วันเวลาปัจจุบัน 23 ก.ค. 2025, 19:10  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 40 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ม.ค. 2013, 11:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กาม คือ อะไร ? กาม แปลว่า ความอยาก ความรัก ความใคร่ ความปรารถนา หรือสิ่งที่อยาก ที่รัก ที่ใคร่ ที่ปรารถนา พูดง่ายๆว่า สิ่งเสพ วัตถุบำรุงบำเรอความสุข เครื่องอำนวยความสะดวกสบาย คน สัตว์ ทรัพย์สินเงินทอง ข้าวของสารพัด ที่อยากได้อยากมี ที่จะครอบครองเอาไว้ให้ได้ความสุข รวมแล้วก็จัดแยกได้เป็น "กามคุณ ๕" คือ รูป เสียง กลิ่น รส สิ่งต้องกาย ที่ใคร่ที่ใฝ่ปรารถนา ที่จะให้ "กามสุข" คือ สุขทางประสาททั้ง ๕ สุขทางวัตถุ หรือสุขทางเนื้อหนัง บางทีเรียก สามิสสุข คือสุขอาศัยอามิส หรือสุขจากสิ่งเสพ (อามิสสุข ก็เรียก)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ม.ค. 2013, 11:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ถามนายโฮเด้งต่อ ความสุข มีลักษณะอย่างไร

ฉันทะ มีลักษณะอย่างไร ต่างจากตัณหาอย่างไร ? :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ม.ค. 2013, 11:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
ให้ทาง เขียน:
ขออนุญาต คือสงสัยครับ ความรัก จัดอยู่ในกิเลสประเภทไหนครับ ในสามตัว โลภ โกรธ หลง

s006

* ตะกี๊โพสผิดที่ * :b3:

ความรักเป็นกิเลสอย่างหนึ่ง จัดอยู่ในกิเลสหรือสังโยชน์เบื้องสูง

ไอ้โลภ โกรธ หลง มันไม่ใช่กิเลส แต่มันเป็นผลที่เกิดจากกิเลส
เรียกว่า....อาการของจิตหรือเจตสิก เรียกง่ายๆว่า อาการของจิตฝ่ายอกุศล

จำไว้เลยว่า กิเลสคือสิ่งที่มัดใจสัตว์ให้วนเวียนอยู่ในวัฎฎะสงสาร
นั้นก็คือสังโยชน์สิบ :b13:


เพี้ยนหนักเข้าไปอีกว่า โลภะ โทสะ โมหะไม่ใช่กิเลส

กิเลส แปลว่า อะไร?

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ม.ค. 2013, 11:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




so555.gif
so555.gif [ 4.35 KiB | เปิดดู 3910 ครั้ง ]
บอกเป็นครั้งที่ร้อยแล้วมั่งว่าให้คิดทำเค่เรื่องทาน ศีล พอ เอากันเห็นๆ เช่น ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า สร้างสะพาน สร้างศาลา สร้างโบสถ์วิหารลานเจดีย์ ปล่อยนก ปล่อยปลา ปลาเต่า ฯลฯ เอาแค่นี้ก่อนชาตินี้นะ :b12:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ม.ค. 2013, 13:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ความรัก คือความหลง หลอกให้หลงว่า สวยงาม น่ารักน่าใคร่
จริตจกล้านถูกอกถูกใจ ทาคิ้ว เขียนปาก ใส่เสื้อผ้ามีสีสัน ประดับสิ่งมีค่า
หลอกกันไปมา ไม่ว่าหญิงหรือชาย .. :b9:

พออกหัก เอาแต่คว่ำครวญ "ถูกเขาหลอก แต่เต็มใจให้หลอก"
เหออ ๆ ๆ ประมาณนี้แหละ ... :b32:

ข้าน้อยนะ หักแล้วหักอีก ไม่ยอมเข็ด ... อิอิ .
. :b9:

wink

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ม.ค. 2013, 20:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รักเอย :b9:

http://www.youtube.com/watch?v=Mfji9VyFqMY

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ม.ค. 2013, 20:21 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


:b1:

นึกไม่ออก...

:b12: :b12: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ม.ค. 2013, 22:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบเนื้อความนี้แล้ว จึง

ทรงเปล่งอุทานนี้ในเวลานั้นว่า

ความโศกก็ดี ความร่ำไรก็ดี ความทุกข์ก็ดี

มากมายหลายอย่างนี้มีอยู่ในโลก เพราะอาศัยสัตว์

หรือสังขารอันเป็นที่รัก เมื่อไม่มีสัตว์หรือสังขารอัน

เป็นที่รัก ความโศก ความร่ำไร และความทุกข์

เหล่านี้ย่อมไม่มี เพราะเหตุนั้นแล ผู้ใดไม่มีสัตว์

หรือสังขารอันเป็นที่รักในโลกไหน ๆ ผู้นั้นเป็นผู้มี

ความสุข ปราศจากความโศก เพราะเหตุนั้น ผู้

ปรารถนาความไม่โศก อันปราศจากกิเลสดุจธุลี ไม่

พึงทำสัตว์หรือสังขารให้เป็นที่รัก ในโลกไหน ๆ.

จบวิสาขาสูตรที่ ๘

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ม.ค. 2013, 02:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โฮเด้งเอ้ย พอใจไม่พอใจมันปรุงแต่งไปแล้ว มันเลยธรรมชาติไปแล้ว ก็คิดกันอย่างนี้แหละ ถึงบอกว่าถ้าไม่อยากเป็นตัณหา ก็เอาไม้เสียบลูกชิ้นแทงตาสะให้บอดจะได้ไมเห็นอะไร จะไม่เป็นตัณหา

พูดจาไม่รู้เรื่อง ไม่ได้ธรรมซักกระผีก มิน่าถึงได้ชวนคนไปทำบุญทำทาน
ถามหน่อย เว็บตัวเองเข้ากระแสหรือยัง มีคนมาทำบุญทอดผ้าป่ามั้งหรือยัง
มีคนกดเข้าไปเยอะพอไปหาค่าโฆษณาหรือยัง :b32:

พอใจ ไม่พอใจมันเป็นกระบวนการขันธ์ มันเป็นธรรมชาติ มันเลยธรรมชาติตรงไหน
กรัชกายเคยพูดว่า ชืวิตคือขันธ์ สงสัยที่พูดมาไม่รู้เรื่องเลยมั้งว่าตัวเองพูดอะไร

และที่บอกเรื่องกามคุณนั้นน่ะ มันมีห้าตัว ไม่เกิดที่ตามันก็ไปเกิดที่หู...ที่ลิ้น..ฯลฯ
หรือถ้ากรัชกายเมายาบ้าจนเพี้ยน เอาไม้เสียบลูกชิ้นปิ้ง ไปทำให้อวัยวะที่รับกามคุณห้า
เสียไปหมด กามคุณห้ามันก็แปรเปลี่ยนเป็น....ปฎิฆะ มันเป็นสภาวะธัมมารมณ์
ใจมันก็จะไปคิดแทน อวัยวะต่างๆ

จะบอกให้ไม่ต้องทำอย่างที่กรัชกายบอกหรอก เพราะคนที่ทำอย่างกรัชกายพูดน่ะ
มันเป็นพวกสติแตกหรือพวกเล่นยาจนเพี้ยน มันไม่สามารถเข้าถีงธรรม วันๆไม่ต้องทำอะไร
อย่างดีก็เอาน้ำลายมาเป่าเล่นเป็นลูกโป่ง อวดแม่หม้ายลูกติด :b9:
กรัชกาย เขียน:
ทั้งหมดทั้งมวลนั้น ก็เพื่อชาวพุทธที่คิดแบบนายโฮเด้งจะได้ไปนิพพาน เพราะตันหาไม่มีที่เกิดแล้ว ทีนี้ละนิโลดกันเป็นแถว คิกๆ

นี่ธรรมชาติมันทำหน้าที่ของมัน ตา+รูป หู+เสียง จมูก+กลิ่น ลิ้น+รส กาย+สัมผัส ใจ+ธรรมารมณ์ แล้วไปยินดียินร้ายในเมื่อเห็นเป็นต้นทำไม :b32: แค่นี้ก็ไม่เข้าใจ

ถ้าคิดแบบนายกรัชกาย สงสัย.....ศรีธัญญา ก็คงเป็นนิพานของอิตากรัชกายแหง่ๆ :b9:

คนมันเกิดมาพร้อมกับความยินดี ยินร้าย....เขาเรียกว่ากรรม เข้าใจมั้ย
มาว่าคนอื่นไม่เข้าใจ แล้วตัวเองล่ะที่พูดขันธ์ห้าคือ ... ชีวิต
ถามหน่อยเข้าใจหรือเปล่า พูดเองน่ะนั้นนะ
ถ้าชีวิตคือขันธ์ห้า ความยินดียินร้ายก็คือชีวิต เพราะ ขันธ์ห้าก็คือความยินดียินร้าย :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ม.ค. 2013, 03:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กาม คือ อะไร ? กาม แปลว่า ความอยาก ความรัก ความใคร่ ความปรารถนา หรือสิ่งที่อยาก ที่รัก ที่ใคร่ ที่ปรารถนา พูดง่ายๆว่า สิ่งเสพ วัตถุบำรุงบำเรอความสุข เครื่องอำนวยความสะดวกสบาย คน สัตว์ ทรัพย์สินเงินทอง ข้าวของสารพัด ที่อยากได้อยากมี ที่จะครอบครองเอาไว้ให้ได้ความสุข รวมแล้วก็จัดแยกได้เป็น "กามคุณ ๕" คือ รูป เสียง กลิ่น รส สิ่งต้องกาย ที่ใคร่ที่ใฝ่ปรารถนา ที่จะให้ "กามสุข" คือ สุขทางประสาททั้ง ๕ สุขทางวัตถุ หรือสุขทางเนื้อหนัง บางทีเรียก สามิสสุข คือสุขอาศัยอามิส หรือสุขจากสิ่งเสพ (อามิสสุข ก็เรียก)

พี่โฮว่ากรัชกาย ไปบ้วนปากแปรงฟันแล้วค่อยกลับมาเล่น พายุน้ำลายต่อก็ได้
พี่โฮเวียนหัว มันเกิดกามคุณทางจมูก :b32:

ที่กรัชกายบอกว่า "กามสุข" มันเป็นตัณหาหรือความอยาก อันเกิดมาจาก
กิเลสสองตัว ได้แก่ กามคุณห้าตัวใดตัวหนึ่งและมีกิเลสเบื้องสูงที่เรียกว่าความสุข
เจืออยู่ในกามคุณนั้นๆ

ไม่อยากอธิบายมากเสียเวลา พูดไปคนฟังอย่างกรัชกายก็ไม่รู้เรื่อง
ไม่รู้เรื่องไม่ว่า ดันชอบสรรหาคำพูดมาทำให้รำคาญหู เกิดกามคุณทางหู :b32:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
ความรักเป็นกิเลสอย่างหนึ่ง จัดอยู่ในกิเลสหรือสังโยชน์เบื้องสูง

ไอ้โลภ โกรธ หลง มันไม่ใช่กิเลส แต่มันเป็นผลที่เกิดจากกิเลส
เรียกว่า....อาการของจิตหรือเจตสิก เรียกง่ายๆว่า อาการของจิตฝ่ายอกุศล
จำไว้เลยว่า กิเลสคือสิ่งที่มัดใจสัตว์ให้วนเวียนอยู่ในวัฎฎะสงสาร
นั้นก็คือสังโยชน์สิบ
:b13:

เพี้ยนหนักเข้าไปอีกว่า โลภะ โทสะ โมหะไม่ใช่กิเลส

กิเลส แปลว่า อะไร?


แหงนคอดู ไอ้ตัวเม้นแดงๆหนาๆข้างบน :b13:

กรัชกาย เขียน:
บอกเป็นครั้งที่ร้อยแล้วมั่งว่าให้คิดทำเค่เรื่องทาน ศีล พอ เอากันเห็นๆ เช่น ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า สร้างสะพาน สร้างศาลา สร้างโบสถ์วิหารลานเจดีย์ ปล่อยนก ปล่อยปลา ปลาเต่า ฯลฯ เอาแค่นี้ก่อนชาตินี้นะ :b12:

แล้วกรัชกายจะมาเสียเวลาอยู่ในเว็บทำไม โน้นไปหาขันหรือกะลาซักใบ
แล้วก็ไปเดินตามตลาด ตะโกนแบบที่กรัชกายพูด เดี๋ยวก็มีคนเอาเหรียญมาใส่
ทำแบบนี่พอได้เงินเยอะๆ กรัชกายก็เอาไปสร้างโบสถ์ สร้างวิหาร อย่างนี้เป๊ะมั้ย :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ม.ค. 2013, 05:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮเด้งเอ้ย พอใจไม่พอใจมันปรุงแต่งไปแล้ว มันเลยธรรมชาติไปแล้ว ก็คิดกันอย่างนี้แหละ ถึงบอกว่าถ้าไม่อยากเป็นตัณหา ก็เอาไม้เสียบลูกชิ้นแทงตาสะให้บอดจะได้ไมเห็นอะไร จะไม่เป็นตัณหา

พูดจาไม่รู้เรื่อง ไม่ได้ธรรมซักกระผีก มิน่าถึงได้ชวนคนไปทำบุญทำทาน
ถามหน่อย เว็บตัวเองเข้ากระแสหรือยัง มีคนมาทำบุญทอดผ้าป่ามั้งหรือยัง
มีคนกดเข้าไปเยอะพอไปหาค่าโฆษณาหรือยัง :b32:

พอใจ ไม่พอใจมันเป็นกระบวนการขันธ์ มันเป็นธรรมชาติ มันเลยธรรมชาติตรงไหน
กรัชกายเคยพูดว่า ชืวิตคือขันธ์ สงสัยที่พูดมาไม่รู้เรื่องเลยมั้งว่าตัวเองพูดอะไร

และที่บอกเรื่องกามคุณนั้นน่ะ มันมีห้าตัว ไม่เกิดที่ตามันก็ไปเกิดที่หู...ที่ลิ้น..ฯลฯ
หรือถ้ากรัชกายเมายาบ้าจนเพี้ยน เอาไม้เสียบลูกชิ้นปิ้ง ไปทำให้อวัยวะที่รับกามคุณห้า
เสียไปหมด กามคุณห้ามันก็แปรเปลี่ยนเป็น....ปฎิฆะ มันเป็นสภาวะธัมมารมณ์
ใจมันก็จะไปคิดแทน อวัยวะต่างๆ

จะบอกให้ไม่ต้องทำอย่างที่กรัชกายบอกหรอก เพราะคนที่ทำอย่างกรัชกายพูดน่ะ
มันเป็นพวกสติแตกหรือพวกเล่นยาจนเพี้ยน มันไม่สามารถเข้าถีงธรรม วันๆไม่ต้องทำอะไร
อย่างดีก็เอาน้ำลายมาเป่าเล่นเป็นลูกโป่ง อวดแม่หม้ายลูกติด :b9:
กรัชกาย เขียน:
ทั้งหมดทั้งมวลนั้น ก็เพื่อชาวพุทธที่คิดแบบนายโฮเด้งจะได้ไปนิพพาน เพราะตันหาไม่มีที่เกิดแล้ว ทีนี้ละนิโลดกันเป็นแถว คิกๆ

นี่ธรรมชาติมันทำหน้าที่ของมัน ตา+รูป หู+เสียง จมูก+กลิ่น ลิ้น+รส กาย+สัมผัส ใจ+ธรรมารมณ์ แล้วไปยินดียินร้ายในเมื่อเห็นเป็นต้นทำไม :b32: แค่นี้ก็ไม่เข้าใจ

ถ้าคิดแบบนายกรัชกาย สงสัย.....ศรีธัญญา ก็คงเป็นนิพานของอิตากรัชกายแหง่ๆ :b9:

คนมันเกิดมาพร้อมกับความยินดี ยินร้าย....เขาเรียกว่ากรรม เข้าใจมั้ย
มาว่าคนอื่นไม่เข้าใจ แล้วตัวเองล่ะที่พูดขันธ์ห้าคือ ... ชีวิต
ถามหน่อยเข้าใจหรือเปล่า พูดเองน่ะนั้นนะ
ถ้าชีวิตคือขันธ์ห้า ความยินดียินร้ายก็คือชีวิต เพราะ ขันธ์ห้าก็คือความยินดียินร้าย :b13:


คนมันเกิดมาพร้อมกับความยินดี ยินร้าย....เขาเรียกว่ากรรม เข้าใจมั้ย

นี่ไงนิครนถ์โฮ :b1: อย่าเพิ่งนึกนะครับท่านผู้อ่านว่าเราศึกษาพระพุทธศาสนาแล้วจะพ้นจากความคิดอย่างนายโฮเด้งนี้

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ม.ค. 2013, 05:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




charl-2012-11-03-1351941137-431885803182082895.jpg
charl-2012-11-03-1351941137-431885803182082895.jpg [ 32.39 KiB | เปิดดู 3862 ครั้ง ]
โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กาม คือ อะไร ? กาม แปลว่า ความอยาก ความรัก ความใคร่ ความปรารถนา หรือสิ่งที่อยาก ที่รัก ที่ใคร่ ที่ปรารถนา พูดง่ายๆว่า สิ่งเสพ วัตถุบำรุงบำเรอความสุข เครื่องอำนวยความสะดวกสบาย คน สัตว์ ทรัพย์สินเงินทอง ข้าวของสารพัด ที่อยากได้อยากมี ที่จะครอบครองเอาไว้ให้ได้ความสุข รวมแล้วก็จัดแยกได้เป็น "กามคุณ ๕" คือ รูป เสียง กลิ่น รส สิ่งต้องกาย ที่ใคร่ที่ใฝ่ปรารถนา ที่จะให้ "กามสุข" คือ สุขทางประสาททั้ง ๕ สุขทางวัตถุ หรือสุขทางเนื้อหนัง บางทีเรียก สามิสสุข คือสุขอาศัยอามิส หรือสุขจากสิ่งเสพ (อามิสสุข ก็เรียก)

พี่โฮว่ากรัชกาย ไปบ้วนปากแปรงฟันแล้วค่อยกลับมาเล่น พายุน้ำลายต่อก็ได้
พี่โฮเวียนหัว มันเกิดกามคุณทางจมูก :b32:

ที่กรัชกายบอกว่า "กามสุข" มันเป็นตัณหาหรือความอยาก อันเกิดมาจาก
กิเลสสองตัว ได้แก่ กามคุณห้าตัวใดตัวหนึ่งและมีกิเลสเบื้องสูงที่เรียกว่าความสุข
เจืออยู่ในกามคุณนั้นๆ

ไม่อยากอธิบายมากเสียเวลา พูดไปคนฟังอย่างกรัชกายก็ไม่รู้เรื่อง
ไม่รู้เรื่องไม่ว่า ดันชอบสรรหาคำพูดมาทำให้รำคาญหู เกิดกามคุณทางหู :b32:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
ความรักเป็นกิเลสอย่างหนึ่ง จัดอยู่ในกิเลสหรือสังโยชน์เบื้องสูง

ไอ้โลภ โกรธ หลง มันไม่ใช่กิเลส แต่มันเป็นผลที่เกิดจากกิเลส
เรียกว่า....อาการของจิตหรือเจตสิก เรียกง่ายๆว่า อาการของจิตฝ่ายอกุศล
จำไว้เลยว่า กิเลสคือสิ่งที่มัดใจสัตว์ให้วนเวียนอยู่ในวัฎฎะสงสาร
นั้นก็คือสังโยชน์สิบ
:b13:

เพี้ยนหนักเข้าไปอีกว่า โลภะ โทสะ โมหะไม่ใช่กิเลส

กิเลส แปลว่า อะไร?


แหงนคอดู ไอ้ตัวเม้นแดงๆหนาๆข้างบน :b13:

กรัชกาย เขียน:
บอกเป็นครั้งที่ร้อยแล้วมั่งว่าให้คิดทำเค่เรื่องทาน ศีล พอ เอากันเห็นๆ เช่น ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า สร้างสะพาน สร้างศาลา สร้างโบสถ์วิหารลานเจดีย์ ปล่อยนก ปล่อยปลา ปลาเต่า ฯลฯ เอาแค่นี้ก่อนชาตินี้นะ :b12:

แล้วกรัชกายจะมาเสียเวลาอยู่ในเว็บทำไม โน้นไปหาขันหรือกะลาซักใบ
แล้วก็ไปเดินตามตลาด ตะโกนแบบที่กรัชกายพูด เดี๋ยวก็มีคนเอาเหรียญมาใส่
ทำแบบนี่พอได้เงินเยอะๆ กรัชกายก็เอาไปสร้างโบสถ์ สร้างวิหาร อย่างนี้เป๊ะมั้ย :b13:


ไม่อะไรเลยในสมอง เห็นแล้วได้แต่ปลง กว่าจะรู้เรื่องก็คงอีกอเนกชาติ นับชาติไม่ถ้วนโน่นแหละ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ม.ค. 2013, 07:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ให้ทาง เขียน:
ขออนุญาต คือสงสัยครับ ความรัก จัดอยู่ในกิเลสประเภทไหนครับ ในสามตัว โลภ โกรธ หลง

s006

* ตะกี๊โพสผิดที่ * :b3:


เป็นส่วนผสมระหว่างโลภกับหลงครับ แต่ต้องเพิ่มกามเข้าไปด้วย

คือโลภกับหลงในกามและวัตถุแห่งกาม อันมีตัวตนเป็นที่ตั้ง :b12:

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ม.ค. 2013, 08:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ถามนายโฮเด้งต่อ ความสุข มีลักษณะอย่างไร

ฉันทะ มีลักษณะอย่างไร ต่างจากตัณหาอย่างไร ? :b1:


ถามเป็นงานเป็นการนิครนถ์โฮ ไม่เคยตอบ :b9:

นิครนถ์โฮ ไม่ลองตอบคำถามนั่นหน่อยล่ะ หรือเข้าใจว่าชีวิตนี้แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว เกิดมาเป็นยังไงก็โด่อยู่ยังงั้นจนตาย เกิดมายากจนก็จนอยู่ยังงั้นไปจนตาย เกิดมาโง่ก็โง่โด่อยู่ยังงั้นโง่จนตาย (พูดยกตัวอย่างสิ่งที่เป็นรูปธรรมให้แลเห็น) คนเกิดมาพร้อมกับยินดียินร้ายก็ยินดียินร้ายไปจนตาย จะฝึกฝนพัฒนาตนเองให้เป็นผู้ไม่ยินดีไม่ยืนร้ายไม่ได้ เพราะเป็นกรรมดังนายนิครนถ์โฮเข้าใจนี่
อ้างคำพูด:
คนมันเกิดมาพร้อมกับความยินดี ยินร้าย....เขาเรียกว่ากรรม เข้าใจมั้ย


ถ้ายังงั้นคนเกิดมาเป็นมนุษย์ปุถุชน ก็พัฒนาให้ถึงระดับอริยะบุคคลไม่ได้แล้วสินายนิครนถ์โฮเด้ง คิกๆๆ

ยังไกลจากพุทธธรรม ไกลมากด้วย :b12: ถึงได้บอกว่า พูดคิดทำแค่ ทาน ศีล ไปก่อนชาตินี้นะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ม.ค. 2013, 09:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ถามนายโฮเด้งต่อ ความสุข มีลักษณะอย่างไร

ฉันทะ มีลักษณะอย่างไร ต่างจากตัณหาอย่างไร ? :b1:


ถามเป็นงานเป็นการนิครนถ์โฮ ไม่เคยตอบ :b9:

นิครนถ์โฮ ไม่ลองตอบคำถามนั่นหน่อยล่ะ หรือเข้าใจว่าชีวิตนี้แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว เกิดมาเป็นยังไงก็โด่อยู่ยังงั้นจนตาย เกิดมายากจนก็จนอยู่ยังงั้นไปจนตาย เกิดมาโง่ก็โง่โด่อยู่ยังงั้นโง่จนตาย (พูดยกตัวอย่างสิ่งที่เป็นรูปธรรมให้แลเห็น) คนเกิดมาพร้อมกับยินดียินร้ายก็ยินดียินร้ายไปจนตาย จะฝึกฝนพัฒนาตนเองให้เป็นผู้ไม่ยินดีไม่ยืนร้ายไม่ได้ เพราะเป็นกรรมดังนายนิครนถ์โฮเข้าใจนี่

ตอบไปจนปากจะฉีกถึงรูหูแล้ว ไม่มีปัญญาคิดเอง วันๆมัวแต่หาคำพูดมาเสียดสี
แทนที่จะหาเหตุผลมาแย้งมันจะได้มีประโยชน์บ้าง นี่มันก็เอาอีกแล้ว หาว่าเป็นนิครนถ์
เกลียดสลิ่มก็อย่าทำตัวเป็นสลิ่ม รำคาญ

เรื่องอวิชา วิชชา ขันธ์ห้า ชีวิต รูปนาม ก็บอกก็สอนไปแล้ว
ยังไม่ฉลาดขึ้นบ้างเลย

คนถ้าลองไม่มีอวิชา ไม่มีความยินดี ยินร้ายยึดมั่นถือมั่นซะแล้ว
มันยังต้องมาเกิดอีกหรือ

กรัชกาย เขียน:
ถ้ายังงั้นคนเกิดมาเป็นมนุษย์ปุถุชน ก็พัฒนาให้ถึงระดับอริยะบุคคลไม่ได้แล้วสินายนิครนถ์โฮเด้ง คิกๆๆ

ยังไกลจากพุทธธรรม ไกลมากด้วย ถึงได้บอกว่า พูดคิดทำแค่ ทาน ศีล ไปก่อนชาตินี้นะ

ถ้ายังงั้นคนเกิดมาเป็นมนุษย์ปุถุชน ก็พัฒนาให้ถึงระดับอริยะบุคคลไม่ได้แล้วสินายนิครนถ์โฮเด้ง คิกๆๆ

ยังไกลจากพุทธธรรม ไกลมากด้วย :b12: ถึงได้บอกว่า พูดคิดทำแค่ ทาน ศีล ไปก่อนชาตินี้นะ

แล้วใครว่าไม่ได้ล่ะ ถามหน่อยเกิดมาก็เป็นอริยะเลยหรือ มันต้องมาปฏิบัติที่หลัง
ตั้งสติหน่อยซิกรัชกาย พูดจาสเปะสปะแบบนี้ ไปคุยไปเล่นน้ำลายกับยัยสาวอุบล
สะใภ้แปดริ้วดีกว่า เหมาะกันดี :b32:

นี่ได้ข่าวว่ายัยสาวอุบลจะไปแปดริ้ว กรัชกายตามไปด้วยเลยซิ อย่าลืมขันหรือกะลา
ไปยืนตรงหน้าประตูวัด คงจะได้หลาย แต่ระวังเจ้าถิ่นน่ะ :b13:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 40 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร