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ย. 2012, 13:51 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 พ.ค. 2012, 02:09
โพสต์: 456


 ข้อมูลส่วนตัว




B J phodi.bmp
B J phodi.bmp [ 195.49 KiB | เปิดดู 7650 ครั้ง ]
.. :b8:

อนุโมทนาแล้วๆๆ ..
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ย. 2012, 11:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5361


 ข้อมูลส่วนตัว


!! ผู้เห็นภัยทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ได้สดับว่า ธรรมทั้งปวงไม่ควรยึดมั่น เธอย่อมรู้ยิ่งซึ่งธรรมทั้งปวง ครั้นรู้ยิ่งซึ่งธรรมทั้งปวงแล้ว ย่อมกำหนดรู้ธรรมทั้งปวง ครั้นกำหนดรู้ธรรมทั้งปวงแล้ว ย่อมเห็นนิมิตทั้งปวงโดยประการอื่น คือเห็นจักษุโดยประการอื่น เห็นรูป จักษุวิญญาณ จักษุสัมผัส สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะจักษุสัมผัสเป็นปัจจัย โดยประการอื่น ฯลฯเห็นใจ ธรรมารมณ์ มโนวิญญาณ มโนสัมผัส สุขเวทนาทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะมโนสัมผัสเป็นปัจจัย โดยประการอื่น เมื่อภิกษุ รู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้แล จึงละอวิชชาได้ วิชชา จึงเกิดขึ้น ดังนี้




เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ



ขอเชิญร่วมบริจาคทุนทรัพย์เพื่อสร้างวิหาร วัดเกาะแก้ว อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร
086-0710880


ขอเชิญร่วมสร้างห้องน้ำถวายสำนักสงฆ์สองเเคววิสุทธฺิธรรม ตั้งอยู่ที่ ต.สะเนียน อ.เมือง จ.น่าน



ขอเชิญผู้ใจบุญร่วมสร้างพระอุโบสถ วัดหนองซอ จ.ประจวบคีรีขันธ์
081-1958927


ขอเชิญท่านพุทธศาสนิกชนทุกท่านร่วมทำบุญกฐินสามัคคีวัดห้วยข่อย ต.วังเหนือ อ.วังเหนือ จ.ลำปาง ตามกำลังศรัทธา เพื่อสร้างกำแพง และ สร้างศาลาอเนกประสงค์และบูรณปฏิสังขรณ์ศาสนถานภายในวัด ณ วันเสาร์ ที่ ๑๗ พฤศจิกายน พศ.๒๕๕๕ ท่านพุทธศาสนิกชน ที่มีความประสงค์จะร่วมทำบุญ โดย โอน มาเลขที่บัญชี 5300150193 ชื่อบัญชี พระวีระพงษ์ ปญญาทีโป ธนาคารกรุงไทยสาขา วังเหนือ



เชิญร่วมทำบุญปิดทององค์พระประธานพระอุโบสถ ณ วัดนิวาสสถาน อ.แม่อาย
จ.เชียงใหม่ ขอเชิญร่วมบุญใหญ่ในครั้งนี้ได้โดยสอบถามกับทางวัดได้เลยครับ วัดนิวาสสถาน (บ้านโห้ง) อ.แม่อาย ต.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ยังขาดทุนทรัพย์อีกมากเลยครับ



ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพกองบุญกฐินสามัคคี สบทบทุนบูรณะศาลาการเปรียญ วัดทุ่งสำราญ
ท่านสามารถร่วมทำบุญได้ที่
ธนาคารกรุงไทย
สาขามหาวิทยาลัยขอนแก่น
เลขที่บัญชี 980-5-29040-9
ชื่อบัญชี ศรายุทธ เอกคณาสิงห์

##ซึ่งเราจะปิดรับบริจาคในวันเสาร์ ที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ นี้##

ติดต่อได้ที่เบอร์ ศรายุทธ เอกคณาสิงห์ 0821179975


ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างห้องน้ำ ณ วัดประโชติการาม จ.สิงห์บุรี
089 5136491

เชิญร่วมกองบุญพิเศษสมทบรับผ้ายันต์สิหิงค์หลวงร่วมสมโภชสมเด็จโตหน้าตัก60นิ้ว
080-904-9778


เนื่องด้วยสุสานทุ่งมน จ.สุรินทร์ กำลังก่อสร้างอาคารเพื่อเป็นที่พักรับรองพระสงฆ์ที่มาปฏิบัติธรรม
จึงขอเชิญชวนผู้สร้างสมบุญบารมีทุกท่าน ร่วมเป็นเจ้าภาพกองกฐินสามัคคีสร้างสถานปฏิบัติธรรมและเสนาสนะ
081-075-1810



ขอเชิญบูชาพระขรรค์เหล็กน้ำพี้ปิดทองรุปเหมือนสมเด็จโต
081-075-1810


กฐินสามัคคี 2,600 กองวัดป่ากมโลสานิตยานุสรณ์ อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี
083-140-2285


ขอเชิญบูรณะวัดที่เสียหายจากอุทกภัยลพบุรี
0843374677


ร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างพระสมเด็จองค์ปฐม ๒๖ นิ้วเพื่อประดิษฐานณ วัดหลักแก้ว จ.อ่างทอง
085-1336996

วัดนาหมากอื้น แม่ฮ่องสอน ขอเรียนเชิญร่วมทำบุญ
โทร.081-2921929


เชิญร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างรูปปั้นครูบาเจ้าศรีวิชัยสูงที่สุดในโลก
โทร 0898355136

ขอเรียนเชิญร่วมทำบุญสร้างศาลาเอนกประสงค์ ณ.วัดนามะอื้น
โทร.081-2921929


ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพติดลายปูนปั้นประดับเสา อื่นๆ วัดบ้านน้อยท่าทอง
โทร. 086-2012390


ขอเชิญร่วมสร้างพระธาตุโลกะจุลมณีเจดีย์
081-799-9418

ขอเชิญร่วมทำบุญสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 ที่จังหวัดปราจีนบุรี
037454005


เชิญร่วมทำบุญงานยกช่อฟ้าอุโบสถ วัดทุ่งหมื่นน้อย จ.เชียงใหม่
๐๘๑-๗๘๓-๕๖๘๖



เชิญร่วมสร้างห้องน้ำ/กุฏิสงฆ์/ศาลาปฏิบิติธรรมและทอดกฐิน ณศูนย์ธรรมจักรนันทบุรีน่าน
090-0563220



ขอเชิญร่วมบุญสร้างศาลาการเปรียญเเละร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคี18พ.ย.55
โทร 043612-037



เชิญร่วมเป็นเจ้าภาพหล่อพระนาคปรกชำระหนี้สงฆ์ วัดบ้านห้วยน้ำขาว กาญจนบุรี
โทร.๐๘๘-๙๙๕-๖๕๙๕



เชิญร่วมทำบุญสร้างพระธาตุเจดีย์ "ยอดธงชัย" จังหวัดน่าน
โทร 0841768765


เชิญร่วมบุญกฐินสร้างแสงสว่าง+ถวายพระพุทธรูป กฐินปีแรก-วัดถ้ำดาบส จ.ลำปาง
080-129-6770

ซื้อที่ดินถวายที่พักสงฆ์ป่าบ้านหนองตาโยย
0806559595


เชิญร่วมสร้าง พระพุทธรูป(ปางประทานความสุข) ณ วัดกาศใต้
ต้องการร่วมทำบูญ เชิญติดต่อพระชนะชัย โสภณปญฺโญ โทร ๐๘๕-๑๐๗๕๔๓๔ ชื่อบัญชีในการร่วมทำบุญ
พระชนะชัย นิราศโศรก ธนาคารไทยพาณิช 518-251499-1 สาขาแพร่


ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมสร้างพระประธานองค์ใหญ่ให้สำเร็จ ณ วัดโต่งโต้น อ.ปากช่อง
087-877-0825


ร่วมสร้างองค์พระใหญ่และแม่พิมพ์เพื่อประดิษฐานทั่วประเทศ
http://อาศรมไผ่มรกต.com/


ขอเชิญร่วมทำบุญใหญ่สร้างพระพุทธโลกวิทูมหามุนีนารถ (พระนาคปรก) ใหญ่ที่สุดในโลก
กำหนดทอดผ้าป่าสร้างพระนาคปรก วันที่ 1 ธันวาคม 2555 เวลา 08.00 น เป็นต้นไป
พิธีทอดผ้า่ป่าเวลา 16.00 น. ที่เขาอีโต้ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี
เรียนเชิญคนมีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเป็นเจ้าภาพผ้าป่ากองละ 9,999 บาท หรือแล้วแต่ศรัทธา

ชื่อบัญชี "มูลนิธิพุทธชยันตี 2600 ปีฯ จังหวัดปราจีนบุรี"
ธนาคารกรุงไทย สาขา ปราจีนบุรี ออมทรัพย์ เลขที่ 213-0-42350-7 ไม่เสียค่าธรรมเนียมการโอน



ขอเชิญร่วมทำบุญสร้างวิหารทานมุงหญ้าคาแฝกเพื่อที่สักการะและประดิษฐานสมเด็จองค์ปฐม
083-9541395


ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างคันทวยพญานาค
โทร. 08-6100-2195


ขอเชิญร่วมสร้างหลวงปู่ทวดที่วัดธรรมศิริวราราม บ้านกอหรา รัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย
089-816-3027


ขอเชิญเเป็นเจ้าภาพปิดยอดบุญ ตั้งโรงทาน งานทอดกฐินสวนพุทธธรรมฯยังขาดอีก 4,850 บาท
โทร ๐๘๖-๘๐๓๒๐๐๑


หลวงพ่อเมตตาหาเจ้าภาพสร้างห้องน้ำ-ห้องสุขา วัดตายู ศรีสะเกษ 240,000 บาท
โทร.๐๘๒-๑๐๐๐๔๗๒


ขอเชิญร่วมงานฉลองพระมหาเจดีย์-อุโบสถ ปิดทองฝังลูกนิมิต ณ วัดถ้ำประทุน จ.ชลบุรี
ณ วัดถ้ำประทุน ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ระหว่างวันที่ 9-17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556


กฐิน วันที่ 25 พฤศจิกายน 2555
Wat Chaimongkol Buddhist Temple
1613 Fairfield Ave. Fairfield, CA 94533-3701
Ph. 707-421 2278, (C) 707-228 2813
watchai1613@yahoo.com

บัญชีธนาคาร Wells Fargo Bank, เลขบัญชี 502-531-9038
ชื่อบัญชี: Wat Chaimongkol Buddhist Temple


มหากฐิน ๙๙๙ กอง วัดล้องเดื่อ(สะหลีงามเมือง)ลำพูน
วัดล้องเดื่อ(สะหลีงามเมือง) ตำบลประตูป่า อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน
วันที่ ๑๖ –๑๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๕



เชิญร่วมบุญมหากฐินวัดศรีเตี้ย จ.ลำพูน
0818831147


งานบุญปีละครั้ง ขอเชิญร่วมบุญทอดกฐินสามัคคีสร้างซุ้มประตู รับของที่ระลึก
0862602702


ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคี ประจำปี ๒๕๕๕ จังหวัดลพบุรี

ณ.วัดนภาราษฏร์พัฒนาราม (วัดเขาแหลม)
กำหนดการทอดกฐินสามัคคีใน
วันอาทิตย์ ๑๘ พย. ๒๕๕๕
วัดนภาราษฏร์พัฒนาราม(วัดเขาแหลม)
ต.เขาแหลม อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี


ขอเชิญร่วมทำบุญทอดกฐิน-ผ้าป่ามหากุศล วัดพระธาตุภูขวาง จ.พะเยา
โทร 089-4359407


ร่วมทอดกฐินสามัคคีสร้างศาลาเฉลิมพระเกียรติ วัดโคกมน จ.เพชรบูรณ์
084-800-2039


ขอเชิญร่วมมหาบุญ ไหว้พระสิ่งศักดิ์สิทธ์ 9 วัดและทอดกฐิน"ปลดหนี้" ในวันที่ 24-25 พฤศจิกายน 2555 ณ วัดพระพุทธบาทวังตวง อ.แม่พริก จ.ลำปาง

ขอเชิญร่วมทอดกฐิน พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงเสด็จไปถวายผ้าพระกฐิน
ณ วัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโร ต.จรัส อ.บัวเชด จ.สุรินทร์
ในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2555 เวลา 15.30 น.
ขอเชิญร่วมบุญทอดกฐินสร้างเขื่อนวัดกุฏีทองพร้อมรับวัตถุมงคล
โทร 091-025-9998


เชิญร่วมงานบุญบูรณะซ่อมแซมเพดานโบสถ์วัดหนองสร้อยทอง หลวงปู่เอี้ยง
08-1862-9224


ขอเชิญร่วมบุญกฐินสามัคคี ณ วัดญาณวิริยาฯ ประเทศอินเดียกับหลวงพ่อทอง วัดอโศการาม
089-3051827


ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพจัดพิมพ์หนังสืออนุสรณ์ พระธรรมทูตไปต่างประเทศ (ธรรมยุต) รุ่น 18/2555 และร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างเจดีย์ เจดีย์สีลคุณานุสรณ์

ณ วัดเทพสถาพร ต.บ้านแดน อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์
http://www.tsp-bp.com/


ขอเชิญกราบฟังธรรมหลวงปู่ท่อน ญาณธโร วัดศรีอภัยวัน ต.นาอ้อ อ.เมือง จ.เลย
ณ โรงพยาบาลและศูนย์การแพทย์วิชัยยุทธ ชั้น 22
ในวันอาทิตย์ที่ 18 พฤศจิกายน 2555 เวลา 17.00-19.00น.
(ห้องเปิด 16.00น.)


เชิญร่วมเป็นเจ้าภาพร่วมถวายกฐินประจำปีสถานปฏิบัติธรรมป่าวิเวกสิกขาราม (๒๕ พ.ย.๒๕๕๕)
08-4603-0946


ทอดกฐินวัดซับพลู นครราชสีมา
089-5799160


รวมพลังบุญ ถวายภาพวาดหลังพระประธานอุโบสถ ลำพูน
โทร 0839412641


ขอเชิญร่วมงานทอดผ้าป่าสามัคคี สร้างพระประธาน 80 นิ้ว
โทร 086-5365954


ขอเชิญร่วมงานตักบาตร ครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า (31 ธ.ค. นี้)
081-822-2500


ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคี
ณ วัดบัวงาม ตำบลบ้านม่วง อำเภอบ้านโป่งจังหวัดราชบุรี
ในวันอาทิตย์ ที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๕ (เวลา ๑๐.๓๐น)
086-8118048


ขอเชิญร่วมพิธีพุทธาภิเษก และ ทอดกฐิน วัดธัมมปติฏฐาราม บ้านหนองเต่า อ.ตระการพืชผลจ.อุบลราชธานี

วันที่ ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๕


ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคีวัดบ้านห้วยน้ำขาว จ.กาญจนบุรี
โทร.๐๘๘-๙๙๕-๖๕๙๕


ขอความอนุเคราะห์บริจาคขยะอีเล็คโทรนิคส์เพื่อใช้สอนอาชีพฟรีแก่ผู้ด้อยโอกาส
โทร 081-674-5110

ขอรับหนังสือธรรมศึกษา ชั้นตรี โท เอก เพื่อนำมาสอน เด็กๆกว่า ๒๐๐ คน
เป็นการให้ธรรมทาน เป็นการสร้างคนดีมีศีลธรรมในอนาคต
ดูรายละเอียดได้ที่ www.iamnumberoneclups.com


เป็นเจ้าภาพพิมพ์หนังสือคู่มือฝึกอาชีพแก่ผู้พิการ
087312269


บอกบุญ ร่วมสร้างพระไตรปิฎก เพื่อเป็นสื่อการเรียนของนักเรียน 16 โรงเรียน
080 1495859 (เฉพาะกลางวันหลังฉันเช้า)


ด่วน...ขอเชิญร่วมบุญสร้างหนังสือประวัติพระอุปคุตเถระ เล่มละ 59 บาท
เพื่อไปทอดกฐิน ณ วัดศรีสง่าสามัคคี ต.หนองสังข์ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ในวันพุธที่ 28 พฤศจิกายน 2555
ร่วมบุญกันได้ที่บัญชี ธ.ไทยพาณิชย์
ชื่อบัญชี ธัญญ์พิชชา แพรสีเขียว
เลขที่บัญชี 370-202-15-62



ขอเชิญร่วมบุญจัดซื้อเครื่องปริ้นปกซีดีแผ่นธรรมะอัตโนมัติ
0862602702


ร่วมเป็็นเจ้าภาพบวชพระถวายในหลวง วัดบ้านห้วยน้ำขาว จ.กาญจนบุรี
โทร.๐๘๘-๙๙๕-๖๕๙๕


ขอเชิญร่วมงานสวดพุทธาภิเษก บวชชีพราหมณ์ เสาร์ที่ 1 ธันวาคม 2555
081-799-9418


30 พ.ย.- 2 ธ.ค.55 คอร์สพาพ่อแม่ไปภาวนา ณ สวนแสงธรรมศรีปทุม / พระอาจารย์ประสงค์
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณวิ : 089-247-6800


18 พ.ย. 55 บ้านจิตสบาย * ขอเชิญฟังเทศน์ พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล


ขอเชิญร่วมเดินทางไปแสวงบุญ ณ ประเทศอินเดีย-เนปาล
028164300

ด่วน!! ร่วมบุญจัดซื้อผอบแก้ว-เจดีย์แก้ว เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
http://buddhasatu.fix.gs/index.php


ชมรมพุทธธรรมกรรมฐาน ม.หอการค้าไทย ขอเชิญร่วม ธรรมะสัญจร เชียงใหม่ พะเยา
086-6688487


นิมนต์เข้าร่วมอยู่ปริวาสกรรม ครั้งที่ 4 www.watnonggai.com


ขอเชิญศิษยานุศิษย์ และผู้ศรัทธา หลวงปู่หล้า เขมปัตโต ร่วมงานน้อมรำลึก ในวันที่ 18 - 19 มกราคม 2556 ในงาน ร่วมสักการะบูชาหลวงปู่หล้า เขมปัตโต ฟังพระธรรมเทศนา ตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ แจกซีดีพระธรรมเทศนา หลวงปู่หล้า เขมปัตโตแก่ผู้ร่วมงาน


ขอเชิญมหาชนร่วมบุญโครงการถวายพัดลม ๙๙ วัด
โทร. 081-5682612

ขอเชิญศรัทธาญาติโยมร่วมทำบุญซื้อเก้าอี้บุนวมไว้กับวัดชัยสถิต
0850358036


รวมพลคนจิตอาสา โดย กลุ่มมนุษยธรรม
เชิญร่วมกิจกรรม "ทำดีถวายพ่อหลวง"
ในวันอาทิตย์ที่ 2 ธ.ค. 2555 ณ.วัดปัญญานันทาราม คลองหก จ.ปทุมธานี
ตั้งแต่เวลา 9.00-15.00 น.
คุณจูน 086-8990642


เปิดรับบริจาคน้ำใจจากทุกท่าน ณ โรงเรียนบ้านขุนแม่ตื่นน้อย
089-192-0759


ขอเชิญบูชาพระแก้วหนุนดวงชะตา ปัจจัยสร้างลานธรรมอรหันตาหน่อแก้วฟ้าโพธิญาณ
081-822-2500


ด่วน! ช่วยหาที่อยู่ให้ลูกนกกาน้ำเล็ก10 กว่าตัว
081-6676324


ขอเชิญผู้ใจบุญร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายครับ
E-Mail : ppparokhaya@gmail.com


หาบ้านให้น้องแมวคับ คนรักแมวช่วยรับน้องแมวไปอุปการะหน่อยนะคับ
086-3226961


ถวายทุนการศึกษา และทำงานวิจัย
084-418-1428

ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญมหากุศลครั้งใหญ่
ปล่อยสัตว์น้ำ (ที่จะถูกฆ่า)
คืนสู่ธรรมชาติ จำนวน ๓ ตัน
เพื่อน้อมถวายเป็น พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา
ณ วัดโพสพผลเจริญ (ลำลูกกา คลอง ๒)
ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
วันเสาร์ ที่ ๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
(เวลา ๐๙.๐๐ น.)
โทร : 086 - 982 – 2915


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ย. 2012, 13:44 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 พ.ค. 2012, 02:09
โพสต์: 456


 ข้อมูลส่วนตัว




B J phodi.bmp
B J phodi.bmp [ 195.49 KiB | เปิดดู 7632 ครั้ง ]
.. :b8:

อนุโมทนาแล้วๆๆ ..
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ย. 2012, 17:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5361


 ข้อมูลส่วนตัว


สะจิตตะปะริโยทะปะนัง พระองค์ทรงสั่งสอนให้ทำจิตใจให้ผ่องใสจากกิเลส

ว่าด้วย : พลังจิตคือ พลังชีวิต
----ที่จริงแล้วไม่มีคาถาใดจะวิเศษ ถึงขั้นบันดาลให้เราบรรลุถึงสิ่งที่ปรารถนาได้
----พลังจิตของเราต่างหากที่วิเศษและมหัศจรรย์
----ถ้าเรารู้จักทำจิตให้สงบนิ่ง มีสมาธิ มีพลัง จิตใจของเราจะแข็งแกร่งมั่นคง
----สามารถต้านกิเลสต่างๆได้ สามารถขจัดทุกข์ต่างๆได้ และสามารถจะผลักดัน
ให้เราทำสิ่งที่ต้องการให้สำเร็จอย่างมุ่งมั่น


“ความสวยความหล่อไม่คงที่ แต่ความดีสิคงทน ความสวยความหล่อแค่ทำให้สะดุดตา แต่ความดีสิทำให้สะดุดใจ”


พระพุทธศาสนา เปรียบเหมือนต้นไม้ใหญ่...?

้ต้นไม้ก็มีดอก ใบ กิ่งก้าน เปลือก กระพี้ แก่น บุคคลในโลกนี้ก็เช่นต่างวาสนา ต่างบารมีที่สั่งสมกันมา
บุคคลที่ชอบใบ เปลือก ผล ดอก อาจจะหมายถึงคนที่ยังไม่เข้าธรรมที่แท้จริง ยังติดใน อิทธิฤทธิ์ปฏิหาริย์ พระเครื่องคาถาต่างๆ พิธีกรรมต่างๆ แต่อย่าลืมว่าการที่เราจะฉลาดนั้นเราต้องโง่มาก่อนไหม...?
การที่เราอยากให้คนอื่นคิด ทำ พูดเหมือนเรานั้น เป็นการสนองอัตตาของตน เปรียบเปรยเปรียบเทียบว่า สายฉันดีกว่า ปฏิบัติมากกว่า รู้หลักธรรมมากกว่า เข้าถึงแก่นธรรมกว่า เ็ป็นทางลัดทางตรงกว่า จงพึงสังวรไว้ว่า จะมีใครบ้างที่เหมือนกันไปหมด แค่เกิดมาหน้าตายังไม่เหมือนกัน แล้วจะเอาอะไรกับความคิดจิตใจ ต่างคนก็จิตต่างใจร้อยพ่อพันธ์แม่ อย่าได้ไปตำหนิเขาเลย วันนี้เขาอาจจะยังไม่รู้ แต่วันข้างหน้าสุดท้ายแล้ว เขาก็จะค่อยๆเรียนรู้ไปจนถึงที่สุดแห่งธรรม
...แก่นธรรมนั้นลึุกซึ้งนัก หากจะเปรียบไปแล้วแก่นธรรมของพระพุทธศาสนา ก็เหมือนยอดของปิรามิด คนที่อยู่บนยอดก็เหมือนคนที่ลองผิดลองถูกมาจนรู้ เมื่อรู้แล้วก็ละ และไม่ยึดติดกับสิ่งใด ส่วนคนที่ยังไม่เข้าถึงธรรม แต่ชอบในพิธีกรรม ชอบในอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์พระเครื่อง คาถาอาคมต่างๆนั้น ก็เหมือนบุคคลที่อยู่ในฐานของปิรามิด หากจะมองให้ลึกซึ้งแล้ว เขาเหล่านั้นย่อมที่จะเรียนรู้ขึ้นไปเรื่อยๆ จนท้ายสุดแล้วก็จะถึงยอด แม้จะช้าเนิ่นไปบ้าง แต่นั่นก็จงสำเหนียกว่า เราทุกคนนั้นล้วนสั่งสมบุญบารมีมาต่างกัน
ใครใคร่ กินดอก เก็บใบ ต้องการเปลือกกระพี้ เอาไปต้มไปกินเป็นยา อันนั้นก็แล้วแต่บุญวาสนาที่สั่งสม มาหากเขาชิมจนเบื่อสุดท้ายเขาก็จะเข้าถึงแก่นเอง
หากจะเราบอกว่า เปลือก ใบ ผล ดอก กระพี้ ไม่สำคัญ สำคัญที่แก่นอย่างเดียว ต้นไม้จะเป็นต้นไม้ได้อย่างไร...? ทุกอย่างมีเหตุปัจจัยโยงใยถึงกัน หาได้อยู่โดดเดี่ยวไม่ พึงฝึกเป็นคนใจกว้าง แลให้โอกาสเขาผู้ซึ่งกำลังเดินทางเฉกเช่นเราที่ครั้งหนึ่งนั้นก็เคยหลงผิดเช่นกัน


๑. รู้ลม ให้มีสติระลึกรู้ลมหายใจเข้า-ออกในทุกอิริยาบถ ยืน เดิน นั่ง นอน ตลอดทั้งวัน สำคัญที่อารมณ์ใจเบา โปร่ง โล่ง สบาย ทำแล้วไม่เครียด ลมหายใจจะสั้นหรือยาวก็รู้

๒. พุทโธ ภาวนา “พุทโธ” ในใจพร้อมกับการระลึกรู้ลมหายใจเข้าออกเป็นการเจริญพุทธานุสสติ ระลึกถึงพระพุทธเจ้า และเป็นอุบายผูกจิตให้สงบ ตั้งมั่น เป็นสมาธิ

๓. ดูจิต เมื่อเกิดกระทบทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ความรู้สึกอะไรเกิดขึ้นที่ “ใจ” ให้คอยรู้ทันดูความรู้สึกที่เกิดขึ้นเฉยๆ ไม่ต้อง ยุ่งหรือทำอะไรกับมัน ดูอาการของจิตที่เกิดดับแสดงความจริง หรือ “ไตรลักษณ์” อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา


เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ย. 2012, 02:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 พ.ค. 2012, 02:09
โพสต์: 456


 ข้อมูลส่วนตัว




B J phodi.bmp
B J phodi.bmp [ 195.49 KiB | เปิดดู 7555 ครั้ง ]
.. :b8:

อนุโมทนาแล้วๆๆ ..
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ย. 2012, 17:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5361


 ข้อมูลส่วนตัว


ขันธ์ แปลว่า กอง, หมวด, หมู่, ส่วน ในทางพุทธศาสนาหมายถึงร่างกายของคนเรา คือแยกร่างกายออกเป็นส่วนๆ ตามสภาพได้ 5 ส่วน หรือ 5 ขันธ์

ชาวพุทธไทยมักสับสนระหว่างคำว่า อนิจจัง อนิจจตา และ อนิจจลักษณะ เป็นอย่างมาก. เรื่องนี้ควรทำความเข้าใจว่า ปกติแล้วในคัมภีร์ชั้นอรรถกถา อนิจจัง หมายถึง ตัวขันธ์ 5, ส่วนอนิจจตานั้น หมายถึง อาการความเป็นไปของขันธ์ 5 ได้แก่ อนิจจลักษณะ นั่นเอง.
ในทุกขัง ทุกขตา และทุกขลักษณะก็ให้กำหนดศัพท์ตามนี้เหมือนกัน.

‎"พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า..ชีวิตหนึ่งชีวิต
ที่เกิดมาในชาตินี้ ล้วนเคยผ่านการเวียนว่ายตายเกิด มานับครั้งไม่ถ้วน หากจะนับก็มากกว่าทรายในทะเล และในแต่ละชาติหนึ่งๆก็เคยสร้างกรรมมาทั้งดีและร้าย เอาไว้มากมาย

เช่นเคยเข่นฆ่าสัตว์ทั้งเป็นอาหารและฆ่าด้วยโมหะ โทสะ ให้อารมณ์เจ็บแค้นทุเลาเบาบาง บางทีเคยลักทรัพย์มากบ้างน้อยบ้าง ทำให้จิตเจ้าของทรัพย์อาฆาต ลั่นวาจาสาบแช่ง อาจทำให้เขาเดือดร้อนถึงตาย หรือบางทีเคยผิดลูกผิดเมียผิดประเวณีนานา โกหกหลอกลวง กินเหล้าเมายา วาจาพาคะนอง พาลจองหองทำร้ายผู้อื่นให้เจ็บช้ำน้ำใจ เสียกาย เสียทรัพย์ เกิดความอาฆาตพยาบาทจองเวร

...หรือที่เราเรียกกันว่า"เจ้ากรรม นายเวร" นั่นเอง
ฉะนั้นแล้ว ศีล5ข้อเกี่ยวเนื่องเกี่ยวโยงกันหมด เมื่อเราทุกคนที่เกิดมาพบพระพุทธศาสนาแล้วนี้ จงพากันเล่าเรียนเพียรศึกษา น้อมนำมาปฏิบัติให้เกิดผล หมั่นขอโทษขออโหสิกรรมเจ้ากรรมนายเวร ตั้งเจตนาใหม่จะเป็นคนดี รักษาศีล ทาน ภาวนา สำรวมกาย วาจา ใจ ไม่ก่อกรรมใหม่ ไม่สร้างเจ้ากรรมนายเวรใหม่ เจริญวิปัสสนากรรมฐาน ให้พบหนทางหลุดจากกองทุกข์ทั้งปวง หากเกิดใหม่มาอีก ยากที่จะหลีกหนีกิเลสได้ หากปัญญายังไม่แจ้ง ไม่ถึงพร้อมยากที่จะหลุดพ้นจากวัฏฏะ
**ขอท่านทั้งหลาย ได้ร่วมกันพิจารณา
ละความชั่วทั้งปวงทำจิตให้ถึงพร้อม
ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้เทอญ**

พระพุทธเจ้าตรัสแสดงวิธีที่ลูกจะพึงอุปถัมภ์บำรุงบิดามารดา ในฐานะ ๕ ประการ คือ ...
๑. ภโต เนสํ ภวิสฺสามิ - เมื่อท่านเลี้ยงเรามาแล้วเลี้ยงท่านตอบ
๒. กิจฺจํ เนสํ กริสฺสามิ - ช่วยทำกิจการงานของท่าน
๓. กุลวํสํ เปสฺสามิ - ดำรงวงศ์ตระกูลท่านไว้
๔. ทายชฺชํ ปฏิปชฺชามิ - ปฏิบัติตนสมเป็นทายาทที่ดี
๕. เปตานํ กาลกตานํ ทกฺขิณํ อนุปฺปทสฺสามิ – เมื่อท่านล่วงลับไปแล้วทำบุญอุทิศไปให้ (สิงคาลสูตร ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค)

โลกไร้รูป ไร้นาม สัมผัส จับต้องได้หรือไม่ได้
ก่อบาปก่อบุญได้โดย ไม่รู้ตัว
บาปและบุญเป็นสิ่งที่ละเอียด
พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้หมดแล้ว
รับรู้ได้ด้วยปัญญาญาณ เฉพาะตน
...
แต่มีอย่างเดียว ที่สัมผัสและบันทึกดีชั่ว
ได้ทุกอย่าง คือจิต จิตแต่ละดวง ไม่สูญสลาย
แต่สามารถหลุดพ้นจาก
กองกิเลสทั้งปวงได้
หากปฏิบัติจนแจ้งด้วยปัญญาตน

ตัวอักษร ตัวหนังสือ วจีต่างๆที่หลุดออกมา
แล้วมีผู้รับรู้ได้ยินได้อ่าน ล้วนถูกกลั่นจาก
สมอง หรือปัญญา ของบุคคลนั้นแล้ว
เราเองจึงต้องรับผล ของการกระทำ
นั้นๆเองทั้งหมด ไม่ว่าดี หรือชั่ว
หากมีผลต่อผู้รับ ย่อมเรียกว่ากรรม หรือ "การกระทำ"
โลกออนไลน์ คือเครื่องมือ สะสมบาป สะสมบุญ เช่นเดียวกัน

ผู้ที่มีวัคซีนธรรมะ มีสัมมาทิฐิ มีหิริโอตปะ
คอยเป็นตัวเบรค หรือกำแพงกั้นโลภะ โมหะ โทสะ
ไม่ค่อยน่าห่วง อย่างน้อย ก็เป็นห้ามล้อ
ชะลอความแรงของ กิเลสได้ แต่ ผู้ที่เป็นบัวใต้น้ำ
ในโคลนตม ยังมีอีกมากมาย

หลวงพ่อลี วัดอโศการาม ท่านได้กล่าวว่า
"หากบุคคลที่พอรู้ธรรมแล้วไม่ช่วยบุคคลอื่นให้
ละชั่ว เท่ากับไม่ช่วยพระพุทธเจ้า "

อนัตตตา (อนัตตลักษณะ) - อาการของอนัตตา อาการของสิ่งที่ไม่ใช่ตัวตน อาการที่ไม่มีตัวตน อาการที่แสดงถึงความไม่ใช่ใคร ไม่ใช่ของใคร ไม่อยู่ในอำนาจควบคุมของใคร อาการที่แสดงถึงไม่มีตัวตนที่แท้จริงของมันเอง อาการที่แสดงถึงความไม่มีอำนาจแท้จริงในตัวเลย อาการที่แสดงถึงความด้อยสมรรถภาพโดยสิ้นเชิงไม่มีอำนาจกำลังอะไรต้องอาศัยพึงพิงสิ่งอื่นๆมากมายจึงมีขึ้นได้.
บอกกับตนเองเสมอ ไม่ใช่บอกเฉพาะทุกข์ หากแต่บอกตอนสุขด้วย ในวันหนึ่งๆ มนุษย์ปุถุชนอย่างเราๆ มีทั้งสุขและเศร้าเคล้ากันเสมอ ไม่มีใครสุขกายสุขไปทั้งวัน ไม่มีใครทุกข์กายทุกข์ใจไปทั้งวัน ลองพิจารณากายและใจเราให้ดี จะเห็นว่าสุขและทุกข์ ล้วนสลับกันเกิดขึ้นวันละไม่รู่กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง มีฐานที่ตั้งจากเหตุไม่รู่กี่เรื่องต่อกี่เรื่อง และสุดท้าย สุขและทุกข์ที่สลับกันเกิดนั้นมันก็ผ่านไปจริงๆ ผ่านไปแล้วก็มาใหม่ ไม่จบไม่สิ้น เพราะเป็นอนิจจัง (สภาพความไม่เที่ยง) เพราะเป็นทุกขัง (สภาพความเปลี่ยนแปลง) เพราะเป็นอนัตตา (สภาพที่ยึดถือไว้ให้คงอยู่อย่างนั้นไม่ได้) แล้วมันจะผ่านไป เพราะมันเป็นเช่นนั้นเอง

สังขารขันธ์ ในทางพระพุทธศาสนา แบ่งออกเป็น 3
กายสังขาร การปรุงแต่งกาย คือ ลมหายใจ หมายเอาการควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายในอิริยาบถต่างๆ
วจีสังขาร การปรุงแต่งวาจา คือ วิตก การตรึก วิจาร การตรอง หมายถึงการคิดปรุงแต่งต่างๆ
จิตสังขาร การปรุงแต่งจิต คือ เจตสิก ได้แก่อารมณ์ต่างๆที่ปรุงแต่งจิตให้มีอาการเป็นไปต่างๆ

"ในชีวิตฉันไม่เคยฆ่าสัตว์เลย ตัวเล็กตัวใหญ่ก็ตาม
ถ้าฆ่าโดยเจตนาแล้วไม่เคยทำ แม้ยุงก็ไม่เคยตบ"

"ในงานศพ ที่มาไหว้ศพน่ะ
เขามาไหว้สัจจธรรมของพระพุทธเจ้านะ
...คือ ท่านตรัสว่า ร่างกายของคนน่ะมันเป็นอนิจจัง..ไม่เที่ยง
เวลาอยู่เป็นทุกข์ในที่สุดก็อนัตตาคือตาย ใครบังคับบัญชาไม่ได้
เวลากราบทีแรก เขานึกถึงพระพุทธเจ้าว่าทรงเทศน์ไว้ถูก
เทศน์ไว้ตรง ข้าพระพุทธเจ้าขอยอมรับนับถือเป็นมรณานุสสติกรรมฐาน

กราบครั้งที่๒ เขานึกถึงพระธรรมคำสั่งสอนของพระองค์จากพระโอษฐ์ เหมือนดอกมะลิแก้ว แพรวพราวไปด้วยความจริงอันประเสริฐ ทำบุคคลทั้งหลายไม่ให้เมามัน และทำให้เข้าถึงความสุข

กราบครั้งที่๓ นึกถึงพระสงฆ์พระอริยสงฆ์ทั้งหลายที่ท่านร้อยกรองพระธรรมวินัย ที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนไว้ แล้วไม่ปล่อยให้อันตรธานสูญไปรวบรวมเข้าไว้ นี้กราบความดีของพระ๓ พระ นะ

เขาไม่ได้กราบผีกราบศพ"

"ถึงแม้ว่าเราจะมีคาถาอาคมของดีอะไรก็ตาม เราก็ต้องตาย
ก่อนตายควรเลือกทางเดินเอา อย่างน้อยที่สุด
เราควรไปสวรรค์ชั้นกามาวจรให้ได้
ขอให้ทุกคนนะเวลาก่อนหลับ
ให้นึกถึงความดีที่ตนเคยกระทำไว้
ทรัพย์สินที่สละเป็นวิหารทาน
ธรรมทานสังฆทานเลี้ยงพระ
นึกถึงศีลที่ตนเคยรักษา
เทศน์ที่ตนเคยฟังแล้วหมั่นภาวนาถึง
พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ
พระพุทโธ ธัมโม สังโฆ

แล้วจะรู้ว่าฉันหวังดีกับลูกหลานเพียงใด
คนไหนทำดีมากไม่ได้ ก็ให้สร้างความดี
2 อย่างที่ฉันต้องการ คือ
๑.อย่าดื่มสุราเมรัย
๒.อย่าลักขโมย อย่าเป็นโจร"

"เมื่อจะเจริญกรรมฐาน ให้ตั้งอยู่ในพรหมวิหาร๔
ให้เป็นณานสมาธิแน่วแน่ ให้แผ่เมตตาไปทั่วจักรวาล แล้วจึงพิจารณาตามอารมณ์วิปัสสนาหรือภาวนาตามแบบสมถะ
ทุกคนตายแล้วจงไปสวรรค์ จงไปพรหมโลก จงไปนิพพาน"

โดย หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค
ที่มา : โอวาทพระอริยสงฆ์

สังขารในไตรลักษณ์
สังขารหมายถึงร่างกาย ตัวตน สสาร สิ่งที่ประกอบกันขึ้นหรือถูกปรุงแต่งขึ้นจากธาตุ 4 สังขารในความหมายนี้แบ่งเป็น 2 คือ สังขารมีใจครอง (อุปาทินนกสังขาร) คือสิ่งมีชีวิต มีจิตวิญญาณ สามารถเคลื่อนไหว รับ จำ คิด รู้อารมณ์ได้ ได้แก่มนุษย์ อมนุษย์ สัตว์ดิรัจฉาน สังขารไม่มีใจครอง (อนุปาทินนกสังขาร) คือ สิ่งไม่มีชีวิต ไม่มีจิตวิญญาณ รับ จำ คิด รู้อารมณ์ไม่ได้ ได้แก่ต้นไม้ ภูเขา ดิน น้ำ รถ เรือ


ขณะที่เรานั่งสมาธิ ถ้าจิตของเราไม่อยู่กับตัว
ก็เท่ากับเราเสียรายได้ของเราไป รายได้ของเรา คือ อะไร?
รายได้ของเรานี้ก็เปรียบด้วยอาหาร
อาหารของเราจะต้องถูกสัตว์ต่างๆมีแมว หมา เป็นต้นมาแย่งไปกิน
แมวหมานี้เปรียบด้วยอารมณ์ภายนอกต่างๆ
...ได้แก่ ตัวนิวรณ์ทั้ง ๕ ที่เราเอามันมาเลี้ยงไว้ในบ้าน
พอเราเผลอมันก็จะเข้ามาแย่งอาหารในชามของเรา
อาหารนี้ได้แ่ก่ บุญกุศลคุณความดีที่เราควรจะได้รับดูเพิ่มเติม



เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ย. 2012, 22:44 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 พ.ค. 2012, 02:09
โพสต์: 456


 ข้อมูลส่วนตัว




B J phodi.bmp
B J phodi.bmp [ 195.49 KiB | เปิดดู 7509 ครั้ง ]
.. :b8:

อนุโมทนาแแล้วๆๆ ..
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ย. 2012, 18:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5361


 ข้อมูลส่วนตัว


หลวงปู่แหวนกับในหลวง และพระบรมวงศานุวงค์

เรื่องราวพระอรหันต์ทั้งสอง กับ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

...พระคุณเจ้าทั้งสองทั้งองค์หลวงปู่แหวน และองค์หลวงปู่หลุย ล้วนแล้วเป็นศิษย์เอกหลวงปู่มั่นทั้งสิ้น
ได้อบรมธรรมจากหลวงปู่มั่นมาอย่างเข้มแข็ง ท่านทั้งสองเป็นพระหมดกิเลสแล้วสาธุ

เรื่องของหลวงปู่หลุย จันทสาโร

มีอยู่ครั้งหนึ่ง หลวงปู่หลุยท่านได้มาพักที่วัดดอยแม่ปั๋ง กะว่าจะอยู่กับหลวงปู่แหวนไปสักพักนึงก่อน
เพราะว่าเป็นคนจังหวัดเลยด้วยกัน พออยู่ต่อมาหลวงปู่หลุยได้ยินข่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
จะเสด็จฯมากราบหลวงปู่แหวน หลวงปู่หลุยได้ยินดังนั้น ก็รีบไปอยู่ที่อื่น ไปอยู่ที่อำเภอแม่แตง
หลวงปู่หลุยท่านกลัวพูดกับพระราชามหากษัตริย์ไม่เป็น หลวงปู่หลุยท่านพูดว่า
"พูดกับพระราชาไม่เป็น นี่คอขาดบาดตายนะเรา เป็นพระป่าพระดงไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร"

ท่านพูดเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯมากราบหลวงปู่แหวนแล้ว หลวงปู่แหวนท่านก็พูดกับในหลวงว่า

หลวงปู่แหวน : ท่านหลุยก็มาอยู่นี่แหละ แต่หนีไปอยู่ที่แม่แตงแล้ว กลัวพูดกับพระราชามหากษัตริย์ไม่เป็น กลัวคอขาดบาดตาย ว่าอย่างนั้น

สมเด็จพระนางเจ้าฯ : ไม่เป็นอย่างนั้นดอกพระเจ้าข้า พวกดิฉันไม่ได้ถือยศฐาบรรดาศักดิ์อะไรหรอกเจ้าข้า พูดแบบนี้ เป็นกันเองนี้แหละเจ้าข้า

สมเด็จพระนางเจ้าฯ : เมื่อดิฉันกลับจากที่นี้ไปแล้ว จะไปกราบหลวงปู่หลุยให้ได้ ไม่ต้องกลัวเจ้าข้า

ในหลวงท่านเสด็จมากราบหลวงปู่แหวนแต่ละครั้ง ตั้งแต่บ่ายสองโมง จนถึงหนึ่งทุ่มสองทุ่มเป็นประจำ
การเสด็จมาวัดดอยแม่ปั๋ง แต่ละครั้ง ถือเป็นการส่วนตัวพระองค์เอง

ครั้นต่อมาสมเด็จพระราชินีได้ให้ราชเลขาไปตามหาหลวงปู่หลุย ว่าท่านอยู่ที่ไหน ก็ทราบว่า
หลวงปู่หลุยท่านไปพักอยู่ที่วัดหลวงปู่ตื้อ หรือว่าวัดพระอาจารย์เปลี่ยน ผู้เขียนก็จำไม่ค่อยได้
สมเด็จพระราชินีก็ได้เสด็จฯไปกราบหลวงปู่หลุย ตั้งแต่นั้นมาหลวงปู่หลุยก็ได้เข้าๆ ออกๆ
อยู่กับพระราชวังตลอดมา ตราบเท่าหลวงปู่หลุยมรณภาพ อันนี้คือ ด้วยพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อม
ที่เป็นพระมหากษัตริย์ไทยของเรา ได้เข้าไปถึงประชาชนทุกที่ทุกแห่งหนตำบลใดก็ตาม
มีพระเจ้าพระสงฆ์ที่ท่านได้ประพฤติปฏิบัติอยู่ในป่าในเขาที่ไหนๆ ก็ตาม ท่านก็ย่อมเข้าถึงที่ทุกๆแห่ง

เรื่องของหลวงปู่แหวน สุจิณโณ

หลวงปู่แหวนได้ป่วยหนัก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านได้อาราธนาให้ หลวงปู่แหวนไปรักษาตัว
ที่โรงพยาบาลเชียงใหม่ ตึกสุจิณฺโณ ในหลวงท่านได้รับเอาหลวงปู่ไว้เป็นคนไข้ของพระองค์เอง
จนในวันที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๒๘ หลวงปู่แหวนท่านก็ได้ละขันธ์อย่างสงบนิ่ง ในเวลา ๒๑.๕๓ น.

ข่าวการมรณภาพของหลวงปู่แหวน ซึ่งตรงกับวันที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๒๘ ก็ได้ทราบถึงฝ่าละอองธุลี
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เหมือนกับว่า
ดินฟ้าถล่มไปทั่วเมืองไทย ในหลวงก็ได้พระราชทานโกศหลวง และรดน้ำอาบศพ
ที่สถานพระราชทานปริญญาบัตร แก่นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่นั้น ก็ได้มีบุคคลทั่วทิศานุทิศ
ไปเคารพศพหลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ เป็นครั้งสุดท้าย แล้วก็ได้นำศพของหลวงปู่แหวนมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดดอยแม่ปั๋ง ตามเดิม

สิริอายุหลวงปู่แหวนได้ ๙๙ ปี ในหลวงท่านขออายุหลวงปู่แหวนให้ได้ ๑๒๐ ปี
แต่หลวงปู่ก็พูดกับในหลวงว่า เอาเพียง ๙๙ ปี ก็พอเถอะ มันลำบากผู้อยู่
แล้วก็ได้ ๙๙ ปี ตามที่ว่าเอาไว้จริงๆ อันนี้คือพระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบตามธรรมวินัย
ของพระพุทธศาสนาแท้จริง ขอให้พวกเราทุกๆ คน จงนำเอาเป็นตัวอย่างของหลวงปู่แหวนนี้
ไว้สืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไป ศาสนาของเราจะได้เจริญรุ่งเรืองสืบต่อไปข้างหน้า

บางครั้ง..เรา อยู่ นิ่ง ๆ เป็นอยู่ตามปกติของเรา มักจะมีมารมาทดสอบ บารมี ของ เรา อยู่เสมอ
มารนั้นอาจจะมาในรูปแบบสิ่งมีชีวิตที่มีตัวตน เป็นเพื่อนร่วมงาน เจ้านาย หรือคนรอบข้างก็ได้
...อาจมาในรูปแบบของงานที่ทำ อารมณ์ที่มากระทบกายใจ
...อาจมาในรูปแบบของความเหน็ดเหนื่อยเมื่อล้าหรือความเจ็บปวดก็ได้
เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม....แล้วลุย


การจะเชื่อสิ่งใดก็แล้วแต่ ควรเชื่อด้วยเราได้พิจารณาหาข้อมูล และทดลองมันแล้ว เข้าทำนอง "สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่าลองทำ" ในชีวิตการเป็นครูสอนกฏหมาย มักบอกกับลูกศิษย์เสมอว่า อย่าเชื่อในสิ่งที่ครูสอนแต่ให้ฟัง การฟังทำให้ได้ความรู้ไม่ฟังก็ไม่ได้ความรู้ เมื่อฟังแล้วอย่าเชื่อ ให้ไปตรวจสอบศึกษาคำครู เมื่อศึกษาแล้วถ้าพบว่าไม่ตรงอย่างไร ให้บอกด้วย เพราะครูจะได้ทราบว่า ลูกศิษย์ เข้าใจได้แจ้งแทงตลอด ถูกต้องตามนัยยะหรือไม่ หรือตัวครูเองที่พลาดไป เมื่อทราบว่าลูกศิษย์ผิดพลาดอย่างไรจะได้แก้ความเข้าใจให้ถูกต้อง เมื่อทราบว่าตัวเองผิดพลาดอย่างไรจะได้ทำความเข้าใจให้ถูกต้อง

แม้ตัวครูเองจะเป็นผู้เรียนในศาสตร์ใดก็ตาม ก็จะนำความรู้มาพิจารณาและตรวจสอบความถูกต้องเสมอ และวิจัยความเข้าใจนั้นด้วยตัวเอง

ในโลกนี้ ร้อยเปอร์เซนต์ไม่มี หนึ่งบวกหนึ่งไม่ใช่สองเสมอไป สามลบหนึ่งก็เป็นสองได้ อย่าพูดตามคำใคร อย่าบอกว่าอาหารร้านไหนอร่อยหรือไม่อร่อย ถ้าเราไม่ลองทานมันเอง / ครูนัท

วิญญาณได้มาหลงกายเนื้อว่าเป็นตัว
เป็นตน เป็นเราเป็นของเรา
ความจริงกายเนื้อเป็นสิ่งที่ต้องทิ้ง
ให้เน่าเปื่อยผุพังอยู่ในโลก

...เมื่อวิญญาณมาหลงกายเนื้อ ทำให้
วิญญาณต้องกลาย
เป็นวิญญาณที่หลับใหลไม่ตื่น
เป็นวิญญาณที่ถูกครอบอยู่ใต้โมหะ
ถูกครอบอยู่กับอวิชชา

ไม่มีวัตถุธาตุใดจะยื้อชีวิตไว้ได้
ไม่มีวัตถุมงคลใดจะป้องกันความตายได้
อันมนุษย์หากคิดจะฆ่า คิดจะทำร้ายแล้ว
แม้จะยิงไม่ออก ฟันแทงไม่เข้า มนุษย์นั้นคงหาวิธีใดวิธีหนึ่งพรากเอาชีวิตเราเอาไปจนได้...
สิ่งมงคลที่สุดคือ ความไม่ประมาทในชีวิต
...ธรรมที่จะรักษาชีวิตเราไม่ให้มีภัยกับใครคือ สังคหวัตถุ 4 ประการได้แก่ 1 ทาน จงรู้จักการให้สิ่งดีๆแก่ผู้อื่น ผู้ให้ย่อมเป็นที่รักของคนทั้งหลาย
2 ปิยวาจา จงมีวาจาอันเป็นที่รัก นั่นคือ พูดให้ไพเราะ ไม่พูดหยาบคาย ไม่พูดโกหก และพูดแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ตนและผู้ฟัง
3 อัตถจริยา ต้องรู้จักประพฤติสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น
4 สมานัตตา เมื่อมีธรรมทั้ง 3 ข้อข้างต้นแล้ว ควรวางตนให้เสมอต้นเสมอปลายด้วย.
สิ่งเหล่านี้เมื่อมีแล้วในมนุษย์ผู้ใด มนุษย์ผู้นั้นย่อมมีมิตรมาก เป็นผู้ไม่มีเวร ไม่มีภัยกับใคร สิ่งเหล่านี้ย่อมมีค่ากว่าวัตถุมงคล เครื่องรางของขลังเป็นไหนๆ

การขอโทษ เป็นวิธีสร้างสันติ
ที่สิ้นเปลืองน้อยที่สุด
เพราะอาศัยถ้อยคำ เพียงไม่กี่คำ ..
หลายสาเหตุบานปลาย เป็นเพราะ
เราไม่รู้จักขอโทษกัน จะด้วยสาเหตุเพราะ
...กลัวเสียหน้า หรือเพราะอหังการ ก็ตาม
เราจึงสูญเสียกันอย่างมากมาย
ยิ่งใช้ความรุนแรงมากต่อกัน
ทั้งโดยวาจา และการกระทำด้วยแล้ว
ความสูญเสียก็ยิ่ง.."ทวีคูณ "

สิ่งที่ยากที่สุดคือ การได้เกิดมาเป็นมนุษย์
แต่สิ่งที่ยากกว่านั้น คือ การได้มีโอกาสอยู่ในกระแสธรรม
มีธรรมะเป็นพลังใจในการดำเนินชีวิต
ต่อสู้กับความทุกข์ในรูปแบบต่างๆ
อันมีสติ(ศีล) สมาธิ และปัญญาเป็นหลักสำคัญ
เพื่อให้ชีวิตพบพานแต่ความสุขที่สมบูรณ์..


มนุษย์มีสัญชาติญาณปกป้องตนเอง เพื่อเอาตัวรอดจากอันตรายที่จะมากระทบกับชีวิต ของตน การปกป้องตนเองมีหลายรูปแบบ การแก้ตัวถือว่าเป็นรูปแบบหนึ่งของการเอาตัวรอด

การแก้ตัวช่วยให้ตนเองพ้นคำตำหนิหรือพ้นโทษได้ ถ้าคำแก้ตัวฟังขึ้น มีเหตุผลและ พิสูจน์ได้ว่าเป็นจริง แต่ถ้าคำแก้ตัวเป็นเพียงเพื่อกลบเกลื่อนความผิด ความบกพร่องที่ตนเป็นอยู่ และถ้าถูกจับได้ เขาอาจได้รับโทษ ถ้าเรื่องนั้นเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องผิดกฎหมาย แต่ถ้าเป็นเรื่อง ผิดศีลธรรมก็จะนำความเสื่อมเสียชื่อเสียงมาสู่ตนเองและวงศ์ตระกูล
...
แต่การแก้ไขข้อบกพร่องเมื่อได้รับคำสอนหรือคำเตือนสติ จะช่วยให้ชีวิตของผู้นั้นดีขึ้น

"คนโง่ดูหมิ่นคำสั่งสอนของพ่อแม่
ผู้ที่รับฟังคำเตือนแสดงถึงความฉลาด"
"… ผู้ที่ชังคำตักเตือนจะพบอันตราย"
"... ผู้ที่รับฟังคำตักเตือนก็ได้ความเข้าใจ"

คนฉลาดเห็นคุณค่าคำตักเตือนและรีบแก้ไข คนฉลาดย่อมระลึกได้เสมอว่าไม่มีมนุษย์ ปุถุชนคนใดเพรียบพร้อมโดยไม่มีที่ติ ฉะนั้นถ้าจะมีใครให้ความสว่างทำให้เห็นความบกพร่องของตน ทำให้เราแก้ไขหรือกำจัดสิ่งนั้นก่อนที่มันจะกลายเป็นเนื้อร้ายทำลายชีวิตเราภายหลัง

คนที่หยิ่งผยอง คนที่รักหน้าแต่ไม่รักตัว พวกเขาเกลียดและต่อต้านวินัยชีวิต และเกลียด คำเตือนสติ แต่คนฉลาดเป็นบุคคลที่ถ่อม มีสติและมีปัญญา ไม่ตอบโต้แต่ตอบสนองด้วยพินิจ พิเคราะห์ ถ้าสิ่งใดจริง สิ่งใดดี สิ่งใดมีคุณค่าเขาจะรับไว้ และถ้าสิ่งใดไม่ดีเขาก็จะทิ้งมันเสีย

คนฉลาดและมีความเข้าใจ เขาแก้ที่ตัว ไม่ใช่ แก้ตัว เพราะการแก้ที่ตัวเรานั้นง่ายกว่า การแก้ตัวหรือไปแก้ที่คนอื่น ถ้าเราทุกคนเปิดใจ ถ่อมใจรับการแก้ไขจากคำเตือนสติที่มาจากผู้มี ปัญญาและปราชญ์ทั้งหลาย ชีวิตเราก็จะดีและสูงขึ้นกว่าเดิมแน่นอน

ฆราวาส สามารถบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ได้....?
----------------------------------------------------------------------------
“ถ้ายังงั้น ฆราวาสอย่างพวกผมก็มีสิทธิ์ปฏิบัติเพื่อให้บรรลุมรรคผลเป็นพระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์ กับเขาได้ซีครับหลวงพ่อ” ข้าพเจ้าถามด้วยความอยากรู้

“ใช่แล้ว เป็นได้ทั้งนั้น แต่ถ้าเป็นฆราวาสหากบรรลุมรรคผลนิพพานเป็นพระอรหันต์แล้ว จะต้องตายภายใน ๒๔ ชั่วโมง

อะไรๆ ทั้งหมดรวมลงมาอยู่ที่การพิจารณากาม สุดยอดของกรรมฐานคือกาม ผู้ชายเรา สงสัยข้องใจอะไรมากก็เป็นเพศของผู้หญิง

เมื่อพิจารณา หน้า ตา เนื้อ หนัง อะไรๆ อื่นก็เหมือนกันหมด มันเหมือนกันหมดทั้งชายและหญิงตลอดจนสัตว์อื่น แต่เมื่อพิจารณาหันมา
มองอวัยวะของผู้หญิง นี่ข้องใจจะสะดุดมาก การพิจารณาอย่างนี้พิจารณาได้ยาก แต่จะแก้กาม ต้องพิจารณาตัดที่ตรงนี้"

เหตุแห่งรัก ธ ทรงชี้ว่ามีสอง
เหตุเพราะปองร่วมชิดพิศมัย
เหตุชาติก่อนอยู่ร่วมมาไม่ละไป
ผลชาติใหม่จึงได้พบประสบกัน

...อีกประการเกื้อกูลในชาตินี้
เหมือนบัวที่เกิดในน้ำตามผสาน
อาศัยน้ำและเปือกตมจึงสมกัน
รักเกิดพลันราวศรรักเข้าปักทรวง ฯ / หนอนพระไตรปิฏก

ปุพฺเพว สนฺนิวาเสน ปจฺจุปฺปนฺนหิเตน วา
เอวนฺตํ ชายเต เปมํ อุปลํว ยโถทเกฯ

ความรักนั้นย่อมเกิดขึ้นด้วยเหตุสองประการ คือ
ด้วยการอยู่ร่วมกันในกาลก่อน ๑
ด้วยความเกื้อกูลต่อกันในปัจจุบัน ๑

เหมือนดอกอุบลเมื่อเกิดในน้ำ ย่อมเกิดเพราะอาศัยเหตุสองประการ คือน้ำและเปือกตม ฉะนั้น.

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรมดา ความรักนี้ย่อมเกิดด้วยเหตุสองประการ คือได้เป็นมารดาบิดา ธิดาบุตร พี่น้องชายพี่น้องหญิง สามีภรรยา หรือสหายมิตรกันในภพก่อน เคยอยู่ร่วมที่เคียงกันมา ความรักนั้นย่อมไม่ละ คงติดตามไปแม้ในภพอื่น เพราะการอยู่ร่วมกันในกาลก่อนอย่างหนึ่ง. อีกอย่างหนึ่ง ความรักนั้นย่อมเกิดเพราะความเกื้อกูลกันในปัจจุบันอันได้ทำในอัตภาพนี้.

ความรักนั้นย่อมเกิดขึ้นด้วยเหตุสองประการฉะนี้ เปรียบเหมือนอุบลในน้ำฉะนั้น คือเหมือนอุบลและบุปผชาติที่เกิดในน้ำต่างๆ เกิดในน้ำ ก็ได้อาศัยเหตุสองอย่าง คือน้ำและเปือกตมฉันใด ความรักก็ย่อมเกิดด้วยเหตุสองประการนี้ฉะนั้น.ดูเพิ่มเติม




เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ย. 2012, 23:56 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 พ.ค. 2012, 02:09
โพสต์: 456


 ข้อมูลส่วนตัว




B J phodi.bmp
B J phodi.bmp [ 195.49 KiB | เปิดดู 7447 ครั้ง ]
.. :b8:

อนุโมทนาแล้วๆๆ ..
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ย. 2012, 21:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5361


 ข้อมูลส่วนตัว


สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อาราม

ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระ-

ภาคเจ้า ตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่า ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ปุถุชนผู้มิได้สดับ

จะพึงเบื่อหน่ายบ้าง คลายกำหนัดบ้าง หลุดพ้นบ้าง ในกายอันเป็นที่ประชุม

แห่งมหาภูตทั้ง ๔ นี้ ข้อนั้นเพราะเหตุไร? เพราะเหตุว่า ความเจริญก็ดี

ความเสื่อมก็ดี การเกิดก็ดี การตายก็ดี ของกายอันเป็นที่ประชุมแห่ง

มหาภูตทั้ง ๔ นี้ ย่อมปรากฏ ปุถุชนผู้มิได้สดับ จึงเบื่อหน่ายบ้าง

คลายกำหนัดบ้าง หลุดพ้นบ้าง ในกายนั้น

แต่ตถาคตเรียกสิ่งนี้ว่า จิตบ้าง มโนบ้าง วิญญาณบ้าง ปุถุชนผู้มิได้

สดับ ไม่อาจเบื่อหน่าย คลายกำหนัด หลุดพ้นไปจากจิต เป็นต้นนั้น

ได้เลย ข้อนั้นเพราะเหตุไร? เพราะว่าจิตเป็นต้นนี้ อันปุถุชนมิได้สดับ

รวบรัดถือไว้ด้วยตัณหา ยึดถือด้วยทิฏฐิว่า นั่นของเรา เราเป็นนั่น

นั่นเป็นตัวตนของเรา ดังนี้ ตลอดกาลช้านาน ฉะนั้น ปุถุชน

ผู้มิได้สดับ จึงไม่อาจจะเบื่อหน่าย คลายกำหนัด หลุดพ้นไปจากจิต

เป็นต้นนั้นได้เลย

ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ปุถุชนผู้มิได้สดับ จะพึงเข้าไปยึด

ถือเอากายอันเป็นที่ประชุมแห่งมหาภูตทั้ง ๔ นี้ โดยความเป็นตน ยัง

ชอบกว่า แต่จะเข้าไปยึดถือเอาจิตโดยความเป็นตน หาชอบไม่ ข้อนั้น

เพราะเหตุไร? เพราะกายอันเป็นที่ประชุมแห่งมหาภูตทั้ง ๔ นี้ เมื่อ

ดำรงอยู่ปีหนึ่งบ้าง สองปีบ้าง สามปีบ้าง สี่ปีบ้าง ห้าปีบ้าง สิบปีบ้าง

ยี่สิบปีบ้าง สามสิบปีบ้าง สี่สิบปีบ้าง ห้าสิบปีบ้าง ร้อยปีบ้าง ยิ่งกว่า

ร้อยปีบ้าง ย่อมปรากฏ

แต่ตถาคตเรียกสิ่งนี้ว่า จิตบ้าง มโนบ้าง วิญญาณบ้าง จิต เป็นต้น

นั้น ดวงหนึ่งเกิดขึ้น ดวงหนึ่งดับไป ในกลางคืนและกลางวัน

ดูกร ภิกษุทั้งหลาย วานรเมื่อเที่ยวไปในป่าใหญ่ จับ

กิ่งไม้ ปล่อยกิ่งนั้น ยึดเอากิ่งอื่น ปล่อยกิ่งที่ยึดเดิม เหนี่ยวกิ่งใหม่

ต่อไป แม้ฉันใด ตถาคตเรียกสิ่งนี้ว่า จิตบ้าง มโนบ้าง วิญญาณบ้าง

จิตเป็นต้นนั้น ดวงหนึ่งเกิดขึ้นดวงหนึ่งดับไป ในกลางคืนและกลางวัน

ก็ฉันนั้นแล

ดูกร ภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกผู้ได้สดับ ย่อมใส่ใจโดย

แยบคายด้วยดีถึงปฏิจจสมุปบาทธรรม ในกายและจิตที่ตถาคตกล่าวมา

นั้นว่า เพราะเหตุดังนี้ เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี เพราะสิ่งนี้เกิดขึ้น สิ่งนี้

จึงเกิดขึ้น เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้จึงไม่มี เพราะสิ่งนี้ดับ สิ่งนี้จึงดับ คือ

เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงมีสังขาร เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ

เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงมีนามรูป เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงมี

สฬายตนะ เพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย จึงมีผัสสะ เพราะผัสสะเป็นปัจจัย

จึงมีเวทนา เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงมีตัณหา เพราะตัณหาเป็นปัจจัย

จึงมีอุปาทาน เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงมีภพ เพราะภพเป็นปัจจัย

จึงมีชาติ เพราะชาติเป็นปัจจัย จึงมีชราและมรณะ โสกปริเทวทุกข-

โทมนัสและอุปายาส ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วย

ประการอย่างนี้ อนึ่ง เพราะอวิชชาดับสำรอกโดยไม่เหลือ สังขารจึงดับ

เพราะสังขารดับ วิญญาณจึงดับ เพราะวิญญาณ ดับ นามรูปจึงดับ เพราะ

นามรูปดับ สฬายตนะจึงดับ เพราะสฬายตนะดับ ผัสสะจึงดับ เพราะผัสสะ

ดับ เวทนาจึงดับ เพราะเวทนาดับ ตัณหาจึงดับ เพราะตัณหาดับ

อุปาทานจึงดับ เพราะอุปาทานดับ ภพจึงดับ เพราะภพดับ ชาติจึงดับ

เพราะชาติดับ ชราและมรณะโสกปริเทวทุกขโทมนัสและอุปายาส จึงดับ

ความดับแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้

ดูกร ภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกผู้ได้สดับ มาพิจารณาอยู่

อย่างนี้ ย่อมหน่ายแม้ในรูป ย่อมหน่ายแม้ในเวทนา ย่อมหน่ายแม้ใน

สัญญา ย่อมหน่ายแม้ในสังขารทั้งหลาย ย่อมหน่ายแม้ในวิญญาณ เมื่อ

หน่าย ย่อมคลายกำหนัด เพราะคลายกำหนัดจึงหลุดพ้น เมื่อหลุดพ้นแล้ว

ก็เกิดญาณหยั่งรู้ว่าหลุดพ้นแล้ว ย่อมทราบชัดว่าชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์

อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้ มิได้มี

ดังนี้แล.





เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ย. 2012, 01:06 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 พ.ค. 2012, 02:09
โพสต์: 456


 ข้อมูลส่วนตัว




B J phodi.bmp
B J phodi.bmp [ 195.49 KiB | เปิดดู 7407 ครั้ง ]
.. :b8:

อนุโมทนาแล้วๆๆ ..
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ย. 2012, 08:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5361


 ข้อมูลส่วนตัว


การแสดงความกตัญญู ต่อคุณพ่อคุณแม่ เทียบได้กับการถวายทานกับพระเช่นกัน เพราะว่าคุณพ่อคุณแม่ก็คือพระอรหันต์ของเรา อันนี้ก็ได้บุญเหมือนกัน ไม่จำเป็นที่จะต้องไปวัด ก็สามารถที่จะทำบุญให้กับพระที่อยู่รอบๆตัวเราได้

ถ้าเรามีลูกหลานซึ่งกำลังเล่าเรียนศึกษาอยู่ ก็บอกลูกหลานของเรา ให้ตั้งใจไปศึกษาเล่าเรียน เพื่อเป็นทานให้กับคุณพ่อคุณแม่ การที่ลูกหลาน ตั้งใจไปเรียนหนังสือ ก็เป็นการตอบแทนบุญคุณของคุณพ่อคุณแม่ซึ่งเป็นพระอรหันต์ในบ้าน ก็เป็นการสร้างความอบอุ่น มั่นใจ ชื่นใจให้กับคุณพ่อคุณแม่ ลูกหลาน ก็จะได้บุญ คุณพ่อคุณแม่ก็จะได้บุญไปด้วย ลูกหลาน ก็จะได้ประสบความสำเร็จในชีวิต ด้วยการที่ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนเป็นทาน บุญกุศลนี้จะได้ย้อนกลับมาที่ลูกหลานของเรา


คำว่าเช่นนั้นเอง ปฏิจจสมุปบาทคือคำสอนทั้งหมดในพระพุทธศาสนา คือสอนว่าทุกข์เกิดขึ้นอย่างไรและดับไปอย่างไร สมตามที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า "ฉันไม่พูดเรื่องอื่น ฉันพูดแต่เรื่องความทุกข์ และความดับทุกข์เท่านั้น เดี๋ยวนี้ก็ดี ต่อไปข้างหน้าก็ดี" คือให้ความทุกข์และความดับทุกข์นี้ มันรวมอยู่ในคำว่า "เช่นนั้นเอง" เรียกว่า "ตถตา" ก็ได้ "ตถาตา" ก็ได้ "ตถา" เฉยๆ ก็ได้ หมายถึงสิ่งทั้งปวงเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ตามเหตุปัจจัย ไม่มีใครสร้าง ใครบันดาล ให้มีให้เกิดขึ้น แต่เป็นเช่นนั้นขึ้นมาเอง


ถ้ามันเกิดทุกข์ขึ้นมา เราก็เห็นเช่นนั้นเองของความทุกข์ แล้วก็หาเช่นนั้นเองของความดับทุกข์ที่มันเป็นคู่ปรปักษ์กัน เข้ามาซี่ "เช่นนั้นเอง" อย่างนี้มันเป็นทุกข์ "เช่นนั้นเอง" ที่มันดับทุกข์ก็เอาเข้ามา มาฟัดกันกับ "เช่นนั้นเอง" เช่นนั้นเองกับเช่นนั้นเองมันก็ฆ่ากันเอง ในที่สุดความทุกข์มันก็ดับไป เพราะเรามีเช่นนั้นเอง ฝ่ายดับทุกข์หรือฝ่ายพระนิพพาน พุทธศาสนาเรียนได้ในพริบตาเดียวก็ด้วยคำว่า "เช่นนั้นเอง"



คนตกปลาคนแรก ตกปลาอย่างมีสติ มีสมาธิ นั่งนิ่งสงบอดทน จิตตั้งมั่นอยู่กับคันเบ็ด มือไม่สัดส่าย เขาตกปลาอย่างมีทั้งสติและสมาธิ

คนธรรมดานั่งดูคนตกปลา ใจเขาเหม่อลอยคิดเรื่องโน้นเรื่องนี้ อย่างไม่มีสติไม่มีสมาธิ
...
คนธรรมดานั่งดูคนทั้งสองอย่างมีสติชอบ เขาระลึกได้ว่าการเบียดเบียนสัตว์อื่นเป็นสิ่งผิด เขาจึงไม่ยินดีในการตกปลา เขาพิจารณาแล้วไม่สามารถช่วยเหลือทั้งคนตกปลาให้เว้นการทำบาป และช่วยเหลือปลาไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ ขีดความสามารถที่จะจัดการเรื่องนี้ไม่มี เขาจึงพิจารณาแล้วปล่อยวางทำจิตเป็นอุเบกขา อธิษฐานจิตแผ่เมตาให้คนตกปลาและปลาผู้เป็นเหยื่อ

การมีสติระลึกได้ว่าเราไม่ควรตกปลาไม่ควรทำบาป แล้วนำไปสู่การกระทำคือเว้นการทำบาป นี่คือสติชอบ ตามหลักศาสนพุทธ คนตกปลามีสติมีสมาธิในการทำบาป เป็นสติที่ไม่ชอบ เป็นสมาธิที่ไม่ชอบ นี่คือความแตกต่างระหว่างสติชอบกับสติธรรมดาทั่วๆไป


สัปบุรุษหมู่หนึ่งถวายภัตตาหารแก่สงฆ์ เขาไม่ได้

ฝานมะม่วงเป็นชิ้น ๆ ในโรงอาหารล้วนแล้วไปด้วยผลมะม่วงทั้งนั้น ภิกษุ

ทั้งหลายรังเกียจไม่รับประเคน . . .

พระผู้มีพระภาคเจ้า ...ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจงรับ

ประเคนฉันเถิด เราอนุญาตให้ฉันผลไม้โดยสมณกัปปะ ๕ อย่าง คือ

๑. ผลไม้ที่ลนด้วยไฟ

๒. ผลไม้ทำกรีดด้วยศัสตรา

๓. ผลไม้ที่จิกด้วยเล็บ

๔. ผลไม้ที่ไม่มีเมล็ด

๕. ผลไม้ที่ปล้อนเมล็ดออกแล้ว .

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ฉันผลไม้โดยสมณกัปปะ ๕ อย่างนี้.


ก็การกระทำกัปปิยะในสิกขาบทนี้ บัณฑิตพึงทราบโดยกระแสแห่งสูตร

นี้ว่า ภิกษุทั้งหลายเราอนุญาตเพื่อบริโภคผลไม้ ด้วยสมณกัปปะ (สมณโวหาร)

๕ คือ ผลที่จี้ด้วยไฟ ที่แทงด้วยมีด ที่จิกด้วยเล็บ ผลที่ไม่มีเมล็ด ที่ปล้อน

เม็ดออกแล้ว เป็นที่คำรบ ๕.๑

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อคฺคิปริจิตํ มีอรรถว่า ฉาบ คือ

ลวก เผา จี้แล้วด้วยไฟ.

บทว่า สตฺถกปริจิตํ มีอรรถว่า จด คือ ฝาน ตัด หรือแทง

แล้วด้วยมีดเล็ก ๆ. ในข้อว่า จิกด้วยเล็บ ก็นัยนั้นนั่นแล. ผลไม้ที่ไม่มีเมล็ด

และผลไม้ที่ปล้อนเมล็ดออกแล้ว เป็นกัปปิยะด้วยตัวมันเองแท้.

ภิกษุเมื่อจะทำกัปปิยะด้วยไฟ พึงทำกัปปิยะด้วยบรรดาไฟฟืนและไฟ

โคมัยเป็นต้น อย่างใดอย่างหนึ่ง โดยที่สุดแม้ด้วยแต่งโลหะที่ร้อน. ก็แล

วัตถุนั้นจับไว้ข้างหนึ่ง พึงกล่าวคำว่า กัปปิยัง แล้วทำเถิด.

เมื่อจะทำด้วยมีด. แสดงรอยตัด รอยผ่า ด้วยปลาย หรือด้วยคม

แห่งมีดที่ทำด้วยโลหะอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยทีสุดแม้แห่งเข็มและมีดตัดเล็บ

เป็นต้น. พึงกล่าวว่า กัปปิยัง แล้วทำเถิด.

เมื่อจะทำกัปปิยะด้วยเล็บ อย่าพึงทำด้วยเล็บเน่า. ก็เล็บของพวก

มนุษย์ สัตว์ ๔ เท้า มีสีหะ เสือโคร่ง เสือเหลือง และลิงเป็นต้น และ

แห่งนกทั้งหลาย เป็นของแหลมคม, พึงทำด้วยเล็บเหล่านั้น. กีบแห่งสัตว์

มีม้า กระบือ สุกร เนื้อ และโคเป็นต้น ไม่คม อย่าพึงทำด้วยกีบเหล่านั้น.

แม้ทำแล้วก็ไม่เป็นอันทำ. ส่วนเล็บช้าง ไม่เป็นกีบ. จะทำกัปปิยะด้วยเล็บช้าง

เหล่านั้น ควรอยู่ แต่การทำกัปปิยะด้วยเล็บเหล่าใด สมควร, พึงแสดง

การตัด การจิก ด้วยเล็บเหล่านั้นที่เกิดอยู่ในที่นั้นก็ดี ที่ยกขึ้นถือไว้ก็ดี กล่าวว่า

กัปปิยัง แล้วกระทำเถิด.

บรรดาพืชเป็นต้นเหล่านั้น ถ้าแม้นว่าพืชกองเท่าภูเขาก็ดี ต้นไม้

จำนวนพันที่เขาตัดแล้ว ทำให้เนื่องเป็นอันเดียวกันกองไว้ก็ดี อ้อยมัดใหญ่ที่

เขามัดรวมไว้ก็ดี, เมื่อทำพืชเมล็ดหนึ่ง กิ่งไม้กิ่งหนึ่งหรืออ้อยลำหนึ่งให้เป็น

กัปปิยะแล้ว ย่อมเป็นอันทำให้เป็นกัปปิยะแล้วทั้งหมด. อ้อยลำและไม้ฟืน

เป็นของอันเขามัดรวมกันไว้. อนุปสัมบัน จะแทงไม้ฟืนด้วยตั้งใจว่า เราจัก

กระทำอ้อยให้เป็นกัปปิยะ ดังนี้ ก็ควรเหมือนกัน. แต่ถ้าเป็นของที่เขาผูกมัด

ด้วยเชือกหรือด้วยเถาวัลย์ใด จะแทงเชือกหรือเถาวัลย์นั้น ไม่ควร. ชนทั้งหลาย

บรรจุกระเช้าให้เต็มด้วยลำอ้อยท่อนแล้วนำมา. เมื่อทำอ้อยท่อนลำหนึ่งให้เป็น

กัปปิยะแล้ว อ้อยท่อนทั้งหมด ย่อมเป็นอันทำให้กัปปิยะแล้วเหมือนกัน.

ก็ถ้าว่า พวกทายำนำภัตปนกับพริกสุกเป็นต้นมา เมื่อภิกษุกล่าวว่า

จงกระทำกัปปิยะ ถ้าแม้นว่า อนุปสัมบันแทงที่เมล็ดข้าวสวย ก็สมควร

เหมือนกัน. แม้ในเมล็ดงาและข้าวสารเป็นต้น ก็นัยนั้นนั่นแล. แต่พริกสุก

เป็นต้นนั้น ที่เขาใส่ลงในข้าวต้ม ไม่ตั้งอยู่ติดเนื่องเป็นอันเดียวกัน. บรรดา

พริกสุกเป็นต้นนั้น พึงทำกัปปิยะแทงที่ละเมล็ดนั่นเทียว. เยื่อในแห่งผลมะขวิด

เป็นต้น ร่อนเปลือกแล้วคลอนอยู่ (หลุดจากกะลาคลอนอยู่ช้างใน) ภิกษุพึง

ให้ทุบแล้วให้ทำกัปปิยะ. (ถ้า) ยังติดเนื่องเป็นอันเดียวกัน (กับเปลือก),

จะทำ (กัปปิยะ) แม้ทั้งเปลือก (ทั้งกะลา) ก็สมควร .




เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


ขอเชิญร่วมงานบุญงานปิดทองฝังลูกนิมิตร
ลำดับ วัด วันที่ ตำบล อำเภอ จังหวัด เบอร์โทร
1 วัดแป้นทองโสภาราม 23 กุมภาพันธ์ - 4 มีนาคม 2556 แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา จ.กรุงเทพ 087-903-4145, 089-696-3407
2 วัดแทนวันดีสุขาราม 7 - 13 กุมภาพันธ์ 2556 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน จ.กรุงเทพ 084-454-5632, 086-201-3068, 086-750-6564
3 วัดอาวุธวิกสิตาราม(วัดบางพลัดนอก) รอวันที่ตัดหวาย แขวงบางพลัด เขตบางพลัด จ.กรุงเทพ 081-816-6554, 02-424-3176, 02-433-8166
4 วัดเพลง 8 - 12 กุมภาพันธ์ 2556 แขวงปากคลอง เขตภาษีเจริญ จ.กรุงเทพ 086-894-9481, 086-929-6296
5 วัดหนองตาก้าย 8 - 16 กุมภาพันธ์ 2556 ต.หนองประดู่ อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี 082-291-3768
6 วัดเขากรวด 8 - 17 กุมภาพันธ์ 2556 ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี 089-080-5770, 081-006-7426
7 วัดซ้องสาธุการ (บ้านซ่อง) 8 - 18 กุมภาพันธ์ 2556 ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี 090-446-6745, 085-740-8234, 086-065-1377
8 วัดเขาสว่างธรรม 28 ธันวาคม 2555 - 5 มกราคม 2556 ต.ปางมะค่า อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร 084-573-4964
9 วัดปรือพันไถ 26 ธันวาคม 2555 - 3 มกราคม 2556 ต.ช่องลม อ.ลานกระบือ จ.กำแพงเพชร 084-886-9412
10 วัดประดาเจ็ดรัง 28 ธันวาคม 2555 - 6 มกราคม 2556 ต.หนองหลวง อ.ลานกระบือ จ.กำแพงเพชร
11 วัดกลุ่มสระบุรี 9 - 17 กุมภาพันธ์ 2556 ต.สามพี่น้อง อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี
12 วัดบ้านขอม 7 - 19 กุมภาพันธ์ 2556 ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.จันทบุรี 084-955-5913
13 วัดโคกรัก 9 - 18 กุมภาพันธ์ 2556 ต.พลิ้ว อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี
14 วัดราชฮ้วง 9 - 18 กุมภาพันธ์ 2556 ต.พนมสารคาม อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา 082-219-3575, 089-888-0506
15 วัดอุดมมงคล 8 - 18 กุมภาพันธ์ 2556 ต.ท่าไข่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา 087-070-5147, 086-617-814
16 วัดคลองวังอ้ายเนื้อ 8 - 18 กุมภาพันธ์ 2556 ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา 081-440-4521
17 วัดเขาใหญ่ 9 - 15 กุมภาพันธ์ 2556 ต.พลวงทอง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี 081-340-2171, 081-946-5781
18 วัดถ้ำประทุน 9 - 17 กุมภาพันธ์ 2556 ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
19 วัดบ้านในบน 8 - 17 กุมภาพันธ์ 2556 ต.สระสี่เหลี่ยม อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี 086-029-2343
20 วัดเเปลงกระถิน 9 - 17 กุมภาพันธ์ 2556 ต.สระสี่เหลี่ยม อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี 083-806-6197
21 วัดเก่าโบราณ 9 - 17 กุมภาพันธ์ 2556 ต.บางแสน อ.เมือง จ.ชลบุรี 038-392-103, 038-392-694
22 วัดหลวงพ่อขาว 1 - 9 ธันวาคม 2555 ต.ชัยนาท อ.เมือง จ.ชัยนาท 090-639-7300
23 วัดเขาบ่อ 10 - 20 เมษายน 2556 ต.ทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร
24 วัดช่องรอ 11 - 18 เมษายน 2556 ต.ครน อ.สวี จ.ชุมพร 082-863-3513, 081-968-3091
25 วัดหัวถนน 29 ธันวาคม 2555 - 6 มกราคม 2556 ต.นาพละ อ.เมือง จ.ตรัง 089-224-6192
26 วัดเขาไม้แก้ว 20 - 28 เมษายน 2556 ต.เขาไม้แก้ว อ.สิเกา จ.ตรัง 081-606-2557
27 วัดรางหมัน 7 - 18 กุมภาพันธ์ 2556 ต.รางพิกุล อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 081-944-5609, 081-941-9564
28 วัดบ้านหาญ 9 - 15 กุมภาพันธ์ 2556 ต.ด่านขุนทด อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา 044-389-355, 089-285-5209
29 วัดหนองตาคง 30 ธันวาคม 2555 - 5 มกราคม 2556 ต.หนองบัวศาลา อ.เมือง จ.นครราชสีมา 089-849-2029
30 วัดหนองไผ่พัฒนา 30 ธันวาคม 2555 - 3 มกราคม 2556 ต.หนองหญ้าขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา
31 วัดสำนักขัน 9 - 19 กุมภาพันธ์ 2556 ต.สามตำบล อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช 087-274-5208
32 วัดนาเหรง 25 พฤษภาคม - 2 มิถุนายน 2556 ต.นาเหรง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช 081-089-5109
33 วัดปากนครบน 5 - 13 มกราคม 2556 ต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช 080-142-0764, 081-098-4641, 087-629-4021
34 วัดศรีกัลยาณนิคม 27 ธันวาคม 2555 - 4 มกราคม 2556 ต.วังซ่าน อ.เเม่วงก์ จ.นครสวรรค์ 084-430-9406, 081-046-0288
35 วัดไผ่นาเริง 29 ธันวาคม 2555 - 6 มกราคม 2556 ต.ตากฟ้า อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์ 084-818-4960
36 วัดลาดทิพยรส 29 ธันวาคม 2555 - 4 มกราคม 2556 ต.ลาดทิพรส อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์
37 วัดเขาดินศิริวัฒนาราม 28 ธันวาคม 2555 - 5 มกราคม 2556 ต.หนองหลวง อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ 081-786-8297
38 วัดหนองมะขาม 29 ธันวาคม 2555 - 6 มกราคม 2556 ต.บึงปลาทู อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์
39 วัดลานชัยสามัคคี 28 ธันวาคม 2555 - 3 มกราคม 2556 ต.แม่เปิน อ.แม่เปิน จ.นครสวรรค์ 089-271-5829,086-203-1368,082-177-9027,085-711-2131
40 วัดวังมะเดื่อ 30 ธันวาคม 2555 - 5 มกราคม 2556 ต.หนองกลับ อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ 080-080-5195, 086-210-3789, 087-196-0550, 084-361-2488
41 วัดโตนด 7 - 18 กุมภาพันธ์ 2556 ต.บางกร่าง อ.เมือง จ.นนทบุรี 081-371-7422, 087-002-8000
42 วัดปากคาด (สว่างอุทิศ) 26 - 31 มกราคม 2556 ต.ปากคาด อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ
43 วัดปทุมคงคา 20 - 26 มีนาคม 2556 ต.บ้านปรือ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ 085-024-7509
44 วัดพินทอง 26 มกราคม - 3 กุมภาพันธ์ 2556 ต.ไพศาล อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ 081-977-2607, 088-349-7855
45 วัดปราสาททอง 26 ธันวาคม 2555 - 3 มกราคม 2556 ต.โคกขมิ้น อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์
46 วัดคลองหนึ่ง(แก้วนิมิต) 5 - 14 กุมภาพันธ์ 2556 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
47 วัดอัมพุวราราม 9 - 17 มีนาคม 2556 ต.บ้านงิ้ว อ.สามโคก จ.ปทุมธานี 02-979-8099, 081-833-3037
48 วัดตำหนัก 9 - 17 กุมภาพันธ์ 2556 ต.สามโคก อ.สามโคก จ.ปทุมธานี
49 วัดนาหูกวางหลวงปู่ทอง 29 ธันวาคม 2555 - 6 มกราคม 2556 ต.นาหูกวาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ 086-098-815
50 วัดหนองระแวง(วัดชัยภูมิ) 8 - 16 กุมภาพันธ์ 2556 ต.ธงชัย อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 086-167-7983
51 วัดวังก์พง 8 - 17 กุมภาพันธ์ 2556 ต.วังก์พง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ 086-805-6235, 089-379-2255
52 วัดสมอโพรง 9 - 17 กุมภาพันธ์ 2556 ต.หัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
53 วัดผดุงธรรมโพธิวาส 9 - 19 กุมภาพันธ์ 2556 ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา 080-146-8726
54 วัดท้ายวัง 17 - 25 กุมภาพันธ์ 2556 ต.ชะมวง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง 081-798-0950
55 วัดลานข่อย 6 - 12 มิถุนายน 2556 ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง 089-597-5401
56 วัดท่านั่ง 24 ธันวาคม 2555 - 3 มกราคม 2556 ต.ท่านั่ง อ.โพทะเล จ.พิจิตร 081-887-0677
57 วัดปากลัด 26 ธันวาคม 2555 - 5 มกราคม 2556 ต.บ้านน้อย อ.โพทะเล จ.พิจิตร 089-957-6266
58 วัดหนองขำ 28 ธันวาคม 2555 - 6 มกราคม 2556 ต.เนินสว่าง อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร 089-568-4667
59 วัดหนองสองห้อง 8 - 17 กุมภาพันธ์ 2556 ต.วังทับไทร อ.สากเหล็ก จ.พิจิตร 089-238-4050
60 วัดหนองกวางลี้ 26 ธันวาคม 2555 - 3 มกราคม 2556 ต.ดอนทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก
61 วัดสระไม้เเดง 28 ธันวาคม 2555 - 6 มกราคม 2556 ต.อรัญญิก อ.เมือง จ.พิษณุโลก
62 วัดตะเคียนเตี้ย (วัดหนองกระบาก) 4 - 9 ธันวาคม 2555 ต.คันโช้ง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก
63 วัดนาขาม 27 ธันวาคม 2555 - 2 มกราคม 2556 ต.บ้านยาง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก
64 วัดห้วยสัตว์ใหญ่ 8 - 16 กุมภาพันธ์ 2556 ต.ป่าเต็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี 082-297-3374, 082-242-7490
65 วัดไร่ดอน (เขากิ่ว) 8 - 16 กุมภาพันธ์ 2556 ต.ไร่ส้ม อ.เมือง จ.เพชรบุรี คุณกฤษ 081-987-0318
66 วัดเขาค้อ 28 ธันวาคม 2555 - 6 มกราคม 2556 ต.เขาค้อ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ 083-161-2239
67 วัดธรรมรัตนาราม 29 ธันวาคม 2555 - 6 มกราคม 2556 ต.บ้านกล้วย อ.ชนเเดน จ.เพชรบูรณ์ 086-207-7026, 087-838-3204
68 วัดวังอ่าง 28 ธันวาคม 2555 - 6 มกราคม 2556 ต.บัววัฒนา อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ 087-199-0252
69 วัดคีรีวนาราม(วัดสองสลึง) 9 - 17 กุมภาพันธ์ 2556 ต.สองสลึง อ.แกลง จ.ระยอง
70 วัดปทุมาวาส (หัวชวด) 9 - 17 กุมภาพันธ์ 2556 ต.หนองบัว อ.บ้านค่าย จ.ระยอง 084-879-8675
71 วัดสำนักกะท้อน 9 - 17 กุมภาพันธ์ 2556 ต.สำนักท้อน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง
72 วัดสำนักทอง 9 - 17 กุมภาพันธ์ 2556 ต.สำนักทอง อ.เมือง จ.ระยอง
73 วัดหนองตาเนิด 9 - 17 กุมภาพันธ์ 2556 ต.ปากช่อง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี 085-243-9221,
74 วัดพุแค 9 - 17 กุมภาพันธ์ 2556 ต.ปากช่อง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี 081-190-1430
75 วัดหนองนกกระเรียน 9 - 17 กุมภาพันธ์ 2556 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี 089-884-8622
76 วัดทุ่งตาล 9 - 17 กุมภาพันธ์ 2556 ต.เจดีย์หัก อ.เมือง จ.ราชบุรี 081-015-6659
77 วัดทะเลวังวัด 27 ธันวาคม 2555 - 2 มกราคม 2556 ต.ทะเลวังวัด อ.ท่าหลวง จ.ลพบุรี
78 วัดหนองน้ำใส 8 - 16 กุมภาพันธ์ 2556 ต.หนองผักแว่น อ.ท่าหลวง จ.ลพบุรี 087-121-0716, 085-242-6442
79 วัดสบคือ 28 ธันวาคม 2555 - 4 มกราคม 2556 ต.ล้อมแรด อ.เถิน จ.ลำปาง
80 วัดวีระราษฎร์บำรุง 29 ธันวาคม 2555 - 2 มกราคม 2556 ต.นาด้วง อ.นาด้วง จ.เลย 086-224-6166
81 วัดเชิงคีรี (ควนป่าชิง) 23 กุมภาพันธ์ - 3 มีนาคม 2556 ต.ป่าชิง อ.จะนะ จ.สงขลา 081-368-5654, 088-394-1136
82 วัดบ่อระกำ 10 - 19 พฤษภาคม 2556 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา
83 วัดธรรมาวาส (ควนรู) 13 - 22 มิถุนายน 2556 ต.กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา 086-192-8744
84 วัดสะบ้าย้อย 27 เมษายน - 5 พฤษภาคม 2556 ต.สะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา 084-969-8317
85 วัดท่าแซ 1 - 15 เมษายน 2556 ต.คลองอู่ตะเภา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 081-896-3393
86 วัดถ้ำญาณสังวร 28 ธันวาคม 2555 - 5 มกราคม 2556 ต.หินซ้อน อ.แก่งคอย จ.สระบุรี 089-084-4949, 086-122-8677
87 วัดซับดินดำ 9 - 17 กุมภาพันธ์ 2556 ต.ลำสมพุง อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี 089-905-4906, 089-285-0590, 083-101-6338
88 วัดพระยาทด 3 - 10 มีนาคม 2556 ต.พระยาทด อ.เสาไห้ จ.สระบุรี 036-725-273, 089-185-7478
89 วัดหนองปลากะดี่ 28 ธันวาคม 2555 - 6 มกราคม 2556 ต.หนองปลาหมอ อ.หนองแค จ.สระบุรี 086-807-1749, 087-114-1624
90 วัดโคนอน 28 ธันวาคม 2555 - 5 มกราคม 2556 ต.พักทัน ต.บางระจัน จ.สิงห์บุรี
91 วัดหัวเขา 28 ธันวาคม 2555 - 6 มกราคม 2556 ต.สระกระโจม อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี
92 วัดหนองเปาะ 30 ธันวาคม 2555 - 7 มกราคม 2556 ต.ด่านช้าง อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี
93 วัดองค์พระ (หนองมะเขือ) 28 ธันวาคม 2555 - 5 มกราคม 2556 ต.องค์พระ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี 089-521-3475
94 วัดปากดง 28 ธันวาคม 2555 - 5 มกราคม 2556 ต.หัวเขา อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี 035-518-088, 089-745-5249
95 วัดหนองจิกยาว 29 ธันวาคม 2555 - 6 มกราคม 2556 ต.หนองโพธิ์ อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี 081-279-6956
96 วัดเขาถ้ำเสือ 8 - 16 กุมภาพันธ์ 2556 ต.จรเข้สามพัน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี
97 วัดคณฑี 7 - 15 กุมภาพันธ์ 2556 ต.หนองโอ่ง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี 081-011-4667
98 วัดภูธรอุทิศสิทธาราม 18 - 27 มกราคม 2556 ต.ขุนทะเล อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี 081-677-6697
99 วัดสายชลมณฑาราม 29 ธันวาคม 2555 - 5 มกราคม 2556 ต.หนองกอมเกาะ อ.เมือง จ.หนองคาย
100 วัดปากกราน 10 - 16 กุมภาพันธ์ 2556 ต.ปากกราน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.อยุธยา 089-237-6851
101 วัดไพรฑูริย์ถนิมาราม 8 - 16 กุมภาพันธ์ 2556 ต.วังจุฬา อ.วังน้อย จ.อยุธยา 089-242-8187, 035-255106
102 วัดบ้านเพชร 28 ธันวาคม 2555 - 5 มกราคม 2556 ต.แสวงหา อ.แสวงหา จ.อ่างทอง 089-458-4993, 089-243-4632
103 วัดหนองหญ้านาง 28 ธันวาคม 2555 - 5 มกราคม 2556 ต.หนองไผ่เเบน อ.เมือง จ.อุทัยธานี 056-981-104
104 วัดป่าศรัทธาธรรม 28 ธันวาคม 2555 - 6 มกราคม 2556 ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี 087-207-3670
105 วัดหนองแขวนกูบ 29 ธันวาคม 2555 - 6 มกราคม 2556 ต.พลวงสองนาง อ.สว่างอารมณ์ จ.อุทัยธานี


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 29 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร