วันเวลาปัจจุบัน 07 พ.ย. 2025, 02:14  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 77 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ส.ค. 2015, 07:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


แหน่ะ...พูดอย่างนี้แสดงว่ายังไม่ไปอ่านอีก.....
s004

ถ้าขี้เกียจหา..เอาลิงค์ไปดูซะ..ป้อนให้ถึงปากเลยเอ้า...

http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v ... 920&Z=2832
...............................

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๙ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑
ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค




๓. อัมพัฏฐสูตร

................................



กล่าวเป็นนั้ย ๆ ในมัชฌิมาศีล..อยู่ข้อ 7
ทำน้ำมนต์กล่าวตรง ๆ ในมหาศีล..อยู่ข้อ 7

จะให้ดี..อ่านข้ออื่น ๆ ด้วย
อ่านซ้ำๆหลาย ๆ รอบหน่อยนะ...จะเห็นจุดประเด็นสำคัญในนั้น...

การเห็นเอง...จะต่างกันเยอะ..จากการเห็นที่ฟังแค่เขาว่ามา...

อ่านเสร็จ...เห็นอย่างไร..แล้วค่อยมาคุยกัน..อย่างบัณฑิต


แก้ไขล่าสุดโดย กบนอกกะลา เมื่อ 12 ส.ค. 2015, 07:01, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ส.ค. 2015, 07:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ไปอ่านมัชฌิมาศีล..ยัง???

บอกแล้วให้ไปอ่าน...

ไม่ใช่เอาแต่ฟังคนอื่นที่เอามาพูดแค่บางส่วน...ขาดความรอบคอบ..

คนอื่นนี่ใคร. รู้นะคิดอะไรอยู่

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ส.ค. 2015, 07:02 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ไปอ่านมา...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ส.ค. 2015, 07:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
แหน่ะ...พูดอย่างนี้แสดงว่ายังไม่ไปอ่านอีก.....
s004

ถ้าขี้เกียจหา..เอาลิงค์ไปดูซะ..ป้อนให้ถึงปากเลยเอ้า...

http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v ... 920&Z=2832
...............................

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๙ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑
ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค




๓. อัมพัฏฐสูตร

................................



กล่าวเป็นนั้ย ๆ ในมัชฌิมาศีล..อยู่ข้อ 7
ทำน้ำมนต์กล่าวตรง ๆ ในมหาศีล..อยู่ข้อ 7

จะให้ดี..อ่านข้ออื่น ๆ ด้วย
อ่านซ้ำๆหลาย ๆ รอบหน่อยนะ...จะเห็นจุดประเด็นสำคัญในนั้น...

การเห็นเอง...จะต่างกันเยอะ..จากการเห็นที่ฟังแค่เขาว่ามา...

อ่านเสร็จ...เห็นอย่างไร..แล้วค่อยมาคุยกัน..อย่างบัณฑิต
กล่าวอะไรเหรอ

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ส.ค. 2015, 07:18 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


grin grin grin


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ส.ค. 2015, 19:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2015, 21:55
โพสต์: 1236

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สังเกตต้นเหตุ คือ ตัว จะ จะเข้าก็รู้ จะออกก็รู้ สมกับคำสอนของพระพุทธเจ้าที่บอกว่าถ้ารู้ทันก็ดับ ถ้ารู้ไม่ทันก็ไม่ดับ เพราะลมหายใจเป็นกายสังขาร ในเมื่อกายสังขารดับ วจีสังขารคือการตรึกตรองนึกคิดก็ดับ เมื่อวจีสังขารดับ จิตสังขารก็ดับ ความจำได้หมายรู้ก็ดับ ถ้าเห็นอย่างนี้ก็รู้ชัดว่า ธรรมอันใดอันหนึ่งเกิดขึ้นมาเป็นธรรมดา ธรรมนั้นย่อมดับไปเป็นธรรมดา เพราะว่าจิตดวงเก่าดับไปแล้วจิตดวงใหม่เกิดขึ้น เค้าเรียกว่ารู้เห็นตามความเป็นจริง ผูใดเห็นความดับแค่ครั้งเดียวก็มีชีวิตไม่สูญเปล่าแล่ว จะคิดดับๆ

จากสายสืบสั่งสอนนิสัยศาสตร์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ส.ค. 2015, 20:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
grin grin grin

กบให้ดูอะไรงง กบดูมหาศิลข้อ7 ชัดๆเลยภิกษุห้ามีอน้ำมนต์พ้นน้ำมนต์นะ. มัชฌิมศิลข้อ7มีอะไรเหรอ

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ส.ค. 2015, 07:24 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:

กบนอกกะลา เขียน:
grin grin grin

กบให้ดูอะไรงง กบดูมหาศิลข้อ7 ชัดๆเลยภิกษุห้ามีอน้ำมนต์พ้นน้ำมนต์นะ. มัชฌิมศิลข้อ7มีอะไรเหรอ

ปล. แก้ไข..รายละเอียดอยู่ในมหาศีล..ไม่ใช่..มัชฌิมาศีล

ชัดเจนเลย..ครับ...Bigtoo คิดว่า..ท่านห้ามถือน้ำมน์..พ้นน้ำมนต์...ทันทีที่เห็นพระองค์ไหนทำ..ก็เหมือนตัวอย่างคลิ๊ปที่ Bigtoo ยกมา
...ที่ว่า...
นาที 1:37
...ไปเห็นพระกำลังรดน้ำมนต์...ว่าโอ้วพระพุทธเจ้าตรัสใว้ในสัมปันสีลาว่าห้ามภิกษุกระทำน้ำมนต์..ดูหมอ..ดูฤกษดูยาม..ถูกต้องมั้ย..พระจะปฏิเสธได้งัย..จริง ๆ พระต้องเลิก...ต้องหยุดเลย..

bigtoo เขียน:
https://m.youtube.com/watch?v=xZgLKVyO_fg


แต่ทำไม..พระพุทธเจ้าจึงสั่งพระอานนท์ทำน้ำมนต์เดินรดไปทั่วเมืองเวสาลี..ในรัตนสูตร...

ที่ห้ามในมหาศีล..กับที่พระอานนท์ทำ..นั้น..ขัดแย้งกันมั้ย?.....ไม่ขัดแย้งเลย..

ก็ต้องไปดู...ที่ห้ามนั้นนะ...ห้ามยังงัย

ไม่ใช่...พอเห็นพระที่ไหนกำลังรดน้ำมนต์อยู่..ก็รีบไปทักท้วงกล่าวว่า..เลย..อย่างที่ในคลิ๊ปสอน...ไม่ถูกต้องครับ.. Onion_R

ไปดูให้ละเอียด..นะครับ Bigtoo ...ว่าห้ามนั้น..ห้ามยังงัย...แล้วทำไมที่พระพุทธเจ้าสั่งให้อานนท์ทำจึงไม่ขัดแย้งกับที่ทรงห้ามใว้... :b31: :b31:

ถ้ายังไม่เห็น...ยกมือวันทามิ..กบนอกกะลา..ในใจก็ได้...เดียวจะบอกให้ :b9:
ถ้าเห็นแล้ว....จะขอบคุณผมหรือไม่ขอบคุณ..ก็ไม่ถือสา....ครับ

:b16: :b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ส.ค. 2015, 07:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
bigtoo เขียน:

กบนอกกะลา เขียน:
grin grin grin

กบให้ดูอะไรงง กบดูมหาศิลข้อ7 ชัดๆเลยภิกษุห้ามีอน้ำมนต์พ้นน้ำมนต์นะ. มัชฌิมศิลข้อ7มีอะไรเหรอ

ปล. แก้ไข..รายละเอียดอยู่ในมหาศีล..ไม่ใช่..มัชฌิมาศีล

ชัดเจนเลย..ครับ...Bigtoo คิดว่า..ท่านห้ามถือน้ำมน์..พ้นน้ำมนต์...ทันทีที่เห็นพระองค์ไหนทำ..ก็เหมือนตัวอย่างคลิ๊ปที่ Bigtoo ยกมา
...ที่ว่า...
นาที 1:37
...ไปเห็นพระกำลังรดน้ำมนต์...ว่าโอ้วพระพุทธเจ้าตรัสใว้ในสัมปันสีลาว่าห้ามภิกษุกระทำน้ำมนต์..ดูหมอ..ดูฤกษดูยาม..ถูกต้องมั้ย..พระจะปฏิเสธได้งัย..จริง ๆ พระต้องเลิก...ต้องหยุดเลย..

bigtoo เขียน:
https://m.youtube.com/watch?v=xZgLKVyO_fg


แต่ทำไม..พระพุทธเจ้าจึงสั่งพระอานนท์ทำน้ำมนต์เดินรดไปทั่วเมืองเวสาลี..ในรัตนสูตร...

ที่ห้ามในมหาศีล..กับที่พระอานนท์ทำ..นั้น..ขัดแย้งกันมั้ย?.....ไม่ขัดแย้งเลย..

ก็ต้องไปดู...ที่ห้ามนั้นนะ...ห้ามยังงัย

ไม่ใช่...พอเห็นพระที่ไหนกำลังรดน้ำมนต์อยู่..ก็รีบไปทักท้วงกล่าวว่า..เลย..อย่างที่ในคลิ๊ปสอน...ไม่ถูกต้องครับ.. Onion_R

ไปดูให้ละเอียด..นะครับ Bigtoo ...ว่าห้ามนั้น..ห้ามยังงัย...แล้วทำไมที่พระพุทธเจ้าสั่งให้อานนท์ทำจึงไม่ขัดแย้งกับที่ทรงห้ามใว้... :b31: :b31:

ถ้ายังไม่เห็น...ยกมือวันทามิ..กบนอกกะลา..ในใจก็ได้...เดียวจะบอกให้ :b9:
ถ้าเห็นแล้ว....จะขอบคุณผมหรือไม่ขอบคุณ..ก็ไม่ถือสา....ครับ

:b16: :b16: :b16:
กบ เรื่องนี้มีการถกเถียงกันมากนะ มีถึง13พระสูตรที่ห้ามทำเรื่องราวเหล่านี้ มีแค่พีะสูตรเดียที่ให้พระอานนท์ไปทำน้ำมนต์ เมื่อมีข้อถกเถียงกัน เขาจึงย้อนไปดูในคำภีร์เก่าแก่ที่สุดคือคำภีร์สยามรัฐในนั้นไม่มีพระสูตรนี้อยู่เลยที่ว่าบอกให้พระอานนท์ไปทำน้ำมนต์. และในความเป็นจริงพระพุทธองค์ตรัสอะไรย่อมไม่มีการขัดแย้งกัน. และในความเป็นจริงนั้นพระองค์ก็ตรัสว่าพระองค์รู้ ดินในความเป็นดิน รู้จักน้ำในความเป็นน้ำ ไม่มีใครจะนำน้ำมมาเปลี่ยนชะตาชีวิตคนหรือสัตว์ให้เปลี่ยนแปลงได้ สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม. เพราะพระองค์ตรัสว่าสุขหรือทุกข์ไม่ได้เกิดกับสิ่งใดบรรดาล.

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ส.ค. 2015, 07:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b32: :b32:
Bigtoo ยังมองเห็นว่าขัดแย้ง..กันอยู่

กระผมก็บอกไปแล้ว...ทั้งสั่งห้ามไม่ให้พระทำ..และให้พระอานนท์ทำ....ไม่ได้ขัดแย้ง...กันเลยแม้น้อยนิ..ครับ :b32: :b32: :b32:

ถึงบอกให้ไปดูให้ดีดี....มีสติหน่อย.. grin


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ส.ค. 2015, 07:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
:b32: :b32:
Bigtoo ยังมองเห็นว่าขัดแย้ง..กันอยู่

กระผมก็บอกไปแล้ว...ทั้งสั่งห้ามไม่ให้พระทำ..และให้พระอานนท์ทำ....ไม่ได้ขัดแย้ง...กันเลยแม้น้อยนิ..ครับ :b32: :b32: :b32:

ถึงบอกให้ไปดูให้ดีดี....มีสติหน่อย.. grin
ขัดแย้งชัดเจนครับ สำหรับคำว่าห้าม กับทำได้ ถ้าท่านคิดว่าไม่ขัดแย้งกรุณาเสนอความเห็นด้วย. และในตำราที่เก่าแก่ที่สุดไม่มีเอามาจากไหนในเมื่อต่างก็อ้างว่าคัดลอกมาจากตำรานี้ สมัยหนึ่งพระพุทธเจ้าเคยตรัสว่าถ้าล้างบาปด้วยน้ำได้ ปลาคงหมดบาปไปแล้ว

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ส.ค. 2015, 21:28 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:

ขัดแย้งชัดเจนครับ สำหรับคำว่าห้าม กับทำได้ ถ้าท่านคิดว่าไม่ขัดแย้งกรุณาเสนอความเห็นด้วย . และในตำราที่เก่าแก่ที่สุดไม่มีเอามาจากไหนในเมื่อต่างก็อ้างว่าคัดลอกมาจากตำรานี้ สมัยหนึ่งพระพุทธเจ้าเคยตรัสว่าถ้าล้างบาปด้วยน้ำได้ ปลาคงหมดบาปไปแล้ว


:b32: :b32: :b32:
เฮ่อ....ผมบอกแล้วให้อ่านทวนดูดีดี....ถามจริง....อ่านยังอะ?

อ้างคำพูด:
สมัยหนึ่งพระพุทธเจ้าเคยตรัสว่าถ้าล้างบาปด้วยน้ำได้ ปลาคงหมดบาปไปแล้ว


แถออกนอกเรื่อง...รึ..เจตนาหาเรื่อง...ครับ

เรื่องคือ...น้ำมนต์

เกี่ยวอะไรน้ำล้างบาป...

รึว่า... :b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ส.ค. 2015, 21:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
bigtoo เขียน:

ขัดแย้งชัดเจนครับ สำหรับคำว่าห้าม กับทำได้ ถ้าท่านคิดว่าไม่ขัดแย้งกรุณาเสนอความเห็นด้วย . และในตำราที่เก่าแก่ที่สุดไม่มีเอามาจากไหนในเมื่อต่างก็อ้างว่าคัดลอกมาจากตำรานี้ สมัยหนึ่งพระพุทธเจ้าเคยตรัสว่าถ้าล้างบาปด้วยน้ำได้ ปลาคงหมดบาปไปแล้ว


:b32: :b32: :b32:
เฮ่อ....ผมบอกแล้วให้อ่านทวนดูดีดี....ถามจริง....อ่านยังอะ?

อ้างคำพูด:
สมัยหนึ่งพระพุทธเจ้าเคยตรัสว่าถ้าล้างบาปด้วยน้ำได้ ปลาคงหมดบาปไปแล้ว


แถออกนอกเรื่อง...รึ..เจตนาหาเรื่อง...ครับ

เรื่องคือ...น้ำมนต์

เกี่ยวอะไรน้ำล้างบาป...

รึว่า... :b32: :b32: :b32:

น้ำมนต์กบว่าทำอะไรได้อ่ะใลองบอกมาหน่อยจิ

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ส.ค. 2015, 21:45 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ผมชอบพระสูตรนี้นะ..มีครบ..ตั้งแต่ต้นจนจบกิจ

เอามาเฉพาะมหาศีล...

อ้างคำพูด:
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๙ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑
ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค


๓. อัมพัฏฐสูตร


มหาศีล

๑. ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์
ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา
เห็นปานนี้ คือ
ทายอวัยวะ ทายนิมิต ทายอุปบาต ทำนายฝัน ทำนายลักษณะ ทำนายหนูกัดผ้า
ทำพิธีบูชาไฟ ทำพิธีเบิกแว่นเวียนเทียน ทำพิธีซัดรำบูชาไฟ ทำพิธีซัดข้าวสารบูชาไฟ ทำพิธี
เติมเนยบูชาไฟ ทำพิธีเสกเป่าบูชาไฟ ทำพลีกรรมด้วยโลหิต เป็นหมอดูอวัยวะ ดูลักษณะที่บ้าน
ดูลักษณะที่นา เป็นหมอปลุกเสก เป็นหมอผี เป็นหมอลงเลขยันต์คุ้มกันบ้านเรือน เป็นหมองู
เป็นหมอยาพิษ เป็นหมอแมลงป่อง เป็นหมอรักษาแผลหนูกัด เป็นหมอทายเสียงนก เป็นหมอ
ทายเสียงกา เป็นหมอทายอายุ เป็นหมอเสกกันลูกศร เป็นหมอทายเสียงสัตว์ แม้ข้อนี้ก็เป็น
ศีลของเธอประการหนึ่ง.


๒. ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์
ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา
เห็นปานนี้ คือ
ทายลักษณะแก้วมณี ทายลักษณะไม้พลอง ทายลักษณะศาตรา ทายลักษณะดาบ
ทายลักษณะศร ทายลักษณะธนู ทายลักษณะอาวุธ ทายลักษณะสตรี ทายลักษณะบุรุษ ทายลักษณะ
กุมาร ทายลักษณะกุมารี ทายลักษณะทาส ทายลักษณะทาสี ทายลักษณะช้าง ทายลักษณะม้า
ทายลักษณะกระบือ ทายลักษณะโคอุสภะ ทายลักษณะโค ทายลักษณะแพะ ทายลักษณะแกะ
ทายลักษณะไก่ ทายลักษณะนกกระทา ทายลักษณะเหี้ย ทายลักษณะตุ่น ทายลักษณะเต่า
ทายลักษณะมฤค แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง
.

๓. ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์
ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชาเห็น
ปานนี้ คือ
ดูฤกษ์ยาตราทัพว่า พระราชาจักยกออก พระราชาจักไม่ยกออก พระราชาภายในจัก
ยกเข้าประชิด พระราชาภายนอกจักถอย พระราชาภายนอกจักยกเข้าประชิด พระราชาภายในจัก
ถอย พระราชาภายในจักมีชัย พระราชาภายนอกจักปราชัย พระราชาภายนอกจักมีชัย พระราชา
ภายในจักปราชัย พระราชาองค์นี้จักมีชัย พระราชาองค์นี้จักปราชัย เพราะเหตุนี้ๆ แม้ข้อนี้ก็เป็น
ศีลของเธอประการหนึ่ง.


๔. ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์
ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา
เห็นปานนี้ คือ
พยากรณ์ว่าจักมีจันทรคราส จักมีสุริยคราส จักมีนักษัตรคราส ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์
จักเดินถูกทาง ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์จักเดินผิดทาง ดาวนักษัตรจักเดินถูกทาง ดาวนักษัตรจัก
เดินผิดทาง จักมีอุกกาบาต จักมีดาวหาง จักมีแผ่นดินไหว จักมีฟ้าร้อง ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์
และดาวนักษัตรจักขึ้น ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรจักตก ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และ
ดาวนักษัตรจักมัวหมอง ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรจักกระจ่าง จันทรคราสจักมีผลเป็น
อย่างนี้ สุริยคราสจักมีผลเป็นอย่างนี้ นักษัตรคราสจักมีผลเป็นอย่างนี้ ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์
เดินถูกทางจักมีผลเป็นอย่างนี้ ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์เดินผิดทางจักมีผลเป็นอย่างนี้ ดาวนักษัตร
เดินถูกทางจักมีผลเป็นอย่างนี้ ดาวนักษัตรเดินผิดทางจักมีผลเป็นอย่างนี้ มีอุกกาบาตจักมีผลเป็น
อย่างนี้ มีดาวหางจักมีผลเป็นอย่างนี้ แผ่นดินไหวจักมีผลเป็นอย่างนี้ ฟ้าร้องจักมีผลเป็นอย่างนี้
ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรขึ้นจักมีผลเป็นอย่างนี้ ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตร
ตกจักมีผลเป็นอย่างนี้ ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรมัวหมองจักมีผลเป็นอย่างนี้ ดวงจันทร์
ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรกระจ่างจักมีผลเป็นอย่างนี้ แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง
.

๕. ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์
ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา
เห็นปานนี้ คือ
พยากรณ์ว่า จักมีฝนดี จักมีฝนแล้ง จักมีภิกษาหาได้ง่าย จักมีภิกษาหาได้ยาก
จักมีความเกษม จักมีภัย จักเกิดโรค จักมีความสำราญหาโรคมิได้ หรือนับคะแนน คำนวณ
นับประมวลแต่งกาพย์โลกายตศาสตร์ แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

๖. ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์
ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา
เห็นปานนี้ คือ
ให้ฤกษ์อาวาหมงคล ฤกษ์วิวาหมงคล ดูฤกษ์เรียงหมอน ดูฤกษ์หย่าร้าง ดูฤกษ์
จ่ายทรัพย์ ดูโชคดี ดูเคราะห์ร้าย ให้ยาผดุงครรภ์ ร่ายมนต์ให้ลิ้นกระด้าง ร่ายมนต์ให้คางแข็ง
ร่ายมนต์ให้มือสั่น ร่ายมนต์ไม่ให้หูได้ยินเสียง เป็นหมอทรงกระจก เป็นหมอทรงหญิงสาว
เป็นหมอทรงเจ้าบวงสรวงพระอาทิตย์ บวงสรวงท้าวมหาพรหม ร่ายมนต์พ่นไฟ ทำพิธีเชิญขวัญ
แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

๗. ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์
ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา
เห็นปานนี้
คือ ทำพิธีบนบาน ทำพิธีแก้บน ร่ายมนต์ขับผี สอนมนต์ป้องกันบ้านเรือน ทำกะเทย
ให้กลับเป็นชาย ทำชายให้กลายเป็นกะเทย ทำพิธีปลูกเรือน ทำพิธีบวงสรวงพื้นที่ พ่นน้ำมนต์
รดน้ำมนต์ ทำพิธีบูชาไฟ ปรุงยาสำรอก ปรุงยาถ่ายโทษเบื้องบน ปรุงยาถ่ายโทษเบื้องล่าง ปรุงยา
แก้ปวดศีรษะ หุงน้ำมันหยอดหู ปรุงยาตา ปรุงยานัตถุ์ ปรุงยาทากัด ปรุงยาทาสมาน ป้ายยาตา
ทำการผ่าตัด รักษาเด็ก ใส่ยา ชะแผล แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

ดูกรอัมพัฏฐะ ภิกษุสมบูรณ์ด้วยศีลอย่างนี้ ย่อมไม่ประสบภัยแต่ไหนๆ เพราะศีลสังวร
นั้น เปรียบเหมือนกษัตริย์ผู้ได้มุรธาภิเษกกำจัดราชศัตรูได้แล้วย่อมไม่ประสบภัยแต่ไหนๆ เพราะ
ราชศัตรูนั้น ดูกรอัมพัฏฐะ ภิกษุก็ฉันนั้นสมบูรณ์ด้วยศีลอย่างนี้แล้ว ย่อมไม่ประสบภัยแต่ไหนๆ
เพราะศีลสังวรนั้น ภิกษุสมบูรณ์ด้วยอริยศีลขันธ์นี้ ย่อมได้เสวยสุขอันปราศจากโทษในภายใน
ดูกรอัมพัฏฐะ ด้วยประการดังกล่าวมานี้แล ภิกษุชื่อว่า เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีล
จบมหาศีล.




อ่านครั้งแรก...ก็ไม่เห็นอะไร...

พออ่านหลายๆรอบ...ก็เริ่มจับทางได้...

สมัยเด็ก ๆ ผมก็เพ่งโทษพระทำน้ำมนต์อย่างที่อาจารย์ท่านนั้น..ว่านั้นแหละ...เพราะเคยยินพระท่านสอนว่าพระพุทธเจ้าห้ามทำน้ำมนต์..มาเหมือนกัน

หลงทำบาปไปเยอะ...ไม่รู้ตัวเลย..กรรม :b5:
ด่าเหม่ารวมไปโหมด.....ทำกรรมเพราะโง่ของแท้เลยเรา.. :b34:

คนที่สอนให้เราโง่..กรรมจะหนักขนาดไหน...ก็ไม่รู้ :b5: :b5:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ส.ค. 2015, 21:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ผมชอบพระสูตรนี้นะ..มีครบ..ตั้งแต่ต้นจนจบกิจ

เอามาเฉพาะมหาศีล...

อ้างคำพูด:
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๙ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑
ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค


๓. อัมพัฏฐสูตร


มหาศีล

๑. ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์
ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา
เห็นปานนี้ คือ
ทายอวัยวะ ทายนิมิต ทายอุปบาต ทำนายฝัน ทำนายลักษณะ ทำนายหนูกัดผ้า
ทำพิธีบูชาไฟ ทำพิธีเบิกแว่นเวียนเทียน ทำพิธีซัดรำบูชาไฟ ทำพิธีซัดข้าวสารบูชาไฟ ทำพิธี
เติมเนยบูชาไฟ ทำพิธีเสกเป่าบูชาไฟ ทำพลีกรรมด้วยโลหิต เป็นหมอดูอวัยวะ ดูลักษณะที่บ้าน
ดูลักษณะที่นา เป็นหมอปลุกเสก เป็นหมอผี เป็นหมอลงเลขยันต์คุ้มกันบ้านเรือน เป็นหมองู
เป็นหมอยาพิษ เป็นหมอแมลงป่อง เป็นหมอรักษาแผลหนูกัด เป็นหมอทายเสียงนก เป็นหมอ
ทายเสียงกา เป็นหมอทายอายุ เป็นหมอเสกกันลูกศร เป็นหมอทายเสียงสัตว์ แม้ข้อนี้ก็เป็น
ศีลของเธอประการหนึ่ง.


๒. ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์
ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา
เห็นปานนี้ คือ
ทายลักษณะแก้วมณี ทายลักษณะไม้พลอง ทายลักษณะศาตรา ทายลักษณะดาบ
ทายลักษณะศร ทายลักษณะธนู ทายลักษณะอาวุธ ทายลักษณะสตรี ทายลักษณะบุรุษ ทายลักษณะ
กุมาร ทายลักษณะกุมารี ทายลักษณะทาส ทายลักษณะทาสี ทายลักษณะช้าง ทายลักษณะม้า
ทายลักษณะกระบือ ทายลักษณะโคอุสภะ ทายลักษณะโค ทายลักษณะแพะ ทายลักษณะแกะ
ทายลักษณะไก่ ทายลักษณะนกกระทา ทายลักษณะเหี้ย ทายลักษณะตุ่น ทายลักษณะเต่า
ทายลักษณะมฤค แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง
.

๓. ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์
ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชาเห็น
ปานนี้ คือ
ดูฤกษ์ยาตราทัพว่า พระราชาจักยกออก พระราชาจักไม่ยกออก พระราชาภายในจัก
ยกเข้าประชิด พระราชาภายนอกจักถอย พระราชาภายนอกจักยกเข้าประชิด พระราชาภายในจัก
ถอย พระราชาภายในจักมีชัย พระราชาภายนอกจักปราชัย พระราชาภายนอกจักมีชัย พระราชา
ภายในจักปราชัย พระราชาองค์นี้จักมีชัย พระราชาองค์นี้จักปราชัย เพราะเหตุนี้ๆ แม้ข้อนี้ก็เป็น
ศีลของเธอประการหนึ่ง.


๔. ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์
ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา
เห็นปานนี้ คือ
พยากรณ์ว่าจักมีจันทรคราส จักมีสุริยคราส จักมีนักษัตรคราส ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์
จักเดินถูกทาง ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์จักเดินผิดทาง ดาวนักษัตรจักเดินถูกทาง ดาวนักษัตรจัก
เดินผิดทาง จักมีอุกกาบาต จักมีดาวหาง จักมีแผ่นดินไหว จักมีฟ้าร้อง ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์
และดาวนักษัตรจักขึ้น ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรจักตก ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และ
ดาวนักษัตรจักมัวหมอง ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรจักกระจ่าง จันทรคราสจักมีผลเป็น
อย่างนี้ สุริยคราสจักมีผลเป็นอย่างนี้ นักษัตรคราสจักมีผลเป็นอย่างนี้ ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์
เดินถูกทางจักมีผลเป็นอย่างนี้ ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์เดินผิดทางจักมีผลเป็นอย่างนี้ ดาวนักษัตร
เดินถูกทางจักมีผลเป็นอย่างนี้ ดาวนักษัตรเดินผิดทางจักมีผลเป็นอย่างนี้ มีอุกกาบาตจักมีผลเป็น
อย่างนี้ มีดาวหางจักมีผลเป็นอย่างนี้ แผ่นดินไหวจักมีผลเป็นอย่างนี้ ฟ้าร้องจักมีผลเป็นอย่างนี้
ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรขึ้นจักมีผลเป็นอย่างนี้ ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตร
ตกจักมีผลเป็นอย่างนี้ ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรมัวหมองจักมีผลเป็นอย่างนี้ ดวงจันทร์
ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรกระจ่างจักมีผลเป็นอย่างนี้ แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง
.

๕. ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์
ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา
เห็นปานนี้ คือ
พยากรณ์ว่า จักมีฝนดี จักมีฝนแล้ง จักมีภิกษาหาได้ง่าย จักมีภิกษาหาได้ยาก
จักมีความเกษม จักมีภัย จักเกิดโรค จักมีความสำราญหาโรคมิได้ หรือนับคะแนน คำนวณ
นับประมวลแต่งกาพย์โลกายตศาสตร์ แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

๖. ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์
ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา
เห็นปานนี้ คือ
ให้ฤกษ์อาวาหมงคล ฤกษ์วิวาหมงคล ดูฤกษ์เรียงหมอน ดูฤกษ์หย่าร้าง ดูฤกษ์
จ่ายทรัพย์ ดูโชคดี ดูเคราะห์ร้าย ให้ยาผดุงครรภ์ ร่ายมนต์ให้ลิ้นกระด้าง ร่ายมนต์ให้คางแข็ง
ร่ายมนต์ให้มือสั่น ร่ายมนต์ไม่ให้หูได้ยินเสียง เป็นหมอทรงกระจก เป็นหมอทรงหญิงสาว
เป็นหมอทรงเจ้าบวงสรวงพระอาทิตย์ บวงสรวงท้าวมหาพรหม ร่ายมนต์พ่นไฟ ทำพิธีเชิญขวัญ
แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

๗. ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์
ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา
เห็นปานนี้
คือ ทำพิธีบนบาน ทำพิธีแก้บน ร่ายมนต์ขับผี สอนมนต์ป้องกันบ้านเรือน ทำกะเทย
ให้กลับเป็นชาย ทำชายให้กลายเป็นกะเทย ทำพิธีปลูกเรือน ทำพิธีบวงสรวงพื้นที่ พ่นน้ำมนต์
รดน้ำมนต์ ทำพิธีบูชาไฟ ปรุงยาสำรอก ปรุงยาถ่ายโทษเบื้องบน ปรุงยาถ่ายโทษเบื้องล่าง ปรุงยา
แก้ปวดศีรษะ หุงน้ำมันหยอดหู ปรุงยาตา ปรุงยานัตถุ์ ปรุงยาทากัด ปรุงยาทาสมาน ป้ายยาตา
ทำการผ่าตัด รักษาเด็ก ใส่ยา ชะแผล แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

ดูกรอัมพัฏฐะ ภิกษุสมบูรณ์ด้วยศีลอย่างนี้ ย่อมไม่ประสบภัยแต่ไหนๆ เพราะศีลสังวร
นั้น เปรียบเหมือนกษัตริย์ผู้ได้มุรธาภิเษกกำจัดราชศัตรูได้แล้วย่อมไม่ประสบภัยแต่ไหนๆ เพราะ
ราชศัตรูนั้น ดูกรอัมพัฏฐะ ภิกษุก็ฉันนั้นสมบูรณ์ด้วยศีลอย่างนี้แล้ว ย่อมไม่ประสบภัยแต่ไหนๆ
เพราะศีลสังวรนั้น ภิกษุสมบูรณ์ด้วยอริยศีลขันธ์นี้ ย่อมได้เสวยสุขอันปราศจากโทษในภายใน
ดูกรอัมพัฏฐะ ด้วยประการดังกล่าวมานี้แล ภิกษุชื่อว่า เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีล
จบมหาศีล.




อ่านครั้งแรก...ก็ไม่เห็นอะไร...

พออ่านหลายๆรอบ...ก็เริ่มจับทางได้...

สมัยเด็ก ๆ ผมก็เพ่งโทษพระทำน้ำมนต์อย่างที่อาจารย์ท่านนั้น..ว่านั้นแหละ...เพราะเคยยินพระท่านสอนว่าพระพุทธเจ้าห้ามทำน้ำมนต์..มาเหมือนกัน

หลงทำบาปไปเยอะ...ไม่รู้ตัวเลย..กรรม :b5:
ด่าเหม่ารวมไปโหมด.....ทำกรรมเพราะโง่ของแท้เลยเรา.. :b34:

คนที่สอนให้เราโง่..กรรมจะหนักขนาดไหน...ก็ไม่รู้ :b5: :b5:
ตอบหน่อยซิ กบเห็นดียังไงล่ะ

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 77 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร