วันเวลาปัจจุบัน 27 ส.ค. 2025, 11:54  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 37 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 27 เม.ย. 2014, 14:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
grin
อ้างคำพูด:
กรัชกาย ....ธรรมะของอโศกก็คือยกเอาศัพท์ที่บัญญัติใช้ทางธรรม เช่น สติ ปัญญา ญาณ บารมี ฯลฯ นั่นนี่แล้วก็ว่าพูดธรรม รู้ธรรม ฉันว่าฉันพูดเนี่ยไม่อิงตำรานะ ที่ฉันพูดเนี่ย ฉันรู้เองนะ แต่พอเราถามว่า สติ แปลว่าอะไร ปัญญาหมายถึงอะไร ฯลฯ บอกไม่รู้ คิกๆๆ

:b7:
บอกมาจนเบื่อจะบอกแล้วเรื่อง ปัญญา สติ สมาธิ ศีล ญาณ บารมี อะไรเหล่านี้ วันนี้ก็บอกอีกในกระทู้อื่น แต่กรัชกายไม่เคยใส่ใจจดจำสักที แล้วก็มาคอยสรุปเอาแบบมักง่ายอย่างข้อความที่อ้างอิงมานี้

นักวิชาการใหญ่นี่ยิ่งนานวันยิ่งเลอะเลือนหลงลืมนะ
:b6:



สติ เป็นต้น อยู่ๆมันจะเกิดได้เองมั้ยขอรับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 27 เม.ย. 2014, 18:37 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
grin
อ้างคำพูด:
กรัชกาย ....ธรรมะของอโศกก็คือยกเอาศัพท์ที่บัญญัติใช้ทางธรรม เช่น สติ ปัญญา ญาณ บารมี ฯลฯ นั่นนี่แล้วก็ว่าพูดธรรม รู้ธรรม ฉันว่าฉันพูดเนี่ยไม่อิงตำรานะ ที่ฉันพูดเนี่ย ฉันรู้เองนะ แต่พอเราถามว่า สติ แปลว่าอะไร ปัญญาหมายถึงอะไร ฯลฯ บอกไม่รู้ คิกๆๆ

:b7:
บอกมาจนเบื่อจะบอกแล้วเรื่อง ปัญญา สติ สมาธิ ศีล ญาณ บารมี อะไรเหล่านี้ วันนี้ก็บอกอีกในกระทู้อื่น แต่กรัชกายไม่เคยใส่ใจจดจำสักที แล้วก็มาคอยสรุปเอาแบบมักง่ายอย่างข้อความที่อ้างอิงมานี้

นักวิชาการใหญ่นี่ยิ่งนานวันยิ่งเลอะเลือนหลงลืมนะ
:b6:



สติ เป็นต้น อยู่ๆมันจะเกิดได้เองมั้ยขอรับ

:b45:
"เยธัมมา เหตุปัพวา"
ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ.....ถ้าเหตุดับ ผลก็ดับ

สติ ปัญญา สมาธิ วิริยะ และธรรมทั้งหลาย เขามีอยู่เป็นอยู่เองแล้วโดยธรรมชาติ ในชีวิตมนุษย์ การศึกษาธรรม เป็นการเข้าไปทำความรู้จักระบบหรือกระบวนการทำงานตามธรรมชาติของธรรมเหล่านี้ เพื่อให้รู้ว่าอะไรเป็นเหตุ เป็นปัจจัย เป็นผล จะได้ บริหารจัดการชีวิตให้เป็นไปอย่างไร้ทุกข์ มีแต่สุขสงบ

ชาวเขาในป่าสูงดอยใหญ่ กับชาวศิวิไลในกรุงเทพ มีความตอบสนองต่อสิ่งเร้าดุจเดียวกัน มีกิเลส ตัณหา อัตตา มานะ ทิฏฐิ ไม่ต่างกัน มีสติ ปัญญา สมาธิ วิริยะ ได้เหมือนกัน มีความสงสัย อยากรู้และกลวิธีค้นหาคำตอบคล้ายคลึงกัน

สติเป็นธรรมชาติที่ไป รู้ทัน ระลึกได้ ไม่ลืม อารมณ์ เกิดขึ้นต่อจากผัสสะของทวารทั้ง 6 และเกิดขึ้นแทรกขั้นระหว่างความเกิด ดับของอารมณ์ทุกอารมณ์
:b11:


โพสต์ เมื่อ: 27 เม.ย. 2014, 19:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
grin
อ้างคำพูด:
กรัชกาย ....ธรรมะของอโศกก็คือยกเอาศัพท์ที่บัญญัติใช้ทางธรรม เช่น สติ ปัญญา ญาณ บารมี ฯลฯ นั่นนี่แล้วก็ว่าพูดธรรม รู้ธรรม ฉันว่าฉันพูดเนี่ยไม่อิงตำรานะ ที่ฉันพูดเนี่ย ฉันรู้เองนะ แต่พอเราถามว่า สติ แปลว่าอะไร ปัญญาหมายถึงอะไร ฯลฯ บอกไม่รู้ คิกๆๆ

:b7:
บอกมาจนเบื่อจะบอกแล้วเรื่อง ปัญญา สติ สมาธิ ศีล ญาณ บารมี อะไรเหล่านี้ วันนี้ก็บอกอีกในกระทู้อื่น แต่กรัชกายไม่เคยใส่ใจจดจำสักที แล้วก็มาคอยสรุปเอาแบบมักง่ายอย่างข้อความที่อ้างอิงมานี้

นักวิชาการใหญ่นี่ยิ่งนานวันยิ่งเลอะเลือนหลงลืมนะ
:b6:



สติ เป็นต้น อยู่ๆมันจะเกิดได้เองมั้ยขอรับ

:b45:
"เยธัมมา เหตุปัพวา"
ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ.....ถ้าเหตุดับ ผลก็ดับ

สติ ปัญญา สมาธิ วิริยะ และธรรมทั้งหลาย เขามีอยู่เป็นอยู่เองแล้วโดยธรรมชาติ ในชีวิตมนุษย์ การศึกษาธรรม เป็นการเข้าไปทำความรู้จักระบบหรือกระบวนการทำงานตามธรรมชาติของธรรมเหล่านี้ เพื่อให้รู้ว่าอะไรเป็นเหตุ เป็นปัจจัย เป็นผล จะได้ บริหารจัดการชีวิตให้เป็นไปอย่างไร้ทุกข์ มีแต่สุขสงบ

ชาวเขาในป่าสูงดอยใหญ่ กับชาวศิวิไลในกรุงเทพ มีความตอบสนองต่อสิ่งเร้าดุจเดียวกัน มีกิเลส ตัณหา อัตตา มานะ ทิฏฐิ ไม่ต่างกัน มีสติ ปัญญา สมาธิ วิริยะ ได้เหมือนกัน มีความสงสัย อยากรู้และกลวิธีค้นหาคำตอบคล้ายคลึงกัน

สติเป็นธรรมชาติที่ไป รู้ทัน ระลึกได้ ไม่ลืม อารมณ์ เกิดขึ้นต่อจากผัสสะของทวารทั้ง 6 และเกิดขึ้นแทรกขั้นระหว่างความเกิด ดับของอารมณ์ทุกอารมณ์


อ้างคำพูด:
สติ ปัญญา สมาธิ วิริยะ และธรรมทั้งหลาย เขามีอยู่เป็นอยู่เองแล้วโดยธรรมชาติ ในชีวิตมนุษย์เป็นการเข้าไปทำความรู้จักระบบหรือกระบวนการทำงานตามธรรมชาติของธรรมเหล่านี้


สติปัญญา เป็นต้น มีอยู่แล้ว แล้วทำไมพระพุทธเจ้า ยังให้เจริญสติสัมปชัญญะสมาธิ เป็นต้น อีกล่ะ

อืมม คิกๆๆ "ชีวิต" กรัชกายพูด อโศกก็ว่ากรัชกาย ว่าเอาที่ไหนมาพูด ซึ่งพระพุทธเจ้าไม่เคยพูด พระพุทธเจ้า พูดถึงรูปนาม กาย ใจ แล้วเนี่ย อโศกเอาที่ไหนมาพูด :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 28 เม.ย. 2014, 21:14 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
grin
อ้างคำพูด:
กรัชกาย ....ธรรมะของอโศกก็คือยกเอาศัพท์ที่บัญญัติใช้ทางธรรม เช่น สติ ปัญญา ญาณ บารมี ฯลฯ นั่นนี่แล้วก็ว่าพูดธรรม รู้ธรรม ฉันว่าฉันพูดเนี่ยไม่อิงตำรานะ ที่ฉันพูดเนี่ย ฉันรู้เองนะ แต่พอเราถามว่า สติ แปลว่าอะไร ปัญญาหมายถึงอะไร ฯลฯ บอกไม่รู้ คิกๆๆ

:b7:
บอกมาจนเบื่อจะบอกแล้วเรื่อง ปัญญา สติ สมาธิ ศีล ญาณ บารมี อะไรเหล่านี้ วันนี้ก็บอกอีกในกระทู้อื่น แต่กรัชกายไม่เคยใส่ใจจดจำสักที แล้วก็มาคอยสรุปเอาแบบมักง่ายอย่างข้อความที่อ้างอิงมานี้

นักวิชาการใหญ่นี่ยิ่งนานวันยิ่งเลอะเลือนหลงลืมนะ
:b6:



สติ เป็นต้น อยู่ๆมันจะเกิดได้เองมั้ยขอรับ

:b45:
"เยธัมมา เหตุปัพวา"
ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ.....ถ้าเหตุดับ ผลก็ดับ

สติ ปัญญา สมาธิ วิริยะ และธรรมทั้งหลาย เขามีอยู่เป็นอยู่เองแล้วโดยธรรมชาติ ในชีวิตมนุษย์ การศึกษาธรรม เป็นการเข้าไปทำความรู้จักระบบหรือกระบวนการทำงานตามธรรมชาติของธรรมเหล่านี้ เพื่อให้รู้ว่าอะไรเป็นเหตุ เป็นปัจจัย เป็นผล จะได้ บริหารจัดการชีวิตให้เป็นไปอย่างไร้ทุกข์ มีแต่สุขสงบ

ชาวเขาในป่าสูงดอยใหญ่ กับชาวศิวิไลในกรุงเทพ มีความตอบสนองต่อสิ่งเร้าดุจเดียวกัน มีกิเลส ตัณหา อัตตา มานะ ทิฏฐิ ไม่ต่างกัน มีสติ ปัญญา สมาธิ วิริยะ ได้เหมือนกัน มีความสงสัย อยากรู้และกลวิธีค้นหาคำตอบคล้ายคลึงกัน

สติเป็นธรรมชาติที่ไป รู้ทัน ระลึกได้ ไม่ลืม อารมณ์ เกิดขึ้นต่อจากผัสสะของทวารทั้ง 6 และเกิดขึ้นแทรกขั้นระหว่างความเกิด ดับของอารมณ์ทุกอารมณ์


อ้างคำพูด:
สติ ปัญญา สมาธิ วิริยะ และธรรมทั้งหลาย เขามีอยู่เป็นอยู่เองแล้วโดยธรรมชาติ ในชีวิตมนุษย์เป็นการเข้าไปทำความรู้จักระบบหรือกระบวนการทำงานตามธรรมชาติของธรรมเหล่านี้


สติปัญญา เป็นต้น มีอยู่แล้ว แล้วทำไมพระพุทธเจ้า ยังให้เจริญสติสัมปชัญญะสมาธิ เป็นต้น อีกล่ะ

อืมม คิกๆๆ "ชีวิต" กรัชกายพูด อโศกก็ว่ากรัชกาย ว่าเอาที่ไหนมาพูด ซึ่งพระพุทธเจ้าไม่เคยพูด พระพุทธเจ้า พูดถึงรูปนาม กาย ใจ แล้วเนี่ย อโศกเอาที่ไหนมาพูด :b32:

:b34:
สังเกตดูให้ดีกรัชกาย
พระบรมศาสดาทรงสอนให้เจริญ.......มิได้ทรงสอนให้สร้าง สติ สัปชัญญะ สมาธิ เพราะสิ่งเหล่านี้มีอยู่จริงๆแล้วในธรรมชาติของมนุษย์
:b53:


โพสต์ เมื่อ: 28 เม.ย. 2014, 22:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:

สติ ปัญญา สมาธิ วิริยะ และธรรมทั้งหลาย เขามีอยู่เป็นอยู่เองแล้วโดยธรรมชาติ ในชีวิตมนุษย์ การศึกษาธรรม เป็นการเข้าไปทำความรู้จักระบบหรือกระบวนการทำงานตามธรรมชาติของธรรมเหล่านี้ เพื่อให้รู้ว่าอะไรเป็นเหตุ เป็นปัจจัย เป็นผล จะได้ บริหารจัดการชีวิตให้เป็นไปอย่างไร้ทุกข์ มีแต่สุขสงบ

ชาวเขาในป่าสูงดอยใหญ่ กับชาวศิวิไลในกรุงเทพ มีความตอบสนองต่อสิ่งเร้าดุจเดียวกัน มีกิเลส ตัณหา อัตตา มานะ ทิฏฐิ ไม่ต่างกัน มีสติ ปัญญา สมาธิ วิริยะ ได้เหมือนกัน มีความสงสัย อยากรู้และ
สังเกตดูให้ดีกรัชกาย

พระบรมศาสดาทรงสอนให้เจริญ.......มิได้ทรงสอนให้สร้าง สติ สัปชัญญะ สมาธิ เพราะสิ่งเหล่านี้มีอยู่จริงๆแล้วในธรรมชาติของมนุษย์




อ้างคำพูด:
สติ ปัญญา สมาธิ วิริยะ และธรรมทั้งหลาย เขามีอยู่เป็นอยู่เองแล้วโดยธรรมชาติ ในชีวิตมนุษย์


ถ้ามีอยู่ในแล้วในชีวิตมนุษย์ นี่เป็นสติ หรือปัญญา หรือสมาธิ หรือ วิริยะ และเป็นธรรมอะไรเนี่ย


.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 29 เม.ย. 2014, 15:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:

สติ ปัญญา สมาธิ วิริยะ และธรรมทั้งหลาย เขามีอยู่เป็นอยู่เองแล้วโดยธรรมชาติ ในชีวิตมนุษย์ การศึกษาธรรม เป็นการเข้าไปทำความรู้จักระบบหรือกระบวนการทำงานตามธรรมชาติของธรรมเหล่านี้ เพื่อให้รู้ว่าอะไรเป็นเหตุ เป็นปัจจัย เป็นผล จะได้ บริหารจัดการชีวิตให้เป็นไปอย่างไร้ทุกข์ มีแต่สุขสงบ

ชาวเขาในป่าสูงดอยใหญ่ กับชาวศิวิไลในกรุงเทพ มีความตอบสนองต่อสิ่งเร้าดุจเดียวกัน มีกิเลส ตัณหา อัตตา มานะ ทิฏฐิ ไม่ต่างกัน มีสติ ปัญญา สมาธิ วิริยะ ได้เหมือนกัน มีความสงสัย อยากรู้และ
สังเกตดูให้ดีกรัชกาย

พระบรมศาสดาทรงสอนให้เจริญ.......มิได้ทรงสอนให้สร้าง สติ สัปชัญญะ สมาธิ เพราะสิ่งเหล่านี้มีอยู่จริงๆแล้วในธรรมชาติของมนุษย์




อ้างคำพูด:
สติ ปัญญา สมาธิ วิริยะ และธรรมทั้งหลาย เขามีอยู่เป็นอยู่เองแล้วโดยธรรมชาติ ในชีวิตมนุษย์


ถ้ามีอยู่ในแล้วในชีวิตมนุษย์ นี่เป็นสติ หรือปัญญา หรือสมาธิ หรือ วิริยะ และเป็นธรรมอะไรเนี่ย


:b18:
เป็นวิปริตธรรม เป็นผลของการทำสมาธิโดยไม่อบรมกันให้ดีเสียก่อน เมื่อ ปีติ นิมิต เกิดก็ปรุงแต่งกีันไปใหญ่ ยืดยาว แก้ไม่เป็น
คนสอนต้องรู้หลักภาวนา และทำมาจนช่ำชอง จึงจะป้องกันและแก้ปัญหาได้ ไปอ่านตำรา หรือถาม คนอื่นแล้วมาแก้ มันไม่ทันเกมส์หรอกนะ
:b38:


โพสต์ เมื่อ: 29 เม.ย. 2014, 16:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:

สติ ปัญญา สมาธิ วิริยะ และธรรมทั้งหลาย เขามีอยู่เป็นอยู่เองแล้วโดยธรรมชาติ ในชีวิตมนุษย์ การศึกษาธรรม เป็นการเข้าไปทำความรู้จักระบบหรือกระบวนการทำงานตามธรรมชาติของธรรมเหล่านี้ เพื่อให้รู้ว่าอะไรเป็นเหตุ เป็นปัจจัย เป็นผล จะได้ บริหารจัดการชีวิตให้เป็นไปอย่างไร้ทุกข์ มีแต่สุขสงบ

ชาวเขาในป่าสูงดอยใหญ่ กับชาวศิวิไลในกรุงเทพ มีความตอบสนองต่อสิ่งเร้าดุจเดียวกัน มีกิเลส ตัณหา อัตตา มานะ ทิฏฐิ ไม่ต่างกัน มีสติ ปัญญา สมาธิ วิริยะ ได้เหมือนกัน มีความสงสัย อยากรู้และ
สังเกตดูให้ดีกรัชกาย

พระบรมศาสดาทรงสอนให้เจริญ.......มิได้ทรงสอนให้สร้าง สติ สัปชัญญะ สมาธิ เพราะสิ่งเหล่านี้มีอยู่จริงๆแล้วในธรรมชาติของมนุษย์




อ้างคำพูด:
สติ ปัญญา สมาธิ วิริยะ และธรรมทั้งหลาย เขามีอยู่เป็นอยู่เองแล้วโดยธรรมชาติ ในชีวิตมนุษย์


ถ้ามีอยู่ในแล้วในชีวิตมนุษย์ นี่เป็นสติ หรือปัญญา หรือสมาธิ หรือ วิริยะ และเป็นธรรมอะไรเนี่ย


เป็นวิปริตธรรม เป็นผลของการทำสมาธิโดยไม่อบรมกันให้ดีเสียก่อน เมื่อ ปีติ นิมิต เกิดก็ปรุงแต่งกีันไปใหญ่ ยืดยาว แก้ไม่เป็น
คนสอนต้องรู้หลักภาวนา และทำมาจนช่ำชอง จึงจะป้องกันและแก้ปัญหาได้ ไปอ่านตำรา หรือถาม คนอื่นแล้วมาแก้ มันไม่ทันเกมส์หรอกนะ
:b38:



อ้างคำพูด:
วิปริตธรรม


หมายถึงอะไร วิปริตธรรม เพิ่งเคยได้ยิน อโศกเนี่ยชอบบัญญัติอะไรที่พิลึกพิลั่นอยู่เรื่อง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 29 เม.ย. 2014, 16:38 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:

สติ ปัญญา สมาธิ วิริยะ และธรรมทั้งหลาย เขามีอยู่เป็นอยู่เองแล้วโดยธรรมชาติ ในชีวิตมนุษย์ การศึกษาธรรม เป็นการเข้าไปทำความรู้จักระบบหรือกระบวนการทำงานตามธรรมชาติของธรรมเหล่านี้ เพื่อให้รู้ว่าอะไรเป็นเหตุ เป็นปัจจัย เป็นผล จะได้ บริหารจัดการชีวิตให้เป็นไปอย่างไร้ทุกข์ มีแต่สุขสงบ

ชาวเขาในป่าสูงดอยใหญ่ กับชาวศิวิไลในกรุงเทพ มีความตอบสนองต่อสิ่งเร้าดุจเดียวกัน มีกิเลส ตัณหา อัตตา มานะ ทิฏฐิ ไม่ต่างกัน มีสติ ปัญญา สมาธิ วิริยะ ได้เหมือนกัน มีความสงสัย อยากรู้และ
สังเกตดูให้ดีกรัชกาย

พระบรมศาสดาทรงสอนให้เจริญ.......มิได้ทรงสอนให้สร้าง สติ สัปชัญญะ สมาธิ เพราะสิ่งเหล่านี้มีอยู่จริงๆแล้วในธรรมชาติของมนุษย์




อ้างคำพูด:
สติ ปัญญา สมาธิ วิริยะ และธรรมทั้งหลาย เขามีอยู่เป็นอยู่เองแล้วโดยธรรมชาติ ในชีวิตมนุษย์


ถ้ามีอยู่ในแล้วในชีวิตมนุษย์ นี่เป็นสติ หรือปัญญา หรือสมาธิ หรือ วิริยะ และเป็นธรรมอะไรเนี่ย


เป็นวิปริตธรรม เป็นผลของการทำสมาธิโดยไม่อบรมกันให้ดีเสียก่อน เมื่อ ปีติ นิมิต เกิดก็ปรุงแต่งกีันไปใหญ่ ยืดยาว แก้ไม่เป็น
คนสอนต้องรู้หลักภาวนา และทำมาจนช่ำชอง จึงจะป้องกันและแก้ปัญหาได้ ไปอ่านตำรา หรือถาม คนอื่นแล้วมาแก้ มันไม่ทันเกมส์หรอกนะ
:b38:



อ้างคำพูด:
วิปริตธรรม


หมายถึงอะไร วิปริตธรรม เพิ่งเคยได้ยิน อโศกเนี่ยชอบบัญญัติอะไรที่พิลึกพิลั่นอยู่เรื่อง

s004
กรัชกายไม่เคยได้ยิน "วิปริตธัมโม" เป็นเรื่องที่น่าแปลกแล้วที่นักวิชาการใหญ่ไม่ผ่านตาเรื่องนี้ เคยมีคนนำ าโพสต์แล้วนะ ค้นไม่เจอให้ไปถามอาจารย์กูเกิ้ลดูไป๊
:b13:


โพสต์ เมื่อ: 29 เม.ย. 2014, 16:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:

สติ ปัญญา สมาธิ วิริยะ และธรรมทั้งหลาย เขามีอยู่เป็นอยู่เองแล้วโดยธรรมชาติ ในชีวิตมนุษย์ การศึกษาธรรม เป็นการเข้าไปทำความรู้จักระบบหรือกระบวนการทำงานตามธรรมชาติของธรรมเหล่านี้ เพื่อให้รู้ว่าอะไรเป็นเหตุ เป็นปัจจัย เป็นผล จะได้ บริหารจัดการชีวิตให้เป็นไปอย่างไร้ทุกข์ มีแต่สุขสงบ

ชาวเขาในป่าสูงดอยใหญ่ กับชาวศิวิไลในกรุงเทพ มีความตอบสนองต่อสิ่งเร้าดุจเดียวกัน มีกิเลส ตัณหา อัตตา มานะ ทิฏฐิ ไม่ต่างกัน มีสติ ปัญญา สมาธิ วิริยะ ได้เหมือนกัน มีความสงสัย อยากรู้และ
สังเกตดูให้ดีกรัชกาย

พระบรมศาสดาทรงสอนให้เจริญ.......มิได้ทรงสอนให้สร้าง สติ สัปชัญญะ สมาธิ เพราะสิ่งเหล่านี้มีอยู่จริงๆแล้วในธรรมชาติของมนุษย์




อ้างคำพูด:
สติ ปัญญา สมาธิ วิริยะ และธรรมทั้งหลาย เขามีอยู่เป็นอยู่เองแล้วโดยธรรมชาติ ในชีวิตมนุษย์


ถ้ามีอยู่ในแล้วในชีวิตมนุษย์ นี่เป็นสติ หรือปัญญา หรือสมาธิ หรือ วิริยะ และเป็นธรรมอะไรเนี่ย


เป็นวิปริตธรรม เป็นผลของการทำสมาธิโดยไม่อบรมกันให้ดีเสียก่อน เมื่อ ปีติ นิมิต เกิดก็ปรุงแต่งกีันไปใหญ่ ยืดยาว แก้ไม่เป็น
คนสอนต้องรู้หลักภาวนา และทำมาจนช่ำชอง จึงจะป้องกันและแก้ปัญหาได้ ไปอ่านตำรา หรือถาม คนอื่นแล้วมาแก้ มันไม่ทันเกมส์หรอกนะ
:b38:



อ้างคำพูด:
วิปริตธรรม


หมายถึงอะไร วิปริตธรรม เพิ่งเคยได้ยิน อโศกเนี่ยชอบบัญญัติอะไรที่พิลึกพิลั่นอยู่เรื่อง

s004
กรัชกายไม่เคยได้ยิน "วิปริตธัมโม" เป็นเรื่องที่น่าแปลกแล้วที่นักวิชาการใหญ่ไม่ผ่านตาเรื่องนี้ เคยมีคนนำ าโพสต์แล้วนะ ค้นไม่เจอให้ไปถามอาจารย์กูเกิ้ลดูไป๊
:b13:


ใครเป็นคนพูดหรอขอรับ แปลว่าอะไร

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 01 พ.ค. 2014, 14:02 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b38:
วิปริต [วิปะหฺริด, วิบปะหฺริด] ก. แปรปรวน, ผิดปรกติ, ผิดแนวทาง, แปรปรวนไปข้างร้าย, กลับกลายไปข้างร้าย. (ป.; ส. วิปรีต).

ธรรม.......ธรรมดา...... ธรรมมชาติ.....ตถตา..........สิ่งที่เป็นไปด้วยกำลังแห่งเหตุและปัจจัย


วิปริตธรรม = ธรรมะที่แปรปรวน, ผิดปรกติ, ผิดแนวทาง, แปรปรวนไปข้างร้าย, กลับกลายไปข้างร้าย
:b16:


โพสต์ เมื่อ: 02 พ.ค. 2014, 05:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b38:
วิปริต [วิปะหฺริด, วิบปะหฺริด] ก. แปรปรวน, ผิดปรกติ, ผิดแนวทาง, แปรปรวนไปข้างร้าย, กลับกลายไปข้างร้าย. (ป.; ส. วิปรีต).

ธรรม.......ธรรมดา...... ธรรมมชาติ.....ตถตา..........สิ่งที่เป็นไปด้วยกำลังแห่งเหตุและปัจจัย


วิปริตธรรม ธรรมะที่แปรปรวน, ผิดปรกติ, ผิดแนวทาง, แปรปรวนไปข้างร้าย, กลับกลายไปข้างร้าย


แน่ะ เปิดพจนานุกรมเลยนิ คิกๆ

แล้วทำยังไง จึงให้ร้ายกลับกลายเป็นดีล่ะอโศก :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 02 พ.ค. 2014, 14:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b38:
วิปริต [วิปะหฺริด, วิบปะหฺริด] ก. แปรปรวน, ผิดปรกติ, ผิดแนวทาง, แปรปรวนไปข้างร้าย, กลับกลายไปข้างร้าย. (ป.; ส. วิปรีต).

ธรรม.......ธรรมดา...... ธรรมมชาติ.....ตถตา..........สิ่งที่เป็นไปด้วยกำลังแห่งเหตุและปัจจัย


วิปริตธรรม ธรรมะที่แปรปรวน, ผิดปรกติ, ผิดแนวทาง, แปรปรวนไปข้างร้าย, กลับกลายไปข้างร้าย


แน่ะ เปิดพจนานุกรมเลยนิ คิกๆ

แล้วทำยังไง จึงให้ร้ายกลับกลายเป็นดีล่ะอโศก :b1:

:b13:
ปัญหากล้วยๆแค่นี้ยังตอบไม่ได้อีกหรือพ่อนักวิชาการใหญ๋

"ก็เอา วิปริต ออกเสีย สิ่งที่เหลือก็คือ ธรรม ไงล่ะ"

(สงสัยเดี๋ยวก็ถามต่อแบบเด็กไม่รู้จักโตขอกินปลาอีกแล้ว)
:b3:
เป็นนักวิชาการใหญ่ เอา วิปริต ออกจากใจตนและผู้อื่นไม่ได้ ให้ไปยื่นใบลาออกเสียนะ
:b7:


โพสต์ เมื่อ: 02 พ.ค. 2014, 16:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




b6d5f10e8777aa0ae60f2c3b03bfa69c.gif
b6d5f10e8777aa0ae60f2c3b03bfa69c.gif [ 4.35 KiB | เปิดดู 2464 ครั้ง ]
asoka เขียน:


ปัญหากล้วยๆแค่นี้ยังตอบไม่ได้อีกหรือพ่อนักวิชาการใหญ๋

"ก็เอา วิปริต ออกเสีย สิ่งที่เหลือก็คือ ธรรม ไงล่ะ"

(สงสัยเดี๋ยวก็ถามต่อแบบเด็กไม่รู้จักโตขอกินปลาอีกแล้ว)
เป็นนักวิชาการใหญ่ เอา วิปริต ออกจากใจตนและผู้อื่นไม่ได้ ให้ไปยื่นใบลาออกเสียนะ


อ้างคำพูด:
ก็เอา วิปริต ออกเสีย สิ่งที่เหลือก็คือ ธรรม ไงล่ะ


http://www.youtube.com/watch?v=ZYgcf-nl9iE


เอาวิปริตออก ก็เหลือแต่ธรม :b32: เป็นคำตอบที่เจ๋ง ดอกจิกมักๆๆ น่าเป็นห่วงลูกศิษย์อโศกจินๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสต์ เมื่อ: 02 พ.ค. 2014, 17:49 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:


ปัญหากล้วยๆแค่นี้ยังตอบไม่ได้อีกหรือพ่อนักวิชาการใหญ๋

"ก็เอา วิปริต ออกเสีย สิ่งที่เหลือก็คือ ธรรม ไงล่ะ"

(สงสัยเดี๋ยวก็ถามต่อแบบเด็กไม่รู้จักโตขอกินปลาอีกแล้ว)
เป็นนักวิชาการใหญ่ เอา วิปริต ออกจากใจตนและผู้อื่นไม่ได้ ให้ไปยื่นใบลาออกเสียนะ


อ้างคำพูด:
ก็เอา วิปริต ออกเสีย สิ่งที่เหลือก็คือ ธรรม ไงล่ะ


http://www.youtube.com/watch?v=ZYgcf-nl9iE


เอาวิปริตออก ก็เหลือแต่ธรม :b32: เป็นคำตอบที่เจ๋ง ดอกจิกมักๆๆ น่าเป็นห่วงลูกศิษย์อโศกจินๆๆ

onion
ห่วงตัวเองให้มากๆนะกรัชกาย
:b4: :b4:


โพสต์ เมื่อ: 02 พ.ค. 2014, 18:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:


ปัญหากล้วยๆแค่นี้ยังตอบไม่ได้อีกหรือพ่อนักวิชาการใหญ๋

"ก็เอา วิปริต ออกเสีย สิ่งที่เหลือก็คือ ธรรม ไงล่ะ"

(สงสัยเดี๋ยวก็ถามต่อแบบเด็กไม่รู้จักโตขอกินปลาอีกแล้ว)
เป็นนักวิชาการใหญ่ เอา วิปริต ออกจากใจตนและผู้อื่นไม่ได้ ให้ไปยื่นใบลาออกเสียนะ


อ้างคำพูด:
ก็เอา วิปริต ออกเสีย สิ่งที่เหลือก็คือ ธรรม ไงล่ะ


http://www.youtube.com/watch?v=ZYgcf-nl9iE


เอาวิปริตออก ก็เหลือแต่ธรม :b32: เป็นคำตอบที่เจ๋ง ดอกจิกมักๆๆ น่าเป็นห่วงลูกศิษย์อโศกจินๆๆ

onion
ห่วงตัวเองให้มากๆนะกรัชกาย





อโศกเอาวิปริตออก ให้เหลือแต่ธรรมหน่อยสิเอ้า :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 37 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร