วันเวลาปัจจุบัน 21 ก.ค. 2025, 02:43  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 40 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ต.ค. 2015, 22:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องโต๊ะสนุก..นี้..คนจะเห็นทั้งโต๊ะ...ทำให้เห็นชัด..

แต่ผมชอบตัวอย่าง..การยิงปืนใหญ่...อาจเพราะชอบฟิสิกส์..มั้ง...มันคำนวนได้..อะ..เลยชอบ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ต.ค. 2015, 22:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
อะแฮ่ม....ไม่อ้อมไม่ค้อม..เลย..นิ

กะเอาตรงปะเด็นเลย...นะ
..เอกอน..
อิอิ..

ภพ..เป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมา...

พิมพ์จากมือถือ..มันไม่มันส์เรย....

ฝากใว้ก่อนเถอะ..โอฬาล.. :b7:
พูดดีนี่ภพถูกสร้างขึ้นมา ดำริถึงสิ่งใดคิดถึงสิ่งใดนั้นแหล่ะภพได้เกิดขึ้นแล้ว. เงินจงมาๆๆๆๆ
คิดถึงสิ่งใด ดำริถึงสิ่งใด ย่อมเป็นบ่อเกิดแห่ง ภพ ชาติ.....
[๑๔๕] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี
เขตพระนครสาวัตถี ... พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุย่อมจงใจย่อมดำริ และครุ่นคิดถึงสิ่งใด สิ่งนั้นเป็นอารัมณปัจจัยเพื่อความตั้งอยู่แห่งวิญญาณเมื่อมีอารัมณปัจจัย ความตั้งมั่นแห่งวิญญาณจึงมีเมื่อวิญญาณนั้นตั้งมั่นแล้ว เจริญขึ้นแล้วความบังเกิดคือภพใหม่ต่อไปจึงมี เมื่อมีความบังเกิดคือภพใหม่ต่อไป ชาติ ชราและมรณะ โสกปริเทวทุกขโทมนัสและอุปายาส จึงมีต่อไป ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่จงใจ ไม่ดำริ แต่ยังครุ่นคิดถึงสิ่งใดสิ่งนั้นเป็นอารัมณปัจจัยเพื่อความตั้งอยู่แห่งวิญญาณ เมื่อมีอารัมณปัจจัย ความตั้งมั่นแห่งวิญญาณจึงมี เมื่อวิญญาณนั้นตั้งมั่นแล้ว เจริญขึ้นแล้ว ความบังเกิดคือภพใหม่ต่อไปจึงมี เมื่อมีความบังเกิดคือภพใหม่ต่อไป ชาติชราและมรณะ โสกปริเทวทุกขโทมนัสและ
อุปายาสจึงมีต่อไป ความเกิดแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้ ฯ

[๑๔๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อภิกษุไม่จงใจ ไม่ดำริ และไม่ครุ่นคิดถึงสิ่งใดสิ่งนั้นย่อมไม่เป็นอารัมณปัจจัยเพื่อความตั้งอยู่แห่งวิญญาณ เมื่อไม่มีอารัมณปัจจัย ความตั้งมั่นแห่งวิญญาณจึงไม่มี เมื่อวิญญาณนั้นไม่ตั้งมั่นแล้ว ไม่เจริญขึ้นแล้ว ความบังเกิดคือภพใหม่ต่อไปจึงไม่มี เมื่อความบังเกิดคือภพใหม่ต่อไปไม่มี ชาติชราและมรณะ โสกปริเทวทุกข โทมนัสและอุปายาสต่อไปจึงดับความดับแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ต.ค. 2015, 22:49 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
เรื่องโต๊ะสนุก..นี้..คนจะเห็นทั้งโต๊ะ...ทำให้เห็นชัด..

แต่ผมชอบตัวอย่าง..การยิงปืนใหญ่...อาจเพราะชอบฟิสิกส์..มั้ง...มันคำนวนได้..อะ..เลยชอบ


ถ้าสมมติว่าเป็นการยิงปืนใหญ่ อ๊บซ์จะปรากฎขึ้นมาเพียงลำพัง
และแห้งเหี่ยวเฉาตายไปเพียงลำพัง

แต่อ๊บซ์ มีทั้งเมีย และลูก ... :b5: :b32:

:b32: :b32: :b32:

ชีวิตจึงมีสีสัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ต.ค. 2015, 22:53 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ช่าย...เอาแค่สองมิติก่อน...แล้วค่อยนำสองมิติมาประกอบเป็น360°..
อิอิ.. :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ต.ค. 2015, 06:27 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


สองมิติก่อนนะ...อย่าใจร้อน..แก่แล้ว.. :b32:

การยิงปืนใหญ่...

ในกรณีเป้าหมายอยู่กับที่ไม่ได้เคลื่อนไหวไปไหนผู้ยิง...ต้องรู้ก่อนว่า..กระสุนที่ใช้หนักเท่าไร...เป้าหมายกระสุนตกไกลเป็นระยะทาง..เท่าไร..ลมพัดด้วยความเร็วเท่าไรพัดในทิศทางไหน...รวมกับแรงโน้นถ่วงโลก..แล้วเอาข้อมูลเหล่านี้มาคำนวนว่า..จะยิงปืนใหญ่ครั้งนี้ด้วยการยกมุมเงยของกระบอกปืนไปกี่องศา..ใช้ดินขับในการดันกระสุนปืนลูกนี้หนักเท่าไร?

ตัวอย่าง..วิถี
รูปภาพ

รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ต.ค. 2015, 07:49 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


แล้วภาพที่เกิดขึ้นในใจ..ของลูกกระสุนตก...ก็จะเป็นภาพหัวกระสุนตกกระทบเป้า...(จะมีใครคิดว่ากระสุนเอาส่วนหางตกบ้างมั้ยนะ)

รูปภาพ

เป็นภาพในใจที่สร้างขึ้นมา...จากการประติดประต่อส่วนต่าง ๆ ที่เคยพบมา...เข้าด้วยกัน...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ต.ค. 2015, 09:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่ทันตกก็ได้....

เป็นไปได้ทั้งนั้นล่ะ....

ปัจจัยมันแยะ.... :b16:

ทั้งแรงลม ทั้งค้างคาวบิน... :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ต.ค. 2015, 20:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ต้นเหตุ...คือ..ผมสงสัยว่า..ภาพในอนาคตเกิดขึ้นได้อย่างไร..ก็เรื่องยังไม่เกิด..ไม่เหมือนภาพในอดีต..ที่เราจำเอา..

พอนั่งมองรถที่วิ่งไปมาตามท้องถนน....เลยเกิดความคิดบางอย่าง..

อิอิ..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ต.ค. 2015, 21:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ต้นเหตุ...คือ..ผมสงสัยว่า..ภาพในอนาคตเกิดขึ้นได้อย่างไร..ก็เรื่องยังไม่เกิด..ไม่เหมือนภาพในอดีต..ที่เราจำเอา..

พอนั่งมองรถที่วิ่งไปมาตามท้องถนน....เลยเกิดความคิดบางอย่าง..

อิอิ..
ส่งจิตออกนอกเหรอกบ. รถวิ่งเห็นอะไร

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ต.ค. 2015, 22:07 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ต้นเหตุ...คือ..ผมสงสัยว่า..ภาพในอนาคตเกิดขึ้นได้อย่างไร..ก็เรื่องยังไม่เกิด..ไม่เหมือนภาพในอดีต..ที่เราจำเอา..

พอนั่งมองรถที่วิ่งไปมาตามท้องถนน....เลยเกิดความคิดบางอย่าง..

อิอิ..


แต่ละสิ่ง...มีสมการการเคลื่อนที่เป็นของตน...หากเข้าถึงสมการนั้นได้....จะเห็นภาพจริง ๆ ที่ไม่ใช่การปรุงแต่ง...ที่กำลังจะเกิดขึ้น..หรือจะย้อนหลังว่าเกิดอะไรขึ้น..หรือ...เห็นว่า..ณ..ปัจจุบันกำลังทำอะไรอยู่...กำลังอยู่ที่ไหน..สุขหรือทุกข์...หรือมีสมการอื่น ๆ เกี่ยวข้องอย่างไร...อะไรทำให้เกิดลม....ค้างคาวคิดอะไรของมันถึงบินมาทางนี้....หมาวิ่งไล่แมว...สมชายขับรถเรื่อย ๆ ...สมการอื่น ๆ จะโคจรมาเจอกันที่ไหน...เหมือนจุดกระสุนปืนใหญ่ตกนั้นแหละ...แล้วรถก็ชนหมา...ลูกปืนชนค้างคาวชน...

จะเห็นชัดแค่ไหน...จะเห็นแค่ภาพนิ่งหรือเคลื่อนไหว...ภาพขาวดำ..รึภาพสี...ก็อยู่ที่พลังของการเข้าถึงสมการนั้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ต.ค. 2015, 23:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


อืมตั้งแต่ๆติดตามการอธิบายเกี่ยวกับ ภาพที่เกิดขึ้นในใจ..แต่พึ่งมาสะดุด ที่ท่านกบอธิบายถึงความเชือมโยงกัน ในรูปแบบสมการของจิต..คุนน้องค่อยมองภาพนั้นชัดเลยทีเดียว
ถ้าเราเข้าไปเห็นโครงสร้างของการเกิดขึ้นของ วงจรปฏิจสมุปบาท พระพุทธองค์ก็กล่าวไว้ในเรื่องของภพ ชาติ ชรา มรณะ ในวงจรปฏิจ(แม้แต่วิทยาศาสตร์ก็พิสูจน์ไม่ได้) ซึ่งนี่แหละคือ รูปแบบสมการจิต..ของแค่ละคนใช่มั้ย.. แล้วที่นี้ปัญหาคือ เราแก้สมการเก่งหรือเปล่าล่ะ..บางคนถอดสมการผิด ผลที่ได้ก็ต้องผิดไปจากความจริง..แต่ในกรณีที่จิตของผู้นั้นได้รับการฝึกและพัฒนาจิตอย่างสม่ำเสมอ การถอดสมการของจิต ก็มีโอกาสถูกมากกว่าผิด..แต่อะไรๆก็ไม่แน่..พระพุทธองค์ถึงตรัสสอนว่า ธรรมทั้งหลายทั้งปวงเป็นอนัตตา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ต.ค. 2015, 04:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กบเอ๋ยกบอย่าเสียเวลาคิดอะไรอยู่เลยมันเนินช้าอยู่ทำไม เนี่ยเรียกว่ายังสั่นคอนในพระองค์อยู่นะ นักวิทยาฯเขาก็คิดกันสารพัดวิจัยกันต่างๆ. แต่พระองค์สรุปให้แล้ว. มีแต่เกิดดับ. ไม่ว่าจักรงาลทั้งจักรวาลจะเต็มไปด้วยการระเบิดเปลี่ยนถ่ายพลังงานกันไปมาตลอด วัตถุแต่ละวัตถุกระทบกระทั้งกันตลอด. เพราะสะสารนั้นมีการเคลื่อนตัวเป็นแรงสั่นสะเทือนปลดปล่อยพลังงานของตัวมันเองและมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาด้วยการเกิดดับๆๆ. เป็นกฎอิทับปัจจยตา และมองในรูปของชีวิตแล้วสิ่งเหล่านั้นล้วนนำพามาซึ่งความทุกข์ไม่รู้จบสิ้นพระองค์เข้าถึงตรงนี้จึงรู้ว่าเราตัวเราไม่มี. และพ้นข้ามการเกิดดับเปลี่ยนแปลง. ไปสู่เส้นขนานอีกมิคิคือ. ไม่มีอะไรๆทั้งนั้นจึงพ้นทุกข์. เป็นอมตะ

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ต.ค. 2015, 06:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:

ถ้าเราเข้าไปเห็นโครงสร้างของการเกิดขึ้นของ วงจรปฏิจสมุปบาท พระพุทธองค์ก็กล่าวไว้ในเรื่องของภพ ชาติ ชรา มรณะ ในวงจรปฏิจ(แม้แต่วิทยาศาสตร์ก็พิสูจน์ไม่ได้) ซึ่งนี่แหละคือ รูปแบบสมการจิต..ของแค่ละคนใช่มั้ย.. แล้วที่นี้ปัญหาคือ เราแก้สมการเก่งหรือเปล่าล่ะ..บางคนถอดสมการผิด ผลที่ได้ก็ต้องผิดไปจากความจริง..แต่ในกรณีที่จิตของผู้นั้นได้รับการฝึกและพัฒนาจิตอย่างสม่ำเสมอ การถอดสมการของจิต ก็มีโอกาสถูกมากกว่าผิด..แต่อะไรๆก็ไม่แน่..พระพุทธองค์ถึงตรัสสอนว่า ธรรมทั้งหลายทั้งปวงเป็นอนัตตา


คุณน้อง...ได้พูดในสิ่งที่ผมอยากจะพูดต่อ..ได้พอดี

นับถือ..

การรับรู้แล้วถอดระหัสแต่ละสมการได้ถูกมากน้อยแค่ไหน...รึจะผิดล้วน ๆไปเลย...ก็อยู่ที่ว่าเมื่อรับรู้แล้ว..แล้วมีอิสระในการแปลงระหัสได้มากน้อยแค่ไหน...รึว่าตกอยู่ภายใต้ขันธ์ล้วน ๆ...ยึดภพ....ยึดอุปทาน..อันใดอันหนึ่งเหนี่ยวแน่แค่ไหน..

สมการนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นมาลอย ๆ ...ผสมผสานกัน...ของเก่ากับการตัดสินใจเฉพาะหน้า...จะไปซ้ายหรือขวา..จะไปช้าหรือไปเร็ว...ก็อยู่ที่ชอบรึไม่ชอบ...ชอบมากรึชอบน้อย...นี้แหละที่ว่าไม่มีอะไรแน่นอน..

.แต่การจะชอบอะไร..ไม่ชอบอะไร...ก็อยู่ที่ประสบการณ์เก่าๆที่สะสมมาอีกที...นี้แหละ..ในความไม่แน่นอนก็มีความแน่นอนอยู่...

หากมีพลังย้อนหลังได้มากเท่าไร...จะพบความถี่ในรูปแบบบางอย่าง...อะไรที่มีความถี่มาก..ทำบ่อย ๆ...การถอดระหัสในแต่ละสมการก็มีความแม่นยำมากขึ้นเป็นเงา

พระพุทธเจ้ากล่าวทำนองว่า...ไม่อาจพยากรณ์ได้ว่าสัตว์นั้นจะพ้นทุกข์ได้เมื่อไรตราบที่ยังมีอวิชชาอยู่...

ในความไม่แน่นอนก็มีความแน่นอนนนั้น..แต่จะพูดว่าแน่นอนไปเลยก็ไม่ได้

สมการนี้จึงเสมือนว่า..ผู้เป็นเจ้าของนั้นเองที่เขียนสมการของตัวเอง...ดังนั้น..ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวก็ให้รู้ตัวซะว่า..ตัวนั้นเองเป็นผู้ต้นเหตุของผลที่ได้รับ..อย่าไปโทษใคร..ที่สุดก็อย่าได้โทษตัวเอง...ให้โทษความไม่รู้...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ต.ค. 2015, 11:21 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2015, 21:55
โพสต์: 1239

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


มันเป็นเรื่องธรรมชาติของชอบ ชัง เฉย ที่ปรุงแต่งขึ้นมา ถ้ารู้ทันต้นคิดจิตก็จะดับให้เห็น จะเห็นดับๆ

จากสายสืบสั่งสอนนิสัยศาสตร์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ต.ค. 2015, 12:16 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


:b1:

... อ๊บซ์ ...สมมตินะ...

สมมติว่าถ้า...อะไร ๆ มันเป็นไปประมาณนั้น ราว ๆ นั้น

:b6: ... อ๊บซ์คิดว่า ถ้าหากว่าอ๊บซ์เป็นผู้ที่มีความหลักแหลม
จนเข้าไปสู่การเห็นสมการ และมีความสามารถในการเล่นกะเกมสมการ
อ๊บซ์คิดว่า อ๊บซ์จะเห็นมันเป็นเรื่องน่าสนุก หรือเป็นเรื่อง น่า...... กันล่ะ

อ๊บซ์คิดว่า อ๊บซ์จะ...หลงไหล...ในกำลังจิตเหล่านั้นมั๊ย

...เรื่อง กำลังจิต กำลังแห่งฤทธิ์วิธี...
ยิ่งสูง ก็ดูเหมือนจะยิ่งสงบ ซึ่งมันก็เพียงแค่ยิ่งสงบน่ะ

แต่ผู้ปฏิบัติจะเห็นว่านั่นเป็นทุกข์
และรู้สึกได้ว่านั่นเป็นทุกข์ในความสงบอันละเอียดได้อย่างไร

...

ในธรรมอันละเอียดขนาดนั้น จะละนันทิกันไม่ได้ ถ้าไม่เห็นว่านั่นเป็นทุกข์ ...

:b1: :b1: :b1:

ถ้าละ นันทิ ได้ ก็เหมือนการเลิกเล่นกับสมการ
เมื่อไม่มีสมการใดเข้ามาเหนี่ยวนำได้ ก็เป็นอิสระจาก สมการ

:b6: ...รึเปล่า... :b6:

:b1: ...อ๊บซ์ลองคิดดูซิว่าอ๊บซ์จะทำไง ใช้วิธีไหนในการละนันทิ
สมมติว่าอ๊บซ์ได้ไปตั้งอยู่ในสภาวะธรรมอันละเอียดขนาดนั้น

:b32: :b32: :b32:


แก้ไขล่าสุดโดย eragon_joe เมื่อ 17 ต.ค. 2015, 16:22, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 40 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร