วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 20:49  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 8 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.พ. 2015, 20:14 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2015, 21:55
โพสต์: 1239

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ษุในศาสนานี้ เจริญอิทธิบาทอันประกอบด้วยสมาธิยิ่งด้วยฉันทะ และสังขารอันเป็นประธาน ... ครั้นแล้วย่อมรู้อย่างนี้ว่า รูปนี้เกิดขึ้นด้วย โสมนัสสินทรีย์ รูปนี้เกิดขึ้นด้วยโทมนัสสินทรีย์ รูปนี้เกิดขึ้นด้วยอุเบกขินทรีย์ ภิกษุนั้นมีจิตอันอบรมแล้วอย่างนั้น บริสุทธิ์ ผ่องแผ้ว ย่อมโน้มน้อมจิตไปเพื่อ เจโตปริยญาณ เธอย่อมกำหนดรู้ใจของสัตว์อื่นของบุคคลอื่นด้วยใจของตน คือ จิตมีราคะก็รู้ว่า จิตมีราคะ หรือจิตปราศจากราคะก็รู้ว่า จิตปราศจากราคะ จิตมีโทสะก็รู้ว่า จิตมีโทสะ หรือจิตปราศจากโทสะก็รู้ว่า จิตปราศจากโทสะ จิตมีโมหะก็รู้ว่า จิตมีโมหะ หรือจิตปราศจากโมหะก็รู้ว่า จิตปราศจากโมหะ จิตหดหู่ก็รู้ว่า จิตหดหู่ หรือจิตฟุ้งซ่านก็รู้ว่า จิตฟุ้งซ่าน จิตเป็นมหรคตก็รู้ว่า จิตเป็นมหรคต หรือจิตไม่เป็นมหรคตก็รู้ว่า จิตไม่เป็นมหรคต จิตมีจิตอื่นยิ่งกว่า ก็รู้ว่า จิตมีจิตอื่นยิ่งกว่า หรือจิตไม่มีจิตอื่นยิ่งกว่าก็รู้ว่า จิตไม่มีจิตอื่นยิ่งกว่า จิตเป็นสมาธิก็รู้ว่า จิตเป็นสมาธิ หรือจิตไม่เป็นสมาธิก็รู้ว่า จิตไม่เป็นสมาธิ จิตหลุดพ้นก็รู้ว่า จิตหลุดพ้น หรือจิตไม่หลุดพ้นก็รู้ว่า จิตไม่หลุดพ้น จิตน้อม ไปก็รู้ว่า จิตน้อมไป หรือจิตไม่น้อมไปก็รู้ว่า จิตไม่น้อมไป ฯ

เราต้องสังเกตใส่ใจรู้ทันจิต เวลาจะคิด กำหนดจะคิดดับๆ เวลาจะหายกำหนดจะหายดับๆ เวลาความคิดหายไปแล้ว กำหนดหายดับๆ ไม่หายกำหนดไม่หายดับๆ เวลาจะหดหู่ กำหนดจะหดหู่ดับๆ ความหดหู่จะหายไปกำหนดจะหายดับๆ หายแล้วกำหนดหายดับๆ ไม่หายกำหนดไม่หายดับๆ เวลาจะฟุ้งซ่านกำหนดจะฟุ้งซ่านดับ ความฟุ้งซ่านจะหายกำหนดจะหายดับๆ ไม่หาย กำหนดไม่หายดับๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.พ. 2015, 01:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


ลองทำดูแล้ว
มีประโยชน์ต่อการกำหนดจิต

ถ้าผมทำจะต้องกำหนดจิตสลับกำหนดอารมณ์ คือลงกันสมกัน แต่คนละเทคนิคนั่นเอง
อนุโมทนาครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.พ. 2015, 06:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


รู้ทันเหตุของ...จะ...

จะ...จึงจะดับด้วย..ปัญญา....ลดการเกิด..จะ...ในโอกาสต่อๆไป

จะต่างจาก....จะ..ที่ดับไปเองตามกฎของไตรลักษณ์...ดับไปเพราะจิตจับอารมณ์อื่นขึ้นมาแทน

แม้การรู้ทันเหตุของ...จะ...
จะ...ถูกดับด้วย..ปัญญา...ในขั้นแรกๆ....ก็ยังไม่ใช่การ..ดับ...ที่เป็นสมุจเฉทปหาน มันสงบลงชั่วคราวเพราะปัญญา...สุขสงบแบบนี้ยังเสื่อมได้อยู่

เมื่อจิตสงบลงแล้ว...จึงควรในงานวิปัสสนาญาณ 9 ต่อไปตาม...เป็นลำดับๆ...ครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.พ. 2015, 10:41 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2015, 21:55
โพสต์: 1239

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


การดับที่ถูกต้องมันต้องด้บด้วยการรู้ การเห็น ดับด้วยปัญญามันถึงจะถูกต้อง ถึงเป็นอริยมรรค การดับที่ถูกต้องเห็นต้น กลาง สุด ของการดับ (สังเกตด้วยดีย่อมเกิดปัญญา รู้เห็นตามความเป็นจริง เห็นดับเป็นดับจริงๆ นั่นแหละเรียกสัมมาทิฎฐิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.พ. 2015, 23:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


muisun เขียน:
การดับที่ถูกต้องมันต้องด้บด้วยการรู้ การเห็น ดับด้วยปัญญามันถึงจะถูกต้อง ถึงเป็นอริยมรรค การดับที่ถูกต้องเห็นต้น กลาง สุด ของการดับ (สังเกตด้วยดีย่อมเกิดปัญญา รู้เห็นตามความเป็นจริง เห็นดับเป็นดับจริงๆ นั่นแหละเรียกสัมมาทิฎฐิ


การเกิดดับเป็นทุกข์ครับ การดับลงของธรรมทั้งปวงเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อพิจารณาด้วยความตั่งใจมั่นแล้วด้วยอาศัยสติ ก็จะเห็นการปรากฎขึ้นของธรรมทั้งปวง เมื่อเห็นแล้วจึงต้องใช้ปัญญาวิเคาะห์ตามความเป็นจริงว่าธรรมทั้งหลายเป็นทุกข์ ไม่เที่ยง เป็นอนัตตา เห็นดังนี้แล้วจึงจะเกิดความรู้แจ้ง เป็นสัมมาทิฎฐิ เป็นมรรค เกิดวิปัสสนาญาณ เป็นเหตุให้เกิดความปล่อยวางในธรรมทั้งปวง ไม่ยึดถือว่าเป็นเราเป็นเขา เข้าสู่ความสงบคือนิโรธ

การดับจริงๆคือการประหารกิเลสให้ดับลง จึงจะเรียกดับจริงๆ

แต่ถ้าการเกิดดับลงของธรรมนั้น เกิดดับเป็นเรื่องธรรมดา นี่คือความเข้าใจของผม ผมมีความเข้าใจว่าอย่างนี้

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.พ. 2015, 23:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


คำถามคือ ท่องดับๆ เพราะกิเลสดับ หรือ ธรรมเกิดดับ

เพราะกิเลสดับก็ไม่ต้องท่องแล้ว สิ้นกิจ กิจยิ่งกว่านี้ไม่มี

แต่ถ้าท่องดับๆนั้น ธรรมทั้งปวงเกิดดับเป็นเรื่องธรรมดา ควรเข้าไปเห็น

คนที่มีอายุอยู่แค่วันเดียว แต่เห็นการเกิดดับของธรรม(นามรูป) ยังดีกว่าคนที่มีอายุ100ปี แต่ไม่เคยพิจารณาเลย

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.พ. 2015, 23:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


สมมุติโกรธใครสักคน อย่างนี้ต้องเอาปัญญาเข้าไปดับ คือเจริญเมตตา เพราะเป็นธรรมตรงกันข้าม ความโกรธจึงจะดับลง ไม่ใช่ธรรมต่อหน้าเราพยายามไปบังคับให้มันดับๆๆ ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา บังคับไม่ได้ ไม่อยู่ในบังคับบัญชา เราเป็นผู้ที่สร้างความเพียรเข้าไปสังเกตุ อนุโมทนาครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 มี.ค. 2015, 15:14 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2015, 21:55
โพสต์: 1239

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เค้าเกิดดับของเค้าเป็นธรรมดาอยู่แล้ว เราเพียงสังเกตความเปลี่ยนแปลงและรู้ทันในสิ่งนั้นก็จะเกิดญาณ ปัญญา รู้เห็นตามความเป็นจริง


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 8 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร