วันเวลาปัจจุบัน 22 ก.ค. 2025, 05:29  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 111 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ย. 2013, 09:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หมวด ๒: (เตรียมทุนชีวิต ๒ ด้าน คือ)

- รู้จักมิตรแท้ มิตรเทียม ซึ่งควรคบ และไม่ควรคบ ได้แก่

ก. มิตรเทียม ๔ จำพวก คือ

๑. คนบปอกลอก

๒. คนดีแต่พูด

๓. คนหัวประจบ

๔. คนชวนฉิบหาย


ข. มิตรแท้ ๔ จำพวก คือ

๑. มิตรอุปการะ

๒. มิตรร่วมสุขร่วมทุกข์

๓. มิตรแนะนำประโยชน์

๔. มิตรมีน้ำใจ


- เก็บรักษาสะสมทรัพย์ เหมือนดังผึ้งขยันรวบรวมน้ำเกสรดอกไม้สร้างรัง หรือเหมือนตัวปลวก ก่อสร้างจอมปลวก แล้วพึงจัดสรรทรัพย์ใช้สอย โดยแบ่งเป็น ๔ ส่วน

ก. กินใช้ เลี้ยงดูคน และทำประโยชน์ ๑ ส่วน

ข. ทำทุนประกอบการงาน ๒ ส่วน

ค. เก็บไว้ใช้คราวจำเป็น ๑ ส่วน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ย. 2013, 09:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หมวด ๓: ปกแผ่ทิศทั้ง ๖


- ทิศ ๖ ปฏิบัติหน้าที่ต่อบุคคลที่สัมพันธ์กับตนให้ถูกต้องตามฐานะทั้ง ๖ คือ

๑. ก. บุตรธิดา บำรุงมารดาบิดาผู้เป็นเหมือนทิศเบื้องหน้า โดย

๑) ท่านเลี้ยงเรามาแล้ว เลี้ยท่านตอบ

๒) ช่วยทำกิจธุระการงานของท่าน

๓) ดำรงวงค์สกุล

๔) ประพฤติตนให้เหมาะสมกับความเป็นทายาท

๕) เมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว ทำบุญอุทิศให้ท่าน


ข. มารดาบิดา อนุเคราะห์บุตรธิดา ดังนี้

๑) ห้ามกันจากความชั่ว

๒) ฝึกอบรมให้ตั้งอยู่ในความดี

๓) ให้ศึกษาศิลปวิทยา

๔) เป็นธุระในการมีคู่ครองที่สมควร

๕) มอบทรัยพ์สมบัติให้เมื่อถึงโอกาส


๒. ก. ศิษย์ บำรุงครูอาจารย์ ผู้เป็นเหมือนทิศเบื้องขวา โดย

๑) ลุกรับ แสดงความเคารพ

๒) เข้าไปหา (เช่น ช่วยรับใช้ ปรึกษาซักถาม รับคำแนะนำ)

๓) ตั้งใจฟังและรู้จักฟัง

๔) ปรนนิบัติ ช่วยบริการ

๕) เรียนศิลปวิทยาโดยเคารพ เอาิจริงเอาจัง ถือเป็นกิจสำคัญ

ข. ครูอาจารย์ อนุเคราะห์ศิษย์ ดังนี้

๑) แนะนำฝึกอบรมให้เป็นคนดี

๒) สอนให้เข้าใจแจ่มแจ้ง

๓) สอนศิลปวิทยาให้สิ้นเชิง

๔) ยกย่องให้ปรากฏในหมู่พวก

๕) สร้างเครื่องคุ้มภัยในสารทิศ (สอนให้เอาไปใช้งานเลี้ยงชีพได้จริง)


๓. ก. สามี บำรุงภรรยา ผู้เป็นเหมือนทิศเบื้องหลัง โดย

๑) ยกย่องให้เกียรติสมฐานะภรรยา

๒) ไม่ดูหมิ่น

๓) ไม่นอกใจ

๔) มอบความเป็นใหญ่ในงานบ้าน

๕) หาเครื่องแต่ตัวมาให้เป็นของขวัญตามโอกาส

ข. ภรรยา อนุเคราะห์สามี ดังนี้

๑) จัดงานบ้านให้เรียบร้อย

๒) สงเคราะห์ญาติมิตรทั้งสองฝ่ายด้วยดี

๓) ไม่นอกใจ

๔) รักษาทรัพย์สมบัติที่หามาได้

๕) ขยันช่างจัดช่างทำเอางานทุกอย่าง



๔. ก. บำรุงมิตรสหาย ผู้เป็นเหมือนทิศเบื้องซ้าย โดย

๑) เผื่อแผ่แบ่งปัน

๒) พูดอย่างรักกัน

๓) ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน

๔) มีตนเสมอ ร่วมสุขร่วมทุกข์กัน

๕) ซื่อสัตย์จริงใจต่อกัน


ข. มิตรสหาย อนุเคราะห์ตอบ ดังนี้

๑) เมื่อเพื่อนประมาท ช่วยรักษาป้องกัน

๒) เมื่อเพื่อนประมาท ช่วยรักษาทรัพย์สมบัติของเพื่อน

๓) ในคราวมีภัย เป็นที่พึ่งได้

๔) ไม่ละทิ้งในยามทุกข์ยาก

๕) นับถือตลอดวงศ์ญาติของมิตร


๕. ก. นาย บำรุงคนรับใช้และคนงาน ผู้เป็นเหมือนทิศเบื้องล่าง โดย

๑) จัดงานให้ทำตามความเหมาะสมกับกำลังเพศวัยและความสามารถ

๒) ให้ค่างจ้างรางวัลสมควรแก่งานและความเป็นอยู่

๓) จัดสวัสดิการดี มีช่วยรักษาพยาบาลในยามเจ็บไข้ เป็นต้น

๔) มีอะไรได้พิเศษมา ก็แบ่งปันให้

๕) ให้มีวันหยุดและพักผ่อนหย่อนใจตามโอกาส

ข. คนรับใช้และคนงาน อนุเคราะห์นาย ดังนี้

๑) เริ่มทำงานก่อน

๒) เลิกงานทีหลัง

๓) เอาแต่ของที่นายให้

๔) ทำการงานให้เรียบร้อยและดียิ่งขึ้น

๕) นำความดีของนายงานและกิจการไปเผยแพร่


๖. ก. คฤหัสถ์ บำรุงพระสงฆ์ ผู้เป็นเหมือนทิศเบื้องบน โดย

๑) จะทำสิ่งใด ก็ทำด้วยเมตตา

๒) จะพูดสิ่งใด ก็พูดด้วยเมตตา

๓) คิดสิ่งใด ก็คิดด้วยเมตตา

๔) ต้อนรับด้วยความเต็มใจ

๕) อุปถัมภ์ ด้วยปัจจัย ๔

ข. พระสงฆ์ ย่อมอนุเคราะห์คฤหัสถ์ ดังนี้

๑) ห้ามปรามสอนให้เว้นจากความชั่ว

๒) แนะนำสังสอนให้ตั้งอยู่ในความดี

๓) อนุเคราะห์ด้วยน้ำใจงาม

๔) ให้ได้ฟังได้รู้สิ่งที่ยังไม่เคยรู้ไม่เคยฟัง

๕) ชี้แจงอธิบายสิ่งที่เคยฟังแล้วให้เข้าใจแจ่มแจ้ง

๖) บอกทางสวรรค์ให้ (สอนวิธีดำเนินชีวิตให้ประสบความสุข)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ย. 2013, 09:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สังคหวัตถุ ๔: บำเพ็ญหลักการสงเคราะห์ เพื่อยึดเหนี่ยวใจคนและประสานสังคม ๔ ประการคือ


๑. ทาน เผื่อแผ่แบ่งปัน

๒ ปิยวาจา พูดอย่างรักกัน

๓. อัตถจริยา ทำประโยชน์แก่เขา

๔. สมานัตตตา เอาตัวเข้าสมาน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ย. 2013, 09:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
สังคหวัตถุ ๔: บำเพ็ญหลักการสงเคราะห์ เพื่อยึดเหนี่ยวใจคนและประสานสังคม ๔ ประการคือ


๑. ทาน เผื่อแผ่แบ่งปัน

๒ ปิยวาจา พูดอย่างรักกัน

๓. อัตถจริยา ทำประโยชน์แก่เขา

๔. สมานัตตตา เอาตัวเข้าสมาน



สังคหวัตถุ ๔ เป็นหลักธรรมต่อเนื่องจากพรหมวิหาร ๔ หมายความว่า พรหมวิหาร ๔ เป็นธรรมะประจำใจ (คืออยู่ข้างใน) สังคหวัตถุ ๔ เป็นหลักธรรมภาคปฏิบัติข้างนอก หรือต่อสังคม

นำมานิดหน่อยพอมองเห็นเค้า


หลัก ๔ ประการ ที่เป็นภาคปฏิบัติของพรหมวิหาร ๔ นั้น มีชื่อเรียกรวมว่า สังคหวัตถุ คือหลักการสังเคราะห์ หรือสงเคราะห์ ซึ่งแปลว่า จับมารวมกัน คือมาจากคำว่า “สังคหะ” (สัง = รวมเข้าด้วยกัน + คะหะ ถือ จับ) แปลว่า จับมารวมเข้าด้วยกัน จับอะไร ?

ก็จับใจคนมารวมกัน หรือจับตัวคนมารวมกัน เพื่อทำให้สังคมอยู่ได้ คือ ทำให้สังคมรวมกันได้ มั่นคง เป็นปึกแผ่น มีความสามัคคี เกิดมีเอกภาพ จึงเรียกว่า สังคหวัตถุ ก็คือหลักยึดเหนี่ยวสังคมนั่นเอง

เป็นอันว่า พรหมวิหาร ๔ (เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา) กับ สังคหวัตถุ ๔ นี้ ต่อเนื่องกัน ออกจากใจ สู่ปฏิบัติการในสังคม

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ย. 2013, 14:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


amazing เขียน:
โฮ คงอิจฉาผมล่ะซิ ทำบุญมาต่างกันโฮ อายุ20ต้นๆผมถูกเรียกว่าผู้ทรงเกียรติ อายุ40กลางๆวางมืออยู่สบายๆมีรายได้พอดีๆ มีภรรยาน่ารัก

แล้วอะเมซิ่งไม่อิจฉาพี่กรัชกายหรอ พี่กรัชกายเป็นหนุ่มโสด ที่มีชีวิตอิสระเสรี :b32: แล้วพี่กรัชกายก็ไม่ได้ทิ้งเมียหรือให้เมียหาเลี้ยงตน :b32: พี่แกมีรายได้หาเลี้ยงครอบครัวสบายๆเพราะพี่แกเป็นคนขยันอดทน :b1: ตั้งแต่วัยหนุ่มทำให้สร้างเนื้อสร้างตัวได้ตอนแก่ :b32: พี่แกก็อยู่สบายๆ อยากกินไรก็ได้กิน อยากไปเที่ยวไหนก็ได้ไป อยากซื้อไรก็ซื้อได้(ถ้าเข้าใจความสุขที่เป้นแบบพอเพียง :b45: ) แถมพี่กรัชกายก็ยังได้รู้จักพุทธศาสนาและได้ให้ธรรมทานแก่ผู้อื่นเป็นเวลาหลายปี แถมยังแตกฉานมีความรู้ในบาลีและอภิธรรม :b9: พี่กรัชกาย เป็นอย่างไรก็อย่างนั้น ตรงไปตรงมา ซื่อๆจริงใจ เผยแพร่ธรรมมะตั้งแต่ปี2006(และไม่เคยเปลี่ยนล็อคอินใหม่ :b32: ) และพี่แกก็ยังมีคนรู้ใจ ที่สนิทสนมกันดั่งกับกิ่งทองใบหยก555+(เป็นสาวน้อยผู้มีปัญญาแตกฉานในธรรมของพระพุทธเจ้า :b13: ) เป็นนักธรรมมะ ปฏิบัติธรรมเหมือนกันเข้าใจพุทธศาสนาในแนวเดียวกัน คุยกันได้ทุกเรื่อง การเมืองเอย พุทธศาสนาเอย ธรรมชาติเอย ชีวิตเอย :b13:
:b9: :b9:
ปล.และคุนน้องก็อยากให้พี่กรัชกายทำหน้าที่เป็นผู้ชี้ทางสว่างให้ผู้อื่นในลานแห่งนี้ เพราะการให้ธรรมทานชนะการให้ทั้งปวงเพราะชี้ทางสว่างให้ผู้อื่น :b8: คุนน้องก็จะช่วยพี่กรัชกายอีกแรงนึง :b4: ในโลกไซเบอร์นี่แหละจะสามารถเผยแพร่ธรรมมะได้ง่ายและเร็วที่สุด เพราะขนาดคุนน้องเองที่ไม่เคยรู้จักพุทธศาสนาเลย ยังได้มารู้จักพุทธศาสนาในโลกไซเบอร์ในเวปลานธรรมจักรแห่งนี้ คนที่มีบารมีติดตัวมาเมื่อถึงพร้อมแล้วเค้าจะเดินเข้าหาทางธรรมเอง คุนน้องเชื่อว่าเหตุปัจจัยจะนำเค้าให้เข้ามาสู่เส้นทางธรรมเองเพราะว่าสร้างเหตุมาเช่นนั้น เหมือนคุนน้องนี่งัย อายุ27ก็รู้จักพุทธศาสนาเรียนรู้ธรรมมะแค่ปีกว่าๆก็เข้าถึงไตรลักษณ์ รู้ว่าความเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตาได้อย่างรวดเร็วเพราะประสบการณ์ชีวิตที่ประสบพบเจอมาเป็นสุตตะเป็นความรู้ล้วนๆ :b13: ขนาดไม่เข้าใจบาลีซักกะตัว แต่ได้บารมีปัญญาในพุทธศาสนามาเต็มๆ มีความจำเป็นเลิศ แค่เจอกัลยามิตรมาต่อยอดให้นิดเดียว ก็เกิดความรู้อย่างแตกฉานในธรรมของพระพุทธเจ้า :b13: (คุนน้องก็เป้นโรคเดียวกับอะเมซิ่งคือโรคขี้อวดแต่คุนน้องไม่ได้โม้555+) :b29:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ย. 2013, 16:00 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
amazing เขียน:
โฮ คงอิจฉาผมล่ะซิ ทำบุญมาต่างกันโฮ อายุ20ต้นๆผมถูกเรียกว่าผู้ทรงเกียรติ อายุ40กลางๆวางมืออยู่สบายๆมีรายได้พอดีๆ มีภรรยาน่ารัก

แล้วอะเมซิ่งไม่อิจฉาพี่กรัชกายหรอ พี่กรัชกายเป็นหนุ่มโสด ที่มีชีวิตอิสระเสรี :b32: แล้วพี่กรัชกายก็ไม่ได้ทิ้งเมียหรือให้เมียหาเลี้ยงตน :b32: พี่แกมีรายได้หาเลี้ยงครอบครัวสบายๆเพราะพี่แกเป็นคนขยันอดทน :b1: ตั้งแต่วัยหนุ่มทำให้สร้างเนื้อสร้างตัวได้ตอนแก่ :b32: พี่แกก็อยู่สบายๆ อยากกินไรก็ได้กิน อยากไปเที่ยวไหนก็ได้ไป อยากซื้อไรก็ซื้อได้(ถ้าเข้าใจความสุขที่เป้นแบบพอเพียง :b45: ) แถมพี่กรัชกายก็ยังได้รู้จักพุทธศาสนาและได้ให้ธรรมทานแก่ผู้อื่นเป็นเวลาหลายปี แถมยังแตกฉานมีความรู้ในบาลีและอภิธรรม :b9: พี่กรัชกาย เป็นอย่างไรก็อย่างนั้น ตรงไปตรงมา ซื่อๆจริงใจ เผยแพร่ธรรมมะตั้งแต่ปี2006(และไม่เคยเปลี่ยนล็อคอินใหม่ :b32: ) และพี่แกก็ยังมีคนรู้ใจ ที่สนิทสนมกันดั่งกับกิ่งทองใบหยก555+(เป็นสาวน้อยผู้มีปัญญาแตกฉานในธรรมของพระพุทธเจ้า :b13: ) เป็นนักธรรมมะ ปฏิบัติธรรมเหมือนกันเข้าใจพุทธศาสนาในแนวเดียวกัน คุยกันได้ทุกเรื่อง การเมืองเอย พุทธศาสนาเอย ธรรมชาติเอย ชีวิตเอย :b13:
:b9: :b9:
ปล.และคุนน้องก็อยากให้พี่กรัชกายทำหน้าที่เป็นผู้ชี้ทางสว่างให้ผู้อื่นในลานแห่งนี้ เพราะการให้ธรรมทานชนะการให้ทั้งปวงเพราะชี้ทางสว่างให้ผู้อื่น :b8: คุนน้องก็จะช่วยพี่กรัชกายอีกแรงนึง :b4: ในโลกไซเบอร์นี่แหละจะสามารถเผยแพร่ธรรมมะได้ง่ายและเร็วที่สุด เพราะขนาดคุนน้องเองที่ไม่เคยรู้จักพุทธศาสนาเลย ยังได้มารู้จักพุทธศาสนาในโลกไซเบอร์ในเวปลานธรรมจักรแห่งนี้ คนที่มีบารมีติดตัวมาเมื่อถึงพร้อมแล้วเค้าจะเดินเข้าหาทางธรรมเอง คุนน้องเชื่อว่าเหตุปัจจัยจะนำเค้าให้เข้ามาสู่เส้นทางธรรมเองเพราะว่าสร้างเหตุมาเช่นนั้น เหมือนคุนน้องนี่งัย อายุ27ก็รู้จักพุทธศาสนาเรียนรู้ธรรมมะแค่ปีกว่าๆก็เข้าถึงไตรลักษณ์ รู้ว่าความเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตาได้อย่างรวดเร็วเพราะประสบการณ์ชีวิตที่ประสบพบเจอมาเป็นสุตตะเป็นความรู้ล้วนๆ :b13: ขนาดไม่เข้าใจบาลีซักกะตัว แต่ได้บารมีปัญญาในพุทธศาสนามาเต็มๆ มีความจำเป็นเลิศ แค่เจอกัลยามิตรมาต่อยอดให้นิดเดียว ก็เกิดความรู้อย่างแตกฉานในธรรมของพระพุทธเจ้า :b13: (คุนน้องก็เป้นโรคเดียวกับอะเมซิ่งคือโรคขี้อวดแต่คุนน้องไม่ได้โม้555+) :b29:

มีอะไรต้องอิจฉา ถ้าจะอิจฉาคงเป็นความโสดละมั้งเพราะการได้อยู่คนเดียวไม่มีภรรยาน่าจะเป้นชีวิตที่อิสระ ส่วนเรื่องอื่นไม่มีอะไรต้องอิจฉาเพราะผมไม่มีมิติแห่งความแตกต่างมีความสุขแม้ไม่มีอะไร เพราะเคยมีมาหมดทุกอย่างไม่สะสมสิ่งใดให้เป้นภาระ ส่วนเรื่องทางธรรมมันเป้นปัจจัตตังไม่ต้องอิจฉาใคร แค่ไหนก้อแค่นั้น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 111 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร