วันเวลาปัจจุบัน 08 ส.ค. 2025, 06:08  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 102 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5 ... 7  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 16 ม.ค. 2014, 19:21 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับว่าไปแล้วนั่น ^ :b1: คุณอโศกหายไปหลายวันแล้วนะครับ ช่วยตอบคำถามนี้ด้วยครับ :b8: amazing ด้วย :b1:



"สังขิตเตนะ ปัจจุปาทานขันธา....ทุกขา"

"ว่าโดยย่อ อุปทาน ขันธ์ทั้ง 5 คือ.....ตัว...ทุกข์"


ขันธ์ ๕ ที่ว่าเนี่ย อยู่ไหนครับ แล้วมันเป็นทุกข์ยังไงครับ :b10: :b14:


จะไปเอาสาระอะไรกับอุ้ยโสกะ วันๆดีแต่เสกสรรปั้นแต่งคำพูด
หาความเป็นธรรมะไม่ได้เลย ได้แต่ความฟุ้งซ่าน เหมือนคนเมากัญชา :b32:

:b12: :b12: :b12:
โฮฮับนี่เจออโศกะทีไร ก็พูดธรรมะไม่ออกแล้ว เพราะจนแต้มไปหลายครั้งหลายครา แล้วก็คอยแต่เลี่ยงบาลีไปมาอยู่เรื่อย

สุดท้ายก็เลยเจออโศกะเมื่อไหร่ มิจฉาวาจาก็พรั่งพรูออกมาแทนธรรมะแทบทุกครั้งไป


ระวังคำพูดนี้ให้ดีนะ

อ้างคำพูด:
โฮฮัุบพูด "หาความเป็นธรรมะไม่ได้เลย ได้แต่ความฟุ้งซ่าน เหมือนคนเมากัญชา"


เพราะมันกำลังย้อนเข้าสู่ตัวโฮฮับอย่างแรงแล้วขณะนี้ ดูจากกระทู้หลังๆนี่ เป็นวิปริตธรรมาเสียส่วนมาก...จนทำให้เเข้าใจได้ว่าโฮฮับกำลังวิปลาส จมดิ่งลงไปในบ่วงแห่งมาร ลึกยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ยากจะไถ่ถอน

มีแต่โฮฮับคนเดียวมั้งที่หาธรรมในกระทู้ของอโศกะไม่เจอ เจอแต่ลูกระเบิดที่มาทำใจให้ปฏิฆะ ขุ่นข้อง เมื่อพบกับความจริงที่เสียดแทงหัวใจ อย่างเรื่อง

มรรค 8 ปฏิบัติได้เฉพาะพระอริยเจ้า

ธรรมะไม่ใช่ธรรมชาติ


ซึ่งเป็นความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงของโฮฮับ
:b34: :b34: :b34: :b34:


ตกม้าตายแน่ๆโฮฮับขืนดันทุรังต่อไป

ตกม้าตายยังดี แต่ถ้า วจีและมโนกรรมที่ฟัดเหวี่ยงไปทั่ว ไปกระทบพระอริยเจ้าเข้า แก้ไม่เป็นย่อมจะมีอเวจีมหานรกเป็นที่ไปอย่างแน่แท้นะโฮฮับ

สงสารจริงๆ


โพสต์ เมื่อ: 16 ม.ค. 2014, 19:58 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




GEDC1747_resize.JPG
GEDC1747_resize.JPG [ 74.99 KiB | เปิดดู 2401 ครั้ง ]
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับว่าไปแล้วนั่น ^ :b1: คุณอโศกหายไปหลายวันแล้วนะครับ ช่วยตอบคำถามนี้ด้วยครับ :b8: amazing ด้วย :b1:



"สังขิตเตนะ ปัจจุปาทานขันธา....ทุกขา"

"ว่าโดยย่อ อุปทาน ขันธ์ทั้ง 5 คือ.....ตัว...ทุกข์"


ขันธ์ ๕ ที่ว่าเนี่ย อยู่ไหนครับ แล้วมันเป็นทุกข์ยังไงครับ :b10: :b14:

:b12: :b12: :b12:
ท่านกรัชกายนี่ยังไม่รู้ตัวอีก

"สังขิตเตนะ ปัจจุปาทานขันธา....ทุกขา"

นี่เป็นคำสรุปความหมายของขันธ์ 5 ที่ชี้ไปสู่ประเด็นของการเจริญธรรม คือ ชี้ให้รู้จักก้อนทุกข์ กองทุกข์

เพื่อจะได้ค้นหาเข้าไปก้อนทุกข์นี้ ว่า สมุทัย เหตุของมันอยู่ตรงไหน เป็นอย่างไร จะได้ไถ่ถอน ทำลายเหตุทุกข์ให้หมดไป

คำถามของท่านกรัชกายที่ถามต่อมาว่า

อ้างคำพูด:
ขันธ์ ๕ ที่ว่าเนี่ย อยู่ไหนครับ แล้วมันเป็นทุกข์ยังไงครับ


นี่มันเหมือนกับเรื่องราชสีห์กับนายพราน หมาดุกับไม้เรียว ซึ่งมีแสดงไว้ในพระสูตรแต่ผมค้นหามาให้ดูไม่เป็น

เรื่องมันมีอยู่ว่า

หมาดุ นี่ เวลาถูกไม้เรียวฟาด มันจะต่อสู้ กัดขย้ำที่ไม่เรียว โดยสำคัญว่าไม้เรียวที่ฟาดถูกตัวมันนั่นแหละ เป็นเหตุ...ที่ทำให้มันเจ็บ

แต่ราชสีห์พญาแห่งสัตว์นั้น เวลาเมื่อถูกลูกศรยิงมาต้องกาย ราชสีห์จะไม่สนใจแก้ไขที่ความเจ็บ หรือลูกศร อันเป็นผล

แต่ราชสีห์ จะหันควับไปมองค้นหาที่มาแห่งลูกศร คือนายพรานผู้ยิงศร เมื่อเห็นนายพราน ราชสีห์จะกระโจนเข้าไปไล่ล่ากัดขย่ำที่คอนายพรานให้ตายทันที เพราะเหตุ หรือต้นเหตุที่มาทำให้มันเจ็บคือ นายพรานผู้ยิงศร

่นี่เป็นอุปมา

อุปมัยก็คือ

คนโง่ จะสู้ที่ผล

คนฉลาดจะสู้ที่เหตุ

ผู้ที่ถูกลูกศรยิงต้องกายแล้วไปมัวคิดพิจารณาอยู่ว่า ศรนั้นทำด้วยไม้อะไร หัวศรใช้โลหะประเภทไหน คันธนูที่ใช้ยิง ทำขึ้นด้วยวัสดุชนิดใด สายธนูเป็นเอ็นวัวหรือเชือก ความเจ็บที่เกิดตรงแผลที่ถูกธนู มียาพิษด้วยหรือไม่

มันเปรียบเหมือนคนที่พยายามจะไปศึกษาแยกแยะเรื่องขันธ์ 5 ตามหัวข้อกระทู้นี้นั่นแหละ มันไม่ใช่ประเด็นที่ควรถกเถียงในตอนนี้เมื่อได้รู้คำสรุปว่า

"ขันธ์ 5 คือก้อนทุกข์ กองทุกข์"

คนฉลาดมีสติสัมปชัญญะและปัญญาดี เหมือนราชสีห์ เขาจะยังไม่สนใจรายละเอียดในเรื่องของรายละเอียดของทุกข์หรือความเจ็บอันเป็นผล แต่

เขาจะพุ่งความสนใจ อาศัยทุกข์นั้นเป็นเครื่องชี้ไปหาที่มาหรือต้นเหตุที่ทำให้เขาเจ็บเขาทุกข์ แล้วรีบแก้ไขตรงนั้น เมื่อแก้ไขที่มาหรือเหตุแห่งความทุกข์ความเจ็บได้ ชีวิตที่เหลือของเขาก็จะมีแต่ความสุขสบาย ดังราชสีห์ที่ไม่มีนายพรานมาคอยยิงศรใส่ตัวมันอีก

อะไรเปรียบเป็นนายพราน อะไรเปรียบเป็นราชสีห์ อะไรเปรียบเป็นลูกศร อะไรเปรียบเป็นหมาดุ อะไรเปรียบเป็นไม้เรียว อะไรคือเหตุ อะไรคือผล นี่เป็นเรื่องที่ผู้ใฝ่ใจปฏิบัติธรรมทั้งหลายพึงใช้สติ ปัญญา สังเกต พิจารณาวิเคราะห์วิจัยดูให้ดีจึงจะฉลาดในธรรมและประสบความสำเร็จได้เร็ว



onion onion onion
อโศกะ จึงเอาความหมายของขันธ์ 5 โดยสรุป จากบทสวดมนต์ทำวัตรเช้า แปล มาแสดงและมีอรรถาธิบายประกอบดังแสดงมานี้ ก่อนที่จะถูกท่านกรัชกายดึงจมลงไปในการต่อสู้ที่ผลเยี่ยงหมาดุ
:b12: :b12: :b12:
:b8:
smiley
onion onion onion
โพสต์ เมื่อ: 16 ม.ค. 2014, 20:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับว่าไปแล้วนั่น ^ :b1: คุณอโศกหายไปหลายวันแล้วนะครับ ช่วยตอบคำถามนี้ด้วยครับ :b8: amazing ด้วย :b1:



"สังขิตเตนะ ปัจจุปาทานขันธา....ทุกขา"

"ว่าโดยย่อ อุปทาน ขันธ์ทั้ง 5 คือ.....ตัว...ทุกข์"


ขันธ์ ๕ ที่ว่าเนี่ย อยู่ไหนครับ แล้วมันเป็นทุกข์ยังไงครับ :b10: :b14:

:b12: :b12: :b12:
ท่านกรัชกายนี่ยังไม่รู้ตัวอีก

"สังขิตเตนะ ปัจจุปาทานขันธา....ทุกขา"

นี่เป็นคำสรุปความหมายของขันธ์ 5 ที่ชี้ไปสู่ประเด็นของการเจริญธรรม คือ ชี้ให้รู้จักก้อนทุกข์ กองทุกข์

เพื่อจะได้ค้นหาเข้าไปก้อนทุกข์นี้ ว่า สมุทัย เหตุของมันอยู่ตรงไหน เป็นอย่างไร จะได้ไถ่ถอน ทำลายเหตุทุกข์ให้หมดไป

คำถามของท่านกรัชกายที่ถามต่อมาว่า

อ้างคำพูด:
ขันธ์ ๕ ที่ว่าเนี่ย อยู่ไหนครับ แล้วมันเป็นทุกข์ยังไงครับ


นี่มันเหมือนกับเรื่องราชสีห์กับนายพราน หมาดุกับไม้เรียว ซึ่งมีแสดงไว้ในพระสูตรแต่ผมค้นหามาให้ดูไม่เป็น

เรื่องมันมีอยู่ว่า

หมาดุ นี่ เวลาถูกไม้เรียวฟาด มันจะต่อสู้ กัดขย้ำที่ไม่เรียว โดยสำคัญว่าไม้เรียวที่ฟาดถูกตัวมันนั่นแหละ เป็นเหตุ...ที่ทำให้มันเจ็บ

แต่ราชสีห์พญาแห่งสัตว์นั้น เวลาเมื่อถูกลูกศรยิงมาต้องกาย ราชสีห์จะไม่สนใจแก้ไขที่ความเจ็บ หรือลูกศร อันเป็นผล

แต่ราชสีห์ จะหันควับไปมองค้นหาที่มาแห่งลูกศร คือนายพรานผู้ยิงศร เมื่อเห็นนายพราน ราชสีห์จะกระโจนเข้าไปไล่ล่ากัดขย่ำที่คอนายพรานให้ตายทันที เพราะเหตุ หรือต้นเหตุที่มาทำให้มันเจ็บคือ นายพรานผู้ยิงศร

่นี่เป็นอุปมา

อุปมัยก็คือ

คนโง่ จะสู้ที่ผล

คนฉลาดจะสู้ที่เหตุ

ผู้ที่ถูกลูกศรยิงต้องกายแล้วไปมัวคิดพิจารณาอยู่ว่า ศรนั้นทำด้วยไม้อะไร หัวศรใช้โลหะประเภทไหน คันธนูที่ใช้ยิง ทำขึ้นด้วยวัสดุชนิดใด สายธนูเป็นเอ็นวัวหรือเชือก ความเจ็บที่เกิดตรงแผลที่ถูกธนู มียาพิษด้วยหรือไม่

มันเปรียบเหมือนคนที่พยายามจะไปศึกษาแยกแยะเรื่องขันธ์ 5 ตามหัวข้อกระทู้นี้นั่นแหละ มันไม่ใช่ประเด็นที่ควรถกเถียงในตอนนี้เมื่อได้รู้คำสรุปว่า

"ขันธ์ 5 คือก้อนทุกข์ กองทุกข์"

คนฉลาดมีสติสัมปชัญญะและปัญญาดี เหมือนราชสีห์ เขาจะยังไม่สนใจรายละเอียดในเรื่องของรายละเอียดของทุกข์หรือความเจ็บอันเป็นผล แต่

เขาจะพุ่งความสนใจ อาศัยทุกข์นั้นเป็นเครื่องชี้ไปหาที่มาหรือต้นเหตุที่ทำให้เขาเจ็บเขาทุกข์ แล้วรีบแก้ไขตรงนั้น เมื่อแก้ไขที่มาหรือเหตุแห่งความทุกข์ความเจ็บได้ ชีวิตที่เหลือของเขาก็จะมีแต่ความสุขสบาย ดังราชสีห์ที่ไม่มีนายพรานมาคอยยิงศรใส่ตัวมันอีก

อะไรเปรียบเป็นนายพราน อะไรเปรียบเป็นราชสีห์ อะไรเปรียบเป็นลูกศร อะไรเปรียบเป็นหมาดุ อะไรเปรียบเป็นไม้เรียว อะไรคือเหตุ อะไรคือผล นี่เป็นเรื่องที่ผู้ใฝ่ใจปฏิบัติธรรมทั้งหลายพึงใช้สติ ปัญญา สังเกต พิจารณาวิเคราะห์วิจัยดูให้ดีจึงจะฉลาดในธรรมและประสบความสำเร็จได้เร็ว




อโศกะ จึงเอาความหมายของขันธ์ 5 โดยสรุป จากบทสวดมนต์ทำวัตรเช้า แปล มาแสดงและมีอรรถาธิบายประกอบดังแสดงมานี้ ก่อนที่จะถูกท่านกรัชกายดึงจมลงไปในการต่อสู้ที่ผลเยี่ยงหมาดุ


คุณอโศก สมัยหนุ่มๆ คงเจ้าขู้น่าดู ช่างพูดช่างเจรจาหว่านล้อมโอ้โลมปฏิโลม ผญ.ฟังแล้วหลงคารม คิกๆ ดูสิน่ะกรัชกายถาม
อ้างคำพูด:
ขันธ์ ๕ ที่ว่าเนี่ย อยู่ไหนครับ แล้วมันเป็นทุกข์ยังไงครับ
แทนที่จะตอบตรงๆสั้นๆ กลับพูดอะไรนักก็ไม่รู้ มีหนูมีราชสีห์ มีนายพราน ...มันน่าเอาถุงดำคลุมหัว แล้วก็ฟาดด้วยหางกะเบน :b32: นัก

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 16 ม.ค. 2014, 20:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b12: :b12: :b12:

ยังไม่รู้ตัวอีก ท่านกรัชกาย ดูคำส่งท้ายนี้ให้ดีๆนะครับ

ก่อนที่จะถูกท่านกรัชกายดึงจมลงไปในการต่อสู้ที่ผลเยี่ยงหมาดุ
s004 s004 s004
ท่านกรัชกายจะลองภูมิผู้คนไปอีกทำไม ใครค้นคัมภีร์เก่งเดี๋ยวก็ได้คำตอบ

หักมุม....อโศกะมาหักมุม ......ให้สร้างมุมมองใหม่เรื่องขันธ์ 5 มันจะได้จบแล้วนำไปสู่การปฏิบัติจริงเร็วๆนะครับ
tongue tongue tongue


โพสต์ เมื่อ: 16 ม.ค. 2014, 21:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:


ยังไม่รู้ตัวอีก ท่านกรัชกาย ดูคำส่งท้ายนี้ให้ดีๆนะครับ

ก่อนที่จะถูกท่านกรัชกายดึงจมลงไปในการต่อสู้ที่ผลเยี่ยงหมาดุ

ท่านกรัชกายจะลองภูมิผู้คนไปอีกทำไม ใครค้นคัมภีร์เก่งเดี๋ยวก็ได้คำตอบ

หักมุม....อโศกะมาหักมุม ......ให้สร้างมุมมองใหม่เรื่องขันธ์ 5 มันจะได้จบแล้วนำไปสู่การปฏิบัติจริงเร็วๆนะครับ


(คุณอโศกเนี่ย ช่างสร้างสรรอะไรนักไม่รู้ ตัวเล็กตัวใหญ่วาดนั่นวาดนี่ กรัชกายอ้างอิงมาแล้วต้องมานั่งลบ)


เรื่องขันธ์ 5 พูดกันคล่องปร๋อทุกคนทุกบอร์ด แต่ยังคลุมเครือในรายละเอียดยังเข้าใจเบลอๆ

ถามชัดๆอีกครั้งนะครับ ขันธ์ 5 ที่ว่า เนี่ยอยู่ไหน ชี้ลงไปชัดๆเลยครับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 16 ม.ค. 2014, 21:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คือเรายังรู้คลุมๆเครือๆ ไม่ชัดเจน พอถามตรงๆทีไร มีอันหนีทุกที :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 16 ม.ค. 2014, 21:31 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
คือเรายังรู้คลุมๆเครือๆ ไม่ชัดเจน พอถามตรงๆทีไร มีอันหนีทุกที :b1:


ขันธ์ 5 อยู่ที่ไหน?

ขันธ์ 5 อยู่ใน รูป นาม กาย ใจ ของเรานี่แหละครับ

เป็นส่วนของ รูป 1 คือ รูปขันธ์

เป็นส่วนของนาม 4 คือ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ

ไม่ทราบว่าจะตรงกับคีย์เวิร์ดที่กรัชกายตั้งไว้ในใจหรือเปล่านะครับ

:b16: :b16: :b16:
ก็ขอถามกลับบ้างว่า

ถามทำไม? เพื่ออะไร? ได้ประโยชน์อันใดขึ้นมา จะนำไปสู่การปฏิบัติจริงหรือไม่ หรือเพื่อคุยกันสนุกไปวันๆ ครับ

เป็นเกมส์ลองภูมิ ทดสอบความรู้ หรือเพราะความไม่รู้จริงๆของกรัชกายครับ

s006 s006
s004 s004 s004


โพสต์ เมื่อ: 16 ม.ค. 2014, 21:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
คือเรายังรู้คลุมๆเครือๆ ไม่ชัดเจน พอถามตรงๆทีไร มีอันหนีทุกที :b1:


ขันธ์ 5 อยู่ที่ไหน?

ขันธ์ 5 อยู่ใน รูป นาม กาย ใจ ของเรานี่แหละครับ

เป็นส่วนของ รูป 1 คือ รูปขันธ์

เป็นส่วนของนาม 4 คือ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ

ไม่ทราบว่าจะตรงกับคีย์เวิร์ดที่กรัชกายตั้งไว้ในใจหรือเปล่านะครับ

:b16: :b16: :b16:
ก็ขอถามกลับบ้างว่า

ถามทำไม? เพื่ออะไร? ได้ประโยชน์อันใดขึ้นมา จะนำไปสู่การปฏิบัติจริงหรือไม่ หรือเพื่อคุยกันสนุกไปวันๆ ครับ

เป็นเกมส์ลองภูมิ ทดสอบความรู้ หรือเพราะความไม่รู้จริงๆของกรัชกายครับ

s006 s006
s004 s004 s004



อ้างคำพูด:
ขันธ์ 5 อยู่ใน รูป นาม กาย ใจ ของเรานี่แหละครับ


ระหว่างคุณอโศกพูดยังงั้น กับ กรัชกายพูด คห.ไหนจะหนักแน่นกว่ากัน

ร่างกาย กับ จิตใจ หรือชีวิตเรานี่แหละ ทางศาสนาท่านจำแนกแจกแจงโดยความเป็นขันธ์หรือเป็นกอง ได้ 5 ขันธ์หรือกอง ร่างกายเป็นรูปขันธ์ ส่วนความรู้สึกนึกคิดเป็นนามขันธ์ 4

เน้นอีกที ชีวิตทุกชีวิตนี่แหละ

อ้างคำพูด:
ขันธ์ 5 อยู่ใน รูปนาม กายใจ
แฝงด้วยความเข้าใจผิด :b1: ทำนองธรรมะผี-ปอบ


.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 16 ม.ค. 2014, 22:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณอโศกเข้าใจธรรมะทำนองนี้ :b1:


.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 16 ม.ค. 2014, 22:16 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
คือเรายังรู้คลุมๆเครือๆ ไม่ชัดเจน พอถามตรงๆทีไร มีอันหนีทุกที :b1:


ขันธ์ 5 อยู่ที่ไหน?

ขันธ์ 5 อยู่ใน รูป นาม กาย ใจ ของเรานี่แหละครับ

เป็นส่วนของ รูป 1 คือ รูปขันธ์

เป็นส่วนของนาม 4 คือ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ

ไม่ทราบว่าจะตรงกับคีย์เวิร์ดที่กรัชกายตั้งไว้ในใจหรือเปล่านะครับ

:b16: :b16: :b16:
ก็ขอถามกลับบ้างว่า

ถามทำไม? เพื่ออะไร? ได้ประโยชน์อันใดขึ้นมา จะนำไปสู่การปฏิบัติจริงหรือไม่ หรือเพื่อคุยกันสนุกไปวันๆ ครับ

เป็นเกมส์ลองภูมิ ทดสอบความรู้ หรือเพราะความไม่รู้จริงๆของกรัชกายครับ

s006 s006
s004 s004 s004



อ้างคำพูด:
ขันธ์ 5 อยู่ใน รูป นาม กาย ใจ ของเรานี่แหละครับ



ระหว่างคุณอโศกพูดยังงั้น กับ กรัชกายพูด คห.ไหนจะหนักแน่นกว่ากัน

ร่างกาย กับ จิตใจ หรือชีวิตเรานี่แหละ ทางศาสนาท่านจำแนกแจกแจงโดยความเป็นขันธ์หรือเป็นกอง ได้ 5 ขันธ์หรือกอง ร่างกายเป็นรูปขันธ์ ส่วนความรู้สึกนึกคิดเป็นนามขันธ์ 4

เน้นอีกที ชีวิตทุกชีวิตนี่แหละ

อ้างคำพูด:
ขันธ์ 5 อยู่ใน รูปนาม กายใจ
แฝงด้วยความเข้าใจผิด :b1: ทำนองธรรมะผี-ปอบ


555555
:b12: :b12: :b12: :b12:
ในที่สุดก็เผยคำตอบที่ตั้งไว้ในใจออกมานะกรัชกาย วิเคราะห์ดูแล้วมีหลายชั้นจังเลย
ให้สังคมช่วยกันตัดสินก็แล้วกันนะครับ

:b8: :b8: :b8:
:b4: :b4: :b4:
:b38:


โพสต์ เมื่อ: 16 ม.ค. 2014, 22:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมชาติใด ย่อมเปลี่ยนแปลงสลายไป เพราะวิโรธิปัจจัย เหตุนั้น ธรรมชาตินั้น ชื่อว่า รูป

(วิโรธิปัจจัย คือ สิ่งที่เป็นข้าศึกของมัน (ปัจจัยที่ตรงข้าม) เช่น ร้อนเกิน หนาวเกิน เจ็บเกิน)

ธรรมชาติใด ย่อมคิดซึ่งอารมณ์ เหตุนั้น ธรรมชาตินั้น ชื่อว่า จิต

รูปกับนาม ร่างกายกับจิตใจ เป็นธรรมชาติอยู่เองแล้ว แต่คน (ความยึดถือ (สาสวะ) ว่าเป็นเรา เป็นกู เป็นเขา -อุปาทานขันธ์) เข้าไปยึดมันเอง ดังนั้น พระพุทธเจ้า จึงจำแนกออกเป็นขันธ์ เป็นอายตนะ เป็นธาตุ เป็นอินทรีย์ แล้วก็ถามว่า ไหนล่ะ เรา ไหนล่ะ กู ฯลฯ มันก็เท่านี้เอง :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 16 ม.ค. 2014, 22:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เขาตั้งกระทู้สนทนากันที่นี่ http://www.yantip.com/viewthread.php?ti ... a=page%3D1

เรื่องมีอยู่ว่า


อ้างคำพูด:
กล่าวโดยย่อ

ขันธ์ 5 คือ สภาวะที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติเกิดเป็นรูป 1 กับ นาม 4 รวมเรียกว่าขันธ์ 5 มี รูป, เวทนา, สัญญา, สังขาร, วิญญาน

รูป คือ สภาพที่เกิดขึ้นเป็นวัตถุสิ่งของต่างๆที่สัมผัสได้ด้วยการเห็น

เวทนา คือ สภาวะที่เกิดขึ้นภายในใจ รู้สึกเป็นทุกข์ รู้สึกเป็นสุข หรือรู้สึกเฉยๆ

สัญญา คือ ความจำได้ หมายรู้ เช่น เราเห็นพ่อจำได้รู้ว่าเป็นพ่อเป็นต้น

สังขาร คือ ความปรุงแต่งสภาวะต่างๆเปลี่ยนไปจากสภาวะที่เป็นอยู่เดิมไม่คงที่ ปรุงแต่งที่กายจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์เรียกกายสังขาร ปรุงแต่งที่นอกกายออกไปเรียกโลกสังขาร ปรุงแต่งที่จิตเรียกจิตสังขาร

วิญญาน คือ ความรับรู้ในสภาวะต่างๆที่เข้ามากระทบ รับรู้การกระทบสัมผัสภายนอกเรียกว่ากายวิญญาน รับรู้กระทบภายในเรียกว่ามโนวิญญาน


สมาชิกลานธรรมจักร (ยังไม่เจาะจงชื่อ) เห็นเป็นประการใด ว่าถูกทั้งหมดๆ ก็แล้วไป ถ้าเห็นว่ามีที่ผิด ช่วยแก้ให้ถูกด้วยครับ :b8:


อ้างคำพูด:
รูป คือ สภาพที่เกิดขึ้นเป็นวัตถุสิ่งของต่างๆที่สัมผัสได้ด้วยการเห็น


ก็ทำนองเดียวกับ คห.นี้ เขามองหา มองไปข้างนอก ไม่ได้มองเข้ามาที่ตัว หรือ นึกถึงตัวเองเลย :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 16 ม.ค. 2014, 22:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
คือเรายังรู้คลุมๆเครือๆ ไม่ชัดเจน พอถามตรงๆทีไร มีอันหนีทุกที :b1:


ขันธ์ 5 อยู่ที่ไหน?

ขันธ์ 5 อยู่ใน รูป นาม กาย ใจ ของเรานี่แหละครับ

เป็นส่วนของ รูป 1 คือ รูปขันธ์

เป็นส่วนของนาม 4 คือ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ

ไม่ทราบว่าจะตรงกับคีย์เวิร์ดที่กรัชกายตั้งไว้ในใจหรือเปล่านะครับ

:b16: :b16: :b16:
ก็ขอถามกลับบ้างว่า

ถามทำไม? เพื่ออะไร? ได้ประโยชน์อันใดขึ้นมา จะนำไปสู่การปฏิบัติจริงหรือไม่ หรือเพื่อคุยกันสนุกไปวันๆ ครับ

เป็นเกมส์ลองภูมิ ทดสอบความรู้ หรือเพราะความไม่รู้จริงๆของกรัชกายครับ

s006 s006
s004 s004 s004



อ้างคำพูด:
ขันธ์ 5 อยู่ใน รูป นาม กาย ใจ ของเรานี่แหละครับ



ระหว่างคุณอโศกพูดยังงั้น กับ กรัชกายพูด คห.ไหนจะหนักแน่นกว่ากัน

ร่างกาย กับ จิตใจ หรือชีวิตเรานี่แหละ ทางศาสนาท่านจำแนกแจกแจงโดยความเป็นขันธ์หรือเป็นกอง ได้ 5 ขันธ์หรือกอง ร่างกายเป็นรูปขันธ์ ส่วนความรู้สึกนึกคิดเป็นนามขันธ์ 4

เน้นอีกที ชีวิตทุกชีวิตนี่แหละ

อ้างคำพูด:
ขันธ์ 5 อยู่ใน รูปนาม กายใจ
แฝงด้วยความเข้าใจผิด :b1: ทำนองธรรมะผี-ปอบ


ในที่สุดก็เผยคำตอบที่ตั้งไว้ในใจออกมานะกรัชกาย วิเคราะห์ดูแล้วมีหลายชั้นจังเลย
ให้สังคมช่วยกันตัดสินก็แล้วกันนะครับ



เมื่อคุณอโศกเข้าใจผิดยังงั้นแล้วเนี่ย ถึงตัวจะิคิดจะปฏิบัติยังไงๆ ไร้ผลทั้งหมดครับ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 16 ม.ค. 2014, 22:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


นำมาบาลีแห่งหนึ่งให้ดู :b1:

“อาศัยเครื่องไม้ เถาเชือก ดินฉาบ และหญ้ามุง มีช่องว่างแวดล้อม ย่อมเรียกกันว่า เป็นเรือน ฉันใด อาศัยกระดูก เส้นเอ็น เนื้อ หนัง มีช่องว่างแวดล้อม ย่อมเรียกกันว่าเป็นตัวคน (เป็นรูป) ฉันนั้น”

ความรู้เบื้องต้นสำหรับผู้ศึกษาพระพุทธศาสนา

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 17 ม.ค. 2014, 09:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:


ในที่สุดก็เผยคำตอบที่ตั้งไว้ในใจออกมานะกรัชกาย วิเคราะห์ดูแล้วมีหลายชั้นจังเลย
ให้สังคมช่วยกันตัดสินก็แล้วกันนะครับ


อ้างคำพูด:
ให้สังคมช่วยกันตัดสินก็แล้วกัน


ควรพูดอย่างนี้ครับ คือ ให้ผู้ศึกษาพระพุทธศาสนาใช้ความเห็นต่างนี้ ไปศึกษาค้นคว้าเสียให้ตรงตามหลักพุทธศาสนา :b1:

ถ้าหากให้สังคมตัดสิน เอาแค่สามคน คือ โฮฮับ เมสซิ่ง กบนอกกะลา ตัดสิน เขาก็เห็นด้วยกับอโศกหมด กรัชกายคงอยู่อย่างโดดเดียวเดียวดาย หาคนเห็นด้วยไม่มี :b2: ไม่เชื่อลองทำโพลดูก็ได้ :b1: 100 มีถึง 5 % เปล่าไม่รู้ :b7:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 102 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5 ... 7  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร