วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 19:32  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 64 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ต.ค. 2013, 14:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


amazing เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ไม่ได้บ่น....หรือสงสัยอะไร....คิดอยู่ว่าอยากตั้งกระทู้เชิงตรวจสอบภายในตน....ทบทวน...อะไรทำนองนี้....เพราะส่วนตัวแล้ว...มักจะได้อะไรใหม่ๆ จากการตั้งคำถาม...หรือ...การตอบคำถามของกัลยาณมิตร...นะครับ

กบนอกกะลา เขียน:
แม้อริยบุคคลขั้นต้นคือ โสดาบัน อาการยกตนข่มท่าน พูดดูหมิ่นผู้อื่นซ้ำๆ พรำเพรื่อ ..เห็นผู้เคยต้องปฏิฆะไม่ได้. จะแล่นไปแขวะขบกัดทันที่....ทำไมอาการอย่างนี้จึงไม่มีแก่ท่าน??


น่าจะมาคิดเล่นๆนะอเมสซิ่ง....แม้ยังไม่เป็นอริยะก็ตาม....หรือ ท่านใดเป็นอริยะแล้ว..เราก็จะได้ข้อคิด ดี ดี..เป็นธรรมทานไปในตัว
กบ ถ้ากบยังยึดติดโลกธรรมอยู่ กบก็จะมีอาการแบบนี้แหล่ะ จะหาความหมายของมัน มองให้เป็นธรรมดา. มันไม่มีสาระหรอก เพราะสิ่งที่คาดเดาว่าสิ่งนั้นต้องมีอาการอย่างนี้ สิ่งนี้ต้องมีอาการอย่างนั้น เพราะวาสนาของแต่ล่ะคนไม่เหมือนกัน และที่สุดแล้วไม่มีใครรู้หรอกว่าเจตนาจริงๆแล้วคืออะไร พูดแย่กันทักกันและจิ้มกันบ้างหรือเคืองกันก็เป็นไปได้ไม่ผิดปรกติ และที่ถามเห็นผู้อื่นมีปฎิฆะไม่ได้ จะแล่นแขวะขบกัดทันที ทำไมอาการแบบนี้จึงไม่มีแกท่าน ? กบรู้ได้ไงว่าไม่มีแก่ท่าน คำถามนี้เป็นคำถามที่ขบแขวะซะเอง เพราะกบไม่รู้หรอกที่จริงท่านจะมีหรือไม่มี กบเพียงต้องการกระทำบางอย่างเท่านั้น อิอิ


เห็นด้วยกับอเมชิ่งเป็นครั้งแรก :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ต.ค. 2013, 14:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
amazing เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ไม่ได้บ่น....หรือสงสัยอะไร....คิดอยู่ว่าอยากตั้งกระทู้เชิงตรวจสอบภายในตน....ทบทวน...อะไรทำนองนี้....เพราะส่วนตัวแล้ว...มักจะได้อะไรใหม่ๆ จากการตั้งคำถาม...หรือ...การตอบคำถามของกัลยาณมิตร...นะครับ

กบนอกกะลา เขียน:
แม้อริยบุคคลขั้นต้นคือ โสดาบัน อาการยกตนข่มท่าน พูดดูหมิ่นผู้อื่นซ้ำๆ พรำเพรื่อ ..เห็นผู้เคยต้องปฏิฆะไม่ได้. จะแล่นไปแขวะขบกัดทันที่....ทำไมอาการอย่างนี้จึงไม่มีแก่ท่าน??


น่าจะมาคิดเล่นๆนะอเมสซิ่ง....แม้ยังไม่เป็นอริยะก็ตาม....หรือ ท่านใดเป็นอริยะแล้ว..เราก็จะได้ข้อคิด ดี ดี..เป็นธรรมทานไปในตัว
กบ ถ้ากบยังยึดติดโลกธรรมอยู่ กบก็จะมีอาการแบบนี้แหล่ะ จะหาความหมายของมัน มองให้เป็นธรรมดา. มันไม่มีสาระหรอก เพราะสิ่งที่คาดเดาว่าสิ่งนั้นต้องมีอาการอย่างนี้ สิ่งนี้ต้องมีอาการอย่างนั้น เพราะวาสนาของแต่ล่ะคนไม่เหมือนกัน และที่สุดแล้วไม่มีใครรู้หรอกว่าเจตนาจริงๆแล้วคืออะไร พูดแย่กันทักกันและจิ้มกันบ้างหรือเคืองกันก็เป็นไปได้ไม่ผิดปรกติ และที่ถามเห็นผู้อื่นมีปฎิฆะไม่ได้ จะแล่นแขวะขบกัดทันที ทำไมอาการแบบนี้จึงไม่มีแกท่าน ? กบรู้ได้ไงว่าไม่มีแก่ท่าน คำถามนี้เป็นคำถามที่ขบแขวะซะเอง เพราะกบไม่รู้หรอกที่จริงท่านจะมีหรือไม่มี กบเพียงต้องการกระทำบางอย่างเท่านั้น อิอิ


เห็นด้วยกับอเมชิ่งเป็นครั้งแรก :b32:


เห็นด้วยกับกบน่ะ :b35: อเมสซิ่งก็งั้นๆแหละ นอกจากหน่อไม้ ยังไม่เห็นอะไร ในกอไผ่

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ต.ค. 2013, 14:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
amazing เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ไม่ได้บ่น....หรือสงสัยอะไร....คิดอยู่ว่าอยากตั้งกระทู้เชิงตรวจสอบภายในตน....ทบทวน...อะไรทำนองนี้....เพราะส่วนตัวแล้ว...มักจะได้อะไรใหม่ๆ จากการตั้งคำถาม...หรือ...การตอบคำถามของกัลยาณมิตร...นะครับ

กบนอกกะลา เขียน:
แม้อริยบุคคลขั้นต้นคือ โสดาบัน อาการยกตนข่มท่าน พูดดูหมิ่นผู้อื่นซ้ำๆ พรำเพรื่อ ..เห็นผู้เคยต้องปฏิฆะไม่ได้. จะแล่นไปแขวะขบกัดทันที่....ทำไมอาการอย่างนี้จึงไม่มีแก่ท่าน??


น่าจะมาคิดเล่นๆนะอเมสซิ่ง....แม้ยังไม่เป็นอริยะก็ตาม....หรือ ท่านใดเป็นอริยะแล้ว..เราก็จะได้ข้อคิด ดี ดี..เป็นธรรมทานไปในตัว
กบ ถ้ากบยังยึดติดโลกธรรมอยู่ กบก็จะมีอาการแบบนี้แหล่ะ จะหาความหมายของมัน มองให้เป็นธรรมดา. มันไม่มีสาระหรอก เพราะสิ่งที่คาดเดาว่าสิ่งนั้นต้องมีอาการอย่างนี้ สิ่งนี้ต้องมีอาการอย่างนั้น เพราะวาสนาของแต่ล่ะคนไม่เหมือนกัน และที่สุดแล้วไม่มีใครรู้หรอกว่าเจตนาจริงๆแล้วคืออะไร พูดแย่กันทักกันและจิ้มกันบ้างหรือเคืองกันก็เป็นไปได้ไม่ผิดปรกติ และที่ถามเห็นผู้อื่นมีปฎิฆะไม่ได้ จะแล่นแขวะขบกัดทันที ทำไมอาการแบบนี้จึงไม่มีแกท่าน ? กบรู้ได้ไงว่าไม่มีแก่ท่าน คำถามนี้เป็นคำถามที่ขบแขวะซะเอง เพราะกบไม่รู้หรอกที่จริงท่านจะมีหรือไม่มี กบเพียงต้องการกระทำบางอย่างเท่านั้น อิอิ


เห็นด้วยกับอเมชิ่งเป็นครั้งแรก :b32:


เห็นด้วยกับกบน่ะ :b35:

คุณน้องเห็นด้วยกับอะเมซิ่งและพี่โฮฮับ แต่คุณน้องไม่แสดงออก :b13: แต่พอเห็น พี่กรัชกายเห็นด้วยกับท่านกบ
คุณน้องเลยแสดงออกเต็มที่เลยตอนนี้ :b13: :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ต.ค. 2013, 14:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
amazing เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ไม่ได้บ่น....หรือสงสัยอะไร....คิดอยู่ว่าอยากตั้งกระทู้เชิงตรวจสอบภายในตน....ทบทวน...อะไรทำนองนี้....เพราะส่วนตัวแล้ว...มักจะได้อะไรใหม่ๆ จากการตั้งคำถาม...หรือ...การตอบคำถามของกัลยาณมิตร...นะครับ

กบนอกกะลา เขียน:
แม้อริยบุคคลขั้นต้นคือ โสดาบัน อาการยกตนข่มท่าน พูดดูหมิ่นผู้อื่นซ้ำๆ พรำเพรื่อ ..เห็นผู้เคยต้องปฏิฆะไม่ได้. จะแล่นไปแขวะขบกัดทันที่....ทำไมอาการอย่างนี้จึงไม่มีแก่ท่าน??


น่าจะมาคิดเล่นๆนะอเมสซิ่ง....แม้ยังไม่เป็นอริยะก็ตาม....หรือ ท่านใดเป็นอริยะแล้ว..เราก็จะได้ข้อคิด ดี ดี..เป็นธรรมทานไปในตัว
กบ ถ้ากบยังยึดติดโลกธรรมอยู่ กบก็จะมีอาการแบบนี้แหล่ะ จะหาความหมายของมัน มองให้เป็นธรรมดา. มันไม่มีสาระหรอก เพราะสิ่งที่คาดเดาว่าสิ่งนั้นต้องมีอาการอย่างนี้ สิ่งนี้ต้องมีอาการอย่างนั้น เพราะวาสนาของแต่ล่ะคนไม่เหมือนกัน และที่สุดแล้วไม่มีใครรู้หรอกว่าเจตนาจริงๆแล้วคืออะไร พูดแย่กันทักกันและจิ้มกันบ้างหรือเคืองกันก็เป็นไปได้ไม่ผิดปรกติ และที่ถามเห็นผู้อื่นมีปฎิฆะไม่ได้ จะแล่นแขวะขบกัดทันที ทำไมอาการแบบนี้จึงไม่มีแกท่าน ? กบรู้ได้ไงว่าไม่มีแก่ท่าน คำถามนี้เป็นคำถามที่ขบแขวะซะเอง เพราะกบไม่รู้หรอกที่จริงท่านจะมีหรือไม่มี กบเพียงต้องการกระทำบางอย่างเท่านั้น อิอิ


เห็นด้วยกับอเมชิ่งเป็นครั้งแรก :b32:


เห็นด้วยกับกบน่ะ :b35: อเมสซิ่งก็งั้นๆแหละ นอกจากหน่อไม้ ยังไม่เห็นอะไร ในกอไผ่

โหยพี่กรัชกาย ตาถั่ว :b32: คุณน้องเห็นไม้ไผ่มีทั้งหน่อไม้และก็หนอนไม้ไผ่ ที่เขาเอามาทอดขาย แถวบ้านเรียกว่ารถด่วน รู้จักป่าว :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ต.ค. 2013, 14:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
แม้อริยบุคคลขั้นต้นคือ โสดาบัน อาการยกตนข่มท่าน พูดดูหมิ่นผู้อื่นซ้ำๆ พรำเพรื่อ ..เห็นผู้เคยต้องปฏิฆะไม่ได้. จะแล่นไปแขวะขบกัดทันที่....ทำไมอาการอย่างนี้จึงไม่มีแก่ท่าน??


รู้ได้อย่างไรว่าท่านไม่มี โสดาบันละได้แค่สังโยชน์สาม
โสดาบันไม่มีสังโยชน๋สาม แต่ยังมีกิเลสตัวที่ทำให้ออกอาการ มากกว่าปุถุชนเสียอีก
กามคุณห้าเอ่ย ปฏิฆะเอย ที่สำคัญทิฐิมานะ
พวกนี้แหล่ะมันทำให้มีอาการแบบนั้น เมื่อก่อนเป็นปุถุชน
ยังมีสักกายทิฐิคอยบ่งการให้ ว่าฉันต้องเป็นดนดีในสายตาคนอื่น
และศีลพรตปรามาสอีก คอยกดข่มไว้ว่า ฉันต้องพูดจาอ่อนหวาน
ไม่งั้นเดียวศีลทะลุ ศีลฉีก :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ต.ค. 2013, 14:40 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
amazing เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ไม่ได้บ่น....หรือสงสัยอะไร....คิดอยู่ว่าอยากตั้งกระทู้เชิงตรวจสอบภายในตน....ทบทวน...อะไรทำนองนี้....เพราะส่วนตัวแล้ว...มักจะได้อะไรใหม่ๆ จากการตั้งคำถาม...หรือ...การตอบคำถามของกัลยาณมิตร...นะครับ

กบนอกกะลา เขียน:
แม้อริยบุคคลขั้นต้นคือ โสดาบัน อาการยกตนข่มท่าน พูดดูหมิ่นผู้อื่นซ้ำๆ พรำเพรื่อ ..เห็นผู้เคยต้องปฏิฆะไม่ได้. จะแล่นไปแขวะขบกัดทันที่....ทำไมอาการอย่างนี้จึงไม่มีแก่ท่าน??


น่าจะมาคิดเล่นๆนะอเมสซิ่ง....แม้ยังไม่เป็นอริยะก็ตาม....หรือ ท่านใดเป็นอริยะแล้ว..เราก็จะได้ข้อคิด ดี ดี..เป็นธรรมทานไปในตัว
กบ ถ้ากบยังยึดติดโลกธรรมอยู่ กบก็จะมีอาการแบบนี้แหล่ะ จะหาความหมายของมัน มองให้เป็นธรรมดา. มันไม่มีสาระหรอก เพราะสิ่งที่คาดเดาว่าสิ่งนั้นต้องมีอาการอย่างนี้ สิ่งนี้ต้องมีอาการอย่างนั้น เพราะวาสนาของแต่ล่ะคนไม่เหมือนกัน และที่สุดแล้วไม่มีใครรู้หรอกว่าเจตนาจริงๆแล้วคืออะไร พูดแย่กันทักกันและจิ้มกันบ้างหรือเคืองกันก็เป็นไปได้ไม่ผิดปรกติ และที่ถามเห็นผู้อื่นมีปฎิฆะไม่ได้ จะแล่นแขวะขบกัดทันที ทำไมอาการแบบนี้จึงไม่มีแกท่าน ? กบรู้ได้ไงว่าไม่มีแก่ท่าน คำถามนี้เป็นคำถามที่ขบแขวะซะเอง เพราะกบไม่รู้หรอกที่จริงท่านจะมีหรือไม่มี กบเพียงต้องการกระทำบางอย่างเท่านั้น อิอิ


เห็นด้วยกับอเมชิ่งเป็นครั้งแรก :b32:

อิอิ อยู่ไปโฮฮับก็จะเนลี่ยนใจมารักแมสซิ่ง55+


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ต.ค. 2013, 14:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
amazing เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ไม่ได้บ่น....หรือสงสัยอะไร....คิดอยู่ว่าอยากตั้งกระทู้เชิงตรวจสอบภายในตน....ทบทวน...อะไรทำนองนี้....เพราะส่วนตัวแล้ว...มักจะได้อะไรใหม่ๆ จากการตั้งคำถาม...หรือ...การตอบคำถามของกัลยาณมิตร...นะครับ

กบนอกกะลา เขียน:
แม้อริยบุคคลขั้นต้นคือ โสดาบัน อาการยกตนข่มท่าน พูดดูหมิ่นผู้อื่นซ้ำๆ พรำเพรื่อ ..เห็นผู้เคยต้องปฏิฆะไม่ได้. จะแล่นไปแขวะขบกัดทันที่....ทำไมอาการอย่างนี้จึงไม่มีแก่ท่าน??


น่าจะมาคิดเล่นๆนะอเมสซิ่ง....แม้ยังไม่เป็นอริยะก็ตาม....หรือ ท่านใดเป็นอริยะแล้ว..เราก็จะได้ข้อคิด ดี ดี..เป็นธรรมทานไปในตัว
กบ ถ้ากบยังยึดติดโลกธรรมอยู่ กบก็จะมีอาการแบบนี้แหล่ะ จะหาความหมายของมัน มองให้เป็นธรรมดา. มันไม่มีสาระหรอก เพราะสิ่งที่คาดเดาว่าสิ่งนั้นต้องมีอาการอย่างนี้ สิ่งนี้ต้องมีอาการอย่างนั้น เพราะวาสนาของแต่ล่ะคนไม่เหมือนกัน และที่สุดแล้วไม่มีใครรู้หรอกว่าเจตนาจริงๆแล้วคืออะไร พูดแย่กันทักกันและจิ้มกันบ้างหรือเคืองกันก็เป็นไปได้ไม่ผิดปรกติ และที่ถามเห็นผู้อื่นมีปฎิฆะไม่ได้ จะแล่นแขวะขบกัดทันที ทำไมอาการแบบนี้จึงไม่มีแกท่าน ? กบรู้ได้ไงว่าไม่มีแก่ท่าน คำถามนี้เป็นคำถามที่ขบแขวะซะเอง เพราะกบไม่รู้หรอกที่จริงท่านจะมีหรือไม่มี กบเพียงต้องการกระทำบางอย่างเท่านั้น อิอิ


เห็นด้วยกับอเมชิ่งเป็นครั้งแรก :b32:


เห็นด้วยกับกบน่ะ :b35:

คุณน้องเห็นด้วยกับอะเมซิ่งและพี่โฮฮับ แต่คุณน้องไม่แสดงออก :b13: แต่พอเห็น พี่กรัชกายเห็นด้วยกับท่านกบ
คุณน้องเลยแสดงออกเต็มที่เลยตอนนี้ :b13: :b13:
คุณเข้าข้างแมสซิ่ง รักจุงเบย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ต.ค. 2013, 14:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


amazing เขียน:
nongkong เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
amazing เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ไม่ได้บ่น....หรือสงสัยอะไร....คิดอยู่ว่าอยากตั้งกระทู้เชิงตรวจสอบภายในตน....ทบทวน...อะไรทำนองนี้....เพราะส่วนตัวแล้ว...มักจะได้อะไรใหม่ๆ จากการตั้งคำถาม...หรือ...การตอบคำถามของกัลยาณมิตร...นะครับ

กบนอกกะลา เขียน:
แม้อริยบุคคลขั้นต้นคือ โสดาบัน อาการยกตนข่มท่าน พูดดูหมิ่นผู้อื่นซ้ำๆ พรำเพรื่อ ..เห็นผู้เคยต้องปฏิฆะไม่ได้. จะแล่นไปแขวะขบกัดทันที่....ทำไมอาการอย่างนี้จึงไม่มีแก่ท่าน??


น่าจะมาคิดเล่นๆนะอเมสซิ่ง....แม้ยังไม่เป็นอริยะก็ตาม....หรือ ท่านใดเป็นอริยะแล้ว..เราก็จะได้ข้อคิด ดี ดี..เป็นธรรมทานไปในตัว
กบ ถ้ากบยังยึดติดโลกธรรมอยู่ กบก็จะมีอาการแบบนี้แหล่ะ จะหาความหมายของมัน มองให้เป็นธรรมดา. มันไม่มีสาระหรอก เพราะสิ่งที่คาดเดาว่าสิ่งนั้นต้องมีอาการอย่างนี้ สิ่งนี้ต้องมีอาการอย่างนั้น เพราะวาสนาของแต่ล่ะคนไม่เหมือนกัน และที่สุดแล้วไม่มีใครรู้หรอกว่าเจตนาจริงๆแล้วคืออะไร พูดแย่กันทักกันและจิ้มกันบ้างหรือเคืองกันก็เป็นไปได้ไม่ผิดปรกติ และที่ถามเห็นผู้อื่นมีปฎิฆะไม่ได้ จะแล่นแขวะขบกัดทันที ทำไมอาการแบบนี้จึงไม่มีแกท่าน ? กบรู้ได้ไงว่าไม่มีแก่ท่าน คำถามนี้เป็นคำถามที่ขบแขวะซะเอง เพราะกบไม่รู้หรอกที่จริงท่านจะมีหรือไม่มี กบเพียงต้องการกระทำบางอย่างเท่านั้น อิอิ


เห็นด้วยกับอเมชิ่งเป็นครั้งแรก :b32:


เห็นด้วยกับกบน่ะ :b35:

คุณน้องเห็นด้วยกับอะเมซิ่งและพี่โฮฮับ แต่คุณน้องไม่แสดงออก :b13: แต่พอเห็น พี่กรัชกายเห็นด้วยกับท่านกบ
คุณน้องเลยแสดงออกเต็มที่เลยตอนนี้ :b13: :b13:
คุณเข้าข้างแมสซิ่ง รักจุงเบย

55+แมสซิ่งเข้าใจไรผิด ใครบอกว่าคุณน้องเข้าข้างแมสซิ่ง 555+มั่ว :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ต.ค. 2013, 14:51 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
amazing เขียน:
nongkong เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
amazing เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ไม่ได้บ่น....หรือสงสัยอะไร....คิดอยู่ว่าอยากตั้งกระทู้เชิงตรวจสอบภายในตน....ทบทวน...อะไรทำนองนี้....เพราะส่วนตัวแล้ว...มักจะได้อะไรใหม่ๆ จากการตั้งคำถาม...หรือ...การตอบคำถามของกัลยาณมิตร...นะครับ

กบนอกกะลา เขียน:
แม้อริยบุคคลขั้นต้นคือ โสดาบัน อาการยกตนข่มท่าน พูดดูหมิ่นผู้อื่นซ้ำๆ พรำเพรื่อ ..เห็นผู้เคยต้องปฏิฆะไม่ได้. จะแล่นไปแขวะขบกัดทันที่....ทำไมอาการอย่างนี้จึงไม่มีแก่ท่าน??


น่าจะมาคิดเล่นๆนะอเมสซิ่ง....แม้ยังไม่เป็นอริยะก็ตาม....หรือ ท่านใดเป็นอริยะแล้ว..เราก็จะได้ข้อคิด ดี ดี..เป็นธรรมทานไปในตัว
กบ ถ้ากบยังยึดติดโลกธรรมอยู่ กบก็จะมีอาการแบบนี้แหล่ะ จะหาความหมายของมัน มองให้เป็นธรรมดา. มันไม่มีสาระหรอก เพราะสิ่งที่คาดเดาว่าสิ่งนั้นต้องมีอาการอย่างนี้ สิ่งนี้ต้องมีอาการอย่างนั้น เพราะวาสนาของแต่ล่ะคนไม่เหมือนกัน และที่สุดแล้วไม่มีใครรู้หรอกว่าเจตนาจริงๆแล้วคืออะไร พูดแย่กันทักกันและจิ้มกันบ้างหรือเคืองกันก็เป็นไปได้ไม่ผิดปรกติ และที่ถามเห็นผู้อื่นมีปฎิฆะไม่ได้ จะแล่นแขวะขบกัดทันที ทำไมอาการแบบนี้จึงไม่มีแกท่าน ? กบรู้ได้ไงว่าไม่มีแก่ท่าน คำถามนี้เป็นคำถามที่ขบแขวะซะเอง เพราะกบไม่รู้หรอกที่จริงท่านจะมีหรือไม่มี กบเพียงต้องการกระทำบางอย่างเท่านั้น อิอิ


เห็นด้วยกับอเมชิ่งเป็นครั้งแรก :b32:


เห็นด้วยกับกบน่ะ :b35:

คุณน้องเห็นด้วยกับอะเมซิ่งและพี่โฮฮับ แต่คุณน้องไม่แสดงออก :b13: แต่พอเห็น พี่กรัชกายเห็นด้วยกับท่านกบ
คุณน้องเลยแสดงออกเต็มที่เลยตอนนี้ :b13: :b13:
คุณเข้าข้างแมสซิ่ง รักจุงเบย

55+แมสซิ่งเข้าใจไรผิด ใครบอกว่าคุณน้องเข้าข้างแมสซิ่ง 555+มั่ว :b32: :b32:
อ้าว หลงตัวเองแล้วเรา นึกว่าสาวๆมาหลงรักอิอิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ต.ค. 2013, 15:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ทำไม ผู้บรรลุธรรม จึงไม่มีกิริยา ยกตนข่มท่าน?

เพราะลักษณะ "ยกตนข่มท่าน" หรือ "โอ้อวด" เป็น ๑ ในอุปกิเลส ๑๖ อย่าง
ที่ปกปิดความประภัสสรของจิต มีแต่โทษไม่มีคุณ

ผู้บรรลุธรรม เปรียบได้กับ ผู้ที่พ้นโทษออกจากคุก มองเห็นโทษ
เห็นความผิดของตน ท่านย่อมไม่กระทำความผิดซ้ำอีก ..


:b1:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ต.ค. 2013, 15:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ย. 2010, 09:07
โพสต์: 761

แนวปฏิบัติ: อานาปาฯ
งานอดิเรก: ศึกษาพุทธธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม
ชื่อเล่น: ปลีกวิเวก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
แม้อริยบุคคลขั้นต้นคือ โสดาบัน อาการยกตนข่มท่าน พูดดูหมิ่นผู้อื่นซ้ำๆ พรำเพรื่อ ..เห็นผู้เคยต้องปฏิฆะไม่ได้. จะแล่นไปแขวะขบกัดทันที่....ทำไมอาการอย่างนี้จึงไม่มีแก่ท่าน??


tongue สวัสดีค่ะคุณกบ
เอามาฝากเป็นความรู้ค่ะ

คุณสมบัติของพระโสดาบัน
1.คุณสมบัติฝ่ายมี
1.1 ด้านศรัทธา เชื่อมั่นในความจริง ความดีงาม และกฎธรรมดาแห่งเหตุผล มั่นใจในปัญญาของมนุษย์ที่จะดับทุกข์หรือแก้ไขปัญหาได้ตามทางแห่งเหตุผล และเชื่อในสังคมที่ดีงามขอมนุษย์ซึ่งจะเจริญงอกงามขึ้นได้ตามแนวทางเช่นนั้น ความเชื่อมั่นนี้แสดงออกด้วยความเลื่อมใสอันหยั่งลงมั่นด้วยปัญญาในพระรัตนตรัย เป็นศรัทธาซึ่งแน่วแน่ มั่นคง ไม่มีทางผันแปร เพราะเกิดจากญาณคือความรู้ ความเข้าใจ
1.2 ด้านศีล มีความประพฤติทั้งทางกาย วาจา และการเลี้ยงชีพสุจริต เป็นที่พอใจของอริยชน มีศีลที่เป็นไทคือเป็นอิสระไม่เป็นทาสของตัณหา ประพฤติตรงตามหลักการ ตามความหมายที่แท้ เพื่อความดี ความงาม ความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความขัดเกลาลดกิเลส ความสงบใจ เป็นไปเพื่อสมาธิ โดยทั่วไปหมายถึงศีลห้า ที่ประพฤติอย่างถูกต้อง จัดเป็นขั้นที่บำเพ็ญศีลได้บริบูรณ์
1.3 ด้านสุตะ เป็นสุตวา อริยสาวก หรืออริยสาวกผู้มีสุตะ คือได้เรียนรู้อริยธรรม รู้จักอารยธรรม นับว่าเป็นผู้มีการศึกษา
1.4 ด้านจาคะ อยู่ครองเรือนด้วยใจที่ปราศจากความตระหนี่ ยินดีในการสละ การให้ การเฉลี่ยเจือจาน แบ่งปัน
1.5 ด้านปัญญา มีปัญญาอย่างเสขะ คือรู้ชัดในอริยสัจจ์ 4 มองเห็นปฏิจจสมุปบาท เข้าใจไตรลักษณ์ คือ อนิจจตา ทุกขตา และอนัตตตา เป็นอย่างดี จนสลัดมิจฉาทิฏฐิทั้งหลาย ในรูปแบบต่างๆ ได้สิ้นเชิง หมดความสงสัยในอริยสัจจ์ทั้ง 4 นั้น เรียกตามสำนวนธรรมว่าเป็นผู้รู้จักโลกแท้จริง
1.6 ด้านสังคม พระโสดาบันเป็นผู้ปฏิบัติตามหลักธรรมสำหรับสร้างความสามัคคีและเอกภาพของหมู่ชน ที่เรียกว่า “สาราณียธรรม 6” ดังนี้
-เมตตากายกรรม แสดงออกทางกายด้วยเมตตา ช่วยเหลือกันแสดงกิริยาสุภาพเคารพนับถือกัน
-เมตตาวจีกรรม แสดงออกทางวาจาด้วยเมตตา เช่นบอกแจ้งแนะนำตักเตือนด้วยความหวังดี กล่าววาจาสุภาพต่อกัน
-เมตตามโนกรรม คิดต่อกันด้วยเมตตา เช่นมองกันในแง่ดี คิดทำประโยชน์แก่กัน ยิ้มแย้มแจ่มใส
-สาธารณโภคี แบ่งปันลาภอันชอบธรรม เฉลี่ยเจือจานให้ได้มีส่วนร่วมทั่วกัน
-สีลสามัญญตา มีความประพฤติสุจริตเสมอกับผู้อื่น ไม่ทำตนให้เป็นที่น่ารังเกียจของหมู่
-ทิฏฐิสามัญญตา มีความเห็นชอบร่วมกับเพื่อนร่วมหมู่ ในอารยทฤษฏี ซึ่งนำไปสู่การกำจัดทุกข์
2.คุณสมบัติฝ่ายหมดหรือฝ่ายละ (แสดงเฉพาะที่สำคัญและน่าสนใจพิเศษ)
2.1 ละสังโยชน์หรือกิเลสที่ผูกมัดใจได้ 3 อย่าง
-สักกายทิฏฐิ ความเห็นผิดว่าเป็นตัวของตน ติดสมมติเหนียวแน่น ซึ่งทำให้เห็นแก่ตัวอย่างหยาบและเกิดความกระทบกระทั่ง มีทุกข์ได้แรงๆ
-วิจิกิจฉา ความสงสัยไม่แน่ใจต่างๆ เกี่ยวกับพระศาสดา พระธรรม พระสงฆ์ และสิกขาเป็นต้น ซึ่งทำให้จิตไม่น้อมดิ่งไปในทางที่จะระดมความเพียรมุ่งหน้าปฏิบัติให้เร่งรุดไปในมรรคา
-สีลัพพตปรามาส ความถือเขวเกี่ยวกับศีลพรต คือการถือปฏิบัติศีลและวัตร หรือกฏเกณฑ์ ระเบียบ วินัย ข้อปฏิบัติ ขนบธรรมเนียมต่างๆ ไม่บริสุทธิ์ตามหลักการตามความมุ่งหมาย ที่มุ่งเพื่อความดีงาม เช่น ความสงบเรียบร้อย และความเป็นบาทฐานของสมาธิเป็นต้น แต่ประพฤติด้วยตัณหาและทิฏฐิ เช่น หวังผลประโยชน์ตอบแทน หวังจะได้เป็นนั่นเป็นนี่เป็นต้น ตลอดจนประพฤติด้วยงมงายสักว่าทำตามๆ กันมา
2.2 ละมัจฉริยะ ความตระหนี่ ความใจคับแคบ หวงแหน คอยกีดกันผู้อื่นทั้ง 5 อย่างคือ
-อาวาสมัจฉริยะ หวงที่อยู่อาศัย หวงถิ่น
-กุลมัจฉริยะ หวงตระกูล หวงพวก หวงสำนัก หวงสายสัมพันธ์ เทียบกับที่พูดกันบัดนี้ว่าเล่นพวก
-ลาภมัจฉริยะ หวงลาภ หวงผลประโยชน์ คิดกีดกันไม่ให้คนอื่นได้
-วัณณมัจฉริยะ หวงกิตติคุณ หวงคำสรรเสริญ ไม่พอใจให้ใครมีอะไรดีมาแข่งตน ไม่พอใจให้ใครสวยงาม ได้ยินคำสรรเสริญคุณความดีของคนอื่นแล้วทนไม่ได้
-ธรรมมัจฉริยะ หวงธรรม หวงวิชาความรู้ หวงคุณพิเศษที่ได้บรรลุ กลัวคนอื่นจะรู้หรือประสบผลสำเร็จเทียมเท่าหรือเกินกว่าตน
2.3 ละอคติ คือ ทางความประพฤติที่ผิด หรือความลำเอียงได้ 4 อย่าง
-ฉันทาคติ ลำเอียงเพราะชอบ
-โทสาคติ ลำเอียดเพราะชัง
-โมหาคติ ลำเอียงเพราะหลงหรือเขลา
-ภยาคติ ลำเอียงเพราะกลัว
2.4 ละราคะ โทสะ โมหะ หรือ โลภ โกรธ หลง ขั้นหยาบหรือรุนแรงที่จะทำให้ถึงอบาย ไม่ทำกรรมชั่ว ขั้นร้ายแรงที่จะเป็นเหตุให้ไปอบาย
2.5 ระงับภัยเวร โทมนัสและทุกข์ทางใจต่างๆ ที่จะพึงเกิดจากการไม่ปฏิบัติตามหลักศีลห้า เป็นผู้พ้นจากอบายสิ้นเชิง ความทุกข์ส่วนใหญ่หมดสิ้นไปแล้ว ความทุกข์ที่ยังเหลืออยู่บ้าง เป็นเพียงเศษน้อยนิดที่นับเป็นส่วนไม่ได้

คัดลอกบางส่วนจากหนังสือ พุทธธรรม “ชีวิตและคุณธรรมพื้นฐานของอารยชน”
โดย พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต)

.....................................................
วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน โส เสฏฺโฐ เทวมานุสเส
ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้คู่ความดี คือผู้ที่ประเสริฐสุดในหมู่มนุษย์และเทวดา
วรรคทอง วรรคธรรม โดยท่าน ว.วชิรเมธี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ต.ค. 2013, 15:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


จุงเบยเป็นภาษากัมพูชา

จุง แปลว่า ผูก
เบย แปลว่า ควาย
จุงเบย แปลว่าควายที่ถูกผูกไว้

น่ารักจุงเบย เลยแปลว่า น่ารักเหมือนควายที่ถูกผูกไว้

คนไทยส่วนมากมักเข้าใจผิดว่าจุงเบย แปลว่า จังเลย


http://www.dek-d.com/board/view/2730959/

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ต.ค. 2013, 15:58 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:
จุงเบยเป็นภาษากัมพูชา

จุง แปลว่า ผูก
เบย แปลว่า ควาย
จุงเบย แปลว่าควายที่ถูกผูกไว้

น่ารักจุงเบย เลยแปลว่า น่ารักเหมือนควายที่ถูกผูกไว้

คนไทยส่วนมากมักเข้าใจผิดว่าจุงเบย แปลว่า จังเลย


http://www.dek-d.com/board/view/2730959/
นั้นมันก็เป็นซะอย่างนี้ พอเข้าใจได้ ระเบิดมันออกมาแล้วจะดีเอง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ต.ค. 2013, 16:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


amazing เขียน:
walaiporn เขียน:
จุงเบยเป็นภาษากัมพูชา

จุง แปลว่า ผูก
เบย แปลว่า ควาย
จุงเบย แปลว่าควายที่ถูกผูกไว้

น่ารักจุงเบย เลยแปลว่า น่ารักเหมือนควายที่ถูกผูกไว้

คนไทยส่วนมากมักเข้าใจผิดว่าจุงเบย แปลว่า จังเลย


http://www.dek-d.com/board/view/2730959/
นั้นมันก็เป็นซะอย่างนี้ พอเข้าใจได้

เป็นยังไงหรอเมซิ่ง อะเมซิ่งเคยฟังเพลงนี้ป่าว :b13:
http://www.youtube.com/watch?v=GjT59Z3PGco


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ต.ค. 2013, 16:08 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
amazing เขียน:
walaiporn เขียน:
จุงเบยเป็นภาษากัมพูชา

จุง แปลว่า ผูก
เบย แปลว่า ควาย
จุงเบย แปลว่าควายที่ถูกผูกไว้

น่ารักจุงเบย เลยแปลว่า น่ารักเหมือนควายที่ถูกผูกไว้

คนไทยส่วนมากมักเข้าใจผิดว่าจุงเบย แปลว่า จังเลย


http://www.dek-d.com/board/view/2730959/
นั้นมันก็เป็นซะอย่างนี้ พอเข้าใจได้

เป็นยังไงหรอเมซิ่ง อะเมซิ่งเคยฟังเพลงนี้ป่าว :b13:
http://www.youtube.com/watch?v=GjT59Z3PGco
สงสัยมีคนอิจฉาน้องkongซะแล้ว


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 64 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร