วันเวลาปัจจุบัน 06 ส.ค. 2025, 02:24  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 117 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 เม.ย. 2014, 21:29 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:

"ชีวิต".......คำนี้มันกว้างนะ พระบรมศาสดายังไม่เอามาสอนกว้างๆอย่างนี้เลย ท่าสอนแคบแค่ รูป นาม กาย ใจเท่านี้
กรัชกายไปได้แรงบันดาลใจที่ไหนมาจึงไปยึดแน่นกับคำว่าชีวิต
ตรองดูดีๆมันจะไม่เข้าท่านะ ดูแต่คำพูดสุดม้ท้ายวันนี้ที่ว่า
"สภาวะชีวิตทุกชีวิตมีลักษณะเหมือนกัน" นี่ก็ไม่เข้าท่าแล้ว สภาวะของกุ้ง หอย ปู ปลา กับเทวดา พรหมบนฟ้า เหมือนสภาวะของคนบนโลกหรือครับ ชีวิตทั้งนั้นนะครับ



อ้างคำพูด:
รูป นาม กาย ใจ


รูป นาม กาย ใจ อโศกชี้ไปที่สังคมมนุษย์สิ รูป นาม กายใจ อยู่ที่ไหน ประเด็นที่หนึ่ง


ประเด็นที่สอง คน กับ รูปนาม กับ กายใจ เหมือนกันหรือต่างกัน

grin
แตกประเด็นไปอีกแล้ว ๆ

มันไม่ตรงประเด็นที่น้องเขาถามนะกรัชกาย
:b34:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 เม.ย. 2014, 21:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:

"ชีวิต".......คำนี้มันกว้างนะ พระบรมศาสดายังไม่เอามาสอนกว้างๆอย่างนี้เลย ท่าสอนแคบแค่ รูป นาม กาย ใจเท่านี้
กรัชกายไปได้แรงบันดาลใจที่ไหนมาจึงไปยึดแน่นกับคำว่าชีวิต
ตรองดูดีๆมันจะไม่เข้าท่านะ ดูแต่คำพูดสุดม้ท้ายวันนี้ที่ว่า
"สภาวะชีวิตทุกชีวิตมีลักษณะเหมือนกัน" นี่ก็ไม่เข้าท่าแล้ว สภาวะของกุ้ง หอย ปู ปลา กับเทวดา พรหมบนฟ้า เหมือนสภาวะของคนบนโลกหรือครับ ชีวิตทั้งนั้นนะครับ



อ้างคำพูด:
รูป นาม กาย ใจ


รูป นาม กาย ใจ อโศกชี้ไปที่สังคมมนุษย์สิ รูป นาม กายใจ อยู่ที่ไหน ประเด็นที่หนึ่ง


ประเด็นที่สอง คน กับ รูปนาม กับ กายใจ เหมือนกันหรือต่างกัน

grin
แตกประเด็นไปอีกแล้ว ๆ

มันไม่ตรงประเด็นที่น้องเขาถามนะกรัชกาย
:b34:



ก็เพื่อทำความเข้าใจที่เห็นแย้งกันนี่น่ะ

"ชีวิต".......คำนี้มันกว้างนะ พระบรมศาสดายังไม่เอามาสอนกว้างๆอย่างนี้เลย ท่าสอนแคบแค่ รูป นาม กาย ใจเท่านี้


เอางี้ก็ได้ อโศกไม่เข้าใจ รูปนาม ไม่ใช่กายใจ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 เม.ย. 2014, 21:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:

"ชีวิต".......คำนี้มันกว้างนะ พระบรมศาสดายังไม่เอามาสอนกว้างๆอย่างนี้เลย ท่าสอนแคบแค่ รูป นาม กาย ใจเท่านี้
กรัชกายไปได้แรงบันดาลใจที่ไหนมาจึงไปยึดแน่นกับคำว่าชีวิต
ตรองดูดีๆมันจะไม่เข้าท่านะ ดูแต่คำพูดสุดม้ท้ายวันนี้ที่ว่า
"สภาวะชีวิตทุกชีวิตมีลักษณะเหมือนกัน" นี่ก็ไม่เข้าท่าแล้ว สภาวะของกุ้ง หอย ปู ปลา กับเทวดา พรหมบนฟ้า เหมือนสภาวะของคนบนโลกหรือครับ ชีวิตทั้งนั้นนะครับ



อ้างคำพูด:
รูป นาม กาย ใจ


รูป นาม กาย ใจ อโศกชี้ไปที่สังคมมนุษย์สิ รูป นาม กายใจ อยู่ที่ไหน ประเด็นที่หนึ่ง


ประเด็นที่สอง คน กับ รูปนาม กับ กายใจ เหมือนกันหรือต่างกัน

grin
แตกประเด็นไปอีกแล้ว ๆ

มันไม่ตรงประเด็นที่น้องเขาถามนะกรัชกาย
:b34:



ก็เพื่อทำความเข้าใจที่เห็นแย้งกันนี่น่ะ

"ชีวิต".......คำนี้มันกว้างนะ พระบรมศาสดายังไม่เอามาสอนกว้างๆอย่างนี้เลย ท่าสอนแคบแค่ รูป นาม กาย ใจเท่านี้


เอางี้ก็ได้ อโศกไม่เข้าใจ รูปนาม ไม่ใช่กายใจ

:b12:
ตามสบาย พ่อนักแตกประเด็น เขาอธิบาย ยกตัวอย่างให้รู้ตัว คว้ามาเป็นประเด็นแทรกทันที่ ทำยังงี้มันก็บานเบอะละสิกระทู้
:b7:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 เม.ย. 2014, 22:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
แล้วอโศกะ เคยสอนเน้นเรื่องอานาปานสติสูตรเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวหรือเปล่า ดูดีๆ อย่าตีความมั่วนะกบ

อโศกะเน้น "ปัจจุบันอารมณ์"ไม่ใช่หรือดูดีๆ มีกระทู้เรื่องปัจจุบันอารมณ์เป็นที่รวมแห่งธรรมทั้งปวง เป็นหลักฐานรองรับอยู่

ทางใครทางมัน ชำนาญใครชำนาญมัน


ก็เมื่อตัวไม่ชำนาญ....ใยไม่ฟังคนอื่นเขาบ้างละ...
เห็นแล้วตลกอโสกะ...ที่บอกว่า...มี..สูตร...ที่ท้าย..จึงต้องทำให้ครบ
คิดได้งัย...

อ้างคำพูด:
งานและหน้าที่ของชาวพุทธ

"สำรวมกายใจมานิ่งรู้ นิ่งสังเกต ปัจจุบันอารมณ์ จนละความเห็นผิดว่า กาย ใจ นี้เป็นอัตตา ตัวกู ของกู


พูดนะพูดได้.....แต่พอสอบสวนดูแล้ว....บอกไม่ได้ว่าทำไมมันถึงละได้....เอาแค่ของง่ายๆก่อน...ยังบอกไม่ได้เลยว่าทำไมมันถึงละ......ละแบบไม่มีเหตุไม่มีผล..อย่างที่อโสกะเป็น..นี้นะ...มันยัง..บ่ใช่ดอก

เดียวอโสกะก็จะโต้กลับมาว่า....เหตุผลมันเป็นการใช้ความคิด...เป็นบัญญัติไม่ถึงปรมัตถ์ดอก...ต้องปรมัตถ์คือไม่มีคำอธิบายได้...
เฮ่อ....อิอิ...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 เม.ย. 2014, 12:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
แล้วอโศกะ เคยสอนเน้นเรื่องอานาปานสติสูตรเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวหรือเปล่า ดูดีๆ อย่าตีความมั่วนะกบ

อโศกะเน้น "ปัจจุบันอารมณ์"ไม่ใช่หรือดูดีๆ มีกระทู้เรื่องปัจจุบันอารมณ์เป็นที่รวมแห่งธรรมทั้งปวง เป็นหลักฐานรองรับอยู่

ทางใครทางมัน ชำนาญใครชำนาญมัน


ก็เมื่อตัวไม่ชำนาญ....ใยไม่ฟังคนอื่นเขาบ้างละ...
เห็นแล้วตลกอโสกะ...ที่บอกว่า...มี..สูตร...ที่ท้าย..จึงต้องทำให้ครบ
คิดได้งัย...

อ้างคำพูด:
งานและหน้าที่ของชาวพุทธ

"สำรวมกายใจมานิ่งรู้ นิ่งสังเกต ปัจจุบันอารมณ์ จนละความเห็นผิดว่า กาย ใจ นี้เป็นอัตตา ตัวกู ของกู


พูดนะพูดได้.....แต่พอสอบสวนดูแล้ว....บอกไม่ได้ว่าทำไมมันถึงละได้....เอาแค่ของง่ายๆก่อน...ยังบอกไม่ได้เลยว่าทำไมมันถึงละ......ละแบบไม่มีเหตุไม่มีผล..อย่างที่อโสกะเป็น..นี้นะ...มันยัง..บ่ใช่ดอก

เดียวอโสกะก็จะโต้กลับมาว่า....เหตุผลมันเป็นการใช้ความคิด...เป็นบัญญัติไม่ถึงปรมัตถ์ดอก...ต้องปรมัตถ์คือไม่มีคำอธิบายได้...
เฮ่อ....อิอิ...

:b7:
กรัชกายยังไม่เคยพิสูจน์ ยังไม่เคยทำ จึงไม่รู้ความจริงว่า หลังจากที่

"สำรวมกายใจมานิ่งรู้ นิ่งสังเกต ปัจจุบันอารมณ์".....แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นตามกระบวนการแห่งธรรม จึงรีบตัดสินความเอาด้วยมักง่าย ว่าไม่มีเหตุผล

ถ้าลงมือทำจริงๆแล้ว เหตุผลมันจะเกิดขึ้นให้รู้ชัดในใจเจ้าของนั่นเลยทีเดียว ลองทำจริงๆดูซิ

เคยได้บอกแล้วว่า "ปัจจุบันอารมณ์ เป็นที่รวมแห่งธรรมทั้งปวง" หรือจะบอกว่า "ปัจจุบันอารมณ์เป็นที่รวมแห่งวิธีปฏิบัติธรรมทั้งปวง" ก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น อริยสัจ 4 สติปัฏฐาน 4 มรรค 8 อานาปานสติสูตร หรือโพธิปักขิยธรรมทั้ง 37 ประการ
ลองทำจริงๆดูสิกรัชกาย อย่าพึ่งด่วนตัดสิน วิพากษ์วิจารณ์ไปโดยไร้ผลการพิสูจน์รองรับ

อโศกะพิสูจน์มาแล้วจึงกล้านำมาประกาศเชิญชวนและท้าพิสูจน์

จะเอาหลักฐานอ้างอิงรับรองจากพระบรมครู ก็ให้ไปทบทวนดูภัทเทกรัตคาถานะ นักวิชาการใหญ่
:b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 เม.ย. 2014, 20:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
แล้วอโศกะ เคยสอนเน้นเรื่องอานาปานสติสูตรเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวหรือเปล่า ดูดีๆ อย่าตีความมั่วนะกบ

อโศกะเน้น "ปัจจุบันอารมณ์"ไม่ใช่หรือดูดีๆ มีกระทู้เรื่องปัจจุบันอารมณ์เป็นที่รวมแห่งธรรมทั้งปวง เป็นหลักฐานรองรับอยู่

ทางใครทางมัน ชำนาญใครชำนาญมัน


ก็เมื่อตัวไม่ชำนาญ....ใยไม่ฟังคนอื่นเขาบ้างละ...
เห็นแล้วตลกอโสกะ...ที่บอกว่า...มี..สูตร...ที่ท้าย..จึงต้องทำให้ครบ
คิดได้งัย...

อ้างคำพูด:
งานและหน้าที่ของชาวพุทธ

"สำรวมกายใจมานิ่งรู้ นิ่งสังเกต ปัจจุบันอารมณ์ จนละความเห็นผิดว่า กาย ใจ นี้เป็นอัตตา ตัวกู ของกู


พูดนะพูดได้.....แต่พอสอบสวนดูแล้ว....บอกไม่ได้ว่าทำไมมันถึงละได้....เอาแค่ของง่ายๆก่อน...ยังบอกไม่ได้เลยว่าทำไมมันถึงละ......ละแบบไม่มีเหตุไม่มีผล..อย่างที่อโสกะเป็น..นี้นะ...มันยัง..บ่ใช่ดอก

เดียวอโสกะก็จะโต้กลับมาว่า....เหตุผลมันเป็นการใช้ความคิด...เป็นบัญญัติไม่ถึงปรมัตถ์ดอก...ต้องปรมัตถ์คือไม่มีคำอธิบายได้...
เฮ่อ....อิอิ...

:b7:
กรัชกายยังไม่เคยพิสูจน์ ยังไม่เคยทำ จึงไม่รู้ความจริงว่า หลังจากที่

"สำรวมกายใจมานิ่งรู้ นิ่งสังเกต ปัจจุบันอารมณ์".....แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นตามกระบวนการแห่งธรรม จึงรีบตัดสินความเอาด้วยมักง่าย ว่าไม่มีเหตุผล

ถ้าลงมือทำจริงๆแล้ว เหตุผลมันจะเกิดขึ้นให้รู้ชัดในใจเจ้าของนั่นเลยทีเดียว ลองทำจริงๆดูซิ

เคยได้บอกแล้วว่า "ปัจจุบันอารมณ์ เป็นที่รวมแห่งธรรมทั้งปวง" หรือจะบอกว่า "ปัจจุบันอารมณ์เป็นที่รวมแห่งวิธีปฏิบัติธรรมทั้งปวง" ก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น อริยสัจ 4 สติปัฏฐาน 4 มรรค 8 อานาปานสติสูตร หรือโพธิปักขิยธรรมทั้ง 37 ประการ
ลองทำจริงๆดูสิกรัชกาย อย่าพึ่งด่วนตัดสิน วิพากษ์วิจารณ์ไปโดยไร้ผลการพิสูจน์รองรับ

อโศกะพิสูจน์มาแล้วจึงกล้านำมาประกาศเชิญชวนและท้าพิสูจน์

จะเอาหลักฐานอ้างอิงรับรองจากพระบรมครู ก็ให้ไปทบทวนดูภัทเทกรัตคาถานะ นักวิชาการใหญ่
:b4:



อ้างคำพูด:
อริยสัจ 4 สติปัฏฐาน 4 มรรค 8 อานาปานสติสูตร หรือโพธิปักขิยธรรมทั้ง 37 ประการ


ยกมาอ้างอีกอโศก :b32: เอาศัพท์นั่นมาอ้าง เหมือนลูกผู้มีอิทธิพลยกพ่ออ้างข่มผู้อื่น คิกๆๆ แต่พอเราถามรายละเอียดแต่ละข้อๆก็ตอบไม่ได้ เอางี้เลยดีกว่านี่


อ้างคำพูด:
เพิ่งเริ่มนั่งสมาธิได้สองเดือนกว่า ช่วงแรกที่นั่งก็ใช้อานาปานสติ และพุทโธค่ะ ก็จะเอาจิตแนบกับลมหายใจตอนเข้าออก

ตอนแรกที่นั่งไม่มีความรู้อะไรเลยค่ะ ปรากฎว่านั่งได้นานกว่า ช.ม. มีอยู่ครั้งนึงเหมือนสัปหงก รู้สึกตัวอีกทีก็เห็นหัวตัวเอง และช่วงบ่าจากด้านซ้ายมือ ทั้งที่นั่งตอนเย็นกลับรู้สึกเหมือนกลางวันค่ะ ก็แปลกใจระคนตกใจนิดหน่อย มีความรู้สึกว่ามีตัวตนอีกคนดูตัวเราที่นั่งสมาธิอยู่

อีกครั้งนั่งดูลมหายใจ และภาวนาพุทโธก่อนจะหลับ เน้นยังไม่หลับค่ะ รู้ตัวตลอด รู้สึกเหมือนมีอาการคล้ายผีอำค่ะ แต่ขนลุกด้านหลังแบบเย็นวาบ เลยค่ะ แต่เรากลับเห็นแขนเรา กะขาหนึ่งข้าง (เรานอนตะแคงขวา) เราก็เกิดความกลัวระคนแปลกใจ นึกในใจว่า เฮ้ย วิญญานออกจากร่าง ก็เลยพยายามขยับแขนกะขาข้างที่เห็น ปรากฎว่าไม่สามารถค่ะ แถมมันสว่างเหมือนกลางวัน ต้องพยายามหมุนตัวให้แขนมันตรงกัน จนค่อยขยับออกมาได้ (ยังขำตัวเองจนถึงปัจจุบัน ที่พยายามหมุนให้แขนมันตรงกัน



เขาเป็นอะไร และจะแก้อย่างไร :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2014, 16:25 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b34:
บอกแล้วว่า เบื่อตอบปัญหาที่เอาของคนอื่นมาถามเพราะ กรัชกายทำตัวเหมือนเด็กไม่รู้จักโต ..หิวปลา ก็มาขอปลา ไม่รู้จักหาปลา จับปลากินเอง

เอาไว้ถ้าได้นั่งหน้า PC.จะสอนวิธีหาปลาให้ เอาให้เหนื่อยครั้งเดียวแล้วกรัชกายก็ได้หลักการแก้ไขอารมณ์ผู้ปฏิบัติธรรมไปใช้ จะได้แก้ไขปัญหาได้เอง ไม่ต้องมาถามบ่อยๆ อดใจรอหน่อยนะ
:b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2014, 16:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b34:
บอกแล้วว่า เบื่อตอบปัญหาที่เอาของคนอื่นมาถามเพราะ กรัชกายทำตัวเหมือนเด็กไม่รู้จักโต ..หิวปลา ก็มาขอปลา ไม่รู้จักหาปลา จับปลากินเอง

เอาไว้ถ้าได้นั่งหน้า PC.จะสอนวิธีหาปลาให้ เอาให้เหนื่อยครั้งเดียวแล้วกรัชกายก็ได้หลักการแก้ไขอารมณ์ผู้ปฏิบัติธรรมไปใช้ จะได้แก้ไขปัญหาได้เอง ไม่ต้องมาถามบ่อยๆ อดใจรอหน่อยนะ
:b4:



การปฏิบัติของอโศก คือ การมโนเอา คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2014, 16:44 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b34:
บอกแล้วว่า เบื่อตอบปัญหาที่เอาของคนอื่นมาถามเพราะ กรัชกายทำตัวเหมือนเด็กไม่รู้จักโต ..หิวปลา ก็มาขอปลา ไม่รู้จักหาปลา จับปลากินเอง

เอาไว้ถ้าได้นั่งหน้า PC.จะสอนวิธีหาปลาให้ เอาให้เหนื่อยครั้งเดียวแล้วกรัชกายก็ได้หลักการแก้ไขอารมณ์ผู้ปฏิบัติธรรมไปใช้ จะได้แก้ไขปัญหาได้เอง ไม่ต้องมาถามบ่อยๆ อดใจรอหน่อยนะ
:b4:



การปฏิบัติของอโศก คือ การมโนเอา คิกๆๆ

cool
แก้ปัญหาผู้ปฏิบัติมา พันสองพันคนแล้วนี้ถ้าใช้ มโน คงตกเก้าอี้ตายไปนานแล้ว คนที่มาศึกษาก็ยังไม่มีข่าวว่าใครต้องไปเข้า รพ.โรคจิตอย่างที่กรัชกายเป็นเลยนะ

ตกลงไม่เอาแล้วใช่ไหม หลัก...หรือวิธีหาปลา จะใช้วิธีขอปลาไปกินจนวันตายใช่ไหม?
:b7:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2014, 16:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
แล้วอโศกะ เคยสอนเน้นเรื่องอานาปานสติสูตรเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวหรือเปล่า ดูดีๆ อย่าตีความมั่วนะกบ

อโศกะเน้น "ปัจจุบันอารมณ์"ไม่ใช่หรือดูดีๆ มีกระทู้เรื่องปัจจุบันอารมณ์เป็นที่รวมแห่งธรรมทั้งปวง เป็นหลักฐานรองรับอยู่

ทางใครทางมัน ชำนาญใครชำนาญมัน


ก็เมื่อตัวไม่ชำนาญ....ใยไม่ฟังคนอื่นเขาบ้างละ...
เห็นแล้วตลกอโสกะ...ที่บอกว่า...มี..สูตร...ที่ท้าย..จึงต้องทำให้ครบ
คิดได้งัย...

อ้างคำพูด:
งานและหน้าที่ของชาวพุทธ

"สำรวมกายใจมานิ่งรู้ นิ่งสังเกต ปัจจุบันอารมณ์ จนละความเห็นผิดว่า กาย ใจ นี้เป็นอัตตา ตัวกู ของกู


พูดนะพูดได้.....แต่พอสอบสวนดูแล้ว....บอกไม่ได้ว่าทำไมมันถึงละได้....เอาแค่ของง่ายๆก่อน...ยังบอกไม่ได้เลยว่าทำไมมันถึงละ......ละแบบไม่มีเหตุไม่มีผล..อย่างที่อโสกะเป็น..นี้นะ...มันยัง..บ่ใช่ดอก

เดียวอโสกะก็จะโต้กลับมาว่า....เหตุผลมันเป็นการใช้ความคิด...เป็นบัญญัติไม่ถึงปรมัตถ์ดอก...ต้องปรมัตถ์คือไม่มีคำอธิบายได้...
เฮ่อ....อิอิ...

:b7:
กรัชกายยังไม่เคยพิสูจน์ ยังไม่เคยทำ จึงไม่รู้ความจริงว่า หลังจากที่

"สำรวมกายใจมานิ่งรู้ นิ่งสังเกต ปัจจุบันอารมณ์".....แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นตามกระบวนการแห่งธรรม จึงรีบตัดสินความเอาด้วยมักง่าย ว่าไม่มีเหตุผล

ถ้าลงมือทำจริงๆแล้ว เหตุผลมันจะเกิดขึ้นให้รู้ชัดในใจเจ้าของนั่นเลยทีเดียว ลองทำจริงๆดูซิ

เคยได้บอกแล้วว่า "ปัจจุบันอารมณ์ เป็นที่รวมแห่งธรรมทั้งปวง" หรือจะบอกว่า "ปัจจุบันอารมณ์เป็นที่รวมแห่งวิธีปฏิบัติธรรมทั้งปวง" ก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น อริยสัจ 4 สติปัฏฐาน 4 มรรค 8 อานาปานสติสูตร หรือโพธิปักขิยธรรมทั้ง 37 ประการ
ลองทำจริงๆดูสิกรัชกาย อย่าพึ่งด่วนตัดสิน วิพากษ์วิจารณ์ไปโดยไร้ผลการพิสูจน์รองรับ

อโศกะพิสูจน์มาแล้วจึงกล้านำมาประกาศเชิญชวนและท้าพิสูจน์

จะเอาหลักฐานอ้างอิงรับรองจากพระบรมครู ก็ให้ไปทบทวนดูภัทเทกรัตคาถานะ นักวิชาการใหญ่
:b4:



อ้างคำพูด:
อริยสัจ 4 สติปัฏฐาน 4 มรรค 8 อานาปานสติสูตร หรือโพธิปักขิยธรรมทั้ง 37 ประการ


ยกมาอ้างอีกอโศก :b32: เอาศัพท์นั่นมาอ้าง เหมือนลูกผู้มีอิทธิพลยกพ่ออ้างข่มผู้อื่น คิกๆๆ แต่พอเราถามรายละเอียดแต่ละข้อๆก็ตอบไม่ได้ เอางี้เลยดีกว่านี่


อ้างคำพูด:
เพิ่งเริ่มนั่งสมาธิได้สองเดือนกว่า ช่วงแรกที่นั่งก็ใช้อานาปานสติ และพุทโธค่ะ ก็จะเอาจิตแนบกับลมหายใจตอนเข้าออก

ตอนแรกที่นั่งไม่มีความรู้อะไรเลยค่ะ ปรากฎว่านั่งได้นานกว่า ช.ม. มีอยู่ครั้งนึงเหมือนสัปหงก รู้สึกตัวอีกทีก็เห็นหัวตัวเอง และช่วงบ่าจากด้านซ้ายมือ ทั้งที่นั่งตอนเย็นกลับรู้สึกเหมือนกลางวันค่ะ ก็แปลกใจระคนตกใจนิดหน่อย มีความรู้สึกว่ามีตัวตนอีกคนดูตัวเราที่นั่งสมาธิอยู่

อีกครั้งนั่งดูลมหายใจ และภาวนาพุทโธก่อนจะหลับ เน้นยังไม่หลับค่ะ รู้ตัวตลอด รู้สึกเหมือนมีอาการคล้ายผีอำค่ะ แต่ขนลุกด้านหลังแบบเย็นวาบ เลยค่ะ แต่เรากลับเห็นแขนเรา กะขาหนึ่งข้าง (เรานอนตะแคงขวา) เราก็เกิดความกลัวระคนแปลกใจ นึกในใจว่า เฮ้ย วิญญานออกจากร่าง ก็เลยพยายามขยับแขนกะขาข้างที่เห็น ปรากฎว่าไม่สามารถค่ะ แถมมันสว่างเหมือนกลางวัน ต้องพยายามหมุนตัวให้แขนมันตรงกัน จนค่อยขยับออกมาได้ (ยังขำตัวเองจนถึงปัจจุบัน ที่พยายามหมุนให้แขนมันตรงกัน



เขาเป็นอะไร และจะแก้อย่างไร :b1:



เขาเป็นอะไร และแก้ยังไง เอาชัดๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2014, 16:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b34:
บอกแล้วว่า เบื่อตอบปัญหาที่เอาของคนอื่นมาถามเพราะ กรัชกายทำตัวเหมือนเด็กไม่รู้จักโต ..หิวปลา ก็มาขอปลา ไม่รู้จักหาปลา จับปลากินเอง

เอาไว้ถ้าได้นั่งหน้า PC.จะสอนวิธีหาปลาให้ เอาให้เหนื่อยครั้งเดียวแล้วกรัชกายก็ได้หลักการแก้ไขอารมณ์ผู้ปฏิบัติธรรมไปใช้ จะได้แก้ไขปัญหาได้เอง ไม่ต้องมาถามบ่อยๆ อดใจรอหน่อยนะ
:b4:



การปฏิบัติของอโศก คือ การมโนเอา คิกๆๆ

cool
แก้ปัญหาผู้ปฏิบัติมา พันสองพันคนแล้วนี้ถ้าใช้ มโน คงตกเก้าอี้ตายไปนานแล้ว คนที่มาศึกษาก็ยังไม่มีข่าวว่าใครต้องไปเข้า รพ.โรคจิตอย่างที่กรัชกายเป็นเลยนะ

ตกลงไม่เอาแล้วใช่ไหม หลัก...หรือวิธีหาปลา จะใช้วิธีขอปลาไปกินจนวันตายใช่ไหม?
:b7:



เอาก็เอา จะได้จับปลากินเองได้ ว่ามา :b8:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 พ.ค. 2014, 13:25 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b36:
การเดินทางเข้าสู่พระนิพพานบนเส้นทางสายกลางคือมรรคมีองค์ 8 นั้นเปรียบไปก็คล้ายการเดินทางไปสู่สถานที่แปลกใหม่ยังไม่เคยไปถึงของมนุษย์ทุกคน

เมื่อใครมีความตั้งใจที่จะเดินทางไปให้ถึงสถานที่แปลกใหม่แห่งนั้นเขาย่อมจักต้องศึกษาหาแผนที่ รายละเอียด วิธีการเดินทาง จากผู้รู้ ผู้รู้ที่ดีที่สุด(กัลยาณมิตร)ซึ่งก็ควรเป็นผู้ที่เคยเดินทางไปถึงสถานที่แห่งนั้นมาแล้ว และไปมาบ่อยๆจนชำนาญ รู้รอบรายละเอียดตลอดเส้นทางตั้งแต่ต้นจนถึงที่หมาย

หลังจากศึกษารายละะเอียด ทางหนี ทีไล่ ทางแยก ทางหลง ทางราบ ทางป่ารกชัฏ เขาชัน โค้งอันตราย สวนดอกไม้ข้างทาง ที่พักระหว่างทาง ระยะทาง ช่วงต่อเมืองและสถานีกลางทาง ฯลฯ ต่างๆ จนเข้าใจดีและมั่นใจแล้ว ใครคนนั้นก็ออกเดินทางไป

แน่นอนว่ารายละเอียดจากคำบอกเล่าหรือตำรา กับรายละเอียดในความเป็นจริงที่จะได้พบเห็นในเส้นทางจริงย่อมจะแตกต่างกันออกไปเพราะตำรา คำสอน จะบอกได้ไม่ละเอียดทั้งหมด การหลงทาง เลี้ยวผิดแยก ถูกหลอกให้แวะข้างทางย่อมเกิดขึ้นแน่ๆกับผู้ใหม่ ก็คงต้องศึกษาทางเพิ่มเติมจากผู้คนตามรายทาง

แต่สมัยนี้ทันสมัย มีโทรศัพท์มือถือ เพียงยกหูถามกัลยาณมิตร เขาก็ช่วยแก้ไขปัญหาให้ได้แล้ว(ในทางปฏิบัติจริงๆ การส่งอารมณ์ สอบอารมณ์การปฏิบัติกับอาจารย์ผู้สอนถี่ๆบ่อยๆนั้นจะช่วยได้มากที่สุด)

ในเรื่องที่กรัชกายถามแทบทั้งหมดนั้นสรุปรวมแล้ว เป็นปัญหาจาก สมาธิ ปีติ นิมิตเป็นส่วนใหญ่ และที่สำคัญผู้เดินทางไม่ได้รับการศึกษาพื้นฐาน แผนที่และรายละเอียดการเดินทางมาให้ละเอียดถี่ถ้วน ดีพอ จึงมีอาการหลงทางสะเปะสะปะกันมาก

ประเด็นอยู่ที่ สติไม่ทันปัจจุบัน สัมปชัญญะขาด พี่เลี้ยงดูแลไม่ทั่วถึง ไม่ต่อเนื่อง ไม่มีระบบ

อารมณ์ อาการ ปีติ นิมิต ที่เกิดขึ้นเปรียบเหมือนสวนดอกไม้ สถานเริงรมย์ ปาหี่ริมทาง ที่ดึงผู้ปฏิบัติออกไปสนใจ ปรุงแต่งตามสิ่งยั่วยุข้างทางเหล่านั้น

พี่เลี้ยงต้องบอกให้เขารู้ตัวว่าสิ่งที่พบ เห็น เป็น อยู่นั้นเป็นทางหลง ให้ถอนตัวกลับขึ้นมาทางสายกลางโดยตั้งสติ ดำรงสัมปชัญญะ ทำความรู้ตัวทั่วพร้อม รู้งาน รู้หน้าที่ มั่นคงในปณิธานและเป้าหมายของตนเอง


ในทางปฏิบัติอาจารย์มักจะพูดยำ้เสมอว่า "กำหนดถี่ๆ กำหนดให้ทันปัจจุบัน" หรือ ให้รู้ทัน และปล่อยวางอารมณ์ที่ไม่ใช่กลับมาหาองค์กรรมฐานที่เพ่ง กำหนดหรือบริกรรม

งานและหน้าที่ของการเดินบนทางสายกลางมีเพียง "เอาออกเสียให้ได้หรือละความยินดี ยินร้าย ในผัสสะและอารมณ์ทั้งหมด"....แล้วสติ ปัญญา สมาธิก็จะมาอยู่ตรงกลาง คือ วางเฉย อุเบกขา หยุดความคิดนึกปรุงแต่ง อันเป็นมโนกรรม ตัวเกิดเรื่องและหมุนวงล้อแห่งวัฏฏะสงสาร

จะแก้ปัญญหาการปฏิบัติของโยคี ให้นึกเปรียบเทียบตนเองเป็นมัคคุเทศก์ หรือ ที่ปรึกษาในการเดินทาง จะพาโยคีไปให้ถึงเป้าหมายได้ทันเวลาโดยไม่หลงติดค้างกลางทางได้อย่างไร

แล้ววิธีแก้ไขเขาจะหลั่งไหลออกมาเองจากใจไม่ต้องไปคอยเปิดตำราหรือหาถามผู้ใด

สำคัญที่สุดมัคคุเทศก์ ต้องไปให้ถึงสถานที่ใหม่ที่ว่า ให้ได้ สักครั้งสองครั้งหรือหลายๆครั้งก่อน แล้วมันจะง่ายไปหมด
:b37:
พูดอย่างนี้เพื่อให้ค้นคิดพบสัจจธรรมหรือวิธีการเป็นของเฉพาะตัวกรัชกายเอาเอง ไม่ต้องเลียนแบบใคร จึงไม่ได้ทำเป็นข้อๆ หนึ่ง สอง สาม แบบจูงมือนักเรียนทำนะ
:b4: :b4: :b4:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 117 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร