ว่าจะหาเรื่องคุยเรื่องนี้..มานานแล้วละ...แต่ไม่มีโอกาส..และ..ลืม

พอดีมีเหตุให้คิดถึง..เรื่องนี้อีก....ก็เลยถือโอกาสตั้งกระทู้ไปเลย...เด้วจะลืมอีก..
...............................
เคยสงสัยกันบ้างมั้ยครับ...ว่า..ภาพที่เกิดขึ้นในใจ..เกิดขึ้นได้อย่างไร?

ถ้าเป็นภาพในอดีต...ก็เป็นไปได้ว่า..เพราะสัญญาจำได้...เป็นของเก่า...(เอาแค่นี้ก่อน..ซึ่งจริง ๆ อาจไม่ใช่ของเก่าก็ได้)

แล้ว..ถ้าเป็นเรื่องราวที่ยังไม่เกิดขึ้นละ....ภาพเหล่านั้น..เกิดขึ้นในใจได้อย่างไร?
..................................

ใครที่มีความรู้เรื่องแอนนิเมชั่น....น่าจะเข้าใกล้คำตอบเหล่านี้นะ...ช่วย ๆ มาให้ความรู้กันหน่อย..ดิ...จะได้รู้ว่า..พุทธศาสตร์..เป็นวิทยาศาตร์อย่างยิ่ง...คือ..ศาสตร์ที่เป็นเหตุเป็นผลชัดเจนในตัว...ไม่ใช่เรื่องงงายไม่มีเหตุผล..

อตีตังสญาณ....ปัจจุปปันนังสญาณ...อนาคตังสญาณ..

อาจารย์โผล่มาสั่งสอนว่า..ซะ..

ใครรู้เรื่องโปรแกรมแอนนิเมชั่น...น่าจะเห็นภาพคร่าว ๆ ...ได้ง่าย..นะ

น่าจะเป็นจินตนาการ เพราะมีเชื้ออยู่คือสิ่งที่เคยเห็น(สัญญา)แล้วจับไปจินตนาการเติมแต่งให้เกิดเรื่องราวจากมโนวิญญาณ

เป็นจิตสังขารที่ไม่ระงับ จิตไม่ตั้งอยู่ปัจจุบัน ภาพที่ปรากฎจึงไม่ใช่ปัจจุบัน

ถ้าเป็นภาพที่เกิดจากจักษุ คือรูป (ปสาทรูป) คือสีสันต่างๆ จึงเป็นปัจจุบัน

ถ้าแตกย่อยลงไปอีกก็คือ มีส่วนของอวัยวะภายในคือสมองไว้ทำหน้าที่ประมวลผล

แต่การประมวลผลก็ไม่เที่ยง เกิดการหลงๆลืมๆได้

สิ่งใดไม่เที่ยงสิ่งนั้นเป็นทุกข์
เกิดความคิดต่อไปอีกว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น ครับ

ต้องทำความเข้าใจในเรื่อง ภพ อีกน่ะ
ถึงจะมองเคล้าร่างออก ว่า จิตมีการสืบต่อภพอย่างไร

ภาพนั้นๆ เป็นรูปเรื่อง
เป็นความปรุงความแต่ง จากความจำได้หมายรู้ถึงสิ่งในอดีต เป็นความคิดความแต่งเกิดขึ้นต่ออนาคต
เป็นญาณหยั่งรู้เห็นบ้างเกี่ยวกับอนาคตซึ่งเข้าไปแก้ไขอะไรไม่ได้

เพราะเหตุไร จึงแก้ไขไม่ได้
เพราะว่า หากแก้ไขได้ ญาณหยั่งรู้ต่ออนาคตนั้นมันก็ไม่จริง

ความสามารถของจิตนั้นวิจิตรครับ

น่าสนใจดีค่ะ ที่ท่านเช่นนั้นอธิบาย
การที่เราเห็นภาพ ไม่ว่าในอดีตหรืออนาคต..
เราจะมั่นใจสิ่งที่เห็นได้อย่างไรว่ามันไม่ใช่โรคจิต คือมันเป็น อาการทางจิตแต่ไม่ได้หมายความว่า เราเป็นบ้าและเราต้องไปรักษารึบำบัดจากแพทย์แผนสมัยใหม่..นั่นคือความจริงที่เคยเกิดขึ้น(เห็นภาพในอดีต ในกรณีไประลึกชาติได้ เห็นภาพนั่น) หรือ ภาพที่จะเกิดในอนาคต
ถ้าหากจิต หลอกเราโดยการสร้างภาพเหล่านั้นคิด
เพราะสมองสั่ง..แต่ไม่ใช่เป็นเรื่องของจิตเข้าไปเห็นภาพ..และคนบางคน..พอปฏิบัติธรรมมากๆ ก็ไปรู้โน่น เห็นนี้..ระลึกชาติได้ เล่าให้คนอื่นฟัง เขาก็จับส่งโรงบาลรักษาโรคจิต..เราจะแยกออกได้ไง..เพราะมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน..
คุนน้องขอยกกรณีตัวเอง..คุนน้องเคยทุกข์ใจ ช่วงที่เจอวิบากกรรมรุมเร้า..เลยทำสมาธิ และกำหนดรู้ว่า ทำไมถึงเกิดเหตุแบบนี้ขึ้น..และคุนน้องเห็นภาพนั้น(ในอดีตจนเข้าใจและปล่อยวางความเจ็บแค้นนั่น) แต่วิบากยังไม่หมดทั้งที่คิดว่า หมดกรรมต่อกันแล้วแต่ไม่ใช่ ยังมีกรรมวนเวียนสัมพันธ์กันอยู่ (พิจารณาจากวงจรปฏิจจสมปปบาท)..ทำให้ปรากฏนิมิตในฝัน เป็นภาพในอนาคต ถึงสองครั้ง..

คุนน้องอยากทราบว่า..มีใครที่จะสามารถเข้าไปรู้อนาคตของตนเอง โดยเห็นภาพที่เป็นญาณหยั่งรู้
คือมันไม่ใช่ภาพที่จะเกิดในชาติปัจจุบันนี้..แต่ไปเห็นภาพว่า ตนเองมีภพใหม่ที่จะไปคือที่ไหน.หลุดเข้าไปในภพนั้น..ไปเกิดเป็นอะไรแบบนี้ เป็นไปได้ด้วยหรือค่ะ?

จิต..วิจิตร...พิศดาร...จริงๆ..

จับจุดเล็ก ๆ จากที่นั้น..ที่นี้..มาประกอบกันจนเป็นรูปร่าง...เกิดรูปหน้าตาใหม่ ๆ ที่ไม่เคยเจอมาก่อน..ก็ได้เน๊าะ..แล้วก็หลงว่าตัวเองไปเห็นนั้นเห็นนี้..หากยึดเป็นตุเป็นต๊ะ...ก็อาจเข้าใจว่าเป็นเทพบ้าง...เป็นเหตุการณ์ในอดีตบ้าง...อนาคตบ้าง...แล้วแต่ความบ้าที่ซ้อนในตัวของแต่ละคน..ไป



แต่..ความจริง..ก็มีอยู่..

มันยาก..ตรงที่จะแยกว่า..อันไหนเป็นจริง...อันไหนเป็นปรุ่งแต่งไปเอง...นี้แหละ

ก็ค่อย ๆ แอสซูมจากง่ายไปหายาก...เอา..จุดไหนยาก..ก็ละใว้ก่อน..จิ๊กซอร์ต่อเกือบครบเมื่อไร...ก็เหลือตัวเลือกไม่กี่ตัวแล้ว...ตอนนั้น..ตรงไหนผิด..ก็จะเห็นชัด...ละทีนี้

ว่าด้วยการเห็นภาพ..ก่อน

เอาที่..ณ..เวลาที่ผัสสะ..ก่อนดีมั้ย..จากง่าย ๆ ก่อน..

เอาตามความเข้าใจส่วนตัวนะ...
มันเป็นไปได้หลายกรณีน่ะ
อ๊บซ์เคยดูเขาแข่งกีฬาสนุ๊กเกอร์มั๊ย

คนดูเพียงแค่เห็นสภาพแวดล้อมบนโต๊ะ เห็นผู้เล่นเดินวนไปวนมา
แล้วก็เตรียมตั้งท่าจะ...

แค่ดูแค่นี้คนดูก็มองออกว่าผู้เล่นเขาจะเล่นลูกยังไง

คือ ผู้เล่นและคนดูต่างเห็นการเคลื่อนที่ของเกมก่อนที่เกมจะดำเนิน

กลไกเพียงเท่านี้ ประกอบด้วยสิ่งใดบ้าง
กลไกการเห็นอนาคต ก็ประมาณนี้ แต่...จะมีความซับซ้อนกว่านี้

1. ผู้เห็นต้องเห็นสภาพแวดล้อมในพื้นที่
2. ซึ่งสภาพแวดล้อมนั้น เป็นสภาพแวดล้อมที่มีการเคลื่อน มีการโคจร มีการเปลี่ยนแปลง
3. ผู้เห็นต้องมีเป้าหมายยังจุดหนึ่งข้างหน้า
4. ผู้เห็นจะต้องมีการคำนวณลักษณะการเคลื่อน การโคจร เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมาย

คือ ถ้าหากว่าจะบอกว่าพรุ่งนี้เช้าฝนจะตกหรือไม่ เราก็มองว่ามันเป็นเรื่องที่คาดการณ์ไม่ยาก

ส่วนการเห็นอนาคต เราจะมองไม่ออก
เพราะ องค์ประกอบของสภาพแวดล้อม มันไม่ใช้ก้อนเมฆ

...

อะไรจริงกับอะไรไม่จริงมันต่างกันอย่างไร เนี่ยเขาเรียกว่าโง่

ที่มันซับซ้อนก็คือ

ในเกมสนุ๊กเกอร์ โต๊ะสนุ๊ก คือสนาม
ส่วนสนามสังสารวัฏ ... วัฏสงสาร

บนโต๊ะสนุ๊กเกอร์ มันปรากฎลูกสีขาว สีแดง สีดำ สีเหลือง สีเขียว สีน้ำตาล สีฟ้า
บนสนามสังสารวัฏ มันปรากฎ ภพ

อะแฮ่ม....ไม่อ้อมไม่ค้อม..เลย..นิ

กะเอาตรงปะเด็นเลย...นะ
..เอกอน..
อิอิ..

ภพ..เป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมา...

พิมพ์จากมือถือ..มันไม่มันส์เรย....

ฝากใว้ก่อนเถอะ..โอฬาล..

... ไม่รู้จะอ้อมอีท่าไหนน่ะ