วันเวลาปัจจุบัน 29 ก.ค. 2025, 02:30  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ต.ค. 2014, 13:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5361


 ข้อมูลส่วนตัว


‎อธิบายความโดยพระอรรถกถาจารย์‬
•คนเขลาย่อมเดือดร้อนเพราะความอยากเกี่ยวกับเรื่องบุตรและเรื่องเกี่ยวกับทรัพย์ว่า... 'บุตรของเรามี ทรัพย์ของเรามี' ย่อมลำบาก,ย่อมถึงความทุกข์,ย่อมเดือดร้อนว่า 'บุตรของเรา ทรัพย์ของเราปรวนแปร พินาศไปแล้ว' ,ย่อมเดือดร้อนว่า 'บุตรของเรา ทรัพย์ของเรา จักปรวนแปร จักพินาศ'
•คนเขลาอยากมีบุตร,อยากมีทรัพย์.เมื่อไม่ได้บุตรไม่ได้ทรัพย์ตามปรารถนาก็เดือดร้อนถึงทุกข์,เมื่อได้บุตรได้ทรัพย์สมปรารถนาแล้วก็เดือดร้อนด้วยการบริหารเลี้ยงดู,คุ้มครองรักษา,ซึ่งเป็นภาระ...หนักอย่างหนึ่งของมนุษย์
•เมื่อเจ็บป่วยหรือล้มตายไป,เมื่อทรัพย์พินาศลงด้วยเหตุใดเหตุ
หนึ่ง,คนเขลาก็เดือดร้อนอีก.รวมความว่าคนเขลาย่อมเดือดร้อน
เกี่ยวกับเรื่องบุตรเรื่องทรัพย์ทั้งปัจจุบัน,อดีตและอนาคต
•เมื่อจวนตาย,ถูกทุกขเวทนาครอบงำ.เมื่อกายทิพย์และกายเนื้อจะแยกจากกัน.บุคคลนั้นลืมตาเห็นโลกนี้,หลับตาเห็นโลกหน้า.จะต้องตายแน่ๆบุตร ภรรยาและทรัพย์ตลอดจนพ่อแม่.,ญาติพี่น้อง
ก็ช่วยอะไรไม่ได้,ไม่สามารถกำจัดทุกข์ออกไปได้.
ท่านจึงกล่าวว่า
กุโต ปุตฺตา กุโต ธนํ:บุตรและทรัพย์มีที่ไหน,มีเหมือนไม่มีเพราะช่วยอะไรไม่ได้¤

บุคคลเมื่อแสวงหากัลยาณมิตร,ต้องการกัลยาณมิตร,ก็พึงคบหาสมาคมกับมิตรผู้มีคุณธรรมเช่นตนหรือสูงกว่าตน.หากไม่ได้มิตรเช่นนั้นก็พึงยึดความเป็นผู้เดียวไว้ให้มั่นคือนั่งคนเดียว,เดินคนเดียว,ไปคนเดียว,นอนคนเดียว(รวมเรียกว่าเอกจริยํ).ทั้งนี้เพราะคุณเครืรองเป็นสหายไม่มีในคนพาลแปลว่าถ้าไม่คบคนดีก็อย่าคบคนพาลเพราะบุคคลเมื่อคบคนพาลย่อมเสื่อมลง,เมื่อคบคนเสมอกันย่อมไม่เสื่อมจากคุณธรรม.เมื่อคบคนประเสริฐกว่าย่อมเจริญด้วยคุณทั้งหลายมีศีลเป็นต้น.เพราะฉะนั้นพระผู้มีพระภาคจึงตรัสว่า"...คนพาลอันบัณฑิตไม่พึงคบ ไม่พึงเข้าไปนั่งใกล้ เว้นไว้แต่เอ็นดูเขา ต้องการอนุเคราะห์เขาให้พ้นจากความเป็นพาล"
•คุณเครื่องเป็นสหายนั้น,ท่านหมายเอาศีล,กถาวัตถุ(ถ้อยคำที่ควรพูด)๑๐, ธุดงคคุณ๑๓, มรรค๔, ผล๔, วิชชา๓เป็นต้น.คุณเหล่านี้ไม่
มีในคนพาล¤
•ราตรีหนึ่งมีอยู่๓ยามคือยามต้น,ยามกลางและยามสุดท้าย,แบ่งเป็นยามละ๔ชั่วโมง.แต่ราตรีนั้นย่อมปรากฏเป็นเวลาที่ยาวนานเหลือเกินสำหรับผู้ที่มิได้หลับด้วยเหตุใดเหตุหนึ่งเช่นผู้ทำความเพียรตลอดคืนยังรุ่งเพื่อบรรลุธรรมหรือผู้ที่ถูกโรคภัยเบียดเบียนฯลฯ
•ส่วนผู้ที่หลับนอนอย่างเกียจคร้าน,ทำตัวให้เป็นเหยื่อของเรือดก็ดี,ผู้เสพกาม,บริโภคอาหารชนิดดีตอนเย็นแล้วเข้านอนบนที่นอนอันอ่อนนุ่มพร้อมด้วยบุตรและภรรยาก็ดี,ย่อมรู้สึกว่าคืนหนึ่งน้อยนิดเดียว
...
•โยชน์หนึ่งมี๔คุตเท่านั้น,แต่สำหรับผู้เดินทางจนเหนื่อยแล้ว,ย่อมรู้สึกว่าไกลเหลือเกิน.เมื่อยังไม่เหนื่อยโยชน์หนึ่งดูไม่มากนัก,แต่เมื่อเหนื่อยแล้วโยชน์หนึ่งย่อมปรากฏเหมือน๓-๔โยชน์
•ส่วนสังสารวัฏของพวกคนพาล,ผู้ไม่รู้ประโยชน์ของโลกนี้และโลกหน้า,ผู้ไม่รู้พระสัทธรรม,ย่อมยาวนาน.
•โดยปกติสังสารวัฏนั้นยาวนานโดยธรรมดาของมันอยู่แล้ว,สมดังที่พระบรมศาดาตรัสว่า...
"ภิกษุทั้งหลายสงสารนี้ยาวนาน รู้เบื้องต้นเบื้องปลายได้ยาก",
ยิ่งสังสารวัฏของคนพาลย่อมยาวนานหนักขึ้นไปอีก¤

"คนดี ทำความดีได้ง่าย ทำชั่วได้ยาก,
ส่วนคนชั่ว ทำความชั่วได้ง่าย ทำดีได้ยาก"(พระพุทธพจน์)
...ถ้าเราเดินอยู่บนเส้นทางแห่งความดีอยู่เสมอ.ด้วยจิตใจที่มั่นคงว่าจะไม่ละทิ้งความดีแล้ว.ชีวิตของเราจะราบรื่นผาสุกตามสมควรแก่กำลังแห่งความดีที่จะอำนวยให้.ความทุกข์ย่อมมีบ้างตามธรรมดาของชีวิตที่ยังเวียนว่ายอยู่ในสงสารวัฏ.แต่ขอให้ถือว่า;นั่นเป็นการใช้หนี้กรรมเก่าซึ่งมีแต่จะหมดสิ้นไป,ถ้าไม่ทำเพิ่ม¤

#‎นิทานเรื่องที่๒ดูลิงป่าเล่นกัน‬
(‪#‎เมื่อใจฟุ้งซ่านก็ให้ปฏิบัติให้ถูกต้อง‬)
------------55555---------------
นึกมโนภาพ,เรากำลังนั่งอยู่ในป่า,มีต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง,มีลิงป่าหลายตัวกระโดดไปมาระหว่างกิ่งไม้ถึงกิ่งไม้อย่างสนุกสนานตามประสาสัตว์ป่า.เราก็นั่งพิงโคนไม้นิ่งอยู่.ดูลิงป่าเล่นด้วยความสบายอารมณ์
...
ระวัง อย่าเป็นลิงเสียเองนะ
ลิง คือความคิดฟุ้งซ่าน
ต้นไม้ ลมหายใจ คืออารมณ์กรรมฐาน
เรา คือ สติ
เมื่อจิตใจไม่สงบมากๆ.ก็ให้ปฏิบัติถูกต้องกับความไม่สงบ.บางครั้งจิตใจของเราไม่ต้องการสงบ.ฟุ้งซ่านมากๆ.ยิ่งพยายามหยุดคิด,ทำใจให้สงบ,ก็ยิ่งรำคาญมากขึ้น.เมื่อเป็นเช่นนั้น,ตั้งหลักใหม่.ไม่ต้องตั้งใจจะหยุดคิดให้สงบ,ให้ศึกษาความไม่สงบ
เสียใจเพราะจิตไม่สงบ ก็ผิด
ดีใจเพราะจิตสงบ ก็ผิดเหมือนกัน
เราต้องไม่ยินดียินร้าย,ด้วยจิตใจที่เป็นกลางๆสงบๆสบายๆ.‪#‎ความรู้สึกตัวก็มีอยู่‬,‪#‎รู้อยู่ว่าไม่สงบ‬.หายใจเข้าลึกๆหายใจออกยาวๆสบายๆ.รู้ลมหายใจออก,ลมหายใจเข้า.พร้อมรู้อยู่แก่ใจว่าไม่สงบ.แต่พยายาม ‪#‎รู้เฉยๆรู้อยู่เฉยๆไม่สงบไม่เป็นไรรู้เฉยๆรู้เฉยๆ‬
..อย่ายินดี อย่ายินร้าย อย่ายึดมั่นถือมั่น..
สิ่งที่เราพยายามคือระลึกรู้ลมหายใจ,รู้เฉยๆด้วยใจดีใจเมตตา.เอาระบบดูเล่นๆ.ดูลิงป่า,หายใจเข้าลึกๆหายใจออกยาวๆ
‪#‎หน้าที่คือเจริญสติ‬.‪#‎ไม่ต้องทำอะไรกับจิตที่ไม่สงบ‬
‪#‎วางเฉยกับความไม่สงบ‬
‪#‎สติเกิดเมื่อไหร่‬.‪#‎ความไม่สงบก็หายไปเอง‬¤


สมัยพุทธกาล,พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมอยู่ ณวัดเชตวัน.มีอุบาสก๕คนเป็นเพื่อนกันมานั่งฟังธรรม.ทั้ง๕คนมีกิริยาอาการต่างๆกัน.คนหนึ่งนั่งหลับ.คนหนึ่งนั่งเอานิ้วเขี่ยพื้นดินเล่น.คนหนึ่งนั่งเขย่าต้นไม้.คนหนึ่งนั่งแหงนดูท้องฟ้า.มีเพียงคนเดียวที่นั่งฟังด้วยอาการสงบ
พระอานนท์กราบทูลถามพระพุทธเจ้าว่า......
"‪#‎ทำไมอุบาสกเหล่านี้จึงแสดงกิริยาเช่นนั้น‬"
พระพุทธเจ้าจึงทรงเล่าอดีตชาติของอุบาสกแต่ละคนว่า...
อุบาสกที่นั่งหลับ..เคยเกิดเป็นงูมาแล้วหลายร้อยชาติ.เขาหลับมาหลายร้อยชาติแล้วก็ยังไม่อิ่ม.แม้แต่ฟังเทศน์พระพุทธเจ้า.ธรรมะก็ไม่เข้าหู.ยังหลับอยู่อย่างนั้น
อุบาสกที่เอานิ้วมือเขี่ยพื้นดิน..เคยเกิดเป็นไส้เดือนมาหลายร้อยชาติ.นั่งเอานิ้วเขี่ยพื้นดินเล่นอยู่อย่างนั้นด้วยอำนาจความประพฤติที่ตัวเคยทำมา.ก็ไม่ได้ยินธรรมะของพระพุทธเจ้าเช่นกัน
อุบาสกที่นั่งเขย่าต้นไม้อยู่นั่น..เกิดเป็นลิงมาแล้วหลายร้อยชาติ.ถึงบัดนี้ก็ยังเขย่าต้นไม้อยู่.ไม่ได้ยินธรรมะของพระพุทธเจ้าเช่นกัน
อุบาสกที่นั่งแหงนดูท้องฟ้า..เคยเกิดเป็นพราหมณ์บอกฤกษ์ด้วยการดูดาวมาหลายร้อยชาติ.ถึงบัดนี้ก็ยังนั่งดูท้องฟ้าอยู่.ไม่ได้ยินธรรมะของพระพุทธเจ้า
อุบาสกที่นั่งฟังธรรมอย่างสงบด้วยความเคารพ.เคยเกิดเป็นพราหมณ์ที่ศึกษาธรรมะและปรัชญา.ค้นคว้าหาความจริงมาหลายร้อยชาติ.มาบัดนี้ได้พบพระพุทธเจ้า.ตั้งใจฟังธรรมด้วยดี.จนได้ดวงตาเห็นธรรมเป็นพระโสดาบัน
มาถึงตรงนี้:
หลายคนคงนึกสงสัยว่า,ชาติก่อนเราเกิดเป็นอะไรหนอ??¤

พระพุทธเจ้าตรัสว่า;การได้เกิดเป็นมนุษย์นั้นเป็นเรื่องยาก.ต้องมีบุญมากอุปมาเหมือนเต่าตาบอดตัวหนึ่งดำน้ำอยู่ในทะเล.ทุกๆ๑๐๐ปีเต่าตาบอดตัวนั้นจะโผล่หัวขึ้นมาจากทะเลครั้งหนึ่ง
ในทะเลก็มีห่วงเล็กๆขนาดใหญ่กว่าหัวเต่าหน่อยหนึ่งลอยอยู่๑ห่วง.โอกาสที่เต่าตาบอดตัวนั้นจะโผล่ขึ้นมาแล้วหัวสวมเข้ากับห่วงพอดียากเพียงใด.โอกาสนั้นก็ยังมีมากกว่าการที่เหล่าสรรพสัตว์จะได้เกิดมาเป็นมนุษย์
...
เมื่อพูดถึงจิตวิญญาณที่ท่องเที่ยวในวัฏสงสาร.ไม่ว่าจะในภพภมิใด;มนุษย์,สัตว์เดรัจฉาน,เปรต,ยักษ์,สัตว์นรก,เทวดา,พรหมฯลฯ.กล่าวได้ว่า"มนุษย์"เป็นภพภูมิที่ประเสริฐสูงสุดในโลกมนุษย์นี้.โดยอาศัยอัตภาพร่างกายของมนุษย์.จิตของเรามีโอกาสที่จะมีประสบการณ์ได้ทุกภพ
เมื่อเราเกิดมา;เราอาศัยพ่อแม่มาเกิด.กายของเราเป็นมนุษย์ก็จริงแต่จิตใจของเราอาจเป็นได้สารพัดอย่าง.เปรียบชีวิตมนุษย์เป็นเหมือนห้องทดลอง
‪#‎คนที่ขี้เกียจกินแล้วก็นอน‬
ชีวิตก็ไม่ต่างอะไรกับ ‪#‎งู‬
‪#‎คนที่ชอบทะเลาะวิวาทต่อยตี‬
ชีวิตก็เปรียบเสมือน ‪#‎ไก่ชน‬
‪#‎คนที่ซุกซนอยู่เฉยไม่ได้‬
ชีวิตก็เปรียบเสมือน ‪#‎ลิง‬
หรือบางคน,‪#‎ชีวิตเป็นทุกข์เดือดร้อนใจจนบอกว่าเหมือนตกนรกทั้งเป็น‬.
ก็เป็นใจที่มีประสบการณ์เหมือน ‪#‎ตกนรก‬
‪#‎คนที่ไม่รู้จักพอมีเท่าไหร่ก็ยังหิวโหยอยากจะได้อยู่ร่ำไป‬
ก็เป็นใจที่เปรียบเสมือน ‪#‎เปรต‬
‪#‎บางคนถือตัวถือตนชอบใช้อำนาจข่มเหงรังแกผู้อื่น‬
ก็มีใจที่เปรียบเสมือน ‪#‎ยักษ์‬
‪#‎บางคนรักสวยรักงามรักอารมณ์ดีใจดีมีหิริโอตตัปปะ‬
ก็มีใจเสมือนเป็น ‪#‎เทวดา‬
‪#‎บางคนบำเพ็ญสมาธิภาวนาเข้าฌาณเป็นรูปพรหมอรูปพรหม‬
ก็มีใจที่เปรียบเสมือน ‪#‎พรหม‬
‪#‎คนที่ประพฤติตนเหมาะสมกับเป็นมนุษย์‬
ก็มีใจเป็น ‪#‎มนุษย์ที่สมบูรณ์‬¤


เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ที่ผ่านมาได้จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย

ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ต.ค. 2014, 22:20 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 พ.ค. 2012, 02:09
โพสต์: 456


 ข้อมูลส่วนตัว


...อนุโมทนาแล้วๆๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ย. 2014, 21:21 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร