วันเวลาปัจจุบัน 07 พ.ย. 2025, 05:59  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 36 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 15 ธ.ค. 2014, 11:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
เส้นทางชีวิตของมนุษย์ คุณคิดว่าใครคือผู้กำหนด
กรรมและเหตุ ที่เคยสร้างไว้ใช่หรือไม่

เส้นทางชีวิตของมนุษย์ ดูเหมือนว่ามีผู้กำหนด จากตัวเองบาง จากบุคคลอื่นบ้าง เป็นไปตามสภาพแวดล้อมบ้าง
V
ถ้าพิจารณาให้ถ้วนถี่ ...... เป็นชีวิตที่ดำเนินไปขึ้นๆ ลงๆ ในวัฏฏสังสารอันยาวนาน
มี "สมุทัย" เป็นเครื่องกำหนด เส้นทางแก่จิตของมนุษย์ทุกผู้ทุกนาม
V
สมุทัย อันมีตัณหา และอวิชชา เป็นตัวชูโรงประกอบอยู่นั่นเอง เป็นเครื่องอันทำกรรม และเหตุต่างๆ
V
สมุทัย.... มีตัณหา ความอยากมี ความอยากเป็น ความอยากได้ใคร่ดี ความอยากดี ก่อให้เกิด กุศลกรรมบ้าง อกุศลกรรมบ้าง ตลอดชีวิตของมนุษย์ที่ดำเนินไปในโลกนี้
V
สมุทัย ที่เกิดขึ้นในอดีต
สมุทัยที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
สมุทัย ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ตราบใดที่ยังละ ไม่ได้ ชีวิตมนุษย์ ก็ยังคงลุ่มๆ ดอนๆ สุขบ้าง ทุกข์บ้าง หนักบ้าง เบาบ้าง ก็ขึ้นอยู่กับกำลังของเครื่องประกอบในสมุทัย

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 15 ธ.ค. 2014, 12:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:


อ้างคำพูด:
นี่คือเหตุผลหนึ่งค่ะที่เราไปเชียงใหม่ เราก็ไม่ได้อธิฐานอะไร

ผลปรากฏว่าเจอแต่กิเลสล้วนๆเลย :b41: :b55: :b47:


:b12: :b12:

คุณกบฯเขียน


อ้างคำพูด:
เจอแล้ว....ทำงัยต่อ




ไหลตามน้ำค่ะ แต่ไหลแบบมีสตินะคะ :b12: :b41: :b55: :b47:


แก้ไขล่าสุดโดย bbby เมื่อ 15 ธ.ค. 2014, 13:07, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสต์ เมื่อ: 15 ธ.ค. 2014, 13:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณเช่นนั้นเขียน

อ้างคำพูด:
เส้นทางชีวิตของมนุษย์ ดูเหมือนว่ามีผู้กำหนด จากตัวเองบาง จากบุคคลอื่นบ้าง เป็นไปตามสภาพแวดล้อมบ้าง
V
ถ้าพิจารณาให้ถ้วนถี่ ...... เป็นชีวิตที่ดำเนินไปขึ้นๆ ลงๆ ในวัฏฏสังสารอันยาวนาน
มี "สมุทัย" เป็นเครื่องกำหนด เส้นทางแก่จิตของมนุษย์ทุกผู้ทุกนาม
V
สมุทัย อันมีตัณหา และอวิชชา เป็นตัวชูโรงประกอบอยู่นั่นเอง เป็นเครื่องอันทำกรรม และเหตุต่างๆ
V
สมุทัย.... มีตัณหา ความอยากมี ความอยากเป็น ความอยากได้ใคร่ดี ความอยากดี ก่อให้เกิด กุศลกรรมบ้าง อกุศลกรรมบ้าง ตลอดชีวิตของมนุษย์ที่ดำเนินไปในโลกนี้




เราพอจะเข้าใจล่ะ พอความอยากมันเข้ามา ( อยากได้นั่น อยากได้นี่ ) ความปรุงแต่ง
มันก้อเข้ามาเติม
พอไม่ได้ดั่งที่ตั้งใจ ความท้อ-ความเบื่อมันก้อตามเข้ามาอีก
แล้วทีนี้ยังไงต่อล่ะ
กลับมาที่จุดเริ่มต้นใหม่อีก

ชีวิตก็เลยไม่สามารถที่จะหลุดพ้น ในวัฏฏสังสาร ไปได้
อย่างนั้นใช่หรือไม่ค่ะ :b8:

:b41: :b55: :b48:


โพสต์ เมื่อ: 15 ธ.ค. 2014, 13:17 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
bbby เขียน:


อ้างคำพูด:
นี่คือเหตุผลหนึ่งค่ะที่เราไปเชียงใหม่ เราก็ไม่ได้อธิฐานอะไร

ผลปรากฏว่าเจอแต่กิเลสล้วนๆเลย :b41: :b55: :b47:


:b12: :b12:

คุณกบฯเขียน

อ้างคำพูด:
เจอแล้ว....ทำงัยต่อ


ไหลตามน้ำค่ะ แต่ไหลแบบมีสตินะคะ :b12: :b41: :b55: :b47:


:b32: :b32: :b32:


โพสต์ เมื่อ: 15 ธ.ค. 2014, 14:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
bbby เขียน:



อ้างคำพูด:
นี่คือเหตุผลหนึ่งค่ะที่เราไปเชียงใหม่ เราก็ไม่ได้อธิฐานอะไร

ผลปรากฏว่าเจอแต่กิเลสล้วนๆเลย :b41: :b55: :b47:


:b12: :b12:

อ้างคำพูด:
คุณกบฯเขียน


อ้างคำพูด:
เจอแล้ว....ทำงัยต่อ



อ้างคำพูด:
bbby เขียน

ไหลตามน้ำค่ะ แต่ไหลแบบมีสตินะคะ :b12: :b41: :b55: :b47:



อ้างคำพูด:
คุณกบฯ

:b32: :b32: :b32:



ขำ ขำ ขำ อะไรอ่ะ
คุณกบฯไม่เคยเจอเหตุการณ์
ที่ต้องไหลตามน้ำเลยเหรอ :b32:

ก็เพราะต้องไหลไปตามน้ำนี่หล่ะค่ะ ก็เลยมานั่งคิดว่าจริงๆแล้วชีวิตมนุษย์เรานี่
ใครคือผู้กำหนด
อุตสาห์จะไปหาธรรม แต่สิ่งที่เจอกับเป็นกิเลสล้วนๆเลย
ก้อเลยต้องกลับมาเริ่มต้นหาข้อมูลใหม่
ยังไม่รู้เลย เมื่อไหร่ชีวิตจะหยุดการเริ่มต้นใหม่ซะที :b41: :b55: :b47:




โพสต์ เมื่อ: 15 ธ.ค. 2014, 14:14 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อยากจะรู้แล้วซิครับ...ว่าเจออะไร..ยังงัย..

:b13:


โพสต์ เมื่อ: 15 ธ.ค. 2014, 14:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
เราพอจะเข้าใจล่ะ พอความอยากมันเข้ามา ( อยากได้นั่น อยากได้นี่ ) ความปรุงแต่ง
มันก้อเข้ามาเติม
พอไม่ได้ดั่งที่ตั้งใจ ความท้อ-ความเบื่อมันก้อตามเข้ามาอีก
แล้วทีนี้ยังไงต่อล่ะ
กลับมาที่จุดเริ่มต้นใหม่อีก

ชีวิตก็เลยไม่สามารถที่จะหลุดพ้น ในวัฏฏสังสาร ไปได้
อย่างนั้นใช่หรือไม่ค่ะ :b8:

:b41: :b55: :b48:


เช่นนั้น เขียน:
สมุทัย ที่เกิดขึ้นในอดีต
สมุทัยที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
สมุทัย ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ตราบใดที่ยังละ ไม่ได้ ชีวิตมนุษย์ ก็ยังคงลุ่มๆ ดอนๆ สุขบ้าง ทุกข์บ้าง หนักบ้าง เบาบ้าง ก็ขึ้นอยู่กับกำลังของเครื่องประกอบในสมุทัย


เป็นดั่งนั่นครับ ก็กลับมาจุดเริ่มต้นใหม่ทุกครา

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 15 ธ.ค. 2014, 19:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 เม.ย. 2009, 19:25
โพสต์: 579

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แล้วแต่คน บางคนพ่อแม่กำหนดให้ บางคนคนโน้นคนนี้คอยชี้กำหนด

บางคนมีโชคหน่อยค่อยได้อิสระที่จะกำหนดวิถีตัวเอง

บางคนถูกกรรมอดีตกำหนดมาบ้าง มีกรรมปัจจุบันเป็นตัวแปรเป็นระยะๆบ้าง

บางคนมีกิเลสเป็นตัวลากจูงบ้าง และบางคนก็มีธรรมสำหรับนำวิถีของตัวเองบ้าง

บางคนไม่มีใครกำหนด และตัวเองก็ยังไม่คิดกำหนด แต่ถูกกระแสแวดล้อมพาให้ไหลไป
และเป็นไปตามแวดล้อมที่หลอมหล่อ

และอื่นๆอีกมากมาย

s004


โพสต์ เมื่อ: 16 ธ.ค. 2014, 11:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ย. 2014, 11:55
โพสต์: 123

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


มีผู้บอกเราว่า เนื่องด้วยเรามีกรรม ก่อนเรามาเกิดก็มีผู้อ่านบอกเรื่องราวของชีวิตที่เราจะต้องเป็นไปตามกรรม เกิดคนดี คนชั่ว ตนจน คนรวย เป็นหญิงเป็นขาย จะต้องพบเหตุการณ์อะไร ระบุรายละเอียดเวลาไว้หมด พร้อมบอกแนวทางให้เราไปแก้ไข ทำความดีด้วยกายวาจาใจ เมื่อถึงเวลาหมดอายุขัยก็จะมีผู้มารับตัวไป คิดบัญชีบวกลบ ตัดสินให้จะต้องไปอยู่ในภพไหนภูมิไหน เมือเขาบอกกล่าวให้เสร็จก็ปิดสัญญาไม่ให้จำ การเกิดมาพบพระพุทธศาสนาถือว่าเป็นโอกาสดีๆ ที่จะได้แก้ไขตัวเอง ในเรื่องอกุศล ทำกุศล สะสมทานบุญบารมีเพื่อเป็นเสบียงในการบรรเทาทุกข์ ในขณะที่จิตยังเวียนว่ายรับกรรมอยู่ในวัฏฏะ

เมื่อเกิดมาในโลก โลกก็มีอารมณ์ของโลกคอยบำเรอให้ ให้โลภ ให้โกรธ ให้มีราคะ ให้ชอบหรือไม่ชอบ ให้พยาบาท จองเวร ให้หวาดกลัว ให้หวัง ให้เพลิดเพลินหลงไปกับอารมณ์ที่โลกมีให้
เมื่อเกิดมาก็มีวิบาก ทำให้ทุกข์ ให้เจ็บให้ ป่วย ให้สมหวังผิดหวัง ให้รวยให้จน ให้มีสติมีความจำดีหรือไม่ดี ให้ยุ่งให้เพลินไปกับวัตถุกามทั้งหลาย ให้หลงนึกว่าสิ่งทั้งหลายเป็นของตน ทะเยอทะยานอยากได้อยากเป็น หมุนเวียนอยู่ในคำว่าสุขมีกรรมทุกข์มีกรรมที่พากันจมอยู่ในโลก

เรื่องของโลกเป็นสิ่งที่หมุนจิตให้มี สุขมีกรรม ทุกข์มีกรรม หมุนเวียนเป็นเหมือนวงกลมของวัฏฏะ มีอยู่ทางเดียวที่บรรเทาทุกข์ได้ก็ด้วยเดินอยู่ในเส้นสีเหลืองลากผ่านกลางวงกลมของวัฎฏะ เหมือนเกิดมาพบพระศาศนาแล้วก็ปฏิบัติธรรมบรรเทาทุกข์ไปตามพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ ทุกข์ที่มีอยู่ก็จะค่อยๆ บรรเทาจางออกไป
เส้นสีเหลืองที่ลากผ่านวงกลมของวัฏฏะก็หมายถึงพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ ให้เราปฏิบัติอยุ่แนวทางของผู้มีธรรม ส่วนใครจะเห็นว่าการปฏิบัติธรรมนั้นดีความทำตามหรือเห็นว่าไม่ดี ก็เหมือนเป็นเรื่องเสี่ยงทายที่จะลิขิตตัวเองให้เป็นไปตามกรรม เพราะกรรมไม่ใข่สิ่งที่พ่อแม่ทำให้ ญาติพี่น้องทำให้ หรือบุคคลอื่นทำให้ เราเป็นผู้ทำของเราเองด้วยกายวาจาใจของเราเอง


โพสต์ เมื่อ: 16 ธ.ค. 2014, 12:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณบัวศกลเขียน

อ้างคำพูด:
แล้วแต่คน บางคนพ่อแม่กำหนดให้ บางคนคนโน้นคนนี้คอยชี้กำหนด

บางคนมีโชคหน่อยค่อยได้อิสระที่จะกำหนดวิถีตัวเอง

บางคนถูกกรรมอดีตกำหนดมาบ้าง มีกรรมปัจจุบันเป็นตัวแปรเป็นระยะๆบ้าง

บางคนมีกิเลสเป็นตัวลากจูงบ้าง และบางคนก็มีธรรมสำหรับนำวิถีของตัวเองบ้าง

บางคนไม่มีใครกำหนด และตัวเองก็ยังไม่คิดกำหนด แต่ถูกกระแสแวดล้อมพาให้ไหลไป
และเป็นไปตามแวดล้อมที่หลอมหล่อ

และอื่นๆอีกมากมาย




อ่านจากที่คุณบัวศกลเขียน
ทำให้เรารู้สึกได้ว่า สิ่งต่างๆที่เข้ามาในชีวิตของมนุษย์นั้น
มาจากเหตุที่ทุกๆคนสร้างกันมาทั้งนั้น
และอะไรหล่ะ ที่ทำให้เหตุที่เคยสร้างส่งผลให้กับผู้นั้น
ตัวอวิชชาไงล่ะ ความอยากทั้งหลายนั่นหล่ะ

ผู้ที่ละอวิชชาได้ ทำไมเหตุที่เคยสร้างไว้ถึงไม่ส่งผลให้
ดังเช่นผู้ที่ปลีกวิเวกออกบวช
ใช้ชีวิตในป่า แสวงหาธรรมะเท่านั้น ทำไมท่านทั้งหลาย
ถึงไม่ต้องเหมือนกับพวกเราๆทั้งหลาย
เพราะท่านทั้งหลาย ตัดขาดจากการสร้างเหตุทั้งหมดได้แล้ว

มีใครพอที่จะอธิบายเพิ่มเติมให้เราได้มากกว่านี้บ้าง
ช่วยเติมให้ด้วยค่ะเราไปไม่ถูกค่ะ :b8: :b41: :b55: :b47:


เรากลับไปเมืองไทย คนไทยที่คุยกับเรา ถามเราว่า
" เอ่อ ! คุณใช่คนไทยหรอปล่าวค่ะ ทำไมฉันฟังคุณพูดแล้วรู้สึกงงๆ " :b32:




โพสต์ เมื่อ: 16 ธ.ค. 2014, 13:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8612


 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าเป็นผู้ฉลาดก็จะเป็นผู้กำหนดชะตากรรม
ถ้าโง่ๆ กรรมจะเป็นผู้กำหนดชะตา

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสต์ เมื่อ: 17 ธ.ค. 2014, 22:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.ย. 2010, 23:17
โพสต์: 257

แนวปฏิบัติ: ดูจิต
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
สิ่งที่ชื่นชอบ: ประเภทธรรมะ
ชื่อเล่น: หยุย
อายุ: 0
ที่อยู่: ห้วยขวาง

 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
คุณ หัสพล พวงแก้ว เขียน

อ้างคำพูด:
การที่เราจะออกจากวังวนในวัฏฏสงสารนี้ได้ ต้องทำลายตัวอวิชชา(ความไม่รู้ตามความเป็นจริง)นี่แหละครับ
ถ้าเราทำลายตัว อวิชชาลงได้เมื่อไหร่ได้ก็เท่ากับตัดวงจรที่จะเป็นปัจจัยในการเกื้อกูลให้มีการเกิดต่อไป ที่เรียกว่า
"ปฏิจสมุปบาท" เพราะถ้าไม่มีการเกิดก็ย่อมจะไม่มีทุกข์อีกต่อไปครับ



คุณหมายถึง การหยุดการปรุงแต่งใช่หรือไม่ค่ะ :b8:
:b41: :b55: :b47:

ครับใช่ครับ แต่จะให้จิตหยุดการปรุงแต่งได้จิตนั้นต้องมีการพิจารณาธรรมอยู่เนือง ๆ ซึ่งธรรมทั้งหลายนั้น
เกื้อกูลกันอยู่ถึงแม้จะหลักธรรมคนละแนวแต่สุดท้ายจิตก็จะเห็นเหมือนกันนั่นก็คือ "สิ่งทั้งหลายมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นก็ล้วนมีความดับไปเป็นธรรมดา" มีแต่ทุกข์เท่านั้นที่เกิดขึ้นและทุกข์เท่านั้นที่ดับไป นอกจากทุกข์แล้วไม่มีอะไรเลย ซึ่งเหตุจริงๆอยู่ที่จิตมี "ตัณหาอุปาทาน" ทำให้เกิดเป็นวงจรของ ปฏิจสมุปบาท นั่นเองครับ

.....................................................
สัตว์โลกล้วนเป็นไปตามกรรม
ทุกอย่างไม่ควรยึดถือ
อกุศลน้อยนิด อย่าคิดทำ
กุศลน้อยนิด ให้คิดทำ
ทำกุศลวันละนิด ดีกว่าคิดที่จะทำ

พระพุทธองค์ยังถูกนินทา
ประชาชนธรรมดามีหรือจะหนีพ้น

ไม่อยากทุกข์แต่ก็เป็นทุกข์ ถ้าไม่เรียนรู้ทุกข์ จะพ้นทุกข์ได้อย่างไร


โพสต์ เมื่อ: 18 ธ.ค. 2014, 15:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณ หัสพล พวงแก้ว เขียน


อ้างคำพูด:
ครับใช่ครับ แต่จะให้จิตหยุดการปรุงแต่งได้จิตนั้นต้องมีการพิจารณาธรรมอยู่เนือง ๆ ซึ่งธรรมทั้งหลายนั้น
เกื้อกูลกันอยู่ถึงแม้จะหลักธรรมคนละแนวแต่สุดท้ายจิตก็จะเห็นเหมือนกันนั่นก็คือ "สิ่งทั้งหลายมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นก็ล้วนมีความดับไปเป็นธรรมดา" มีแต่ทุกข์เท่านั้นที่เกิดขึ้นและทุกข์เท่านั้นที่ดับไป นอกจากทุกข์แล้วไม่มีอะไรเลย ซึ่งเหตุจริงๆอยู่ที่จิตมี "ตัณหาอุปาทาน" ทำให้เกิดเป็นวงจรของ ปฏิจสมุปบาท นั่นเองครับ


:b8:
ขอบคุุณค่ะ ที่ทำให้สิ่งที่เราเข้าใจ ชัดขึ้น
ขอบคุณอีกครั้งค่ะ :b1: :b41: :b55: :b47:


โพสต์ เมื่อ: 19 ธ.ค. 2014, 03:22 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
เราถูกกำหนดโดยกรรมและเหตุปัจจัย
ทำให้วงล้อของวิถีชีวิตดำเนินไปตามแรงกรรม
เพราะเหตุนี้ชีวิตคนเราจึงแตกต่างกัน สุขทุกข์ไม่เท่ากัน กิเลศมากน้อยแตกต่างกันไป ดีเลวไม่เสมอกัน เกิดมารวยหรือจน สวยหรือ หล่อ ขี้เหร่ก็กรรมจัดสรร เคยรู้สึกไหมว่า บางครั้งเราอยากมีชีวิตเป็นอย่างนี้ ไม่อยากมีชีวิตเป็นแบบที่ตนเป็นอยู่ทุกวันนี้ ก็เพราะกรรมกำหนด

smiley
เก่งมากตอบได้เยี่ยมวันนี้
:b27:


โพสต์ เมื่อ: 19 ธ.ค. 2014, 03:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




IMG_3267745568705.jpeg
IMG_3267745568705.jpeg [ 35.84 KiB | เปิดดู 2985 ครั้ง ]
nongkong เขียน:
เอ่อ..ถ้าเรามีสัจจะวาจาตั้งใจอธิษฐานบารมี ขอนิพพานหลุดพ้นจากวัฏฏะในชาติปัจจุบันนี้...
แล้วประกอบกับผู้นั้นมีความเพียรและบารมีถึงขั้นสามารถปฏิบัติเพื่อให้หลุดพ้นได้ตามสัจจะอธิษฐานตน..คุนน้องว่ากระแสแห่งกรรมจะเหวี่ยงให้เราได้พบกับกัลยามิตรรวมถึง คู่กรรมคู่เวร :b5: และเจ้าหนี้หลายภพชาติจะมารอจ่อบัตรคิวชำระหนี้สิน อย่างแน่นอน.แต่จะมาในรูปแบบใดก็ไม่รู้(ที่กล้าพูดเพราะเจอมากับตัวเอง)..มันจะต้องผ่านบททดสอบค่ะ เรียนรู้ทุกข์ระดับตั้งแต่อนุบาล..ประถม..มัธยม..และปริญญา :b32: จนจบหลักสูตรของความทุกข์ เมื่อมันทุกข์จนขี้เกียจทุกข์เพราะเจอสารพัดทุกข์นั้นเอง จนเห็นแจ้งในทุกข์จนไม่เอาแล้วทกข์ ไม่มีอะไรในโลกนี้สามารถทำให้ทุกข์ได้อีก ถึงจะจบหลักสูตร ได้นิพพาน เป็นใบประกาศนียบัตร :b9:

Kiss
โอ้เที่ยวนี้น้องคงมาดีจังย่นย่อ เรียบง่าย แต่เปี่ยมไปด้วยเหตุผล ปัญญาและลำดับแห่งธรรม
:b8:
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 36 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร