วันเวลาปัจจุบัน 20 ก.ค. 2025, 23:02  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ค. 2013, 21:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ก.ค. 2013, 22:08
โพสต์: 92

แนวปฏิบัติ: สมถะกรรมฐาน
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
สิ่งที่ชื่นชอบ: การทำสังฆทาน
ชื่อเล่น: ไผ่
อายุ: 21

 ข้อมูลส่วนตัว


ซื้อพระพุทธรูปที่ขายในร้านบุญน่ะครับ แล้วไปถวาย ต้องมีพิธีปลุกเสกอะไรไหมหรือพระทำเองครับ แล้วได้บุญไหมทำแบบนี้ ขอบคุณมากนะครับ rolleyes

.....................................................
อย่าได้เห็นแก่ความสุข สนุกสนานชั่วครู่คราว
เพราะผลกรรมที่ตามมามันสุดแสนจะ
ทุกข์ทรมาน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ค. 2013, 07:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


บุญ อยู่ที่ เจตนา

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ค. 2013, 20:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5112

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:



การสร้างพระพุทธรูปไว้ในพระศาสนา (ด้วยการถวายก็ดี ร่วมหล่อพระ หรือ ถวายปัจจัยก็ดี)
เข้าใจว่า เป็นลักษณะเดียวกับการสร้าง "สิ่งอันควรเคารพ สิ่งอันทำให้ระลึกถึง"
การสร้างพระพุทธรูปก็เป็นการสร้างสิ่งที่ทำให้ระลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ตัวเราเองสร้างก็สร้างเพราะเคารพศรัทธาในพระพุทธองค์
ผู้อืนที่มีโอกาสได้มาพบเห็นพระพุทธรูป ได้กราบไหว้
เขาก็ได้พุทธานุสติไปด้วย เห็นแล้วระลึกถึงองค์พระศาสดา :b8:


การสร้างสิ่งอันควรเคารพ อันควรบูชานี้ โดยเฉพาะพระพุทธรูป
เป็นอุทเทสิกเจดีย์ คือ เจดีย์สร้างอุทิศพระพุทธเจ้า,
เจดีย์ที่สร้างเป็นเครื่องเตือนจิตให้ระลึกถึงพระพุทธเจ้า



นอกจากนั้นแล้ว

องค์ประกอบในการทำให้ทานนั้นๆมีผลมีอานิสงส์ใหญ่
ก็ยังมีอื่นๆอีก เช่น ไทยทานนั้นสุจริต-ปราณีตอย่างไร
เจตนาในการให้ทานนั้นเป็นอย่างไร
ผู้รับไทยทานนั้นเป็นผู้มีศีลงามหรือไม่อย่างไร เป็นบุคคลอย่างไร
ฯลฯ


หวังว่าจะพอช่วยคลายความสงสัยคุณPaiKung26 ได้บ้างนะคะ :b20:


----

เจดีย์ - ที่เคารพนับถือ, บุคคล สถานที่ หรือวัตถุที่ควรเคารพบูชา,

เจดีย์เกี่ยวกับพระพุทธเจ้ามี ๔ อย่างคือ
๑. ธาตุเจดีย์ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
๒. บริโภคเจดีย์ คือสิ่งหรือสถานที่ที่พระพุทธเจ้าเคยทรงใช้สอย
๓. ธรรมเจดีย์ บรรจุพระธรรม คือ พุทธพจน์
๔. อุทเทสิกเจดีย์ คือพระพุทธรูป;

จาก พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์



--------

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ค. 2013, 11:37 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ธ.ค. 2012, 16:46
โพสต์: 412

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่เยอะเท่า มีศีล 5 ครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ค. 2013, 17:22 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


พระพุทธองค์กล่าวว่า เจตนาเป็นกรรม ท่านมีเจตนาอย่างไร ท่านอยากได้หรือว่าอยากได้ แต่ผมขอแนะนำอย่างนี้นะครับ การจะทำอะไรอย่าหวังผลตอบแทน นั้นแห่ะครับท่านจะได้ผลใหญ่ อานิสงส์ใหญ่ แต่ถาท่านขอผลบุญท่านก็จะได้ผลต่ำลงมา ส่วนอานิสงส์ไม่ได้เลย ควรทำบุญทำทานเพื่อเป็นเครื่องปรุงแต่งจิตเพื่อละอัตตาละความตระหนี่ที่มณทิลในจิตใจเราดีกว่านะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ค. 2013, 18:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ก.ค. 2013, 22:08
โพสต์: 92

แนวปฏิบัติ: สมถะกรรมฐาน
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
สิ่งที่ชื่นชอบ: การทำสังฆทาน
ชื่อเล่น: ไผ่
อายุ: 21

 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องการวางจิตก่อนทำบุญ ขณะทำ และหลังจากทำ ผมพยายามวางจิตเป็นกลาง และปลาบปลื้มบุญครับผม ที่ผมมาถามนี่เพราะอยากรู้ ว่าจะได้บุญเท่าเททองไหม จะได้เลือกทำถูกเพราะอนาคตผมจะขอเป็นเจ้าภาพหรือไม่ก็ซื้อพระพุทธรูปให้วัดครับ รอผมทำงานก่อนประมาณนี้ :b18:

.....................................................
อย่าได้เห็นแก่ความสุข สนุกสนานชั่วครู่คราว
เพราะผลกรรมที่ตามมามันสุดแสนจะ
ทุกข์ทรมาน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ย. 2013, 10:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ย. 2010, 09:07
โพสต์: 761

แนวปฏิบัติ: อานาปาฯ
งานอดิเรก: ศึกษาพุทธธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม
ชื่อเล่น: ปลีกวิเวก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




Pixie_Hollow1.jpg
Pixie_Hollow1.jpg [ 45.87 KiB | เปิดดู 15965 ครั้ง ]
ทางไปสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงตรัสไว้ในทานสูตรว่า...
"ถ้าผู้ใดให้ทานโดยหวังผลบุญจากการให้ทาน เมื่อตายไปจะไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา"
"ดูกรสารีบุตร ในการให้ทานนั้น บุคคลมีความหวังให้ทานมีจิตผู้พันในผลแห่งทานแล้วให้ทาน
มุ่งการสั่งสมทาน ให้ทาน ด้วยคิดว่า เราตายไปแล้วจักได้เสวยผลแห่งทานนี้ เขาผู้นั้น เมื่อตายไปย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นจาตุมหาราช"

ทางไปสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
สร้างเสบียงไว้นำทางคือ บุญกุศล พยายามทำตนให้เป็นคนดีมีศีลธรรมห้ามตนไม่ให้ทำกรรมอันหยาบช้าลามกอย่าให้บังเกิดความสกปรกแห่งกาย วาจา ใจ
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงตรัสไว้ในทานสูตรว่า...
"ถ้าผู้ใดทำทานโดยไม่หวังผลบุญของการทำทาน แต่ทำทานโดยคิดว่า การทำทานนั้นเป็นสิ่งที่ดีงามเมื่อตายลงย่อไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์"
"ดูกร สารีบุตร ในการให้ทานนั้น บุคคลไม่มีความหวังให้ทาน ไม่มีจิตผูกพันในผลแห่งทาน แล้วให้ทานไม่มุ่งการสั่งสมให้ทาน ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า ตายไปแล้ว เราจักได้เสวยผลทานนี้
แต่ให้ทานด้วยความคิดว่า การให้ทาน เป็นการกระทำที่ดีเขาผู้นั้น ให้ทานด้วยอาการอย่างนี้แล้ว เมื่อทำการกิริยาตายไปย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาทั้งหลายในชั้นดาวดึงส์สวรรค์"

ทางไปสวรรค์ชั้นยามา
ต้องพยายามสร้างบุญ ต้องเป็นผู้หนักแน่นในการบำเพ็ญบุญ
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงตรัสไว้ในทานสูตรว่า...
"ถ้าผู้ใดทำทานโดยไม่คิดว่าเป็นการทำดี แต่คิดว่าบิดา มารดา ปู่ ย่า ตา ยาย
ได้เคยทำบุญทำทานมาโดยตลอด เราก็ควรได้ทำตามประเพณีที่ท่านเคยทำมาถ้าผู้นั้นให้ทานด้วยอาการอย่างนี้แล้ว เมื่อทำกาลกิริยาตายไปย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเหล่าเทวดาทั้งหลายในสวรรค์ชั้นยามา"
"ดูกร เธอผู้เห็นภัยในวัฏสงสารทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้กระทำบุญกิริยาวัตถุที่สำเร็จด้วยศีลประมาณยิ่ง แต่ไม่เจริญบุญกิริยาวัตถุที่สำเร็จด้วยภาวนาเลยเมื่อถึงกาลกิริยาตายไปแล้ว เขาย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นยามา"

ทางไปสวรรค์ชั้นดุสิต
ต้องอุตส่าห์พยายามสร้างบุญกุศล ชอบสดับตรับฟังพระธรรมเทศนา เพื่ออบรมปัญญาให้เจริญผ่องใสไม่หวั่นไหวโยกคลอน ในการประกอบกุศล ไม่เป็นผู้มัวเมาประมาทในวัยและชีวิตของตน เร่งสร้างกุศล เช่นบำเพ็ญทาน และรักษาศีลเป็นนิตย์

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงตรัสไว้ในทานสูตรว่า...
"ผู้ใดให้ทานโดยไม่คิดว่าทำตามบิดา มารดา ปู่ ย่า ตา ยาย ที่เคยทำมาจนเป็นประเพณี
แต่ให้ทานโดยคิดว่าเราหุงหากิน สมณพราหมณ์เหล่านั้นไม่ได้หุงหากิน ถ้าเราไม่ให้ทาน
ก็เป็นสิ่งไม่ควรอย่างยิ่งเมื่อเขาตายลง ก็ย่อมไปบังเกิดเป็นเทวดาในสวรรค์ชั้นดุสิต"

ทางไปสวรรค์ชั้นนิมมานรดี
ผู้ที่จำอุบัติในสวรรค์ชั้นนี้ ต้องเพียรบริจาคทานเป็นอันมาก อย่างเสมอต้นเสมอปลาย จิตใจบริสุทธิ์รักษาศีลไม่ขาดตกบกพร่อง ต้องอุตส่าห์ก่อสร้างกองบุญกุศลให้ยิ่งใหญ่ อบรมจิตใจของตนให้บริสุทธิ์ผุดผ่องไม่ให้สกปรกลามกมีมลทิน พยายามรักษาศีลไม่ให้ขาด มีใจสมบูรณ์ด้วยศีล ผลวิบากแห่งทานและศีลอันสูงส่งเท่านั้น จึงจะบันดาลให้ไปอุบัติเกิดในสวรรค์ชั้นนี้ได้
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงตรัสไว้ในทานสูตรว่า...
"ผู้ใดทำทานโดยไม่คิดว่าเราหุงหากิน แต่สมณพราหมณ์เหล่านั้น ไม่ได้หุงหากิน
เราจะไม่ให้ทานก็ไม่บังควรอย่างยิ่ง แต่ได้คิดว่าเราจะให้ทานเหมือนอย่างฤาษีทั้งหลาย
ที่ได้กระทำมาในอดีต เมื่อตายลงย่อมไปบังเกิดเป็นเทวดา ในสวรรค์ชั้นนิมมานรดี"

ทางไปสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตตี
ผู้ที่จะมาอุบัติในสวรรค์ชั้นนี้ ต้องอุตส่าห์ก่อสร้างกองการกุศลให้ยิ่งใหญ่
อบรมจิตใจให้สูงส่งด้วยคุณธรรม เมื่อจะให้ทานรักษาศีล ก็ต้องบำเพ็ญอย่างจริงจัง
ด้วยศรัทธาอย่างยิ่งยวดและถูกต้อง และผลวิบากแห่งทานและศีลอันสูงยิ่งเท่านั้น
จึงจะบันดาลให้ไปอุบัติสวรรค์ชั้นนี้ได้
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงตรัสไว้ในทานสูตรว่า...
"ผู้ใดทำทาน โดยไม่ได้คิดว่าทำทานตามฤาษีในอดีตที่เคยทำมา แต่คิดว่าทำทาน
เพื่อให้จิตเกิดความปลาบปลื้มปิติในบุญที่ทำ เมื่อตายลง ย่อมไปเกิดเป็นเทวดา
ในสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตตี"

ทางไปพรหมโลก
เป็นภพภูมิที่อยู่ของผู้ที่เจริญสมาธิจนได้ ฌาณ ซึ่งมีอยู่อีก 20 ชั้น

.....................................................
วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน โส เสฏฺโฐ เทวมานุสเส
ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้คู่ความดี คือผู้ที่ประเสริฐสุดในหมู่มนุษย์และเทวดา
วรรคทอง วรรคธรรม โดยท่าน ว.วชิรเมธี
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2013, 14:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
...ทานเป็นพื้นฐาน...เพราะคนทุศีลก็ให้ทานได้...ถึงมีคติว่าไม่มีใครดีตลอดไม่มีใครเลวตลอด...
...ส่วนใหญ่คนทั่วไปจะเข้าใจว่าต้องใช้ทรัพ์สิน เงิน ทอง ข้าวของในการทำบุญทำทานเท่านั้น...
...การอุทิศตนในการทำงานกุศลอย่างเป็นมัคทายกนี่ก็เป็นสิ่งที่ขวนขวายในกิจที่พระท่านทำไม่ได้...
...ขวนขวายในกิจที่ชอบ...แม้ไม่ได้เป็นมัคทายก...เราก็ไปจำวัดอุทิศตนทำประโยชน์ช่วยงานวัดได้...
:b4: :b4:
...เพราะการรักษาศีลเป็นการฝึกขัดเกลาจิตใจไม่ให้ละเมิด ทำผิดโดยเจตนาเบียดเบียนตนเองและผู้อื่น...
...เมื่อเราไปจำวัดก็หมายถึงขณะนั้นเราไม่เบียดเบียนใคร...แล้วยังได้ฝึกตนเองให้รู้จักทำความเพียร...
...เพราะการไปจำวัด ทุกคนต้องฝึกพึ่งตนเอง ทำกิจในการสวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ บำเพ็ญประโยชน์...
...เพราะส่วนใหญ่ไปคนเดียว คนในครอบครัวไม่ค่อยได้ไปด้วย ซึ่งก็เป็นปัญญาในแต่ละบุคคลไม่เท่ากัน...
:b12: :b17:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2013, 15:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
...ทำทาน ศีล ภาวนา แล้วก็พัฒนาให้มั่นคงเจริญขึ้นเป็นศีล สมาธิ ปัญญา...
...เพราะปัญญาเป็นพลังงานรูปหนึ่งในจักรวาลที่ช่วยให้รอดจากวัฏฏวน...
...ฉะนั้นการทำทาน ศีล ภาวนา ทำด้วยศรัทธาที่มั่นคงค่อยๆสะสมเป็นปัญญา...
...การให้ทานที่ไม่หวังผลจึงได้อานิสงส์มากเรียกว่าทานขั้นสูงเรียกว่า จาคะ...
:b1:
...การถวายพระพุทธรูปก้เป็นการสืบทอดวัฒนธรรมคือสิ่งเคารพแทนพระพุทธเจ้า...
...ต้องทำความเข้าใจว่าการกราบไหว้พระพุทธเจ้าพระองค์นั้นที่ปรินิพพานนานมาแล้ว...
...พระพุทธรูปเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ...ที่สำคัญต้องสร้างพระภายในจิตใจเราเป็นพระสงฆ์ให้ได้...
...กราบพระพุทธรูปแทนพระพุทธเจ้า...ตัวเราปฏิบัติตามคำสอนได้เราก็คือพระสงฆ์ผู้สืบทอด...
...ก็การปฏิบัตินั้นจักทำให้ธรรมเข้าสูจิตใจของเราเอง...ทั้งนี้ก็ขึ้นกับผู้ปฏิบัติว่าจะมั่นคงเพียงใด...
:b20:
...สิ่งที่ทำไว้ไม่ว่าการให้ทาน การรักษาศีล และการภาวนา เป็นสิ่งที่ติดตามไปในปรโลก...
...เมื่อสิ้นลมหายใจทุกสิ่งที่เคยมีก็เป็นโมฆะ...ไม่มีใครย้อนกลับมาทำได้...เพราะสุดวิสัยไปแล้ว...
...รีบๆทำเสียตั้งแต่ยังมีลมหายใจอยู่...ทรัพย์สิน วัตถุ เงินทองอำนวยความสะดวกตอนมีชีวิตเท่านั้น...
...จงมีพระรัตนตรัยเป็นที่ยึดเหนี่ยวเถิด...ขอให้ทุกท่านเจริญในพระธรรมคำสอนยิ่งๆขึ้นไปเทอญ...สาธุ...
:b44: :b44:
:b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร