วันเวลาปัจจุบัน 27 ก.ค. 2025, 21:10  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 124 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7 ... 9  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2015, 23:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


มาลองวิเคราะห์ข้อมูล ความสัมพันธ์sleep paralysis กับการถอดจิต จากประสบการณ์ตน
(ทำตัวเป็นนักวิจัยเรื่องนี้ค่ะ :b32: )
ตอนที่คุนน้องเกิดสภาวะนั้น อย่างที่เคยบอก กายหลับแต่จิตตื่น รู้ตัวและมีสติสัมปชัญญะมากกว่า
lucid อีกนะค่ะอาการครั้งแรก หลับตาอยู่ ขยับไม่ได้แต่รู้ว่ามีคนมานอนข้างๆสวมกอด และขึ้นทับ(มาแนวพิศวาสแต่คุนน้องไม่ได้พิศวาสนะ) คือที่ไม่กำหนดรู้ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป คุนน้องคิดว่าไม่มีความจำเป็น เพราะมันเหมือนการรอดูจิตมันจะเล่นอะไรกับเรา ซึ่งก็ไม่รู้ว่าคือจิตด้านมืดเราเอง หรือเป็นวิญญาณที่อยู่บริเวณนั้นสื่อถึงเราได้ มันมีความเสี่ยงที่จะถูกทรมานทางร่างกาย คงไม่มีใครชอบใจหรอกมั้ง ถ้ารู้สึกดิ้นไม่ได้แล้วยังถูกลวนลาม ก็เลยไม่สนใจ ไม่กำหนดรู้และตอนนั้นไม่กลัวด้วย เพราะชินแล้ว ร่ายบทสวดอิติปิโสไม่ถึง1นาทีหลุดเลย

พอครั้งที่สองเป็นอีก คือมองเห็นห้องตนเองทั้งที่หลับตา ตอนนั้นหลับตาค่ะ คือพอตกวูบเหมือนหลุดเข้าในวาป จิตตื่นมาเห็นตนนอนอยู่ และในห้องก็ไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลง ขนาดเพ่งประตูห้องก็เหมือนเดิม ไม่กลัวตาย พอเวลาเราไม่กลัวอะไร จิตเราแกร่งกล้ามากๆ คือสภาวะอื่นแทรกไม่ได้เลย ก็กำหนดจิต ท่องในใจแหละค่ะ ถอดจิตๆๆๆๆๆ (คือเวลาคุนน้องตกภวังค์และขยับไม่ได้ จิตเราจะไม่นิ่ง กระวนกระวายเพราะขยับไม่ได้ สัญชาติญานเอาตัวรอดเกิด ความกลัวเกิด จิตใต้สำนึกผุดขึ้น แต่พอใจยอมรับได้ เรากลับหลุดได้เฉย ที่ขยับไม่ได้ก็ขยับได้)
พอขยับแขนได้ ก็พยายามจะลุกนั่นแหละค่ะ แต่รู้สึกทำไมสภาวะนี้มันยาก และเสมือนจริงมาก เหมือนสติครบทุกอย่าง และก็อยู่ในห้องตน
แตกต่างจากตอนที่เกิดลูสิดดรีมมากๆ ลูสิดดรีมเหมือนเราลอยไปแค่จิตอ่ะ เหมือนเราฝันพอมีสติรู้ว่าในฝัน เราเล่นโน่นเล่นนี่ คือเราจะทำในสิ่งที่ใจนึกคิดจินตนาการ เหมือนอยู่ในโลกจินตนาการ และตอนรู้ตัวในฝัน มันเหมือนจิตหลอกจิตแล้วก็เล่นอยู่กับจิต เหมือนพวกติดนิมิตเพราะพึงพอใจ
แต่sleep paralysis มันเห็นรายละเอียดขั้นตอนตั้งแต่การเริ่ม สเตป1คือสภาวะขยับไม่ได้กัน
คุนน้องเลยสรุป sleep paralysis คือสภาวะที่เราถอดจิตได้จริง แต่lucid dream คือนิมิตที่เราติดในมิติ เหมือนเราหลุดเข้าไปแล้วรู้ว่าฝันก็จริง แต่สิ่งที่ฝันนั้นไม่จริง มันเป็นมายาที่จิตเราสร้างมากั้นไว้ในมิติที่5 อีกขั้นนึง คือเจอโปรแกรมจิตของเราหลอกให้หลง และติดอกติดใจ
ขออนุญาติแปะลิ้งนี้ไว้ศึกษาเพราะ กระทู้นี้หัววิทยาศาสตร์และเกิดสภาวะผีอำบ่อยเหมือนคุนน้อง อาการคล้ายกัน มองไม่เห็นวิญญานตอนโดนอำ(เพราะจิตแข็งไม่ใช่คนหลอนมโนเห็นผี) ฝึกถอดจิตแล้วโดนดึงกลับร่างเหมือนกัน

http://topicstock.pantip.com/religious/ ... 83472.html
เป็นกระทู้ที่ดีมากๆ ตอบโจทย์ได้ดี แต่ละคนมีเหตุมีผลทั้งนั้นเลย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ม.ค. 2015, 13:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ก่อนหน้านี้เคยเกิดสภาวะแบบนี้ เกี่ยวกับการถอดจิต(ช่วงพ.ยปีที่แล้วเลยรวบรวมข้อมูลมาไว้กระทู้นี้ :b32: )เพื่อศึกษา ไหนๆก็หลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว งั้นมันต้องพิสูจน์(น่าจะเคยมีวาสนาคือมีของเก่าติดมา) พอมันจะเกิดมันก็เกิด ไม่รู้ทำไม คนไม่อยากเป็นต้องเป็น :b7: บางคนอาจจะคิดว่า คุนน้องยึดมากไปรึเปล่า ไม่ปล่อยวาง แต่ขอโทษนะค่ะ ตอนเราปล่อยวางไม่ยึดมั่นนั่นแหละค่ะ สภาวะมาเลย แล้วจะให้ทำไง มันช่วยไม่ได้เหมือนสร้างไว้มาก่อน พอมาปฏิบัติธรรมสภาวะเหล่านั้นก็มาเลย ไม่เดินต่อไปก็ไม่ได้ เลยคิดว่าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดแล้ว
เคยครั้งนึงคือตอนนั้นนอนสมาธิและพยายามมีสติตลอดพอตกภวังค์คุนน้องจะรู้สึกตัวและประคองสติคือพยายามรู้ตัวตลอดซึ่งใช้เวลานานทำสมาธิมากจนเผลอตกภวังค์อีก แต่คราวนี้รู้สึกตัวเรานอนอยู่เลยลืมตามองเห็นเพดานบ้านมองเห็นหลอดไฟ ชัดมากมองเห็นพัดลมนี่มันห้องนอนเรา พยายามจะลุกเอะลุกไม่ขึ้น พอยกมือขึ้นอ้าวชิบหายตกกะใจ555 ยกแขนขึ้นมาแต่ไม่มีแขน เข้าใจคุนน้องไหม คุนน้องเห็นแขนตนเองก็นอนอยู่ แต่คุนน้องขยับแขนได้ มันไม่ใช่สภาวะผีอำค่ะ เพราะคุนน้องยกแขนแกว่งไปมา คุนน้องก็อุทานอะไรว่ะยกแขนสองข้างขึ้นแล้วเอาไขว้กันเป็นรูปตัวx คุนน้องก็พยายามเพ่งแขนตนเองตอนนั้นมองเห็นเเขนเป็นลักษณะโปร่งใสเหมือนเป็นอากาศแต่มีรูปร่างแขน คุนน้องร้องกรี๊ดเพราะตกใจจะว่าฝันก็มีสติรู้ตลอดแต่ทำอะไรไม่ได้ คุนน้องอยู่ในสภาวะนั้นนานมากนะค่ะ 10นาทีได้ คุนน้องเลยตั้งสติในเมื่อหลุดออกจากสภาวะนั้นไม่ได้ คุนน้องเลยหลับตานอนทำสมาธิต่อ พอทำสมาธิคุนน้องก็รู้สึกตัวเลย s002


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ม.ค. 2015, 16:07 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




FB_IMG_1421198456909.jpg
FB_IMG_1421198456909.jpg [ 49.57 KiB | เปิดดู 4129 ครั้ง ]
:b12:
Nongkong ยังคงสนุกสนานแวะวนอยู่กับสวนดอกไม้ริมทางแห่งนี้อยูเนาะ

ขึ้นมาสู่ทางสายหลักซุปเปอร์ไฮน์เวย์แล้วเดินทางต่อกันเถอะ

ปรุงแต่งเรื่องความวิจิตรพิสดารของสวนดอกไม้ริมทางนี้มากมายจะพาให้ผู้ติดตามผลงานของน้องเห็นดีเห็นงามตามเลยเอาสวนริมทางนี้เป็นที่พักพิงอิงนอนไปกันเสียหมด
55555555
:b12:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ม.ค. 2015, 17:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b12:
Nongkong ยังคงสนุกสนานแวะวนอยู่กับสวนดอกไม้ริมทางแห่งนี้อยูเนาะ

ขึ้นมาสู่ทางสายหลักซุปเปอร์ไฮน์เวย์แล้วเดินทางต่อกันเถอะ

ปรุงแต่งเรื่องความวิจิตรพิสดารของสวนดอกไม้ริมทางนี้มากมายจะพาให้ผู้ติดตามผลงานของน้องเห็นดีเห็นงามตามเลยเอาสวนริมทางนี้เป็นที่พักพิงอิงนอนไปกันเสียหมด
55555555
:b12:

อโสกกะรู้ใจคุนน้องเหมือนเดิมนะค่ะ :b32:
สวนดอกไม้มันกว้างยังเดินชมไม่หมดเลยจะเบื่อได้ไง :b9: :b19:
แล้วช่วยไม่ได้ ทางที่คุนน้องเดิน มันมีสวนดอกไม้วิจิตร สิ่งอะเมซิ่งข้างทาง ก็แวะเดินดูหน่อสจะเปนไร
คุนน้องเป็นประเภทชิลๆค่ะ ความอยากรู้อยากเห็นยอมรับว่ามันเป็นกิเลศ แล้วไงคุนน้องมีก็รู้ว่ามี ซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกตนเอง ไม่ชอบแอ๊บ คนปฏิบัติธรรมต้องพูดธรรมมะตลอดหรอค่ะ เล่าประสบการณ์ของตนไม่ได้หรอไง คุนน้องว่าเจ๋งกว่าอีก เพราะเรากล้าเล่าทั้งที่รู้ว่าคนเค้าไม่เคยเจอ อาจจะหมั่นไส้ว่าบ้า(อันนั้นมันก็เรื่องของเค้านะ) ใครจะจ้ำอ้าวไปให้ถึงนิพพานก็ทำไปเถอะค่ะ
สำหรับคุนน้องไม่ได้ทำเรื่องผิดศีล ไม่ได้เบียดเบียนคนอื่น สำหรับคุนน้องก็เป็นการปฏิบัติธรรม ส่วนเรื่องคุนน้องจะชอบเดินเที่ยวชมสวนดอกไม้ มันก็คนละเรื่อง งานอดิเรกของใครของมัน
:b32: แต่ก็ไม่เห็นว่าผิดศีลข้อไหน :b9: :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ม.ค. 2015, 18:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ธ.ค. 2011, 23:47
โพสต์: 298


 ข้อมูลส่วนตัว


ช่วงที่คุณน้องถอดจิต ระวังถ้ามีใครมาตะโกนเรียกจนตกใจ ตอนจิตกลับเข้าร่างด้วยความตกใจ จะทำให้ป่วยได้นะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ม.ค. 2015, 19:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


smiley บางครั้งก็นึกเอะใจ! ทำไมคนบางคนบางคน พยายามฝึกสมาธิ อยากได้ฌาน เพื่อต้องการสัมผัสหรือมีประสบการณ์ อยากเห็นโลกทิพย์ โลกวิญญาน แต่ก็ไม่เคยได้สัมผัส แต่บางคนไม่เคยสนใจเรื่อง ผี สาง เทวดา แต่มีเหตุให้ต้องสัมผัสหรือมีประสบการณ์แปลกๆ ทั้งที่ไอ่เราก็อยู่ของเราเฉยๆ ไม่ได้หมายความว่า เคยเห็นผี เพราะคุนน้องมีความเชื่อไปในทางวิทยาศาสตร์เช่นกัน ไม่ใช่พวกเชื่อโดยหลับหูหลับตา แค่พบสภาวะแปลกๆ ครั้นพอจะถามคนอื่น คนอื่นก็ให้คำตอบเราไม่ได้
คลายความสงสัยเราไม่ได้ แล้วพอเกิดเรื่องประหลาดกับเรา ก็บอกให้กำหนดรู้มันไปว่ามันจะเกิดอะไร ก็ดูมันทำไป :b32: :b32: ให้ตายเหอะ
นึกในใจ อยากถ่ายทอดสัมผัสประสบการณ์พิสดารนี้ ให้พวกคนปฏิบัติธรรมเก่งๆ ได้พบเจอแบบเราบ้างจริง :b32: เคยสงสัยว่า พวกที่เคยเล่าว่าโดนผีปล้ำ เขาเจอแบบนั้น เขาคงทรมานมากๆ
บางคนถึงกับต้องเข้าโรงบาล ไอ้พวกที่บอกผีไม่มีจริง(หมายถึงวิญญาณภพภูมิอื่น)ไอ้พวกลัทธิตายครั้งเดียว(จำคำพูดเขามาอีกที :b32: )
คุนน้องอยากถามนะ พวกเขาพิสูจน์ได้ยังไงว่าวิญญานไม่มี ในเมื่อคำสอนของพระพุทธเจ้าในพระไตรปิฎกมี แต่สิ่งพวกนั้นไม่เป็นสาระ ไม่ใช่หนทางดับทุกข์ เหมือนพวกนักเรียน ความรู้ที่เรียนก็มีแค่ที่ตนเรียน แต่อะไรที่ตนไม่ได้เรียน ไม่เคยได้รู้ ไม่เคยสัมผัส กลับตั้งแง่ว่าไม่จริง ไม่มี เพ้อเจ้อ อิอิ :b9: แต่อ้างตนเป็นพุทธแท้ (อันนี้หมายถึงบางพวก) คุนน้องก็ไม่รู้ว่า คุนน้องจะต้องมามุสาเรื่องพวกนี้ทำไม ถ้าไม่ได้เกิดขึ้นจริง (แบบนี้เท่ากับศีลยังรักษาไม่ได้ จะมีหน้ามาโม้ในลานธรรมอันศักสิทธิ์ได้ยังไง บาปตาย :b32:

มันผิดนักหรอ ที่เราจะพูดความจริง?? ที่ชาวโลกมากกว่าครึ่งนึง ไม่เชื่อในสิ่งที่วิทยาศาสตร์บอกไม่มี คุนน้องก็ไม่รู้ว่าตนเองโชคดีรึโชคร้าย ต้องเจอเรื่องแบบนี้ เพราะนิสัยคุนน้องไม่ชอบวุ่นวาย

คุนน้องรู้สึกอุ่นใจนะ ที่อย่างน้อยสิ่งที่เราเจอแปลกๆ ไม่ได้มีแค่เราเป็นคนเดียว คนอื่นก็เคย
มันทำให้คุนน้องคิดว่า เราไม่ได้บ้า!

ถึงคุนน้องบอกว่าเจอประสบการณ์แปลกๆ คุนน้องก็ไม่เคยไปขูดเลขขอหวยตามต้นไม้ :b32:
คุนน้องก็ไม่เคยไปดูดวงหาคนทรงเจ้า เวลาทุกข์แต่ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์ ในเรื่อง อริยสัจสี่ คุนน้องก็มีสัมมาทิฏฐิระดับนึงนะ...
แต่ๆๆ ในเมื่อมันมีเหตุให้ต้องเจอต้องสัมผัส ต้องมีประสบการณ์แบบนั้น ก็ต้องทำใจยอมรับ จะยืนกระต่ายขาเดียวว่า ไม่มี..ไม่ใช่..จิตเราวิปลาศ
คุนน้องก็ยังคุยรู้เรื่อง ยังเป็นคนปกติ ไม่เคยอวดอ้างว่านั่งสมาธิ้เห็นนิมิตนั่นนี่ ก็แค่อธิบายสภาวะที่เกิดกับตน ดีกว่าเป็นแล้วต้องเก็บไว้ เก็บไว้ทำไม?? ทำไมไม่เล่าเป็นวิทยาทานให้คนอื่น ที่เค้าก็เป็นแบบเราล่ะ เค้าอาจจะนำไปพิจารณาได้..
smiley :b44:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ม.ค. 2015, 19:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


yoottapong เขียน:
ช่วงที่คุณน้องถอดจิต ระวังถ้ามีใครมาตะโกนเรียกจนตกใจ ตอนจิตกลับเข้าร่างด้วยความตกใจ จะทำให้ป่วยได้นะครับ

ป่าวค่ะไม่ได้บอกจะถอดจิต แต่ชอบเป็นผีอำและไม่อยากเป็น (เป็นบ่อยเดือนละหลายครั้ง)
ถ้าคุนน้องแค่ขยับไม่ได้เฉยๆ คุนน้องจะสวดอิติปิโส
แต่ถ้ามาแบบขึ้นทับ จับกด ปลุกปล้ำ ขยับไม่ได้ ทำร้ายร่าง(ภาวนาก็ไม่หายแผ่เมตตาก็ไม่หาย)คุนน้องก็ต้องถอดจิต ถ้าวิญญาณมีจริงเราก็ต้องมองเห็นถ้าถอดจิตได้ มันก็ต้องคุยต้องเจรจากัน จะเอาไง..
คุนน้องเชื่ออย่างนึงว่าคนธรรมดาเห็นผีไม่ได้ สื่อสารกับผีไม่ได้ เพราะตาเนื้อมนุษย์ไม่ได้สามารุเห็นภพภูมิอื่นได้ ถ้าตาเนื้อเห็นได้จริง นักวิทยาศาสตร์ คงยอมรับเรื่องโลกวิญญาณกันแล้ว ไม่มาเถียงกันให้เป็นปัญหาโลกแตกหรอกค่ะ cool


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ม.ค. 2015, 22:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ไปเจอความเห็นนึงที่อธิบายเกี่ยวกับผีอำ ค่อนข้างน่าสนใจ แถมมีชื่อพาดพิงผู้ทรงคุณวุฒิในลานธรรมจักรแห่งนี้ :b32: ไม่ว่าไรใช่ไหมค่ะ จะเอามาลงไว้เป็นข้อมูลเพื่อศึกษา เพราะคุนน้องเป็นผีอำบ่อย จะได้ทำใจว่าผีมาอำเพราะเรามีบุญ :b32: แต่ถ้ามาอำเพราะมีความแค้นต่อกันละ!!! :b14:

อันนี้นอกประเด้นคับ เพราะเมื่อผมโดนผีอำ

ผีอำ คือ ร่างกาย กับวิญญาณ(เจตภูต)แยกออกจากกัน การที่ร่างกายกับวิญญาณ(เจตภูต)แยกออกจากกัน สาเหตุมีได้หลายทาง เฃ่น

1. ทำสมาธิเข้าสู่ภวังค์ ซึ่งเป็นการเปิดประตูภพภูมิสู่โลกวิญญาณ

2. ร่างกายเราหลับไปตอนนอน แต่หลับไม่สนิท กึ่งหลับกึ่งตื่น ภาวะนั้นก็คือภวังค์ เมื่อมีวิญญาณ(เจตภูต)ดวงอื่นมาปลุกวิญญาณเราให้ตื่นขึ้น วิญญาณของเราก็เข้าสู่ภพภูมิของโลกวิญญาณ แต่ไอ้ตัวร่างกายของเราซิ มันหลับไปแล้ว ที่ตื่นคือวิญญาณ(เจตภูต)ของเรา

การที่เราเคลื่อนไหวไม่ได้ เนื่องจากร่างกาย กับวิญญาณ(เจตภูต)แยกออกจากกันแล้ว ร่างกายมันหลับไป วิญญาณก็ไม่อยู่ติดสนิทกับร่างกาย พอมีวิญญาณดวงอื่นมาอยู่ใกล้เรา วิญญาณธาตุ(เจตภูต)ของเราก็เลยเข้าไปสู่มิติของโลกวิญญาณ

วิญญาณพยายามยกแขน ยกขา ก็ทำไม่ได้ สาเหตุคือ วิญญาณมันแยกออกจากร่างแล้ว เราต้องฝืนมัน โดยเฉพาะฝืนทางตา พยามลืมตาให้ได้ ถ้าลืมตาได้ ก็จะทำให้วิญญาณกลับมาอยู่ในร่างกายเนื้อใหม่ พลังการอำในโลกวิญญาณ(มิติของโลกวิญญาณ)ก็จะสลายไปทันที

เหตุผลหลักใหญ่ที่โดนผีอำ (รวมทั้งโดนผีหลอก)

เมื่อ 30 ปีก่อน เป็นช่วงที่ผมเริ่มหัดทำสมาธิใหม่ๆ เจอผีอำประจำ ก่อนหน้านั้นผมแทบไม่เคยโดนผีอำ ผมก็เลยสงสัยว่า ผีอำเป็นผีจริงไหม? แล้วมันมาหาเราทำไมวะ มาทุกวันด้วยในวันที่เราทำสมาธิ

ตอนหลังผมเลยลองแผ่เมตตาให้วิญญาณของสิงมอร์เตอร์ไซด์ ที่ขับรถซิ่งมาตายหน้าหมู่บ้าน ชาวบ้านชาวช่อง ต่างด่าแช่งกันหมด แต่ผมสงสารเขา

คุณกบนอกกะลารู้ไหม ตกดึกผมนอนหลับแบบกึ่งหลับกึ่งตื่น(อยู่ในภวังค์) วิญญาณของสิงมอร์เตอร์ไซด์คนนั้นมาหาผม(ผีอำ) เขาจับไม้จับมือผมแบบแสดงความขอบคุณผม เขาดีใจมากๆเลยที่ผมแผ่เมตตาไปให้

ตั้งแต่นั้นมา ผมเลยรู้ว่า การทำสมาธิจะเกิดพลังกุศล สามารถแผ่เมตตาให้วิญญาณต่างๆได้ ผมเลยแผ่เมตตาให้วิญญาณต่างๆในหมู่บ้านจนหมด(มีประมาณ 10 ดวง) และบอกให้พวกเขาแต่ละคนมาอำผม หรือมาเข้าฝันผมด้วย เพื่อแสดงว่าเขาได้รับผลบุญแล้ว พวกเขาก็มาจริงๆ

ตั้งแต่นั้นมา...ไม่มีวิญญาณดวงไหนมาหาผมอีกเลย ผมเลยเหงา ตอนหลังไปไหนมาไหน นอนโรงแรมไหน นอนบ้านใครที่ไหน ผมก็ทำสมาธิที่นั่น แล้วแผ่เมตตาให้ดวงวิญญาณที่อยู่ที่นั้นด้วย นอกจากนี้ ยังบอกให้ดวงวิญญาณเขามาอำหรือมาเข้าฝัน เพื่อแสดงว่าเขาได้รับผลบุญแล้ว ก็เช่นเคย พวกเขาก็มาจริงๆ แต่ถ้าผมห้ามเขาไม่ให้มา พวกเขาก็จะไม่มาหา

ตอนหลังพอผมเลยรู้ 100%ว่า เหล่าวิญญาณจะไปหาคนที่ชอบทำสมาธิและชอบทำบุญตักบาตร ชอบสวดมนต์ เนื่องจากสิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดกุศลผลบุญ ซึ่งเราสามารถโอนไปช่วยเหลือพวกวิญญาณได้โดยไม่ต้องกลัวหมด ยิ่งช่วยใจเรายิ่งสะอาด ยิ่งบรรลุธรรมสูงขึ้นเรื่อยๆ

คุณรู้ไหม...ในปรโลกอยู่ได้อย่างเป็นสุขจากผลบุญเท่านั้น เมื่อวิญญาณเหล่านี้ไม่ค่อยได้ทำบุญมา พอตายแล้ว เขาจึงลำบาก ต้องแสวงหาผลบุญจากคนทำสมาธิและชอบทำบุญตักบาตร แต่กฎสวรรค์ห้ามไม่ให้เขาไปพูดขอให้มนุษย์ช่วยทำบุญให้ตรงๆ เขาเลยต้องมาอำ หรือมาหลอก พอคนถูกอำถูกหลอกกลัว ก็จะแผ่เมตตาหรือทำบุญอุทิศกุศลให้พวกเขา

ผีพวกนี้เขาไม่ไปหาคนที่ชอบทำบาปหรอกถ้าไม่มีความแค้นต่อกัน....เสียเวลาเปล่า ผีส่วนใหญ่จะไปพึ่งคนทำสมาธิและคนที่ชอบทำบุญ คุณกบนอกกะลาต้องถามตัวเองสิ ว่า คุณกบนอกกะลาเป็นคนทำสมาธิหรือชอบทำบุญไหม..... ถ้าใช่ คุณกบนอกกะลาก็เป็นเป้าหมายของพวกวิญญาณ

ทำไมคนจำนวนมากไม่เคยเจอผีอำหรือผีหลอกเลย?

เหตุผลก็ง่ายๆครับ พวกเขาปิดระบบinternetทางจิตของเขา โดยการสะกดจิตตัวเองทุกวันว่า ผีไม่มีจริง ยิ่งคนสมัยใหม่ด้วย พอพูดเรื่องผี ก็กลัวคนอื่นกล่าวหาว่าเชย เป็นพวกงมงาย เป็นพวกหัวโบราณอะไรทำนองนี้

ที่สำคัญที่สุด ก็คือพวกนักวิปัสสนาล้วนๆ ไม่เน้นสมถะ(สมาธิ) พวกนี้ปิดระบบinternetทางจิตสนิทเลย ไม่ยอมรับรู้มิติอื่น(ปรโลก) โดยชอบอ้างคำพูดของหลวงปู่ดุลย์ที่ว่า สิ่งที่เห็นในนิมิต

"ที่เห็นนั้น เขาเห็นจริง แต่สิ่งที่ถูกเห็น ไม่จริง"

โดยตนเองก็ไม่ทราบเลยว่า หลวงปู่ดุลย์ท่านมุ่งนิพพานอย่างเดียว ไม่มุ่งความรู้อื่นทางโลกและปรโลกเลย เมื่อมุ่งนิพพานอย่างเดียว จิตก็ต้องไม่ส่งออกไปอยู่ในภพ 3 และ 31-33 ภูมิ นั่นหมายถึง สิ่งที่เห็นในนิมิต ทุกอย่างต้องตัดทิ้งหมด

แต่พระป่าหรือพวกที่ทำทั้งสมถะและวิปัสสนา เช่น หลวงปู่มั่น หลวงปู่ชอบ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ฯลฯ พระเหล่านี้ แม้ท่านมุ่งนิพพาน แต่ท่านก็ไม่ปิดจิตในการรับรู้ภพภูมิอื่นหรือมิติอื่น พวกท่านจึงเจอทั้งผี สัมภเวสี เปรต เทวดา พรหม และช่วยแผ่เมตตาให้เหล่าวิญญาณที่เดือดร้อนในปรโลก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ม.ค. 2015, 14:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ที่นี้ลองมาฟังการอธิบายสภาวะผีอำ ของนักปฏิบัติธรรมท่านนึง ที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง คุนน้องว่าท่านผู้นี้ก็คงจะเกิดสภาะผีอำแบบพิสดาร ไม่ใช่แค่ขยับไม่ได้ :b32:
http://www.dhamazone.org/index.php/site ... 1-09-14-13


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ม.ค. 2015, 16:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


อยากเล่าประสบการณ์ตอนฝึกทำสมาธิใหม่ๆ สมัยโน่นเลย ที่เข้ามาเวปธารมจักรแรกๆ
คุนน้องทำสมาธิทุกวัน วันละ30 นาทีและเจริญสติ

ช่วงสองสามวันแรกทำสมาธิรู้สึกเกิดอาการแปลกๆ ที่เรียกว่าปิติ ตัวลอย เบาสบาย บางทีก็วาบหวิวและรู้สึกเคลิบเคลิ้ม :b41: :b47:

และผลของสมาธิจากการนั่งสมาธิทุกวันถึงจะไม่นาน ทำใก้คุนน้องสงัดจากกาม รู้สึกสงบ (โดยหารู้ไม่ว่าเป็นผลของสมถะกดทับกิเลศ) :b44:

เราก็นั่งสมาธิทุกๆวัน (ช่วงนั้นเลี้ยงน้องก้อง อยู่บ้านเฉยๆ) ทำให้เห็นผลการปฎิบัติเปลี่ยนแปลง
ก็สังเกตุอยู่ซักระยะ จนนึกว่าบรรลุธรรมเป็นสกิทาคามี เพราะเห็นกิเลศเบาบางลง ยิ่งทำสมาธิกามยิ่งไม่กระดิกเลย :b32: (ก็ไม่รู้ว่าเป็นไปได้ไงทำไมก้าวหน่าเร็ว) แปลกใจ ทำไมเราถึงไม่เกิดราคะ ไม่มีความรู้สึกทางเพศ (อันนี้มันเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ใช่เรื่องน่าอายที่จะเล่า) ก็นึกว่าตนบรรลุธรรมขั้นสูงจนถึงระดับ อนาคามี555 :b12:

เคยเกิดวาทกรรมกับอโสกะก็เรื่อง ตนเป็นอนาคามี
แต่ตอนนั้นก็คิดว่าตนเก่ง เหลิงหลงระเริงนะ
กามสงบระงับ แล้วทำไมปฏิฆะลุกลามเป็นระเบิดโทสะเร็วแบบนี้ คือพอเกิดอารมณ์นั้นไปแล้วก็กลับมาคิดทบทวนทีหลังกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตน :b44:

จนต่อมาถึงได้เรียนรู้ว่า ที่คิดว่าหมดกิเลศกาม จิตสงบปราศจากทุกข์ มันคือผลจากการทำสมาธิ :b9:

แต่คุนน้องก็ยังบำเพ็ญเนกขัมมะบารมี (ทั้งที่ไม่ได้เต็มใจซักหน่อย แต่ดันโสดซะงั้น :b5: )
คุนน้องก็จะอธิษฐาน 3 เดือนในการบำเพ็ญเนกขัมมะเมื่อครบ3เดือน ออกจากเนกขัมมะถือศีล5 ปกติ

คุนน้องเคยทำมาก่อนหน้านี้แล้ว(ในอดีตชาติ)
ยิ่งช่วงที่ศีลพรหมจรรย์ไม่ด่างพร้อย ขนาดไม่นั่งสมาธิจริงๆจังๆ ยังเกิดฌาน หัวเต่าผุดเข้าผุดออก :b32: (ทำไปได้นะ) ที่คุนน้องเคยบอกทำสมาธิ ตกภวังค์ แล้วรู้สึกตัวพอจะขยับตัวลุกไม่ขึ้น แต่แขนมันถอดออกไปแล้ว(ไม่เหมือนผีอำ)เห็นแขนเป็นเงาโปร่งใสขาวๆ ตกกะใจกรี๊ดเลย เหอๆ (ไม่รู้จะฝึกสมาธิไงให้รู้วิธีควบคุม) จะไปหาพระอาจารย์ให้สอนกรรมฐาน ก็เหมือนกับว่า เหตุปัจจัยไม่พร้อม ยังไม่ถึงเวลา..แล้วต้องไปที่ไหน หาใคร ที่มีวาสนาเคยเกื้อกูลกันมาก่อนในอดีตชาติ

ต้องทนสู้กับสภาวะที่เกิด ฌานหัวเต่าผุดเข้าผุดออกแบบนี้ มันคงเป็นกรรมเก่า พอเกิดอะไรประหลาดตอนตกภวังค์ รู้สึกเหมือนพ่ายแพ้และโมโหจนอยากเอาคืน อยากถอดจิตได้ เวลาโกรธ ความกลัวไม่มี ขนาดช้างยังเห็นเป็นมดได้(ไม่รู้ความเมตตาหายไปไหนเวลานั้น) บางทีก็ไม่อยากนั่งสมาธิเพราะไม่อยากเจออะไรแบบนั้น อยากอยู่สงบๆไม่ได้หรอ :b2:
สงสัยคงเป็นโรคเวรโรคกรรม :b32:

ปล.วาจาสิทธ์ ที่เคยกล่าวกับอโสกะไว้ว่า ถ้าชาตินี้คุนน้องปฏิบัติไม้ได้ ไม่ได้บรรลุอนาคามี อย่างอโสกะว่าจริง ขอให้ตนอย่าได้ มรรค ผล นิพพาน ชาตินี้ :b32: (นี่แหละนิสัยพวกที่เคยปราถนาพุทธภูมิมาก่อน พูดคำไหนคำนั้น :b5: ) ส่วนใหญ่คนที่เคยปราถนาพุทธภูมิ มักจะเป็น พวกอธิษฐานตามอาจารย์ของตน อนิยตโพธิสัตว์ที่ยังไม่ได้รับพยากรณ์ว่าจะได้เป็นพุทธเจ้า แต่บำเพ็ญบารมีเหมือนพวกปราถนาพุทธภูมินั่นแหละ แต่เมื่อบารมีใกล้เต็มในชาติที่ อาจารย์ตนเป็นพระพุทธเจ้า ส่วนใหญ่มักจะละความปราถนานั้น กลายเป็นสาวกภูมิบรรลุอรหันต์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ม.ค. 2015, 22:04 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ธ.ค. 2011, 23:47
โพสต์: 298


 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อคืนนอนฝันเห็นหัวคนตาย7-8กะโหลก ไม่รู้แปลว่าอะไร แล้วก็ฝันต่อ ฝันเห็นรูปปั้นพยานาคเงินทั้งตัวสวยมาก

นิมิตเห็นลูกแก้วสีแดงในปากฤาษี

ปล.ผมลองสวดคาถาของผมแล้วใช้ได้เห็นนิมิตพญาครุฑเป็นสีทองส่วนพยานาคเป็นสีเงิน
คาถาดังนี้
นะโม3จบ
ครุฑโธ นะครุฑธัง อะหังกันตัง นะครุฑโธ (คาถาปู่พญาครุฑ)
นาโค นะนาคัง อะหังกันตัง นะนาโค (คาถาปู่พญานาค)

หรือว่าคาถาของผมใช้ไม่ได้ถึงโดนลบทิ้ง


แก้ไขล่าสุดโดย yoottapong เมื่อ 15 ม.ค. 2015, 22:51, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ม.ค. 2015, 22:47 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ธ.ค. 2011, 23:47
โพสต์: 298


 ข้อมูลส่วนตัว


แสดงว่าคุณน้องนอนแบบ คือรีดิ๊ก แบบว่าชอบนอนท่าเดียวเป็นเวลานานๆ จะทำให้โดนผีอำได้ครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ม.ค. 2015, 23:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


yoottapong เขียน:
แสดงว่าคุณน้องนอนแบบ คือรีดิ๊ก แบบว่าชอบนอนท่าเดียวเป็นเวลานานๆ จะทำให้โดนผีอำได้ครับ

ไม่เลย ตอนแรกนอนตะแคง เป็นคนชอบนอนสมาธิเล่น แล้วตกภวังค์ (พวกที่บอกนอนตะแคงผีไม่อำลองทำดู จะบอกให้ผีมันจะอำ มันไม่เลือกปฏิบัติหรอก จะนอนท่าไหนถ้ามันอยากอำมันอำได้ทุกท่า!!) ที่จริงเป็นคนที่ติดนอนตะแคง แต่พอจิตตกภวังค์ก็เป็นค่ะถึงไม่นอนหงาย เลยเปลี่ยนนอนหงายก็โดนอำ แต่สังเกตุว่า เวลาทำสมาธิตกภวังค์ถ้ามีสติ แขนชอบหลุดออก เป็นบ่อยมากๆ แต่ไม่กล้าออกไปไหน เพราะกลัวตาย

แล้วเมื่อก่อนก็เป็นแต่ไม่ได้น่ากลัว แค่ขยับไม่ได้เราเลยมองว่าเป็นเรื่องของสมองกับร่างกาย

พอหลังๆมันหนักกว่านั้น คุนน้องไม่เห็นว่าใคร เพราะหลับตา กลัวอ่ะ เป็นมือคนนี่แหละเอานิ้วมาประสานมือเรา เอานิ้ว5นิ้วสอดประสานมือเรา (เหมือนจะมาดีนะตอนแรก) แต่อยู่ๆพี่แกเล่นดันมือคุนน้องให้งอไปด้านหลังมือ โหยปวดมากเจ็บมาก
cry นึกออกม่ะ เหมือนมือและนิ้วคุนน้องไม่มีกระดูกแต่ถูก มือใครไม่รู้ที่มาสอดนิ้ว มือประสานกัน และหักมือเราไปด้านหลัง ตอนนั้นโกรธ แต่ก็กลัว เพราะตั้งสติไม่ได้ ก็สวดมนต์ แต่ก็ไม่หลุด

พอหักมือเราจนสะใจ เอามือมาลูบไล้ที่ต้นคอเราอีก (เกือบเคลิ้มตาม555) แล้วที่หลุดมาได้ ประตูช่วยไว้ ประตูโดนลมพัดเลยปิดดังปั้ง!!
สะดุ้งตื่นทันใด ขอบคุนสิ่งศักสิทธิ์ ที่ช่วยไม่ให้โดนผีอำ!!(สรุปมันอยากอำรึอยากเอากันแน่555แอบคิดไปต่างๆนาๆ เราไปทำไรให้มัน รึมันเคยเป็นสามี ภพชาติไหน มาอำทีไร มาแบบหื่นทุกที :b14: )

แล้วพี่แกขาประจำเลยนะ นานๆมาที มะก่อนคิดว่าคงเป็นจิตปรุงแต่ง เพราะคุนน้องนอนตะแคงจะมาสวมกอดด้านหลัง แล้วก็เหมือนดันตัวเข้ามาซ้อนกับร่างเรา กระดูกสันหลังเย็นวาบบเลย แล้วตอนนั้นก็ไม่รู้ ปล่อยมันไป ไม่ค่อยมีสติ แบบเหมือนคนโดนสะกดจิต พอตื่นมา ไข้ขึ้นรู้สึกหนาวต้องห่มผ้ากินยาพารา

ล่าสุดมาอีก คือขาประจำคนนี้ แกชอบมาทีเผลอนะ
ตอนไหนเราท้าว่า มุงลองมาอีกดิถ้าแน่จริง!! พูดในจิตตอนทำสมาธิพี่แกไม่มานะ

ไม่อยากคิดว่าเป็นพ่อน้องก้องนะ คงไม่ใช่พ่อน้องก้อง เขาคงไม่ทำแบบนี้กับเรา คิดว่าเจ้ากรรมนายเวรคนอื่น!! เมื่อคืนนั่งสมาธิแผ่บุญกุศลไปให้
เพราะโดนอำถี่เกิน onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ม.ค. 2015, 06:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8586


 ข้อมูลส่วนตัว




10897070_898305030201174_8718650281181762611_n.jpg
10897070_898305030201174_8718650281181762611_n.jpg [ 42.24 KiB | เปิดดู 4055 ครั้ง ]
การปลูกฝังแนวคิดแบบเก่าหลับหูหลับตาทำตามๆกันเป็นประเพณี ทำให้ชาวพุทธอ่อนแอ
มัวหมกมุ่นกับเรื่องเหล่านี พระธรรมคำสอนคือแสงสว่างแห่งพระรัตนตรัยก็จะริบหรี่


แก่นของธรรมแท้อยู่ที่สติ มีสติเป็นหัวหน้าให้พากันหัดทำสติให้ดี ให้สำเหนียก ให้แก่กล้า
สตินะทำเท่าไรก็ไม่ผิด เมื่อมีกำลังสติดีแล้วจิตมันจึงรวม เพราะสติ ให้เป็นสติสัมปชัญญะ
เพราะเหตุนั้นพวกเราต้องอบรมสติ ครั้นมีสติแก่กล้า
ทำให้มันดีแล้ว จะไม่พลาด ทำก็ไม่พลาด พูดก็ไม่พลาด คิดก็ไม่พลาด

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ม.ค. 2015, 09:32 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
ไปเจอความเห็นนึงที่อธิบายเกี่ยวกับผีอำ ค่อนข้างน่าสนใจ แถมมีชื่อพาดพิงผู้ทรงคุณวุฒิในลานธรรมจักรแห่งนี้ :b32: ไม่ว่าไรใช่ไหมค่ะ จะเอามาลงไว้เป็นข้อมูลเพื่อศึกษา เพราะคุนน้องเป็นผีอำบ่อย จะได้ทำใจว่าผีมาอำเพราะเรามีบุญ :b32: แต่ถ้ามาอำเพราะมีความแค้นต่อกันละ!!! :b14:
.......
อันนี้นอกประเ

คุณกบนอกกะลา...


โน..พรอมแพม...คับ.. :b32:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 124 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7 ... 9  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร