วันเวลาปัจจุบัน 20 ก.ค. 2025, 21:25  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 129 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5 ... 9  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ต.ค. 2013, 16:44 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว




image.jpg
image.jpg [ 74.06 KiB | เปิดดู 5836 ครั้ง ]
การเกิดเป็นทุกข์จริงๆ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ต.ค. 2013, 17:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไปติดแค่การเกิดเป็นทุกข์อีกแระ เดี๋ยวก็เลี้ยวไปดังว่าชาติหน้าไม่อยากเกิดแล้ว เกิดมาแล้วทุกข์ว่างั้น

แทนที่จะคิดกลับว่า เกิดมาแล้วทำอย่างไรจะให้พ้นจากความทุกข์ หรือแก้ทุกข์แก้ปัญหาได้ เปล่า ไปคิดจินตนาการไปในอนาคตโน่นว่าจะทำยังงั้น ไม่ทำยังงี้ จะเป็นนั่้น ไม่เป็นนี่ เพลินไป

สหายอเมสซิ่ง ตัวหนังสือนี้ว่าไง หรือหมายถึงอะไร "สงฺขิเตน ปญฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขา"

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ต.ค. 2013, 17:40 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ไปติดแค่การเกิดเป็นทุกข์อีกแระ เดี๋ยวก็เลี้ยวไปดังว่าชาติหน้าไม่อยากเกิดแล้ว เกิดมาแล้วทุกข์ว่างั้น

แทนที่จะคิดกลับว่า เกิดมาแล้วทำอย่างไรจะให้พ้นจากความทุกข์ หรือแก้ทุกข์แก้ปัญหาได้ เปล่า ไปคิดจินตนาการไปในอนาคตโน่นว่าจะทำยังงั้น ไม่ทำยังงี้ จะเป็นนั่้น ไม่เป็นนี่ เพลินไป

สหายอเมสซิ่ง ตัวหนังสือนี้ว่าไง หรือหมายถึงอะไร "สงฺขิเตน ปญฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขา"
แปลว่าไรพี่กรัช


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ต.ค. 2013, 20:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ไปติดแค่การเกิดเป็นทุกข์อีกแระ เดี๋ยวก็เลี้ยวไปดังว่าชาติหน้าไม่อยากเกิดแล้ว เกิดมาแล้วทุกข์ว่างั้น

แทนที่จะคิดกลับว่า เกิดมาแล้วทำอย่างไรจะให้พ้นจากความทุกข์ หรือแก้ทุกข์แก้ปัญหาได้ เปล่า ไปคิดจินตนาการไปในอนาคตโน่นว่าจะทำยังงั้น ไม่ทำยังงี้ จะเป็นนั่้น ไม่เป็นนี่ เพลินไป

สหายอเมสซิ่ง ตัวหนังสือนี้ว่าไง หรือหมายถึงอะไร "สงฺขิตฺเตน ปญฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขา"
แปลว่าไรพี่กรัช



เห็นท้าอยู่ว่า มีอะไรให้ยกมาเลย พอเอามาให้ดูกลับถามว่าอะไร ไม่เข้าใจ :b1:


amazing เคยสวดธรรมจักรไหม ?

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ต.ค. 2013, 20:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สนทนากับพี่โฮ และamazing แล้วเมื่อยมือ :b1:

เอามาให้ดูอีกหน่อย ดูสิอะไร?

ภิกษุทั้งหลาย ก็นี้แลคือทุกขอริยสัจ ความเกิด ก็เป็นทุกข์ ความแก่ ก็เป็นทุกข์ ความเจ็บ ก็เป็นทุกข์ ความตาย ก็เป็นทุกข์ ความประจวบกับสิ่งอันไม่เป็นที่รัก ก็เป็นทุกข์ ความพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก ก็เป็นทุกข์ ปรารถนาสิ่งใด ไม่ได้สิ่งนั้น นั่นก็เป็นทุกข์ โดยย่อ อุปาทานขันธ์ 5 เป็นทุกข์


ดูชัดๆ คำสรุปความหมายของตอนลงท้ายที่ว่า โดยย่อ อุปาทานขันธ์ ๕ เป็นทุกข์ (สงฺขิตฺเตน ปญฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขา) ตรงนี้เป็นสาระสำคัญ คือที่ว่านั่นก็ทุกข์ นี่ก็ทุกข์นั้น รวมความแล้ว ก็อยู่แค่ที่ว่า อุปาทานขันธ์ ๕ เป็นทุกข์


พูดถึงชีวิต ๕ กองอีกกกก :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ต.ค. 2013, 03:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ภิกษุทั้งหลาย ก็นี้แลคือทุกขอริยสัจ ความเกิด ก็เป็นทุกข์ ความแก่ ก็เป็นทุกข์ ความเจ็บ ก็เป็นทุกข์ ความตาย ก็เป็นทุกข์ ความประจวบกับสิ่งอันไม่เป็นที่รัก ก็เป็นทุกข์ ความพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก ก็เป็นทุกข์ ปรารถนาสิ่งใด ไม่ได้สิ่งนั้น นั่นก็เป็นทุกข์ โดยย่อ อุปาทานขันธ์ 5 เป็นทุกข์

ดูชัดๆ คำสรุปความหมายของตอนลงท้ายที่ว่า โดยย่อ อุปาทานขันธ์ ๕ เป็นทุกข์ (สงฺขิตฺเตน ปญฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขา) ตรงนี้เป็นสาระสำคัญ คือที่ว่านั่นก็ทุกข์ นี่ก็ทุกข์นั้น รวมความแล้ว ก็อยู่แค่ที่ว่า อุปาทานขันธ์ ๕ เป็นทุกข์

พูดถึงชีวิต ๕ กองอีกกกก :b32:


ได้แต่จ้อไปวันๆ เหมือนคนขี้เหงาหาเพื่อนคุยไร้แก่นสาร
บอกให้ฟังสั้นๆน่ะกรัชกาย ..........ทุกข์อริยสัจจ์กับเป็นทุกข์ มันคนล่ะเรื่อง
ทุกขอริยสัจจ์คือปฏิจจสมุบาท ส่วนเป็นทุกข์คือไตรลักษณ์

สรุปปฏิจจสมุบาทคือทุกข์...(เกิด แก่ เจ็บ ตาย=ชีวิต)
ไตรลักษณ์เป็นเหตุให้เกิดอุปาทานขันธ์ ไตรลักษณ์จึงเป็นสมุทัยเหตุแห่งทุกข์
หรือเรียกอีกอย่างว่ากองทุกข์ มันเป็นเหตุแห่งการเกิด แก่ เจ็บ ตายเป็นชีวิตในชาติต่อไป


พูดสั้นๆ รู้ดีว่าพูดยาวไปก็เปล่าประโยชน์
เดี๋ยวก็เอาคำอธิบายมาสร้างปัญหาถามแบบไม่ต้องการคำตอบ :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ต.ค. 2013, 05:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




image.jpg
image.jpg [ 74.06 KiB | เปิดดู 5763 ครั้ง ]
โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ภิกษุทั้งหลาย ก็นี้แลคือทุกขอริยสัจ ความเกิด ก็เป็นทุกข์ ความแก่ ก็เป็นทุกข์ ความเจ็บ ก็เป็นทุกข์ ความตาย ก็เป็นทุกข์ ความประจวบกับสิ่งอันไม่เป็นที่รัก ก็เป็นทุกข์ ความพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก ก็เป็นทุกข์ ปรารถนาสิ่งใด ไม่ได้สิ่งนั้น นั่นก็เป็นทุกข์ โดยย่อ อุปาทานขันธ์ 5 เป็นทุกข์

ดูชัดๆ คำสรุปความหมายของตอนลงท้ายที่ว่า โดยย่อ อุปาทานขันธ์ ๕ เป็นทุกข์ (สงฺขิตฺเตน ปญฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขา) ตรงนี้เป็นสาระสำคัญ คือที่ว่านั่นก็ทุกข์ นี่ก็ทุกข์นั้น รวมความแล้ว ก็อยู่แค่ที่ว่า อุปาทานขันธ์ ๕ เป็นทุกข์

พูดถึงชีวิต ๕ กองอีกกกก :b32:


ได้แต่จ้อไปวันๆ เหมือนคนขี้เหงาหาเพื่อนคุยไร้แก่นสาร
บอกให้ฟังสั้นๆน่ะกรัชกาย ..........ทุกข์อริยสัจจ์กับเป็นทุกข์ มันคนล่ะเรื่อง
ทุกขอริยสัจจ์คือปฏิจจสมุบาท ส่วนเป็นทุกข์คือไตรลักษณ์

สรุปปฏิจจสมุบาทคือทุกข์...(เกิด แก่ เจ็บ ตาย=ชีวิต)
ไตรลักษณ์เป็นเหตุให้เกิดอุปาทานขันธ์ ไตรลักษณ์จึงเป็นสมุทัยเหตุแห่งทุกข์
หรือเรียกอีกอย่างว่ากองทุกข์ มันเป็นเหตุแห่งการเกิด แก่ เจ็บ ตายเป็นชีวิตในชาติต่อไป


พูดสั้นๆ รู้ดีว่าพูดยาวไปก็เปล่าประโยชน์
เดี๋ยวก็เอาคำอธิบายมาสร้างปัญหาถามแบบไม่ต้องการคำตอบ :b32:



กระทู้นี้นับว่าสุดยอด คือ อเมสซิง นำรูปนาม (ชีวิต) ซึ่งกำลังเกิดอยู่กลางทุ่งหญ้า แล้วชีวิต (นามรูป) นี่แหละเป็นที่รวมของธรรมะที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ไว้ทุกระดับ ตั้งแต่ระดับต้นๆพื้นๆ ซึ่งใช้สอนชาวบ้าน ทั้งระดับสูงสุดที่เรียกปรมัตถธรรม รวมอยู่ที่ชีวิตเดียวนี้ บลาๆๆ

อย่างโฮฮับนี่ไม่เข้าใจธรรมะ เพราะมองธรรมะพ้นจากชีวิตไป เพราะมิจฉาทิฏฐิตัวเดียว :b1:

ตอนต่อไป จะนำมาให้ดูว่า ธรรมะทุกระดับรวมที่ชีวิตนี้อย่างไร :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ต.ค. 2013, 05:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ขันธ์5

รูป
เวทนา ................สุข ทุกข์ อยู่ที่นี่
สัญญา
สังขาร................. สาเหตุแห่งทุกข์ อยู่ที่นี่ จะดับทุกข์ ก็ที่นี่เหมือนกัน
วิญญาณ

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ต.ค. 2013, 06:21 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ภิกษุทั้งหลาย ก็นี้แลคือทุกขอริยสัจ ความเกิด ก็เป็นทุกข์ ความแก่ ก็เป็นทุกข์ ความเจ็บ ก็เป็นทุกข์ ความตาย ก็เป็นทุกข์ ความประจวบกับสิ่งอันไม่เป็นที่รัก ก็เป็นทุกข์ ความพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก ก็เป็นทุกข์ ปรารถนาสิ่งใด ไม่ได้สิ่งนั้น นั่นก็เป็นทุกข์ โดยย่อ อุปาทานขันธ์ 5 เป็นทุกข์

ดูชัดๆ คำสรุปความหมายของตอนลงท้ายที่ว่า โดยย่อ อุปาทานขันธ์ ๕ เป็นทุกข์ (สงฺขิตฺเตน ปญฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขา) ตรงนี้เป็นสาระสำคัญ คือที่ว่านั่นก็ทุกข์ นี่ก็ทุกข์นั้น รวมความแล้ว ก็อยู่แค่ที่ว่า อุปาทานขันธ์ ๕ เป็นทุกข์

พูดถึงชีวิต ๕ กองอีกกกก :b32:


ได้แต่จ้อไปวันๆ เหมือนคนขี้เหงาหาเพื่อนคุยไร้แก่นสาร
บอกให้ฟังสั้นๆน่ะกรัชกาย ..........ทุกข์อริยสัจจ์กับเป็นทุกข์ มันคนล่ะเรื่อง
ทุกขอริยสัจจ์คือปฏิจจสมุบาท ส่วนเป็นทุกข์คือไตรลักษณ์

สรุปปฏิจจสมุบาทคือทุกข์...(เกิด แก่ เจ็บ ตาย=ชีวิต)
ไตรลักษณ์เป็นเหตุให้เกิดอุปาทานขันธ์ ไตรลักษณ์จึงเป็นสมุทัยเหตุแห่งทุกข์
หรือเรียกอีกอย่างว่ากองทุกข์ มันเป็นเหตุแห่งการเกิด แก่ เจ็บ ตายเป็นชีวิตในชาติต่อไป


พูดสั้นๆ รู้ดีว่าพูดยาวไปก็เปล่าประโยชน์
เดี๋ยวก็เอาคำอธิบายมาสร้างปัญหาถามแบบไม่ต้องการคำตอบ :b32:



กระทู้นี้นับว่าสุดยอด คือ อเมสซิง นำรูปนาม (ชีวิต) ซึ่งกำลังเกิดอยู่กลางทุ่งหญ้า แล้วชีวิต (นามรูป) นี่แหละเป็นที่รวมของธรรมะที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ไว้ทุกระดับ ตั้งแต่ระดับต้นๆพื้นๆ ซึ่งใช้สอนชาวบ้าน ทั้งระดับสูงสุดที่เรียกปรมัตถธรรม รวมอยู่ที่ชีวิตเดียวนี้ บลาๆๆ

อย่างโฮฮับนี่ไม่เข้าใจธรรมะ เพราะมองธรรมะพ้นจากชีวิตไป เพราะมิจฉาทิฏฐิตัวเดียว :b1:

ตอนต่อไป จะนำมาให้ดูว่า ธรรมะทุกระดับรวมที่ชีวิตนี้อย่างไร :b32:

โถ. กรัชกายไม่น่ปล่อยเมียมาคลอดลูกอย่างนี้เลย. ผมเกือบบรรลุเลยนะนี่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ต.ค. 2013, 07:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ภิกษุทั้งหลาย ก็นี้แลคือทุกขอริยสัจ ความเกิด ก็เป็นทุกข์ ความแก่ ก็เป็นทุกข์ ความเจ็บ ก็เป็นทุกข์ ความตาย ก็เป็นทุกข์ ความประจวบกับสิ่งอันไม่เป็นที่รัก ก็เป็นทุกข์ ความพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก ก็เป็นทุกข์ ปรารถนาสิ่งใด ไม่ได้สิ่งนั้น นั่นก็เป็นทุกข์ โดยย่อ อุปาทานขันธ์ 5 เป็นทุกข์

ดูชัดๆ คำสรุปความหมายของตอนลงท้ายที่ว่า โดยย่อ อุปาทานขันธ์ ๕ เป็นทุกข์ (สงฺขิตฺเตน ปญฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขา) ตรงนี้เป็นสาระสำคัญ คือที่ว่านั่นก็ทุกข์ นี่ก็ทุกข์นั้น รวมความแล้ว ก็อยู่แค่ที่ว่า อุปาทานขันธ์ ๕ เป็นทุกข์

พูดถึงชีวิต ๕ กองอีกกกก :b32:


ได้แต่จ้อไปวันๆ เหมือนคนขี้เหงาหาเพื่อนคุยไร้แก่นสาร
บอกให้ฟังสั้นๆน่ะกรัชกาย ..........ทุกข์อริยสัจจ์กับเป็นทุกข์ มันคนล่ะเรื่อง
ทุกขอริยสัจจ์คือปฏิจจสมุบาท ส่วนเป็นทุกข์คือไตรลักษณ์

สรุปปฏิจจสมุบาทคือทุกข์...(เกิด แก่ เจ็บ ตาย=ชีวิต)
ไตรลักษณ์เป็นเหตุให้เกิดอุปาทานขันธ์ ไตรลักษณ์จึงเป็นสมุทัยเหตุแห่งทุกข์
หรือเรียกอีกอย่างว่ากองทุกข์ มันเป็นเหตุแห่งการเกิด แก่ เจ็บ ตายเป็นชีวิตในชาติต่อไป


พูดสั้นๆ รู้ดีว่าพูดยาวไปก็เปล่าประโยชน์
เดี๋ยวก็เอาคำอธิบายมาสร้างปัญหาถามแบบไม่ต้องการคำตอบ :b32:



กระทู้นี้นับว่าสุดยอด คือ อเมสซิง นำรูปนาม (ชีวิต) ซึ่งกำลังเกิดอยู่กลางทุ่งหญ้า แล้วชีวิต (นามรูป) นี่แหละเป็นที่รวมของธรรมะที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ไว้ทุกระดับ ตั้งแต่ระดับต้นๆพื้นๆ ซึ่งใช้สอนชาวบ้าน ทั้งระดับสูงสุดที่เรียกปรมัตถธรรม รวมอยู่ที่ชีวิตเดียวนี้ บลาๆๆ

อย่างโฮฮับนี่ไม่เข้าใจธรรมะ เพราะมองธรรมะพ้นจากชีวิตไป เพราะมิจฉาทิฏฐิตัวเดียว :b1:

ตอนต่อไป จะนำมาให้ดูว่า ธรรมะทุกระดับรวมที่ชีวิตนี้อย่างไร :b32:



โถ. กรัชกายไม่น่ปล่อยเมียมาคลอดลูกอย่างนี้เลย. ผมเกือบบรรลุเลยนะนี่



นี่คือความเห็นของคนๆหนึ่ง ซึ่งมองไม่ทะลุทะลวงถึงสัจธรรม ไปติดอยู่แค่หญิงคลอดลูก คิกๆๆ คงอีกนาน พูดเอาฮาก็ว่า คงตายเกิดๆๆๆๆ อีกหลายภพชาติ กว่าจะเห็นแสงแห่งพระธรรม :b32:

ก่อนที่จะก้าวต่อไป ปรับระดับความคิดกันหน่อย :b32:

คือ (พูดโดยภาษาสมมติบัญญัตินะไม่งั้นคุยกันไม่รู้เรื่อง ) ตัวเราเองด้วย ก็คือสังขตธรรม (ชีวิตนี้แหละคือสังขตธรรม) สรุปยังงี้เลย มนุษย์ทั้งโลก ที่มีแล้ว กำลังมี และจะมี (อดีต ปัจจุบัน อนาคต) เป็นสังขตธรรมทั้งสิ้น ใครจะเกิดกลางทุ่งนา ทุ่งหญ้า ทุ่งเสลียง (สุโขทัย) โรงพยาบาล คลีนิก ในประเทศ ต่างประเทศ ฯลฯ ชีวิตของเขาผู้นั้นคือสังขตธรรม พอเข้าใจมั้ย :b1: รับได้มั้ยว่า ชีวิตหมดทั้งตัวทั้งองคาพยพเนี่ย เป็นสังขตธรรม :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ต.ค. 2013, 07:26 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ภิกษุทั้งหลาย ก็นี้แลคือทุกขอริยสัจ ความเกิด ก็เป็นทุกข์ ความแก่ ก็เป็นทุกข์ ความเจ็บ ก็เป็นทุกข์ ความตาย ก็เป็นทุกข์ ความประจวบกับสิ่งอันไม่เป็นที่รัก ก็เป็นทุกข์ ความพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก ก็เป็นทุกข์ ปรารถนาสิ่งใด ไม่ได้สิ่งนั้น นั่นก็เป็นทุกข์ โดยย่อ อุปาทานขันธ์ 5 เป็นทุกข์

ดูชัดๆ คำสรุปความหมายของตอนลงท้ายที่ว่า โดยย่อ อุปาทานขันธ์ ๕ เป็นทุกข์ (สงฺขิตฺเตน ปญฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขา) ตรงนี้เป็นสาระสำคัญ คือที่ว่านั่นก็ทุกข์ นี่ก็ทุกข์นั้น รวมความแล้ว ก็อยู่แค่ที่ว่า อุปาทานขันธ์ ๕ เป็นทุกข์

พูดถึงชีวิต ๕ กองอีกกกก :b32:


ได้แต่จ้อไปวันๆ เหมือนคนขี้เหงาหาเพื่อนคุยไร้แก่นสาร
บอกให้ฟังสั้นๆน่ะกรัชกาย ..........ทุกข์อริยสัจจ์กับเป็นทุกข์ มันคนล่ะเรื่อง
ทุกขอริยสัจจ์คือปฏิจจสมุบาท ส่วนเป็นทุกข์คือไตรลักษณ์

สรุปปฏิจจสมุบาทคือทุกข์...(เกิด แก่ เจ็บ ตาย=ชีวิต)
ไตรลักษณ์เป็นเหตุให้เกิดอุปาทานขันธ์ ไตรลักษณ์จึงเป็นสมุทัยเหตุแห่งทุกข์
หรือเรียกอีกอย่างว่ากองทุกข์ มันเป็นเหตุแห่งการเกิด แก่ เจ็บ ตายเป็นชีวิตในชาติต่อไป


พูดสั้นๆ รู้ดีว่าพูดยาวไปก็เปล่าประโยชน์
เดี๋ยวก็เอาคำอธิบายมาสร้างปัญหาถามแบบไม่ต้องการคำตอบ :b32:



กระทู้นี้นับว่าสุดยอด คือ อเมสซิง นำรูปนาม (ชีวิต) ซึ่งกำลังเกิดอยู่กลางทุ่งหญ้า แล้วชีวิต (นามรูป) นี่แหละเป็นที่รวมของธรรมะที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ไว้ทุกระดับ ตั้งแต่ระดับต้นๆพื้นๆ ซึ่งใช้สอนชาวบ้าน ทั้งระดับสูงสุดที่เรียกปรมัตถธรรม รวมอยู่ที่ชีวิตเดียวนี้ บลาๆๆ

อย่างโฮฮับนี่ไม่เข้าใจธรรมะ เพราะมองธรรมะพ้นจากชีวิตไป เพราะมิจฉาทิฏฐิตัวเดียว :b1:

ตอนต่อไป จะนำมาให้ดูว่า ธรรมะทุกระดับรวมที่ชีวิตนี้อย่างไร :b32:



โถ. กรัชกายไม่น่ปล่อยเมียมาคลอดลูกอย่างนี้เลย. ผมเกือบบรรลุเลยนะนี่



นี่คือความเห็นของคนๆหนึ่ง ซึ่งมองไม่ทะลุทะลวงถึงสัจธรรม ไปติดอยู่แค่หญิงคลอดลูก คิกๆๆ คงอีกนาน พูดเอาฮาก็ว่า คงตายเกิดๆๆๆๆ อีกหลายภพชาติ กว่าจะเห็นแสงแห่งพระธรรม :b32:

ก่อนที่จะก้าวต่อไป ปรับระดับความคิดกันหน่อย :b32:

คือ (พูดโดยภาษาสมมติบัญญัตินะไม่งั้นคุยกันไม่รู้เรื่อง ) ตัวเราเองด้วย ก็คือสังขตธรรม (ชีวิตนี้แหละคือสังขตธรรม) สรุปยังงี้เลย มนุษย์ทั้งโลก ที่มีแล้ว กำลังมี และจะมี (อดีต ปัจจุบัน อนาคต) เป็นสังขตธรรมทั้งสิ้น ใครจะเกิดกลางทุ่งนา ทุ่งหญ้า ทุ่งเสลียง (สุโขทัย) โรงพยาบาล คลีนิก ในประเทศ ต่างประเทศ ฯลฯ ชีวิตของเขาผู้นั้นคือสังขตธรรม พอเข้าใจมั้ย :b1: รับได้มั้ยว่า ชีวิตหมดทั้งตัวทั้งองคาพยพเนี่ย เป็นสังขตธรรม :b1:
กรัชกายไม่เบื่อหรอที่จะวนเวียนปล่อยเมียมาคลอดแบบนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ต.ค. 2013, 07:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




1375241010-1370203825-o.gif
1375241010-1370203825-o.gif [ 497.16 KiB | เปิดดู 5736 ครั้ง ]
อ้างคำพูด:
กรัชกายไม่เบื่อหรอที่จะวนเวียนปล่อยเมียมาคลอดแบบนี้


นั่นเป็นคำพูดของคนหมดทางไปหมดทางดิ้น ตัน เหมือนคนเดินเข้าซอยตัน เงอะงะๆ ไปไม่เป็น :b1:

ยืมภาษานักการเมืองพูดหน่อย มันจบแล้วครับนาย คิกๆๆ

บอกไม่เชื่อว่าให้ตายเกิดๆๆอีกหลายภพชาติ กว่าจะเห็นแสงแห่งพระธรรม :b1: เรื่องติดตัว แต่ไปชะเง้อหาที่ไหนก็ไม่รู้

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ต.ค. 2013, 07:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
กรัชกายไม่เบื่อหรอที่จะวนเวียนปล่อยเมียมาคลอดแบบนี้


นั่นเป็นคำพูดของคนหมดทางไปหมดทางดิ้น ตัน เหมือนคนเดินเข้าซอยตัน เงอะงะๆ ไปไม่เป็น :b1:

ยืมภาษานักการเมืองพูดหน่อย มันจบแล้วครับนาย คิกๆๆ

บอกไม่เชื่อว่าให้ตายเกิดๆๆอีกหลายภพชาติ กว่าจะเห็นแสงแห่งพระธรรม :b1: เรื่องติดตัว แต่ไปชะเง้อหาที่ไหนก็ไม่รู้

ติดตัวที่อยู่ลึกๆกรัชกายเคยได้ชิมมั้ย หรือชิมรสาติเก่าๆระดับพื้นผิวของจิต ผมขอบอกว่าสวดยอดเลยลูกเพี้ย!


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ต.ค. 2013, 10:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กระทู้นี้นับว่าสุดยอด คือ อเมสซิง นำรูปนาม (ชีวิต) ซึ่งกำลังเกิดอยู่กลางทุ่งหญ้า แล้วชีวิต (นามรูป) นี่แหละเป็นที่รวมของธรรมะที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ไว้ทุกระดับ ตั้งแต่ระดับต้นๆพื้นๆ ซึ่งใช้สอนชาวบ้าน ทั้งระดับสูงสุดที่เรียกปรมัตถธรรม รวมอยู่ที่ชีวิตเดียวนี้ บลาๆๆ

อย่างโฮฮับนี่ไม่เข้าใจธรรมะ เพราะมองธรรมะพ้นจากชีวิตไป เพราะมิจฉาทิฏฐิตัวเดียว :b1:

ตอนต่อไป จะนำมาให้ดูว่า ธรรมะทุกระดับรวมที่ชีวิตนี้อย่างไร :b32:


มั่วอีกแล้วกรัชกายเอ๋ย ไม่รู้ไม่พูดไม่มีใครว่าหรอก :b32:
พูดมาได้..."ธรรมระดับสูงสุดเรียกปรมัตถ์ธรรม บลาๆๆๆ"...ตลกจริงๆ
ไม่รู้เลยว่า สมมติสัจจะเป็นอย่างไร ปรมัตถ์สัจจะเป็นอย่างไร
สงสัยไม่เคยได้ยินคำว่า.......ทุกอย่างในโลกล้วนสมมติ
อ่านแล้วก็ไปคิดเอาเองว่าอะไรสูงสุด :b32:


กรัชกาย เขียน:
นี่คือความเห็นของคนๆหนึ่ง ซึ่งมองไม่ทะลุทะลวงถึงสัจธรรม ไปติดอยู่แค่หญิงคลอดลูก คิกๆๆ คงอีกนาน พูดเอาฮาก็ว่า คงตายเกิดๆๆๆๆ อีกหลายภพชาติ กว่าจะเห็นแสงแห่งพระธรรม :b32:

ก่อนที่จะก้าวต่อไป ปรับระดับความคิดกันหน่อย :b32:

คือ (พูดโดยภาษาสมมติบัญญัตินะไม่งั้นคุยกันไม่รู้เรื่อง ) ตัวเราเองด้วย ก็คือสังขตธรรม (ชีวิตนี้แหละคือสังขตธรรม) สรุปยังงี้เลย มนุษย์ทั้งโลก ที่มีแล้ว กำลังมี และจะมี (อดีต ปัจจุบัน อนาคต) เป็นสังขตธรรมทั้งสิ้น ใครจะเกิดกลางทุ่งนา ทุ่งหญ้า ทุ่งเสลียง (สุโขทัย) โรงพยาบาล คลีนิก ในประเทศ ต่างประเทศ ฯลฯ ชีวิตของเขาผู้นั้นคือสังขตธรรม พอเข้าใจมั้ย :b1: รับได้มั้ยว่า ชีวิตหมดทั้งตัวทั้งองคาพยพเนี่ย เป็นสังขตธรรม :b1:


กรัชกายชอบพกพจนานุกรมติดตัว แต่ดันใช้ภาษาไม่เป็น อายมั้ยล่ะ
พูดธรรมน่ะเขาเรียก.....โวหารหรือเทศนาโวหาร
ถ้าพูดเรื่องที่เป็นสมมติสัจจะ เขาเรียกว่า.....บุคลาธิษฐาน
ถ้าพูดเรื่องที่เกี่ยวกับปรมัตถ์สัจจะเขาเรียกว่า....ธัมมาธิษฐาน

สมมติบัญญัติ เป็นเป็นภาษาที่ใช้เรียกสมมติสัจจะโดยเฉพาะเจาะจง
คน....โต๊ะ...สัตว์ฯลฯ เข้าใจมั้ย

แล้วใครบอกกรัชกายว่าชีวิตเป็นสังขตธรรม ชีวิตเป็นเพียงรูปนาม ...เป็นอสังขตธรรม
สังขตธรรมหรือสังขาร เกิดเพราะมีเหตุปัจจัยภายนอกมากระทบรูปนาม จึงเกิดเป็นสังขาร

ถ้าทวารทั้งหกไม่มีสิ่งภายนอกมากระทบ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาน ย่อมเกิดไม่ได้
ถ้าไม่มี รูปเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาน เราเรียกรูปนามนั้นเป็น...อสังขตธรรม



โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ต.ค. 2013, 10:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




b6d5f10e8777aa0ae60f2c3b03bfa69c.gif
b6d5f10e8777aa0ae60f2c3b03bfa69c.gif [ 4.35 KiB | เปิดดู 5719 ครั้ง ]
อ้างคำพูด:
แล้วใครบอกกรัชกายว่าชีวิตเป็นสังขตธรรม ชีวิตเป็นเพียงรูปนาม ...เป็นอสังขตธรรม



มันจบอีกแล้วครับนายท่าน :b8: พอเถอะขอรับ :b2: กรัชกายรูปงามจะรับไม่ได้แล้ว :b18:


ชีวิต คือ นามรูปน่าใช่ แต่นามรูป เป็นสังขตธรรม สิ่งที่ถูกปรุงแต่ง อสังขตธรรม หมายถึงนิพพาน จ้า

ล้านแล้วจ้า :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 129 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5 ... 9  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร