วันเวลาปัจจุบัน 24 มิ.ย. 2025, 18:00  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 66 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.พ. 2015, 22:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ม.ค. 2011, 09:13
โพสต์: 73


 ข้อมูลส่วนตัว


พระอริยะนี้ไม่มีวันตกตำ่ ที่จะถอยหลังลงคลองนั้นไม่มี มีแต่ขึ้นหรืออยู่กับที่ ถ้ายังมีขึ้นๆลงๆไม่ใช่พระอริยะเจ้า


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.พ. 2015, 05:38 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมาน เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ทำงัย..คนถึงจะมาสนใจศาสนา??


ในคราวที่พระศาสนายังตั้งอยู่ได้อยู่ในเกณท์ ๕๐๐๐ ปีที่พระองค์ได้พุทธยากรณ์ไว้
บางครั้งก็เจริญรุ่งเรืองไปในทางขาขึ้น บางครั้งก็เป็นไปในทางขาลงแต่ก็ยังดำรงอยู่ได้
ศาสนาเกิดขึ้นที่อินเดียก็ยังเสื่อมที่อินเดีย


ลุงหมาน..อาจไม่มีเวลาตอบ..
ถามตอบ..นี้...เพื่อให้เกิดปัญญา..นะครับ

จึงเรียบเรียง...คำถามคำตอบใหม่
ลุงหมาน เขียน:

เมื่อพูดถึงความเสื่อมของพระศาสนา ปริยัติจะเป็นที่ต้องเสื่อมก่อน

ก็เมื่อใดปริยัตินั้นอันตรธานหายไป เมื่อนั้นพระอภิธรรมจักเสื่อมก่อน.
ในพระอภิธรรมนั้น คัมภีร์ปัฏฐานจะอันตรธานก่อนกว่าทุกคัมภีร์.
คัมภีร์ธรรมสังคหะอันตรธานหายไปภายหลัง โดยลำดับ.

เมื่อพระอภิธรรมปิฏกอันตรธานหายไปแล้ว แม้ปิฏกทั้งสองยังคงดำรงอยู่
พระศาสนาย่อมเป็นอันตั้งอยู่ได้. ในปิฏกเหล่านั้น เมื่อพระสุตตันตปิฏกจะอันตรธานหายไป
อังคุตตรนิกายย่อมอันตรธานหายไปก่อน เริ่มแต่เอกาทสกนิบาตจนถึงเอกกนิบาต.

ต่อจากนั้น สังยุตตนิกายย่อมอันตรธานหายไป เริ่มแต่จักกเปยยาลสูตรจนถึงโอฆตรณสูตร.
ต่อจากนั้น มัชฌิมนิกายย่อมอันตรธานหายไป เริ่มแต่อินทริยภาวนาสูตรจนถึงมูลปริยายสูตร.
ต่อจากนั้น ทีฆนิกายย่อมอันตรธานหายไป เริ่มแต่ทสุตตรสูตรจนถึงพรหมชาลสูตร.

ปุจฉาคาถา (คือคาถาที่เป็นคำถาม) คาถาเดียวบ้าง สองคาถาบ้าง ยังอยู่ไปเป็นระยะเวลานาน
แต่ไม่อาจทรงพระศาสนาไว้ได้เหมือน สัพพิยปุจฉา และอาฬวกปุจฉา.

การที่จะรักษาพระศาสนา ปริยัติจึงมีความสำคัญมากกว่า ถ้าช่วยกันศึกษาช่วยกันเรียนให้มากให้นาน
การปฏิบัติกับปฏิเวธก็ทรงอยู่ได้นานเช่นกัน


ผมก็เลยเอาความคิดเด็กๆมาเสนอ...เชิงถามดู
กบนอกกะลา เขียน:
แล้วลุงหมานคิดอย่างผมตอนเด็กๆมั้ยว่า...

ก็สลัก..ตำราลงบนวัสดุที่มันไม่ผุไม่พัง...ทำใหญ่ๆไม่ให้ขโมยยกไปได้...ทำอาคารครอบใว้กันแดดกันฝน...สร้างใว้ในที่ไม่มีแผ่นดินไหว...ไม่มีภูเขาไฟ....น้ำไม่ท่วม...ให้อยู่ได้สักหมื่นปี...

เพียงเท่านี้....ก็เกิน 5000 ปีได้สบายๆ..แล้ว

เด็กยังคิดได้...ทำไมผู้ใหญ่ไม่คิด..
(ตอนนั้น..ก็นึกอยู่ว่า..ทำไมผู้ใหญ่นี้โง่กันจริงๆ) :b9:


ลุงก็แสดงความเห็นมา...ซึ่งผมก็เห็นด้วย..อย่างยิ่ง
ลุงหมาน เขียน:
ปริยัตินั้นไม่เพียงที่ตั้งอยู่ได้แค่เพียงตัวอักษรเท่านั้น
ปริยัตินี้หมายความถึงไม่มีใครสนใจที่จะเข้าไปศึกษาเล่าเรียน
เมื่อไม่มีใครที่จะเล่าเรียนปริยัติก็ต้องอันตรธานไป
คงจะเหลือปฏิบัติกับปฏิเวธ
ที่จะต้องอันตรธานไปด้วย


จึงแสดงทัศนะพร้อมคำถาม
กบนอกกะลา เขียน:
:b17: :b17: :b17:
ตรงใจ...

..สนใจเล่าเรียนศึกษา...ตรงนี้แหละครับ....มันมีคำว่า..คน...เข้ามาเกี่ยวข้อง...

คนสนใจเล่าเรียนศึกษา...ปฏิบัติ...ได้...ศาสนามันก็เจริญ
คนไม่สนใจเล่าเรียนศึกษา....แล้วจะเอาอะไรไปปฏิบัติ...ไม่ปฏิบัติแล้วจะได้อะไร....ศาสนามันก็เสื่อม


คนไม่สนใจ..อย่างเดียว..ต่อให้มีตำราใว้....ปริยัติมันก็เสื่อม
ศาสนาเสื่อมมันถึงอยู่ที่คน...คำว่า..ตำรานั้น..ตำรานี้..อันตรธานหายไป..จึงหมายถึง...คนไม่เข้าใจในตำรานั้นตำรานี้..ต่างหาก


ถ้าจะให้ศาสนาเจริญ....สำคัญคือ...ทำให้คนมาสนใจ

ทำงัย..คนถึงจะมาสนใจศาสนา??


คนไม่สนใจ..อย่างเดียว..ต่อให้มีตำราไว้....ปริยัติมันก็เสื่อม
ต่อความเห็นนี้....เพื่อนๆ คิดเห็นประการใด?

เลยถามต่อเนื่อง..ว่า
ถ้าจะให้ศาสนาเจริญ....สำคัญคือ...ทำให้คนมาสนใจทำงัย..คนถึงจะมาสนใจศาสนา??


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.พ. 2015, 07:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ต.ค. 2010, 10:42
โพสต์: 249

แนวปฏิบัติ: ไม่เอา ไม่เป็น ไม่ยึด
สิ่งที่ชื่นชอบ: ทุกเล่มของท่านพุทธทาส
อายุ: 32
ที่อยู่: สงขลา

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:

เพื่อนๆ คิดเห็นประการใด?

ถ้าจะให้ศาสนาเจริญ....สำคัญคือ...ทำให้คนมาสนใจทำงัย..คนถึงจะมาสนใจศาสนา??


:b8: คุณกบ

ถ้าศาสนาในความหมายของคุณกบคือ พระธรรม
ผมเห็นว่า ถ้าเขาไม่รู้จักทุกข์ เขาก็จะไม่สนใจครับ

:b8:

.....................................................
วงว่างยงอยู่ยั้ง อนันตกาล
ในถิ่นที่ทุกสถาน แหล่งหล้า
ยึดมั่นไป่พบพาน ประจักษ์
ยามปล่อยหยุดไขว่คว้า ถึงได้โดยพลัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.พ. 2015, 07:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8571


 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
ลุงๆ
ยกพระสูตรสิครับว่า พระองค์ตรัสแก่ใคร ที่ใด ว่าพระองค์พยากรณ์ ว่า พระศาสนายังตั้งอยู่ได้อยู่ในเกณฑ์ 5000 ปี


ก็ด้วยบทว่า มหโต ตฬากสฺส ปฏิกจฺเจว ปาลี นี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงความนี้ไว้ว่า เหมือนอย่างว่า เมื่อเขาไม่พูนคันกั้นสระใหญ่ น้ำสักหน่อยหนึ่งก็ไม่ขังอยู่เลย แต่เมื่อเขาปิดไว้ครั้งแรกนั่นแหละ น้ำใดที่ไม่ขังอยู่ เพราะไม่ปิดกั้นเป็นปัจจัย น้ำแม้นั้นก็พึงขังอยู่ได้ฉันใด. ครุธรรมเหล่านี้ก็ฉันนั้นเหมือนกัน เราบัญญัติเสียก่อนเพื่อประโยชน์จะไม่ให้นางภิกษุณีจงใจล่วงละเมิดในเมื่อเรื่องยังไม่เกิดขึ้น เพราะเมื่อเราไม่บัญญัติครุธรรมเหล่านั้น เพราะมาตุคามบวช พระสัทธรรมพึงดำรงอยู่ได้ ๕๐๐ ปี แต่ครุธรรมที่เราบัญญัติไว้เสียก่อน พระสัทธรรมจักดำรงอยู่ได้อีก ๕๐๐ ปี รวมความว่าพระสัทธรรมจักดำรงอยู่ได้เพียง ๑,๐๐๐ ปี ซึ่งได้ตรัสไว้ก่อนดังกล่าวมาฉะนี้.

ก็คำว่า วสฺสสหสฺสํ นี้ ตรัสโดยมุ่งถึงพระขีณาสพผู้บรรลุปฏิสัมภิทาเท่านั้น แต่เมื่อกล่าวให้ยิ่งไปกว่านั้น ๑,๐๐๐ ปี โดยมุ่งถึงพระขีณาสพผู้สุกขวิปัสสก ๑,๐๐๐ ปี โดยมุ่งถึงพระอนาคามี ๑,๐๐๐ ปี โดยมุ่งถึงพระสกทาคามี ๑,๐๐๐ ปี โดยมุ่งถึงพระโสดาบัน ปฏิเวธสัทธรรมจักดำรงอยู่ได้ ๕,๐๐๐ ปีโดยอาการดังกล่าวมานี้ แม้พระปริยัติธรรมก็ดำรงอยู่ได้ ๕,๐๐๐ ปีนั้นเหมือนกัน. เพราะเมื่อปริยัติธรรมไม่มี ปฏิเวธธรรมก็มีไม่ได้ แม้เมื่อปริยัติธรรมไม่มี ปฏิเวธธรรมก็ไม่มี ก็เมื่อปริยัติธรรมแม้อันตรธานไปแล้ว เพศ (แห่งบรรพชิต) ก็จักแปรเป็นอย่างอื่นไปแล.

http://www.84000.org/tipitaka/attha/att ... b=23&i=141

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.พ. 2015, 10:34 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5016


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
แล้วลงหมานคิดอย่างผมตอนเด็กๆมั้ยว่า...

.ก็สลัก..ตำราลงบนวัสดุที่มันไม่ผุไม่พัง...ทำใหญ่ๆไม่ให้ขโมยยกไปได้...ทำอาคารครอบใว้กันแดดกันฝน...สร้างใว้ในที่ไม่มีแผ่นดินไหว...ไม่มีภูเขาไฟ....น้ำไม่ท่วม...ให้อยู่ได้สักหมื่นปี...

เพียงเท่านี้....ก็เกิน 5000 ปีได้สบายๆ..แล้ว

เด็กยังคิดได้...ทำไมผู้ใหญ่ไม่คิด..
(ตอนนั้น..ก็นึกอยู่ว่า..ทำไมผู้ใหญ่นี้โง่กันจริงๆ) :b9:


:b1: เคยคิดนะ

แต่...ก็นึกไปถึง การค้นพบจารึกต่าง ๆ ตามโบราณสถานโบราณวัตถุต่าง ๆ ที่พบเจอไปทั่วโลก
ก็พบว่ายิ่งสิ่งที่พบมีอายุเก่าแก่มากเท่าไร ภาษาเหล่านั้นก็ยิ่งห่างไกลจากความเข้าใจ :b1:

แต่ สัจจะ ยังคงแฝงตัวอย่างเงียบเร้น ยังคงดำเนิน เป็นเช่นนั้น เช่นเคย เช่นเมื่อกาลก่อน
กาลก่อน ๆ และยังคงเป็นเช่นนั้น ตลอดตราบเท่าที่กาลยังคงดำเนินไป

:b1: ตอนนั้น เอกอนเลยเห็น บันทึกอีกฉบับ
ที่บอกความจริงที่ยิ่งกว่าจารึกบนแผ่นหิน หรือ จารึกบนที่ใด ๆ ... :b1:

สัจจะ มีเครื่องมือของ สัจจะ ที่จะถ่ายทอดความเป็น สัจจะ ออกมา
ซึ่่ง เครื่องมือของ สัจจะ ไม่ต้องพยายาม เก็บรักษา
เพราะ สัจจะ ไม่ได้ให้ สิทธิ ในการเก็บรักษากับอะไร หรือ กับผู้ใด
ไม่มีอะไรแบกรับสัจจะได้ นอกจาก สัจจะ เอง

สัจจะ เป็นของสูงค่า
ซึ่งการจะแลกมาให้ได้เข้าถึง ก็ต้องแลกด้วยสิ่งที่สูงค่าที่สุดของเรา ที่เราคิดว่าใช่ของเรานั่นล่ะ

และเมื่อเราวางของสูงค่าของเราลง
เราก็จะเห็น สิ่งนั้นเป็นส่วนหนึ่งของ สัจจะ

:b1:

เป็นเรื่องที่น่าเศร้า ที่เราจะมัวคิดว่าตนนั้นจะไปเป็นพระเจ้า เป็นผู้วิเศษ หรือผู้พิเศษใด ๆ

:b1:

เป็นสิ่งที่ดี ถ้าคนเราจะหมั่นทำความรู้สึกตัว มีสติ เพียรดูแลประครองอารมณ์ให้เหมาะสม
สันติ ก็จะปรากฎ และดำเนินไป

พระเจ้า ต่างก็หวังในสันติจะมีแด่คนทั้งมวล นั่นล่ะ
ซึ่ง พระเจ้า ก็ต้องกระทำสันติให้เกิดกับตัวเองด้วย เน๊อะ พระเจ้า เน๊อะ

:b32: :b32: :b32:

:b9: :b9: :b9:


แก้ไขล่าสุดโดย eragon_joe เมื่อ 07 ก.พ. 2015, 10:59, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.พ. 2015, 10:57 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5016


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
เลยถามต่อเนื่อง..ว่า
ถ้าจะให้ศาสนาเจริญ....สำคัญคือ...ทำให้คนมาสนใจทำงัย..คนถึงจะมาสนใจศาสนา??


:b5: :b5: :b5:

ยุคนี้ สมัยนี้ ตอนนี้ การที่จะทำให้คนมาสนใจศาสนาของตนนั้น เป็นเรื่อง :b5:

การที่จะทำให้คนหันมานับถือศาสนาของตน ยิ่งเป็นเรื่อง :b5:

การที่ต้นไม้จะโอนเอนได้ ก็มีหลายวิธี
1. ด้วยแรงคน
2. ด้วยแรงธรรมชาติ

ต่างวาระ ต่างคนต่างก็มีการเลือกกระทำที่ต่างกัน


สำหรับเอกอน เอกอนชอบภาพทุ้งอ้อพริ้วไหวด้วยแรงลมอ่อน ๆ

:b1:

ซึ่งถ้าหากว่าเอกอนจะต้องน้อมจิตใจคนให้ไปในทิศทางไหนนะ เอกอนก็อยากจะเป็นดั่ง...สายลม...น่ะ

:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.พ. 2015, 23:38 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


โกเมศวร์ เขียน:

:b8: คุณกบ

ถ้าศาสนาในความหมายของคุณกบคือ พระธรรม
ผมเห็นว่า ถ้าเขาไม่รู้จักทุกข์ เขาก็จะไม่สนใจครับ

:b8:

:b8: :b8: :b8:
แมนแล๋ว....


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.พ. 2015, 23:44 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:


สัจจะ มีเครื่องมือของ สัจจะ ที่จะถ่ายทอดความเป็น สัจจะ ออกมา
ซึ่่ง เครื่องมือของ สัจจะ ไม่ต้องพยายาม เก็บรักษา

:b9: :b9: :b9:


ตรงนี้แหละ....สำคัญ
สัจจะ...ต้องเก็บด้วยสัจจะ

ของที่มีเกิด..มีดับ...ไหนเลยจะรักษาสัจจะความจริงได้
สัจจะ..เป็นของไม่เกิด..ไม่ดับ...ก็ต้องรักษาด้วยของไม่เกิด..ไม่ดับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.พ. 2015, 23:48 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
:b1:

ซึ่งถ้าหากว่าเอกอนจะต้องน้อมจิตใจคนให้ไปในทิศทางไหนนะ เอกอนก็อยากจะเป็นดั่ง...สายลม...น่ะ

:b32: :b32: :b32:


สายลม...จะน้อมกิ่งไม้ใบหญ้า..ไปทางไหน...สายลมย่อมต้องพัดไปทางนั้น..ก่อน...เป็นธรรมดา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.พ. 2015, 23:49 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมาน เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
ลุงๆ
ยกพระสูตรสิครับว่า พระองค์ตรัสแก่ใคร ที่ใด ว่าพระองค์พยากรณ์ ว่า พระศาสนายังตั้งอยู่ได้อยู่ในเกณฑ์ 5000 ปี


ก็ด้วยบทว่า มหโต ตฬากสฺส ปฏิกจฺเจว ปาลี นี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงความนี้ไว้ว่า เหมือนอย่างว่า เมื่อเขาไม่พูนคันกั้นสระใหญ่ น้ำสักหน่อยหนึ่งก็ไม่ขังอยู่เลย แต่เมื่อเขาปิดไว้ครั้งแรกนั่นแหละ น้ำใดที่ไม่ขังอยู่ เพราะไม่ปิดกั้นเป็นปัจจัย น้ำแม้นั้นก็พึงขังอยู่ได้ฉันใด. ครุธรรมเหล่านี้ก็ฉันนั้นเหมือนกัน เราบัญญัติเสียก่อนเพื่อประโยชน์จะไม่ให้นางภิกษุณีจงใจล่วงละเมิดในเมื่อเรื่องยังไม่เกิดขึ้น เพราะเมื่อเราไม่บัญญัติครุธรรมเหล่านั้น เพราะมาตุคามบวช พระสัทธรรมพึงดำรงอยู่ได้ ๕๐๐ ปี แต่ครุธรรมที่เราบัญญัติไว้เสียก่อน พระสัทธรรมจักดำรงอยู่ได้อีก ๕๐๐ ปี รวมความว่าพระสัทธรรมจักดำรงอยู่ได้เพียง ๑,๐๐๐ ปี ซึ่งได้ตรัสไว้ก่อนดังกล่าวมาฉะนี้.

ก็คำว่า วสฺสสหสฺสํ นี้ ตรัสโดยมุ่งถึงพระขีณาสพผู้บรรลุปฏิสัมภิทาเท่านั้น แต่เมื่อกล่าวให้ยิ่งไปกว่านั้น ๑,๐๐๐ ปี โดยมุ่งถึงพระขีณาสพผู้สุกขวิปัสสก ๑,๐๐๐ ปี โดยมุ่งถึงพระอนาคามี ๑,๐๐๐ ปี โดยมุ่งถึงพระสกทาคามี ๑,๐๐๐ ปี โดยมุ่งถึงพระโสดาบัน ปฏิเวธสัทธรรมจักดำรงอยู่ได้ ๕,๐๐๐ ปีโดยอาการดังกล่าวมานี้ แม้พระปริยัติธรรมก็ดำรงอยู่ได้ ๕,๐๐๐ ปีนั้นเหมือนกัน. เพราะเมื่อปริยัติธรรมไม่มี ปฏิเวธธรรมก็มีไม่ได้ แม้เมื่อปริยัติธรรมไม่มี ปฏิเวธธรรมก็ไม่มี ก็เมื่อปริยัติธรรมแม้อันตรธานไปแล้ว เพศ (แห่งบรรพชิต) ก็จักแปรเป็นอย่างอื่นไปแล.

http://www.84000.org/tipitaka/attha/att ... b=23&i=141

สรุปว่า....อายุศาสนา 5000 ปี...เป็นความคิดวิเคราะห์...ดอกหรือนี้

:b7: :b6: :b6: :b6:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.พ. 2015, 00:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:

คนไม่สนใจ..อย่างเดียว..ต่อให้มีตำราใว้....ปริยัติมันก็เสื่อม
ต่อความเห็นนี้....เพื่อนๆ คิดเห็นประการใด?

เลยถามต่อเนื่อง..ว่า
ถ้าจะให้ศาสนาเจริญ....สำคัญคือ...ทำให้คนมาสนใจทำงัย..คนถึงจะมาสนใจศาสนา??


อยากให้ลูกเป็นคนดีมีความซื่อสัตย์....พ่อแม่ก็ต้องทำดีมีความซื่อสัตย์...การเป็นตัวอย่างที่ดี..นี้แหละ...คือการ..บอกที่...ดีที่สุด...มีอิทธิผลที่สุด...มีเสน่ห์ที่สุด

ไม่ใช่...การเอาแต่พูด.ๆ ๆ ..

การอยากให้ใครสนใจในพระธรรมคำสั่งสอน....ตัวเองต้องทำก่อน...ทำให้ดีก่อน...ทำให้ได้ก่อน...เมื่อตนเอง..ลดละเลิก...ความชั่วไปได้เท่าไร....ความมุทาย่อมปรากฎมากเท่านั้น...ผู้พบเห็นย่อมสัมผัสได้....ดั่งที่..พระอัสชิ....ทรงทำให้พระสารีบุตรสนใจใคร่ศึกษา...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.พ. 2015, 15:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ลุงหมาน เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
ลุงๆ
ยกพระสูตรสิครับว่า พระองค์ตรัสแก่ใคร ที่ใด ว่าพระองค์พยากรณ์ ว่า พระศาสนายังตั้งอยู่ได้อยู่ในเกณฑ์ 5000 ปี


ก็ด้วยบทว่า มหโต ตฬากสฺส ปฏิกจฺเจว ปาลี นี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงความนี้ไว้ว่า เหมือนอย่างว่า เมื่อเขาไม่พูนคันกั้นสระใหญ่ น้ำสักหน่อยหนึ่งก็ไม่ขังอยู่เลย แต่เมื่อเขาปิดไว้ครั้งแรกนั่นแหละ น้ำใดที่ไม่ขังอยู่ เพราะไม่ปิดกั้นเป็นปัจจัย น้ำแม้นั้นก็พึงขังอยู่ได้ฉันใด. ครุธรรมเหล่านี้ก็ฉันนั้นเหมือนกัน เราบัญญัติเสียก่อนเพื่อประโยชน์จะไม่ให้นางภิกษุณีจงใจล่วงละเมิดในเมื่อเรื่องยังไม่เกิดขึ้น เพราะเมื่อเราไม่บัญญัติครุธรรมเหล่านั้น เพราะมาตุคามบวช พระสัทธรรมพึงดำรงอยู่ได้ ๕๐๐ ปี แต่ครุธรรมที่เราบัญญัติไว้เสียก่อน พระสัทธรรมจักดำรงอยู่ได้อีก ๕๐๐ ปี รวมความว่าพระสัทธรรมจักดำรงอยู่ได้เพียง ๑,๐๐๐ ปี ซึ่งได้ตรัสไว้ก่อนดังกล่าวมาฉะนี้.

ก็คำว่า วสฺสสหสฺสํ นี้ ตรัสโดยมุ่งถึงพระขีณาสพผู้บรรลุปฏิสัมภิทาเท่านั้น แต่เมื่อกล่าวให้ยิ่งไปกว่านั้น ๑,๐๐๐ ปี โดยมุ่งถึงพระขีณาสพผู้สุกขวิปัสสก ๑,๐๐๐ ปี โดยมุ่งถึงพระอนาคามี ๑,๐๐๐ ปี โดยมุ่งถึงพระสกทาคามี ๑,๐๐๐ ปี โดยมุ่งถึงพระโสดาบัน ปฏิเวธสัทธรรมจักดำรงอยู่ได้ ๕,๐๐๐ ปีโดยอาการดังกล่าวมานี้ แม้พระปริยัติธรรมก็ดำรงอยู่ได้ ๕,๐๐๐ ปีนั้นเหมือนกัน. เพราะเมื่อปริยัติธรรมไม่มี ปฏิเวธธรรมก็มีไม่ได้ แม้เมื่อปริยัติธรรมไม่มี ปฏิเวธธรรมก็ไม่มี ก็เมื่อปริยัติธรรมแม้อันตรธานไปแล้ว เพศ (แห่งบรรพชิต) ก็จักแปรเป็นอย่างอื่นไปแล.

http://www.84000.org/tipitaka/attha/att ... b=23&i=141

สรุปว่า....อายุศาสนา 5000 ปี...เป็นความคิดวิเคราะห์...ดอกหรือนี้

:b7: :b6: :b6: :b6:

ถูกแล้วครับ คุณกบ
พุทธวจนะ ไม่มีครับ
ยกรอยๆ กันขึ้นมาแล้ว ตู่ว่าพระพุทธองค์กล่าวครับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.พ. 2015, 21:03 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่น่าเรียกว่า....ตู่นะ....เพราะชัดเจนว่าเป็นอรรถกถา

ผมว่า.. :b6:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ก.พ. 2015, 19:04 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.ค. 2013, 21:44
โพสต์: 173

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมาน เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
ลุงๆ
ยกพระสูตรสิครับว่า พระองค์ตรัสแก่ใคร ที่ใด ว่าพระองค์พยากรณ์ ว่า พระศาสนายังตั้งอยู่ได้อยู่ในเกณฑ์ 5000 ปี


ก็ด้วยบทว่า มหโต ตฬากสฺส ปฏิกจฺเจว ปาลี นี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงความนี้ไว้ว่า เหมือนอย่างว่า เมื่อเขาไม่พูนคันกั้นสระใหญ่ น้ำสักหน่อยหนึ่งก็ไม่ขังอยู่เลย แต่เมื่อเขาปิดไว้ครั้งแรกนั่นแหละ น้ำใดที่ไม่ขังอยู่ เพราะไม่ปิดกั้นเป็นปัจจัย น้ำแม้นั้นก็พึงขังอยู่ได้ฉันใด. ครุธรรมเหล่านี้ก็ฉันนั้นเหมือนกัน เราบัญญัติเสียก่อนเพื่อประโยชน์จะไม่ให้นางภิกษุณีจงใจล่วงละเมิดในเมื่อเรื่องยังไม่เกิดขึ้น เพราะเมื่อเราไม่บัญญัติครุธรรมเหล่านั้น เพราะมาตุคามบวช พระสัทธรรมพึงดำรงอยู่ได้ ๕๐๐ ปี แต่ครุธรรมที่เราบัญญัติไว้เสียก่อน พระสัทธรรมจักดำรงอยู่ได้อีก ๕๐๐ ปี รวมความว่าพระสัทธรรมจักดำรงอยู่ได้เพียง ๑,๐๐๐ ปี ซึ่งได้ตรัสไว้ก่อนดังกล่าวมาฉะนี้.

ก็คำว่า วสฺสสหสฺสํ นี้ ตรัสโดยมุ่งถึงพระขีณาสพผู้บรรลุปฏิสัมภิทาเท่านั้น แต่เมื่อกล่าวให้ยิ่งไปกว่านั้น ๑,๐๐๐ ปี โดยมุ่งถึงพระขีณาสพผู้สุกขวิปัสสก ๑,๐๐๐ ปี โดยมุ่งถึงพระอนาคามี ๑,๐๐๐ ปี โดยมุ่งถึงพระสกทาคามี ๑,๐๐๐ ปี โดยมุ่งถึงพระโสดาบัน ปฏิเวธสัทธรรมจักดำรงอยู่ได้ ๕,๐๐๐ ปีโดยอาการดังกล่าวมานี้ แม้พระปริยัติธรรมก็ดำรงอยู่ได้ ๕,๐๐๐ ปีนั้นเหมือนกัน. เพราะเมื่อปริยัติธรรมไม่มี ปฏิเวธธรรมก็มีไม่ได้ แม้เมื่อปริยัติธรรมไม่มี ปฏิเวธธรรมก็ไม่มี ก็เมื่อปริยัติธรรมแม้อันตรธานไปแล้ว เพศ (แห่งบรรพชิต) ก็จักแปรเป็นอย่างอื่นไปแล.

http://www.84000.org/tipitaka/attha/att ... b=23&i=141




อนุโมทนา สาธุค่ะคุณลุง หนู๋ยังเป็นผู้ที่มีกิเลสชุ่มอย่างหนาแน่นมากถึงมากที่สุด
มืดบอดมากมาย ไม่กล้าแม้แต่จะปริปากโต้ตอบ
เพราะแค่นี้กิเลสก็เกาะกินใจหนู๋มากมายแล้วค่ะ เอาเป็นว่าขอฟังและถามลุงนะค่ะ
ถ้าสงสัยอะไร ขอบคุณที่ชี้ทางและสอนแบบมีเหตุและผล และหนทางการแก้ไข
แบบมีสติและไม่งมงาย :b8: :b8: :b8: :b8: :b8: :b8:


คำถามค่ะ จำเป็นไหมค่ะที่เราต้องศึกษาทุกๆพระสูตรในการเรียนพระอภิธรรม :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ก.พ. 2015, 22:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
สรุปว่า....อายุศาสนา 5000 ปี...เป็นความคิดวิเคราะห์...ดอกหรือนี้

:b7: :b6: :b6: :b6:

ถูกแล้วครับ คุณกบ
พุทธวจนะ ไม่มีครับ
ยกรอยๆ กันขึ้นมาแล้ว ตู่ว่าพระพุทธองค์กล่าวครับ


มิน่าละ....ที่ผู้เฒ่าผู้แก่...บอกว่า.."กึ่งพุทธกาลแล้ว...ไม่มีพระอรหันต์หรอก"

มาจากคำพูดนี้เอง

ลุงหมาน เขียน:
ก็ด้วยบทว่า มหโต ตฬากสฺส ปฏิกจฺเจว ปาลี นี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงความนี้ไว้ว่า เหมือนอย่างว่า เมื่อเขาไม่พูนคันกั้นสระใหญ่ น้ำสักหน่อยหนึ่งก็ไม่ขังอยู่เลย แต่เมื่อเขาปิดไว้ครั้งแรกนั่นแหละ น้ำใดที่ไม่ขังอยู่ เพราะไม่ปิดกั้นเป็นปัจจัย น้ำแม้นั้นก็พึงขังอยู่ได้ฉันใด. ครุธรรมเหล่านี้ก็ฉันนั้นเหมือนกัน เราบัญญัติเสียก่อนเพื่อประโยชน์จะไม่ให้นางภิกษุณีจงใจล่วงละเมิดในเมื่อเรื่องยังไม่เกิดขึ้น เพราะเมื่อเราไม่บัญญัติครุธรรมเหล่านั้น เพราะมาตุคามบวช พระสัทธรรมพึงดำรงอยู่ได้ ๕๐๐ ปี แต่ครุธรรมที่เราบัญญัติไว้เสียก่อน พระสัทธรรมจักดำรงอยู่ได้อีก ๕๐๐ ปี รวมความว่าพระสัทธรรมจักดำรงอยู่ได้เพียง ๑,๐๐๐ ปี ซึ่งได้ตรัสไว้ก่อนดังกล่าวมาฉะนี้.

ก็คำว่า วสฺสสหสฺสํ นี้ ตรัสโดยมุ่งถึงพระขีณาสพผู้บรรลุปฏิสัมภิทาเท่านั้น แต่เมื่อกล่าวให้ยิ่งไปกว่านั้น ๑,๐๐๐ ปี โดยมุ่งถึงพระขีณาสพผู้สุกขวิปัสสก ๑,๐๐๐ ปี โดยมุ่งถึงพระอนาคามี ๑,๐๐๐ ปี โดยมุ่งถึงพระสกทาคามี ๑,๐๐๐ ปี โดยมุ่งถึงพระโสดาบัน ปฏิเวธสัทธรรมจักดำรงอยู่ได้ ๕,๐๐๐ ปีโดยอาการดังกล่าวมานี้ แม้พระปริยัติธรรมก็ดำรงอยู่ได้ ๕,๐๐๐ ปีนั้นเหมือนกัน. เพราะเมื่อปริยัติธรรมไม่มี ปฏิเวธธรรมก็มีไม่ได้ แม้เมื่อปริยัติธรรมไม่มี ปฏิเวธธรรมก็ไม่มี ก็เมื่อปริยัติธรรมแม้อันตรธานไปแล้ว เพศ (แห่งบรรพชิต) ก็จักแปรเป็นอย่างอื่นไปแล.

http://www.84000.org/tipitaka/attha/att ... b=23&i=141


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 66 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร