วันเวลาปัจจุบัน 27 ส.ค. 2025, 05:02  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 63 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 27 ก.ย. 2013, 14:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รอพี่โฮอยู่้ ส่งข่าวด้วยขอรับ กรัชกายจะไปประเด็นต่อ "ปฏิปทา" :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 28 ก.ย. 2013, 17:25 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


s004 s004
"ไม่ถือสา ก็ไม่เป็นไร ไม่อินังขังขอบก็ไม่ทุกข์ใจ"

ลุงโฮจะไปไหนมันเป็นเรื่องของลุงโฮ.........อนัตตา......บังคับบัญชาไม่ได้ ไร้แก่นสารตัวตน อยู่บนฐานปัจจุบัน มุ่งมั่นเดินหน้าต่อ บนเส้นทางพุทธธรรม โดยไม่หยุดย่นย่อ ถ้าหากไม่อ่อนท้อก็จักถึงธรรมเร็ววัน
:b8:


โพสต์ เมื่อ: 28 ก.ย. 2013, 18:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
1. ทุกฺขํ อริยสจฺจํ ปริญฺเญยฺยํ

2. ทุกฺขสมุทโย อริยสจฺจํ ปหาตพฺพํ

3. ทุกฺขนิโรโธ อริสจฺจํ สจฺฉิกาตพฺพํ

4. ทุกฺขนิโรธคามินีปฏิปทา อริยสจฺจํ ภาเวตพฺพํ

ที่นำมานั่นจะชี้ให้ดูความหมาย "ปฏิปทา" ตัวนี้แหละเหมือนประตูที่เปิดเข้าไปให้รู้ความหมาย "มรรค" ที่เราพูดกันติดปาก


ทำความเข้าใจคร่าวๆ

อริยสัจ 4 เรียกเข้าใจง่ายๆ

1. ทุกข์

2. สมุทัย

3. นิโรธ

4. มรรค <= => ปฏิปทา

การปฏิบัติ ข้อปฏิบัติ วิธีปฏิบัติ หนทาง หรือวิธีดำเนินชีวิตให้บรรลุดถึงความดับทุกข์ มีศัพท์เฉพาะว่า “ปฏิปทา”

องค์ประกอบของ มรรค มี 8 อย่าง ได้แก่ สัมมาทิฏฐิ ฯลฯ สัมมาสมาธิ เรียกว่า องค์ประกอบของมรรค

ขณะปฏิบัติ (ถูกต้อง) องค์ประกอบทั้ง 8 ของมรรค ก็ทำงานง่วนอยู่ภายใน เพื่อรู้เข้าใจธรรมชาติสามข้อต้น

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 28 ก.ย. 2013, 18:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เสริมอีกหน่อย


การปฏิบัติ ข้อปฏิบัติ หรือวิธีปฏิบัติ มีศัพท์เฉพาะว่า “ปฏิปทา” ในที่นี้มีความหมายจำเพาะ หมายถึง ข้อปฏิบัติ วิธีปฏิบัติ หนทาง วิธีการ หรือวิธีดำเนินชีวิต ให้บรรลุถึงความดับทุกข์


ปฏิปทานี้ พระพุทธเจ้าได้ทรงกำหนดวางไว้แล้ว โดยสอดคล้องกับกระบวนการดับทุกข์ ที่เป็นมัชเฌนธรรม และทรงเรียกปฏิปทานี้ว่า มัชฌิมาปฏิปทา แปลว่า ข้อปฏิบัติมีในท่ามกลาง หรือเรียกง่ายๆว่า ทางสายกลาง หมายถึง ข้อปฏิบัติ วิธีการ หรือทางดำเนินชีวิตที่เป็นกลางๆ ตามธรรมชาติ สอดคล้องกับกฎธรรมชาติ พอเหมาะพอดีที่จะให้เกิดผลตามกระบวนการดับทุกข์ของธรรมชาติ ไม่เอียงเข้าไปหาขอบสุดสองข้าง ที่ทำให้ติดพัวพันอยู่หรือเฉไถลออกไปนอกทาง


มัชฌิมาปฏิปทา มีชื่อเรียกอย่างง่ายๆว่า มรรค ซึ่งแปลว่า ทาง ทางนี้มีส่วนประกอบ ๘ อย่าง และทำให้ผู้ดำเนินตามเป็นอารยชน จึงเรียกชื่อเต็มว่า อริยอัฏฐังคิกมรรค หรือ อารยอัษฎางคิกมรรค

มรรค หรือมรรคานี้ เป็นวิธีปฏิบัติของมนุษย์ ที่จะทำให้เกิดผลตามกระบวนการดับทุกข์ของธรรมชาติ คือ ทำให้เหตุปัจจัยต่างๆ ส่งผลสืบทอดกันไปจนสำเร็จเสร็จสิ้นตามกระบวนการของธรรมชาตินั้น

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 29 ก.ย. 2013, 22:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
:b27:
:-)โมทนากับการอธิบายเรื่อง มัชฌิมาปฏิปทา ครับ


โพสต์ เมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 04:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b8:
:b27:
:-)โมทนากับการอธิบายเรื่อง มัชฌิมาปฏิปทา ครับ


ไม่ใช่กรัชกายอธิบายนะครับ พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) ท่านอธิบายไว้ในหนังสือพุทธธรรม :b8: กรัชกายอ่านแล้วเข้าใจ จึงนำมาบอกต่อ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 20:23 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b12:
ลองฝึกอธิบายเป็นสำนวนของตนเองเสียบ้างซิครับ จะได้รู้จักโต จะได้ออกมาทำเองเป็น ไม่ต้องคอยค้ดลอกตำรามาคุยกันแต่เพียงฝ่ายเดียว

วิชาต้มขาหมูอร่อย ถ้าไม่เอามาทดสอบทดลองต้มเองชิมเองจนได้รสอร่อยถึงที่ แม้จะจำหลักทฤษฎีจนได้ทุกบันทัดทุกตัวอักษร เอาไปบอกเล่าต่อได้อย่างไม่มีผิดเพี้ยน แต่ไม่ได้ลงมือพิสูจจ์ทำจริงด้วยตนเองแล้ว นอกจากจะไม่มีโอกาสได้ลิ้มขาหมูอร่อยแล้ว
ยังจะถ่ายทอดวิชาทำขาหมูให้ผู้อื่นฟังอย่างน่าจืดชืดเบื่อหน่าย ไร้คำพูดและเทคนิคพลิกแพลงนอกตำรา ทั้งจะไม่มีความกล้าและอาจหาญในการประกาศความรู้ด้วย
tongue


โพสต์ เมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 20:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b12:
ลองฝึกอธิบายเป็นสำนวนของตนเองเสียบ้างซิครับ จะได้รู้จักโต จะได้ออกมาทำเองเป็น ไม่ต้องคอยค้ดลอกตำรามาคุยกันแต่เพียงฝ่ายเดียว

วิชาต้มขาหมูอร่อย ถ้าไม่เอามาทดสอบทดลองต้มเองชิมเองจนได้รสอร่อยถึงที่ แม้จะจำหลักทฤษฎีจนได้ทุกบันทัดทุกตัวอักษร เอาไปบอกเล่าต่อได้อย่างไม่มีผิดเพี้ยน แต่ไม่ได้ลงมือพิสูจจ์ทำจริงด้วยตนเองแล้ว นอกจากจะไม่มีโอกาสได้ลิ้มขาหมูอร่อยแล้ว
ยังจะถ่ายทอดวิชาทำขาหมูให้ผู้อื่นฟังอย่างน่าจืดชืดเบื่อหน่าย ไร้คำพูดและเทคนิคพลิกแพลงนอกตำรา ทั้งจะไม่มีความกล้าและอาจหาญในการประกาศความรู้ด้วย



เห็นคุณอโศกกล่าวอนุโมทนา รู้สึกเขินจึงบอกที่มา พอบอกที่มา ก็ว่าไม่รู้จักโตสะที กรัชกายจึงร้องว่า เราจะโตๆๆ แต่จะค่อยๆ โตตามฤดูกาล ไม่อยากเป็นมะม่วงจำบมขอรับ :b1:

ปอลอลิง. อยากให้คุณอโศกมีหนังสือพุทธธรรมประจำตัวสักเล่มครับ ทางวัดแจกฟรีเป็นธรรมทาน นี่พูดจริงๆ นะครับเนี่ย ไม่อยากให้เดามากเกินไปเลอะเทอะ :b8:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 01 ต.ค. 2013, 08:19 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
:b8:
แจกฟรีหรือครับ
กรุณาส่งไปที่
ศูนย์วิปัสสนากรรมฐานพระธาตุห้วยบอนเก่า
บ.ห้วบอน
ม.13
ต.เวียง
อ.ฝาง
จ.เชียงใหม่
50110
โทร. 08 9838 6213

ขอบพระคุณล่วงหน้ามากๆครับ
:b8:


โพสต์ เมื่อ: 01 ต.ค. 2013, 08:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แจกฟรี แต่ต้องไปรับเองที่วัดญาณเวศกวัน วัดอยู่ติดกับพุทธมณฑล มีโอกาสไปเที่ยวพุทธมณฑลเข้าไปสิครับ

คุณอโศก เคยฟังเรื่องเล่าเรื่อง "ธรรมะจีบสาว" มั้ยครับ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 02 ต.ค. 2013, 22:14 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
แจกฟรี แต่ต้องไปรับเองที่วัดญาณเวศกวัน วัดอยู่ติดกับพุทธมณฑล มีโอกาสไปเที่ยวพุทธมณฑลเข้าไปสิครับ

คุณอโศก เคยฟังเรื่องเล่าเรื่อง "ธรรมะจีบสาว" มั้ยครับ :b1:

:b8:
ยังครับเล่าให้ฟังหน่อย จะตั้งตาคอยครับ ขอบคุณมากครับ
:b27:


โพสต์ เมื่อ: 03 ต.ค. 2013, 08:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
แจกฟรี แต่ต้องไปรับเองที่วัดญาณเวศกวัน วัดอยู่ติดกับพุทธมณฑล มีโอกาสไปเที่ยวพุทธมณฑลเข้าไปสิครับ

คุณอโศก เคยฟังเรื่องเล่าเรื่อง "ธรรมะจีบสาว" มั้ยครับ :b1:


ยังครับเล่าให้ฟังหน่อย จะตั้งตาคอยครับ ขอบคุณมากครับ



ธรรมะจีบสาว


“เอ็งรักเธอชอบเธอก็จีบสิว่ะ”

“ผมจีบสาวไม่เป็นพี่” นายแดงตอบ

นายดำให้คำปรึกษาอีก ปัดโธ่เอ้ย เอ็งก็พูดไปซี่ พูดไปเรื่อยๆ มันต้องมีสักคำ-สักประโยคน่า ที่ถูกใจเธอตรงใจสาว (คือให้พูดไปเรื่อยๆ) ฉันใด

นักธรรมบ้านเรา ก็ฉันนั้น พูดธรรม (คิดพินิจข้อธรรม) เหมือนธรรมะจีบสาว คือพูดไปเรื่อยๆ ปรุงไปเรื่อยๆ เติมนั่นนิดนี่หน่่อย คิดอะไรได้ก็ว่าไปพูดพูดไปเรื่อยๆ มันต้องมีสักคำ-สักประโยคน่า ที่ตรงธรรม ตรงใจ ตรงความรู้สึก :b20:

"ไม่ถือสา ก็ไม่เป็นไร ไม่อินังขังขอบ ก็ไม่ทุกข์ใจ"

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 25 เม.ย. 2014, 21:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b12:
ณ.วันนี้ กรัชกายร่ายยาว จีบสาวได้กี่คนแล้วน้อ..........
s006


โพสต์ เมื่อ: 25 เม.ย. 2014, 21:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




1382287104-1367332977-o.gif
1382287104-1367332977-o.gif [ 16.55 KiB | เปิดดู 2735 ครั้ง ]
asoka เขียน:
:b12:
ณ.วันนี้ กรัชกายร่ายยาว จีบสาวได้กี่คนแล้วน้อ..........
s006


เอ้าไปขุดกระดูก อินุงนังขังขอบมาทำไม เขาไปเกิดแล้ว คิกๆๆ

ดูรึเราถามเมื่อ

อ้างคำพูด:
กรัชกายถามเมื่อ

เมื่อ: 03 ต.ค.2013, 8:26 am

อโศกตอบ

เมื่อ: 25 เม.ย.2014, 9:15 pm



รอข้าม พ.ศ. เลย :b1:

นึกถึงพุ่มพวงเลยเรา คิกๆๆ

http://www.youtube.com/watch?v=W59JdArDio8

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสต์ เมื่อ: 26 เม.ย. 2014, 13:25 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b12: :b12: :b12:
อารมณ์ดีแล้วเน๊าะ กรัชกาย

คนแก่นี่ชอบคุยเรื่องอดีตไม่ใช่หรือ เพราะเรื่องที่กรัชกายคุยอยู่ทุกวันนี้ก็ล้วนไปขุดคุ้ยอดีตคำถามของคนโน้นคนนี้มาซักมาถาม ข้อธรรมก็เอามาจากอดีต สองพันกว่าปีมาอ้าง เหตุที่ได้คุยได้สนทนากันทุกวันนี้ก็ล้วนอดีตเสียเป็นส่วนใหญ่ หาที่เป็นปัจจุบันธรรมปัจจุบันอารมณ์จริงๆได้น้อยมาก ไม่ใช่หรือ

การยกกระทู้อดีตมาให้ขำนี้ก็เพื่อชี้ให้เห็นว่า อดีตและอนาคตนี่เป็นปัจจัยให้ผู้คนคิดฟุ้งซ่าน สังขารต่อเนื่องไปไม่จบสิ้น ยังไงล่ะ พ่อนักวิชาการใหญ่

:b12: :b12: :b12: :b12:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 63 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร