วันเวลาปัจจุบัน 02 ส.ค. 2025, 20:49  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 16 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มี.ค. 2015, 20:31 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.พ. 2015, 21:06
โพสต์: 84

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตอนเริ่มปฏิบัติได้ 3 เดิอน รู้สึกศรัทธาหลวงปู่มั่นมากๆค่ะองค์เดียวในดวงใจ
พระพุทธองค์ก็ศรัทราแต่ตอนนั้นมีความรู้สึกว่าท่านอยู่ห่างไกลมาก
(ตอนนี้ศรัทธาทุกลมหายใจเข้าออก)
แต่แปลกใจที่ฝันถึงพระองค์ เห็นพระพักตร์ไม่ชัดแต่รู้ว่าพระองค์
ทรงตรัสว่า ให้ลอกใยบัวออกจากก้านทางปลายดอก ไปหาโคนดอก
(ซึ่งในฝันดิฉันถือดอกบัวกำใหญ่ ก้านยาวมาก) แล้วให้นำไปถวายพระ
พระองค์ตรัสเท่านี้ :b48: ตอนนี้ยังจำขึ้นใจในฝันนั้น
ดิฉันลองน้อมคำสอนในฝันนั้นมาคิดว่า การที่ให้ลอกใยบัวทางปลายดอกไปหา
โคนดอก เปรียบคือ โลกเขาทำอย่างไรเราจะไม่ทำและคิดเหมือนโลก
ถึงจะออกจากกระแสโลกได้
:b48: แล้วนำไปถวายพระ เปรียบ คือให้รีบตัดภพตัดชาติ

Kiss ฝันนี้เป็นแรงบัลดาลใจให้ดิฉันเริ่มเดินทางค่ะ Kiss


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มี.ค. 2015, 20:59 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

ฝันดี..มากเลยนะครับ...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มี.ค. 2015, 21:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.พ. 2015, 21:06
โพสต์: 84

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


cool :b27: :b27: :b27:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มี.ค. 2015, 21:51 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2014, 20:13
โพสต์: 709

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:
rolleyes rolleyes rolleyes


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มี.ค. 2015, 21:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


:b8: :b8: :b8:

อ้างคำพูด:
[๓๖] เมื่อพระพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุตระ เชษฐบุรุษของโลก ผู้คงที่เสด็จ                           
ดำเนินทางไกล เที่ยวจาริกไป ในเวลานั้น เราได้ถือเอาดอกปทุม ดอก                          
อุบล และดอกมะลิซ้อนอันบานสะพรั่ง และถือข้าว (สุก) ชั้นพิเศษมา                           
ถวายแด่พระศาสดา พระมหาวีรชินเจ้า ทองเสวยข้าวชั้นพิเศษอันเป็น                          
โภชนะดี และทรงรับดอกไม้นั้นแล้ว ทรงยังเราให้รื่นเริงว่า ผู้ใดได้                           
ถวายดอกปทุมอันอุดม เป็นที่ปรารถนา เป็นที่ใคร่ในโลกนี้แก่เรา ผู้นั้น                           
ทำกรรมที่ทำได้ยากนัก ผู้ใดได้บูชาดอกไม้ และได้ถวายข้าวชั้นพิเศษ                           
แก่เรา เราจักพยากรณ์ผู้นั้น ท่านทั้งหลายจงฟังเรากล่าว ผู้นั้นจักได้เสวย                           
เทวรัชสมบัติ ๑๘ ครั้ง ดอกอุบล ดอกปทุม และดอกมะลิซ้อน จะมีใน                           
เบื้องบนผู้นั้นด้วยผลแห่งบุญนั้น ผู้นั้นจักสร้างหลังคาอันประกอบด้วย                           
ของหอมอันเป็นทิพย์ไว้ในอากาศ จักทรงไว้ในเวลานั้น จักได้เป็นพระเจ้า                           
จักรพรรดิ ๒๕ ครั้ง จักได้เป็นพระราชาในแผ่นดินครอบครองพสุธา ๕๐๐                           
ครั้ง ในกัลปที่แสน พระศาสดามีพระนามชื่อว่าโคดม ซึ่งมีสมภพใน                           
วงศ์พระเจ้าโอกกากราช จักเสด็จอุบัติในโลก ผู้นั้นปรารถนาในกรรมของ                           
ตน อันกุศลมูลตักเตือนแล้ว จักได้เป็นบุตรผู้มีชื่อเสียง ทำความเพลิด                           
เพลินให้เกิดแก่เจ้าศากยะทั้งหลายแต่ภายหลัง ผู้นั้นอันกุศลมูลตักเตือน                           
แล้วจักบวช จักกำหนดรู้อาสวะทั้งปวงแล้วไม่มีอาสวะนิพพาน พระ                           
โคดมผู้เผ่าพันธุ์ของโลก จักทรงตั้งผู้นั้นซึ่งบรรลุปฏิสัมภิทา ได้ทำกิจที่                           
ควรทำเสร็จแล้ว ไม่มีอาสวะ ในเอตทัคคสถาน ผู้นั้นมีตนส่งไปแล้ว                           
เพื่อความเพียร สงบระงับ ไม่มีอุปธิ จักเป็นสาวกของพระศาสดา                           
มีนามชื่อว่าอุทายี เรากำจัดราคะ โทสะ โมหะ มานะ และมักขะ                           
ได้แล้ว กำหนดรู้อาสวะทั้งปวงแล้ว ไม่มีอาสวะอยู่ เรายังพระสัม                           
พุทธเจ้าให้ทรงโปรดปราน มีความเพียร มีปัญญา และพระสัมพุทธเจ้า                           
ทรงเลื่อมใส ทรงตั้งเราไว้ในเอตทัคคสถาน คุณวิเศษเหล่านี้ คือ                           
ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว พระ                           
พุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.              

ทราบว่า ท่านพระกาฬุทายีเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.


พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๔ ขุททกนิกาย
อปทาน ภาค ๑ กาฬุทายีเถราปทาน
http://www.84000.org/tipitaka/read/?32/36

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มี.ค. 2015, 21:58 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.พ. 2015, 21:06
โพสต์: 84

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


นายฏีกาน้อย เขียน:
:b8: :b8: :b8:

อ้างคำพูด:
[๓๖] เมื่อพระพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุตระ เชษฐบุรุษของโลก ผู้คงที่เสด็จ                           
ดำเนินทางไกล เที่ยวจาริกไป ในเวลานั้น เราได้ถือเอาดอกปทุม ดอก                          
อุบล และดอกมะลิซ้อนอันบานสะพรั่ง และถือข้าว (สุก) ชั้นพิเศษมา                           
ถวายแด่พระศาสดา พระมหาวีรชินเจ้า ทองเสวยข้าวชั้นพิเศษอันเป็น                          
โภชนะดี และทรงรับดอกไม้นั้นแล้ว ทรงยังเราให้รื่นเริงว่า ผู้ใดได้                           
ถวายดอกปทุมอันอุดม เป็นที่ปรารถนา เป็นที่ใคร่ในโลกนี้แก่เรา ผู้นั้น                           
ทำกรรมที่ทำได้ยากนัก ผู้ใดได้บูชาดอกไม้ และได้ถวายข้าวชั้นพิเศษ                           
แก่เรา เราจักพยากรณ์ผู้นั้น ท่านทั้งหลายจงฟังเรากล่าว ผู้นั้นจักได้เสวย                           
เทวรัชสมบัติ ๑๘ ครั้ง ดอกอุบล ดอกปทุม และดอกมะลิซ้อน จะมีใน                           
เบื้องบนผู้นั้นด้วยผลแห่งบุญนั้น ผู้นั้นจักสร้างหลังคาอันประกอบด้วย                           
ของหอมอันเป็นทิพย์ไว้ในอากาศ จักทรงไว้ในเวลานั้น จักได้เป็นพระเจ้า                           
จักรพรรดิ ๒๕ ครั้ง จักได้เป็นพระราชาในแผ่นดินครอบครองพสุธา ๕๐๐                           
ครั้ง ในกัลปที่แสน พระศาสดามีพระนามชื่อว่าโคดม ซึ่งมีสมภพใน                           
วงศ์พระเจ้าโอกกากราช จักเสด็จอุบัติในโลก ผู้นั้นปรารถนาในกรรมของ                           
ตน อันกุศลมูลตักเตือนแล้ว จักได้เป็นบุตรผู้มีชื่อเสียง ทำความเพลิด                           
เพลินให้เกิดแก่เจ้าศากยะทั้งหลายแต่ภายหลัง ผู้นั้นอันกุศลมูลตักเตือน                           
แล้วจักบวช จักกำหนดรู้อาสวะทั้งปวงแล้วไม่มีอาสวะนิพพาน พระ                           
โคดมผู้เผ่าพันธุ์ของโลก จักทรงตั้งผู้นั้นซึ่งบรรลุปฏิสัมภิทา ได้ทำกิจที่                           
ควรทำเสร็จแล้ว ไม่มีอาสวะ ในเอตทัคคสถาน ผู้นั้นมีตนส่งไปแล้ว                           
เพื่อความเพียร สงบระงับ ไม่มีอุปธิ จักเป็นสาวกของพระศาสดา                           
มีนามชื่อว่าอุทายี เรากำจัดราคะ โทสะ โมหะ มานะ และมักขะ                           
ได้แล้ว กำหนดรู้อาสวะทั้งปวงแล้ว ไม่มีอาสวะอยู่ เรายังพระสัม                           
พุทธเจ้าให้ทรงโปรดปราน มีความเพียร มีปัญญา และพระสัมพุทธเจ้า                           
ทรงเลื่อมใส ทรงตั้งเราไว้ในเอตทัคคสถาน คุณวิเศษเหล่านี้ คือ                           
ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว พระ                           
พุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.              

ทราบว่า ท่านพระกาฬุทายีเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.


พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๔ ขุททกนิกาย
อปทาน ภาค ๑ กาฬุทายีเถราปทาน
http://www.84000.org/tipitaka/read/?32/36


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มี.ค. 2015, 09:52 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2960


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มี.ค. 2015, 22:03 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ฝัน....บ่อยครั้ง...ที่มันแสดงถึง...คุณภาพจิตใจของผู้ฝัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มี.ค. 2015, 10:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.พ. 2015, 21:06
โพสต์: 84

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue :b16: :b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มี.ค. 2015, 13:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เพียงความฝัน ก็คือนิมิต
เป็นสารเคมีที่เกิดขึ้นในสมอง ปรุงแต่งขึ้นมาเอง เป็นอนัตตา ไม่ควรยึดมั่นถือเอาเป็นตุเป็นตะ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มี.ค. 2015, 15:34 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.พ. 2015, 21:06
โพสต์: 84

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เพียงความฝัน ก็คือนิมิต
เป็นสารเคมีที่เกิดขึ้นในสมอง ปรุงแต่งขึ้นมาเอง เป็นอนัตตา ไม่ควรยึดมั่นถือเอาเป็นตุเป็นตะ
:b48: ขอบคุณค่ะ คุณเช่นนั้น ที่ช่วยเตือนสติ
ตอนปฏิบัติใหม่ๆดิฉัน เห็นนิมิตร นี่ นั่น โน่น ดิฉัน ตื่นเต้นมากค่ะ คิดปรุงไปต่างๆ นาๆ
บางที หลงคิดว่าตัวเองคือผู้วิเศษ อิอิ พอได้อ่านหนังสือของหลวงพ่อทูล วัดป่าบ้านค้อ
จ อุดรธานี ท่านบอกนิมิตร ความฝัน มันไม่น่ายึดมั่นถือมั่น เกิด ดับ จิตเราปรุงแต่ง แต่
ท่านให้น้อม นิมิตร และ ความฝัน หรือสิ่งต่าง เข้ามา วิปัสนา เปรียบเทียบกับตัวเองสอน
ตัวเอง คล้ายๆ บทเรียนธรรมะค่ะ s005 s005


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มี.ค. 2015, 15:59 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2015, 21:55
โพสต์: 1240

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พระพุทธเจ้าสอนไว้ว่าเธอจงละเสียซึ่งรูปที่ได้เห็น เสียงที่ได้ยิน สิ่งที่ได้ทราบ บุญและบาป อีกทั้งมงคลตื่นข่าว รวมทั้งความฝันก็ไม่ควรติดด้วย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2015, 08:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8591


 ข้อมูลส่วนตัว


การที่จะเห็นพระพุทธเจ้าต้องเห็นด้วยปัญญา เห็นธรม คือ เห็นอริยสัจ ๔
เพราะธรรมทั้งหลายรวมลงใน อริยสัจ ๔ เห็นว่า สิ่งที่พระพุทธองค์ว่าเป็นทุกข์
ตามความเป็นจริง เห็นว่าทุกข์เกิดมาจากเหตุ คือ สมุทัย เห็นความดับทุกข์
คือ นิโรธ (เห็นว่าทุกข์จะดับสนิทด้วยการเข้าถึงนิพพาน)
เห็นทางดับทุกข์ คือ มรรค (อริยมรรค มีองค์ ๘) คือ เห็นจริงว่าหนทางนี้

คือทางดับทุกข์ได้จริง เมื่อเห็นอริยสัจ ๔ ก็จะมี ศรัทธาในธรรม ๔ ประการ
ที่พระองค์ทรงรู้แจ้งเห็นจริง
๑. กัมมสัทธา เชื่อกรรม เชื่อกฎแห่งกรรม เชื่อว่ากรรมมีอยู่จริง
๒. วิปากสัทธา เชื่อวิบาก เชื่อผลของกรรม เชื่อว่าผลของกรรมมีจริง คือ
เชื่อว่ากรรมที่ทำแล้วย่อมมีผล และผลต้องมีเหตุ ผลดีเกิดจากกรรมดี ผลชั่วเกิดจากกรรมชั่ว
๓. กัมมัสสกตาสัทธา เชื่อความที่สัตว์มีกรรมเป็นของตน เชื่อว่าแต่ละคนเป็นเจ้าของ
จะต้องรับผิดชอบเสวยวิบาก เป็นไปตามกรรมของตน
๔.ตถาคตโพธิสัทธา เชื่อความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า มั่นใจในองค์พระตถาคต
ว่าเป็นพระสัมมาสัมพุทธะ

ความเป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามิได้อยู่ที่พระสรีกาย ถ้าไม่มีพระธรรมพระพุทธองค์
ก็เป็นเพียง "เจ้าชายสิทธัตถะ" เท่านั้น แต่เพราะพระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ และทรงเผยแพร่พระธรรม
นำผู้สั่งสมกุศลบารมีมาควรแก่มรรคผล ให้ได้รู้ตามและบรรลุตามเหตุปัจจัยที่ได้สั่งสมมา

เพราะฉะนั้น พระธรรมจึงบ่งบอกถึงความเป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ และประกาศพระธรรมเพื่อให้ชาวโลกได้รู้ และได้เห็นพระธรรม
นำตนออกจากทุกข์แห่งวัฏสงสารได้ตามพระพุทธองค์

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กายของตถาคตมีตัณหาอันจะนำไปสู่ภพขาดแล้วยังดำรงอยู่
เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายย่อมเห็นตถาคตชั่วเวลาที่กายของตถาคตดำรงอยู่ ต่อเมื่อกายแตก
สิ้นชีวิตแล้ว เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจะไม่เห็นตถาคต

เพราะฉะนั้น ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นจึงจะเห็นตถาคต มิใช่เพียงนิมิตเห็นฝันเห็น

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2015, 09:57 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.พ. 2015, 21:06
โพสต์: 84

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สาธุ ธรรม ค่ะลุงหมาน :b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2015, 10:41 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ฝันเห็นก็คือฝันเห็น....
ผู้ฝัน...ไม่ได้บอกเลยว่าพบพระพุทธเจ้า...
อิอิ... :b13:
ดูจะมีคนเป็นห่วงกันเยอะเลย..


rolleyes


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 16 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร