วันเวลาปัจจุบัน 28 ก.ค. 2025, 04:56  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 49 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ม.ค. 2015, 21:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2014, 20:13
โพสต์: 709

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณเช่นนั้น :b19: :b19:
หมั่นเข้าหาครูอาจารย์
ไม่รู้จะเข้าหาใครอะค่ะ พอจ.จะมาประจำที่วัดเฉพาะเปิดคอร์ส :b20:
จริงๆ เดี๋ยวนี้เพลาลงเยอะ เรื่องสภาวะ คือแทบจะไม่เหลือ เหตุ...ให้ถาม..เพื่อตัวเอง
ในความรู้สึก เหมือนรู้อยู่.."รู้" ไม่ใช่ว่ารู้นั่นรู้นี่มาก แต่รู้ว่า..ไม่มีอะไรให้เอา แม้แต่ตัวรู้ ถึงเวลามันก็คลาย
ต้องปล่อยคืน หากยังมีสภาวะใดสภาวะหนึ่ง ก็ไม่อาจตั้งอยู่ได้อย่างนั้นตลอดไป ก็ยังต้องหมุนวน..
ไม่รู้จะจบสิ้นเมื่อไหร่
ทีนี้ค่ะ..คุณเช่นนั้น :b3:
เหมือนว่าเริ่มต้นปฏิบัติ อยากรู้นั่น..รู้นี่ ได้นั่น..หลงนี้ไปหมด จนวันหนึ่งได้เข้าใจว่า ที่รู้อยู่นี่..ก็เอาไปไม่ได้
มาถึงเกือบสุดทาง รู้ว่าไม่ให้เอาอะไรไปเลย :b5: แต่เหตุ..ก็คือ มันยังอยากรู้..มันยังอยากจะให้เอา
แต่ต่างจากที่อยากรู้..ในสภาวะ เป็นอยากรู้ในการ..ไร้สภาวะ :b14: ซึ่งมันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
เมื่อหากยังรู้..ก็ยังคงสภาวะ มันหวงตัวรู้..วิ่งตามความอยาก ซะจนปิดกั้นตัวเอง
แต่ติดอยู่ที่ว่า ความอยากมันน้อยลง เรื่องที่อยาก..เลยเหมือนจะเลือกได้ ก็เจาะจงเรื่องเดียวนี่หละค่ะ
เหมือนแมวถูกเลี้ยงดีกินอิ่มไม่ต้องออกไปไหนให้เหนื่อย..แต่ด้วยสัญชาตญานก็ยังอยากตะครุบ
ไม่มีอะไร..ก็วิ่งไล่จับหางตัวมันเอง ก็วนไปอยู่อย่างนั้น
หวังว่าคุณเช่นนั้น..คงเข้าใจไม่รำคาญในความวุ่นวายของไอเดียนะคะ :b20: :b20:
ที่เล่ามานี้..ขอสักนิด..เตือนกันหน่อยค่ะ :b8: :b8:
เรื่องศึกษาพระธรรม
พกคำศัพท์ไว้ในสมองจนเพ้อ เพราะคอยเช็คสภาวะ
แฮะๆ :b15: สำหรับไอเดีย..มีความเป็นไปได้สูง
อภิธรรมคำศัพท์น่าสนใจ เมื่อยังไม่ไปไหน ก็จะได้นำสิ่งที่จะรู้ต่อไป มาบอกคนอื่นต่อ
อภิธรรมที่ทำให้คิดนึกเอออไปตามน่ากลัวอยู่
อภิธรรมเพื่อ มรรคผลนิพพานตรงนี้อธิบายหน่อยค่ะ :b44:
เข้าหาครูบาอาจารย์
ก็คงเป็นท่านอ.เช่นนั้น แหละค่ะ :b19: :b17: ไอเดียพอขับรถเองได้ มันก็ตั้งแต่เริ่มต้น ก็หัดเองผิดๆถูกๆมาตลอด
พอเริ่มคล่อง ก็เถลไถลแวะโน่นแวะนี่ โชคดีมีคุณเช่นนั้นคอยปราม :b17: :b17: อย่าเพิ่งเบื่อกันนะคะ
อยากลัดสั้น
เหมือนอยากจะบอกว่าใช่..แต่ลังเลค่ะ :b9: :b9: ตรงนี้เรื่องใหญ่เลย :b5: :b5:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ม.ค. 2015, 05:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8586


 ข้อมูลส่วนตัว


idea เขียน:
คุณลุงหมาน
มี10บทจบ ฟังแล้วง่ายจัง :b19: :b19:
แล้ว1บทนี่ ใช้เวลานานมั้ยหนอ s006


ไม่จำกัดเวลา

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ม.ค. 2015, 08:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


idea เขียน:
ขอบคุณลุงหมาน สำหรับคำชี้แนะค่ะ
อยู่เชียงใหม่ แต่ที่เรียนไกลไปหน่อย
แต่เรียนทางไปรษณีย์นี่ น่าสนใจมากค่ะ :b20:




ขออนุโมทนาสาธุในกุศลเจตนาที่สนใจเรียนพระอภิธรรมค่ะ

เรียนทางไปรษณีย์ก็ได้ค่ะถ้าไม่สะดวก มีเวลาก็ดูชั้นจูฬตรีทางยูทูปควบคู่กันไปด้วย
ดิฉันก็เรียนทางไปรษณีย์มาก่อนเหมือนกันค่ะ

อย่าเสียความตั้งใจเพราะเหตุผลอื่นๆเสียก่อน ขอให้ตั้งใจที่จะเรียนไม่เปลี่ยนแปลง

การสร้างบ้าน เพิงพัก กระท่อม ก็สร้างขึ้นมาหลบแดดหลบฝนได้ ผีตองเหลืองก็ยังทำได้
แต่การสร้างมหาปราสาทราชวัง บ้านเศรษฐีคหบดีที่วิจิตตระการตา.หากมีความรู้แค่สร้างกระท่อมก็คงไม่พอค่ะ

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ม.ค. 2015, 12:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เห็นแต่ "ความอยาก" .......
จากอยากเข้าถึงสภาวะ ไปจนถึง อยากไร้สภาวะ
กล่าวได้ว่า ตกหลุมความคิดของตนเอง จิตถูกปรุงแต่งด้วยอำนาจของตัณหา

ฝึกจิตให้สงบ ตั้งอยู่ที่ความ "รู้" อันเป็นธรรมชาติของจิต
ตราบใดที่ยังไม่อาจละตัณหาได้ จิตจะแกว่งโดยธรรมชาติของจิตที่มีความสามารถในการปรุงแต่งเองครับ
หยุดแกว่ง ด้วยอำนาจสติสมาธิ ก็หยุดด้วยอำนาจสมถะ
หยุดแกว่ง ด้วยอำนาจปัญญา ก็หยุดด้วยอำนาจวิปัสสนา
ดังนั้น
สองสิ่งนี้ หากมีครูอาจารย์ ที่ผ่านสภาวะนั้นแล้วกำกับชี้แนะ จะเร็วที่สุดลัดสั้นที่สุด
เดินทางอ้อม ก็สนทนากับ ครูอาจารย์ที่เพียงร่ำเรียนมาแต่ยังไม่ได้สภาวะ
เดินทางวกวน ก็ศึกษาอภิธรรม
เดินทางเข้าป่า ก็คือตกหลุมความคิด แล้วหาอ่านที่นู่นที่นี่ครับ
เดินหลงทางเลย ก็สนทนากับคนที่ไม่รู้ไม่เข้าถึงสภาวะ มโนเอาแล้วให้คำแนะนำ

ครูอาจารย์ห่างไกล หากยังพอติดต่อได้ ก็ให้มีฉันทะหาทางติดต่อสื่อสาร
ไม่มีสิ่งใดที่ได้มาโดยไม่พยายามครับ.

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ม.ค. 2015, 14:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8586


 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
เห็นแต่ "ความอยาก" .......
จากอยากเข้าถึงสภาวะ ไปจนถึง อยากไร้สภาวะ
กล่าวได้ว่า ตกหลุมความคิดของตนเอง จิตถูกปรุงแต่งด้วยอำนาจของตัณหา

ฝึกจิตให้สงบ ตั้งอยู่ที่ความ "รู้" อันเป็นธรรมชาติของจิต
ตราบใดที่ยังไม่อาจละตัณหาได้ จิตจะแกว่งโดยธรรมชาติของจิตที่มีความสามารถในการปรุงแต่งเองครับ
หยุดแกว่ง ด้วยอำนาจสติสมาธิ ก็หยุดด้วยอำนาจสมถะ
หยุดแกว่ง ด้วยอำนาจปัญญา ก็หยุดด้วยอำนาจวิปัสสนา
ดังนั้น
สองสิ่งนี้ หากมีครูอาจารย์ ที่ผ่านสภาวะนั้นแล้วกำกับชี้แนะ จะเร็วที่สุดลัดสั้นที่สุด
เดินทางอ้อม ก็สนทนากับ ครูอาจารย์ที่เพียงร่ำเรียนมาแต่ยังไม่ได้สภาวะ
เดินทางวกวน ก็ศึกษาอภิธรรม
เดินทางเข้าป่า ก็คือตกหลุมความคิด แล้วหาอ่านที่นู่นที่นี่ครับ
เดินหลงทางเลย ก็สนทนากับคนที่ไม่รู้ไม่เข้าถึงสภาวะ มโนเอาแล้วให้คำแนะนำ

ครูอาจารย์ห่างไกล หากยังพอติดต่อได้ ก็ให้มีฉันทะหาทางติดต่อสื่อสาร
ไม่มีสิ่งใดที่ได้มาโดยไม่พยายามครับ.


จิต ไม่ว่าจะสูตรไหนๆเลย ที่บอกว่ามีความสามารถที่ปรุงแต่งจิตเองได้
จิตมีสภาพธรรมเป็นเพียงผู้รู้กลับเอามาเป็นผู้แต่งจิตเองได้ (สัทธรรมปฏิรูปครับ)
จิตก็แกว่งได้เหมือนลูกตุ่ม ทำให้หยุดแกว่งก็ได้ ไปกันใหญ่แล้ว

ไม่มีคำสอนของพระพุทธเจ้าเลยว่าลัดสั้นที่สุด มีแต่เป็นไปตามลำดับ

อนุปุพฺพิกถํ
กล่าวความไปตามลำดับ คือ แสดงหลักธรรมหรือเนื้อหาวิชาตามลำดับ
ความง่ายยากลุ่มลึก มีเหตุผลสัมพันธ์ต่อเนื่องกัน แสดงธรรมด้วยอาศัยเมตตา
คือ สอนเขาด้วยจิตเมตตา มุ่งจะให้เป็นประโยชน์แก่เขาไปโดยลำดับ
การสอนเขามิใช่เพราะมุ่งที่ตนจะได้ลาภ สัการะ สรรเสริญ หรือผลประโยชน์ตอบแทน
แสดงธรรมไม่กระทบตนและผู้อื่น คือ สอนตามหลักตามเนื้อหา มุ่งแสดงธรรม
แสดงธรรม ไม่ยกตน ไม่เสียดสีข่มขี่ผู้อื่น

มนุษย์มีน้อยนักที่จะเข้าใจหลักคำสอนของพระอภิธรรม แม้พระพุทธองค์เอง
เมื่อตรัสรู้ใหม่ๆยังเกิดท้อพระทัย จึงได้ไปเทศนาโปรดพุทธมารดาในชั้นดาวดึงส์ เพื่อให้เทวดาฟัง
ในครั้งนั้นก็มีแต่พระสารีบุตรเท่านั้นที่ได้ฟังพระอภิธรรมไปพร้อมๆกับเทวดา

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ม.ค. 2015, 14:25 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2014, 20:13
โพสต์: 709

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: ชัดเจนดีค่ะ คุณเช่นนั้น *ถ้าปกติใจมันยอมแล้วนะ
แต่ก็ขออีกเรื่องนะ Kiss หากลูกศิษย์ กำลังคิดว่า...
อยู่อย่างนี้สบายดี ถึงมันจะวุ่นวาย..แต่ก็เจาะจงเฉพาะเรื่อง
เรื่องอื่นโดยมากสบาย จิตใจไม่ร้อนรนกระวนกระวาย ..มันอิ่มใจสุขใจ.. จะเดินไปไหน ..ผ่านอะไร
เบาสบาย..เพราะคลายจากความยึดติดในหลายสิ่ง..ไม่เอาอะไร จะดีหรือไม่ดีมันก็แค่นั้น
ติดอยู่อย่างนี้ :b9: แต่ลึกๆก็รู้..ว่าควรจะไปต่อ จะเข้าไปสารภาพกะอาจารย์ว่าไม่อยากจะไป งั้นเหรอคะ? :b5:
โดนแน่ๆ :b34: :b34: มันแย่จังนะ..เข้าใจไอเดียใหมคะ..จริงๆนะพูดจากใจ รู้สึกตัวเองโง่แล้วยังอยากจะโง่
คิดถึงเมื่อคืน...ลูกสาวบอกไม่อยากไปรร. เรียนหนังสือแล้ว อยากจะเล่นอยู่บ้าน แล้วโตขึ้นหนูจะไปเป็นหมอ :b14:
คือเดี๋ยวนี้จะนั่งสมาธิก็ไม่นั่งละ อยากหรือไม่อยากไม่รู้ ไม่ได้คิด
แต่ทบทวนดูเวลานี้ :b15: เพราะคิดว่าเรามี(แค่พอสมควรนะคะ)แล้วรึเปล่า สติ,สมาธิ,รู้อยู่กะปัจจุบัน
มันมีอยู่เรื่อยๆ ไม่ตก แต่ก็ไม่เพิ่ม เพราะความอยากยังไม่หมด :b9: :b9:
ทำไมมันอยากหยุดอยู่แค่นี้ :b2: :b2:
คล้ายๆกับว่าพอจ. ให้ไปหาสุดยอดผลไม้ทับทิมสยาม(สมมุติ) :b9: แต่แวะเข้าสวนชิมมะม่วง
รู้ก็รู้ว่ายังไม่ใช่ เพราะทับทิมสีแดงไม่ใช่สีเหลือง แต่ความหอมหวานอร่อย มันก็ยังเชิญชวนให้อยู่ต่อ
แถมด้วยสวนสวย มีที่นั่งสบาย :b5: :b5:
ไม่มีผลปฏิบัติไปรายงาน แล้วจะไปต่อยังไงคะนี่ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ม.ค. 2015, 17:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


คนไม่เห็นประโยชน์ของการเรียนพระอภิธรรมมีเยอะค่ะ
ก็คงเป็นธรรมดานะคะ

การศึกษาพระอภิธรรมตลอดจนถึงการศึกษาคัมภีร์ต่างๆนั้น ว่าด้วยเรื่องสภาวธรรมทั้งสิ้น
ด้วยอำนาจของสุตมยปัญญา จินตมยปัญญา อย่างน้อยความหนาแน่นของกิเลสก็ลดลง
และสามารถเข้าถึงสภาวะของปัญญาเมื่อเกิดความเข้าใจอย่างแท้จริง จะมีสภาวะปรากฏ

อย่าคิดว่าผู้อื่นไม่ปฏิบัติไม่ก้าวหน้า ครูอาจารย์พระอภิธรรมทุกท่านจิตใจงดงามเสียสละจริงๆ
ท่านก็มีความรู้ความเข้าใจทั้งปริยัติและการปฏิบัติค่ะ

ดิฉันอ่านลุงหมานตอบคำถามทุกคำถาม ลุงตอบชัดเจนและให้ความรู้แก่ผู้ถามได้ดีต่ะ
คนที่อ่านไม่เข้าใจบางคนก็คงว่าลุงพูดไม่ได้เรื่องเป็นธรรมดาค่ะลุง

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ม.ค. 2015, 18:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณโสมเขียน

อ้างคำพูด:
คนไม่เห็นประโยชน์ของการเรียนพระอภิธรรมมีเยอะค่ะ
ก็คงเป็นธรรมดานะคะ

การศึกษาพระอภิธรรมตลอดจนถึงการศึกษาคัมภีร์ต่างๆนั้น ว่าด้วยเรื่องสภาวธรรมทั้งสิ้น
ด้วยอำนาจของสุตมยปัญญา จินตมยปัญญา อย่างน้อยความหนาแน่นของกิเลสก็ลดลง
และสามารถเข้าถึงสภาวะของปัญญาเมื่อเกิดความเข้าใจอย่างแท้จริง จะมีสภาวะปรากฏ


อย่าคิดว่าผู้อื่นไม่ปฏิบัติไม่ก้าวหน้า ครูอาจารย์พระอภิธรรมทุกท่านจิตใจงดงามเสียสละจริงๆ
ท่านก็มีความรู้ความเข้าใจทั้งปริยัติและการปฏิบัติค่ะ

ดิฉันอ่านลุงหมานตอบคำถามทุกคำถาม ลุงตอบชัดเจนและให้ความรู้แก่ผู้ถามได้ดีต่ะ
คนที่อ่านไม่เข้าใจบางคนก็คงว่าลุงพูดไม่ได้เรื่องเป็นธรรมดาค่ะลุง



อ่านที่คุุณโสมเขียน
สนใจค่ะ แต่ถ้าไม่ได้อยู่เมืองไทย จะมีโอกาสหรือปล่าวค่ะ
ขอคำแนะนำด้วยค่ะคุณโสมฯ :b1: :b8: :b41: :b55: :b49:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ม.ค. 2015, 19:11 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2014, 20:13
โพสต์: 709

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b1: มาถึงตรงนี้ได้... แต่ละคนล้วนต่างเส้นทางที่เดินมาค่ะคุณโสม
ไม่แปลกที่จะมีความเห็นแตกกันออกไป อย่างไหนก็ใช่..คนไหนก็ถูก
แต่ตรงนี้แยกออกไป คนแบบไหน เห็นใช่เห็นถูกกับคนแบบไหน ก็แล้วแต่วาสนาบารมีจะถึงกัน
ผู้ที่กล้าออกมาให้ความรู้ และไม่หวั่นไหวต่อสถานการณ์ น่าเคารพนับถือ :b8:
เพราะบางทีคนที่ถามอาจไม่ได้..แต่คนที่ฟังกลับได้ก็เยอะ
และยังมีของแถม :b9: ที่ผู้ดูจะได้รู้อะไรมากกว่าในคำถามธรรมดา :b16:
เป็นกำลังใจให้ทุกคนในลานธรรมนี้ค่ะ :b29:
:b41: :b41: :b41:

และสิ่งที่ลุงหมานได้ในตอนนี้ Kiss คือกราบงามๆจากไอเดียค่ะ :b16:
เพราะโทรไปสมัครทันทีเลย ตั้งแต่เช้า โทรสับสนประมานสิบกว่าสาย(อุปสรรคทุกอย่าง) ที่ทำการเปลี่ยนเบอร์ :b14: พอติดเขาบอกจะให้คนติดต่อกลับมาอีกที แต่จะเย็นแล้วใจร้อนโทรไปท้วงกลัวเบอร์ตกหล่น :b7:
แต่ได้ความมาว่า เป็นวันพรุ่งนี้อะค่ะ
รอ..รอ..ละก็รอค่ะ :b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ม.ค. 2015, 22:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b9: :b9: :b9:

มีคำพูด...ดีดี...ของคนดี..มาฝาก

อ้างคำพูด:
สวัสดีค่ะกัลยาณมิตรทั้งหลาย
วันนี้วันพระแรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๒
คนเราทุกคนต่างไม่พ้น
การเวียนว่ายตายเกิด
จะหาทางหนีเกิดได้ต้องรักษาศีล
บำเพ็ญภาวนามีปัญญา
พิจารณาข้อธรรมต่าง ๆ ให้เบื่อหน่ายกายสังขาร
เป็นหนทางสู่มรรคผลนิพพาน
สวัสดีค่ะ


สั้นๆ..ง่ายๆ...ได้ใจความ..ครบ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ม.ค. 2015, 22:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
:b9: :b9: :b9:

มีคำพูด...ดีดี...ของคนดี..มาฝาก

อ้างคำพูด:
สวัสดีค่ะกัลยาณมิตรทั้งหลาย
วันนี้วันพระแรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๒
คนเราทุกคนต่างไม่พ้น
การเวียนว่ายตายเกิด
จะหาทางหนีเกิดได้ต้องรักษาศีล
บำเพ็ญภาวนามีปัญญา
พิจารณาข้อธรรมต่าง ๆ ให้เบื่อหน่ายกายสังขาร
เป็นหนทางสู่มรรคผลนิพพาน
สวัสดีค่ะ


สั้นๆ..ง่ายๆ...ได้ใจความ..ครบ

:b17: :b17:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ม.ค. 2015, 06:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8586


 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน
อ้างคำพูด:
อ่านที่คุุณโสมเขียน
สนใจค่ะ แต่ถ้าไม่ได้อยู่เมืองไทย จะมีโอกาสหรือปล่าวค่ะ
ขอคำแนะนำด้วยค่ะคุณโสมฯ

ถ้าสนใจจะศึกษาติดต่อเธอได้เลย เธอมีจิตใจงามถ้าเป็นต้านการศึกษาธรรมอย่างนี้
รับรองเธอช่วยเต็มที่ที่จะทำได้ ไม่ว่าจะสมัครเรียนหรือในด้านเอกสารต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นธรรมะต่างๆก็สอบถามเธอได้ หรือไม่ว่าท่านใด
ถ้ามีความสนใจจะติดต่อสอบถามหลังไมล์ก็ได้....รับรองเธอยินดี

idea เขียน
อ้างคำพูด:
และสิ่งที่ลุงหมานได้ในตอนนี้ คือกราบงามๆจากไอเดียค่ะ
เพราะโทรไปสมัครทันทีเลย ตั้งแต่เช้า โทรสับสนประมานสิบกว่าสาย(อุปสรรคทุกอย่าง) ที่ทำการเปลี่ยนเบอร์ พอติดเขาบอกจะให้คนติดต่อกลับมาอีกที แต่จะเย็นแล้วใจร้อนโทรไปท้วงกลัวเบอร์ตกหล่น
แต่ได้ความมาว่า เป็นวันพรุ่งนี้อะค่ะ
รอ..รอ..ละก็รอค่ะ


ติดต่อ คุณโสมเลย น่าจะชัดเจนกว่า
เดี๋ยวเธอเป็นธุระให้......

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ม.ค. 2015, 07:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8586


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
นี่ก็มั่วมาก ไม่มีการแสดงเรื่องนี้ในพระสูตร
ยกพระสูตรมาซิลุง แบบพุทธวจนะ ว่า พระองค์ไปแสดงธรรมโปรดพระมารดาในดาวดึงส์
และพระสารีบุตรฟังพระอภิธรรมพร้อมๆกับเทวดา
อย่ามั่วๆ อ้างอรรถกถามาล่ะลุง

ความท้อพระทัยไม่มีแก่พระพุทธองค์ จำไว้นะลุง
พระองค์ ทรงปริวิตก คือคิดโดยรอบ ไม่ใช่ท้อพระทัย ไปมั่วจำมาจากไหนอีกล่ะลุง ^v^

ลุงๆ จิตเป็นสังขตะ หรืออสังขตะ ^v*



http://pantip.com/topic/30136829

http://www.phutthathum.com/%E0%B8%9E%E0 ... 4%E0%B8%B2

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ม.ค. 2015, 07:41 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


s006 s006

พระพุทธเจ้าเทศน์...พระอภิธรรม

ส่วนอภิธรรม 7 คัมภีร์...แต่งขึ้นภายหลัง..เพื่อทำให้เข้าใจอภิธรรมได้ง่ายขึ้น..อย่างนี้ใช่มั้ย,,ลุงหมาน??
:b1: :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ม.ค. 2015, 08:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8586


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
s006 s006

พระพุทธเจ้าเทศน์...พระอภิธรรม

ส่วนอภิธรรม 7 คัมภีร์...แต่งขึ้นภายหลัง..เพื่อทำให้เข้าใจอภิธรรมได้ง่ายขึ้น..อย่างนี้ใช่มั้ย,,ลุงหมาน??
:b1: :b1:

พระพุทธเจ้าโปรดพุทธมารดาเป็นภาษาบาลีล้วนๆ เพราะเป็นภาษาต้นๆ กัปป์
ถ้าเราไม่รู้ภาษาบาลี เราไม่สามารถฟังได้หรอก
ที่เรารู้เรื่องได้เพราะอาศัย อรรถกาจารย์ ฎีกาจารย์ รุ่นหลังๆ ที่รู้บาลี แปลและขยายความให้ไว้

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 49 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร