วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 16:15  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 61 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2012, 18:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


คูณโฮฮับ สงสัยคุณจะแกล้งไม่เข้าใจ ทุกขตาก็สภาวะธรรมทั้งหมดนั้นแหละที่ไม่สามารถคงสภาพเดิมได้เพราะถูกบีบคั้นอยู่ตลอด เมื่อมีก็มีผัสสะก็มีเวทนาก็ถูกของคุณ เวทนาทางกายที่รุนแรงถามจริงคุณไม่ทุกข์เหรอ ถ้าคุณบอกไม่ทุกข์ก็ลองนั้งอย่างผมดูสิ จะได้รู้สักทีว่าทุกข์หรือไม่ทุกข์ และจะได้รู้ถึงสัจจะธรรมความจริงสักที จะได้เห็นโลกอย่างแจ่มแจ้งสักทีว่าไม่มีใครได้อะไร และจะได้ลดละเลิก เพราะไม่มีใครได้อะไร

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2012, 18:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณ โฮฮับ คุณยังเห็นตัวคุณเป็นตัวตนอยู่หรือเปล่าถามจริง เคยเห็นว่าตัวตนว่างจริงมั้ยครับ ถ้ายังไม่เคยเห็นคุณก็อยู่แต่บัญญัติ ยังไม่ถึงปรมัตถ์ธรรม ส่วนที่คุณโต้เที่ยงทุกข์เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้มันไม่จบหรอก มีแต่เถียงกันเปล่าหาที่จบไม่ได้ แล้วแต่ใครจะเข้าใจผมไม่อยากโต้ตอบ เป็นอันว่าผมเข้าใจอย่างนี้นะ ทุกข์ในอริยสัจก็คือ เกิด แก่ เจ็บตาย ทุกข์กายทุกใจ พรากจากของรักฯลฯ ส่วนทุกข์ในไตรลักษณ์นั้นเป็นสภาวะธรรมทั้งหมดที่ไม่สามารถทนอยู่ได้ในสภาพเดิม ถูกบีบคั้นอยู่ตลอด ก็แค่นี้ไม่เห็นจะต้องไม่เข้าใจอะไรเลย แต่การแตกสลายของกายที่เกิดในมโนทวารนะเคยรับรู้บ้างไหม

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2012, 19:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
คุณ โฮฮับ คุณยังเห็นตัวคุณเป็นตัวตนอยู่หรือเปล่าถามจริง เคยเห็นว่าตัวตนว่างจริงมั้ยครับ ถ้ายังไม่เคยเห็นคุณก็อยู่แต่บัญญัติ ยังไม่ถึงปรมัตถ์ธรรม ส่วนที่คุณโต้เที่ยงทุกข์เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้มันไม่จบหรอก มีแต่เถียงกันเปล่าหาที่จบไม่ได้ แล้วแต่ใครจะเข้าใจผมไม่อยากโต้ตอบ เป็นอันว่าผมเข้าใจอย่างนี้นะ ทุกข์ในอริยสัจก็คือ เกิด แก่ เจ็บตาย ทุกข์กายทุกใจ พรากจากของรักฯลฯ ส่วนทุกข์ในไตรลักษณ์นั้นเป็นสภาวะธรรมทั้งหมดที่ไม่สามารถทนอยู่ได้ในสภาพเดิม ถูกบีบคั้นอยู่ตลอด ก็แค่นี้ไม่เห็นจะต้องไม่เข้าใจอะไรเลย แต่การแตกสลายของกายที่เกิดในมโนทวารนะเคยรับรู้บ้างไหม

:b8: :b8: :b8: :b8:
:b27: :b27: :b27: :b27:
:b4: :b4: :b4: :b4:
Kiss


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2012, 22:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


ทุกจตาในสามัญลักษณ์ มันไม่ใช่สภาพทนได้ยาก แต่มันเป็นผลอันเกิดจาก
สภาพหรือสภาวะที่ทนได้ยากทนอยู่ไม่ได้ เกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป
สภาพเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไปทำให้เกิดทุกข์ หรือเรียกว่าการไปรู้เหตุแห่งทุกข์




ไม่ใช่สมุทัยหรือทำให้เกิดทุกข์

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2012, 04:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
คูณโฮฮับ สงสัยคุณจะแกล้งไม่เข้าใจ ทุกขตาก็สภาวะธรรมทั้งหมดนั้นแหละที่ไม่สามารถคงสภาพเดิมได้เพราะถูกบีบคั้นอยู่ตลอด เมื่อมีก็มีผัสสะก็มีเวทนาก็ถูกของคุณ เวทนาทางกายที่รุนแรงถามจริงคุณไม่ทุกข์เหรอ ถ้าคุณบอกไม่ทุกข์ก็ลองนั้งอย่างผมดูสิ จะได้รู้สักทีว่าทุกข์หรือไม่ทุกข์ และจะได้รู้ถึงสัจจะธรรมความจริงสักที จะได้เห็นโลกอย่างแจ่มแจ้งสักทีว่าไม่มีใครได้อะไร และจะได้ลดละเลิก เพราะไม่มีใครได้อะไร

คุณนั้นแหล่ะที่ไม่เข้าใจ ก็เพราะไปเข้าใจว่าตัวเองไปรู้สภาวะที่เรียกว่าทุกขตา
ซึ่งแท้จริงแล้วมันเป็นความเข้าใจผิด ทุกขตานั้นเป็นสภาวะที่ไปรู้ทุกข์ที่สำคัญ
มันเกิดพร้อมกับอนิจจังและอนัตตาด้วย
สิ่งที่บิกทู่เห็นเขาเรียกว่าเป็นทุกข์ ไม่ใช่รู้ทุกข์

การเป็นทุกข์เกิดจากกระบวนการขันข์ ที่เป็นการปรุงแต่งของจิตสังขาร
หรืออีกนัยหนึ่งคือการปล่อยให้จิตไปยึดเวทนาตัวที่ไม่ชอบใจ(ทุกขเวทนา)
ผลก็คือเกิดความทุกข์ขึ้นที่กระบวนการขันธ์

ส่วนการรู้ทุกข์นั้นเกิดจากขบวนการขันธ์เช่นกัน แต่เป็นกระบวนการที่ไม่ได้มีการปรุงแต่ง
กระบวนการขันธ์เกิดผัสสะ เวทนา สัญญาและสังขาร สังขารตัวสุดท้ายของกระบวนการขันธ์
จะเกิดสติขึ้น สติตัวนี้แหล่ะที่ทำให้เราไปเห็นเหตุแห่งทุกข์และรู้ผลนั้นก็คือทุกข์

ปล. คุยกับผมเอาแต่เนื้อๆน้ำไม่ต้อง มันจะเสียเวลาตัวคุณเองนะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2012, 04:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
bigtoo เขียน:
คูณโฮฮับ สงสัยคุณจะแกล้งไม่เข้าใจ ทุกขตาก็สภาวะธรรมทั้งหมดนั้นแหละที่ไม่สามารถคงสภาพเดิมได้เพราะถูกบีบคั้นอยู่ตลอด เมื่อมีก็มีผัสสะก็มีเวทนาก็ถูกของคุณ เวทนาทางกายที่รุนแรงถามจริงคุณไม่ทุกข์เหรอ ถ้าคุณบอกไม่ทุกข์ก็ลองนั้งอย่างผมดูสิ จะได้รู้สักทีว่าทุกข์หรือไม่ทุกข์ และจะได้รู้ถึงสัจจะธรรมความจริงสักที จะได้เห็นโลกอย่างแจ่มแจ้งสักทีว่าไม่มีใครได้อะไร และจะได้ลดละเลิก เพราะไม่มีใครได้อะไร

คุณนั้นแหล่ะที่ไม่เข้าใจ ก็เพราะไปเข้าใจว่าตัวเองไปรู้สภาวะที่เรียกว่าทุกขตา
ซึ่งแท้จริงแล้วมันเป็นความเข้าใจผิด ทุกขตานั้นเป็นสภาวะที่ไปรู้ทุกข์ที่สำคัญ
มันเกิดพร้อมกับอนิจจังและอนัตตาด้วย
สิ่งที่บิกทู่เห็นเขาเรียกว่าเป็นทุกข์ ไม่ใช่รู้ทุกข์

การเป็นทุกข์เกิดจากกระบวนการขันข์ ที่เป็นการปรุงแต่งของจิตสังขาร
หรืออีกนัยหนึ่งคือการปล่อยให้จิตไปยึดเวทนาตัวที่ไม่ชอบใจ(ทุกขเวทนา)
ผลก็คือเกิดความทุกข์ขึ้นที่กระบวนการขันธ์

ส่วนการรู้ทุกข์นั้นเกิดจากขบวนการขันธ์เช่นกัน แต่เป็นกระบวนการที่ไม่ได้มีการปรุงแต่ง
กระบวนการขันธ์เกิดผัสสะ เวทนา สัญญาและสังขาร สังขารตัวสุดท้ายของกระบวนการขันธ์
จะเกิดสติขึ้น สติตัวนี้แหล่ะที่ทำให้เราไปเห็นเหตุแห่งทุกข์และรู้ผลนั้นก็คือทุกข์

ปล. คุยกับผมเอาแต่เนื้อๆน้ำไม่ต้อง มันจะเสียเวลาตัวคุณเองนะครับ
วันหยุดตื่นเช้าดีนี่

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2012, 04:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
โฮฮับ เขียน:
bigtoo เขียน:
คูณโฮฮับ สงสัยคุณจะแกล้งไม่เข้าใจ ทุกขตาก็สภาวะธรรมทั้งหมดนั้นแหละที่ไม่สามารถคงสภาพเดิมได้เพราะถูกบีบคั้นอยู่ตลอด เมื่อมีก็มีผัสสะก็มีเวทนาก็ถูกของคุณ เวทนาทางกายที่รุนแรงถามจริงคุณไม่ทุกข์เหรอ ถ้าคุณบอกไม่ทุกข์ก็ลองนั้งอย่างผมดูสิ จะได้รู้สักทีว่าทุกข์หรือไม่ทุกข์ และจะได้รู้ถึงสัจจะธรรมความจริงสักที จะได้เห็นโลกอย่างแจ่มแจ้งสักทีว่าไม่มีใครได้อะไร และจะได้ลดละเลิก เพราะไม่มีใครได้อะไร

คุณนั้นแหล่ะที่ไม่เข้าใจ ก็เพราะไปเข้าใจว่าตัวเองไปรู้สภาวะที่เรียกว่าทุกขตา
ซึ่งแท้จริงแล้วมันเป็นความเข้าใจผิด ทุกขตานั้นเป็นสภาวะที่ไปรู้ทุกข์ที่สำคัญ
มันเกิดพร้อมกับอนิจจังและอนัตตาด้วย
สิ่งที่บิกทู่เห็นเขาเรียกว่าเป็นทุกข์ ไม่ใช่รู้ทุกข์

การเป็นทุกข์เกิดจากกระบวนการขันข์ ที่เป็นการปรุงแต่งของจิตสังขาร
หรืออีกนัยหนึ่งคือการปล่อยให้จิตไปยึดเวทนาตัวที่ไม่ชอบใจ(ทุกขเวทนา)
ผลก็คือเกิดความทุกข์ขึ้นที่กระบวนการขันธ์

ส่วนการรู้ทุกข์นั้นเกิดจากขบวนการขันธ์เช่นกัน แต่เป็นกระบวนการที่ไม่ได้มีการปรุงแต่ง
กระบวนการขันธ์เกิดผัสสะ เวทนา สัญญาและสังขาร สังขารตัวสุดท้ายของกระบวนการขันธ์
จะเกิดสติขึ้น สติตัวนี้แหล่ะที่ทำให้เราไปเห็นเหตุแห่งทุกข์และรู้ผลนั้นก็คือทุกข์

ปล. คุยกับผมเอาแต่เนื้อๆน้ำไม่ต้อง มันจะเสียเวลาตัวคุณเองนะครับ
วันหยุดตื่นเช้าดีนี่
เป็นอันว่าอย่างนี้ก็แล้วกันผู้ทรงแก่เรียน ผมไม่เห็นอะไรมีสาระที่ควรยึดถือไม่มีแก่นสารดีกว่านะ แต่ยังทำกิจในสมุทัยไม่หมด

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2012, 05:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
คุณ โฮฮับ คุณยังเห็นตัวคุณเป็นตัวตนอยู่หรือเปล่าถามจริง เคยเห็นว่าตัวตนว่างจริงมั้ยครับ ถ้ายังไม่เคยเห็นคุณก็อยู่แต่บัญญัติ ยังไม่ถึงปรมัตถ์ธรรม

พูดถึงบัญญัติ พูดถึงปรมัตถ์ก็ดีเหมือนกัน อยากถามว่า เอาคำว่าตัวตนมาพูด
แถมบอกอีกว่าตัวตนว่าง แค่นี้ก็พอเข้าใจแล้วว่า ผู้พูดขาดความเข้าใจในปรมัตถ์

มีอย่างหรือพูดถึงตัวตน แต่ดันบอกตัวตนว่าง
มิน่าล่ะถึงได้บอกว่าเห็นทุกข์ แต่ไม่เห็นอนิจจังและอนัตตา

จะบอกให้ไอ้เรื่องว่างที่คุณบอก มีครับรู้ครับแต่ไม่เอาครับ
เพราะมันไม่ใช่การเห็นการรู้ปัญญา
คุณอย่างหลงเข้าใจผิดว่าความว่างที่คุณบอกเป็น
สิ่งที่คุณต้องการจะสื่อ จะบอกให้มันก็แค่อารมณ์ที่เกิดจากการเพ่ง
หรือกำหนดให้อยู่ในผัสสะเดียวตลอด อารมณ์หรือสภาวะที่เหมือนกัน
มันจึงเกิดความว่างขึ้นแค่นั้น เสริมให้หน่อยวิธีนี้ไม่ใช่หนทางไปสู่ปัญญา
ของปุถุชนนะครับ แต่เป็นวิธีของอริยะท่านครับ ท่านเรียกว่า "จิตวิเวก"ครับ

bigtoo เขียน:
ส่วนที่คุณโต้เที่ยงทุกข์เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้มันไม่จบหรอก มีแต่เถียงกันเปล่าหาที่จบไม่ได้ แล้วแต่ใครจะเข้าใจผมไม่อยากโต้ตอบ

ไม่อยากโต้ตอบ แล้วขุดขึ้นมาพูดอีกทำไมครับ ตั้งสติให้ดีก่อนแล้วค่อยพูดค่อยพิมพ์
ไม่งั้นคำพูดกับการกระทำมันจะสวนทางกันนะครับ และการกระทำแบบนี้มันไม่เหมาะ
ที่จะพูดธรรมให้คนอื่นฟัง
bigtoo เขียน:
เป็นอันว่าผมเข้าใจอย่างนี้นะ ทุกข์ในอริยสัจก็คือ เกิด แก่ เจ็บตาย ทุกข์กายทุกใจ พรากจากของรักฯลฯ ส่วนทุกข์ในไตรลักษณ์นั้นเป็นสภาวะธรรมทั้งหมดที่ไม่สามารถทนอยู่ได้ในสภาพเดิม ถูกบีบคั้นอยู่ตลอด ก็แค่นี้ไม่เห็นจะต้องไม่เข้าใจอะไรเลย แต่การแตกสลายของกายที่เกิดในมโนทวารนะเคยรับรู้บ้างไหม

ทุกข์มันมีสองอย่าง นั้นก็คือ ทุกข์ในกระบวนการปฏิจสมุบาทกับทุกข์ในกระบวนการขันธ์
การเกิดแก่เจ็บตายเป็นทุกข์ในกระบวนการปฏิจสมุบาท เป็นวัฏฏสงสาร
ส่วนทุกข์กาย ทุกข์ใจ พลัดพรากจากของรัก มันเป็นทุกข์ในกระบวนการขันธ์ เป็นอุปาทานขันธ์

ส่วนทุกข์ในไตรลักษณ์ มันไม่ใช่อาการเป็นทุกข์ แต่มันเป็นการไปรู้
เหตุที่ทำให้ทุกข์ในกระบวนการขันธ์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2012, 05:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
bigtoo เขียน:
คุณ โฮฮับ คุณยังเห็นตัวคุณเป็นตัวตนอยู่หรือเปล่าถามจริง เคยเห็นว่าตัวตนว่างจริงมั้ยครับ ถ้ายังไม่เคยเห็นคุณก็อยู่แต่บัญญัติ ยังไม่ถึงปรมัตถ์ธรรม

พูดถึงบัญญัติ พูดถึงปรมัตถ์ก็ดีเหมือนกัน อยากถามว่า เอาคำว่าตัวตนมาพูด
แถมบอกอีกว่าตัวตนว่าง แค่นี้ก็พอเข้าใจแล้วว่า ผู้พูดขาดความเข้าใจในปรมัตถ์

มีอย่างหรือพูดถึงตัวตน แต่ดันบอกตัวตนว่าง
มิน่าล่ะถึงได้บอกว่าเห็นทุกข์ แต่ไม่เห็นอนิจจังและอนัตตา

จะบอกให้ไอ้เรื่องว่างที่คุณบอก มีครับรู้ครับแต่ไม่เอาครับ
เพราะมันไม่ใช่การเห็นการรู้ปัญญา
คุณอย่างหลงเข้าใจผิดว่าความว่างที่คุณบอกเป็น
สิ่งที่คุณต้องการจะสื่อ จะบอกให้มันก็แค่อารมณ์ที่เกิดจากการเพ่ง
หรือกำหนดให้อยู่ในผัสสะเดียวตลอด อารมณ์หรือสภาวะที่เหมือนกัน
มันจึงเกิดความว่างขึ้นแค่นั้น เสริมให้หน่อยวิธีนี้ไม่ใช่หนทางไปสู่ปัญญา
ของปุถุชนนะครับ แต่เป็นวิธีของอริยะท่านครับ ท่านเรียกว่า "จิตวิเวก"ครับ

bigtoo เขียน:
ส่วนที่คุณโต้เที่ยงทุกข์เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้มันไม่จบหรอก มีแต่เถียงกันเปล่าหาที่จบไม่ได้ แล้วแต่ใครจะเข้าใจผมไม่อยากโต้ตอบ

ไม่อยากโต้ตอบ แล้วขุดขึ้นมาพูดอีกทำไมครับ ตั้งสติให้ดีก่อนแล้วค่อยพูดค่อยพิมพ์
ไม่งั้นคำพูดกับการกระทำมันจะสวนทางกันนะครับ และการกระทำแบบนี้มันไม่เหมาะ
ที่จะพูดธรรมให้คนอื่นฟัง
bigtoo เขียน:
เป็นอันว่าผมเข้าใจอย่างนี้นะ ทุกข์ในอริยสัจก็คือ เกิด แก่ เจ็บตาย ทุกข์กายทุกใจ พรากจากของรักฯลฯ ส่วนทุกข์ในไตรลักษณ์นั้นเป็นสภาวะธรรมทั้งหมดที่ไม่สามารถทนอยู่ได้ในสภาพเดิม ถูกบีบคั้นอยู่ตลอด ก็แค่นี้ไม่เห็นจะต้องไม่เข้าใจอะไรเลย แต่การแตกสลายของกายที่เกิดในมโนทวารนะเคยรับรู้บ้างไหม

ทุกข์มันมีสองอย่าง นั้นก็คือ ทุกข์ในกระบวนการปฏิจสมุบาทกับทุกข์ในกระบวนการขันธ์
การเกิดแก่เจ็บตายเป็นทุกข์ในกระบวนการปฏิจสมุบาท เป็นวัฏฏสงสาร
ส่วนทุกข์กาย ทุกข์ใจ พลัดพรากจากของรัก มันเป็นทุกข์ในกระบวนการขันธ์ เป็นอุปาทานขันธ์

ส่วนทุกข์ในไตรลักษณ์ มันไม่ใช่อาการเป็นทุกข์ แต่มันเป็นการไปรู้
เหตุที่ทำให้ทุกข์ในกระบวนการขันธ์
ง่ายๆทุกข์ในอริยสัจ แสดงเหตุอธิบายถึง การเกิดขึ้นพร้อมแห่งธรรมทั้งหลายเพราะอาศัยกัน, การที่สิ่งทั้งหลายอาศัยกันจึงเกิดมีขึ้น เช่น ทุกข์เกิดขึ้นเพราะมีปัจจัย 12 เรื่องเกิดขึ้นสืบ ๆ เนื่องกันมาตามลำดับดังนี้ คือ

เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย สังขารจึงมี
เพราะสังขารเป็นปัจจัย วิญญาณจึงมี
เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย นามรูปจึงมี
เพราะนามรูปเป็นปัจจัย สฬายตนะจึงมี
เพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย ผัสสะจึงมี
เพราะผัสสะเป็นปัจจัย เวทนาจึงมี
เพราะเวทนาเป็นปัจจัย ตัณหาจึงมี
เพราะตัณหาเป็นปัจจัย อุปทานจึงมี
เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย ภพจึงมี
เพราะภพเป็นปัจจัย ชาติจึงมี
เพราะชาติเป็นปัจจัย ชรามรณะจึงมี
ความโศก ความคร่ำครวญ ทุกข์ โทมนัส และความคับแค้นใจ ก็มีพร้อม ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งปวงนี้ จึงมี
ทุกข์ในไตรลักษณ์ การเสื่อมสลาย เข้าไปรู้คือปัญญา

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2012, 06:05 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


onion onion
ง่ายๆทุกข์ในอริยสัจ แสดงเหตุอธิบายถึง การเกิดขึ้นพร้อมแห่งธรรมทั้งหลายเพราะอาศัยกัน, การที่สิ่งทั้งหลายอาศัยกันจึงเกิดมีขึ้น เช่น ทุกข์เกิดขึ้นเพราะมีปัจจัย 12 เรื่องเกิดขึ้นสืบ ๆ เนื่องกันมาตามลำดับดังนี้ คือ

เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย สังขารจึงมี
เพราะสังขารเป็นปัจจัย วิญญาณจึงมี
เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย นามรูปจึงมี
เพราะนามรูปเป็นปัจจัย สฬายตนะจึงมี
เพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย ผัสสะจึงมี
เพราะผัสสะเป็นปัจจัย เวทนาจึงมี
เพราะเวทนาเป็นปัจจัย ตัณหาจึงมี
เพราะตัณหาเป็นปัจจัย อุปทานจึงมี
เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย ภพจึงมี
เพราะภพเป็นปัจจัย ชาติจึงมี
เพราะชาติเป็นปัจจัย ชรามรณะจึงมี
ความโศก ความคร่ำครวญ ทุกข์ โทมนัส และความคับแค้นใจ ก็มีพร้อม ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งปวงนี้ จึงมี
ทุกข์ในไตรลักษณ์ การเสื่อมสลาย เข้าไปรู้คือปัญญา

:b20:
:b27:
:b8:
:b16: :b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2012, 10:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
ง่ายๆทุกข์ในอริยสัจ แสดงเหตุอธิบายถึง การเกิดขึ้นพร้อมแห่งธรรมทั้งหลายเพราะอาศัยกัน, การที่สิ่งทั้งหลายอาศัยกันจึงเกิดมีขึ้น เช่น ทุกข์เกิดขึ้นเพราะมีปัจจัย 12 เรื่องเกิดขึ้นสืบ ๆ เนื่องกันมาตามลำดับดังนี้ คือ

เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย สังขารจึงมี
เพราะสังขารเป็นปัจจัย วิญญาณจึงมี
เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย นามรูปจึงมี
เพราะนามรูปเป็นปัจจัย สฬายตนะจึงมี
เพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย ผัสสะจึงมี
เพราะผัสสะเป็นปัจจัย เวทนาจึงมี
เพราะเวทนาเป็นปัจจัย ตัณหาจึงมี
เพราะตัณหาเป็นปัจจัย อุปทานจึงมี
เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย ภพจึงมี
เพราะภพเป็นปัจจัย ชาติจึงมี
เพราะชาติเป็นปัจจัย ชรามรณะจึงมี
ความโศก ความคร่ำครวญ ทุกข์ โทมนัส และความคับแค้นใจ ก็มีพร้อม ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งปวงนี้ จึงมี
ทุกข์ในไตรลักษณ์ การเสื่อมสลาย เข้าไปรู้คือปัญญา

ถ้าคิดจะก็อปปี้บทความที่เราๆท่านๆเห็นกันจนดารดื่น มาโพสในห้องสนทนาธรรม
ผมว่ามันไม่ได้ประโยชน์รกบอร์ดรกกระทู้ครับ ทางที่ดีคุณบิกทู่คอยอ่าน
คอยอนุโมทนาคนอื่น มันยังจะเกิดกุศลมีประโยชน์มากกว่านะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2012, 13:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
bigtoo เขียน:
ง่ายๆทุกข์ในอริยสัจ แสดงเหตุอธิบายถึง การเกิดขึ้นพร้อมแห่งธรรมทั้งหลายเพราะอาศัยกัน, การที่สิ่งทั้งหลายอาศัยกันจึงเกิดมีขึ้น เช่น ทุกข์เกิดขึ้นเพราะมีปัจจัย 12 เรื่องเกิดขึ้นสืบ ๆ เนื่องกันมาตามลำดับดังนี้ คือ

เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย สังขารจึงมี
เพราะสังขารเป็นปัจจัย วิญญาณจึงมี
เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย นามรูปจึงมี
เพราะนามรูปเป็นปัจจัย สฬายตนะจึงมี
เพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย ผัสสะจึงมี
เพราะผัสสะเป็นปัจจัย เวทนาจึงมี
เพราะเวทนาเป็นปัจจัย ตัณหาจึงมี
เพราะตัณหาเป็นปัจจัย อุปทานจึงมี
เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย ภพจึงมี
เพราะภพเป็นปัจจัย ชาติจึงมี
เพราะชาติเป็นปัจจัย ชรามรณะจึงมี
ความโศก ความคร่ำครวญ ทุกข์ โทมนัส และความคับแค้นใจ ก็มีพร้อม ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งปวงนี้ จึงมี
ทุกข์ในไตรลักษณ์ การเสื่อมสลาย เข้าไปรู้คือปัญญา

ถ้าคิดจะก็อปปี้บทความที่เราๆท่านๆเห็นกันจนดารดื่น มาโพสในห้องสนทนาธรรม
ผมว่ามันไม่ได้ประโยชน์รกบอร์ดรกกระทู้ครับ ทางที่ดีคุณบิกทู่คอยอ่าน
คอยอนุโมทนาคนอื่น มันยังจะเกิดกุศลมีประโยชน์มากกว่านะครับ
สู้ๆนะโฮฮับ มันอยากพระพุทธองค์แลกมาด้วยชีวิตนะกว่าจะได้ ต้องเดิมพันด้วยชีวิต

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2012, 08:37 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b10:
สู้ๆนะโฮฮับ มันอยากพระพุทธองค์แลกมาด้วยชีวิตนะกว่าจะได้ ต้องเดิมพันด้วยชีวิต
:b10:
แล่งไต้.........ใช่ไม้.......
:b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ต.ค. 2013, 15:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
nongkong เขียน:
ขอร้องเพลงให้ฟังหน่อยตื่นเถิดชาวไทยอย่ามัวหลับไหล ลุ่มหลง :b43:
ขอกล่าวอะไรหน่อย คนที่จะตั้งจิตอธิษฐานบารมีแล้วเกิดผล ต้องเป็นคนตั้งจิตอธิษฐานโดย ปราศจากกิเลศ
ถ้าสังเกตุคุนน้องจะไม่อธิษฐานว่าขอให้ตัวเองนิพพาน คุนน้องจะใช้ว่า ขอให้บรรลุธรรม หลุดพ้นจากทุกข์ส่วนคนที่อธิษฐานขอให้ตัวเองชาตินี้ ได้นิพพานสมบัติ มนุษย์สมบัติ จบกันชาตินี้ ไปรออธิษฐานอีกชาติหน้าละกัน การจะอธิษฐานสิ่งที่เป็นกุศลอันยิ่งใหญ่ จิตใจจะต้องปราศจากกิเลศหรือกิเลศเบาบางแล้วเท่านั้น ความโลภ..ความหลง.. ความยินดีพอใจในมนุษย์สมบัติจะต้องไม่มี ไม่อย่างงั้นก็ไม่มีทางนิพพานหรอกชาตินี้
แน่นอนที่สุดครับ!การที่เราปรารถนาพระนิพพานที่ปราศจากความรอบรู้ในอริยสัจแล้วนั้น เป็นไปได้อยากครับที่จะไปถึงฝั่งพระนิพพาน และใครก็ตามที่ได้แต่นั่งคอยนั่งอ้อนวอนให้นิพพานมาหาโดยที่ไม่ได้ออกเดินไปบนทางอริยมรรคสักก้าวก็ไม่มีทางถีงฝังแน่นอน และผมเองปรารถนาพระนิพพานและออกเดินบนเส้นทางนี้โดยปราศจากกลัวว่าจะหิวว่าจะอด ขอถือศิลพรหมจรรย์ตลอดชีวิต ไม่ขอเดินถอยหลังอีกต่อไป ขอสัพสัตว์ทั้งหลายหลุดพ้นเถิด

คิดถึงตาคนนี้จังเลย :b2: :b2:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ต.ค. 2013, 07:52 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
กลับมาสู่คำถามแรกของกระทู้นี้

โค้ด:
[b]การปฏิบัติธรรมที่ถึงพระนิพานเร็วและตรงที่สุด[/b]


:b38:
การปฏิบัติธรรมที่ถึงพระนิพานเร็วและตรงที่สุด คือ พิสูจน์ ...อนัตตา....

พิสูจน์ความเป็นอนัตตา บังคับบัญชาไม่ได้ ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา ของ รูป นาม กาย ใจ หรือขันธ์ 5 ก้อนที่เราสำคัญผิด เห็นผิด ยึดถือไว้แน่นก้อนนี้ สังเกตให้ดี หมดตั้งแต่หัวถึงเท้า นอกกาย ในจิต มีอะไรที่ทนตั้งอยู่ได้ไม่สลาย มีอะไรที่ไม่เปลี่ยนแปลง และสุดท้ายที่สำคัญคือมีอะไรที่บังคับบัญชาได้ มีแก่นสารยึดถือไว้เป็นหลักฐานได้บ้าง

ถ้าพิสูจน์จนพบความจริงแล้วว่าทุกสิ่ง (สัพเพธัมมา)...เป็นอนัตตา บังคับบัญชาไม่ได้แล้ว วิบากหรือผลแห่งการสังเกต ศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัตินี้ จะทำให้เกิดความเบื่อหน่ายคลายจาง ละวาง สลัดคืน ความเห็นผิดยึดผิดทั้งหมดในใจ ได้มรรคญาณ ผลญาณและนิพพานเป็นรางวัล

:b37:
:b36:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 61 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร