วันเวลาปัจจุบัน 05 ต.ค. 2025, 10:23  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 36 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 17 ก.ค. 2014, 21:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


วิธีของ เช่นนั้น นั่งเลือกอารมณ์เอา ว่านี่ๆสมาธิปัญญา นี่ๆสมถะวิปัสสนา

เช่นนั้นขอรับ คิดทีเดียวจบเกมเลยดีกว่านะ นึกเป็นพระศรีอริยเมตไตรไปเลย จบ คิกๆๆ ไม่ต้องคิดบ่อยๆปวดตับ เป็นบ่อเกิดของโรคกระเพาะเปล่าๆ อ้าวจริงๆ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 17 ก.ค. 2014, 22:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
วิธีของ เช่นนั้น นั่งเลือกอารมณ์เอา ว่านี่ๆสมาธิปัญญา นี่ๆสมถะวิปัสสนา

เช่นนั้นขอรับ คิดทีเดียวจบเกมเลยดีกว่านะ นึกเป็นพระศรีอริยเมตไตรไปเลย จบ คิกๆๆ ไม่ต้องคิดบ่อยๆปวดตับ เป็นบ่อเกิดของโรคกระเพาะเปล่าๆ อ้าวจริงๆ :b32:

กรัชกาย แถไปนู่นๆ นี่
โบ๋เบ๋ ซะล่ะ

อ้างคำพูด:
แต่เกิดขึ้นเฉพาะ แก่ผู้ที่เจริญวิปัสสนามาอย่างถูกต้องเท่านั้น


จบแล้วกรัชโก๊ะ ไปศึกษาพระสูตรน่า
อย่ามัวทู่ซี้แถไปนู่นๆ นี่ๆ แล้วก็ก๊อปแปะสิ่งที่กรัชกายไม่รู้เรื่องเลย

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 17 ก.ค. 2014, 22:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
วิธีของ เช่นนั้น นั่งเลือกอารมณ์เอา ว่านี่ๆสมาธิปัญญา นี่ๆสมถะวิปัสสนา

เช่นนั้นขอรับ คิดทีเดียวจบเกมเลยดีกว่านะ นึกเป็นพระศรีอริยเมตไตรไปเลย จบ คิกๆๆ ไม่ต้องคิดบ่อยๆปวดตับ เป็นบ่อเกิดของโรคกระเพาะเปล่าๆ อ้าวจริงๆ :b32:

กรัชกาย แถไปนู่นๆ นี่
โบ๋เบ๋ ซะล่ะ

อ้างคำพูด:
แต่เกิดขึ้นเฉพาะ แก่ผู้ที่เจริญวิปัสสนามาอย่างถูกต้องเท่านั้น


จบแล้วกรัชโก๊ะ ไปศึกษาพระสูตรน่า
อย่ามัวทู่ซี้แถไปนู่นๆ นี่ๆ แล้วก็ก๊อปแปะสิ่งที่กรัชกายไม่รู้เรื่องเลย



เอาชวนไปแบกท่อนซุงแระ กรัชกายศึกษานามรูป (ที่เรียกว่าคน) นี่แหละ คลุมหมดทั้งสามปิฎก แล้วคิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 17 ก.ค. 2014, 22:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เอาชวนไปแบกท่อนซุงแระ กรัชกายศึกษานามรูป (ที่เรียกว่าคน) นี่แหละ คลุมหมดทั้งสามปิฎก แล้วคิกๆๆ

พอเหอะกรัชโก๊ะ
นั่งจับปลาในน้ำขุ่นอีกแระ 5555555

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 17 ก.ค. 2014, 22:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เอาชวนไปแบกท่อนซุงแระ กรัชกายศึกษานามรูป (ที่เรียกว่าคน) นี่แหละ คลุมหมดทั้งสามปิฎก แล้วคิกๆๆ

พอเหอะกรัชโก๊ะ
นั่งจับปลาในน้ำขุ่นอีกแระ 5555555



เช่นนั้นขอรับกระผม วิธีที่เช่นนั้นคิดว่าเป็นนั่นเป็นนี่ คิดเอาตามที่ตนเองชอบใจนะ ต่อให้คิดจนเลือดออกปากออกจมูก หัวปูดเป็นลูกมะนาว ก็คิดไม่ถึง อ้าวจริงๆ

ถ้าบุคคลคิดเอานั่นเอานี่เอาสมาธิเอาปัญญาได้ ตามที่ตนเองต้องการ เขาคิดเอากันได้หมดแล้วนะเช่นนั้นเอ้ย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 17 ก.ค. 2014, 22:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ถ้าบุคคลคิดเอานั่นเอานี่เอาสมาธิเอาปัญญาได้ ตามที่ตนเองต้องการ เขาคิดเอากันได้หมดแล้วนะเช่นนั้นเอ้ย

กรัชกายขอรับ ...
ไปศึกษาพระสูตรนะครับ
ปัญญา ที่เกิดจากสมาธิ ก็มีนะครับ

เรื่องจริง อย่ามัวนั่งมโนฟุ้งๆ ซ่านๆ ต่อไปเลยครับ ....
รึจะไปโลกพระจันทร์จริงๆ หรือครับ กรัชกาย :b9: :b9: :b9:

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 17 ก.ค. 2014, 22:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
.......ดูกรกัสสป แต่เรารู้อยู่ จึงพูดว่ารู้ เห็นอยู่ จึงพูดว่าเห็น เพราะเหตุนั้นแหละกัสสป เธอ
พึงศึกษาอย่างนี้ว่า เราจักเข้าไปตั้งหิริโอตตัปปะอย่างแรงกล้าในภิกษุทั้งหลายผู้เป็น
เถระ ผู้นวกะ ผู้มัชฌิมะ ... เราจักฟังธรรมอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งประกอบด้วยกุศล
จักกระทำธรรมนั้นทั้งหมดให้เกิดประโยชน์ ใส่ใจถึงธรรมนั้นทั้งหมด จักประมวล
มาด้วยจิตทั้งหมด เงี่ยโสตสดับพระธรรม ... เราจักไม่ละกายคตาสติที่สหรคตด้วย
กุศลความสำราญ ดูกรกัสสป เธอพึงศึกษาอย่างนี้แหละ.......

http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=16&A=5721&Z=5816&pagebreak=0
:b8:

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 18 ก.ค. 2014, 07:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ถ้าบุคคลคิดเอานั่นเอานี่เอาสมาธิเอาปัญญาได้ ตามที่ตนเองต้องการ เขาคิดเอากันได้หมดแล้วนะเช่นนั้นเอ้ย

กรัชกายขอรับ ...
ไปศึกษาพระสูตรนะครับ
ปัญญา ที่เกิดจากสมาธิ ก็มีนะครับ

เรื่องจริง อย่ามัวนั่งมโนฟุ้งๆ ซ่านๆ ต่อไปเลยครับ ....
รึจะไปโลกพระจันทร์จริงๆ หรือครับ กรัชกาย :b9: :b9: :b9:


มีสมาธิแล้ว มิใช่ปัญญามันจะเกิด ถ้าไม่รู้จักพิจารณา หรือรู้จักใช้ปัญญา ซึ่งเป็นอีกขั้นหนึ่งขอรับเช่นนั้น

ตัวอย่างบรมครูสมาธิ ได้แก่ อาฬารดาบส และอุทกดาบส ซึ่งสุดยอดในการทำสมาธิในสมัยนั้น ที่เจ้าชายสิทธัตถะไปฝึกทำสมาธิอยู่ด้วย หลังจากเจ้าชายสิทธัตถะเรียนจบสมาบัติขั้นสูงแล้ว ถามเช่นนั้นว่า ทำไมเจ้าชายสิทธัตถะว่ายังไม่ใช่วิธีที่จะทำให้พ้นทุกข์ได้ ทำไม

อย่าเอาแต่อ่านหนังสือแล้วเพ้อฝันซี่ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 18 ก.ค. 2014, 09:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
มีสมาธิแล้ว มิใช่ปัญญามันจะเกิด ถ้าไม่รู้จักพิจารณา หรือรู้จักใช้ปัญญา ซึ่งเป็นอีกขั้นหนึ่งขอรับเช่นนั้น

ตัวอย่างบรมครูสมาธิ ได้แก่ อาฬารดาบส และอุทกดาบส ซึ่งสุดยอดในการทำสมาธิในสมัยนั้น ที่เจ้าชายสิทธัตถะไปฝึกทำสมาธิอยู่ด้วย หลังจากเจ้าชายสิทธัตถะเรียนจบสมาบัติขั้นสูงแล้ว ถามเช่นนั้นว่า ทำไมเจ้าชายสิทธัตถะว่ายังไม่ใช่วิธีที่จะทำให้พ้นทุกข์ได้ ทำไม

อย่าเอาแต่อ่านหนังสือแล้วเพ้อฝันซี่


สมถะและวิปัสสนา เกื้อหนุนต่อกันและกัน
สมถะเป็นบาทแห่งวิปัสสนา
วิปัสสนาเป็นบาทแห่งสมถะ
สมถะและวิปัสสนา ก็อยู่ที่จิตนี้
กรัชกาย ....... ทำความเข้าใจใหม่นะขอรับ ...

Quote Tipitaka:
วิชชา ๘
วิปัสสนาญาณ
[๑๓๑] ภิกษุนั้นเมื่อจิตเป็นสมาธิบริสุทธิ์ผ่องแผ้ว ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส
อ่อน ควรแก่การงาน ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหวอย่างนี้ ย่อมโน้มน้อมจิตไปเพื่อญาณทัสนะ......
มโนมยิทธิญาณ
[๑๓๒] ภิกษุนั้น เมื่อจิตเป็นสมาธิบริสุทธิ์ ผ่องแผ้ว ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส
อ่อน ควรแก่การงาน ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหวอย่างนี้ ย่อมโน้มน้อมจิตไปเพื่อนิรมิต รูปอันเกิด
แต่ใจ คือนิรมิตกายอื่นจากกายนี้ มีรูปเกิดแต่ใจ.....
อิทธิวิธญาณ
[๑๓๓] ภิกษุนั้น เมื่อจิตเป็นสมาธิบริสุทธิ์ผ่องแผ้ว ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส
อ่อน ควรแก่การงาน ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหว อย่างนี้ ย่อมโน้มน้อมจิตไปเพื่ออิทธิวิธี เธอบรรลุ
อิทธิวิธีหลายประการ.....

ทิพยโสตญาณ
[๑๓๔] ภิกษุนั้น เมื่อจิตเป็นสมาธิบริสุทธิ์ผ่องแผ้ว ไม่มีกิเลส ปราศจากกิเลส อ่อน
ควรแก่การงาน ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหวอย่างนี้ ย่อมโน้มน้อมจิตไปเพื่อทิพยโสตธาตุ เธอย่อม
ได้ยินเสียง ๒ ชนิด คือเสียงทิพย์และเสียงมนุษย์ ทั้งที่อยู่ไกลและใกล้ด้วยทิพยโสตธาตุ .....

เจโตปริยญาณ
[๑๓๕] ภิกษุนั้น เมื่อจิตเป็นสมาธิบริสุทธิ์ผ่องแผ้ว ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส
อ่อน ควรแก่การงาน ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหวอย่างนี้ ย่อมโน้มน้อมจิตไปเพื่อเจโตปริยญาณ
เธอย่อมกำหนดรู้ใจของสัตว์อื่น......

ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ
[๑๓๖] ภิกษุนั้น เมื่อจิตเป็นสมาธิบริสุทธิ์ผ่องแผ้ว ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส
อ่อน ควรแก่การงาน ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหว อย่างนี้ ย่อมโน้มน้อมจิตไปเพื่อบุพเพนิวาสานุสสติญาณ
เธอย่อมระลึกชาติก่อนได้เป็นอันมาก.....

จุตูปปาตญาณ
[๑๓๗] ภิกษุนั้นเมื่อจิตเป็นสมาธิ บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส
อ่อน ควรแก่การงาน ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหวอย่างนี้ ย่อมโน้มน้อมจิตไปเพื่อรู้จุติและอุปบัติของ
สัตว์ทั้งหลาย ......

อาสวักขยญาณ
[๑๓๘] ภิกษุนั้นเมื่อจิตเป็นสมาธิ บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส
อ่อน ควรแก่การงาน ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหว อย่างนี้ ย่อมโน้มน้อมจิตไปเพื่ออาสวักขยญาณ
ย่อมรู้ชัดตามเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ นี้ทุกขสมุทัย นี้ทุกขนิโรธ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา เหล่านี้
อาสวะ นี้อาสวสมุทัย นี้อาสวนิโรธ นี้อาสวนิโรธคามินีปฏิปทา เมื่อเธอรู้เห็นอย่างนี้ จิตย่อม
หลุดพ้นแม้จากกามาสวะ แม้จากภวาสวะ แม้จากอวิชชาสวะ เมื่อจิตหลุดพ้นแล้ว ก็มีญาณว่า
หลุดพ้นแล้ว. รู้ชัดว่าชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่น
เพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี. ดูกรมหาบพิตร เปรียบเหมือนสระน้ำบนยอดเขาใสสะอาด ไม่ขุ่นมัว
บุรุษผู้มีจักษุยืนอยู่บนขอบสระนั้น จะพึงเห็นหอยโข่งและหอยกาบต่างๆ บ้าง ก้อนกรวดและ
ก้อนหินบ้าง ฝูงปลาบ้าง กำลังว่ายอยู่บ้าง หยุดอยู่บ้าง ในสระน้ำ เขาจะพึงคิดอย่างนี้ว่า
สระน้ำนี้ใสสะอาด ไม่ขุ่นมัว หอยโข่งและหอยกาบต่างๆ บ้าง ก้อนกรวดและก้อนหินบ้าง
ฝูงปลาบ้าง เหล่านี้กำลังว่ายอยู่บ้าง กำลังหยุดอยู่บ้าง ในสระน้ำนั้น ดังนี้ฉันใด ภิกษุก็ฉันนั้น
แล เมื่อจิตเป็นสมาธิ บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส อ่อน ควรแก่การงาน
ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหวอย่างนี้ ย่อมโน้มน้อมจิตไปเพื่ออาสวักขยญาณ ย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงว่า
นี้ทุกข์ นี้ทุกขสมุทัย นี้ทุกขนิโรธ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา เหล่านี้ อาสวะ นี้อาสวสมุทัย
นี้อาสวนิโรธ นี้อาสวนิโรธคามินีปฏิปทา เมื่อเธอรู้เห็นอย่างนี้ จิตย่อมหลุดพ้นแม้จากกามาสวะ
แม้จากภวาสวะ แม้จากอวิชชาสวะ เมื่อจิตหลุดพ้นแล้ว ก็มีญาณว่าหลุดพ้นแล้ว รู้ชัดว่าชาติ
สิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี

ดูกรมหาบพิตร นี้แหละสามัญผลที่เห็นประจักษ์ ทั้งดียิ่งกว่า ทั้งประณีตกว่าสามัญผลที่เห็น
ประจักษ์ข้อก่อนๆ ดูกรมหาบพิตร ก็สามัญผลที่เห็นประจักษ์ข้ออื่น ทั้งดียิ่งกว่า ทั้งประณีตกว่า
สามัญผลที่เห็นประจักษ์ข้อนี้ ย่อมไม่มี.


อย่ามัว มโนเป็นอึ่งอ่างทอดกรอบ เลยกรัชกาย
จิตไม่ผ่องใส ปัญญาไม่เกิดได้หรอก....

แม้แต่พระพุทธองค์ ก็ตรัสรู้ด้วยจิตที่เป็นสมาธิ เข้าใจไหมโก๊ะ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 18 ก.ค. 2014, 10:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
มีสมาธิแล้ว มิใช่ปัญญามันจะเกิด ถ้าไม่รู้จักพิจารณา หรือรู้จักใช้ปัญญา ซึ่งเป็นอีกขั้นหนึ่งขอรับเช่นนั้น

ตัวอย่างบรมครูสมาธิ ได้แก่ อาฬารดาบส และอุทกดาบส ซึ่งสุดยอดในการทำสมาธิในสมัยนั้น ที่เจ้าชายสิทธัตถะไปฝึกทำสมาธิอยู่ด้วย หลังจากเจ้าชายสิทธัตถะเรียนจบสมาบัติขั้นสูงแล้ว ถามเช่นนั้นว่า ทำไมเจ้าชายสิทธัตถะว่ายังไม่ใช่วิธีที่จะทำให้พ้นทุกข์ได้ ทำไม

อย่าเอาแต่อ่านหนังสือแล้วเพ้อฝันซี่ :b1:


55555 กรัชกาย
ถ้า เจ้าชายสิทธัตถะ ไม่ได้ฌานสมาบัติชั้นสูงนั้น จะเกิดความรู้ไหมว่า ฌานชั้นสูงนั้น ไม่ใช่วิธีพ้นทุกข์

โก๊ะ เอ๊ยยย นี่ล่ะ สมาธิเป็นเหตุให้เกิดปัญญา :b17: :b17: :b17:

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 18 ก.ค. 2014, 11:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
มีสมาธิแล้ว มิใช่ปัญญามันจะเกิด ถ้าไม่รู้จักพิจารณา หรือรู้จักใช้ปัญญา ซึ่งเป็นอีกขั้นหนึ่งขอรับเช่นนั้น

ตัวอย่างบรมครูสมาธิ ได้แก่ อาฬารดาบส และอุทกดาบส ซึ่งสุดยอดในการทำสมาธิในสมัยนั้น ที่เจ้าชายสิทธัตถะไปฝึกทำสมาธิอยู่ด้วย หลังจากเจ้าชายสิทธัตถะเรียนจบสมาบัติขั้นสูงแล้ว ถามเช่นนั้นว่า ทำไมเจ้าชายสิทธัตถะว่ายังไม่ใช่วิธีที่จะทำให้พ้นทุกข์ได้ ทำไม

อย่าเอาแต่อ่านหนังสือแล้วเพ้อฝันซี่ :b1:


55555 กรัชกาย
ถ้า เจ้าชายสิทธัตถะ ไม่ได้ฌานสมาบัติชั้นสูงนั้น จะเกิดความรู้ไหมว่า ฌานชั้นสูงนั้น ไม่ใช่วิธีพ้นทุกข์

โก๊ะ เอ๊ยยย นี่ล่ะ สมาธิเป็นเหตุให้เกิดปัญญา:


อ้างคำพูด:
โก๊ะ เอ๊ยยย นี่ล่ะ สมาธิเป็นเหตุให้เกิดปัญญา


เมื่อได้แง่คิดยังงั้นแล้ว ไปทำไงต่อล่ะเช่นนั้น ทำไง :b1: นี่คือก้าวต่อไป อย่าเพ้อเอาเองซี่เช่นนั้น

อ้างคำพูด:
สมาธิอ่อนกำลังลง 1
เพ่งเพียรมาก 1
และ
มีความสงสัยว่า เกิดอะไรขึ้น.... ด้วยครับ

ดีแล้วครับ ที่ถอยกลับมาที่ ปฐมฌานจิตใหม่ได้ แล้วเริ่มใหม่



แหม เข้าฌานออกฌานง่ายจังนะเช่นนั้นคิกๆๆ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 18 ก.ค. 2014, 11:37, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสต์ เมื่อ: 18 ก.ค. 2014, 11:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
มีสมาธิแล้ว มิใช่ปัญญามันจะเกิด ถ้าไม่รู้จักพิจารณา หรือรู้จักใช้ปัญญา ซึ่งเป็นอีกขั้นหนึ่งขอรับเช่นนั้น

ตัวอย่างบรมครูสมาธิ ได้แก่ อาฬารดาบส และอุทกดาบส ซึ่งสุดยอดในการทำสมาธิในสมัยนั้น ที่เจ้าชายสิทธัตถะไปฝึกทำสมาธิอยู่ด้วย หลังจากเจ้าชายสิทธัตถะเรียนจบสมาบัติขั้นสูงแล้ว ถามเช่นนั้นว่า ทำไมเจ้าชายสิทธัตถะว่ายังไม่ใช่วิธีที่จะทำให้พ้นทุกข์ได้ ทำไม

อย่าเอาแต่อ่านหนังสือแล้วเพ้อฝันซี่ :b1:


55555 กรัชกาย
ถ้า เจ้าชายสิทธัตถะ ไม่ได้ฌานสมาบัติชั้นสูงนั้น จะเกิดความรู้ไหมว่า ฌานชั้นสูงนั้น ไม่ใช่วิธีพ้นทุกข์

โก๊ะ เอ๊ยยย นี่ล่ะ สมาธิเป็นเหตุให้เกิดปัญญา:


อ้างคำพูด:
โก๊ะ เอ๊ยยย นี่ล่ะ สมาธิเป็นเหตุให้เกิดปัญญา


เมื่อได้แง่คิดยังงั้นแล้ว ไปทำไงต่อล่ะเช่นนั้น ทำไง :b1:


พระพุทธองค์ ก็อาศัย จตุตถฌาน โน้มจิตไปสู่การพิจารณาเพื่อให้รู้แจ้งในความรู้ต่างๆไง

สมาธิก็เป็นเหตุให้เกิดปัญญาอยู่ดี โก๊ะ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 18 ก.ค. 2014, 11:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
มีสมาธิแล้ว มิใช่ปัญญามันจะเกิด ถ้าไม่รู้จักพิจารณา หรือรู้จักใช้ปัญญา ซึ่งเป็นอีกขั้นหนึ่งขอรับเช่นนั้น

ตัวอย่างบรมครูสมาธิ ได้แก่ อาฬารดาบส และอุทกดาบส ซึ่งสุดยอดในการทำสมาธิในสมัยนั้น ที่เจ้าชายสิทธัตถะไปฝึกทำสมาธิอยู่ด้วย หลังจากเจ้าชายสิทธัตถะเรียนจบสมาบัติขั้นสูงแล้ว ถามเช่นนั้นว่า ทำไมเจ้าชายสิทธัตถะว่ายังไม่ใช่วิธีที่จะทำให้พ้นทุกข์ได้ ทำไม

อย่าเอาแต่อ่านหนังสือแล้วเพ้อฝันซี่ :b1:


55555 กรัชกาย
ถ้า เจ้าชายสิทธัตถะ ไม่ได้ฌานสมาบัติชั้นสูงนั้น จะเกิดความรู้ไหมว่า ฌานชั้นสูงนั้น ไม่ใช่วิธีพ้นทุกข์

โก๊ะ เอ๊ยยย นี่ล่ะ สมาธิเป็นเหตุให้เกิดปัญญา:


อ้างคำพูด:
โก๊ะ เอ๊ยยย นี่ล่ะ สมาธิเป็นเหตุให้เกิดปัญญา


เมื่อได้แง่คิดยังงั้นแล้ว ไปทำไงต่อล่ะเช่นนั้น ทำไง :b1:


พระพุทธองค์ ก็อาศัย จตุตถฌาน โน้มจิตไปสู่การพิจารณาเพื่อให้รู้แจ้งในความรู้ต่างๆไง

สมาธิก็เป็นเหตุให้เกิดปัญญาอยู่ดี โก๊ะ


โน้มไปไหนเช่นนั้น อ่านว่าโน้มๆนะโน้มไปไหน :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 18 ก.ค. 2014, 11:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
มีสมาธิแล้ว มิใช่ปัญญามันจะเกิด ถ้าไม่รู้จักพิจารณา หรือรู้จักใช้ปัญญา ซึ่งเป็นอีกขั้นหนึ่งขอรับเช่นนั้น

ตัวอย่างบรมครูสมาธิ ได้แก่ อาฬารดาบส และอุทกดาบส ซึ่งสุดยอดในการทำสมาธิในสมัยนั้น ที่เจ้าชายสิทธัตถะไปฝึกทำสมาธิอยู่ด้วย หลังจากเจ้าชายสิทธัตถะเรียนจบสมาบัติขั้นสูงแล้ว ถามเช่นนั้นว่า ทำไมเจ้าชายสิทธัตถะว่ายังไม่ใช่วิธีที่จะทำให้พ้นทุกข์ได้ ทำไม

อย่าเอาแต่อ่านหนังสือแล้วเพ้อฝันซี่ :b1:


55555 กรัชกาย
ถ้า เจ้าชายสิทธัตถะ ไม่ได้ฌานสมาบัติชั้นสูงนั้น จะเกิดความรู้ไหมว่า ฌานชั้นสูงนั้น ไม่ใช่วิธีพ้นทุกข์

โก๊ะ เอ๊ยยย นี่ล่ะ สมาธิเป็นเหตุให้เกิดปัญญา:


อ้างคำพูด:
โก๊ะ เอ๊ยยย นี่ล่ะ สมาธิเป็นเหตุให้เกิดปัญญา


เมื่อได้แง่คิดยังงั้นแล้ว ไปทำไงต่อล่ะเช่นนั้น ทำไง :b1:


พระพุทธองค์ ก็อาศัย จตุตถฌาน โน้มจิตไปสู่การพิจารณาเพื่อให้รู้แจ้งในความรู้ต่างๆไง

สมาธิก็เป็นเหตุให้เกิดปัญญาอยู่ดี โก๊ะ


โน้มไปไหนเช่นนั้น อ่านว่าโน้มๆนะโน้มไปไหน :b1:

จิตมีธรรมชาติของการโน้มไปสู่อารมณ์
เรียกว่า เข้าไปคิด เข้าไปรู้ เข้าไปพิจารณา เข้าใจไหมโก๊ะ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 18 ก.ค. 2014, 11:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
มีสมาธิแล้ว มิใช่ปัญญามันจะเกิด ถ้าไม่รู้จักพิจารณา หรือรู้จักใช้ปัญญา ซึ่งเป็นอีกขั้นหนึ่งขอรับเช่นนั้น

ตัวอย่างบรมครูสมาธิ ได้แก่ อาฬารดาบส และอุทกดาบส ซึ่งสุดยอดในการทำสมาธิในสมัยนั้น ที่เจ้าชายสิทธัตถะไปฝึกทำสมาธิอยู่ด้วย หลังจากเจ้าชายสิทธัตถะเรียนจบสมาบัติขั้นสูงแล้ว ถามเช่นนั้นว่า ทำไมเจ้าชายสิทธัตถะว่ายังไม่ใช่วิธีที่จะทำให้พ้นทุกข์ได้ ทำไม

อย่าเอาแต่อ่านหนังสือแล้วเพ้อฝันซี่ :b1:


55555 กรัชกาย
ถ้า เจ้าชายสิทธัตถะ ไม่ได้ฌานสมาบัติชั้นสูงนั้น จะเกิดความรู้ไหมว่า ฌานชั้นสูงนั้น ไม่ใช่วิธีพ้นทุกข์

โก๊ะ เอ๊ยยย นี่ล่ะ สมาธิเป็นเหตุให้เกิดปัญญา:


อ้างคำพูด:
โก๊ะ เอ๊ยยย นี่ล่ะ สมาธิเป็นเหตุให้เกิดปัญญา


เมื่อได้แง่คิดยังงั้นแล้ว ไปทำไงต่อล่ะเช่นนั้น ทำไง :b1:


พระพุทธองค์ ก็อาศัย จตุตถฌาน โน้มจิตไปสู่การพิจารณาเพื่อให้รู้แจ้งในความรู้ต่างๆไง

สมาธิก็เป็นเหตุให้เกิดปัญญาอยู่ดี โก๊ะ


โน้มไปไหนเช่นนั้น อ่านว่าโน้มๆนะโน้มไปไหน :b1:

จิตมีธรรมชาติของการโน้มไปสู่อารมณ์
เรียกว่า เข้าไปคิด เข้าไปรู้ เข้าไปพิจารณา เข้าใจไหมโก๊ะ



พิจารณาอะไรเช่นนั้น :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 36 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร