วันเวลาปัจจุบัน 24 ก.ค. 2025, 00:59  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 27 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.พ. 2014, 20:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ปกติ..อโสกะ...ก็มักพูดทำนองนั้น..
แต่...ข้างบน....อ่านอยู่หลายรอบว่า..อโสกะแช่งใครใว้ยังงัยหรอ??


:b10:




ยกตนข่มท่าน ว่าคนอื่นเป็นดั่งเทวทัต

asoka เขียน:


อ้อ...! การประยุกต์ปรับปรุงภาษานำธรรมะมาใช้ให้เหมาะกับยุคสมัยอย่างนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน

คนที่มีใจดุจพระเทวทัต ไม่สามารถจะล่วงรู้ได้




คำสาปแช่ง ก็ตามมา
อุปมาว่า คนนั้น ต้องเป็นดังเทวทัต

asoka เขียน:


เพราะโมหะอันเนื่องมาจากอิจฉา มัจฉริยะ ที่มีต่อพระบรมศาสดาปิดบังตาไว้
จนทำปรามาสกรรม อนันตริยกรรม ถูกธรณีสูบตายไป[/color] :b7:



สรุป เกิดจากความเคยชิน แม้โสกะ จะหยิบยกมาเพื่ออุปมาอุปมัย
ก็ยังอดไม่ได้ ที่จะสอดแทรก คำสาปแช่ง ลงไปในเนื้อความนั้นๆ


เหมือนพวกพ่อมดหมอผี ที่ชอบร่ายมนต์
เพื่อให้คนอื่นกลัว

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.พ. 2014, 10:41 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
เสียงเห่าหอน....บริวานลูกสมุน..ของว่าที่..เทวทัต...
:b32:

Onion_L
น่าจะพากันดูจุดเริ่มต้นที่ กบ พูดขึ้นมาลอยๆ อันเป็นทั้งลักษณะ ผรุสวาจาและปิสุณาวาจาตรงนี้ให้ดีกันเสียก่อน

วิจารณ์ตรงนี้กันเสียก่อนว่าเหมาะสมหรือไม่

ทั้งวลัยพร ทั้งกัรัชกาย หรือแม้กบต้องดูตรงจุดเริ่มต้นนี้ให้ดีก่อนที่จะตีโพยตีพาย วิตกวิจารณ์ออกไป

ถามกบให้ดีว่าพูดอย่างนี้มีวัตถุประสงค์อะไร มีเหตุผลอย่างไรจึงมาทำมิจฉาวาจาในลานธรรมเช่นนี้

แล้วการที่อโศกะมากล่าวเตือนให้สติว่าวิบากของกรรมเช่นนี้มันมีเหตุจากอะไร แล้วจะให้ผลอย่างไรในภายหน้า น่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้หลงผิด ให้เกิดสติสัมปชัญญะกลับคืนมา

ไม่ใช่มาโวยวายว่าเป็นคำแช่งด่า

ก็ถ้าใจผู้รับทราบไม่เป็นอย่างเทวทัตจะต้องเดือดร้อนร้อนตัวคิดว่าเป็นการสาปแช่งทำไม เพราะถ้าหากจะเป็นการสาปแช่งก็ย่อมจะไม่เข้าตัวไม่กระทบผู้มีใจสะอาดบริสุทธิ์

ไตร่ตรองพิจารณากันให้ดีๆนะครับ

ทุกข้อเขียน คำพูด เป็นพยานหลักฐานชัดเจนปรากฏอยู่บนลานธรรมอันศักดิ์สิทธิ์นี้ สามารถสืบค้นมาวิเคราะห์ได้ว่าใดใช่ ใด ไม่ใช่ ตามทิศทางคำสอนขิองพระบรมศาสดา ท้าพิสูจน์ได้เสมอ
smiley


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.พ. 2014, 10:49 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b38:
สติ กับปัญญา ควรเจริญไปพร้อมๆกันและได้สัดส่วนพอดีกัน จึงจะเป็นคุณ

สติ ถ้าไม่ประกอบด้วยปัญญามักพาเข้าสมาธิลึก เพราะสติที่มีกำลังมากจะตัดทุกสิ่งทุกอย่าง จนไม่ทันได้สังเกตพิจารณาอะไร จึงค้นหาสมุทัยไม่ค่อยเจอ

สติ กับปัญญาที่เจริญไปพร้อมกันอย่างได้สัดส่วนกันจะทำให้รู้เห็นความจริง อย่างชัดเจนตลอดเวลา

ความจริงที่ว่านั้นคือ เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป ที่เรามาใส่ชื่อว่า "ไตรลักษณ์" ....ทุกขัง.....อนิจจัง.....อนัตตา

และจักได้พบเห็น สมุทัย คือความเห็นผิด ยึดผิด ที่ติดแน่น ฝังลึกในกมลสันดาน แล้วถอดถอนมันออกได้ในที่สุด ด้วยกำลังการทำงานร่วมกันของ สติ ปัญญา อันมี ศีลและสมาธิเป็นกองหนุน

งานของสติ

รู้ทัน (ปัจจุบันอารมณ์)

ระลึกได้

ไม่ลืม


งานของปัญญา

ปัญญาสัมมาทิฏฐิ......ดู.....เห็น.....รู้

ปัญญาสัมมาสังกัปปะ......สังเกต (ไม่ใช้ความคิด).......พิจารณา (ใช้ความคิด)


:b38:

:b12:
สำรวมกายใจ มานิ่งรู้นิ่งสังเกตปัจจุบันอารมณ์(จนมันดับไปต่อหน้าต่อตา)




อโศกไม่ต่างจากนักเทศน์บนธรรมาสน์ คือพูดไปเรื่อยเปื่อย อ้างชื่อนั่นนี่

แต่ถ้าถามว่า จะทำยังไง ให้สติปัญญาเป็นต้นเกิดขึ้น อโศกก็ตกธรรมาสน์ คิกๆๆ จริงไม่จริง

ถ้าไม่จริง ไหนบอกวิธีเจริญสติเจริญปัญญาสิเอ้า :b32:

อ้างคำพูด:
สติ กับปัญญา ควรเจริญไปพร้อมๆกันและได้สัดส่วนพอดีกัน จึงจะเป็นคุณ


เอ้า บอกวิธีสิทำยังไง :b9:

:b12:
"สำรวมกายใจ มานิ่งรู้นิ่งสังเกตปัจจุบันอารมณ์.......(จนมันดับไปต่อหน้าต่อตา)

แล้วปัญญาเขาจะสรุปเรื่องราวต่างๆเอาเองโดยอัตโนมัติ (อย่างที่ฝรั่งเขาเรียกว่า...Experience )

บางอย่างจะรู้ตรงที่ใจไม่มีคำพูด บางอย่างจะรู้เมื่อคิดวิตกวิจารณ์ตามภายหลัง

สำคัญสำหรับกรัชกายจะเข้าใจความหมายในเชิงปฏิบัติของคำนี้หรือเปล่า.....หรือเอาไปทำตามคำบอกเล่านี้ได้อย่างไร

"สำรวมกายใจ มานิ่งรู้ นิ่งสังเกต ปัจจุบันอารมณ์"
:b32: :b13: :b11:

:b36:
สำรวม กาย ใจ.........ศีลมรรค.....สัมมาวาจา.....สัมมากัมมันตะ.....สัมมาอาชีวะ

นิ่ง......สัมมาสมาธิ

รู้.......


รู้ทัน....ระลึกได้.....ไม่ลืม.......สัมมาสติ

รู้ตามความเป็นจริง......สัมมาทิฏฐิ......ดู.....เห็น.....รู้

สังเกต.......สัมมาสังกัปปะ.....สังเกต.......พิจารณา

ปัจจุบันอารมณ์.......ที่ตั้งแห่งความจริงที่แก้ไขได้ ที่รวม ที่เกิดแห่งธรรมทั้งปวง จุดหรือที่ทำงานของวิปัสสนาภาวนา
:b38:
มรรคทั้ง 8 ข้อ สมบูรณ์อยู่ในคำสรุป งานและหน้าที่ของชาวพุทธ

อรรถาธิบายนี้ ขอให้กรัชกายลองพิจารณา ไตร่ตรอง ใคร่ครวญดูให้ดีๆ โดยเทียบจากสภาวะธรรมที่จักเกิดขึ้นจริงๆในการกระทำ
:b43:
จนละความเห็นผิด.......นี่คือเป้าหมายสำคัญอันดับที่ 1 ของงานเจริญมรรค 8 หรือ วิปัสสนาภาวนา
ถ้าผ่านด่านที่ 1 นี้ได้แล้ว จักถึงด่านที่ 2 คือ

"ความยึดผิด"......มานะทิฏฐิ.....

ยึดกาย.....ละได้ด้วยอนาคามีมรรค

ยึดจิต......ละได้ด้วยอรหัตมรรค
:b39:
ว่ากายใจนี้เป็นอัตตา ตัวกู ของกู..........เป็นคำแปลให้เข้าใจว่าความเห็นผิดจริงๆคืออะไร

พอกพูนความเห็นถูกต้อง ว่ากาย ใจ นี้เป็น อนัตตา บังคับบัญชาไม่ได้ ไม่ใช่ตัวกู ของกู.....เป็นโอปนะยิโกธรรมดังกล่าวไว้ในธรรมคุณ 6 ประการ
ทุกวัน เวลา นาที วินาที ที่ระลึกได้และมีโอกาส.......เป็นสัมมาวายามะ เป็นการนำวิปัสสนาภาวนาหรือมรรค 8 มาเจริญในชีวิตประจำวัน

สังเกตให้ดี

ที่่ระลึกได้.....เมื่อมีสติระลึกได้ว่าเราต้องนิ่งรู้นิ่งสังเกตปัจจุบันอารมณ์

และมีโอกาส......เมื่อมีช่องว่างเปิดให้ในเวลาทำงานของชีวิตประจำวัน เช่นช่วงพัก ช่วงระหว่างงาน ช่วงวันหยุด ช่วงวันลา ช่วงเจ็บป่วยไม่ได้ทำงานอะไร เป็นต้น
:b53:
ขยายความ หัวใจวิปัสสนาภาวนาในวันต่อไปนะกรัชกาย
:b48:
อ้อ...! การประยุกต์ปรับปรุงภาษานำธรรมะมาใช้ให้เหมาะกับยุคสมัยอย่างนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน คนที่มีใจดุจพระเทวทัต ไม่สามารถจะล่วงรู้ได้ เพราะโมหะอันเนื่องมาจากอิจฉา มัจฉริยะ ที่มีต่อพระบรมศาสดาปิดบังตาไว้ จนทำปรามาสกรรม อนันตริยกรรม ถูกธรณีสูบตายไป
:b7:



อโศกได้วิธีจัดนั่นมาจากไหนขอรับ :b32:

:b12:
ได้มาจากประสบการณ์การปฏิบัตจริง สัมผัสสภาวะในกายในจิตแล้วมาวิเคราะห์เทียบกับคำสอนกลางเรื่องมรรค 8 ภัทเทกรัตคาถา อนัตตลักขณสูตร และโพธิปักขิยธรรม 37 ประการ ครับ
:b11:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.พ. 2014, 11:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
เสียงเห่าหอน....บริวานลูกสมุน..ของว่าที่..เทวทัต...
:b32:

Onion_L
น่าจะพากันดูจุดเริ่มต้นที่ กบ พูดขึ้นมาลอยๆ อันเป็นทั้งลักษณะ ผรุสวาจาและปิสุณาวาจาตรงนี้ให้ดีกันเสียก่อน วิจารณ์ตรงนี้กันเสียก่อนว่าเหมาะสมหรือไม่




เห็นอยู่ ไม่ใช่ไม่เห็นที่กบโพส

แต่เพราะ โสกะ มีอวิชชาหนาแน่น จึงทำให้ไม่รู้ชัดในผัสสะ ที่เกิดขึ้น

การกระทำของโสกะ จึงออกมาแบบนี้


asoka เขียน:


อ้อ...! การประยุกต์ปรับปรุงภาษานำธรรมะมาใช้ให้เหมาะกับยุคสมัยอย่างนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน

คนที่มีใจดุจพระเทวทัต ไม่สามารถจะล่วงรู้ได้



asoka เขียน:


เพราะโมหะอันเนื่องมาจากอิจฉา มัจฉริยะ ที่มีต่อพระบรมศาสดาปิดบังตาไว้
จนทำปรามาสกรรม อนันตริยกรรม ถูกธรณีสูบตายไป[/color] :b7:



ถึงบอกไง โสกะ ได้แต่ท่องจำ แต่ยังทำไม่ได้

การท่องจำ เป็นสิ่งที่ไม่เป็นพิษ เป็นภัย

เหตุของ การท่องจำ ที่ทำให้เกิดเป็นพิษเป็นภัย ต่อผู้ท่องจำ
เกิดจาก นำความรู้นั้นๆมาบอกเล่าผู้อื่น แสดงท่าทีเหมือน ตนนั้นทำได้

แต่ตัวเองยังทำไม่ได้
ก็เลยออกมาแบบ ที่โสกะ ได้แสดงออกมา




asoka เขียน:


ทั้งวลัยพร ทั้งกัรัชกาย หรือแม้กบต้องดูตรงจุดเริ่มต้นนี้ให้ดีก่อนที่จะตีโพยตีพาย วิตกวิจารณ์ออกไป

ถามกบให้ดีว่าพูดอย่างนี้มีวัตถุประสงค์อะไร มีเหตุผลอย่างไรจึงมาทำมิจฉาวาจาในลานธรรมเช่นนี้

แล้วการที่อโศกะมากล่าวเตือนให้สติว่าวิบากของกรรมเช่นนี้มันมีเหตุจากอะไร แล้วจะให้ผลอย่างไรในภายหน้า น่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้หลงผิด ให้เกิดสติสัมปชัญญะกลับคืนมา

ไม่ใช่มาโวยวายว่าเป็นคำแช่งด่า

ก็ถ้าใจผู้รับทราบไม่เป็นอย่างเทวทัตจะต้องเดือดร้อนร้อนตัวคิดว่าเป็นการสาปแช่งทำไม เพราะถ้าหากจะเป็นการสาปแช่งก็ย่อมจะไม่เข้าตัวไม่กระทบผู้มีใจสะอาดบริสุทธิ์

ไตร่ตรองพิจารณากันให้ดีๆนะครับ

ทุกข้อเขียน คำพูด เป็นพยานหลักฐานชัดเจนปรากฏอยู่บนลานธรรมอันศักดิ์สิทธิ์นี้ สามารถสืบค้นมาวิเคราะห์ได้ว่าใดใช่ ใด ไม่ใช่ ตามทิศทางคำสอนขิองพระบรมศาสดา ท้าพิสูจน์ได้เสมอ
smiley




นี่แหละคือ เหตุปัจจัยที่โสกะมีอยู่ และที่กระทำให้เกิดขึ้นใหม่

สภาวะของโสกะ จึงหมกมุ่น ติดกับบัญญัติ
ที่ตนคิดเอาเอง น้อมเอาเองว่า จะต้องเป็นอย่างงั้น อย่างงี้

ผิดกับการกระทำ ที่กระทำออกมา
จึงก่อให้เกิดภพชาติใหม่ ให้เกิดขึ้นเนืองๆ
จากการกระทำของโสกะเอง หาใช่ใคร ทำให้เกิดขึ้นไม่


โสกะพูดออกมามาก กล่าวโทษนอกตัวมากเท่าไหร่
ยิ่งเป็นการประจานตัวเอง บ่งบอกถึงสภาวะที่ตนเป็นอยู่

สักแต่ว่าท่องจำมา แต่ทำไม่ได้
แต่อยากจะขายของ เอาของยัดไส้มาขาย

คนที่รู้ว่ายัดไส้ ไม่ซื้อหรอก

ส่วนคนที่ซื้อ เพราะ ไม่รู้ว่ายัดไส้
วันใดรู้ เลิกซื้อเอง ต่อให้มีของแถม ก็ไม่เอา เพราะ ยัดไส้

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.พ. 2014, 17:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:
asoka เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
เสียงเห่าหอน....บริวานลูกสมุน..ของว่าที่..เทวทัต...
:b32:

Onion_L
น่าจะพากันดูจุดเริ่มต้นที่ กบ พูดขึ้นมาลอยๆ อันเป็นทั้งลักษณะ ผรุสวาจาและปิสุณาวาจาตรงนี้ให้ดีกันเสียก่อน วิจารณ์ตรงนี้กันเสียก่อนว่าเหมาะสมหรือไม่




เห็นอยู่ ไม่ใช่ไม่เห็นที่กบโพส

แต่เพราะ โสกะ มีอวิชชาหนาแน่น จึงทำให้ไม่รู้ชัดในผัสสะ ที่เกิดขึ้น

การกระทำของโสกะ จึงออกมาแบบนี้


asoka เขียน:


อ้อ...! การประยุกต์ปรับปรุงภาษานำธรรมะมาใช้ให้เหมาะกับยุคสมัยอย่างนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน

คนที่มีใจดุจพระเทวทัต ไม่สามารถจะล่วงรู้ได้



asoka เขียน:



เพราะโมหะอันเนื่องมาจากอิจฉา มัจฉริยะ ที่มีต่อพระบรมศาสดาปิดบังตาไว้
จนทำปรามาสกรรม อนันตริยกรรม ถูกธรณีสูบตายไป[/color] :b7:



ถึงบอกไง โสกะ ได้แต่ท่องจำ แต่ยังทำไม่ได้

การท่องจำ เป็นสิ่งที่ไม่เป็นพิษ เป็นภัย

เหตุของ การท่องจำ ที่ทำให้เกิดเป็นพิษเป็นภัย ต่อผู้ท่องจำ
เกิดจาก นำความรู้นั้นๆมาบอกเล่าผู้อื่น แสดงท่าทีเหมือน ตนนั้นทำได้

แต่ตัวเองยังทำไม่ได้
ก็เลยออกมาแบบ ที่โสกะ ได้แสดงออกมา




asoka เขียน:


ทั้งวลัยพร ทั้งกัรัชกาย หรือแม้กบต้องดูตรงจุดเริ่มต้นนี้ให้ดีก่อนที่จะตีโพยตีพาย วิตกวิจารณ์ออกไป

ถามกบให้ดีว่าพูดอย่างนี้มีวัตถุประสงค์อะไร มีเหตุผลอย่างไรจึงมาทำมิจฉาวาจาในลานธรรมเช่นนี้

แล้วการที่อโศกะมากล่าวเตือนให้สติว่าวิบากของกรรมเช่นนี้มันมีเหตุจากอะไร แล้วจะให้ผลอย่างไรในภายหน้า น่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้หลงผิด ให้เกิดสติสัมปชัญญะกลับคืนมา

ไม่ใช่มาโวยวายว่าเป็นคำแช่งด่า

ก็ถ้าใจผู้รับทราบไม่เป็นอย่างเทวทัตจะต้องเดือดร้อนร้อนตัวคิดว่าเป็นการสาปแช่งทำไม เพราะถ้าหากจะเป็นการสาปแช่งก็ย่อมจะไม่เข้าตัวไม่กระทบผู้มีใจสะอาดบริสุทธิ์

ไตร่ตรองพิจารณากันให้ดีๆนะครับ

ทุกข้อเขียน คำพูด เป็นพยานหลักฐานชัดเจนปรากฏอยู่บนลานธรรมอันศักดิ์สิทธิ์นี้ สามารถสืบค้นมาวิเคราะห์ได้ว่าใดใช่ ใด ไม่ใช่ ตามทิศทางคำสอนขิองพระบรมศาสดา ท้าพิสูจน์ได้เสมอ
smiley




นี่แหละคือ เหตุปัจจัยที่โสกะมีอยู่ และที่กระทำให้เกิดขึ้นใหม่

สภาวะของโสกะ จึงหมกมุ่น ติดกับบัญญัติ
ที่ตนคิดเอาเอง น้อมเอาเองว่า จะต้องเป็นอย่างงั้น อย่างงี้

ผิดกับการกระทำ ที่กระทำออกมา
จึงก่อให้เกิดภพชาติใหม่ ให้เกิดขึ้นเนืองๆ
จากการกระทำของโสกะเอง หาใช่ใคร ทำให้เกิดขึ้นไม่


โสกะพูดออกมามาก กล่าวโทษนอกตัวมากเท่าไหร่
ยิ่งเป็นการประจานตัวเอง บ่งบอกถึงสภาวะที่ตนเป็นอยู่

สักแต่ว่าท่องจำมา แต่ทำไม่ได้
แต่อยากจะขายของ เอาของยัดไส้มาขาย

คนที่รู้ว่ายัดไส้ ไม่ซื้อหรอก

ส่วนคนที่ซื้อ เพราะ ไม่รู้ว่ายัดไส้
วันใดรู้ เลิกซื้อเอง ต่อให้มีของแถม ก็ไม่เอา เพราะ ยัดไส้

:b12: :b12:

หยิกเล็บ ก็เจ็บเนื้อนะน้องวลัยพร

ทั้งหมดที่น้องพูดมานั้นนะมันย้อนกลับเข้าตัววลัยพรคืนทั้งหมดเชียวนะ ลองตรองดูกลับไปให้ดีๆน้า.......

:b7: :b7:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.พ. 2014, 18:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
walaiporn เขียน:
asoka เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
เสียงเห่าหอน....บริวานลูกสมุน..ของว่าที่..เทวทัต...
:b32:

Onion_L
น่าจะพากันดูจุดเริ่มต้นที่ กบ พูดขึ้นมาลอยๆ อันเป็นทั้งลักษณะ ผรุสวาจาและปิสุณาวาจาตรงนี้ให้ดีกันเสียก่อน วิจารณ์ตรงนี้กันเสียก่อนว่าเหมาะสมหรือไม่




เห็นอยู่ ไม่ใช่ไม่เห็นที่กบโพส

แต่เพราะ โสกะ มีอวิชชาหนาแน่น จึงทำให้ไม่รู้ชัดในผัสสะ ที่เกิดขึ้น

การกระทำของโสกะ จึงออกมาแบบนี้


asoka เขียน:


อ้อ...! การประยุกต์ปรับปรุงภาษานำธรรมะมาใช้ให้เหมาะกับยุคสมัยอย่างนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน

คนที่มีใจดุจพระเทวทัต ไม่สามารถจะล่วงรู้ได้



asoka เขียน:



เพราะโมหะอันเนื่องมาจากอิจฉา มัจฉริยะ ที่มีต่อพระบรมศาสดาปิดบังตาไว้
จนทำปรามาสกรรม อนันตริยกรรม ถูกธรณีสูบตายไป[/color] :b7:



ถึงบอกไง โสกะ ได้แต่ท่องจำ แต่ยังทำไม่ได้

การท่องจำ เป็นสิ่งที่ไม่เป็นพิษ เป็นภัย

เหตุของ การท่องจำ ที่ทำให้เกิดเป็นพิษเป็นภัย ต่อผู้ท่องจำ
เกิดจาก นำความรู้นั้นๆมาบอกเล่าผู้อื่น แสดงท่าทีเหมือน ตนนั้นทำได้

แต่ตัวเองยังทำไม่ได้
ก็เลยออกมาแบบ ที่โสกะ ได้แสดงออกมา




asoka เขียน:


ทั้งวลัยพร ทั้งกัรัชกาย หรือแม้กบต้องดูตรงจุดเริ่มต้นนี้ให้ดีก่อนที่จะตีโพยตีพาย วิตกวิจารณ์ออกไป

ถามกบให้ดีว่าพูดอย่างนี้มีวัตถุประสงค์อะไร มีเหตุผลอย่างไรจึงมาทำมิจฉาวาจาในลานธรรมเช่นนี้

แล้วการที่อโศกะมากล่าวเตือนให้สติว่าวิบากของกรรมเช่นนี้มันมีเหตุจากอะไร แล้วจะให้ผลอย่างไรในภายหน้า น่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้หลงผิด ให้เกิดสติสัมปชัญญะกลับคืนมา

ไม่ใช่มาโวยวายว่าเป็นคำแช่งด่า

ก็ถ้าใจผู้รับทราบไม่เป็นอย่างเทวทัตจะต้องเดือดร้อนร้อนตัวคิดว่าเป็นการสาปแช่งทำไม เพราะถ้าหากจะเป็นการสาปแช่งก็ย่อมจะไม่เข้าตัวไม่กระทบผู้มีใจสะอาดบริสุทธิ์

ไตร่ตรองพิจารณากันให้ดีๆนะครับ

ทุกข้อเขียน คำพูด เป็นพยานหลักฐานชัดเจนปรากฏอยู่บนลานธรรมอันศักดิ์สิทธิ์นี้ สามารถสืบค้นมาวิเคราะห์ได้ว่าใดใช่ ใด ไม่ใช่ ตามทิศทางคำสอนขิองพระบรมศาสดา ท้าพิสูจน์ได้เสมอ
smiley




นี่แหละคือ เหตุปัจจัยที่โสกะมีอยู่ และที่กระทำให้เกิดขึ้นใหม่

สภาวะของโสกะ จึงหมกมุ่น ติดกับบัญญัติ
ที่ตนคิดเอาเอง น้อมเอาเองว่า จะต้องเป็นอย่างงั้น อย่างงี้

ผิดกับการกระทำ ที่กระทำออกมา
จึงก่อให้เกิดภพชาติใหม่ ให้เกิดขึ้นเนืองๆ
จากการกระทำของโสกะเอง หาใช่ใคร ทำให้เกิดขึ้นไม่


โสกะพูดออกมามาก กล่าวโทษนอกตัวมากเท่าไหร่
ยิ่งเป็นการประจานตัวเอง บ่งบอกถึงสภาวะที่ตนเป็นอยู่

สักแต่ว่าท่องจำมา แต่ทำไม่ได้
แต่อยากจะขายของ เอาของยัดไส้มาขาย

คนที่รู้ว่ายัดไส้ ไม่ซื้อหรอก

ส่วนคนที่ซื้อ เพราะ ไม่รู้ว่ายัดไส้
วันใดรู้ เลิกซื้อเอง ต่อให้มีของแถม ก็ไม่เอา เพราะ ยัดไส้

:b12: :b12:

หยิกเล็บ ก็เจ็บเนื้อนะน้องวลัยพร

ทั้งหมดที่น้องพูดมานั้นนะมันย้อนกลับเข้าตัววลัยพรคืนทั้งหมดเชียวนะ ลองตรองดูกลับไปให้ดีๆน้า.......

:b7: :b7:




วลัยพรแตกต่างจากโสกะ คำว่า หยิกเล็บเจ็บเนื้อ ใช้กับวลัยพรไม่ได้หรอก

อย่างน้อยๆ เวลาวลัยพร สนทนาเกี่ยวกับสภาวะต่างๆ

ถ้านำอะไรมาอ้างอิง นำมาจากไหน จะแนบลิงค์ ที่มาตลอด
เวลาโพสคำสอนที่พระพุทธเจ้า ทรงทิ้งแนวทางไว้ให้ แนบลิงค์ที่นำมาตลอด


วลัยพรก็ไม่เคยนำ ทิฏฐิของตน เข้าไปแทรกในคำสอนพระพุทธเจ้า
เพราะอะไรน่ะหรือ

เพราะ วลัยพร เป็นผู้ที่ไม่รู้อะไรเลย ไม่มีอะไรเป็นของตน
จึงต้องอาศัยการนำคำสอนพระพุทธเจ้า มาอ้างอิงเป็นหลัก

ใครเป็นศาสดา พระพุทธเจ้าเป็นศาสดาของวลัยพร เป็นครูของวลัยพร
เมื่อเคารพครู จึงไม่คิดก้าวล่วงครู จะเอ่ยอ้างอิงสิ่งใด ใช้คำสอนของครูเป็นหลัก

คำเรียกต่างๆ ไม่เคยรู้จัก ไม่รู้ว่า คำเรียกนั้นๆ คืออะไร
ได้แต่อาศัย นำสภาวะที่เกิดขึ้นจากการเรียนรู้กาย ใจ แล้วนำไปเทียบเคียง
จึงกล่าวได้เต็มปากเต็มคำว่า ไม่มีอะไรเป็นของตน เพราะสิ่งที่วลัยพรรู้ ไม่มีคำเรียก

หากไม่มีเนต ไม่มีแหล่งหาความรู้
วลัยพรไม่ต่างกับ คนไม่รู้หนังสือ

เช่น ไก่ วลัยพรรู้แต่ว่า ลักษณะตัวมันเป็นแบบนี้ มีองค์ประกอบแบบนี้ แต่ไม่รู้ว่า สิ่งนั้น เรียกว่า ไก่
แม้จะเขียนคำว่า ไก่ ก็เขียนไม่เป็น เพราะ เพราะถ้าไม่มีครู ใครจะสอนให้เขียนได้

ที่สำคัญ ตั้งแต่แรกเริ่มเข้ามาสนทนาที่นี่
ไม่เคยกล่าวคำสาปแช่ง หรือ ร่ายมนต์ เอาเรื่องการปรามาส ที่เป็นสีลัพพตปรามาส มาข่มขู่ใคร

ฉะนั้น อย่าพยายามหาพวก
เพราะโสกะ มีแต่หอบพะรุงพะรัง จ้องจะขายของ


ส่วนวลัยพร เดินตัวเบา เพราะไม่มีอะไรเป็นของตน
จึงไม่มีอะไร ที่จะนำมาขาย



วลัยพรเพียงชี้ขุมทรัพย์ให้เห็น ส่วนโกสะจะเห็นหรือไม่
ขึ้นอยู่กับ เหตุปัจจัยมีอยู่ และที่กำลังทำให้เกิดขึ้นใหม่ ของโสกะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.พ. 2014, 22:19 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b12:
กอดตำรากอดขาครูบาอาจารย์ไว้แน่นอย่างวลัยพรนี่ก็ดีแล้ว ปลอดภัยดี แต่ก็อย่ายึดแน่นจนเกินไป จนเห็นใครพูดธรรมะนอกตำราเป็นผิดไปหมด

ปฏิปทาของใครของมัน

อโศกะตั้งใจจะนำธรรมะมาทำให้ง่ายเข้าใจได้ในภาษาชาวบ้านภาษาลูกทุ่งธรรมดาๆเพื่อคนทั่วไป คนรุ่นใหม่จะได้รู้เรื่องเข้าใจง่าย คงต้องขัดใจนักวิชาการและผู้ยึดคัมภีร์แน่นทั้งหลายแน่ๆ

แต่ก็ไม่เป็นไร ทางใครทางมันนะ วลัยพร

ไม่มีอะไรเป็นของตัวเองสักอย่างนั่นดีแล้ว.....แต่

"ถ้าไม่มี ต้วเอง หรือ กู หรือ มานะทิฏฐิได้ ก็จะดีที่สุดนะจ๊ะ"
smiley


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.พ. 2014, 09:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กอดตำรากอดขาครูบาอาจารย์ไว้แน่นอย่างวลัยพรนี่ก็ดีแล้ว ปลอดภัยดี แต่ก็อย่ายึดแน่นจนเกินไป จนเห็นใครพูดธรรมะนอกตำราเป็นผิดไปหมด

ปฏิปทาของใครของมัน

อโศกะตั้งใจจะนำธรรมะมาทำให้ง่ายเข้าใจได้ในภาษาชาวบ้านภาษาลูกทุ่งธรรมดาๆเพื่อคนทั่วไป คนรุ่นใหม่จะได้รู้เรื่องเข้าใจง่าย คงต้องขัดใจนักวิชาการและผู้ยึดคัมภีร์แน่นทั้งหลายแน่ๆ

แต่ก็ไม่เป็นไร ทางใครทางมันนะ วลัยพร

ไม่มีอะไรเป็นของตัวเองสักอย่างนั่นดีแล้ว.....แต่

"ถ้าไม่มี ต้วเอง หรือ กู หรือ มานะทิฏฐิได้ ก็จะดีที่สุดนะจ๊ะ"
smiley


โสกะ ผู้มีกังวล

asoka เขียน:
กอดตำรากอดขาครูบาอาจารย์ไว้แน่นอย่างวลัยพรนี่ก็ดีแล้ว


พูดอะไรออกมา ไม่พ้นตัวโสกะ
แต่วลัยพร หาได้เป็นแบบ ที่โสกะกล่าวมาไม่

วลัยพรมีตนเองเป็นที่พึ่ง ไม่จำเป็นต้องพึ่งพานอกตัว

ตำราก็ส่วนตำรา มีไว้ใช้ในการสื่อสาร เรื่อง สภาพธรรมที่เกิดขึ้น
แต่จำเป็นต้องใช้ ตามคำสอนที่พระพุทธเจ้าทรงทิ้งเป็นแนวทางไว้ให้
โดยไม่สอดแทรกหรือสอดไส้ทิฏฐิของตน ลงในคำสอนพระศาสดา


ยกเว้นพวกทำสัทธรรมปฏิรูป โดยการสอดไส้ทิฏฐิของตน ลงในคำสอนพระพุทธเจ้า
หรือไม่ก็สร้างคำขึ้นมาใหม่ แล้วอ้างว่า เป็นคำสอนพระพุทธเจ้า

เพื่อใช้ในการทำมาหากิน การตั้งสำนัก ที่เรีกว่า วิปัสสนา ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด
เหตุจาก เป็นแหล่งของ อามิสบูชา และการโฆษณาชวนเชื่อ จากผู้ที่มีเหตุปัจจัยร่วมกัน


วลัยพรเคยโพสตรงไหนหรือว่า "ใครพูดธรรมนอกตำรา เป็นผิดไปหมด"
หามาให้อ่านทีสิ เอาปัจจุบันนะ(ไม่ใช่ที่ผ่านมาแล้วหลายปี) จำได้ว่า ไม่เคยมีโพสทำนองนั้น



ส่วนโสกะตั้งใจทำอะไร นั่นเหตุปัจจัยของโสกะที่มีอยู่ และกระทำให้เกิดขึ้นใหม่
ไม่ต้องกังวลไปหรอก ว่าจะไปขัดขวางทางโสกะ

จะต้องไปทำแบบนั้นทำไม ในเมื่อวลัยพรรู้ชัดอยู่แล้วว่า
ใครเชื่อใคร หรือ ไม่เชื่อใคร ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยของคนๆนั้น
จึงไม่จำเป็นต้องไปทำแบบที่โสกะกล่าวมา

การกระทำที่ผ่านๆมา ที่วลัยพรทำกับโสกะ
เป็นเพียง"ชี้ขุมทรัพย์" ให้เห็น

แต่โสกะ มองไม่เห็น กลับมองเป็นอื่น
เหมือนดังที่ โสกะชอบว่าคนอื่นๆประจำ

ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อมีเหตุ ย่อมมีผล
วลัยพรไม่ถือสาโสกะหรอก แค่พูด ในสิ่งที่ควรพูด อย่ากังวลไปเลย



และที่สำคัญ แต่อาจจะไม่สำคัญสำหรับโสกะก็ได้
ก่อนจะสอนคนอื่นว่า"ถ้าไม่มี ต้วเอง หรือ กู หรือ มานะทิฏฐิได้ ก็จะดีที่สุดนะจ๊ะ"

สอนตัวเอง ให้ได้ก่อนนะโสกะ
หากยังสอนตัวเองไม่ได้แบบ ที่โสกะเป็นอยู่ทุกวันนี้

"เป็นการถ่มน้ำลายรดฟ้า"

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.พ. 2014, 12:47 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


smiley
อ้างคำพูด:
พูดอะไรออกมา ไม่พ้นตัวโสกะ
แต่วลัยพร หาได้เป็นแบบ ที่โสกะกล่าวมาไม่

วลัยพรมีตนเองเป็นที่พึ่ง ไม่จำเป็นต้องพึ่งพานอกตัว

ตำราก็ส่วนตำรา มีไว้ใช้ในการสื่อสาร เรื่อง สภาพธรรมที่เกิดขึ้น
แต่จำเป็นต้องใช้ ตามคำสอนที่พระพุทธเจ้าทรงทิ้งเป็นแนวทางไว้ให้
โดยไม่สอดแทรกหรือสอดไส้ทิฏฐิของตน ลงในคำสอนพระศาสดา


ยกเว้นพวกทำสัทธรรมปฏิรูป โดยการสอดไส้ทิฏฐิของตน ลงในคำสอนพระพุทธเจ้า
หรือไม่ก็สร้างคำขึ้นมาใหม่ แล้วอ้างว่า เป็นคำสอนพระพุทธเจ้า

เพื่อใช้ในการทำมาหากิน การตั้งสำนัก ที่เรีกว่า วิปัสสนา ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด
เหตุจาก เป็นแหล่งของ อามิสบูชา และการโฆษณาชวนเชื่อ จากผู้ที่มีเหตุปัจจัยร่วมกัน


วลัยพรเคยโพสตรงไหนหรือว่า "ใครพูดธรรมนอกตำรา เป็นผิดไปหมด"
หามาให้อ่านทีสิ เอาปัจจุบันนะ(ไม่ใช่ที่ผ่านมาแล้วหลายปี) จำได้ว่า ไม่เคยมีโพสทำนองนั้น



ส่วนโสกะตั้งใจทำอะไร นั่นเหตุปัจจัยของโสกะที่มีอยู่ และกระทำให้เกิดขึ้นใหม่
ไม่ต้องกังวลไปหรอก ว่าจะไปขัดขวางทางโสกะ

จะต้องไปทำแบบนั้นทำไม ในเมื่อวลัยพรรู้ชัดอยู่แล้วว่า
ใครเชื่อใคร หรือ ไม่เชื่อใคร ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยของคนๆนั้น
จึงไม่จำเป็นต้องไปทำแบบที่โสกะกล่าวมา

การกระทำที่ผ่านๆมา ที่วลัยพรทำกับโสกะ
เป็นเพียง"ชี้ขุมทรัพย์" ให้เห็น

แต่โสกะ มองไม่เห็น กลับมองเป็นอื่น
เหมือนดังที่ โสกะชอบว่าคนอื่นๆประจำ

ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อมีเหตุ ย่อมมีผล
วลัยพรไม่ถือสาโสกะหรอก แค่พูด ในสิ่งที่ควรพูด อย่ากังวลไปเลย



และที่สำคัญ แต่อาจจะไม่สำคัญสำหรับโสกะก็ได้
ก่อนจะสอนคนอื่นว่า"ถ้าไม่มี ต้วเอง หรือ กู หรือ มานะทิฏฐิได้ ก็จะดีที่สุดนะจ๊ะ"

สอนตัวเอง ให้ได้ก่อนนะโสกะ
หากยังสอนตัวเองไม่ได้แบบ ที่โสกะเป็นอยู่ทุกวันนี้

"เป็นการถ่มน้ำลายรดฟ้า"

:b27:
ขอบคุณที่มาช่วยชี้ขุมทรัพย์ให้นะน้องวลัยพร
smiley
ไม่ถือสาอโศกะ นั้นดีแล้ว.....จะได้ไม่เกิดบาป เศร้าหมอง ในใจอันสะอาดสะอ้านของน้องวลัยพร
:b11:
ส่วนเรื่องการสอนตัวเองนั้น อโศกะสอนตัวเอง ทุกวัน เวลา นาที วินาที ที่ระลึกได้และมีโอกาส
ไม่ต้องห่วงใย

การมามีปฏิสัมพันธ์กับสังคมทุกวันนั้น อโศกะทำโดยเอาเมตตาและกรุณาต่อเพื่อนมนุษย์และสัตว์โลกเป็นที่ตั้ง ไม่มีเจตนาเป็นอื่น ถ้อยที วาจา ภาษาพูด อาจต้องกระทบเบียดเบียนใครไปบ้างก็ขออภัย ไม่มีเจตนาร้าย มีแต่ประสงค์ดี

แต่ปฏิปทานั้นก็ดังที่ได้บอกไว้ข้างต้น คือ "ทำให้ง่าย".........Sjmplified .....คำสอนและวิธีปฏิบัติของพระพุทธเจ้าสู่ผู้คน"

:b36:
onion onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.พ. 2014, 14:00 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อัตตนา โจทยัตตานัง จงโจทษ์โทษตนเอง ...หาข้อบกพร่องของตนเสมอๆ

คนไม่รู้...รู้ว่า..ตนไม่รู้ตรงไหน.....นับว่า...เริ่มฉลาดแล้ว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.พ. 2014, 12:40 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
อัตตนา โจทยัตตานัง จงโจทษ์โทษตนเอง ...หาข้อบกพร่องของตนเสมอๆ

คนไม่รู้...รู้ว่า..ตนไม่รู้ตรงไหน.....นับว่า...เริ่มฉลาดแล้ว

:b8:
กบ คงจะเป็นคนอย่างที่พูดนี้แล้ว

อนุโมทนา
:b27:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 พ.ย. 2015, 17:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 05:25
โพสต์: 621


 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss :b8:
ขออนุโมทนาสาธุค่ะ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 27 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร