วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 05:29  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 41 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2013, 14:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ปัญญา คือ ปัญญินทรีย์เจตสิก

อ้างคำพูด:
4) ปัญญินทรีย์เจตสิก 1 (เจตสิกคือปัญญินทรีย์ - faculty of wisdom)
52. ปัญญินทรีย์ หรือ อโมหะ (ความรู้เข้าใจ ไม่หลง - undeludedness; wisdom)

http://www.84000.org/tipitaka/dic/d_item.php?i=355

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2013, 16:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ค. 2010, 16:44
โพสต์: 84

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
ธรรมดาครับ เขียน:
โรคอัลไซเมอร์ เกี่ยวกับปัญญาอนัตตา หรือเปล่าครับ s006


เอกอนคิดว่า....
โรคอัลไซเมอร์ เป็นอาการป่วยทางกายภาพ
ไม่ใช่อาการทป่วยทางปัญญา...นะ
เพราะ คนเกิดมาไม่ได้เอา อัลไซเมอร์ติดตัวมาแต่เกิด
และเมื่อตายไปก็เอาอัลไซเมอร์ติดตัวไปไม่ได้...น่ะ

:b10: :b10: :b10:

:b6: :b6: มีเหตุผลกั๊บ :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2013, 22:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมดาครับ เขียน:
eragon_joe เขียน:
ธรรมดาครับ เขียน:
โรคอัลไซเมอร์ เกี่ยวกับปัญญาอนัตตา หรือเปล่าครับ s006


เอกอนคิดว่า....
โรคอัลไซเมอร์ เป็นอาการป่วยทางกายภาพ
ไม่ใช่อาการทป่วยทางปัญญา...นะ
เพราะ คนเกิดมาไม่ได้เอา อัลไซเมอร์ติดตัวมาแต่เกิด
และเมื่อตายไปก็เอาอัลไซเมอร์ติดตัวไปไม่ได้...น่ะ

:b10: :b10: :b10:

:b6: :b6: มีเหตุผลกั๊บ :b13:

เพราะสภาวธรรม ที่เรียกว่าปัญญา แปรปรวน ด้วยเหตุจากรูปขันธ์แปรปรวนเพราะเกิดพยาธิสภาพ
จึงเห็นปัญญาเป็นอนัตตา ก็ได้ครับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2013, 22:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
ทั้งสังขตธรรม(สังขาร) และอสังขตธรรม(วิสังขาร)...ล้วนมีบัญญัติว่าอนัตตา
แต่ในสภาวะธรรมอนัตตาแห่งธรรมทั้งสองแตกต่างกัน

สังขาร(สังขตะธรรม)คือการเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป อาการสามนี้เป็น อนัตตา(เป็นหนึ่งในสามของไตรลักษณ์)

วิสังขาร(อสังขตะธรรม)คือ ไม่มีการเกิดปรากฎ ไม่ปรากฎความเสื่อม เมื่อตั้งอยู่ไม่ปรากฏความแปรปวน
อาการทั้งสามนี้ เป็น อนัตตา

อสังขตธรรมและสังขตธรรมมีบัญญัติที่เหมือนกัน
นั้นก็คือ อนัตตา แต่ในความเป็นอนัตตา มันเกิดจากสภาวะที่แตกต่างกัน
ดังนั้นจะบอกว่า...สังขารเป็นอนัตตาอย่างเดียวโดดไม่ได้ จะต้องกล่าวว่า
สังขารเป็นไตรลักษณ์ ไม่ใช่เป็นอนัตตาแต่เป็น อนิจจัง ทุกขังและอนัตตา


*อสังขตธรรมเท่านั้นที่เป็นอนัตตา*

สังขตสูตร
[๔๘๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สังขตลักษณะของสังขตธรรม ๓
ประการ ๓ ประการเป็นไฉน คือ ความเกิดขึ้นปรากฏ ๑ ความเสื่อมปรากฏ ๑
เมื่อตั้งอยู่ความแปรปรวนปรากฏ ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สังขตลักษณะของสังขต-
*ธรรม ๓ ประการนี้แล ฯ

http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v ... agebreak=0

อสังขตสูตร
[๔๘๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อสังขตลักษณะของอสังขตธรรม ๓
ประการนี้ ๓ ประการเป็นไฉน คือ ไม่ปรากฏความเกิด ๑ ไม่ปรากฏความ
เสื่อม ๑ เมื่อตั้งอยู่ไม่ปรากฏความแปรปรวน ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย อสังขตลักษณะ
ของอสังขตธรรม ๓ ประการนี้แล ฯ

http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v ... 949&Z=3953

อนัตตาเป็น สังขตะ หรืออสังขตะ โฮฮับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2013, 23:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2011, 01:57
โพสต์: 324

แนวปฏิบัติ: อริยสัจ4
อายุ: 27
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว


อะไรๆที่มีเกิด มีดับ

เกิดดับตามเหตุปัจจัย ไม่เกิดดับตามใจ

ก็เป็นอนัตตาทั้งนั้นละครับ

ปัญญาอยากให้เกิดก็ไม่เกิด ต้องไปสร้างเหตุให้เขาเกิด เกิดแล้วอยากให้ดับก็ไม่ดับ ต้องรอหมดเหตุเขาจึงดับ

ดังนั้นปัญญาก็เป็นอนัตตา

.....................................................
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นคือความจริง การฝืนความจริงทำให้เกิดทุกข์ การเห็นและยอมตามความจริงทำให้หายทุกข์

คนที่รู้ธรรมะ มักจะชอบเอาชนะผู้อื่น แต่คนเข้าใจธรรมะ มักจะเอาชนะใจตนเอง

สัพเพ ธัมมา อะนัตตาติ ยะทา ปัญญายะ ปัสสะติ
เมื่อใดบุคคลเห็นด้วยปัญญาว่า, ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา

อะถะ นิพพินทะติ ทุกเข เอสะ มัคโค วิสุทธิยา
เมื่อนั้น ย่อมเหนื่อยหน่ายในสิ่งที่เป็นทุกข์ ที่ตนหลง,
นั่นแหละเป็นทางแห่งพระนิพพานอันเป็นธรรมหมดจด

.....ติลักขณาทิคาถา.....


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มิ.ย. 2013, 04:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
เพราะสภาวธรรม ที่เรียกว่าปัญญา แปรปรวน ด้วยเหตุจากรูปขันธ์แปรปรวนเพราะเกิดพยาธิสภาพ
จึงเห็นปัญญาเป็นอนัตตา ก็ได้ครับ

พยาธิสภาพไม่ได้ทำให้รูปขันธ์แปรปวน รูปขันธ์แปรปวน
ตามเหตุสามัญลักษณ์ของสังขาร

พยาธิสภาพมีผลต่อรูป(กาย)ไม่ใช่รูปขันธ์
รูปขันธ์เป็นลักษณะแปรปวน แต่รูป(กาย) เป็นลักษณะ...อาพาท

รูปขันธ์เป็น......สังขตะ
รูป(กายธาตุสี่)เป็น... อสังขตะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มิ.ย. 2013, 04:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
อนัตตาเป็น สังขตะ หรืออสังขตะ โฮฮับ

พูดธรรมกลับหัวกลับหาง แบบนี้แสดงให้รู้ว่า ไม่รู้ไม่เข้าใจเรื่อง...เหตุปัจจัย
ไม่รู้การเกิดของสภาวะธรรมและผลของสภาวะธรรม

ที่ถูกมันต้องเป็นแบบนี้.....สังขตะเป็นอนัตตา
อสังขตะเป็นอนัตตา


พูดภาษาง่ายๆให้ฟัง สังขตะก็คือ การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป อาการสามนี้
เป็นผลให้เกิด ลักษณะของธรรม อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ธรรมบทนี้ การเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป ทำให้เกิด..อนัตตา (จำลักษณะของธรรมให้ดี)

ส่วนอสังขตะก็คือ ไม่มีการเกิด ไม่มีการดับ ถ้ามันตั้งอยู่ก็ไม่แปรปวน
ดูให้ดีอาการทั้งสามหรือเหตุของ สังขตตะและอสังขตะแตกต่างกันสิ้นเชิง
ผลของสภาวะธรรมทั้งสองจะเหมือนกันได้อย่างไร

ความหมายอีกอย่างของอนัตตา
อนัตตาของสังขตะ คือความแปรปวน
อนัตตาของอสังขตะ คือความไม่แปรปวน
ความหมายมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ดังนั้นจะมาบอกว่า สังขตะเป็นอนัตตาอย่างเดียวไม่ได้
ต้องมี อนิจจัง ทุกขังด้วย เข้าใจมั้ย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มิ.ย. 2013, 06:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


บทว่า อนิจฺจา ความว่า เพราะอรรถว่ามีแล้วไม่มี.

บทว่า อนิจฺจา ความว่า ชื่อว่า อนิจฺจา ด้วยอรรถว่า เป็นแล้วกลับไม่เป็น.

บทว่า อนิจฺจ? ได้แก่ชื่อว่าไม่เที่ยง โดยอาการที่มีแล้วก็ไม่มี.

อีกนัยหนึ่ง ชื่อว่าไม่เที่ยง ด้วยเหตุแม้เหล่านี้ คือ

เพราะมีความเกิดขึ้นและความเสื่อมไป.

เพราะเป็นของเป็นไปอยู่ชั่วคราว

เพราะมีความแปรปรวนเป็นที่สุด

เพราะปฏิเสธความเที่ยง.

บทว่า ทุกฺขา ความว่า เพราะอรรถว่า เบียดเบียน.

บทว่า ทุกฺขา ความว่า ชื่อว่าทุกข์ด้วยอรรถว่า บีบคั้นเสมอ

บทว่า ทุกฺข? ได้แก่ ชื่อว่าทุกข์ด้วยเหตุ ๔ ประการ คือ

ด้วยอรรถว่า ทนได้ยาก

ด้วยอรรถว่า เป็นวัตถุที่ตั้งแห่งความทนได้ยาก.

ด้วยอรรถว่า บีบคั้นสัตว์ ด้วยการปฏิเสธความสุข.

บทว่า สพฺเพ ธมฺมา ความว่า ท่านกล่าวทำแม้พระนิพพานไว้ภายใน.

บทว่า อนตฺตา ความว่า เพราะอรรถว่า ไม่เป็นไปในอำนาจ.

ชื่อว่า อนตฺตา เพราะอรรถว่า ไม่เป็นไปตามอำนาจ.

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2013, 02:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
อนัตตาเป็น สังขตะ หรืออสังขตะ โฮฮับ

พูดธรรมกลับหัวกลับหาง แบบนี้แสดงให้รู้ว่า ไม่รู้ไม่เข้าใจเรื่อง...เหตุปัจจัย
ไม่รู้การเกิดของสภาวะธรรมและผลของสภาวะธรรม

ที่ถูกมันต้องเป็นแบบนี้.....สังขตะเป็นอนัตตา
อสังขตะเป็นอนัตตา


พูดภาษาง่ายๆให้ฟัง สังขตะก็คือ การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป อาการสามนี้
เป็นผลให้เกิด ลักษณะของธรรม อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ธรรมบทนี้ การเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป ทำให้เกิด..อนัตตา (จำลักษณะของธรรมให้ดี)

ส่วนอสังขตะก็คือ ไม่มีการเกิด ไม่มีการดับ ถ้ามันตั้งอยู่ก็ไม่แปรปวน
ดูให้ดีอาการทั้งสามหรือเหตุของ สังขตตะและอสังขตะแตกต่างกันสิ้นเชิง
ผลของสภาวะธรรมทั้งสองจะเหมือนกันได้อย่างไร

ความหมายอีกอย่างของอนัตตา
อนัตตาของสังขตะ คือความแปรปวน
อนัตตาของอสังขตะ คือความไม่แปรปวน
ความหมายมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ดังนั้นจะมาบอกว่า สังขตะเป็นอนัตตาอย่างเดียวไม่ได้
ต้องมี อนิจจัง ทุกขังด้วย เข้าใจมั้ย

ไร้คำตอบจากโฮฮับอีกเช่นเคย
อาจจะถามยากไป
ถามง่ายลงมาอีก นะโฮฮับ
อนัตตา เป็นสภาวะธรรม หรือไม่....

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2013, 09:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
โฮฮับ เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
อนัตตาเป็น สังขตะ หรืออสังขตะ โฮฮับ

พูดธรรมกลับหัวกลับหาง แบบนี้แสดงให้รู้ว่า ไม่รู้ไม่เข้าใจเรื่อง...เหตุปัจจัย
ไม่รู้การเกิดของสภาวะธรรมและผลของสภาวะธรรม

ที่ถูกมันต้องเป็นแบบนี้.....สังขตะเป็นอนัตตา
อสังขตะเป็นอนัตตา


พูดภาษาง่ายๆให้ฟัง สังขตะก็คือ การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป อาการสามนี้
เป็นผลให้เกิด ลักษณะของธรรม อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ธรรมบทนี้ การเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป ทำให้เกิด..อนัตตา (จำลักษณะของธรรมให้ดี)

ส่วนอสังขตะก็คือ ไม่มีการเกิด ไม่มีการดับ ถ้ามันตั้งอยู่ก็ไม่แปรปวน
ดูให้ดีอาการทั้งสามหรือเหตุของ สังขตตะและอสังขตะแตกต่างกันสิ้นเชิง
ผลของสภาวะธรรมทั้งสองจะเหมือนกันได้อย่างไร

ความหมายอีกอย่างของอนัตตา
อนัตตาของสังขตะ คือความแปรปวน
อนัตตาของอสังขตะ คือความไม่แปรปวน
ความหมายมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ดังนั้นจะมาบอกว่า สังขตะเป็นอนัตตาอย่างเดียวไม่ได้
ต้องมี อนิจจัง ทุกขังด้วย เข้าใจมั้ย

ไร้คำตอบจากโฮฮับอีกเช่นเคย
อาจจะถามยากไป
ถามง่ายลงมาอีก นะโฮฮับ
อนัตตา เป็นสภาวะธรรม หรือไม่....


เอาคำถามที่มันไม่มีคำตอบมาถาม แล้วจะมาเอาคำตอบ อุตสาห์อธิบายให้ฟังว่า
มันผิดหลักเหตุปัจจัย สังขตะหรืออสังขตะ มันเป็นเหตุ มันเกิดก่อน
อนัตตามันเป็นผล มันเกิดที่หลัง ....ดันมาถามผลไปหาเหตุ

จะสอนให้ถ้าจะถามมันต้องถามแบบนี้...สังขตะเป็นอนัตตาหรือไม่
หรืออสังขตะเป็นอนัตตาหรือไม่

แล้วที่ถามว่า อนัตตาเป็นสภาวะธรรมหรือไม่ ก็ขอตอบดังนี้
อนัตตาของปรมัตถ์สัจจะเป็นสภาวะธรรม
อนัตตาของสมมุติสัจจะไม่ใช่สภาวะธรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2013, 12:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
โฮฮับ เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
อนัตตาเป็น สังขตะ หรืออสังขตะ โฮฮับ

พูดธรรมกลับหัวกลับหาง แบบนี้แสดงให้รู้ว่า ไม่รู้ไม่เข้าใจเรื่อง...เหตุปัจจัย
ไม่รู้การเกิดของสภาวะธรรมและผลของสภาวะธรรม

ที่ถูกมันต้องเป็นแบบนี้.....สังขตะเป็นอนัตตา
อสังขตะเป็นอนัตตา


พูดภาษาง่ายๆให้ฟัง สังขตะก็คือ การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป อาการสามนี้
เป็นผลให้เกิด ลักษณะของธรรม อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ธรรมบทนี้ การเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป ทำให้เกิด..อนัตตา (จำลักษณะของธรรมให้ดี)

ส่วนอสังขตะก็คือ ไม่มีการเกิด ไม่มีการดับ ถ้ามันตั้งอยู่ก็ไม่แปรปวน
ดูให้ดีอาการทั้งสามหรือเหตุของ สังขตตะและอสังขตะแตกต่างกันสิ้นเชิง
ผลของสภาวะธรรมทั้งสองจะเหมือนกันได้อย่างไร

ความหมายอีกอย่างของอนัตตา
อนัตตาของสังขตะ คือความแปรปวน
อนัตตาของอสังขตะ คือความไม่แปรปวน
ความหมายมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ดังนั้นจะมาบอกว่า สังขตะเป็นอนัตตาอย่างเดียวไม่ได้
ต้องมี อนิจจัง ทุกขังด้วย เข้าใจมั้ย

ไร้คำตอบจากโฮฮับอีกเช่นเคย
อาจจะถามยากไป
ถามง่ายลงมาอีก นะโฮฮับ
อนัตตา เป็นสภาวะธรรม หรือไม่....


เอาคำถามที่มันไม่มีคำตอบมาถาม แล้วจะมาเอาคำตอบ อุตสาห์อธิบายให้ฟังว่า
มันผิดหลักเหตุปัจจัย สังขตะหรืออสังขตะ มันเป็นเหตุ มันเกิดก่อน
อนัตตามันเป็นผล มันเกิดที่หลัง ....ดันมาถามผลไปหาเหตุ

จะสอนให้ถ้าจะถามมันต้องถามแบบนี้...สังขตะเป็นอนัตตาหรือไม่
หรืออสังขตะเป็นอนัตตาหรือไม่

แล้วที่ถามว่า อนัตตาเป็นสภาวะธรรมหรือไม่ ก็ขอตอบดังนี้
อนัตตาของปรมัตถ์สัจจะเป็นสภาวะธรรม
อนัตตาของสมมุติสัจจะไม่ใช่สภาวะธรรม

ไม่ได้ถามว่า อนัตตา ของสัจจะไหน
อ่านดีๆ
ถามใหม่

อนัตตา เป็นสภาวะธรรมหรือไม่? โฮฮับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2013, 14:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
โฮฮับ เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
โฮฮับ เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
อนัตตาเป็น สังขตะ หรืออสังขตะ โฮฮับ

พูดธรรมกลับหัวกลับหาง แบบนี้แสดงให้รู้ว่า ไม่รู้ไม่เข้าใจเรื่อง...เหตุปัจจัย
ไม่รู้การเกิดของสภาวะธรรมและผลของสภาวะธรรม

ที่ถูกมันต้องเป็นแบบนี้.....สังขตะเป็นอนัตตา
อสังขตะเป็นอนัตตา


พูดภาษาง่ายๆให้ฟัง สังขตะก็คือ การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป อาการสามนี้
เป็นผลให้เกิด ลักษณะของธรรม อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ธรรมบทนี้ การเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป ทำให้เกิด..อนัตตา (จำลักษณะของธรรมให้ดี)

ส่วนอสังขตะก็คือ ไม่มีการเกิด ไม่มีการดับ ถ้ามันตั้งอยู่ก็ไม่แปรปวน
ดูให้ดีอาการทั้งสามหรือเหตุของ สังขตตะและอสังขตะแตกต่างกันสิ้นเชิง
ผลของสภาวะธรรมทั้งสองจะเหมือนกันได้อย่างไร

ความหมายอีกอย่างของอนัตตา
อนัตตาของสังขตะ คือความแปรปวน
อนัตตาของอสังขตะ คือความไม่แปรปวน
ความหมายมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ดังนั้นจะมาบอกว่า สังขตะเป็นอนัตตาอย่างเดียวไม่ได้
ต้องมี อนิจจัง ทุกขังด้วย เข้าใจมั้ย

ไร้คำตอบจากโฮฮับอีกเช่นเคย
อาจจะถามยากไป
ถามง่ายลงมาอีก นะโฮฮับ
อนัตตา เป็นสภาวะธรรม หรือไม่....


เอาคำถามที่มันไม่มีคำตอบมาถาม แล้วจะมาเอาคำตอบ อุตสาห์อธิบายให้ฟังว่า
มันผิดหลักเหตุปัจจัย สังขตะหรืออสังขตะ มันเป็นเหตุ มันเกิดก่อน
อนัตตามันเป็นผล มันเกิดที่หลัง ....ดันมาถามผลไปหาเหตุ

จะสอนให้ถ้าจะถามมันต้องถามแบบนี้...สังขตะเป็นอนัตตาหรือไม่
หรืออสังขตะเป็นอนัตตาหรือไม่

แล้วที่ถามว่า อนัตตาเป็นสภาวะธรรมหรือไม่ ก็ขอตอบดังนี้
อนัตตาของปรมัตถ์สัจจะเป็นสภาวะธรรม
อนัตตาของสมมุติสัจจะไม่ใช่สภาวะธรรม

ไม่ได้ถามว่า อนัตตา ของสัจจะไหน
อ่านดีๆ
ถามใหม่

อนัตตา เป็นสภาวะธรรมหรือไม่? โฮฮับ

ก็รู้อยู่แล้วว่าไม่เข้าใจคำตอบ เพราะถามในสิ่งที่ตัวเองก็ไม่เข้า
ผลก็ย่ำอยู่กับที่ไม่ได้ไปไหนเลย

ชัดๆน่ะ อนัตตาเป็นสภาวะธรรมและไม่เป็นสภาวะธรรม

เอางี้ผมถามเช่นนั้นดีกว่าว่า เช่นนั้นเข้าใจเรื่องสภาวะธรรมหรือเปล่า
เช่นนั้นเข้าใจว่า สภาวะธรรมคืออะไร :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2013, 15:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


rolleyes
ต้อยตีวิด เขียน:
ปัญญาเป็นอนัตตาหรือเปล่าค่ะ ขอบคุณคะ :b10: :b8:

...ปัญญาเป็นนามธรรมของจิตชนิดหนึ่งด้านสว่างใช้ดับอวิชชาที่เป็นนามธรรมของจิตด้านมืด...
...ปัญญาคือความรู้ดับอวิชชาคือความรู้ดับความไม่รู้คือจิตเกิดความรู้แจ้งความจริงดับจิตที่มืดบอด...
...นิพพานดิบคือจิตที่ดำรงสติปัญญารู้แจ้งสภาวธรรมผ่านอายตนะหกโดยไม่ถูกหลอกด้วยหมดอวิชชา...
...ขณะดำรงภพชาติ...กายรับสุข-ทุกข์ไปตามสภาพดิน ฟ้า อากาศโดยที่จิตไม่รับสุข-ทุกข์ไปตามกาย...
...จิตดำรงสภาวะของปัญญาคือรู้แจ้งโลกทั้งระดับโลกียะและโลกุตตระตามความเป็นจริงตามสมมุติและวิมุติ...
...เมื่อดับขันธ์ กายแตกสลายลงสู่ธาตุสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ ส่วนจิตเข้าสู่สภาวะนิพพานสุกดำรงปัญญาล้วน...
...ข้าพเจ้าคิดว่าปัญญาเป็นพลังจิตที่ค่อยสะสมความรู้เพื่อให้เข้าใจความจริงของพระธรรม...
...และเมื่อเข้าถึงนิพพานแสดงว่าเป็นพลังงานปัญญาที่สูงสุดที่แทงทะลุตลอดสภาวะธรรมตามจริง...
...ทั้งที่เป็นอัตตาและอนัตตา...ข้าพเจ้าว่าไม่สูญหายไปไหนและเป็นพลังงานรูปหนึ่งไร้ตัวตนในจักรวาล...
:b8: :b8:
:b42:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2013, 15:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
อนัตตา เป็นสภาวะธรรมหรือไม่? โฮฮับ

ก็รู้อยู่แล้วว่าไม่เข้าใจคำตอบ เพราะถามในสิ่งที่ตัวเองก็ไม่เข้า
ผลก็ย่ำอยู่กับที่ไม่ได้ไปไหนเลย

ชัดๆน่ะ อนัตตาเป็นสภาวะธรรมและไม่เป็นสภาวะธรรม

เอางี้ผมถามเช่นนั้นดีกว่าว่า เช่นนั้นเข้าใจเรื่องสภาวะธรรมหรือเปล่า
เช่นนั้นเข้าใจว่า สภาวะธรรมคืออะไร :b32:

เมื่อโฮฮับ ยอมรับว่า อนัตตา เป็นสภาวะธรรม และไม่เป็นสภาวธรรม

ก่อนจะลงลึกลงไปอีก

ถาม โฮฮับ ว่า นิพพาน เป็นสภาวะธรรม หรือไม่?????

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2013, 04:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
โฮฮับ เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
อนัตตา เป็นสภาวะธรรมหรือไม่? โฮฮับ

ก็รู้อยู่แล้วว่าไม่เข้าใจคำตอบ เพราะถามในสิ่งที่ตัวเองก็ไม่เข้า
ผลก็ย่ำอยู่กับที่ไม่ได้ไปไหนเลย

ชัดๆน่ะ อนัตตาเป็นสภาวะธรรมและไม่เป็นสภาวะธรรม

เอางี้ผมถามเช่นนั้นดีกว่าว่า เช่นนั้นเข้าใจเรื่องสภาวะธรรมหรือเปล่า
เช่นนั้นเข้าใจว่า สภาวะธรรมคืออะไร :b32:

เมื่อโฮฮับ ยอมรับว่า อนัตตา เป็นสภาวะธรรม และไม่เป็นสภาวธรรม

ก่อนจะลงลึกลงไปอีก

ถาม โฮฮับ ว่า นิพพาน เป็นสภาวะธรรม หรือไม่?????

นิพพานมีทั้งที่เป็นสภาวะธรรมและไม่เป็นสภาวะธรรม นี้คือคำตอบของผม



ถามเช่นนั้น เพื่อไม่ให้เสียเวลาการอธิบายความ เช่นนั้นเข้าใจว่า
สภาวะธรรมคืออะไร กรุณาให้ความร่วมมือหน่อย
การสนทนาธรรมจะได้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน
คือผมกลัวว่า พูดความให้ฟังยาวๆจะลงท้ายที่ไปไหนมาสามวาสองศอก :b13:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 41 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron