วันเวลาปัจจุบัน 29 ก.ค. 2025, 22:23  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 70 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ม.ค. 2013, 04:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


อ้างคำพูด:
หากไม่มีปสาทรูป5 กับภวังคจิตแล้ว วิถีจิตก็เกิดขึ้นไม่ได้ เมื่อวิถีจิตเกิดขึ้นไม่ได้แล้ว
ก็ไม่มี การทำ การพูด การคิด ที่ดีก็ตาม ไม่ดีก็ตาม เกิดขึ้นได้


วิถีจิต เกิดขึ้นได้ โดยเป็นมโนทวารวิถี
จิตเกิดที่หทยรูป ในขณะที่เป็นมโนทวารวิถี ..........ช่วงนี้ไม่ต้องอาศัยปสาทรูป5

แต่อย่างไรก็ตาม ตามวงรอบของจิต เมื่อสิ้นสุดมโนทวารวิถี แล้วก็จะเป็นภวังคจิตต่อ(จิตพ้นวิถี)

มโนทวารวิถี ไม่อาจเกิดขึ้นยาวนาน เป็นคืนๆ ได้
มันต้องมีการสลับเป็นภวังคจิต คั่นอยู่ตลอดเวลา เมื่อจบวาระ

ลักษณะคือ เกิดมโนทวารวิถี แล้วพ้นวิถี แล้วมโนทวารวิถี แล้วพ้นวิถี แล้วมโนทวารวิถี แบบนี้ไปเรื่อยๆได้
โดยจิตอาศัยเกิดที่หทยรูป อย่างเดียว
ความรู้สึกของคน ขณะนี้คือ หลับฝันไป หรืออยู่ในช่วงคิดนึกแบบลึกๆ
ขณะนี้ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ไม่มีความรู้สึก
แต่กำลังดื่มด่ำอยู่ในห้วงของความนึกคิด หรือหลงอยู่ในความฝันนั่นเอง

วาระจิตที่สามารถเกิดได้ยาวนาน เป็นวันๆ คืนๆ ได้คือภวังคจิต
โดยในช่วงภวังคจิต จิตเกิดดับที่หทยรูป แต่เพียงอย่างเดียว
ขณะภวังคจิตนี้ ไม่มีความรู้สึกที่ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
คือไม่นึก ไม่ฝัน ไม่คิด ไม่อะไรทั้งสิ้น

ข้อที่น่าสังเกตุ ขณะที่มีจิตเกิดขึ้นทุกดวง ไม่ว่าจิตจะเกิดขึ้นที่ใดก็ตาม
จะมีปสาทรูป5 และรูปอื่นๆ ที่อาศัยจิตเกิดขึ้น (คือรูปที่เกิดเพราะจิตเป็นปัจจัยให้เกิด) เกิดขึ้นด้วย
แม้จิตตัวต้นเหตุให้เกิดรูปดับไปแล้ว ตามวาระที่รวดเร็ว แต่รูปต้องรอจนครบอายุรูป แล้วจึงดับลง

ผัสสะ ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย จึงอาจเกิดขึ้นได้เสมอ แม้ขณะที่คนนอนหลับสนิท หรือนอนหลับฝันก็ตาม
เพราะปสาทรูป5 ยังมีอยู่ตลอดเวลานั่นเอง

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ม.ค. 2013, 06:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


govit2552 เขียน:
อ้างคำพูด:
หากไม่มีปสาทรูป5 กับภวังคจิตแล้ว วิถีจิตก็เกิดขึ้นไม่ได้ เมื่อวิถีจิตเกิดขึ้นไม่ได้แล้ว
ก็ไม่มี การทำ การพูด การคิด ที่ดีก็ตาม ไม่ดีก็ตาม เกิดขึ้นได้


วิถีจิต เกิดขึ้นได้ โดยเป็นมโนทวารวิถี
จิตเกิดที่หทยรูป ในขณะที่เป็นมโนทวารวิถี ..........ช่วงนี้ไม่ต้องอาศัยปสาทรูป5

แต่อย่างไรก็ตาม ตามวงรอบของจิต เมื่อสิ้นสุดมโนทวารวิถี แล้วก็จะเป็นภวังคจิตต่อ(จิตพ้นวิถี)

มโนทวารวิถี ไม่อาจเกิดขึ้นยาวนาน เป็นคืนๆ ได้
มันต้องมีการสลับเป็นภวังคจิต คั่นอยู่ตลอดเวลา เมื่อจบวาระ

ลักษณะคือ เกิดมโนทวารวิถี แล้วพ้นวิถี แล้วมโนทวารวิถี แล้วพ้นวิถี แล้วมโนทวารวิถี แบบนี้ไปเรื่อยๆได้
โดยจิตอาศัยเกิดที่หทยรูป อย่างเดียว
ความรู้สึกของคน ขณะนี้คือ หลับฝันไป หรืออยู่ในช่วงคิดนึกแบบลึกๆ
ขณะนี้ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ไม่มีความรู้สึก
แต่กำลังดื่มด่ำอยู่ในห้วงของความนึกคิด หรือหลงอยู่ในความฝันนั่นเอง

วาระจิตที่สามารถเกิดได้ยาวนาน เป็นวันๆ คืนๆ ได้คือภวังคจิต
โดยในช่วงภวังคจิต จิตเกิดดับที่หทยรูป แต่เพียงอย่างเดียว
ขณะภวังคจิตนี้ ไม่มีความรู้สึกที่ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
คือไม่นึก ไม่ฝัน ไม่คิด ไม่อะไรทั้งสิ้น

ข้อที่น่าสังเกตุ ขณะที่มีจิตเกิดขึ้นทุกดวง ไม่ว่าจิตจะเกิดขึ้นที่ใดก็ตาม
จะมีปสาทรูป5 และรูปอื่นๆ ที่อาศัยจิตเกิดขึ้น (คือรูปที่เกิดเพราะจิตเป็นปัจจัยให้เกิด) เกิดขึ้นด้วย
แม้จิตตัวต้นเหตุให้เกิดรูปดับไปแล้ว ตามวาระที่รวดเร็ว แต่รูปต้องรอจนครบอายุรูป แล้วจึงดับลง

ผัสสะ ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย จึงอาจเกิดขึ้นได้เสมอ แม้ขณะที่คนนอนหลับสนิท หรือนอนหลับฝันก็ตาม
เพราะปสาทรูป5 ยังมีอยู่ตลอดเวลานั่นเอง



หากไม่มีปสาทรูป5 กับภวังคจิตแล้ว วิถีจิตก็เกิดขึ้นไม่ได้ เมื่อวิถีจิตเกิดขึ้นไม่ได้แล้ว
ก็ไม่มี การทำ การพูด การคิด ที่ดีก็ตาม ไม่ดีก็ตาม เกิดขึ้นได้


ข้อความข้างบนนี้ มาจากหน้า 31 หนังสือปริจเฉที่ 3 และ ที่ 7 ค่ะ
ที่ใช้ศึกษาในชั้น จูฬอาภิธรรมิกะโท ค่ะ

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ม.ค. 2013, 10:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


ยํ รูปํ นิสฺสาย มโนธาตุ จ มโนวิญฺญาณธาตุ จ วตฺตนฺติ ตํ รูปํ มโนธาตุยา จ มโนวิญฺญาณธาตุยา
จ ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ นิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ม.ค. 2013, 12:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


อ้างคำพูด:
หากไม่มีปสาทรูป5 กับภวังคจิตแล้ว วิถีจิตก็เกิดขึ้นไม่ได้ เมื่อวิถีจิตเกิดขึ้นไม่ได้แล้ว
ก็ไม่มี การทำ การพูด การคิด ที่ดีก็ตาม ไม่ดีก็ตาม เกิดขึ้นได้

ข้อความข้างบนนี้ มาจากหน้า 31 หนังสือปริจเฉที่ 3 และ ที่ 7 ค่ะ
ที่ใช้ศึกษาในชั้น จูฬอาภิธรรมิกะโท ค่ะ


ขอแบ่งเป็นอย่างนี้ครับ

หากไม่มีปสาทรูป5 กับภวังคจิตแล้ว วิถีจิตก็เกิดขึ้นไม่ได้ ................ อย่างที่ผมอธิบายข้างต้นครับ

เมื่อวิถีจิตเกิดขึ้นไม่ได้แล้ว
ก็ไม่มี การทำ การพูด การคิด ที่ดีก็ตาม ไม่ดีก็ตาม เกิดขึ้นได้
....................อันนี้เห็นด้วยครับ

ขอให้ข้อคิด ดังนี้ครับ
วิถีจิต มี 2 คือ ปัญจทวารวิถี และ มโนทวารวิถี

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ม.ค. 2013, 16:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


ค่ะ เชิญอธิบายตามวัตถุประสงค์นะคะ
เพราะเรื่องวิถีจิตยังมีผู้ที่สนใจอีกมากค่ะ

วิทยาศาสตร์กับพระอภิธรรม อธิบายเข้ากันได้นะคะ
ลองอ่านหนังสือของวัดท่ามะโอ ก็จะได้ความรู้เพิ่มเติมค่ะ
ที่ทำให้เข้าใจพระอภิธรรมได้มากขึ้นค่ะ บางครั้งเราก็ติดในตัวบุคคล
ซึ่งก็ยังไม่ชัดเจนในการอธิบายพระอภิธรรม ทั้งทางด้านปฏิบัติก็ยังไม่ชัดเจนวนไปวนมา
หากเราเปิดใจอ่านหรือฟังจากที่อื่นบ้างก็จะเห็นอะไรเพิ่มเติมจากเดิมค่ะ

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ม.ค. 2013, 04:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


govit2552 เขียน:
โดยจิตอาศัยเกิดที่หทยรูป อย่างเดียว
ความรู้สึกของคน ขณะนี้คือ หลับฝันไป หรืออยู่ในช่วงคิดนึกแบบลึกๆ
ขณะนี้ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ไม่มีความรู้สึก
แต่กำลังดื่มด่ำอยู่ในห้วงของความนึกคิด หรือหลงอยู่ในความฝันนั่นเอง

วาระจิตที่สามารถเกิดได้ยาวนาน เป็นวันๆ คืนๆ ได้คือภวังคจิต
โดยในช่วงภวังคจิต จิตเกิดดับที่หทยรูป แต่เพียงอย่างเดียว
ขณะภวังคจิตนี้ ไม่มีความรู้สึกที่ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
คือไม่นึก ไม่ฝัน ไม่คิด ไม่อะไรทั้งสิ้น

คุณโกวิทพูดธรรมทำให้คนอื่นสับสน หรือไม่คุณโกวิทก็สับสนเองครับ
อยากทราบครับ ที่ว่า จิตอาศัยเกิดที่หทยรูป อยากทราบครับ
รูปที่ว่ามันเป็นรูปอะไรในรูปปรมัตถ์ครับ

แล้วที่บอกว่า ภวังคจิตเกิดดับที่หทยรูป รูปที่ว่าเป็นรูปอะไรในปรมัตถ์ครับ :b13:
govit2552 เขียน:
ข้อที่น่าสังเกตุ ขณะที่มีจิตเกิดขึ้นทุกดวง ไม่ว่าจิตจะเกิดขึ้นที่ใดก็ตาม
จะมีปสาทรูป5 และรูปอื่นๆ ที่อาศัยจิตเกิดขึ้น (คือรูปที่เกิดเพราะจิตเป็นปัจจัยให้เกิด) เกิดขึ้นด้วย
แม้จิตตัวต้นเหตุให้เกิดรูปดับไปแล้ว ตามวาระที่รวดเร็ว แต่รูปต้องรอจนครบอายุรูป แล้วจึงดับลง

อันนี้ก็เหมือนกันครับที่คุณว่า รูปที่อาศัยจิตเกิดอยากทราบครับ
มันเป็นรูปอะไรในปรมัตถ์ครับ :b13:

อายุรูปเป็นอย่างไรครับ แล้วมีหรือครับจิตตัวต้นเหตุ ถ้าว่าด้วยรูปกับนามมีด้วยหรือครับ
ที่ว่าจิตเป็นตัวต้นเหตุ รบกวนช่วยอธิบายหน่อยครับ :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ม.ค. 2013, 08:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


อยากทราบครับ ที่ว่า จิตอาศัยเกิดที่หทยรูป อยากทราบครับ
รูปที่ว่ามันเป็นรูปอะไรในรูปปรมัตถ์ครับ


หทยรูป เป็นรูปๆหนึ่ง ในรูป 28 ซึ่งเป็นรูปปรมัตถ์ครับ
http://dhrammada.wordpress.com/2012/03/ ... %E0%B9%8C/

แล้วที่บอกว่า ภวังคจิตเกิดดับที่หทยรูป รูปที่ว่าเป็นรูปอะไรในปรมัตถ์ครับ

ตอบ เช่นเดียวกับคำถามแรกครับ
รูปปรมัตถ์ มี 28 รูป และหนึ่งในนั้นคือ หทยรูปครับ

ที่คุณว่า รูปที่อาศัยจิตเกิดอยากทราบครับ
มันเป็นรูปอะไรในปรมัตถ์ครับ


ตอบจากอ้างอิงนี้ครับ
อ้างคำพูด:
รูปที่เกิดจากจิต หมายถึง รูป ๑๕ รูป คือ อวินิพโภครูป ๘ วิการรูป ๓ วิญ-

ญัติรูป ๒ สัททรูป ๑ ปริจเฉทรูป ๑ ซึ่งเกิดจากจิตเป็นปัจจัย

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ม.ค. 2013, 09:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


อายุรูปเป็นอย่างไรครับ

รูปมีอายุ สั้นมาก แต่จะเอาอะไรไปวัด ในเมื่อไม่มีเครื่องมืออะไร ไปวัด
แต่ที่มีการเล่าเรียนสืบต่อๆ กันมา ก็เอาไปเทียบเคียงกับอายุจิต

อ้างคำพูด:
จิตทุกดวงจึงมีอนุขณะ ๓ ขณะ คือ
อุปาทขณะ เป็นขณะที่เกิด ไม่ใช่ขณะที่ตั้งอยู่ไม่ใช่ขณะที่ดับ
ฐิติขณะ เป็นขณะที่ตั้งอยู่ ไม่ใช่ขณะที่เกิด ไม่ใช่ขณะที่ดับ
ภังคขณะ เป็นขณะที่ดับ ไม่ใช่ขณะที่เกิด ไม่ใช่ขณะที่ตั้งอยู่


อ้างคำพูด:
เมื่อศึกษาต่อไปเรื่องรูปก็จะรู้ว่า รูปที่เกิดเพราะกรรมเป็นสมุฏฐานนั้นเป็นกัมมชรูป เกิดทุกขณะของจิต คือ เกิดขณะอุปาทะของจิต เกิดขณะฐิติของจิต เกิดขณะภังคะของจิตทุกดวง เว้นไม่เกิดก่อนจุติจิต ๑๗ ขณะ ฉะนั้น รูปที่เกิดเพราะกรรมเป็นสมุฏฐานจึงดับหมดพร้อมกับจุติจิต ทำให้สิ้นสุดความเป็นบุคคลในชาตินั้นทั้ง ๕ ขันธ์
รูปที่เกิดเพราะจิตเป็นสมุฏฐานเป็นจิตตชรูป เกิดพร้อมกับอุปปาทขณะของจิต (เว้นปฏิสนธิจิต ๑ ดวง ทวิปัญจวิญญานจิต ๑๐ ดวง อรูปาวจรวิบากจิต ๔ ดวง และจุติจิตของพระอรหันต์ ๑ ดวง)รูปที่เกิดเพราะอุตุ คือ ธาตุไฟที่เหมาะสมเป็นสมุฏฐานนั้นเป็นอุตุชรูป เกิดในฐิติขณะของอุตุชรูปซึ่งเป็นสมุฏฐานนั้นรูปที่เกิดเพราะอาหารเป็นสมุฏฐานเป็นอาหารชรูป เกิดในฐิติขณะของโอชารูปในอาหารที่บริโภคเข้าไป เมื่อโอชารูปในอาหารนั้นซึมซาบแล้ว


รูปมีอายุ 17 ขณะจิต
หรือพูดอีกนัยหนึ่ง รูป มีอายุ (17*3) คือ 51 อนุขณะจิต

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ม.ค. 2013, 10:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


govit2552 เขียน:
อยากทราบครับ ที่ว่า จิตอาศัยเกิดที่หทยรูป อยากทราบครับ
รูปที่ว่ามันเป็นรูปอะไรในรูปปรมัตถ์ครับ


หทยรูป เป็นรูปๆหนึ่ง ในรูป 28 ซึ่งเป็นรูปปรมัตถ์ครับ
http://dhrammada.wordpress.com/2012/03/ ... %E0%B9%8C/

แล้วที่บอกว่า ภวังคจิตเกิดดับที่หทยรูป รูปที่ว่าเป็นรูปอะไรในปรมัตถ์ครับ

ตอบ เช่นเดียวกับคำถามแรกครับ
รูปปรมัตถ์ มี 28 รูป และหนึ่งในนั้นคือ หทยรูปครับ

ทราบครับว่า หทยรูปเป็นหนึ่งในรูป28 แต่ปัญหาของผมที่ถามไปมันอยู่ตรงที่
หทยรูป มันเป็นอะไรกันแน่ พูดง่ายๆก็คือม้นเป็นอวัยวะส่วนไหนกันครับ

คุณบอกจิตอาศัยเกิดที่หทยรูป แล้วยังบอกอีกว่า ภวังคจิตเกิดดับที่หทยรูป
ผมเลยสงสัยกับคำพูดของคุณครับ

จิตอาศัยหทยรูปเกิด เมื่อเกิดแล้วมันก็เกิดดับตามคุณสมบัติของจิต
แต่การเกิดดับแบบนี้มันเป็นวิถีจิต ที่นี้คุณบอกว่า ภวังคจิตเกิดดับที่หทยวัตถุ
มันแปลกดีครับ หทยรูปทำหน้าที่สองอย่างได้หรือครับ

คุณฟันธงแบบไม่ต้องให้คนอื่นสับสนได้มั้ยครับว่า.....เราเรียกหทยรูปว่าอะไร
คือมันเป็นอวัยวะส่วนไหนครับ :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ม.ค. 2013, 10:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


govit2552 เขียน:
ที่คุณว่า รูปที่อาศัยจิตเกิดอยากทราบครับ
มันเป็นรูปอะไรในปรมัตถ์ครับ


ตอบจากอ้างอิงนี้ครับ
อ้างคำพูด:
รูปที่เกิดจากจิต หมายถึง รูป ๑๕ รูป คือ อวินิพโภครูป ๘ วิการรูป ๓ วิญ-

ญัติรูป ๒ สัททรูป ๑ ปริจเฉทรูป ๑ ซึ่งเกิดจากจิตเป็นปัจจัย

รู้ครับ แต่ที่ถามไปคืออยากให้คุณโกวิทอธิบาย ว่ามันเกิดอย่างไร ลักษณะไหนครับ
คุณโกวิทบอกมาแบบนี้ แค่เปิดหาคำแปลบัญญัติมันก็เหนื่อยแล้ว
เอาแบบที่เป็นสภาวะธรรมก็ได้ครับ บอกเหตุปัจจัยว่ามันเกิดอะไร อย่างไรก่อนหลัง

ถ้าอธิบายไม่ได้ก็ไม่เป็นไรครับ :b13:

govit2552 เขียน:
อายุรูปเป็นอย่างไรครับ

รูปมีอายุ สั้นมาก แต่จะเอาอะไรไปวัด ในเมื่อไม่มีเครื่องมืออะไร ไปวัด
แต่ที่มีการเล่าเรียนสืบต่อๆ กันมา ก็เอาไปเทียบเคียงกับอายุจิต

อ้างคำพูด:
จิตทุกดวงจึงมีอนุขณะ ๓ ขณะ คือ
อุปาทขณะ เป็นขณะที่เกิด ไม่ใช่ขณะที่ตั้งอยู่ไม่ใช่ขณะที่ดับ
ฐิติขณะ เป็นขณะที่ตั้งอยู่ ไม่ใช่ขณะที่เกิด ไม่ใช่ขณะที่ดับ
ภังคขณะ เป็นขณะที่ดับ ไม่ใช่ขณะที่เกิด ไม่ใช่ขณะที่ตั้งอยู่


อ้างคำพูด:
เมื่อศึกษาต่อไปเรื่องรูปก็จะรู้ว่า รูปที่เกิดเพราะกรรมเป็นสมุฏฐานนั้นเป็นกัมมชรูป เกิดทุกขณะของจิต คือ เกิดขณะอุปาทะของจิต เกิดขณะฐิติของจิต เกิดขณะภังคะของจิตทุกดวง เว้นไม่เกิดก่อนจุติจิต ๑๗ ขณะ ฉะนั้น รูปที่เกิดเพราะกรรมเป็นสมุฏฐานจึงดับหมดพร้อมกับจุติจิต ทำให้สิ้นสุดความเป็นบุคคลในชาตินั้นทั้ง ๕ ขันธ์
รูปที่เกิดเพราะจิตเป็นสมุฏฐานเป็นจิตตชรูป เกิดพร้อมกับอุปปาทขณะของจิต (เว้นปฏิสนธิจิต ๑ ดวง ทวิปัญจวิญญานจิต ๑๐ ดวง อรูปาวจรวิบากจิต ๔ ดวง และจุติจิตของพระอรหันต์ ๑ ดวง)รูปที่เกิดเพราะอุตุ คือ ธาตุไฟที่เหมาะสมเป็นสมุฏฐานนั้นเป็นอุตุชรูป เกิดในฐิติขณะของอุตุชรูปซึ่งเป็นสมุฏฐานนั้นรูปที่เกิดเพราะอาหารเป็นสมุฏฐานเป็นอาหารชรูป เกิดในฐิติขณะของโอชารูปในอาหารที่บริโภคเข้าไป เมื่อโอชารูปในอาหารนั้นซึมซาบแล้ว


รูปมีอายุ 17 ขณะจิต
หรือพูดอีกนัยหนึ่ง รูป มีอายุ (17*3) คือ 51 อนุขณะจิต

ถึงได้ถามไงครับ คือสงสัยรูปมันมีอายุด้วยหรือ
แต่ไม่เป็นไรครับ :b13:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 70 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร