วันเวลาปัจจุบัน 22 ก.ค. 2025, 21:37  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ม.ค. 2015, 07:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5361


 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมชาติของจิตฝึกได้เสมอ

ธรรมชาติของใจนี้มันฝึกกันได้ เอามาใช้ประโยชน์ได้ เปรียบได้กับต้นไม้ในป่า ถ้าเราปล่อยทิ้งไว้ตามธรรมชาติของมัน เราก็จะเอามันมาสร้างบ้านไม่ได้ จะเอามาทำแผ่นกระดานก็ไม่ได้ หรือทำอะไรอย่างอื่นที่จะใช้สร้างบ้านก็ไม่ได้ แต่ถ้าช่างไม้ผ่านมาต้องการไม้ไปสร้างบ้าน เขาก็จะมองหาต้นไม้ในป่านี้และตัดต้นไม้ในป่านี้เอาไปใช้ประโยชน์ ไม่ช้าเขาก็สร้างบ้านเสร็จเรียบร้อย


การปฏิบัติภาวนาและการพัฒนาจิตก็คล้ายกันอย่างนี้ ก็ต้องเอาใจที่ยังไม่ได้ฝึกเหมือนไม้ในป่านี่แหละ มาฝึกมัน จนมันละเอียดประณีตขึ้น รู้ขึ้น และว่องไวขึ้น ทุกอย่างมันเป็นไปตามภาวะธรรมชาติของมัน เมื่อเรารู้จักธรรมชาติ เข้าใจธรรมชาติ เราก็เปลี่ยนมันได้ ทิ้งมันก็ได้ ปล่อยมันไปก็ได้ แล้วเราก็จะไม่ทุกข์อีกต่อไป

หลวงพ่อชา สุภัทโท


อย่าเพิ่งให้แต่คนอื่นมากไป ให้มากไปก็เสียหวัง เพราะคนอื่นนี้นั้น ท่องเที่ยวเกิดดับภพน้อยภพใหญ่ เป็นอื่นอย่างนั้น มีตั้งแต่เอาเปรียบเอารัด เอาแพ้เอาชนะ อยู่ภพน้อยภพใหญ่ ไม่มีวันจบสิ้นได้ นี่ข้อสำคัญ พูดมาอย่างนั้น


คนอื่น ได้แก่ ร่างกาย นี่แหละ สังขารขันธ์ คนอื่น

อื่นภายนอก ได้แก่ ญาติมิตรสายโลหิตเพื่อน ๆ บิดา มารดา ถนอมกล่อมเกลี้ยงดูปูเสื่อแล้วก็อื่นอย่างนั้น

อื่นภายใน ได้แก่ ธาตุ ๔ ดิน น้ำ ลม ไฟ ตัวของเรานี่แหละ

มันอื่นเพราะมันแก่ อื่นเพราะมันเจ็บ อื่นเพราะมันตาย ซ้ำ ๆ ซาก ๆ ไม่มีวันจบสิ้นได้ จงให้รู้หน้ารู้ตาของคนอื่นเสีย
มนุษย์ นาค ครุฑ อินทร์ พรหม ในโลกทั้งสามทุกถ้วนหน้าในภพทั้งสาม กามภพ รูปภพ อรูปภพ ผลสุดท้ายก็รักตั้งแต่คนอื่น นั่นแหละ จึงเป็นเหตุให้ซบเซาเหงาอยู่
ท่องเที่ยวเปลี่ยนชาติภพ ไม่มีวันจบสิ้นได้ เพราะรักตั้งแต่คนอื่น บำรุงตั้งแต่คนอื่น นั่นแหละ ไม่สำคัญมั่นหมายอะไร นี่แหละ อาหารอยู่กินหลับนอนนั้น เป็นอาหารของคนอื่นนั่นแหละ จงรู้หน้ารู้ตาของคนอื่นเสีย อย่าได้ให้จนเกินขอบเขต จึงให้อาหารตน นั่นแหละ ดีมาก

อาหารตน คือว่า บำรุงส่งเสริมด้วยการเจริญธรรมให้เกิดมีขึ้น สมาธิธรรม นี่เป็นอาหารของตน ที่ค้นคว้าและกระทำประพฤติปฏิบัติให้เกิดมีแล้ว
นี่แหละเป็นของผ่องแผ้ว เบิกบานเลื่อมใส รสชาติของบุญเป็นอย่างนี้ นี่เป็นบุญ โลกียบุญขั้นต้น ถ้าเป็นผล โลกุตรบุญนั้นก็ยอดเยี่ยมเยือกเย็นขึ้นไปกว่านี้ ไม่มีสิ่งใดที่เสมอเหมือน

หลวงปู่จันทา ถาวโร




"ถ้ายังประมาทอยู่ ก็นับว่ายังไม่ได้รสชาติของพระศาสนาแต่ประการใดเลย เพราะสิ่งเหล่านี้ยังเป็นของภายนอกทั้งนั้น เมื่อพูดถึงประโยชน์ ก็เป็นประโยชน์ภายนอกคือเป็นไปเพื่อสงเคราะห์สังคม เพื่อสงเคราะห์ผู้อื่น เพื่อสงเคราะห์อนุชนรุ่นหลัง หรือเป็นสัญญลักษณ์ของศาสนวัตถุ ส่วนประโยชน์ของตนที่แท้นั้น คือ ความพ้นทุกข์ "จะพ้นทุกข์ได้ต่อเมื่อรู้ จิตหนึ่ง."


หลวงปู่ดูลย์ อตุโล



ภาวนาให้จิตสงบได้รู้ธรรมเห็นธรรมได้ภายในบ้าน จะมีคุณค่าดียิ่งกว่านิมนต์พระไปสวดมนต์ตั้งหมื่นๆองค์

หลวงพ่อพุธ ฐานิโย





"เลี้ยงแต่คนอื่น รักแต่คนอื่น ให้อาหารแต่คนอื่น
อาหารของตัวเอง ได้มาแล้วก็ไม่รักษาไว้ นั่นแหละ"
ธรรมที่เกิดขึ้นแล้วนั้น ได้แก่ สมาธิธรรม เกิดขึ้น ...มันเป็นอาหารเป็นบุญ เป็นกุศล เป็นมรรค เป็นผล ที่จะข้ามล่วงพ้นทุกข์เสียได้


ก็เพราะจิตสงบ จงรักษาไว้
อย่าเพิ่งให้แต่คนอื่นมากไป ให้มากไปก็เสียหวัง
เพราะคนอื่นนี้นั้น ท่องเที่ยวเกิดดับภพน้อยภพใหญ่ เป็นอื่นอย่างนั้น มีตั้งแต่เอาเปรียบเอารัด เอาแพ้เอาชนะ อยู่ภพน้อยภพใหญ่ ไม่มีวันจบสิ้นได้ นี่ข้อสำคัญ พูดมาอย่างนั้น

คนอื่น ได้แก่ ร่างกาย นี่แหละ สังขารขันธ์ คนอื่น
อื่นภายนอก ได้แก่ ญาติมิตรสายโลหิตเพื่อน ๆ
บิดา มารดา ถนอมกล่อมเกลี้ยงดูปูเสื่อแล้วก็อื่นอย่างนั้น

อื่นภายใน ได้แก่ ธาตุ ๔ ดิน น้ำ ลม ไฟ ตัวของเรานี่แหละ
มันอื่นเพราะมันแก่ อื่นเพราะมันเจ็บ อื่นเพราะมันตาย ซ้ำ ๆ ซาก ๆ ไม่มีวันจบสิ้นได้ จงให้รู้หน้ารู้ตาของคนอื่นเสีย

หลวงปู่จันทา ถาวโร



ในเวลาเรานั่งสมาธิภาวนา เมื่อจิตใจสงบไม่ฟุ้งซ่านไปที่อื่นแล้ว ก็ให้สังเกตเข้ามาว่า เรากำหนดบริกรรมสิ่งใด ก็ยังรู้สึกว่าบริกรรมสิ่งนั้น กำหนดพุทโธ ผู้ได้ยินเสียงพุทโธก็ได้แก่จิตใจผู้รู้นี้เอง
จิตใจผู้รู้อันนี้ ไม่ต้องไปคิดให้เป็นรูปร่างสีสรรฐานเหมือนวัตถุข้าวของไม่ได้ไม่มี ดวงจิตดวงวิญาณนี้ ถ้าจะเปรียบภายนอกก็เหมือนกับว่าอากาศมันเป็นของว่าง หรือว่าเปรียบเหมือนดั่งลม ลมนั้นเรามองไม่เห็นตัว แต่ว่าลมมันพัดผ่านไปมา พาให้ต้นไม้บ้านเรือนของเราหักพังไปก็ได้ จิตใจผู้รู้อยู่ภายในนี้ก็เหมือนกัน ถ้าเราเพ่งมองเข้าไปภายในก็จะเห็นว่าไม่มีรูปร่างตัวตน ถ้าเราคิดมาดูรูปร่างตัวตนก็เห็นเป็นรูปร่างของคนของมนุษย์ ถ้าดูในดวงจิตผู้รู้ ก็เหมือนกับว่าไม่มีอะไร เป็นของว่าง ๆ อยู่ นั่นแหละเป็นสถานที่ตั้งมั่นในดวงจิตดวงใจ

หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร




นี่แหละอัฐิกับกระดูก 300 ท่อน พระพุทธเจ้าสอนมาแล้วตั้งสองพันปีกว่า จิตใจคนเราก็ยังไม่สนใจ ยังไม่เอามาคิดมาอ่านโลเลไป โลเลอยู่ โลเลกิน โลเลนอน โลเลไปตามอำนาจกิเลสราคะ โทสะ โมหะ ไม่พิจารณาอัฐิกับกระดูก 300 ท่อนของตัวเอง ก็มาเกิด มาแก่ มาเจ็บ มาไข้ มาตายก็เพราะแบกกระดูก 300 ท่อนไม่รู้จักปล่อยวางให้โลกเขาสับมะกอกอยู่ทุกวันทุกคืน ให้เขาด่าอยู่ทุกวัน ทุกคืน ไม่เห็นไม่รู้ไม่เข้าใจ เขาเอาค้อนตีหัวตีกะโหลกศีรษะก็ตีกองกระดูก ช่างมันที่สุดมันก็ตายแหละ อย่าไปก่อกรรมทำเข็ญต่อไปอีกเกลียดชังใครก็อย่าไปฆ่าอย่าไปแกงกัน กองกระดูกไม่ถึง 100 ปีมันก็ตายแล้ว 99 ปียังไม่เต็มก็ตาย เหมือนหลวงปู่แหวนเราน่ะ ตายแล้วก็เห็นไหม อยู่ในหีบนั่น เขาถ่ายรูปไว้ ไม่เห็นมีฤทธิ์มีเดชหมดเรื่อง พวกเรายังอยู่ตัวเรายังอยู่ก็เหมือนกัน ดูกระดูกให้มันเห็นชัดเห็นแจ้ง พระก็สมมติเณรก็สมมติ ผ้าขาวก็สมมุติ มันก็กองกระดูก นั่นแหละ หญิงก็กองกระดูกชายก็กองกระดูก คนชาติใดภาษาใดก็กองกระดูก ไปหลงกองกระดูกมันทำไม โหวก ๆ หวาก ๆ ไม่เห็นมันสวยมันงามที่ไหน ทำไมจึงไม่กำหนดพิจาณา ต้องกำหนดพิจารณา ดูให้มันเห็นแจ้งด้วยสติด้วยสมาธิปัญญา เห็นแจ้งในจิตในใจของตัวเองจนไม่ต้องไปถามคนอื่นว่ากระดูกตรงไหนมันเป็น อย่างไร คือยังไม่ดูไม่พิจารณา ถ้าดูพิจารณาแล้ว มันเห็นแจ้งเห็นชัดในหัวใจของตัวเองไม่ต้องไปถามใคร

หลวงปู่สิม พุทธาจาโร




อันการทำจิตใจของเราให้สงบระงับนั้น ต้องสังเกตว่าดวงจิตดวงหนึ่งมันอยู่ภายในไม่ไปที่ไหน นับตั้งแต่เรามาปฏิสนธิวิญญาณเกิดมาในชาตินี้ อีกดวงจิตดวงหนึ่งเมื่อคิดขึ้นมาปรุงขึ้นมาแล้ว คิดแส่ส่ายออกไปภายนอก อันนี้เรียกว่าสังขารจิต สังขารจิตที่ปรุงแต่งอยู่ภายในจิตใจคนเราตลอดเวลา สังขารจิตนี้แหละ ท่านให้ละ ไม่ต้องตามมันไป ให้รู้สึกว่าดวงจิตดวงใดที่มารู้สึกว่า เราได้ยินได้ฟังอยู่ในขณะนี้ พอเสียงทั้งหลายเข้าไปในโสตในหู ก็ไปรู้ที่จิตดวงผู้รู้อยู่นี่เอง ส่วนจิตตัณหาจิตสังขารที่ปรุงแต่งภายนอกออกไปไม่มีที่สิ้นสุดนั้น พระพุทธเจ้าพระองค์สอนให้ละทิ้ง อย่าได้ตามมันไป ตามสังขารอันนั้นแล้วมันจะหลงทาง ไม่ถูกทาง วุ่นวายอยู่ในโลก ในวัฏสงสาร ไปสู่พระนิพพานไม่ได้


หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร



ให้สมาธิเป็นไปเองตามธรรมชาติ

ทีนี้ข้อที่ควรระวัง ในเมื่อจิตของเราเข้าถึงสมาธิโดยธรรมชาติแล้ว ให้ปล่อยไปตามธรรมชาติของสมาธิ ระวังอย่าให้ความตั้งใจหรือความคิดที่จะให้จิตเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เกิดขึ้นมาแทรกในขณะนั้น ถ้าหากว่าเกิดความคิดที่จะตั้งใจให้จิตเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้แล้ว สมาธิมันจะถอน ในเมื่อสมาธิถอนแล้ว เราก็ต้องเริ่มต้นใหม่


เพราะฉะนั้น ในขณะที่เราตั้งใจปฏิบัติอยู่นั้น อะไรมันจะเกิดขึ้น จะมีขึ้น อะไรมันจะดับไป อะไรมันจะเป็นไปอย่างไร ปล่อยไปตามธรรมชาติ เราเอาสติตัวเดียวเท่านั้นตามรู้ไปทุกระยะ

การทำสมาธิ คือ การทำจิตให้มีสิ่งรู้ สติมีสิ่งระลึก จะเป็นอะไรก็ได้

แล้วขอทำความเข้าใจอีกในตอนหนึ่งว่า เคยมีคำกล่าวว่า ทำสมาธิให้ได้สมาธิแน่วแน่ แล้วน้อมจิตไปสู่การพิจารณาวิปัสสนากรรมฐาน อันนี้อย่าไปเข้าใจผิด ถ้าหากเพียงแต่บังคับจิตให้หยุดนิ่งได้ อันนี้สามารถน้อมจิตไปพิจารณาอะไรได้ แต่ถ้าหากว่าสมาธิมันเกิดเป็นเองโดยธรรมชาติแล้วถ้ามันลึกลงไป แน่วแน่ลงไป ไปถึงขั้นสมถะหรือขั้นฌาน เราไม่มีสัญญาเจตนาที่จะน้อมจิตไปในทางใดทั้งสิ้น จิตจะเป็นไปอย่างไร จะลึกลงไปแค่ไหน ละเอียดแค่ไหน จะเกิดภูมิความรู้อะไรขึ้นมา จะเป็นไปเองโดยอัตโนมัติ ตามพลังของศีล สมาธิ ปัญญา ที่เราบำเพ็ญพร้อมแล้วจะเป็นพลังหนุนส่งให้จิตของเรา ปฏิวัติไปตามขั้นตามภูมิ ตามขั้นตอนของสมาธิและวิปัสสนา

ท่านเจ้าคุณพระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)


เรื่องของบุญ ท่านเปรียบเหมือนกับว่าฝนตกลงในโอ่งใหญ่ๆ เรื่องทำบุญก็เหมือนกัน เรามีน้อย เราก็ใส่ตามที่เรามี ตามฐานะที่เราหามาได้ด้วยความบริสุทธิ์ เราก็ได้บุญมาก เหมือนเม็ดฝนที่ตกลงในโอ่ง มันตกที่ละเม็ด แต่มันตกตลอดทั้งวันทั้งคืน มันก็เต็มโอ่งใหญ่ๆ ได้

(โอวาทธรรม หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร)


หลายประเด็นที่ได้หยิบยกมากล่าว นับตั้งแต่เรื่องสมาธิ เดินจงกรม นิวรณ์ และอื่น ๆ
ธรรมะทุกหมวดทุกหัวข้อ สรุปลงได้ที่อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
สิ่งทั้งหลายทั้งปวงเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป ไม่ควรจะเข้าไปยึดมั่นถือมั่น
ดังคำที่หลวงพ่อชอบใช้มากที่สุด มันไม่แน่


“เรื่องปฏิบัตินี้ให้มองดูให้ลึก ลักษณะจิตเรามันเป็นอย่างไร ให้อยู่กับความรู้อันนี้เท่านั้น
ทำไปอันนี้ มันได้ฐานแล้ว มันมีสติสัมปชัญญะรู้ตัวทั้งการยืน การเดิน การนั่ง การนอน
เมื่อเราเห็นอะไรเกิดขึ้นมาก็ให้มันไป เราอย่าไปติดอย่าไปยึดมั่นถือมั่นมัน
เรื่องชอบใจไม่ชอบใจ เรื่องสุข เรื่องทุกข์ เรื่องสงสัยไม่สงสัย นั่นก็เรียกว่ามันวิจารณ์
มันพิจารณา ตรวจตราดูผลงานนของมัน อย่าไปชี้อันนั้นเป็นอันนี้ อย่าเลย

ให้รู้เรื่อง เห็นสิ่งทั้งหลายที่เกิดขึ้นกับจิตนั้น
ก็สักแต่ว่าเป็นความรู้สึกเท่านั้นเอง
เป็นของไม่เที่ยง เกิดขึ้นมาก็ตั้งอยู่
ตั้งอยู่ก็ดับไปก็เป็นไปเท่านั้น
ไม่มีตัวไม่มีตน ไม่มีเราไม่มีเขา
ไม่ควรยึดมั่นถือมั่นอันใดอันหนึ่ง
ในสิ่งทั้งหลายเหล่านี้

เมื่อเห็นรูปนามมันเป็นเช่นนี้ตามเรื่องของมันแล้ว
ปัญญาเห็นเช่นนี้มันก็เห็นรอยเก่า
มันเห็นความไม่เที่ยงของจิต
เห็นความไม่เที่ยงของร่างกาย
เห็นความไม่เที่ยงของความสุขความทุกข์
ความรักความโกรธ มันไม่เที่ยงทั้งนั้น
จิตมันก็วูบแล้วก็เบื่อ เบื่อกายเบื่อจิตอันนี้
เบื่อสิ่งที่มันเกิดมันดับ
ที่มันไม่แน่อย่างนี้เท่านั้นแหละ ...”

หลวงพ่อชา สุภัทโท
วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี


เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ที่ผ่านมาได้จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย

ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ



ปูลานธรรมของวัด "แผ่นละ 35 บาท" จำนวน 500 แผ่น หรือ "ตามกำลังศรัทธา
085-361-4989


ขอเชิญร่วมทำบุญสร้างกุฏิที่พักสงฆ์
วัดหาดนาค ต.สบเตี๊ยะ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่



ขอเชิญเป็นเจ้าภาพตะเกียงน้ำมันประทีป ถวายเป็นพุทธบูชา
วัดคุ้งตะเภา ตำบลคุ้งตะเภา อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์
โทร. ๐๘ ๔๘๑๓ ๑๓๑๕


ขอเชิญทุกท่าน ร่วมงานบุญประจำปี 2558 วัดปริวาส ถนน พระราม 3 กรุงเทพ ฯ ระหว่างวันที่ 6-8 กุมภาพันธ์ 2558


ขอเชิญร่วมสมทุนซื้อชุดคอมพิวเตอร์ให้กับโรงเรียนในถิ่นห่างไกลด้วยกัน ท่านสามารถร่วมทำบุญได้ตั้งแต่วันนี้ -31 มีนาคม 2558 ติดต่อสอบถามได้ที่ พระทศพล คมฺภีรรํสี 088-2285121



เป็นเจ้าภาพบวชสามเณรภาคฤดูร้อน วัดโพธิญาณรังสีในวันที่ 2-12 เม.ย 58
โทรสอบถามได้ที่ 081-9979093


ขอเชิญร่วมงานบุญอายุวัฒนมงคล 85 ปี หลวงปู่ประสาร สุมโน
ณ วัดป่าประชาบำรุง อ.เมืองยโสธร ในวันที่ 15-16 มกราคม 2558



ต้องการขอรับบริจาคเลือด AB positive ด่วน ติดต่อได้ 0991943194



โครงการปลูกต้นไม้ให้วัด
วัดที่ 1 ปลูกถวายวัดป่าอาจารย์มั่น อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ (19 มกราคม 58) เพื่อปลูกต้นไม้รอบลานปฏิบัติธรรมและบริเวณอื่นๆ ภายในวัด
โอนเงินเข้าบัญชี โครงการปลูกต้นไม้ให้วัด ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่ 853-218194-8 สาขาแม่ริม (เชียงใหม่)
สอบถาม/ร่วมบุญโครงการ ได้ที่
พระนำชัย ชยากโร วัดป่าดาราภิรมย์ จ. เชียงใหม่ โทร. 081-5682612 E-mail: termsiri@hotmail.com
ผศ.ดร. อดิศักดิ์ ธีรานุพัฒนา คณะบริหารธุรกิจ มช. โทร. 081-8696068 Email: adisak_t@hotmail.com



ขอเชิญเททองหล่อพระปางไสยาสน์ (วันมาฆบูชา)
วันพุธที่ 4 มีนาคม 2558 เวลา 17.49 น
ณ วัดบางน้ำชน บุคคโล ธนบุรี กรุงเทพฯ


ขอเชิญร่วมสร้างพระประธาน และวิหาร
ณ วัดป่าศรีวิไลย์ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี



ขอเชิญหล่อพระ
https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... =1&theater


วัดยางเอน หมู่ 2 ตำบลบ่อวิน อำเภอศรีราชา ประกอบพิธีเททองหล่อ หลวงพ่อพระพุทธโสธร ในวันที่ 25 มกราคม 2558



ขอเชิญร่วมทำบุญมหากุศลต่างๆ
กับวัดป่าท่าศาลา อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น
- ปิดทองพระชำระหนี้สงฆ์รอบวิหาร
(เพื่อชำระหนี้สงฆ์ตั้งแต่อดีตชาติ และช่วยให้พระสมบูรณ์สวยงามมากขึ้น)
- ต่อเติมเพดานวิหารสัมพุทเธ
- บุญอื่นๆ (หล่อพระ , ทำพิมพ์พระ 4 ศอก และ 7 ศอก
เพื่อใช้หล่อพระในที่ต่างๆในอนาคต ค่าน้ำ-ค่าไฟฟ้า ฯลฯ)



ขอเชิญร่วมหล่อพระปางปฐมเทศนาและปางห้ามสมุทร
วันที่ 25 มกราคม 2558
ณ วัดหนองโพ ต.หนองโพ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี 70120


ขอเชิญหล่อพระดังนี้
๑.วันเสาร์ที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๕๘
เทปูนหล่อสมเด็จองค์ปฐม หน้าตัก๕.๖เมตร
(แบบพิมพ์วัดสระพัง จ.นครปฐม)

ที่..วัดศรีประทุนทอง ต.หัวโพธิ์ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี

>>ร่วมบุญ...ธ.ออมสิน สาขาสองพี่น้อง
เลขที่บัญชี ๐-๕๑๓๗๐๘๙๔๓๔-๐
ชื่อบัญชี...วัดศรีประทุนทอง

ที่มาข้อมูล/สอบถามเพิ่มเติม:โทร.๐๘๗-๐๖๙๑๐๕๘
พระปลัดชำเรือง อาภาสโร (เจ้าอาวาส)

๒.เทปูน๕วันคือ วันที่ ๑๐-๑๑ /๑๔-๑๕ และ๑๘ มกราคม๒๕๕๘
เทปูนหล่อสมเด็จองค์ปฐม หน้าตัก๑๐เมตร
(แบบพิมพ์วัดสระพัง จ.นครปฐม)

ที่..วัดสุวรรณอินทอง บ.หนองตาด ต.เมืองแก อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์

>>ร่วมบุญ...ธ.กรุงไทย สาขาจอมพระ
เลขที่บัญชี ๓๒๐-๐๒๔๕๐๔-๒
ชื่อบัญชี..พระณรงค์เดช นายโก

ที่มาข้อมูล/สอบถามเพิ่มเติม:
โทร.๐๘๙-๕๗๙๑๒๒๐(อาจารย์เดช)

๓.วันอาทิตย์ที่ ๑๘ มกราคม๒๕๕๘
เทปูนหล่อสมเด็จองค์ปฐม หน้าตัก๖.๕เมตร
(แบบพิมพ์วัดหนองพงนก จ.นครปฐม)
ที่..วัดบ้านกรอบ ต.รัตภูมิ อ.ควนเนียง จ.สงขลา



ขอเชิญหล่อรูปเหมือนหลวงปู่มั่น
ณ วัดป่าธรรมวิสุทธิมงคล จ.ลพบุรี
วันที่ 25 มกราคม 2558 นี้


พร้อมแล้วงานเททองหล่อพระ หลวงพ่อเกษรองค์ รูปเหมือนหลวงพ่อพระครูพิพิธวัชรธรรม อดีตเจ้าอาวาสวัดโค้งวิไล ขนาดหน้าตัก ๓๒ นิ้ว
วัน อังคารที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๕๘ ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๓ เวลา ๑๖.๐๙ น.
https://www.facebook.com/profile.php?id ... 61&fref=ts


" ขอเชิญร่วมซื้อ"แหวนทองคำ" น้ำหนัก 1 กรัม "วงละ 1,700 บาท" หรือ "ตามกำลังศรัทธา"เพื่อน้อมถวายหล่อรูปเหมือน "พระศรีอาริยเมตไตรย" สูง 209 ซม. ณ วัดเขาบุญมีดาราราม (วัดทุ่งคา) ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ในวันอาทิตย์ที่ 18 มกราคม พ.ศ.2558 เวลา 18.30 น. 085-361-4989


เชิญทุกท่านร่วมหล่อหลวงพ่อพระเสริม หน้าตัก 80 นิ้ว
วันที่ 23-25 มกราคม 2558 นี้
ร่วมบุญ บัญชี วัดกุดเรือคำ (ทุนหล่อพระประธาน)
ธ.กรุงเทพ สาขาสว่างแดนดิน
เลขที่ 4134326968 ครับ
สอบถาม โทร.080-0500509


ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างแม่พิมพ์พระพุทธรูป {ไฟเบอร์กล๊าส} เพื่อเป็นต้นแบบเทปูน หล่อเป็นพระพุทธรูปขนาดหน้าตัก 5.60 เมตร
089-9196514

ขอเชิญหล่อพระดังนี้
1. ร่วมเป็นเจ้าภาพเททองหล่อสมเด็จองค์ปฐมทรงเครื่องจักรพรรดิ์ หน้าตัก ๑๙ นิ้ว ๑ องค์
เพื่อประดิษฐานไว้ในบวรพระศาสนา ในอุโบสถวัดบ้านโนนน้อย ตำบลโนนน้อย อำเภอบุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี
2. หล่อพระสิวลี ปางออกนิโรธสมาบัติ หน้าตัก ๑๙ นิ้ว ๑ องค์

หล่อในวันอาทิตย์ที่ ๑ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๘ เวลา ๑๔.๓๙ น.
ณ.โรงหล่อพระยงค์เจริญการช่าง ตำบลศรีษะทอง อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม
โทร. 092-6596145


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ม.ค. 2015, 18:41 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ค. 2013, 10:07
โพสต์: 406

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร