วันเวลาปัจจุบัน 04 ต.ค. 2025, 20:42  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 168 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5 ... 12  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 16 ก.ค. 2014, 22:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ยังว่าไปเรื่อยอีก อุตส่าห์เอาแบบมาให้ดูแล้วนะ

นึกถึงธรรมอย่านึกถึงหน้าซี่ คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 16 ก.ค. 2014, 22:27 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


s004
ออกนอกประเด็นกระทู้กันมาไกลแล้ว วกกลับไปหาประโยชน์จากกระทู้นี้กันเถิดนะครับ

"เยธัมมา เหตุปัพวา เทสังเหตุง ตถาคตา เตสัญจโยนิโรโธจะ เอวังวาที มหาสมโณ"

"ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ พระสมณโคดมทรงแสดงเหตุและวิธีดับเหตุนั้น นี่คือวาทะของพระสมณโคดม"

นี่เป็นการกล่าวสรุปหัวใจคำสอนของพระพุทธเจ้าที่กล่าวออกมาโดยพระอัสชิ แสดงต่อท่านอุปติสสะปริพาชก จนทำให้บรรลุโสดาบันในทันที
:b8: :b8: :b8:
:b27: :b27: :b27:


โพสต์ เมื่อ: 17 ก.ค. 2014, 06:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:

ออกนอกประเด็นกระทู้กันมาไกลแล้ว วกกลับไปหาประโยชน์จากกระทู้นี้กันเถิดนะครับ

"เยธัมมา เหตุปัพวา เทสังเหตุง ตถาคตา เตสัญจโยนิโรโธจะ เอวังวาที มหาสมโณ"

"ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ พระสมณโคดมทรงแสดงเหตุและวิธีดับเหตุนั้น นี่คือวาทะของพระสมณโคดม"

นี่เป็นการกล่าวสรุปหัวใจคำสอนของพระพุทธเจ้าที่กล่าวออกมาโดยพระอัสชิ แสดงต่อท่านอุปติสสะปริพาชก จนทำให้บรรลุโสดาบันในทันที


แล้วอโศกว่า เหตุกับผล ที่คาถานั้น ได้แก่อะไรขอรับ ชัดๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 17 ก.ค. 2014, 09:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
"เยธัมมา เหตุปัพวา เทสังเหตุง ตถาคตา เตสัญจโยนิโรโธจะ เอวังวาที มหาสมโณ"

"ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ พระสมณโคดมทรงแสดงเหตุและวิธีดับเหตุนั้น นี่คือวาทะของพระสมณโคดม"

นี่เป็นการกล่าวสรุปหัวใจคำสอนของพระพุทธเจ้าที่กล่าวออกมาโดยพระอัสชิ แสดงต่อท่านอุปติสสะปริพาชก จนทำให้บรรลุโสดาบันในทันที
:b8: :b8: :b8:
:b27: :b27: :b27:


อุปติสสะปริพาชก เก่งจริงๆ ปัญญาท่านอุปติสสะบ่มเพาะมาดีแล้ว ฟังท่อนนี้ท่อนเดียว บรรลุโสดาบันทันที :b4: :b4:

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 17 ก.ค. 2014, 09:26 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:

ออกนอกประเด็นกระทู้กันมาไกลแล้ว วกกลับไปหาประโยชน์จากกระทู้นี้กันเถิดนะครับ

"เยธัมมา เหตุปัพวา เทสังเหตุง ตถาคตา เตสัญจโยนิโรโธจะ เอวังวาที มหาสมโณ"

"ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ พระสมณโคดมทรงแสดงเหตุและวิธีดับเหตุนั้น นี่คือวาทะของพระสมณโคดม"

นี่เป็นการกล่าวสรุปหัวใจคำสอนของพระพุทธเจ้าที่กล่าวออกมาโดยพระอัสชิ แสดงต่อท่านอุปติสสะปริพาชก จนทำให้บรรลุโสดาบันในทันที


แล้วอโศกว่า เหตุกับผล ที่คาถานั้น ได้แก่อะไรขอรับ ชัดๆ

:b39:
ผลที่ต้องเกิดมารับทุกข์เวียนว่ายตายเกิดนี้ เพราะมีเหตุอดีตที่สร้างไว้ด้วยความไม่รู้

เมื่อรู้แล้วหยุดสร้างเหตุแห่งทุกข์และความเวียนว่ายตายเกิดนั้นเสีย เหตุปัจจุบัน ผลปัจจุบัน จึงเป็นอโหสิกรรม

:b53: :b53: :b53: :b53:


โพสต์ เมื่อ: 17 ก.ค. 2014, 14:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เอาเข้าไป คนหนึ่ง (เช่นนั้น) ชมอุปติสสะ อีกคนหนึ่ง (อโศก) ก็เวียนว่ายตายเกิด สรุปแล้ว ไม่ได้คำตอบจากคาถานั้น :b21:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 17 ก.ค. 2014, 16:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เอาเข้าไป คนหนึ่ง (เช่นนั้น) ชมอุปติสสะ อีกคนหนึ่ง (อโศก) ก็เวียนว่ายตายเกิด สรุปแล้ว ไม่ได้คำตอบจากคาถานั้น :b21:

อยากรู้ ไปศึกษาจากพระสูตรเองเหอะกรัชกาย :b32: :b32: :b32:

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 17 ก.ค. 2014, 17:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เอาเข้าไป คนหนึ่ง (เช่นนั้น) ชมอุปติสสะ อีกคนหนึ่ง (อโศก) ก็เวียนว่ายตายเกิด สรุปแล้ว ไม่ได้คำตอบจากคาถานั้น :b21:

อยากรู้ ไปศึกษาจากพระสูตรเองเหอะกรัชกาย :b32: :b32: :b32:



ไหนนำข้อความตรงนั้นมานี่สิ จะได้ดูชัดๆ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 17 ก.ค. 2014, 17:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:

เช่นนั้นเขียน

ดีแล้วครับ
ความกลัว ไม่เกิดขึ้นกับตัวเอง ไม่มีใครรู้หรอกครับว่าน่ารำคาญมาก รบกวนจริงๆ ครับ
ขณะนี้ เรายังกำจัดไม่ได้เด็ดขาด ได้แต่ใช้กำลังสมาธิสงบให้เคยชิน
ครับ
พอฝึกบ่อยๆ นานๆ เข้า ก็จะเริ่มเข้าใจแล้วว่า
ความกลัวที่มันคอยก่อนกวนเรานั้น มันก็ไม่เที่ยง เมื่อเรามีสัญญาอื่นมาแทนที่ความรู้สึกนั้น มันก็ไม่มีอิทธิพลในจิตเรา.

[นั่นคือ สมาธิเป็นเหตุให้เกิดปัญญา]

นั่นหมายความว่า
กุศลเหตุที่ฝึกจิตให้ตั้งมั่นได้บ่อยๆ มีอิทธิพล(กุศลวิบาก) เหนืออกุศลวิบากที่เกิดขึ้น(ความกลัว).

ต่อไป การละความกลัวต่อความมืดก็จะละได้อย่างเด็ดขาดเองครับ.



เช่นนั้นใช้สมถะเก็บขยะไว้ใต้พรม ครั้นเช่นนั้นหลอกตนเองแล้ว ก็ใช้มิจฉาทิฏฐิไปหลอกคนอื่นต่อ (สมาธิเป็นเหตุให้เกิดปัญญา) คิกๆๆ ถ้ายังงั้น พระโพธิสัตว์คงไม่ปลีกตัวจากสองดาบสหรอกเช่นนั้นเอ้ย :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 17 ก.ค. 2014, 17:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้นใช้สมถะเก็บขยะไว้ใต้พรม ครั้นเช่นนั้นหลอกตนเองแล้ว ก็ใช้มิจฉาทิฏฐิไปหลอกคนอื่นต่อ (สมาธิเป็นเหตุให้เกิดปัญญา) คิกๆๆ ถ้ายังงั้น พระโพธิสัตว์คงไม่ปลีกตัวจากสองดาบสหรอกเช่นนั้นเอ้ย :b32:

โง่ยังอวดฉลาด ยังลามไปพระโพธิสัตว์ อีกน่ะ

นี่กรัชกาย จะบอกอะไรให้นะ
ไปนั่งแคะขี้ฟันแล้วจับปลาในน้ำขุ่นไป๊

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 17 ก.ค. 2014, 19:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้นใช้สมถะเก็บขยะไว้ใต้พรม ครั้นเช่นนั้นหลอกตนเองแล้ว ก็ใช้มิจฉาทิฏฐิไปหลอกคนอื่นต่อ (สมาธิเป็นเหตุให้เกิดปัญญา) คิกๆๆ ถ้ายังงั้น พระโพธิสัตว์คงไม่ปลีกตัวจากสองดาบสหรอกเช่นนั้นเอ้ย :b32:

โง่ยังอวดฉลาด ยังลามไปพระโพธิสัตว์ อีกน่ะ

นี่กรัชกาย จะบอกอะไรให้นะ
ไปนั่งแคะขี้ฟันแล้วจับปลาในน้ำขุ่นไป๊



ไม่ได้สาระเลย :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 17 ก.ค. 2014, 21:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้นใช้สมถะเก็บขยะไว้ใต้พรม ครั้นเช่นนั้นหลอกตนเองแล้ว ก็ใช้มิจฉาทิฏฐิไปหลอกคนอื่นต่อ (สมาธิเป็นเหตุให้เกิดปัญญา) คิกๆๆ ถ้ายังงั้น พระโพธิสัตว์คงไม่ปลีกตัวจากสองดาบสหรอกเช่นนั้นเอ้ย :b32:

โง่ยังอวดฉลาด ยังลามไปพระโพธิสัตว์ อีกน่ะ

นี่กรัชกาย จะบอกอะไรให้นะ
ไปนั่งแคะขี้ฟันแล้วจับปลาในน้ำขุ่นไป๊



ไม่ได้สาระเลย :b32:

นั่นละกรัชกาย

ขี้คุยไง
น้ำยังขุ่นก็นั่งจับปลา :b17: :b17: :b17:

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 17 ก.ค. 2014, 21:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้นใช้สมถะเก็บขยะไว้ใต้พรม ครั้นเช่นนั้นหลอกตนเองแล้ว ก็ใช้มิจฉาทิฏฐิไปหลอกคนอื่นต่อ (สมาธิเป็นเหตุให้เกิดปัญญา) คิกๆๆ ถ้ายังงั้น พระโพธิสัตว์คงไม่ปลีกตัวจากสองดาบสหรอกเช่นนั้นเอ้ย :b32:

โง่ยังอวดฉลาด ยังลามไปพระโพธิสัตว์ อีกน่ะ

นี่กรัชกาย จะบอกอะไรให้นะ
ไปนั่งแคะขี้ฟันแล้วจับปลาในน้ำขุ่นไป๊



ไม่ได้สาระเลย :b32:

นั่นละกรัชกาย

ขี้คุยไง
น้ำยังขุ่นก็นั่งจับปลา :


ทุกวันนี้เช่นนั้นหมดมุขเล่นแล้ว :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 17 ก.ค. 2014, 21:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้นใช้สมถะเก็บขยะไว้ใต้พรม ครั้นเช่นนั้นหลอกตนเองแล้ว ก็ใช้มิจฉาทิฏฐิไปหลอกคนอื่นต่อ (สมาธิเป็นเหตุให้เกิดปัญญา) คิกๆๆ ถ้ายังงั้น พระโพธิสัตว์คงไม่ปลีกตัวจากสองดาบสหรอกเช่นนั้นเอ้ย :b32:

โง่ยังอวดฉลาด ยังลามไปพระโพธิสัตว์ อีกน่ะ

นี่กรัชกาย จะบอกอะไรให้นะ
ไปนั่งแคะขี้ฟันแล้วจับปลาในน้ำขุ่นไป๊



ไม่ได้สาระเลย :b32:

นั่นละกรัชกาย

ขี้คุยไง
น้ำยังขุ่นก็นั่งจับปลา :


ทุกวันนี้เช่นนั้นหมดมุขเล่นแล้ว :b32:

เล่นกับกรัชกาย ไม่ต้องมีมุกหรอก
กรัชกาย โบ๋เบ๋ เข้าใจไหม

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 17 ก.ค. 2014, 21:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้นเอ้ย :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 168 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5 ... 12  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร