วันเวลาปัจจุบัน 22 มิ.ย. 2025, 03:54  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 15 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ค. 2013, 18:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 มี.ค. 2010, 10:10
โพสต์: 104

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


การเริ่มต้นปฏิบัติธรรมควรเริ่มต้นด้วย ปัญญาหรือศีลก่อนค่ะ :b8: :b10:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ค. 2013, 19:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ผมว่า ศีล มันปกติ อยู่แล้ว
ยังจะต้อง มานั่งรักษา กันอยู่อีกหรือครับ จะทำอะไรก็ทำไป

ศีลมีอยู่แล้วเป็นปกติ ก็ปัญญา ได้เลยครับ

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ค. 2013, 19:15 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2903


 ข้อมูลส่วนตัว


หลักไตรสิกขา จัดลำดับการปฏิบัติ คือ "ศีล สมาธิ ปัญญา"

ศีล เป็นบาทฐานในการปฏิบัติยิ่งๆ ขึ้นไป

ศีล เป็นบาทฐานของสมาธิอันก่อให้เกิดปัญญา

ศีลนำหน้า ปัญญาตามหลัง onion

ศีล กระท่อนกระแท่น สมาธิ ก็กระท่อนกระแท่นไปด้วย

ทั้งที่สุด ปัญญา ก็กระท่อนกระแท่นไปด้วยอีก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ค. 2013, 20:56 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ต้อยตีวิด เขียน:
การเริ่มต้นปฏิบัติธรรมควรเริ่มต้นด้วย ปัญญาหรือศีลก่อนค่ะ :b8: :b10:


คนมีศีลสมบูรณ์ไม่ได้....ถ้าขาดปัญญา
ปัญญาเติบโตไม่ได้...ถ้าขาดศีล

คนที่คิดจะปฏิบัติธรรมได้นี้...ถ้าเป็นคนผิดปกติและไม่มีปัญญาแล้วละก้อ...คิดไม่ได้หรอกครับ

อยากปฏิบัติธรรม...ก็ทำเลยครับ...ไม่ต้องไปกังวลว่าจะต้องไอ้นั้นก่อน..หรือไอ้นั้นต้องทำทีหลัง...เอา ณ. ปัจจุบันเลย...ปัจจุบันไม่มีก่อนมีหลัง..ครับ

อิอิ...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ค. 2013, 22:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2009, 23:02
โพสต์: 157

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กำหนดศีลให้เหมาะกับตนให้ตึงพอปฏิบัติได้ไม่ง่ายหย่อนเกิน หรือยากจนปฏิบัติไม่ได้

แล้วปฏิบัติให้ได้ตามนั้น ด้วยความพยายาม และมีสติกำหนดรู้

เมื่อปฏิบัติตามศีลที่กำหนดไว้ได้ จนเป็นปรกติดีแล้วให้เพิ่มศีลให้สูงขึ้น ให้กว้างครอบคลุมขึ้น

ท่านว่าศีลกับปัญญาเป็นของคู่กัน ปัญญาจะชำระศีลให้บริสุทธิ์ ศีลจะลับปัญญาให้เฉียบคม

.....................................................
มาตามหา เพื่อนร่วมทาง

ประโยชน์สูง-ประหยัดสุด > > ต้องทำให้ได้ คือแก้ไขตนเอง > > ฝึกหยุด-ไม่หยุดฝึก >
ไม่มีเวลาสำหรับความชั่วบาปอีกแล้ว. ." ทุกวินาทีเป็นวินาทีแห่งบุญ "
เราจะฝึกฝนตนเพื่อไปถึงจุดนั้นให้ได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ค. 2013, 01:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


ต้อยตีวิด เขียน:
การเริ่มต้นปฏิบัติธรรมควรเริ่มต้นด้วย ปัญญาหรือศีลก่อนค่ะ :b8: :b10:


เริ่มต้นด้วยศีลก่อนครับ กระทำตนให้พร้อมทั้งกาย วาจา ใจ การปฏิบัติธรรมไม่ได้หมายถึงการที่จะต้องรออุปกรณ์เสริม รอสถานที่ปฏิบัติธรรมเปิด รอจังหวะ รอเวลาอันสมควร แต่การปฏิบัติธรรมนั้น ทุกวินาทีคือธรรมอยู่แล้ว หากมีศีลพร้อมการปฏิบัติธรรมก็เป็นไปอย่างสมบูรณ์ เช่น โกรธมาก หากปฏิบัติธรรมก็ต้องรักษาศีลให้ได้เสียก่อน คือการอดทนไม่พูดจาก้าวร้าวออกมา ไม่แสดงท่าทีด้วยกาย เช่น ยกนิ้วกลาง กำหมัด เพราะรักษาศีลได้ แต่ความโกรธคือธรรม ต้องใช้ปัญญาพิจารณาว่า อะไรคือเหตุเกิดของธรรม (ความโกรธ) นั่นคือการปฏิบัติธรรม ที่มีศีลเป็นส่วนประกอบ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ค. 2013, 06:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ต้อยตีวิด เขียน:
การเริ่มต้นปฏิบัติธรรมควรเริ่มต้นด้วย ปัญญาหรือศีลก่อนค่ะ :b8: :b10:

เรียงแบบมรรคแปด "ปัญญา ศีล สมาธิ"

ผู้ที่จะรักษาศีลได้ ต้องมีปัญญา รู้คุณรู้โทษของศีลแต่ละข้อ จึงจะสามารถ
รักษาศีลให้บริสุทธิ์ ไม่ขาดตกบกพร่อง ไม่เป็น "สีลพัสสปรามาส" ..

สมาธิ ก็เช่นกันต้องมีปัญญาเฉลียวฉลาด แยบคาย ระมัดรวังสังวรอินทรีย์
ต้องรู้จักวิธีการทำสมาธิ ต้องรู้จักนิวรณ์ห้า เห็นโทษภัยในอารมณ์นั้น ๆ
จึงละเว้นได้ จึงเกิดความสงบ เป็นสมาธิ ..

เพราะฉะนั้น ปัญญา ต้องมาก่อน จึงเรียงตามแบบ "มรรคแปด" คือ
"ปัญญา (สุตมยปัญญาและจินตามยปัญญา) ศีล สมาธิ"


เรียงแบบไตรสิกขา "ศีล สมาธิ ปัญญา"

"ศีลและสมาธิเป็นเหตให้เกิดปัญญา" ปัญญาในที่นี่ คือ "วิปัสสนาปัญญา"
หรือ "ภาวนามยปัญญา" ถ้าศีลไม่บริสุทธิ์บริบูรณ์ สมาธิไม่หนักแน่น แน่วแน่
และไม่มีความสงบ ปัญญานี้ก็จะไม่เกิด

"วิปัสสนาปัญญา" ปัญญาสูงสุดในพระพุทธศาสนา เป็นปัญญาที่รู้แจ้งสัจธรรม
ตามความเป็นจริง จนกระทั่งสละหรือเบื่อหน่าย ปล่อยวางอุปาทานทั้งหลายได้
ปัญญาที่ทำให้ปุถุชนคนธรรมดา เป็นพระอริยบุคคล ..

เมื่อผู้ที่ได้พิจารณาเห็นถึง "วิปัสสนาปัญญา" ตรงนี้แล้ว ศีลจึงต้องมาก่อน
ท่านจึงเรียงแบบ "ไตรสิกขา" คือ "ศีล สมาธิ ปัญญา (ภาวนามยปัญญา)" ..

หากเข้าใจเรื่อง "ปัญญา ๓" แล้ว จะเรียงอย่างไร
ปัญญามาก่อนมาหลัง ก็ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด ..


:b1:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ค. 2013, 12:07 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


onion
ปัญญา...อบรมศีล...ศีลอบรมปัญญา

ปัญญา..อบรมสติ...สติหนุนปัญญา

ปัญญา...อบรมสมาธิ....สมาธิหนุนปัญญา

คุณเกิดมาไม่รู้จัก ศีล 5 ต้องให้สุตตมยปัญญาอบรมให้รู้จักศีล 5

คุณเกิดมาไม่รู้จักวิปัสสนาภาวนาหรือการเจริญมรรค 8....สุตตมยปัญญาอบรมให้รู้

คุณเกิดมามีแต่สติธรรมดา...สัมมาปัญญาอบรมให้เกิดสัมมาสติ

.......
.......
:b38:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ค. 2013, 13:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เอามุมนี้บ้างเป็นไง :b1: นั่นยังเป็นแค่การคาดเดาแสดงโวหารตามความรู้สึกนึกคิด

ลงมือทำเลย ดังนี้


วงจรย่อยของไตรสิกขา มองคร่าวๆ จะเห็นเป็นเหมือนการฝึก 3 ส่วน ที่ดำเนินควบเคียงไปด้วยกันตลอดเวลา
ดังตัวอย่างในคัมภีร์วิสุทธิมัคค์ กล่าวถึงการฝึกเจริญอานาปานสติ คือกำหนดลมหายใจเข้าออก จับสาระได้ว่า ขณะที่ฝึกอยู่นั้น สังวร คือการควบคุมกิริยาอาการให้อยู่ในภาวะถนัดหรือเหมาะดีที่สุดแก่งาน เป็นอธิสีลสิกขา

การทำจิตใจให้ตั้งมั่นแน่วแน่ (อยู่กับงาน คือ อารมณ์ที่กำหนด) เป็นอธิจิตตสิกขา

การใช้ปัญญาหรือความรู้ความเข้าใจทีเกิดขึ้นเป็นไปอยู่ในเวลานั้น เป็นอธิปัญญาสิกขา

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ค. 2013, 14:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อลงมือภาวนาลงมือปฏิบัติ จะมีบททดสอบความรู้ความเข้าใจ การแก้ปัญหาชีวิตรูปนามขันธ์ 5 จากประสบการณ์จริง ซึ่งมิใช่จากการคาดเดา ดังนี้เป็นต้น


อ้างคำพูด:
คืองี้ครับ พอผมนั่งแล้วมันมีตัวต่อมาบินอยู่เหนือหัวครับ แต่จับหรือสัมผัสไม่ได้ แต่เสียงตัวต่อชัดเจนมาก ผมเอามือปิดหัวไว้ เขาพยายามจะต่อยผมให้ได้ พอผมยอมให้เขาต่อย ก็เจ็บนะครับ แต่พออกสมาธิแล้ว ไม่มีบาดแผล ไม่มีความเจ็บ ปกติดีทุกอย่าง? แล้วจะมีอีกครับ คือจะโดนอะไรคล้ายปลาไหลโยนใส่มือ หรือ เหรียญบาท ปาใส่หน้า เสียงชัดเจนมากเลย แต่ตรวจดูแล้วก็ไม่มีอะไร ผมงงมากเลยครับ
อ้อมีอีกอย่างครับ จะได้ยินคนพูดรัวๆเร็วๆ ดังไปไปหมด จับความไม่ได้ และรู้สึกว่ามีคนมาล้อม กับ จ้องมอง ใครรู้ช่วยตอบผมทีครับ ผมงงไปหมดแล้ว

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ค. 2013, 05:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เอามุมนี้บ้างเป็นไง :b1: นั่นยังเป็นแค่การคาดเดาแสดงโวหารตามความรู้สึกนึกคิด

ลงมือทำเลย ดังนี้


วงจรย่อยของไตรสิกขา มองคร่าวๆ จะเห็นเป็นเหมือนการฝึก 3 ส่วน ที่ดำเนินควบเคียงไปด้วยกันตลอดเวลา
ดังตัวอย่างในคัมภีร์วิสุทธิมัคค์ กล่าวถึงการฝึกเจริญอานาปานสติ คือกำหนดลมหายใจเข้าออก จับสาระได้ว่า ขณะที่ฝึกอยู่นั้น สังวร คือการควบคุมกิริยาอาการให้อยู่ในภาวะถนัดหรือเหมาะดีที่สุดแก่งาน เป็นอธิสีลสิกขา

การทำจิตใจให้ตั้งมั่นแน่วแน่ (อยู่กับงาน คือ อารมณ์ที่กำหนด) เป็นอธิจิตตสิกขา

การใช้ปัญญาหรือความรู้ความเข้าใจทีเกิดขึ้นเป็นไปอยู่ในเวลานั้น เป็นอธิปัญญาสิกขา

กรัชกายนี่มั่วจริงๆ แค่แบบเรียนของเณรง่ายๆยังอ่านไม่เข้าใจ ถ้ามันมีสมาธิในการอ่านซักนิด
มันก็คงไม่เอาคำศัพท์มาผสมกันเละเทะแบบนี้

เอาไอ้โน้นมาผสมไอ้นี่ เอาไอ้นี้มาใส่ไอ้นั้น ดูแล้วเหมือนจำอวดลิเก
หรือไม่ก็เหมือนต้นไทรที่พวกบ้าหวยเอาผ้าสีไปผูกแล้วขูดเลข :b32:

"วงจรย่อยเอย"..."ไตรสิกขาเอย"..."อธิสีลสิกขาเอย"
พูดได้คำเดียวว่า......เละ

ถึงได้บอกว่ากรัชกาย เอามรรคสมังคีย์ของพระพุทธเจ้า
ไปปรุงแต่งใส่น้ำใส่ชูรส ทำให้พระธรรมเจือจางมีแต่น้ำไม่มีเนื้อ :b32:

ไตรสิกขาคือการรู้ในอธิศีล อธิจิต และอธิปัญญา นั้นคือรู้เพื่อการปฏิบัติ
ให้ถึงซึ่งมรรคมีองค์แปด (มรรคสามัคคี)
การรู้ไตรสิกขาถ้ารู้แล้วลงมือปฏิบัติในขั้นของ อธิศีล อธิจิต และอธิปัญญา ถ้าขาดส่วนใดส่วนหนึ่ง
เราจะไม่เรียก ธรรมนั้นว่า....."อธิ"
เช่นเดียวกัน ถ้าไม่ทำให้อธิศีล อธิจิตและอธิปัญญารวมเป็นหนึ่ง
ความเป็น"อธิ"ก็ไม่เกิด


ใช้สมาธิแยกพระธรรมให้ดี ที่สำคัญพยายามฝึกใช้สมาธิบ่อยๆ
ด้วยการอ่านพระสูตรโดยยึดเอาหลักธรรมของพระพุทธเจ้าเป็นประธาน
ไม่ใช่ทำแบบที่ทำอยู่ คือการไปอ่านบทความแล้วก็เอามาปรุงแต่งขยายความ
อย่าลืมขั้นตอนการปฏิบัติ ต้องทำให้ให้เป็นหนึ่ง
ไม่ใช่ทำจากหนึ่งเป็นร้อย ปัญญาของพระพุทธเจ้ามีไว้เพื่อละ เข้าใจมั๋ยกรัชกาย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ค. 2013, 05:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เมื่อลงมือภาวนาลงมือปฏิบัติ จะมีบททดสอบความรู้ความเข้าใจ การแก้ปัญหาชีวิตรูปนามขันธ์ 5 จากประสบการณ์จริง ซึ่งมิใช่จากการคาดเดา ดังนี้เป็นต้น


อ้างคำพูด:
คืองี้ครับ พอผมนั่งแล้วมันมีตัวต่อมาบินอยู่เหนือหัวครับ แต่จับหรือสัมผัสไม่ได้ แต่เสียงตัวต่อชัดเจนมาก ผมเอามือปิดหัวไว้ เขาพยายามจะต่อยผมให้ได้ พอผมยอมให้เขาต่อย ก็เจ็บนะครับ แต่พออกสมาธิแล้ว ไม่มีบาดแผล ไม่มีความเจ็บ ปกติดีทุกอย่าง? แล้วจะมีอีกครับ คือจะโดนอะไรคล้ายปลาไหลโยนใส่มือ หรือ เหรียญบาท ปาใส่หน้า เสียงชัดเจนมากเลย แต่ตรวจดูแล้วก็ไม่มีอะไร ผมงงมากเลยครับ
อ้อมีอีกอย่างครับ จะได้ยินคนพูดรัวๆเร็วๆ ดังไปไปหมด จับความไม่ได้ และรู้สึกว่ามีคนมาล้อม กับ จ้องมอง ใครรู้ช่วยตอบผมทีครับ ผมงงไปหมดแล้ว

ความเห็นนี้ก็เหมือนกัน ไปเอาการกระทำ ของคนที่ขาดความเข้าใจในกายใจของตนเอง

ดันไปหยิบยกเอามา แล้วบอกเป็นประสบการณ์จริง ไม่ใช่คาดเดา

มันเป็นเรื่องของคนอื่นเขา เป็นกายใจคนอื่น
พูดมาได้เป็นประสบการณ์จริง ความคิดหรือจินตนาการของใครคนนั้นต้องแก้ด้วยตนเอง
ไม่ใช่ไปเอาจินตนาการคนอื่นมาแล้วบอกว่าเป็นธรรมะ


จะหาสมาธิจากกรัชกายมันช่างยากเย็นแสนเข็นซะเหลือเกิน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ค. 2013, 15:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เมื่อลงมือภาวนาลงมือปฏิบัติ จะมีบททดสอบความรู้ความเข้าใจ การแก้ปัญหาชีวิตรูปนามขันธ์ 5 จากประสบการณ์จริง ซึ่งมิใช่จากการคาดเดา ดังนี้เป็นต้น


อ้างคำพูด:
คืองี้ครับ พอผมนั่งแล้วมันมีตัวต่อมาบินอยู่เหนือหัวครับ แต่จับหรือสัมผัสไม่ได้ แต่เสียงตัวต่อชัดเจนมาก ผมเอามือปิดหัวไว้ เขาพยายามจะต่อยผมให้ได้ พอผมยอมให้เขาต่อย ก็เจ็บนะครับ แต่พออกสมาธิแล้ว ไม่มีบาดแผล ไม่มีความเจ็บ ปกติดีทุกอย่าง? แล้วจะมีอีกครับ คือจะโดนอะไรคล้ายปลาไหลโยนใส่มือ หรือ เหรียญบาท ปาใส่หน้า เสียงชัดเจนมากเลย แต่ตรวจดูแล้วก็ไม่มีอะไร ผมงงมากเลยครับ
อ้อมีอีกอย่างครับ จะได้ยินคนพูดรัวๆเร็วๆ ดังไปไปหมด จับความไม่ได้ และรู้สึกว่ามีคนมาล้อม กับ จ้องมอง ใครรู้ช่วยตอบผมทีครับ ผมงงไปหมดแล้ว

ความเห็นนี้ก็เหมือนกัน ไปเอาการกระทำ ของคนที่ขาดความเข้าใจในกายใจของตนเอง

ดันไปหยิบยกเอามา แล้วบอกเป็นประสบการณ์จริง ไม่ใช่คาดเดา

มันเป็นเรื่องของคนอื่นเขา เป็นกายใจคนอื่น
พูดมาได้เป็นประสบการณ์จริง ความคิดหรือจินตนาการของใครคนนั้นต้องแก้ด้วยตนเอง
ไม่ใช่ไปเอาจินตนาการคนอื่นมาแล้วบอกว่าเป็นธรรมะ


จะหาสมาธิจากกรัชกายมันช่างยากเย็นแสนเข็นซะเหลือเกิน



ยากเย็นแสนเข็ญ ผู้ที่จะเข้าใจชีวิต หรือกายใจ หรือรูปนาม หรือขันธ์ 5 พูดๆกันไปงั้นๆแหละ บลาๆๆ อิๆ บอกนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว อย่าพูดเลยธรรมะระดับจิตใจ ระดับสมาธิ ปัญญา เนี่ย มันลึกเกินหยั่งด้วยตรรกะ เอาพื้นๆ กันไปก่อน เช่น ทำวัตร สวดมนต์ ทำบุญ ตักบาตร ถวายสังฆทาน ปล่อยนก ปล่อยปลา ปล่อยเต่า ปิดทองฝังลูกนิมิต เลี้ยงอาหารเด็กอนาถา ฯลฯ ตามสบายเถอะ พักนี้ไม่ค่อยมีเวลาเล่นด้วยแล้ว

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ค. 2013, 16:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 มี.ค. 2010, 10:10
โพสต์: 104

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบนะค่ะ :b18: :b20:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2013, 16:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 พ.ค. 2010, 13:34
โพสต์: 1654

งานอดิเรก: ฟังเพลง และฟังธรรมตามกาลเวลา
สิ่งที่ชื่นชอบ: อภัยทาน
อายุ: 39
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

 ข้อมูลส่วนตัว




Lotus ธรรมจักร 99.jpg
Lotus ธรรมจักร 99.jpg [ 7.34 KiB | เปิดดู 7238 ครั้ง ]
:b44: ♡✿(◕‿◕)✿♡ กราบอนุโมทนาบุญกับกัลยาณมิตรและกัลยาณธรรมทุกท่าน ขอให้ท่านเจริญในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไป ธรรมรักษา เทวดาคุ้มครองนะเจ้าค่ะ ♡✿(◕‿◕)✿♡ :b8: :b8: :b8: :b20:

.....................................................
ธรรมอำนวยพร
ขอให้.....มีจิตที่รู้ ที่ตื่น ที่เบิกบาน (พุทธะ)
ขอให้.....ทำการงานด้วยความสุข (อิทธิบาทสี่)
ขอให้.....ขจัดทุกข์ได้ด้วยปัญญา (อริยสัจสี่)
ขอให้.....มีดวงตาที่เห็นความจริง (ไตรลักษณ์)
ขอให้.....เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยไตรสิกขา (ศีล, สมาธิ, ปัญญา)
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 15 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร