ความคิด คําพูด การกระทํา ที่มันต่างกัน มาจาก"ตัวจิตของเรา" จิตที่หนาไปด้วยกิเลส คือ "จิตระดับปุถุชน" ยังคงต้องเวียนว่ายตายเกิด เกิดอยู่ในภพที่สูงกว่ามนุษย์ และ เกิดอยู่ในภพที่ตํ่ากว่ามนุษย์ "จิตปุถุชน" ยังโลภ ย...ังโกรธ ยังหลง "เป็นเรื่องปกติ" ไม่สามารถแยกแยะความถูกต้องกับความไม่ถูกต้อง ออกจากกันได้ "ปุถุชน"จะไม่ให้ความสนใจในเรื่องของการทําทาน ในเรื่องของการรักษาศีล ในเรื่องของการภาวนา "ยังไม่พ้นนรก" ยังต้องได้รับความทุกข์ และ ยังต้องได้รับความสุข

"จิตระดับโสดาบัน" แปลว่า ผู้เข้าถึงกระแสธรรม ผู้แรกถึงกระแสธรรม "พระอริยบุคคลประเภทแรก"
"ทําทาน"เป็นเรื่องปกติ
"รักษาศีล"เป็นเรื่องปกติ
"ภาวนา"เป็นเรื่องปกติ

"โสดาบัน"เริ่มแยกแยะ"ธรรมะ "ความถูกต้องกับความไม่ถูกต้องได้"จิตเข้าถึงกระแสนิพพาน ความโลภ ความโกรธ ความหลง "เริ่มเบาบางลงกว่า"ปุถุชน" ปิดอบายภูมิแน่นอน แต่ ยังคงต้องเวียนว่ายตายเกิด ไม่เกิน 7ชาติ เกิดไม่ตกตํ่ากว่าภพภูมิมนุษย์

"จิตระดับสกทาคามี" หรือ สกิทาคามี แปลว่า ผู้กลับมาเพียง"ครั้งเดียว"เป็นชื่อเรียกพระอริยบุคคลลำดับที่ ๒ ใน ๔ ประเภท ที่เรียกว่า "ผู้กลับมาเพียงครั้งเดียว" หมายถึง พระสกิทาคามีจะเกิดใน"กามาวจรภพ"อีกเพียงครั้งเดียวเท่านั้นก็จะถึงพระนิพพาน แยกแยะธรรมะ ความถูกต้องกับความไม่ถูกต้องได้ละเอียดขึ้นกว่า"จิตระดับโสดาบัน" จะเริ่มไม่ยึดติด กับเรื่องของอาหาร คือ "หลังเที่ยงไม่กิน" หรือ จะกินก็ได้ไม่กินก็ได้ ไม่ได้รู้สึกถึงความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น "ทาน ศีล ภาวนา ทําเป็นเรื่องปกติ"

"จิตระดับอนาคามี" แปลว่า ผู้ไม่มาเกิดอีก หมายความว่าจะไม่กลับมาเกิดใน"กามาวจรภพ"อีก แต่จะเกิดใน "พรหมโลก" อีกเพียงครั้งเดียว แล้วจะนิพพานจากพรหมโลกนั้นเลย เป็นชื่อเรียก"พระอริยบุคคล"ประเภทที่ ๓ แยกแยะธรรมะความถูกต้องกับความไม่ถูกต้องได้ละเอียดขึ้นกว่า"จิตระดับสกทาคามี" "จิตระดับอนาคามี" จะไม่มีการครองเรือน จะไม่มีกินข้าวหลังเที่ยง แยกโลก แยกธรรม ได้ชัดเจนกว่า"จิตระดับสกทาคามี"

"จิตระดับอรหันต์" ผู้ไกลจากกิเลส พระอรหันต์ คือ ผู้สำเร็จธรรมวิเศษสูงสุดในพระพุทธศาสนา พระอริยบุคคลชั้นสูงสุด สามารถละสังโยชน์ได้ครบ 10 ประการ "รอเข้านิพพาน"

"ระดับจิตของมนุษย์จะเป็นเช่นนี้"



เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ที่ผ่านมาได้จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ