วันเวลาปัจจุบัน 21 ต.ค. 2025, 02:20  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 200 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10 ... 14  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 06 มิ.ย. 2014, 21:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:

เออออห่อหมกไปกะเขานั่นนะ เข้าใจยังไง
อ้างคำพูด:
"อัปปณิหิตสมาธิ"
ยกท่อนซุงมา แม้แต่ตัวคนพูดเองก็ยังไม่เข้าใจ เพียงแต่อ่านพระสูตรมาแล้วก็ว่าไปตามนั้น

1. เป็นเจตนาของเช่นนั้น ที่ยกอัปปณิหิตสมาธิ ขึ้นมาและไม่อธิบายความ
เพราะการเข้าใจคำศัพท์ อัปปณิหิตสมาธิ ไม่ใช่สาระในการปฏิบัติ
เพียงให้ทราบว่า ชื่อของสมาธิชนิดนี้เกี่ยวข้องกับสิ่งที่อธิบายอยู่ แต่ไม่ใช่สาระสำคัญ ยังไม่ต้องสนใจก็ได้

2. พระสูตรไหนที่แสดงเรื่อง อัปปณิหิตสมาธิ ยกมาให้ดูสิครับ แล้วอธิบายว่า เป็นอย่างไร กรัชกาย
แล้วถ้ายิ่งเป็นการยกท่อนซุงมา ยิ่งดี แต่กรัชกายอย่าไปยกลำไผ่คิดว่าเป็นท่อนซุงมาล่ะ :b17:


กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
สติที่ระลึกอยู่ด้วยอนุสติ


นี่ก็ผิดแล้ว พูดมาได้ "สติระลึกอยู่ด้วยอนุสติ" ปัดโธ่ ไปเปิดนวโกวาทดูนะ สติ แปลว่า ความระลึกได้ อนุสติ (อนุ+สติ - ใส่่อนุเข้าข้างหน้า สติ แค่่นี้เอง) แปลว่า ตามระลึก แต่นี่ดันมาพูดซ้ำซ้อนกันว่า สติระลึกอยู่ด้วยอนุสติ คิกๆๆ ปาดโธ่ กุุ้มจัยไม่มี ล ลิง :b1:
นี่ไงพอออกจากท่อนซุง ก็ออกทะเล :b1:
บอกแล้วว่าเช่นนั้นขาดพื้นฐานด้านภาษาบาลี มั่วไปเรื่อย บอกไม่เชื่อ :b1:

มีสมองรู้จักเพียงนวโกวาทนะ ก็อย่าอวดรู้ให้เกินนวโกวาทล่ะ
ก่อนจะเวิ่นเว้อสิ่งไรออกมา ก็บอกหลายหนแล้วว่าให้อ่านให้ดี

ถ้ารู้แค่อันนู้นอันนี้มา (+) กัน ..... ก็แสดงว่า ไม่ได้อ่านให้ดี
สติระลึกอยู่ด้วยอนุสติ คือความจริง....ไปอ่านใหม่
อ่านสักสามรอบนะ อ่านช้าๆ ทุกอักษร นะครับ กรัช+กาย :b6:

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 06 มิ.ย. 2014, 21:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
แล้วที่ท่านเช่นนั้นอธิบายคุณน้องก็พิจารณาใคร่ครวญธรรมอยู่ แค่คุนน้องไม่เข้าใจศัพบาลีบางคำแต่นั้นไม่ใช่ปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติสักนิด เพราะฉะนั้นก็ข้ามไปสมมติบัญญัติไม่จำเป็นต้องรู้หมดหรอก สับสนงงชีวิตเพราะมาแปลบาลีนี่แหละ แค่เข้าใจปรมัตถ์ก็หลุดจากสมมติบัญญัติแล้ว อะไรกันนักหนานิแค่คนเค้าไม่รู้บาลีก็แปลว่าไม่รู้ไม่เข้าใจธรรมหรอกรัชกาย คุนน้องก็เข้าใจว่า คนที่จะไประลึกรู้อารมณ์มรณานุสติได้นั้นก็ต้องเป็นสติที่ประกอบกับปัญญา ปัญญามันผุดเหมือนดอกเห็ดไม่ได้ดอก ถ้าไม่มีสัญญา ท่านเช่นนั้นก็อธิบายถูกแล้ว แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่ไปรู้นั่นน่ะปัญญาแท้หรือ สังขารความคิดนึกฝันเอา แล้วต้องสังเกตุตนเองด้วยว่ามีความคลายความยึดถือยึดมั่นลงบ้างไหม มีความกลัวตายเบาบางลงไหม เห็นความเป็นจริงแล้วมันลงจิตลงใจตนเองแค่ไหน ถ้ายังไม่เห็นก็อย่าหวังเลย โลภ โกรธ หลง จะเบาบางลง ต้องมองเห็นอาการ 3 ลักษณะที่ปรากฏ อาการ3ลักษณะที่ปรากฏให้เห็นนั้นคือไตรลักษณ์นั่นแหละ

จับสาระได้ อนุโมทนาครับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 06 มิ.ย. 2014, 21:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
nongkong เขียน:
แล้วที่ท่านเช่นนั้นอธิบายคุณน้องก็พิจารณาใคร่ครวญธรรมอยู่ แค่คุนน้องไม่เข้าใจศัพบาลีบางคำแต่นั้นไม่ใช่ปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติสักนิด เพราะฉะนั้นก็ข้ามไปสมมติบัญญัติไม่จำเป็นต้องรู้หมดหรอก สับสนงงชีวิตเพราะมาแปลบาลีนี่แหละ แค่เข้าใจปรมัตถ์ก็หลุดจากสมมติบัญญัติแล้ว อะไรกันนักหนานิแค่คนเค้าไม่รู้บาลีก็แปลว่าไม่รู้ไม่เข้าใจธรรมหรอกรัชกาย คุนน้องก็เข้าใจว่า คนที่จะไประลึกรู้อารมณ์มรณานุสติได้นั้นก็ต้องเป็นสติที่ประกอบกับปัญญา ปัญญามันผุดเหมือนดอกเห็ดไม่ได้ดอก ถ้าไม่มีสัญญา ท่านเช่นนั้นก็อธิบายถูกแล้ว แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่ไปรู้นั่นน่ะปัญญาแท้หรือ สังขารความคิดนึกฝันเอา แล้วต้องสังเกตุตนเองด้วยว่ามีความคลายความยึดถือยึดมั่นลงบ้างไหม มีความกลัวตายเบาบางลงไหม เห็นความเป็นจริงแล้วมันลงจิตลงใจตนเองแค่ไหน ถ้ายังไม่เห็นก็อย่าหวังเลย โลภ โกรธ หลง จะเบาบางลง ต้องมองเห็นอาการ 3 ลักษณะที่ปรากฏ อาการ3ลักษณะที่ปรากฏให้เห็นนั้นคือไตรลักษณ์นั่นแหละ

จับสาระได้ อนุโมทนาครับ

แล้วท่านเช่นนั้นไม่มีอะไรทักท้วงคุนน้องหรือเจ้าค่ะ คุนน้องอยากฝากตัวเป็นกัลยามิตรเพิ่มอีกคนนึง :b20: หรือว่าเหนื่อยกับพี่กรัชกายแล้ว :b32:


โพสต์ เมื่อ: 06 มิ.ย. 2014, 21:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


"การจับสาระได้" ดีมากๆ ครับ
ไม่มีสิ่งไรทักท้วง
เป็นการศึกษาธรรมะที่ถูกต้องครับ

ใช้วิธีการนี้ ศึกษาพระสูตร แล้วปฏิบัติได้ตามสาระที่พระพุทธองค์แสดงไว้ในพระสูตร
ก็จะสำเร็จผลตามปราถนา สิ่งใดไม่แจ้ง พึ่งครูอาจารย์ที่ผ่านการปฏิบัติอย่างแท้จริง
ท่านจะแนะนำให้ตรงตามจริตคุณน้องได้ดีกว่าครับ

ความเห็น เช่นนั้น เป็นเพียงแสงหิ่งห้อย จุดความคิดให้รุดหน้าต่อไปเองครับคุณน้อง

:b8:

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 07 มิ.ย. 2014, 04:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:

เออออห่อหมกไปกะเขานั่นนะ เข้าใจยังไง
อ้างคำพูด:
"อัปปณิหิตสมาธิ"
ยกท่อนซุงมา แม้แต่ตัวคนพูดเองก็ยังไม่เข้าใจ เพียงแต่อ่านพระสูตรมาแล้วก็ว่าไปตามนั้น

1. เป็นเจตนาของเช่นนั้น ที่ยกอัปปณิหิตสมาธิ ขึ้นมาและไม่อธิบายความ
เพราะการเข้าใจคำศัพท์ อัปปณิหิตสมาธิ ไม่ใช่สาระในการปฏิบัติ
เพียงให้ทราบว่า ชื่อของสมาธิชนิดนี้เกี่ยวข้องกับสิ่งที่อธิบายอยู่ แต่ไม่ใช่สาระสำคัญ ยังไม่ต้องสนใจก็ได้

2. พระสูตรไหนที่แสดงเรื่อง อัปปณิหิตสมาธิ ยกมาให้ดูสิครับ แล้วอธิบายว่า เป็นอย่างไร กรัชกาย
แล้วถ้ายิ่งเป็นการยกท่อนซุงมา ยิ่งดี แต่กรัชกายอย่าไปยกลำไผ่คิดว่าเป็นท่อนซุงมาล่ะ :b17:


กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
สติที่ระลึกอยู่ด้วยอนุสติ


นี่ก็ผิดแล้ว พูดมาได้ "สติระลึกอยู่ด้วยอนุสติ" ปัดโธ่ ไปเปิดนวโกวาทดูนะ สติ แปลว่า ความระลึกได้ อนุสติ (อนุ+สติ - ใส่่อนุเข้าข้างหน้า สติ แค่่นี้เอง) แปลว่า ตามระลึก แต่นี่ดันมาพูดซ้ำซ้อนกันว่า สติระลึกอยู่ด้วยอนุสติ คิกๆๆ ปาดโธ่ กุุ้มจัยไม่มี ล ลิง :b1:
นี่ไงพอออกจากท่อนซุง ก็ออกทะเล :b1:
บอกแล้วว่าเช่นนั้นขาดพื้นฐานด้านภาษาบาลี มั่วไปเรื่อย บอกไม่เชื่อ :b1:

มีสมองรู้จักเพียงนวโกวาทนะ ก็อย่าอวดรู้ให้เกินนวโกวาทล่ะ
ก่อนจะเวิ่นเว้อสิ่งไรออกมา ก็บอกหลายหนแล้วว่าให้อ่านให้ดี

ถ้ารู้แค่อันนู้นอันนี้มา (+) กัน ..... ก็แสดงว่า ไม่ได้อ่านให้ดี
สติระลึกอยู่ด้วยอนุสติ คือความจริง....ไปอ่านใหม่
อ่านสักสามรอบนะ อ่านช้าๆ ทุกอักษร นะครับ กรัช+กาย :b6:



อ้างคำพูด:
สติระลึกอยู่ด้วยอนุสติ คือความจริง



มรณานุสติ (มรณสติ) ( มรณะ+อนุสติ) หมายถึงการตามระลึกถึงความตาย สาระเขามีแค่นี้ เช่น นึกว่า เรามีความตายเป็นธรรมดา จักไม่ล่วงพ้นความตายไปได้ๆๆๆๆ ก็แค่นี้

แต่เช่นนั้นเวิ้นเว้อเสียเองเลยว่า “สติระลึกอยู่ด้วยอนุสติ” จะสติหรืออนุสติ ความหมายเดียวกัน จะไป "สติ...ด้วยอนุสติ" เน่าแล้ว :b32:

ทำนองเดียวกับที่เช่นนั้น พูดถึง "อานาปานสติ" คือตัวเองไม่เข้าใจภาษาของเขา แยกไม่ออกว่าประกอบด้วยศัพท์ใด แต่ละศัพท์มีหมายความอย่างไร ก็เลยเหมารวมว่า “อานาปานสติ” เป็นวิธีการ ไม่ใช่ตัวปฏิบัติ แต่จริงๆของเขา เป็นหลักปฏิบัติอยู่ในตัวแล้ว คือ อานาปานสติ แปลว่า สติกำหนดลมหายใจเข้า-ออก (อานาปาน+สติ) ก็ทำไปปฏิบัติไปซี่ตามนั้น

เห็นด้วยมั้ยที่กรัชกายพูดยังงี้ ไม่ต้องอายว่าไม่รู้นะ คิกๆๆ ไม่มีใครรู้มาตั้งแต่เกิดดอก :b32: เดาล่วงหน้าตะแบงอีกน่า :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 07 มิ.ย. 2014, 04:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
nongkong เขียน:
แล้วที่ท่านเช่นนั้นอธิบายคุณน้องก็พิจารณาใคร่ครวญธรรมอยู่ แค่คุนน้องไม่เข้าใจศัพบาลีบางคำแต่นั้นไม่ใช่ปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติสักนิด เพราะฉะนั้นก็ข้ามไปสมมติบัญญัติไม่จำเป็นต้องรู้หมดหรอก สับสนงงชีวิตเพราะมาแปลบาลีนี่แหละ แค่เข้าใจปรมัตถ์ก็หลุดจากสมมติบัญญัติแล้ว อะไรกันนักหนานิแค่คนเค้าไม่รู้บาลีก็แปลว่าไม่รู้ไม่เข้าใจธรรมหรอกรัชกาย คุนน้องก็เข้าใจว่า คนที่จะไประลึกรู้อารมณ์มรณานุสติได้นั้นก็ต้องเป็นสติที่ประกอบกับปัญญา ปัญญามันผุดเหมือนดอกเห็ดไม่ได้ดอก ถ้าไม่มีสัญญา ท่านเช่นนั้นก็อธิบายถูกแล้ว แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่ไปรู้นั่นน่ะปัญญาแท้หรือ สังขารความคิดนึกฝันเอา แล้วต้องสังเกตุตนเองด้วยว่ามีความคลายความยึดถือยึดมั่นลงบ้างไหม มีความกลัวตายเบาบางลงไหม เห็นความเป็นจริงแล้วมันลงจิตลงใจตนเองแค่ไหน ถ้ายังไม่เห็นก็อย่าหวังเลย โลภ โกรธ หลง จะเบาบางลง ต้องมองเห็นอาการ 3 ลักษณะที่ปรากฏ อาการ3ลักษณะที่ปรากฏให้เห็นนั้นคือไตรลักษณ์นั่นแหละ

จับสาระได้ อนุโมทนาครับ

แล้วท่านเช่นนั้นไม่มีอะไรทักท้วงคุนน้องหรือเจ้าค่ะ คุนน้องอยากฝากตัวเป็นกัลยามิตรเพิ่มอีกคนนึง :b20: หรือว่าเหนื่อยกับพี่กรัชกายแล้ว :b32:



อย่าห่วงเช่นนั้นเลย เขาไม่เหนื่อยหรอก เขาแบกท่อนซุงมานานนักหนาแล้ว กรัชกายจะช่วยเขาเลื่อยเป็นตัวไม้แล้วปลุกบ้านให้เขาอาศัย :b9: ออกค่าแรงให้ด้วย คิกๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 07 มิ.ย. 2014, 04:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
"การจับสาระได้" ดีมากๆ ครับ
ไม่มีสิ่งไรทักท้วง
เป็นการศึกษาธรรมะที่ถูกต้องครับ

ใช้วิธีการนี้ ศึกษาพระสูตร แล้วปฏิบัติได้ตามสาระที่พระพุทธองค์แสดงไว้ในพระสูตร
ก็จะสำเร็จผลตามปราถนา สิ่งใดไม่แจ้ง พึ่งครูอาจารย์ที่ผ่านการปฏิบัติอย่างแท้จริง
ท่านจะแนะนำให้ตรงตามจริตคุณน้องได้ดีกว่าครับ

ความเห็น เช่นนั้น เป็นเพียงแสงหิ่งห้อย จุดความคิดให้รุดหน้าต่อไปเองครับคุณน้อง

:b8:



เช่นนั้นขอรับ เรื่องจิตใจทดลองกันไม่ได้ ถ้าไม่รู้จริงแล้วอาบน้ำกินนมนอนเถอะขอรับ :b32:

ตัวอย่างนี้เป็นต้น



อ้างคำพูด:
มีความรู้เรื่องพุทธศาสนาน้อยมาก จึงกังวลไปทั่วทุกอย่างค่ะ

ไปฝึกแล้วเป็นโรคจิต (ตามที่หมอบอกจากอาการที่เราเป็น)

นั่งอ่านตามเว็บไซต์ ก็ไม่เห็นมีคนพูดกันว่าเจออะไรบ้าง จึงไม่แน่ใจว่ามันควรพูดไหม เดี๋ยวเจอข้อหาโทษศาสนา

ตอนแรกดิฉันมีอาการผิดปกติทางกายแล้วไปถามผู้สอน
แล้วได้คำตอบที่ไม่สมเหตุผลมากเลยจึงขาดความไว้ใจในตัวผู้สอน
คราวนี้พอเกิดอย่างอื่นตามมาก็ไม่ได้ถามอีก

ต่อมาทั้งตาฝาด หูแว่ว ได้ยินอะไรแบบพิเศษจากปกติ
ก็คิดว่าตัวเองวิเศษ ไม่ไปถามผู้ฝึกสอนอีก เพราะขาดความไว้วางใจ แถมหลงในสิ่งลวงนั้นแล้วด้วย
เป็นหนักจนต้องไปอยู่โรงพยาบาล และก็รักษาจนรู้ตัว และเข้าใจแล้วว่าเป็นเรื่องไม่จริง
แต่ยังมีอาการอย่างนึงที่ยังไม่หายคือใจแว่ว (ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดีค่ะเพราะมันคลายหูแว่ว แต่เสียงเหมือนมีคนอื่นพูดมาจากใจเรา)

กินยาตามหมอสั่งมาก็หลายเดือนก็ยังไม่หาย ยังงงอยู่ว่าเป็นไปได้อย่างไร
เสียงที่ได้ยินบอกว่า ไม่หายหรอกต้องเป็นคนจิตผิดปกติไปตลอดบ้างละ ต้องไปฝึกสมาธิต่อให้หายบ้างละ
ฟังไปก็งงไปเรื่อยค่ะ เข้าใจว่ามันเป็นอาการจิตเภทแบบที่หมอบอก

แต่ไม่รู้ว่าต้องเดินทางไปสุดวิธีรักษาแบบคนเป็นโรคจิต หรือควรกลับมาทางทำสมาธิแทน
แต่กลัวตอนที่ร่างกายผิดปกติ กลัวเป็นอีกแล้วจะไม่หายคราวนี้



.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 07 มิ.ย. 2014, 06:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย
ทำความศึกษาใน สิ่งที่ถูกต้องนะครับ
อย่าตะแบงความรู้ความเห็น และเที่ยวแนะนำให้ ผู้ทุกข์ พลอยบ้าฟุ้งซ่าน ไปกับ การกำหนดมั่วๆ เลยครับ

กรัชกาย เขียน:
มรณานุสติ (มรณสติ) ( มรณะ+อนุสติ) หมายถึงการตามระลึกถึงความตาย สาระเขามีแค่นี้ เช่น นึกว่า เรามีความตายเป็นธรรมดา จักไม่ล่วงพ้นความตายไปได้ๆๆๆๆ ก็แค่นี้

แต่เช่นนั้นเวิ้นเว้อเสียเองเลยว่า “สติระลึกอยู่ด้วยอนุสติ” จะสติหรืออนุสติ ความหมายเดียวกัน จะไป "สติ...ด้วยอนุสติ" เน่าแล้ว :b32:

ทำนองเดียวกับที่เช่นนั้น พูดถึง "อานาปานสติ" คือตัวเองไม่เข้าใจภาษาของเขา แยกไม่ออกว่าประกอบด้วยศัพท์ใด แต่ละศัพท์มีหมายความอย่างไร ก็เลยเหมารวมว่า “อานาปานสติ” เป็นวิธีการ ไม่ใช่ตัวปฏิบัติ แต่จริงๆของเขา เป็นหลักปฏิบัติอยู่ในตัวแล้ว คือ อานาปานสติ แปลว่า สติกำหนดลมหายใจเข้า-ออก (อานาปาน+สติ) ก็ทำไปปฏิบัติไปซี่ตามนั้น

เห็นด้วยมั้ยที่กรัชกายพูดยังงี้ ไม่ต้องอายว่าไม่รู้นะ คิกๆๆ ไม่มีใครรู้มาตั้งแต่เกิดดอก :b32: เดาล่วงหน้าตะแบงอีกน่า :b13:

เน่าจริงๆ กรัชกาย
ไม่อ่านพระสูตร ยังมาตะแบงซ้ายตะแบงขวา
การปฏิบัติของกรัชกาย
เอาศัพท์ มา บวก(+) กันก็เป็นอันเสร็จ
ถามจริงๆ นะกรัชกาย ชีวิตนี้ทั้งชีวิตไม่คิดจะเปิดพระสูตร ศึกษาเลยรึ
หรือ เพียงเอาตัวหนังสือมาตะแบง แล้วเที่ยวบอกว่า "รู้หมดแล้ว" ....... :b9:

แปลก็มั่ว สติกำหนดลมหายใจเข้า-ออก ........ เออเองคิดเอง ......
ใครอ่านแล้วหลงเชื่อ บ้าแน่ๆ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 07 มิ.ย. 2014, 06:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
เช่นนั้น เขียน:
"การจับสาระได้" ดีมากๆ ครับ
ไม่มีสิ่งไรทักท้วง
เป็นการศึกษาธรรมะที่ถูกต้องครับ

ใช้วิธีการนี้ ศึกษาพระสูตร แล้วปฏิบัติได้ตามสาระที่พระพุทธองค์แสดงไว้ในพระสูตร
ก็จะสำเร็จผลตามปราถนา สิ่งใดไม่แจ้ง พึ่งครูอาจารย์ที่ผ่านการปฏิบัติอย่างแท้จริง
ท่านจะแนะนำให้ตรงตามจริตคุณน้องได้ดีกว่าครับ

ความเห็น เช่นนั้น เป็นเพียงแสงหิ่งห้อย จุดความคิดให้รุดหน้าต่อไปเองครับคุณน้อง


เช่นนั้นขอรับ เรื่องจิตใจทดลองกันไม่ได้ ถ้าไม่รู้จริงแล้วอาบน้ำกินนมนอนเถอะขอรับ

นั่นสินะ จิตใจทดลองกันไม่ได้
จึงเสนอให้คุณน้องศึกษาจากสิ่งที่ถูกต้อง
ไม่ต้องมัวมา กำหนดบ้าๆ บอๆ อย่างที่กรัชกายตะแบงอยู่และเที่ยวบอกคนนู้นคนนี้ล่ะครับ
ทำเจตนาฟุ้ง โดยคิดไปว่า ใช่หนอ ใช่หนอ ใช่หนอ :b9:

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 07 มิ.ย. 2014, 07:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
เช่นนั้น เขียน:
"การจับสาระได้" ดีมากๆ ครับ
ไม่มีสิ่งไรทักท้วง
เป็นการศึกษาธรรมะที่ถูกต้องครับ

ใช้วิธีการนี้ ศึกษาพระสูตร แล้วปฏิบัติได้ตามสาระที่พระพุทธองค์แสดงไว้ในพระสูตร
ก็จะสำเร็จผลตามปราถนา สิ่งใดไม่แจ้ง พึ่งครูอาจารย์ที่ผ่านการปฏิบัติอย่างแท้จริง
ท่านจะแนะนำให้ตรงตามจริตคุณน้องได้ดีกว่าครับ

ความเห็น เช่นนั้น เป็นเพียงแสงหิ่งห้อย จุดความคิดให้รุดหน้าต่อไปเองครับคุณน้อง


เช่นนั้นขอรับ เรื่องจิตใจทดลองกันไม่ได้ ถ้าไม่รู้จริงแล้วอาบน้ำกินนมนอนเถอะขอรับ

นั่นสินะ จิตใจทดลองกันไม่ได้
จึงเสนอให้คุณน้องศึกษาจากสิ่งที่ถูกต้อง
ไม่ต้องมัวมา กำหนดบ้าๆ บอๆ อย่างที่กรัชกายตะแบงอยู่และเที่ยวบอกคนนู้นคนนี้ล่ะครับ
ทำเจตนาฟุ้ง โดยคิดไปว่า ใช่หนอ ใช่หนอ ใช่หนอ :b9:


ไม่รู้จะไปทางไหนก็ = > เน่า = > โง่ = > เวิ้นเว้อ =>บ้าๆบอๆ =>? => ?

คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 07 มิ.ย. 2014, 07:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ไม่รู้จะไปทางไหนก็ = > เน่า = > โง่ = > เวิ้นเว้อ =>บ้าๆบอๆ =>? => ?

คิกๆๆ

กรัชกาย ไม่อยากเน่า โง่ เวิ่นเว้อ แนะนำอะไรบ้าๆบอๆ
ก็ศึกษาพระสูตรให้ดี ทำความรู้ความเห็นให้ถูกต้องสิครับ

:b9:

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 07 มิ.ย. 2014, 07:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ไม่รู้จะไปทางไหนก็ = > เน่า = > โง่ = > เวิ้นเว้อ =>บ้าๆบอๆ =>? => ?

คิกๆๆ

กรัชกาย ไม่อยากเน่า โง่ เวิ่นเว้อ แนะนำอะไรบ้าๆบอๆ
ก็ศึกษาพระสูตรให้ดี ทำความรู้ความเห็นให้ถูกต้องสิครับ

:b9:



ก็บอกมาสิปฏิบัติยังไง ไม่บอกไม่แนะนำวิธีปฏิบัติจะรู้ไหมเนี่ยะ

เรื่องอ่านเนี่ยะไม่มีปัญหานะ กรัชกายชอบอ่าน อ่านหนังสือออก ไม่เชื่อก๊อบพระสูตรมาถามซี่เอ้า :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 07 มิ.ย. 2014, 07:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ไม่รู้จะไปทางไหนก็ = > เน่า = > โง่ = > เวิ้นเว้อ =>บ้าๆบอๆ =>? => ?

คิกๆๆ

กรัชกาย ไม่อยากเน่า โง่ เวิ่นเว้อ แนะนำอะไรบ้าๆบอๆ
ก็ศึกษาพระสูตรให้ดี ทำความรู้ความเห็นให้ถูกต้องสิครับ

:b9:



ก็บอกมาสิปฏิบัติยังไง ไม่บอกไม่แนะนำวิธีปฏิบัติจะรู้ไหมเนี่ยะ

เรื่องอ่านเนี่ยะไม่มีปัญหานะ กรัชกายชอบอ่าน อ่านหนังสือออก ไม่เชื่อก๊อบพระสูตรมาถามซี่เอ้า :b32:


ให้ศึกษา ไม่ได้ให้อ่านเป็นนกแก้วนกขุนทอง
ศึกษาพระสูตร :b19:

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 07 มิ.ย. 2014, 07:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ไม่รู้จะไปทางไหนก็ = > เน่า = > โง่ = > เวิ้นเว้อ =>บ้าๆบอๆ =>? => ?

คิกๆๆ

กรัชกาย ไม่อยากเน่า โง่ เวิ่นเว้อ แนะนำอะไรบ้าๆบอๆ
ก็ศึกษาพระสูตรให้ดี ทำความรู้ความเห็นให้ถูกต้องสิครับ

:b9:



ก็บอกมาสิปฏิบัติยังไง ไม่บอกไม่แนะนำวิธีปฏิบัติจะรู้ไหมเนี่ยะ

เรื่องอ่านเนี่ยะไม่มีปัญหานะ กรัชกายชอบอ่าน อ่านหนังสือออก ไม่เชื่อก๊อบพระสูตรมาถามซี่เอ้า :b32:


ให้ศึกษา ไม่ได้ให้อ่านเป็นนกแก้วนกขุนทอง
ศึกษาพระสูตร :b19:


นำมาให้อ่านตรงนี้ซี่ แล้วก็แนะนำไปถามไป เออแน่ะ :b9:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 07 มิ.ย. 2014, 07:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เรื่องอ่านเนี่ยะไม่มีปัญหานะ กรัชกายชอบอ่าน อ่านหนังสือออก ไม่เชื่อก๊อบพระสูตรมาถามซี่เอ้า :b32:

นำมาให้อ่านตรงนี้ซี่ แล้วก็แนะนำไปถามไป เออแน่ะ :b9:

อ๊ะอ๊ะ เขียนอะไรข้างบนน่ะ
กรัชกายชอบอ่าน แสดงว่าอ่านมาก แต่ไม่ได้ศึกษา
ก็กลับไปอ่านสิแล้วศึกษาใหม่ :b27:

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 200 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10 ... 14  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร