วันเวลาปัจจุบัน 27 ก.ค. 2025, 17:06  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 23 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2013, 13:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.พ. 2012, 12:01
โพสต์: 376


 ข้อมูลส่วนตัว


วิริยะ เขียน:
หญิงไทย เขียน:
กรรม มี 2 ชนิดใหญ่ๆ คือ มโนกรรม และ กายากรรม

มโนกรรม(กรรมที่เกิดขึ้นทางใจ) เช่น
คิดร้ายต่อผู้อื่น
ลวนลามผู้อื่นทางใจ
แสร้งทำดีกับผู้อื่นแต่ภายในใจคิดอกุศล
ฯลฯ

กายากรรม(กรรมที่เกิดทางกาย)
ทำร้ายร่างกายผู้อื่น ฆ่าผู้อื่น
เอารัดเอาเปรียบ
พูดหรือกระทำให้ผู้อื่นเจ็บช้ำน้ำใจ เสียใจ
ฯลฯ

ส่วนวิบากกรรม สามารถจัดอยู่ได้ทั้ง มโนกรรม และ กายากรรม
เพราะวิบากกรรมคือ ผลที่เกิดจาก มโนกรรม และ กายากรรม

กรรม มี ๓ ชนิด ท่านแบ่งไว้ชัดเจนดังนี้ ..

กายกรรม เช่น ตีรันฟันแทง เข่นฆ่ากัน กระทบกระทั้งทางกาย
วจีกรรม พูดจาเสียดสี ทิ่มแทง เยาะเย้ยถากถาง ดูถูกดูหมิ่น ฯลฯ
มโนกรรม ต้องการลักโขมย ต้องการฆ่าฟัน แต่ยังไม่ได้ลงมือ

ในกรรมบทสิบ ท่านก็แบ่งไว้ ..

- กายกรรม สาม
- วจีกรรม สี่
- มโนกรรม สาม

รวมเป็นสิบ .. :b1:



พี่หญิงเอาวจีกรรมกับกายากรรมรวมเป็นหมวดเดียวกันน่ะค่ะ
การพูดกับการกระทำพี่หญิงมองว่าเมื่อเราพูดเราต้องเปล่ง
เสียง ขยับปาก เป็นอาการที่กายแสดงออกมา จึงเป็นการ
กระทำของร่างกายด้วยเช่นกัน หากแค่คิดแต่ยังไม่เอ่ยออกมา
อันนี้จัดเป็นมโนกรรม คือคิดร้าย คิดอกุศล เพราะฉนั้นการ
พูด หรือ วจีกรรม พี่หญิงเลยรวบยอดเป็นหมวดเดียวกันกับ
กายกรรมไปเลย มันจึงเหลือแค่ 2 หมวด คือ กายากรรมและ
มโนกรรม :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2013, 13:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นความเข้าใจเฉพาะตน หรือมีอ้างอิงในตำราหนังสือเล่มใดหรือเปล่าครับ .. :b1:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2013, 13:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.พ. 2012, 12:01
โพสต์: 376


 ข้อมูลส่วนตัว


แล้วคุณวิริยะอ้างอิงมาจากตำราเล่มใดคะ ถ้าพี่หญิงบอกว่าตำราเล่มที่คุณอ้างอิงมา
พี่หญิงเป็นคนแต่ง ไม่ได้แต่งคนเดียวแต่มีทีมงานเป็น 100 คนช่วยกันแต่งคุณจะเชื่อ
พี่มั้ยคะ

สมัยก่อน เซเว่นมีไม่กี่สาขา แต่ทำไมตอนนี้มีหลายสาขาจังเลยคะ
สมัยก่อนมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมมาธิราชมี 1 สาขา แต่ทำไมตอนนี้
มีหลายวิทยาเขตจังเลยคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2013, 14:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าต้องการสื่อว่า เป็นนิกายเกิดใหม่ ก็ไม่ติดใจครับ .. :b1:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2013, 14:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.พ. 2012, 12:01
โพสต์: 376


 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าคุณวิริยะจะมายียวน มาหาเรื่อง ดิฉันจะไม่คุยด้วยนะคะ
กระทู้นี้ต้อนรับแต่กัลยาณมิตรเท่านั้นค่ะ ตามที่บอกไว้ตอน
ต้นกระทู้ หากมาแล้วสนทนากันดีๆดิฉันก็ต้อนรับนะคะ หาก
จะมายียวน ฮาร์ดคอร์ ดิฉันจะไม่คุยกับคุณ และขอเชิญออก
จากกระทู้นี้ด่วนค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2013, 14:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณโฮฮับเขียน

อ้างคำพูด:
ด้วยความนับถือคุณพี่หญิงไทยใจงาม กระผมนายโฮฮับ
ขออนุญาติแสดงความเห็นเล็กๆน้อยๆในกระทู้คุณพี่หญิงไทยหน่อยนะขอรับ

ถ้ามีคำไหนที่กระผมพลั่งเผลอพูดจาขาดความอบอุ่น นุ่มนวลไปบ้าง
ต้องขออภัย ที่เป็นแบบนี้
"เพราะทางบ้านเน้นคุณธรรม ไม่เน้นมรรยาทจ้า"(เอามาจาก...นายเอมเมอรัล) :b32:





อ้างคำพูด:
คุณน้องคองเขียน

มาฟังความเห็นของคุณน้องเกี่ยวกับกรรมและวิบากกรรมกันบ้าง คุณน้องขออธิบายแบบสามัญชนคนธรรมดาๆนะเจ้าค่ะ อาจจะไม่ตรงกับพุทธบัญญัติก็ขอประธานอภัยล่วงหน้า เพราะรู้จากญานทัศนะของตนเอง :b12: (รู้ด้วยความเพียร)





ขำคุณโฮฮับกับคุณน้อง :b32: :b32: :b32:
ไม่เคยเห็นคุณโฮฮับ อ่อนน้อมถ่อมตัวถึงขนาดนี้เลยน่ะเจ้าค่ะ :b32: :b41: :b55: :b50:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2013, 15:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หญิงไทย เขียน:
มโนกรรม เข้าใจแล้วค่ะ กรรมที่เกิดขึ้นทางใจ คิดร้ายต่อใครก็เป็นมโนกรรม
แล้วยังมีอีกนะคะ วจีกรรม การใช้วจีทุจริต นี่ก็เป็นกรรม จัดอยู่ในประเภทเดียว
กับกรรมที่เกิดทางกาย ที่ยังสงสัยอยู่คือวิบากกรรม

หญิงไทย....
กรรม ก็ความหมายหนึ่ง
พฤติของกรรม ก็ความหมายหนึ่ง
อย่าปะปนกัน ...
V
พระพุทธองค์ ตรัสว่า "..เจตนาหํ ภิกฺขเว กมฺมํ วทามิ เจตยิตฺวา กมฺมํ กโรติ กาเยน วาจาย มนสา ฯ.."
ถอดความจากพระบาลีนี้
"...เรากล่าวเจตนาว่าเป็นกรรม บุคคลเจตนา แล้วจึงทำด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ฯ..."
V
ซึ่งหมายความว่า กรรม นั้นสำเร็จแล้วประกอบกับจิตแล้ว กรรมจึงเป็นสังขารอย่างหนึ่ง ประกอบกับจิต
เป็นเจตสิกธรรม
V
แต่การทำออกมา ต้องอาศัยทวาร คือช่องทางแสดงออก
โดยแบ่งชัดเจน ด้วยอาการที่พึงจำแนกได้ไม่สับสน คือ

ทำออกมาทาง กายทวาร เห็นได้ชัดเจน ก็เรียกว่า กายกรรม
ทำออกมาทาง วจีทวาร มีความประณีตกว่าทางกายทวาร เป็นวาจาที่ปรุงจากสัญญา ก็เรียกว่าวจีกรรม
ทำออกมาทาง มโนทวาร ก็มีความประณีตกว่าทางกายทวาร วจีทวาร เป็นความคิดความนึก ความรู้สึก ก็เรียกว่า มโนกรรม
V
การจำแนกกรรม จึงจำแนกตามคุณภาพของจิต เป็นหลัก
เช่น กุศลจิต หรือ อกุศลจิต
V
เมื่อจำแนกตามคุณภาพของจิต
การทำออกมา ของกรรม จึงมีลักษณะเห็นได้ตามครรลองแห่งกรรม ซึ่งเรียกว่า กรรมบถ
กรรมบถ จึงจำแนกตามคุณภาพของจิต
จิตเป็นกุศล ย่อมทำออกมาตามครรลองแห่งกุศล คือ กุศลกรรมบถ
จิตเป็นอกุศล ย่อมทำออกมาตามครรลองแห่งอกุศล คือ อกุศลกรรมบถ
V
ในคลองแห่งกรรม หรือทางดำเนินแห่งกรรม ได้มีการแสดงไว้ เป็น 10 ประการ เป็นคู่ตรงข้ามกัน
ดังนั้น
การทำทางกาย ทางวาจา ทางใจ นั้นจึงไม่ใช่ "กรรม" แต่กรรมอาศัยทวารเหล่านั้นประพฤติ ออกมา

เจริญธรรม

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2013, 20:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ว่าความเห็นของผมต่อนะครับ

เพราะมี มโนกรรม วจีกรรมจึงเกิดขึ้นมาได้
เพราะมี มโนกรรม กายกรรมจึงเกิดขึ้นมาได้
เพราะมี มโนกรรม วจีกรรมและกายกรรม จึงเกิดขึ้นมาได้

ขาดซึ่งมโนกรรมเสียแล้ว วจีกรรมหรือกายกรรม ก็ไม่อาจเกิดขึ้นได้

จิต เกิดขึ้น รับวิบากกรรม ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย
และอีกจังหวะหนึ่ง จิต ก็เกิดขึ้นเพื่อ กระทำกรรม คือ มโนกรรม


จิตรับวิบากกรรม และจิตสร้างกรรม เกิดขึ้นสลับกัน ตลอดวันตลอดคืน ไม่ว่างเว้นเลย

เมื่อไร มโนกรรม มีกำลังแรง ก็จะสร้างรูป ขึ้นมา เรียกว่า วจีวิญญัติรูป เพื่อทำวจีกรรม

เมื่อไร มโนกรรม มีกำลังแรงกว่านั้นอีก ก็จะสร้างรูป คือ กายวิญญัติรูป เพื่อทำกายกรรม

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 23 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร