วันเวลาปัจจุบัน 27 ก.ค. 2025, 12:20  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 22 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2013, 06:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8586


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปนั้นมีทั้งปรมัตถ์และบัญญัติ

๑. รูปบัญญัติ คือ สิ่งที่เรามองเห็นกัน เรียกกันไปต่าง ๆ นา ๆ ทั้งที่ไม่มี ชีวิตจิตใจครอง และ มีชีวิต
จิตใจครอง เช่น คนผู้หญิง คนผู้ชาย ก็มีชื่อต่างกัน ออกไป สัตว์ต่าง ๆ ตัวผู้ ตัวเมีย ก็มีชื่อเรียกกันต่าง ๆ
กันไป ต้นไม้แต่ละชนิด ทั้งที่ยืนต้นและล้มลุก ก็มีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป รวมถึงพื้นดิน ภูเขา ห้วยน้ำลำคลอง เป็นต้น เหล่านี้เป็นรูปโดยบัญญัติ

๒. รูปปรมัตถ คือ รูปที่มีอยู่จริงๆ โดยสภาวะ โดยธรรมชาติ ผู้ที่ได้ศึกษา ได้เรียนรู้ ได้กระทบ ได้สัมผัส
จะมีความรู้สึกเหมือนกันหมด
เพื่อความเข้าใจง่าย และให้เห็นชัด ระหว่างรูปปรมัตถกับรูปบัญญัติ ขอยก ตัวอย่าง ดังนี้
ถ้าเอาถ่านไฟในเตาซึ่งติดไฟแล้วมาจี้ที่แขนของคน ๕ คน แต่ละคนจะรู้สึก ร้อนเหมือน ๆ กัน ถ้าเป็นคนไทยก็จะพูดว่าร้อน คนจีน คนพม่า คนอินเดีย คน ยุโรป ก็จะเปล่งภาษาออกมาไม่เหมือนกัน แต่มีความหมายเหมือนกันว่าร้อน ทุกคน มีความรู้สึกว่าร้อน นั่นคือ " จริงที่มีอยู่จริง " ส่วนคำอุทานแต่ละภาษาที่เปล่งออกมานั้นไม่เหมือนกันนั้นเป็น " บัญญัติ "จริงที่มีอยู่จริง คือ ปรมัตถธรรม และไฟที่ยกตัวอย่างมานี้ก็เป็นหนึ่งในรูป ปรมัตถ คือ เตโชธาตุ นั่นเอง

ตา หู จมูก ลิ้น กาย ทั้ง ๕ นี้จะรับได้แต่รูปที่รับ "ปรมัตถ์" ได้อย่างเดียว
ส่วนใจนั้นจะรับรูปทั้งที่เป็น "ปรมัตถ์" พร้อมทั้ง "บัญญัติ" ด้วย

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2013, 08:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปบัญญัติ นี่แต่งขึ้นใหม่หรือเปล่าครับ
หรือเป็นของเก่า แต่เดิม

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2013, 08:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8586


 ข้อมูลส่วนตัว


govit2552 เขียน:
รูปบัญญัติ นี่แต่งขึ้นใหม่หรือเปล่าครับ
หรือเป็นของเก่า แต่เดิม


จะแต่งขึ้นใหม่หรือเก่าไม่ทราบ แต่ก็เห็นใช้กันอยู่ทุกวัน
เช่น ตาเห็น รูป ก็ว่า เห็นวัว เห็นควาย เห็นหมู เห็นหมา นั่นแหละ เป็นการเห็นที่เป็น รูปบัญญัติ
เพราะอะไร ? เพราะว่าสิ่งกระทบทางตาเป็น รูป ถ้าลงไปถึงใจบัญญัติจึงเกิดขึ้น

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2013, 10:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ลุงหมาน เขียน:
จะแต่งขึ้นใหม่หรือเก่าไม่ทราบ


อ้าว

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2013, 11:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8586


 ข้อมูลส่วนตัว


(\ /)
( . .)´¯✿´¯✿´¯✿
c(")(")____/)_____./¯"""/')
¯¯¯¯¯¯¯¯¯\)¯¯¯¯¯'\_„„„„\)
❀¸¸.•*´¯`❀ ✿ ❀¸¸¸.•*´¯`❀

..(\.../)(\_/)
...(•‿•)(•‿•) ❀ ❦➹ ❦
.../(▒)\/(▓)\ ♬ ♫ ♬ ♫
░▄▀▀▄▀▀▄░

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2013, 12:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปรมัตถ์
เป็นคำที่ใช้ เพื่อแสดงถึง สิ่งที่แสดง ธรรมที่แสดง ว่ามีอรรถ มีเนื้อหา ที่ลึกซึ้งยากแก่การรู้ การเข้าใจ

เป็นคำที่มีใช้ตั้งแต่สมัยพุทธกาล
ซึ่งพระพุทธองค์ก็ทรงใช้อยู่ แต่จะใช้เวลาอธิบายข้อธรรมที่มีเนื้อหาลึกซึ้ง
ข้อธรรมที่ทรงแสดง คือบัญญัติ เมื่อเป็นข้อธรรมที่พระพุทธองค์เน้นว่าเป็นข้อธรรมที่ลึกซึ้ง
พระองค์จะ บอกว่า "นี้เป็นบัญญัติทางปรมัตถ์"

อรรถกถา รุ่นแรกๆ ที่บันทึกไว้ในระหว่างพระสูตรในพระไตรปิฏก
จะมี การระบุ อยู่อย่างเดียว คือ นิพพานเป็นปรมัตถ์ เท่านั้น

ส่วนในพระอภิธรรมปิฏก ในกถาวัตถุปกรณ์
จะเห็นคำว่า "เป็นปรมัตถ์" (โดยคำแปล) แต่เมื่อดูที่บาลี ซึ่งไม่ใช่คำว่า ปรมัตถ์ แต่จะเป็น ปรมฏฺฐ
ซึ่งไม่ใช่ความหมายเดียวกับ ปรมัตถ์

ดังนั้นในพระอภิธรรม 7 คัมภีร์ในพระอภิธรรมปิฏก จึงไม่มีการระบุว่า รูป จิต เจตสิก นิพพาน เป็นปรมัตถ์
มีแต่สภาวะธรรม และการอธิบายสภาวะธรรมด้วยบัญญัติ
V
รูปปรมัตถ์ จิตปรมัตถ์ เจตสิกปรมัตถ์ บัญญัติปรมัตถ์ ฯลฯ ...
จึงเป็นเพียงรูปแบบ บัญญัติในสมัยต่อลงมาอีก เพื่อให้นักศึกษาคันถะธุระศีกษาเพียงเท่านั้นเอง โดยต้องเข้าใจว่า ไม่ใช่พุทธบัญญัติ แต่เป็นคำบัญญัติโดยอาจารย์ภายหลังเพื่อสะดวกแก่การสอน

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ก.ค. 2013, 11:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
ปรมัตถ์
เป็นคำที่ใช้ เพื่อแสดงถึง สิ่งที่แสดง ธรรมที่แสดง ว่ามีอรรถ มีเนื้อหา ที่ลึกซึ้งยากแก่การรู้ การเข้าใจ

ปรมัตถ์ เป็นบัญญัติที่พระพุทธองค์ทรงกล่าว เพื่อให้รู้ถึงธรรมะว่า แบ่งเป็นสอง
นั้นก็คือ ปรมัตถ์กับสมมุติ ปรมัตถ์คือสิ่งที่เกิดภายในกายใจ สมมุติคือสิ่งนอกกายใจ

เช่นนั้น เขียน:
เป็นคำที่มีใช้ตั้งแต่สมัยพุทธกาล
ซึ่งพระพุทธองค์ก็ทรงใช้อยู่ แต่จะใช้เวลาอธิบายข้อธรรมที่มีเนื้อหาลึกซึ้ง
ข้อธรรมที่ทรงแสดง คือบัญญัติ เมื่อเป็นข้อธรรมที่พระพุทธองค์เน้นว่าเป็นข้อธรรมที่ลึกซึ้ง
พระองค์จะ บอกว่า "นี้เป็นบัญญัติทางปรมัตถ์"

ใช่ซะที่ไหน บิดเบื้อนพุทธพจน์ ความหมายที่เป็นพุทธพจน์ หมายความว่า..
มันเกิดภายในกายใจเรา ต้องรู้ลงไปที่กายใจ อย่าไปดูบัญญัติ
เช่นนั้น เขียน:
ปรมัตถ์
อรรถกถา รุ่นแรกๆ ที่บันทึกไว้ในระหว่างพระสูตรในพระไตรปิฏก
จะมี การระบุ อยู่อย่างเดียว คือ นิพพานเป็นปรมัตถ์ เท่านั้น


นี่แหล่ะที่เป็นปัญหาของเช่นนั้น การที่เช่นนั้นไม่เข้าหลักการใช้ภาษา
ซึ่งการใช้ภาษาแต่ล่ะยุคสมัยไม่เหมือนกัน
เช่นนั้นเอาหลักการใช้ภาษาที่ต่างยุคเอาไปผสมปนเปกัน ทำให้ปิดปัญญาในเรื่องนี้

ความต่างของพุทธวจนกับอรรถกถาหรือแม้แต่ภาษาในยุคปัจจุบัน มันมีลายละเอียดต่างๆ
ซึ่งเราต้องรู้เสียก่อน เราจึงจะเข้าใจ .........
พูดง่ายๆก็คือ การจะเอามาเปรียบเทียบกัน เราต้องเข้าใจถึงความต่างของภาษาเสียก่อน

ภาษาที่เป็นพุทธวจนหรอบาลี มันแตกต่างจากภาษาแปลบาลี
บาลีไม่มีประโยค ไม่มีประธาน กริยา กรรม วิเศษณ์และอีกมากมาย
บาลีพุทธวจนมีลักษณะเป็นคำๆ ไม่มีกริยาและกรรม

เนื่องจากเช่นนั้นขาดความเข้าใจในภาษา ก็เลยเข้าใจคำว่า
..."นิพพานเป็นปรมัตถ์" กับ"ปรมัตถ์คือนิพพาน"


เช่นนั้นเข้าใจผิดว่า นิพพานเป็นปรมัตถ์อย่างเดียวอย่างอื่นไม่ใช่
ถ้านิพพานเป็นปรมัตถ์ธรรมอย่างเดียว แล้วทำไมจึงมีพุทธพจน์สองคำนี้
เหตุใด พระพุทธองค์จึงไม่ใช้แค่คำใดคำหนึ่งเพียงคำเดียว

ดังนั้นความหมายของ"นิพพานเป็นปรมัตถ์" ก็คือนิพพานเป็นธรรมอย่างยิ่งหรือสูงสุดในปรมัตถ์
หมายความว่า ยังมีธรรมอื่นๆอีกที่เป็นปรมัตถ์


ในบาลีแปลก็ยังมีระบุไว้ว่า....จิตเป็นบัญญัติในปรมัตถ์


คุณเช่นนั้นครับ ธรรมบางอย่างที่เราไม่รู้ ไม่ใช่ว่ามันไม่มีหรือไม่ใช่นะครับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ก.ค. 2013, 11:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
ปรมัตถ์ เป็นบัญญัติที่พระพุทธองค์ทรงกล่าว เพื่อให้รู้ถึงธรรมะว่า แบ่งเป็นสอง
นั้นก็คือ ปรมัตถ์กับสมมุติ ปรมัตถ์คือสิ่งที่เกิดภายในกายใจ สมมุติคือสิ่งนอกกายใจ


พระสูตรไหน พุทธวัจจนะไหน แสดง โฮฮับ

มั่วๆ นั่งเทียนออกมาอีกล่ะ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ก.ค. 2013, 11:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
อรรถกถา รุ่นแรกๆ ที่บันทึกไว้ในระหว่างพระสูตรในพระไตรปิฏก
จะมี การระบุ อยู่อย่างเดียว คือ นิพพานเป็นปรมัตถ์ เท่านั้น



นี่แหล่ะที่เป็นปัญหาของเช่นนั้น การที่เช่นนั้นไม่เข้าหลักการใช้ภาษา
ซึ่งการใช้ภาษาแต่ล่ะยุคสมัยไม่เหมือนกัน
เช่นนั้นเอาหลักการใช้ภาษาที่ต่างยุคเอาไปผสมปนเปกัน ทำให้ปิดปัญญาในเรื่องนี้

ความต่างของพุทธวจนกับอรรถกถาหรือแม้แต่ภาษาในยุคปัจจุบัน มันมีลายละเอียดต่างๆ
ซึ่งเราต้องรู้เสียก่อน เราจึงจะเข้าใจ .........
พูดง่ายๆก็คือ การจะเอามาเปรียบเทียบกัน เราต้องเข้าใจถึงความต่างของภาษาเสียก่อน

ภาษาที่เป็นพุทธวจนหรอบาลี มันแตกต่างจากภาษาแปลบาลี
บาลีไม่มีประโยค ไม่มีประธาน กริยา กรรม วิเศษณ์และอีกมากมาย
บาลีพุทธวจนมีลักษณะเป็นคำๆ ไม่มีกริยาและกรรม

เนื่องจากเช่นนั้นขาดความเข้าใจในภาษา ก็เลยเข้าใจคำว่า
..."นิพพานเป็นปรมัตถ์" กับ"ปรมัตถ์คือนิพพาน"


คงจะเป็นปัญหาของ อรรถกถาจารย์ ตอนทำสังคยนาด้วยล่ะโฮฮับ
สิ่งนี้ อรรถาจารย์ ท่านระบุเองใน พระสูตรส่วนที่เป็นอรรถกถาต้นๆ ในขุทกนิกาย ไปเปิดหาเอง

อย่ามา มั่วๆ เลื่อนลอย นะโฮฮับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2013, 02:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
แถ อีกโฮฮับ
เมื่อโฮฮับ อ้างว่า "พระพุทธองค์ ทรงกล่าว" นั่นคือการพาดพิงถึง พุทธวัจจนะ
ยกออกมา โฮฮับ อย่าแถ


ใครแถไม่แถรู้อยู่แกใจ อ่านดูก่อนก็จะรู้ว่า ใครกันแน่ที่พาดพิงพุทธวจนและใครทำให้พุทธวจนเสียหาย
ผมบอกเช่นนั้นหลายครั้ง อธิบายจนหน่ายว่าความเห็นผม
เป็นการตีความ เป็นการอธิบายความซึ่งเอามาจากคำสอนของพระพุทธเจ้า
และคำสอนที่ผมเทียบเคียงเป็นภาษาไทย ซึ่งถูกเขียนขึ้นโดย อรรถกถาจารย์
และครูบาอาจารย์ในยุคหลัง

ผมไม่ได้อ่านหรือเทียบเคียงจากบาลีโดยตรง เป็นเพราะผมไม่สันทัดในบาลี
อาจจะอาศัยบ้างแต่ก็เป็นลักษณะตีความโดยมีพจนานุกรมเป็นเครื่องมือ
จากเหตุผลนี้ ทุกครั้งที่เช่นนั้นต้องการหลักฐานที่"เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า"
ผมก็เอาพระไตรปิฎกแปลหรือคำสอนของครูบาอาจารย์มาให้ดู
แล้วผลเป็นอย่าง เช่นนั้นจะต้องอ้างทุกทีว่า....ไม่ใช่พุทธวจน บาลีไม่มีกล่าวไว้

สิ่งที่เช่นนั้นชอบทำที่เป็นลักษณะของอาการ...แถ
คนอื่นแสดงความเห็น เช่นนั้นจะเอาพระไตรปิฎก
พอคนอื่นแสดงอภิธรรมปิฎก เช่นนั้นจะเอาพระสูตร
พอเขาแสดงพระสูตร เช่นนั้นก็จะเอาพระสูตรแปลสยามรัฐ
พอเขาเอาพระสูตรแปลบาลีสยามรัฐมาแสดง เช่นนั้นไม่เอาแล้วจะเอาบาลีแท้ๆ


ถามหน่อยแบบนี้ใครมันแถกันแน่ครับ :b32:

ถ้าเช่นนั้นมีสติคิดพิจารณาให้ดี คนที่ต้องเอาหลักฐานที่เป็นพุทธวจนแท้ๆ
มาให้คนอื่นดู มันเป็นหน้าที่ของเช่นนั้น ไม่ใช่ผม เพราะความเห็นของผม
เป็นเพียงการตีความในคำสอนของพระพุทธเจ้า

แต่เช่นนั้นชอบอ้างพุทธวจนมายกตนข่มท่าน
กล่าวหาว่า ความเห็นของคนอื่นไม่ใช่พุทธวจน
เหตุนี้ เช่นนั้นเองที่จะต้องเอา พุทธวจนมาโชว์ เดี๋ยวจะเป็นการ"ปิดประตูตีแมว"เกินไป
เอาแค่แปลบาลีฉบับใดฉบับหนึ่งมาก็พอ ไม่ต้องเอาบาลีแท้ๆก็ได้ เพราะรู้อยู่ว่า เช่นนั้นก็ไม่ได้
มีความรู้บาลีหรอก แค่อาศัยใช้เป็นโวหารข่มชาวบ้านแค่นั้นเอง


สิ่งที่เช่นจะต้องเอาพุทธวจนมาให้ชาวบ้านดู ก็คือความเห็นนี้.....

เช่นนั้น เขียน:
ปรมัตถ์
เป็นคำที่ใช้ เพื่อแสดงถึง สิ่งที่แสดง ธรรมที่แสดง ว่ามีอรรถ มีเนื้อหา ที่ลึกซึ้งยากแก่การรู้ การเข้าใจ
เป็นคำที่มีใช้ตั้งแต่สมัยพุทธกาล
ซึ่งพระพุทธองค์ก็ทรงใช้อยู่ แต่จะใช้เวลาอธิบายข้อธรรมที่มีเนื้อหาลึกซึ้ง
ข้อธรรมที่ทรงแสดง คือบัญญัติ เมื่อเป็นข้อธรรมที่พระพุทธองค์เน้นว่าเป็นข้อธรรมที่ลึกซึ้ง
พระองค์จะ บอกว่า "นี้เป็นบัญญัติทางปรมัตถ์"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2013, 03:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
โฮฮับ เขียน:
เหรอ!แล้วที่พูดแบบนี้หมายความว่าอะไร......

เช่นนั้นพูดว่า.."ปรมัตถ์
เป็นคำที่ใช้ เพื่อแสดงถึง สิ่งที่แสดง ธรรมที่แสดง ว่ามีอรรถ มีเนื้อหา ที่ลึกซึ้งยากแก่การรู้ การเข้าใจ
เป็นคำที่มีใช้ตั้งแต่สมัยพุทธกาล
ซึ่งพระพุทธองค์ก็ทรงใช้อยู่ แต่จะใช้เวลาอธิบายข้อธรรมที่มีเนื้อหาลึกซึ้ง
ข้อธรรมที่ทรงแสดง คือบัญญัติ เมื่อเป็นข้อธรรมที่พระพุทธองค์เน้นว่าเป็นข้อธรรมที่ลึกซึ้ง
พระองค์จะ บอกว่า "นี้เป็นบัญญัติทางปรมัตถ์"


แล้วที่บอกว่า....นี้เป็นบัญญัติทางปรมัตถ์ อยากให้เช่นนั้นไปดูบาลีแปล
พระสูตร ชราสุตตนิทเทสที่ ๖
ลองไปอ่านดูซิว่า อะไรเป็นบัญญัติทางปรมัตถ์ (ไปอ่านเอาเอง ขี้เกียจเอามาแปะเดี๋ยวแถอีก)


อนุโมทนา ที่ไม่โง่ พอที่จะไม่เปิดพระสูตรอ่าน และเจอ พุทธวัจจนะ "นี้เป็นบัญญัติทางปรมัตถ์"

สิ่งที่เช่นนั้น พาดพิงว่าเป็นพุทธวัจจนะ จึงต้องมีที่มาที่ไปตามพระสูตร
และมีการบันทึกไว้เป็นหลักฐานในพระไตรปิฎก ไม่เลื่อนลอย มั่วๆ นั่งเทียนเขียน

พุทโธ่เอ๋ย! แกล้งมึนอีกแล้ว ที่ผมให้เขาไปอ่าน..."ชราสุตตนิเทส"
ก็จะให้เช่นสำเหนียกว่า ไอ้คำที่เช่นนั้นเอามาใช้ มันมีเหตุมาจากอะไร อะไรคือ....
นี้เป็นบัญญัติทางปรมัตถ์
เช่นนั้นจะต้องอ่านประโยคก่อนหน้าในพระสูตรที่ผมบอก
เขาจะบอกเอาไว้ว่า อะไรเป็นบัญญัติทางปรมัตถ์ มันใช่นิพพานอย่างเดียวที่เช่นนั้นเคยพูดไว้มั้ย

ทั้งหมดทั้งมวล ผมจะแสดงให้รู้ว่า คำพูดของเช่นนั้นไม่มีแก่นสาร ไม่มีหลักการ
วันนี้เป็นอย่างนี้ พรุ่งนี้เป็นอีกอย่าง ชอบกล่าวหาคนอื่น แต่ตัวเองก็ทำเอง

เช่นนั้นคุณจำได้มั้ย คุณเคยพูดอะไรไว้ คุณบอกว่า... ปรมัตถ์คือนิพพานเพียงอย่างเดียว
จิต เจตสิก รูป ไม่ใช่ปรมัตถ์

แล้วคำว่า นี้ในประโยค "นี้เป็นบัญญัติทางปรมัตถ์"
ในชราสุตตนิเทส มันใช่แบบที่เช่นนั้นเอาหัวชนฝาพูดหรือเปล่า กลับไปค่อยๆอ่านน่ะ :b13:


เช่นนั้น เขียน:
สิ่งที่เช่นนั้น พาดพิงว่าเป็นพุทธวัจจนะ จึงต้องมีที่มาที่ไปตามพระสูตร
และมีการบันทึกไว้เป็นหลักฐานในพระไตรปิฎก ไม่เลื่อนลอย มั่วๆ นั่งเทียนเขียน


ก็เพราะเหตุนี้ไง จึงเป็นหน้าที่ของเช่นนั้น ที่จะต้องเอาพุทธวจนมาโชว์ ไม่ใช่ผม
เช่นนั้นแสดงความเห็น ผมก็แสดงความเห็น แต่เช่นนั้นมากล่าวหาผมว่าไม่ใช่ พุทธวจน
ด้วยสามัญสำนึก เช่นนั้นจะต้องเอาพุทธวจนในส่วนของเช่นนั้นมาแสดง
เพราะเช่นนั้นไปกล่าวหาเขา ดังนั้นเช่นนั้นจึงต้องเอาพุทธวจนแท้ๆมาเป็นหลักฐาน
ไม่ใช่มาพูดลอยๆ ถ้าเป็นทางโลกเจอข้อหาหมิ่นประมาทให้การเท็จนะครับ :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2013, 13:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
โฮฮับ เขียน:
เหรอ!แล้วที่พูดแบบนี้หมายความว่าอะไร......

เช่นนั้นพูดว่า.."ปรมัตถ์
เป็นคำที่ใช้ เพื่อแสดงถึง สิ่งที่แสดง ธรรมที่แสดง ว่ามีอรรถ มีเนื้อหา ที่ลึกซึ้งยากแก่การรู้ การเข้าใจ
เป็นคำที่มีใช้ตั้งแต่สมัยพุทธกาล
ซึ่งพระพุทธองค์ก็ทรงใช้อยู่ แต่จะใช้เวลาอธิบายข้อธรรมที่มีเนื้อหาลึกซึ้ง
ข้อธรรมที่ทรงแสดง คือบัญญัติ เมื่อเป็นข้อธรรมที่พระพุทธองค์เน้นว่าเป็นข้อธรรมที่ลึกซึ้ง
พระองค์จะ บอกว่า "นี้เป็นบัญญัติทางปรมัตถ์"


แล้วที่บอกว่า....นี้เป็นบัญญัติทางปรมัตถ์ อยากให้เช่นนั้นไปดูบาลีแปล
พระสูตร ชราสุตตนิทเทสที่ ๖
ลองไปอ่านดูซิว่า อะไรเป็นบัญญัติทางปรมัตถ์ (ไปอ่านเอาเอง ขี้เกียจเอามาแปะเดี๋ยวแถอีก)


อนุโมทนา ที่ไม่โง่ พอที่จะไม่เปิดพระสูตรอ่าน และเจอ พุทธวัจจนะ "นี้เป็นบัญญัติทางปรมัตถ์"

สิ่งที่เช่นนั้น พาดพิงว่าเป็นพุทธวัจจนะ จึงต้องมีที่มาที่ไปตามพระสูตร
และมีการบันทึกไว้เป็นหลักฐานในพระไตรปิฎก ไม่เลื่อนลอย มั่วๆ นั่งเทียนเขียน

พุทโธ่เอ๋ย! แกล้งมึนอีกแล้ว ที่ผมให้เขาไปอ่าน..."ชราสุตตนิเทส"
ก็จะให้เช่นสำเหนียกว่า ไอ้คำที่เช่นนั้นเอามาใช้ มันมีเหตุมาจากอะไร อะไรคือ....
นี้เป็นบัญญัติทางปรมัตถ์
เช่นนั้นจะต้องอ่านประโยคก่อนหน้าในพระสูตรที่ผมบอก
เขาจะบอกเอาไว้ว่า อะไรเป็นบัญญัติทางปรมัตถ์ มันใช่นิพพานอย่างเดียวที่เช่นนั้นเคยพูดไว้มั้ย

ทั้งหมดทั้งมวล ผมจะแสดงให้รู้ว่า คำพูดของเช่นนั้นไม่มีแก่นสาร ไม่มีหลักการ
วันนี้เป็นอย่างนี้ พรุ่งนี้เป็นอีกอย่าง ชอบกล่าวหาคนอื่น แต่ตัวเองก็ทำเอง

เช่นนั้นคุณจำได้มั้ย คุณเคยพูดอะไรไว้ คุณบอกว่า... ปรมัตถ์คือนิพพานเพียงอย่างเดียว
จิต เจตสิก รูป ไม่ใช่ปรมัตถ์

แล้วคำว่า นี้ในประโยค "นี้เป็นบัญญัติทางปรมัตถ์"
ในชราสุตตนิเทส มันใช่แบบที่เช่นนั้นเอาหัวชนฝาพูดหรือเปล่า กลับไปค่อยๆอ่านน่ะ :b13:


เช่นนั้น เขียน:
สิ่งที่เช่นนั้น พาดพิงว่าเป็นพุทธวัจจนะ จึงต้องมีที่มาที่ไปตามพระสูตร
และมีการบันทึกไว้เป็นหลักฐานในพระไตรปิฎก ไม่เลื่อนลอย มั่วๆ นั่งเทียนเขียน


ก็เพราะเหตุนี้ไง จึงเป็นหน้าที่ของเช่นนั้น ที่จะต้องเอาพุทธวจนมาโชว์ ไม่ใช่ผม
เช่นนั้นแสดงความเห็น ผมก็แสดงความเห็น แต่เช่นนั้นมากล่าวหาผมว่าไม่ใช่ พุทธวจน
ด้วยสามัญสำนึก เช่นนั้นจะต้องเอาพุทธวจนในส่วนของเช่นนั้นมาแสดง
เพราะเช่นนั้นไปกล่าวหาเขา ดังนั้นเช่นนั้นจึงต้องเอาพุทธวจนแท้ๆมาเป็นหลักฐาน
ไม่ใช่มาพูดลอยๆ ถ้าเป็นทางโลกเจอข้อหาหมิ่นประมาทให้การเท็จนะครับ :b13:

แถ ไปอีกนะโฮฮับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2013, 15:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
ปรมัตถ์ เป็นบัญญัติที่พระพุทธองค์ทรงกล่าว เพื่อให้รู้ถึงธรรมะว่า แบ่งเป็นสอง
นั้นก็คือ ปรมัตถ์กับสมมุติ ปรมัตถ์คือสิ่งที่เกิดภายในกายใจ สมมุติคือสิ่งนอกกายใจ



โฮฮับ เขียน:
ผมบอกเช่นนั้นหลายครั้ง อธิบายจนหน่ายว่าความเห็นผม
เป็นการตีความ เป็นการอธิบายความซึ่งเอามาจากคำสอนของพระพุทธเจ้า
และคำสอนที่ผมเทียบเคียงเป็นภาษาไทย ซึ่งถูกเขียนขึ้นโดย อรรถกถาจารย์
และครูบาอาจารย์ในยุคหลัง


โฮฮับจะมั่วอย่างไร ก็มั่วไป
จะบอกอย่างไรก็บอกไป
แต่ถ้า มั่วๆ สิ่งที่โฮฮับมั่วๆ "ปรมัตถ์ เป็นบัญญัติที่พระพุทธองค์ทรงกล่าว........ฯลฯ...สมมุติคือสิ่งนอกกายใจ"
โฮฮับ ก็มั่วแน่นอน

ถ้าไม่ยอมรับว่ามั่ว ก็ต้อง ยกพุทธพจน์ออกมา .........
อย่านั่งเทียนต่อไปเลยโฮฮับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2013, 17:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8586


 ข้อมูลส่วนตัว


:b38: การเห็นที่เป็นรูปปรมัตถ์นั้น
คือการเห็นสี หรือ รูปารมณ์
สิ่งที่เป็นรูปปรมัตถ์นั้นจะเกิดตรงที่ตา

ถ้าให้มาถึงใจก็จะเกิดรูปบัญญัติและรูปปรมัตถ์อย่างใดอย่างหนึ่ง
การเห็นนั้นก็จะเห็น คน เห็นสัตว์ เห็นผู้หญิง
เห็นผู้ชาย เห็นต้นไม้ เห็นภูเขา ฯลฯ เป็นต้น :b53:

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2013, 20:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ต้องขออภัยลุงหมาน ที่โพสต์ความเห็นคล่อมไปคล่อมมา ในกระทู้ลุงหมาน :b8:

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 22 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร