วันเวลาปัจจุบัน 28 ก.ค. 2025, 22:32  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 เม.ย. 2015, 05:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5361


 ข้อมูลส่วนตัว


เราต้องสร้างความดีให้กับดวง
หาใช่ดวงทำให้เราดีไม่ ต้องสร้าง
อยู่เฉย ๆ ดีได้อย่างไร
มันต้องเกิดจากการกระทำ
คือ กฎแห่งกรรมนั่นเอง
การสร้างความดีให้กับดวง
ก็คือ สร้าง ศีล สมาธิ ปัญญา
ให้เกิดขึ้นแก่ตัวเรา
แล้วเราจะอบอวล ทวนลม...
หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม



ดี-ชั่ว สุข-ทุกข์ สงบ-ไม่สงบ หรือปัญหาทั้งหลาย..ล้วนมาจากใจ ถ้าเราไม่คิดถึง มันก็ไม่มีอะไร แต่ถ้าเราทำใจไม่ได้มันมาเยอะไปหมด เดี๋ยวก็เรื่องนั้นเดี๋ยวก็เรื่องนี้ มีแต่เรื่อง ที่จริงแล้วไม่ใช่เรื่องของเราหรอก เราไปเอาเรื่องคนอื่นมาคิดว่า เป็นเรื่องของเรา หากเราทำใจสงบจริงๆแล้วมันไม่มีอะไรเลย มันเป็นเพียงเรื่องใจเท่านั้นเอง...


หลวงปู่จันทร์ศรี จันททีโป
วัดโพธิสมภรณ์ อ.เมือง จ.อุดรธานี
"การรักษาศีลต้องรักษาที่กายที่วาจาให้เป็นปกติ กายวาจาที่เป็นปกติได้ ก็ต้องอาศัยใจเป็นใหญ่ ใจเป็นหัวหน้า ใจเป็นประธาน ใจเป็นผู้บังคับบัญชากาย วาจาให้กระทำอย่างนั้นอย่างนั้น"


จิตไม่ได้ฝึกหัดธรรมของพระองค์ ก็ไปอยู่ในอารมณ์ภายนอกหมด แล้วจึงไม่รู้ความเป็นจริงได้ พวกเราท่านทั้งหลาย ขอให้เจริญทำใจให้มาก ดูกายกับใจ ให้มาก แล้วจะรู้ความเป็นจริง ว่าไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่บุคคลเราเขาจริงๆ

โอวาทธรรมหลวงปู่สังวาลย์ เขมโก




@ให้ทานด้วยจิตเลื่อมใสมาก ได้บุญมาก @

>>ปัจจุบันมีความเข้าใจผิดกันในหมู่ชาวพุทธ

บางพวกก็ว่า __“ให้ทานมากได้บุญมาก_ถูกต้อง เพราะเศรษฐี 100 ล้าน ทำบุญ 10 บาทกับทำบุญหมื่นบาท จะได้บุญเท่ากันได้อย่างไร”


บางพวกก็ว่า__“ไม่ถูก_ถ้าให้ทานมากได้บุญมาก อย่างนี้คนจนก็หมดสิทธิได้บุญมากสิ”

ความจริงชาวพุทธทั้ง 2 กลุ่มนี้ไม่ได้ขัดกันเลย เพียงแต่ไปจับประเด็นที่ปลายเหตุเท่านั้น

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนหลักการให้ทานให้ได้บุญมาก ว่าต้องประกอบด้วยองค์ 3 ดังนี้
1. วัตถุบริสุทธิ์ __สิ่งของที่ให้ทานได้มาด้วยความบริสุทธิ์ ไม่ได้ไปคดโกง ลักขโมยมา
2. เจตนาบริสุทธิ์ __มีจิตเลื่อมใสทั้งก่อนให้ ขณะให้ และหลังให้
3. บุคคลบริสุทธิ์__ ผู้รับยิ่งเป็นผู้มีศีล มีคุณธรรมสูงเพียงใด เราก็ได้บุญมากไปตามส่วน

ในกรณีถกเถียงกันนี้ ประเด็นอยู่ที่ข้อ 1 และ 2

คำกล่าวที่ครบก็คือ “ ให้ทานด้วยจิตเลื่อมใสมาก ได้บุญมาก ”

ผู้ที่บอกว่า “ ให้ทานมากได้บุญมากนั้น” พูดไม่ครบ เพราะคนที่จะให้ทานมากได้นั้น ต้องมีจิตเลื่อมใสมากก่อน ไม่อย่างนั้นใครจะไปให้ทานมากๆ **จิตที่เลื่อมใส คือ ต้นเหตุแห่งการให้ทาน**

ในกรณีเป็นเศรษฐีที่มีทรัพย์มากเท่ากัน ผู้ที่ให้ทานด้วยเงินหมื่นบาท ย่อมได้บุญมากกว่าเศรษฐีที่ให้ทาน 10 บาท เพราะแสดงว่ามีจิตเลื่อมใสมากกว่า

>>ส่วนคนที่ยากจนเข็ญใจ เขาอาจให้ทานด้วยเงินเพียงบาทเดียว แต่เมื่อทำด้วยจิตเลื่อมใสมาก เขาก็ได้บุญมากมหาศาล เพราะทรัพย์เพียงบาทเดียวนั้น อาจเป็นเงินทั้งหมดที่เขามีอยู่ในขณะนั้น

ตัวอย่างในครั้งพุทธกาล

@มหาทุคตะ
ที่ยากจนสุดๆ ขนาดผ้าที่จะห่มออกนอกบ้านมีผืนเดียว ต้องผลัดกันใช้กับภรรยา คืนหนึ่งเขาตามมหาชนไปฟังธรรมกับพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าทรงเทศน์ทั้งคืนเพื่อตั้งใจโปรดมหาทุคตะนี้โดยเฉพาะ จนมหาทุคตะเอาชนะความตระหนี่ได้ ตัดใจเอาผ้าห่มกายเก่าๆ ผืนนั้นถวายพระพุทธเจ้า ร้องประกาศเสียงดังว่า__“ชิตังเม ๆ ๆ” แปลว่า “เราชนะแล้ว ๆ ๆ” __คือ__ชนะความตระหนี่นั่นเอง** ผลบุญเกิดทันตาเห็น พระราชาชื่นชมในความเลื่อมใสของมหาทุคตะ พระราชทานสมบัติเป็นอันมากแก่มหาทุคตะ

@อนาถบิณฑิกเศรษฐี
ยอดแห่งอุบาสกผู้ถวายทาน
อนาถบิณฑิกเศรษฐี เป็นเศรษฐีใหญ่เมืองสาวัตถี เมื่อได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน เกิดศรัทธาจึงสร้างวัดถวาย ไปพบที่ดินที่เหมาะสมเป็นสวนป่าร่มรื่น ไม่ใกล้ไม่ไกลจากตัวเมือง ไปขอซื้อ เจ้าของคือเชตราชกุมาร บอกราคาแบบไม่อยากขายว่า ให้เอาเงินปูเรียงเต็มพื้นที่จึงจะขาย

เศรษฐีไม่ต่อเลยสักคำ ไปขนเงินเป็นแท่งๆ มาปูเรียงเต็มพื้นที่เพื่อขอซื้อจริงๆ จนเจ้าเชตทึ่งในความศรัทธาของเศรษฐี จึงให้คนเว้นที่ตรงทางเข้าหน่อยหนึ่งว่า ตรงนี้ไม่ต้องเอาเงินปู ตนขอร่วมบุญสร้างซุ้มประตูด้วย โดยมีเงื่อนไขว่า ต้องใช้ชื่อตนเป็นชื่อวัด

อนาถบิณฑิกเศรษฐีทำบุญเพื่อเอาบุญจริงๆ ไม่ได้ต้องการชื่อเสียงหน้าตาอะไรเลย รับคำทันที เพราะเห็นว่าเจ้าเชตเป็นผู้มีชื่อเสียง มีอำนาจ ใช้เป็นชื่อวัดก็จะยิ่งช่วยในการเผยแผ่ธรรมะ วัดนั้นจึงได้ชื่อว่า **เชตวันมหาวิหาร**
สิ้นทรัพย์ในการสร้างวัดคิดเป็นเงินปัจจุบันหลายหมื่นล้านบาท กลายเป็นศูนย์กลางการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในครั้งพุทธกาล มีพระภิกษุอยู่จำพรรษาหลายพันรูป

สร้างวัดเสร็จ เศรษฐีก็ให้ทานถวายภัตตาหารหยูกยาตลอด ต่อมาวิบากกรรมในอดีตชาติตามมาทัน ธุรกิจสะดุด ถูกคนโกง ทรัพย์ที่ฝังไว้ก็ถูกน้ำพัดไป ยากจนลง กระทั่งจะเลี้ยงพระก็มีแค่ปลายข้าวกับน้ำผักดอง แต่ก็ยังไม่เลิกให้ทาน

เทวดาที่เฝ้าซุ้มประตูบ้านเศรษฐี เหาะลงมาห้ามเศรษฐีให้เลิกให้ทานเสียเถิด จะหมดตัวอยู่แล้ว เศรษฐีนอกจากไม่เชื่อแล้ว ยังไล่เทวดาไปด้วยว่า ถ้าเป็นเทวดามิจฉาทิฐิอย่างนี้ ไม่อนุญาตให้อยู่ที่ซุ้มประตูบ้านของตน จนสุดท้ายเทวดาต้องไปตามสมบัติกลับมาให้เศรษฐีเป็นการขอขมา เศรษฐีก็กลับมีทรัพย์มากยิ่งกว่าเดิม

>>ถ้าเราเกิดในยุคเดียวกับเศรษฐี แล้วใครไปตำหนิเศรษฐีว่าหลงบุญ บ้าบุญ ก็จะกลายเป็นวิบากกรรมติดตัว ชาติต่อไปจะเกิดเป็นยาจก ถูกคนด่าว่านินทา เศรษฐีซึ่งเป็นอริยบุคคลย่อมมีศรัทธามั่นคงในพระรัตนตรัย ไม่หวั่นไหวด้วยสิ่งใดๆ เลย

นี้เป็นแบบอย่างของชาวพุทธผู้เปี่ยมด้วยศรัทธา สมตามคำกล่าว ที่ว่า
**บัณฑิตแม้ตกทุกข์ ยังไม่เลิกประพฤติธรรม**

พวกเราเห็นใครลำบากแล้วยังไม่เลิกให้ทาน ไม่เลิกทำความดี เขาก็ทำตามแบบอย่างอนาถบิณฑิกเศรษฐี ผู้ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงยกย่องว่า เป็นยอดแห่งอุบาสกผู้ถวายทานนั่นเอง อย่าไปตำหนิเขาให้เป็นวิบากกรรมติดตัวเรา ควรชื่นชมในความเลื่อมใสศรัทธาของเขา

ส่วนตัวของเราแม้ยังศรัทธาไม่เท่าเขา ก็ให้ทานตามกำลังศรัทธา “อย่าให้เดือดร้อนตนเอง อย่าให้เดือดร้อนครอบครัว” จะให้ทานมากน้อยเพียงใด ก็ให้ทำด้วยใจที่เลื่อมใสศรัทธาอย่างเต็มเปี่ยม

**ให้ทานด้วยจิตเลื่อมใสมาก ย่อมได้บุญมาก**

และเมื่อให้ทานแล้ว ก็ควรรักษาศีลและเจริญสมาธิภาวนาด้วย บุญจะได้ครบ
ให้ทาน___ทำให้รวย เป็นที่รัก
รักษาศีล___ทำให้สวย แข็งแรง อายุยืน
เจริญภาวนา___ทำให้ฉลาด บรรลุธรรม


มีบางคนเข้าใจผิดว่า การสอนว่า“ทำดี ตายแล้วไปสวรรค์ ทำบาป ตายแล้วตกนรก ” เป็นการสอนที่ผิด เอาสวรรค์มาล่อ เอานรกมาขู่

แต่ในความเป็นจริงแล้ว แนวการสอนที่พระพุทธเจ้าทรงใช้มากที่สุด คือ


อนุปุพพิกถา**
การสอนไปตามขั้นตอนเพื่อปรับจิตผู้ฟังให้ละเอียดผ่องใสขึ้นตามลำดับ ดังนี้
1. ทานกถา__ สอนเรื่องการให้ทาน
2. ศีลกถา__ สอนเรื่องการรักษาศีล
3. สัคคกถา__ พรรณนาเรื่องสวรรค์ ความงดงามน่ารื่นรมย์ยินดีของทิพยสมบัติเพื่อให้เห็นอานิสงส์ของการให้ทาน และรักษาศีล ว่าจะทำให้ได้ไปเกิดบนสวรรค์
4. กามาทีนพ__ สอนเรื่องโทษของกาม
5. เนกขัมมานิสงส์__ สอนเรื่องอานิสงส์ของการออกบวช
เมื่อใจของผู้ฟังยกสูงขึ้นละเอียดดีแล้ว จึงสอนต่อด้วยอริยสัจ 4

>>เรื่องราวเกี่ยวกับสวรรค์มีกล่าวไว้มากมายในพระไตรปิฎก ที่รวมไว้เฉพาะเป็นเล่มเลยก็มี เรียกว่า วิมานวัตถุ เรื่องของวิมาน และเรื่องของนรกก็มีกล่าวไว้มากมาย เรื่องเปรต ก็กล่าวไว้เป็นคัมภีร์เฉพาะ เรียกว่า เปตวัตถุ

@ตัวอย่างในครั้งพุทธกาล: ลาชเทพธิดา@

มีหญิงชาวนาคนหนึ่ง ได้ทำข้าวตอกใส่ไว้ในขันแล้วมีโอกาสได้ใส่บาตร ถวายพระมหากัสสปะ ซึ่งเพิ่งออกจากนิโรธสมาบัติ ระหว่างเดินกลับบ้าน วิบากกรรมตามมาทัน ถูกงูกัดตาย

ผลบุญทำให้ไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีวิมานทองโตใหญ่มาก ที่ประตูวิมานประดับเรียงรายด้วยขันทองคำ มีข้าวตอกทองคำห้อยระย้าอยู่อย่างงดงาม

จะเห็นว่าทำบุญอย่างไรก็ได้อย่างนั้น ทำบุญด้วยข้าวตอก ก็ได้วิมานประดับด้วยข้าวตอกทองคำ ใช้ขันเป็นภาชนะ ก็มีขันทองคำประดับเรียงราย มีเรื่องราวทำนองนี้อยู่มากมายในพระไตรปิฎกและอรรถกถา

>>พระพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมถึงความจริงของโลกและชีวิต กฎแห่งกรรม บุญบาป นรก สวรรค์ แล้วทรงนำมาสอนเรา




เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ที่ผ่านมาได้จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย

ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ



ขอเชิญร่วมบุญสร้างพระสมเด็จองค์ปฐม "รวมพลังแผ่นดิน" ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ หน้าตัก ๔ ศอก ขอสานต่องานเดิม ร่วมแรงร่วมใจสร้างพระพุทธรูปจรรโลงไว้เพื่อพระพุทธศาสนา เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้พี่น้องในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และเพื่อความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของพี่น้องชาวไทยทั้งชาติ มารวมพลังความสามัคคีร่วมกันอีกครั้ง
ขอกำหนดเปิดงานที่ ๓ วัดก่อนถ้างบพอ จะจัดสรรสร้างเพิ่มและจะแจ้งให้ทราบในลำดับต่อไป
๑. วัดศรีนคร หมู่ ๖ ต. คีรีเขต อ. ธารโต จ.ยะลา 95150
๒. วัดปิยะธรรมาราม ต. ถ้ำทะลุ อ. บันนังสตา จ.ยะลา 95130
๓. สำนักสงฆ์ถ้ำเขาไทย ต. ถ้ำทะลุ อ. บันนังสตา จ.ยะลา 95130
-------------------------------------------
เลขที่บัญชี 275-278-4445 ธนาคารกสิกรไทย
สาขาหนองมน ชลบุรี
ชื่อบัญชีธัญญพัทธ์ เลิศวิทยรัตน์
( ปิดรับยอดเงิน ๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๘)




ขอเชิญร่วมบุญซื้อกระจกติดวิหารสมเด็จองค์ปฐม วัดโพธิ์ทอง จ.อุดรธานี



ขอเชิญร่วมบุญหล่อพระประธาน "สมเด็จองค์ปฐมทรงเครื่องจักรพรรดิ์ ปางนาคปรก" หน้าตัก ๕ ศอก ( ๒.๕๐ เมตร) สูงประมาณ ๙ เมตร หล่อทองเหลืองทั้งองค์สำหรับท่านที่สนในร่วมบุญสร้างพระประธาน "สมเด็จองค์ปฐมทรงเครื่องจักรพรรดิ์ ปางนาคปรก" หน้าตัก ๕ ศอก
สามารถโอนปัจจัยร่วมบุญได้ที่ .......
บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่บัญชี 796-299-8919
ชื่อบัญชีธัญญพัทธ์ เลิศวิทยรัตน์ สาขานิคมอมตะนคร




ขอเชิญร่วมบุญเจาะน้ำประปาและซื้อถังสำรองน้ำ ณ วัดป่าสามัคคี บ.กลางต.นาแก้ว อ.โพนนาแก้ว จ.สกลนคร


ขอเชิญร่วมบุญหล่อพระพุทธเจ้า ๓๒ พระองค์ วัดป่าโคกดินแดง จ. ร้อยเอ็ด


ขอเชิญร่วมบุญถวายภัตตาหารเพลสามเณรและพระพี่เลี้ยง สำนักสงฆ์เจโตวิมุตติ จ. กาญจนบุรี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 เม.ย. 2015, 10:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 05:25
โพสต์: 621


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร