วันเวลาปัจจุบัน 01 ส.ค. 2025, 19:34  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2015, 06:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5362


 ข้อมูลส่วนตัว


คนมีความสุข ไม่ใช่คนที่มีมากที่สุด แต่เป็นคนที่ต้องการน้อยที่สุด ยิ่งมีความต้องการน้อยลง สิ่งของที่มีอยู่ ก็จะดูเหมือนมีมากขึ้น
หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม



ปล่อยวาง...ไม่ใช่ไม่ต้องปฏิบัติ... ให้ปฏิบัติ "การละ" "การปล่อยวาง" นั่นแหละ

จุดหมายสูงสุดของการปฏิบัติภาวนานั้น ท่านทรงสอนให้"ปล่อยวาง"
อย่าแบกถืออะไรให้มันหนัก
ทิ้งมันเสีย ความดีก็ทิ้ง ความถูกต้องก็ทิ้ง
คำว่าทิ้งหรือปล่อยวางไม่ใช่ไม่ต้องปฏิบัติ
แต่หมายความว่าให้ปฏิบัติ "การละ" "การปล่อยวาง" นั่นแหละ


พระองค์ทรงสอนให้พิจารณาธรรมทั้งหลายที่กายที่ใจของเรา
ธรรมะไม่ได้อยู่ไกลที่ไหน อยู่ที่ตรงนี้ อยู่ที่กายที่ใจของเรานี่แหละ
ดังนั้นนักปฏิบัติต้องปฏิบัติอย่างเข้มแข็ง เอาจริงเอาจัง
ให้ใจมันผ่องใสขึ้น สว่างขึ้น ให้มันเป็นใจอิสระ
ทำความดีอะไรแล้วก็ปล่อยมันไป อย่าไปยึดไว้
หรืองดเว้นการทำชั่วได้แล้ว ก็ปล่อยมันไป
พระพุทธเจ้าทรงสอนให้อยู่กับปัจจุบันนี้
ที่นี้และเดี๋ยวนี้ ไม่ใช่อยู่กับอดีตหรืออนาคต

การฝึกใจ
พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภัทโท)




"บารมีสิบ"

"ปารมี" หรือ เรียกในภาษาไทยว่า "บารมี"ท่านว่ามาจากศัพท์ว่า "ปรม"ที่แปลว่า อย่างยิ่ง

ปารมี หรือ บารมี ท่านจัดไว้ ๑๐ ประการ คือ


1. บารมี คือ ทาน เรียกว่า ทานบารมี, ทาน การให้ เป็นกรรม รวมทั้งจาคะด้วย, เมื่อทานเป็นกรรมที่ดีเป็นบุญ ก็ให้ผลดี, ความคุ้นเคยในทางทานก็ย่อมมีสืบต่อไป นี่เป็นทานบารมี กำจัดความตระหนี่เหนียวแน่นที่นอนจมอยู่ อันจัดเป็นอาสวะชนิดหนึ่ง

2. บารมี คือ ศีล เรียกว่า ศีลบารมี สีล การตั้งใจรักษาศีล ชั้นใดก็ตาม กำจัดความคิดล่วงศีลหรือทุศีลเสียได้ เป็นกรรม ความคุ้นเคยในศีล จนจิตเป็นปกติ ไม่คิดล่วง เป็นสีลบารมี

3. บารมี คือ เนกขัมมะ ความออกไป เรียกว่า เนกขัมมบารมี เนกขัมมะ ความคิดหลีกออกจากทุกข์ หรือความยุ่งเหยิงต่าง ๆ เป็นเครื่องกำจัดความหมกมุ่นพัวพันที่เคยมีอยู่ เป็นกรรม ความคุ้นเคยในเนกขัมมะ เป็นเนกขัมมบารมี

4. บารมี คือ ปัญญาความรู้ เรียกว่า ปัญญาบารมี ปัญญา พิจารณาจนเกิดความรู้จริง เห็นจริงขึ้น เป็นเครื่องกำจัดความรู้ชั่วรู้ผิดหรือไม่รู้ เป็นกรรม ความฉลาด เพราะคุ้นเคยในปัญญา เป็นปัญญาบารมี

5. บารมี คือ วิริยะ ความบากบั่น หรือ ความเพียร เรียกว่า วิริยบารมี วิริยะ ความเป็นผู้กล้าหาญบากบั่น หรือความเพียร ว่าถึงผลก็คือกำจัดความเกียจคร้าน อาจน้อมไปได้ทั้งชั่วทั้งดี เห็นได้ว่าเป็นการอุปการะอุดหนุนบารมีทั้ง ๔ข้อต้น เป็นเครื่องกำจัดความเกียจคร้านที่ตรงกันข้าม

6. บารมีคือ ขันติ ความอดทน เรียกว่า ขันติบารมี ขันติ ความอดทน, อดทนไม่ทำชั่ว คือ ไม่ลุอำนาจของกิเลสที่เกิดขึ้นครอบงำ แล้วชักใจให้อยากทำชั่ว อดทนไว้ไม่ทำชั่ว. และอดทนทำดี แม้ไม่ชอบใจที่จะทำดี ก็อดทนทำ เป็นเครื่องกำจัดความไม่อดทนที่ตรงกันข้าม

7. บารมี คือ สัจจะ ความจริงใจ ใจที่จริง เรียกว่า สัจจบารมี สัจจะ ความจริงใจ, ใจจริงอยู่ว่าจะทำอย่างไรไม่เปลี่ยนความจริงใจ นี่เป็นสัจจะ เป็นเครื่องกำจัดความไม่จริงใจ

8. บารมี คือ อธิฏฐานะ ความตั้งใจ เรียกว่า อธิฏฐานบารมี อธิษฐาน ความตั้งใจมั่น ตั้งใจว่าจะทำอะไรก็ทำไป กำจัดความคลอนแคลนแปรปรวน

9. บารมี คือ เมตตา ความปรารถนาสุข แผ่ไปถึงคนและสัตว์อื่น เรียกว่า เมตตาบารมี เมตตา เป็นเครื่องกำจัดพยาบาทปองร้าย

10.บารมี คือ อุเบกขา ปัญญาที่พิจารณาเห็นดีชั่ว ผิดถูกตามเป็นจริง แล้ววางใจเป็นกลางหรือไม่ทำให้เป็นไปด้วยอำนาจโลภะ โทสะ โมหะ วางใจเป็นกลางอย่างที่สวดกันมา เรียกว่า อุเปกขา

อุเบกขา เป็นเครื่องกำจัดกิเลส ที่ทำให้ยินดียินร้ายและงมงายหรือกิเลสอื่น เพราะวางใจเป็นกลาง
ท่านวางลำดับ วิริยะ ขันติ สัจจะ อธิษฐานะ เมตตา อุเบกขา ต่อจากปัญญาออกมา เพราะฉะนั้น จึงสันนิษฐานเห็นว่าทั้ง ๖ บารมีนี้เป็นอุปการธรรม ธรรมเป็นเครื่องอุดหนุน คือ อุดหนุนที่จะให้ทาน ศีล เนกขัมมะ ปัญญา เกิดเจริญสืบต่อกันไปกว่าจะถึงที่สุด

เพราะถึงตั้งใจให้ทาน ตั้งใจรักษาศีล ตั้งใจออกจากความหลง หรือออกจากทุกข์ ตั้งใจพิจารณาเพื่อให้รู้เห็นตามเป็นจริง แต่ถ้าขาดวิริยะ ขันติ สัจจะ อธิษฐานะเสียแล้ว ก็ไม่สำเร็จ

ส่วน เมตตา ก็เป็นเครื่องกำจัดพยาบาทที่เกิดขึ้นแล้วจะทำใจให้ไปปองร้าย อุเบกขาเมื่อเกิดขึ้นก็กำจัดกิเลส ยินดียินร้ายหลงงมงาย รวมความว่า ...

ส่วนที่ชั่ว อันนอนหมักหมมอยู่ จัดเป็น ‪#‎อาสวะ‬

ส่วนที่ดี ที่นอนหมักหมมอยู่ ที่เก็บไว้ จัดเป็น ‪#‎บารมี‬

ท่านจัดบารมีไว้เป็น ๓ ชั้น คือ
1. บารมีสามัญที่เป็นชั้นต้น อย่างหนึ่ง
2. อุปบารมี บารมีที่จวนใกล้ อย่างหนึ่ง
3. ปรมัตถบารมี บารมีอย่างสูง อย่างหนึ่ง.

ท่านจึงแสดงว่า บารมีเกิดขึ้นด้วยความรู้ เมื่อคนเราพบเห็นอะไรต่าง ๆ เกิดความรู้ขึ้น ก็แก้ความไม่รู้หมดไปทีละน้อย เป็นอันกำจัดอาสวะออกไปทีละน้อย

ในที่สุดมีบารมีเต็ม ที่เป็นปรมัตถบารมี ก็กำจัดอาสวะได้ด้วยประการทั้งปวง

(ข้อมูลจาก... โอ.๒/๑๓๑-๑๓๗

เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ที่ผ่านมาได้จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย

ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 เม.ย. 2015, 17:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 มิ.ย. 2009, 10:51
โพสต์: 2813


 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 เม.ย. 2015, 20:55 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร